สมาคมวางแผนการเงิน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Apr 2025 09:08:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ปีนี้สาหัสแน่!! เตือนคนไทยควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน-ลดฟุ่มเฟือย-เลี่ยงก่อหนี้ https://positioningmag.com/1519181 Wed, 23 Apr 2025 05:17:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1519181 ปีนี้สาหัสแน่!! สมาคมนักวางแผนการเงินไทย เตือนคนไทยควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน-ลดฟุ่มเฟือย-เลี่ยงก่อหนี้ รับมือยุคข้าวยากหมากแพง แถมอะไรๆ ก็ไม่แน่นอน

 

‘สมาคมนักวางแผนการเงินไทย’ ได้ให้คำแนะนำประชาชนคนไทยต้องวางแผนการเงิน เพื่อประคองการใช้ชีวิตประจำวันไป หลังต้องเผชิญเหตุแผ่นดินไหว รวมถึงผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจากสงครามการค้า และการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยุคประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย  

 

สำหรับการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ช่วงเกือบ 5-6 ปีที่ผ่านมาหลังได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่สำคัญ เช่น การแพร่ระบาดโควิด19 ทำให้เห็นถึงความสำคัญของ ‘การสำรองเงินเผื่อฉุกเฉิน’ โดยตามหลักการแล้ว หากเป็น ‘มนุษย์เงินเดือน’ ควรมีการสำรองเงินเผื่อกรณีฉุกเฉินเป็นจำนวนเงิน 6 เดือนของเงินเดือน แต่ถ้าเป็น ‘กลุ่ม Freelance’ ต้องสำรองเงินจำนวน 12 เดือนของค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเมื่อกลับสู่ภาวะปกติการสำรองเงินฉุกเฉินก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น

 

สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของไทยเมื่อ 28 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันวินาศภัยกับที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม กรณีที่ผ่อนหมดแล้วและไม่ได้ทำประกันภัยไว้ แต่กรณีที่มีการผ่อนชำระกับสถาบันการเงิน ให้กลับไปตรวจสอบว่าได้มีการทำประกันภัยไว้หรือไม่ และได้ครอบคลุมการคุ้มครองเหตุจากภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวหรือไม่  นอกจากนี้ ยังเห็นความจำเป็นมากขึ้นกับการทำประกันชีวิตโดยเฉพาะผู้มีรายได้หลักที่หาเลี้ยงครอบครัว 

 

นโยบายภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยได้เกิดความผันผวนต่อภาวะการลงทุนทั้งตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้

 

หากมีการจัดพอร์ตการลงทุนในแบบกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ จะช่วยให้ลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ ซึ่งการจัดพอร์ตการลงทุนในภาวะแบบนี้ แนะนำให้ลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมลง ด้วยการเพิ่มน้ำหนักใน ‘สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ’ รวมถึง ‘เงินสด’ ให้มากขึ้น

 

เพราะหากราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลงแรง หลังนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เริ่มเห็นผลกระทบชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางปีนี้ ย่อมเป็นโอกาสของการกลับไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ภายใต้แนวทางการจัดพอร์ตโดยกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ให้สอด คล้องกับระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมของตัวเรา

]]>
1519181