สยามพารากอน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 01 Mar 2024 15:53:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์ยืนหนึ่งผู้นำ Luxury Retail ในไทย ยอดขายปี 2023 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มุ่งสู่การเป็น Luxury Destination ที่ดีที่สุดในเอเชีย https://positioningmag.com/1464364 Fri, 01 Mar 2024 12:45:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464364

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำเจ้าของและผู้บริหารจุดหมายปลายทางระดับโลก อย่าง สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด Luxury Retail ในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ดังระดับโลก  ด้วยยอดขายสินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2023 โดยยอดขายของลักซ์ซูรี่แบรนด์ที่ศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีอัตราการเติบโตสะสมถึง 300% เมื่อเทียบกับก่อนสถานการณ์โควิด ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้สอดคล้องกับแผนการขยายพื้นที่โซนลักซ์ซูรี่ทั้งที่สยามพารากอนและไอคอนสยาม โดยเฉพาะการเปิด Luxe Hall ที่สยามพารากอนในเดือนตุลาคม 2566 ส่งผลให้แบรนด์ดังระดับโลกร่วมเปิดแฟล็กชิฟสโตร์หรือบูติกช็อปแห่งใหม่มากมายตลอดในปีที่ผ่านมา  

แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มสยามพิวรรธน์ยังคงอยู่แถวหน้าในตลาดลักซ์ซูรี่ และได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สะท้อนให้เห็นจากยอดขายลักซ์ซูรี่แบรนด์ ที่สยามพารากอน และไอคอนสยาม ยังคงติดอันดับสูงสุดในเอเชีย และบางแบรนด์ติดอันดับระดับท็อปของโลก ทำให้ศูนย์การค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ยังครองแชมป์ส่วนแบ่งตลาดรวมกันสูงสุดในตลาด Luxury Retail ในประเทศไทย และยังเป็นศูนย์การค้าที่เป็น Preferred choice สำหรับแบรนด์ดังต่างๆ ที่ต้องการจะเปิดร้านค้าแห่งแรก หรือการขยายธุรกิจเพื่อสร้างแฟล็กชิพสโตร์ระดับโลก ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษและแตกต่างก่อนใคร”

ในปี 2566 แบรนด์ดังระดับโลกได้เปิดลักซ์ซูรีบูติกแห่งใหม่จำนวน 35 แบรนด์ ทั้งที่สยามพารากอนและไอคอนสยาม และมีแผนงานที่จะเปิดอีก 20 แบรนด์ในปี 2567  บูติกสโตร์เปิดใหม่ในปี 2566 รวมถึง  Loro Piana แบรนด์แฟชั่นเรียบหรูจากอิตาลีเปิดบูติกแห่งแรกในประเทศไทย แฟชั่นแบรนด์เนมยอดนิยม อย่าง Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) และ Fendi (เฟนดิ)  เปิดบูติกสำหรับผู้ชายแห่งแรกที่สยามพารากอน รวมทั้งนาฬิกาแบรนด์หรูที่มาเปิดบูติกแห่งใหม่ อาทิ Breitling, Chopard, Franck Muller, Gucci Watch, IWC, Jaeger Le Coultre, Panerai, Piaget, Rolex, Tag Heuer, Tudor, Vacheron

 

Constantin และ Zenith ซึ่งบูติกส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่เปิดครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น ขณะที่ไอคอนสยามเตรียมขยายพื้นที่สำหรับลักซ์ซูรี่เพิ่มอีกเท่าตัวในปีนี้ พร้อมกับเตรียมเผยโฉมร้านใหม่ในรูปแบบดูเพล็กซ์ (Duplex) ของแบรนด์ดัง ซึ่งจะเป็นบูติกแห่งแรกในประเทศไทย

นอกจากนี้ ตลอดในปี 2566 สยามพารากอน และไอคอนสยาม ยังได้รับเลือกจากแบรนด์หรูให้เป็นพื้นที่สำหรับการเปิด Pop-up Store และจัดแสดงนิทรรศการจำนวน 24 ครั้ง รวมทั้งงานโชว์เคสครั้งยิ่งใหญ่ในไทย “Hermès in the Making นิทรรศการที่เนรมิตพื้นที่ The Pinnacle ของไอคอนสยาม ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม 2566 ถ่ายทอดเรื่องราวความประณีตของช่างฝีมือ 10 คนจากโรงผลิตของแบรนด์ที่นำเสนอเทคนิคงานคราฟต์ผ่านการสาธิต การเวิร์กช้อป และกิจกรรมต่างๆ ที่แบรนด์ใส่ใจในทุกรายละเอียด และได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างล้นหลาม และในปี 2567 คาดว่าจะมีการเปิด Pop-up Store และจัดแสดงนิทรรศการมากกว่า 23 งาน เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างปรากฏการณ์ลักซ์ซูรี่ระดับโลกเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบลักซ์ซูรี่แห่งโลกอนาคต สยามพิวรรธน์ยังคงร่วมมือกับแบรนด์ดังระดับโลกในการ curate สินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งในสยามพารากอน และไอคอนสยาม เสริมศักยภาพเพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบพรีเมียมหลากหลาย และดึงดูดลูกค้าทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 350,000 คนต่อวัน  ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในธุรกิจลักซ์ซูรีในประเทศไทยจะเปิดทางให้ศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์ เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นจุดหมายปลายทางลักซ์ซูรี่ (Luxury Destination) ที่ดีที่สุดในเอเชีย

 

]]>
1464364
สยามพารากอน ไอคอนสยาม ยืนหนึ่งจุดหมายปลายทางระดับโลก คว้า 2 รางวัลสุดยอดด้านนวัตกรรมและภาพลักษณ์จาก 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company https://positioningmag.com/1457955 Tue, 09 Jan 2024 09:48:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457955

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ครองความเป็นหนึ่งในใจผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ คว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยมจากผลสำรวจ 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company ของ BrandAge สื่อการตลาดชั้นนำ โดยสยามพารากอนได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในปัจจัยด้านความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovation) และไอคอนสยาม ได้คะแนนโหวตสูงสุดในปัจจัยด้านภาพลักษณ์ (Corporate Image) อีกทั้งสยามพารากอนและไอคอนสยามยังติดอันดับ Top 3 บริษัทที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากผู้บริโภคในหมวดธุรกิจศูนย์การค้าอีกด้วย สะท้อนศักยภาพของความเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลกที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนจากทุกมุมโลก    

นางธณพร ตันติยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กล่าวว่า สยามพารากอนในฐานะศูนย์การค้าระดับเอลิสต์ ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ลูกค้าจึงนำความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมาใช้ในการ curate สินค้าและบริการเพื่อนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำให้สามารถเข้าใจลูกค้าที่มาจับจ่ายได้มากขึ้น  สยามพารากอนยังคงสร้างสรรค์พัฒนาและออกแบบพื้นที่ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในทุกเจนเนอเรชั่น และดึงดูดให้ในแต่ละวัน มีผู้คนมาเยือนจำนวน 120,000 – 150,000 คนหรือกว่า 50 ล้านคนต่อปี   ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เป็นสถานที่รวบรวมความเพลิดเพลินของการใช้ชีวิตในแบบ Luxury lifestyle และความบันเทิงที่ครบครันที่สุด    

นางสุมา วงษ์พันธุ์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จและภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของไอคอนสยาม ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของประเทศไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นแม่เหล็กของการท่องเที่ยวที่ทรงพลัง และทำให้ประเทศไทยกลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่ครองความเป็นหนึ่งในใจผู้คนทั่วโลก และมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามร่วมมือกับพันธมิตรและ Global Partners จัดงาน 3,500 อีเว้นท์ระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 35 ล้านคน และไอคอนสยามได้รับการแนะนำจาก CNN Website (2022) ให้เป็นหนึ่งใน 10 สถานที่เค้าท์ดาวน์ของโลก ตอกย้ำการเป็น Global Destination อันดับ 1 ในใจของนักท่องเที่ยวไทย และทั่วโลกโดยเฉพาะการจัดงาน Amazing Thailand Countdown ของทุกปี ซึ่งถูกถ่ายทอดสู่สายตาชาวโลกผ่านโซเชียลมีเดีย และสำนักข่าวระดับโลก ทำให้กลายเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างเต็มภาคภูมินอกจากนี้ “ไอคอนสยาม” ยังคงมุ่งสนับสนุนและส่งเสริมนโยบายภาครัฐในการผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อต่อยอดความเป็น Global Destination ชู Soft Power ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับสู่เวทีโลกไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น ดีไซเนอร์ และอื่นๆ ในทุกมิติ

นิตยสาร BrandAge และ BrandAge Online สื่อธุรกิจการตลาดชั้นนำของประเทศไทย ได้จัดทำผลสำรวจ 2023-2024 Thailand’s Most Admired Company เพื่อเฟ้นหาบริษัทที่เป็นสุดยอดในปัจจัยแต่ละด้าน จากกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 24 กลุ่ม เช่น กลุ่มศูนย์การค้า กลุ่มธุรกิจอาหาร ร้านอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และธนาคาร

]]>
1457955
“สยามพิวรรธน์” เปิดตัว ONESIAM Drinking Water น้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียม ย้ำภาพพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน https://positioningmag.com/1455735 Fri, 15 Dec 2023 09:55:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455735

ต้องบอกว่านโยบายด้านสิ่งแวดล้อม หรือ ESG ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป ภาคธุรกิจไม่ว่าจะหน่วยงานรัฐ หรือเอกชน ต่างให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน สร้างผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด ไปจนถึงเป้าหมาย Net Zero กันถ้วนหน้า

ในประเทศไทยเราเริ่มเห็นหลายองค์กรที่มีนโยบายที่จริงจังต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม หนึ่งในนั้นก็คือ “สยามพิวรรธน์” ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้มีพันธกิจในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกสู่ความยั่งยืน

ล่าสุดสยามพิวรรธน์ได้เปิดตัว ONESIAM Drinking Water เป็นน้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียม ที่นำไอเดียน้ำดื่มรักษ์โลกด้วยบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มจากอะลูมิเนียม เป็นวัสดุที่ขึ้นชื่อว่าสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ 100% ด้วยกระบวนการรีไซเคิลเพื่อเปลี่ยนขยะเป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ ถือว่าเป็นผู้เล่นค้าปลีกรายแรกในไทยที่เปิดตัวน้ำดื่มรักษ์โลก

เบื้องหลังของ ONESIAM Drinking Water ได้จับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์อีก 2 ราย ผลงานการออกแบบโดยสมชนะ กังวารจิตต์ Executive Creative Director ของ Prompt Design นักออกแบบผู้คว้ารางวัลออกแบบระดับโลกกว่า 200 รางวัล และผลิตโดย Greenery Water ผู้ผลิตน้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียมแบรนด์แรกของไทย

นางสาวนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ ประธานบริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า

“สยามพิวรรธน์เตรียมเปิดศักราชปี 2567 ด้วย ONESIAM Drinking Water ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทำขึ้นภายใต้นโยบายบริหารจัดการขยะแบบ 360 องศาอย่างครบวงจร มุ่งสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนสู่องค์กรขยะเป็นศูนย์ หรือ Zero Waste โดยการรังสรรค์น้ำดื่มในบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียมที่ดีไซน์ลวดลายบนกระป๋องแบบพิเศษ สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ด้วยการรีไซเคิลได้อย่างไม่รู้จบ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่จากการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตวัตถุดิบอะลูมิเนียมได้ถึง 95% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งการรีไซเคิลอะลูมิเนียม 1 กิโลกรัม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9.13 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) อีกทั้งตัวกระป๋องสามารถบีบอัดง่าย ทำให้ช่วยลดพื้นที่จัดเก็บเพื่อเตรียมนำกลับไปรีไซเคิล”

โครงการน้ำดื่ม ONESIAM ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของสยามพิวรรธน์ เพื่อบรรลุเป้าหมายลดปริมาณการฝังกลบขยะจากการดำเนินงาน 50% ภายในปี 2030 และเดินหน้าสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2050 ซึ่งการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์น้ำดื่มเป็นอะลูมิเนียมนี้ จะเพิ่มศักยภาพในการนำขยะกระป๋องไปรีไซเคิล ช่วยลดการจัดการขยะแบบฝังกลบอย่างเป็นระบบ ช่วยประหยัดพลังงานและทรัพยากรในการผลิตใหม่

สำหรับกระป๋องน้ำดื่ม ONESIAM Drinking Water เป็นผลงานการออกแบบโดย “สมชนะ กังวารจิตต์” Executive Creative Director ของ Prompt Design นำแนวคิดที่สะท้อนตัวตนของ ONESIAM ที่เปรียบเสมือน Single Planet นำเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในด้านความมั่นใจ ความกระตือรือร้น และความอัศจรรย์ ผสมผสานกับลายเส้นที่หลากหลายให้ความรู้สึกสนุกสนาน เกิดพลังงานในการสร้างสรรค์ โดยใช้เทคนิคการพิมพ์แบบเปิดให้เห็นสีเนื้อกระป๋อง เพิ่มลูกเล่นความโดดเด่นคล้ายการปั๊มนูน และสร้างความแตกต่างให้ผู้พบเห็นสนุกไปกับงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว

สมชนะ กล่าวเสริมว่า”โจทย์ในการดีไซน์กระป๋องน้ำดื่ม ONESIAM Drinking Water เป็นการตอบโจทย์เทรนด์โลกที่หันมาใช้กระป๋องกันมากขึ้น เรียกได้ว่าต่อไปกระป๋องจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยมีการดีไซน์ในการพิมพ์สีน้อยลง ใช้เพียงแค่สีเงิน และสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีของ ONESIAM  SuperApp และใช้ซูเปอร์เทคนิคในการเล่นกับไฟมากขึ้น ทำให้เรียบหรู ดูแพง รับเทรนด์ Quiet luxury”

นอกจากนี้ยังมีพาร์ทเนอร์คนสำคัญอีกหนึ่งรายนั่นก็คือ Greenery Water ผู้ผลิตน้ำดื่มกระป๋องอะลูมิเนียมแบรนด์แรกของไทย ที่มีเป้าหมายในการลดขยะจากขวดน้ำดื่มพลาสติกที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมากถึง 6,000 ล้านขวดต่อปี ซึ่ง Greenery ได้เริ่มเปิดตัวน้ำดื่มกระป๋องมาได้ 3 ปีแล้ว

ONESIAM Drinking Water ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิลไม่ต่ำกว่า 70% ในการผลิต ส่วนอีก 30% เป็นอะลูมิเนียมใหม่ เนื่องจากประเทศไทยยังมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ ซึ่งอะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ชั่วชีวิต เป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรอย่างไม่รู้จบ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดของเสียตกค้างในระบบนิเวศ จากการนำบรรจุภัณฑ์กระป๋องอะลูมิเนียมใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นกระป๋องใบใหม่อีกครั้ง ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ 100%

นอกจากนี้ ลูกค้าและประชาชนทั่วไป สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูและส่งต่อโลกที่น่าอยู่สำหรับทุกคน โดยนำกระป๋องอะลูมิเนียมที่ใช้แล้วมาทิ้งที่เครื่องอัดกระป๋องที่ตั้งในศูนย์การค้าในเครือของสยามพิวรรธน์  หรือนำกระป๋องมาคัดแยกแล้วนำมาฝากที่ Recycle Collection Center หรือ RCC จุดรับวัสดุบรรจุภัณฑ์สะอาดแบบไดร์ฟทรู (Drive-Thru) ที่บริเวณจุดจอดรถทัวร์ หลังสยามพารากอน และบริเวณทางออก 4 ชั้น G (ฝั่งธนาคารกรุงเทพ) สยามพารากอน และจะเริ่มดำเนินการที่ไอคอนสยาม ในต้นปี 2567

น้ำดื่ม ONESIAM Drinking Water จะนำร่องใช้ในองค์กรสำหรับพนักงาน และเริ่มวางจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ที่ร้าน Loft ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ และ ชั้น 3 ไอคอนสยาม, Grab & Go ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ และผ่าน ONESIAM SuperApp รวมทั้งยังมีแผนวางขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending machine) ในสยามพารากอน และ สยามเซ็นเตอร์ ในต้นปี 2567

]]>
1455735
สยามพิวรรธน์ จับมือพันธมิตรปักธง Global Destinations เสนอสุดยอดประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมาย https://positioningmag.com/1453398 Mon, 27 Nov 2023 11:30:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1453398

กลยุทธ์การส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษเหนือความคาดหมาย และร่วมสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กันกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Co-creation & Collaboration to Win) ได้กลายเป็นคีย์ซัคเซสที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกของ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของผู้พัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลกที่มีความโดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญๆ ในประเทศต่างๆ เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด  และยังได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญระดับโลก ทั้งจากลักซ์ซูรี่แบรนด์ International Brands และพันธมิตรเจ้าของงานอีเวนต์ระดับโลก (World Tour Events) ที่พาเหรดมาใช้พื้นที่ของศูนย์การค้าของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์อย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี 2566  สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากพันธมิตรและศักยภาพความแข็งแกร่งของกลุ่มสยามพิวรรธน์ และพร้อมที่จะยกระดับประเทศไทยให้เป็นหมุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination) ได้อย่างเต็มภาคภูมิ


ตอกย้ำจุดยืนผู้นำตลาดลักซ์ซูรี่ ได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่

  • นิทรรศการ ‘HERMÈS IN THE MAKING IN BANGKOK’ ระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 3 ธ.ค. 66 ณ The Pinnacle ชั้น 8 ไอคอนสยาม

ล่าสุดไอคอนสยามได้รับเกียรติจากลักซ์ซูรี่แบรนด์ดังระดับโลก HERMÈS นำเสนอสุดยอดนิทรรศการแห่งปีที่หมุนเวียนไปทั่วโลกและหาดูได้ยากยิ่ง  ‘HERMÈS IN THE MAKING IN BANGKOK’ นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่ององค์ความรู้ที่ยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคมของ Hermès เชิญชวนทุกท่านมาพบกับเหล่าช่างฝีมือและค้นพบจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และนวัตกรรมผ่านชิ้นงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ ภายในนิทรรศการได้รับการผสมผสานเกมอินเตอร์แอคทีฟหลากหลายรูปแบบเข้ากับกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมสามารถร่วมกิจกรรม เพลิดเพลินกับประสบการณ์สุดพิเศษ และเปี่ยมด้วยจินตนาการเช่นกัน

  • Bulgari” เนรมิตการตกแต่งพื้นที่ภายใต้ธีม “Magnificent Wonders” รับเทศกาลแห่งความสุข ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. 66 – 16 ม.ค. 67 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน

แบรนด์ดังระดับโลก Bulgari” ร่วมกับสยามพารากอนรังสรรค์ต้นคริสต์มาสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนรมิตพื้นที่ภายใต้ธีม Magnificent Wonders” พบกับต้นคริสต์มาสเปล่งประกายแสงแห่งความสุขและความหวัง ตั้งตระหง่านโดดเด่นกลางพาร์คพารากอน และความมหัศจรรย์ของการตกแต่งบรรยากาศฉลองเทศกาลแห่งความสุขสุดพิเศษที่บริเวณจีเวล และอุโมงค์เซเลเบรชั่นอิลูมิเนชั่นที่จะส่องแสงงดงามสุดตระการตาในยามค่ำคืนตลอดช่วงเทศกาล  ตอกย้ำให้สยามพารากอนเป็นลักซ์ซูรี่เดสติเนชั่นที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

  • เตรียมพบกับความมหัศจรรย์ของ “คาร์เทียร์” (Cartier) แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส ที่จะมาเนรมิตพื้นที่ของ ICONSIAM ให้เป็นเป็นดินแดนแห่งจินตนาการด้วย Installation ภายใต้คอนเซปต์ The Fabulous House” จำลองความงดงามของบูติกประวัติศาสตร์ของคาร์เทียร์ใน 3 ประเทศ โดยสื่อถึงการเดินทางลัดฟ้าเพื่อมอบของขวัญแห่งความสุข พร้อมเปิดให้เข้าชมและถ่ายภาพตั้งแต่ระหว่างวันที่ 6 ธ.ค. 66 – 7 ม.ค.67 ณ ไอคอนสยาม

ส่งมอบสุดยอดประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ด้วยพาเหรดอีเวนต์ระดับโลก (World Tour Events)

พื้นที่ของศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ เป็นสนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก (Global Art & Culture) เป็นเสมือนพื้นที่หลอมรวมวัฒนธรรม ศิลปิน แฟชั่น และศิลปะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่เหนือความคาดหมายที่แรกและที่เดียว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและมอบความพิเศษให้กับทุกคน อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมคอมมูนิตี้ที่หลากหลายเปิดรับทุกกระแส ทุกเทรนด์ เป็นสถานที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง

  • นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลก “Monet & Friends Alive Bangkok” ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 ม.ค. 67 ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม

สัมผัสกับประสบการณ์ระดับเวิล์ดคลาสในนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกMonet & Friends Alive Bangkok” ที่ร่วมรังสรรค์โดย Grande Experiences ผู้สร้างและผู้ผลิต Live Impact Events ผู้นำเสนอประสบการณ์ระดับโลก และ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นครั้งแรกของไทย ที่จะได้สัมผัสภาพและเสียงของยุโรปในศตวรรษที่ 19 ในผลงานศิลปะของ Claude Monet (โคลด์ โมเนต์) ศิลปินชาวฝรั่งเศสแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก และผองเพื่อนจิตรกรอีก 14 ท่าน ภายใต้แนวคิด “An Immersive Adventure into French Impressionism” มาจัดแสดงในรูปแบบศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟอย่างยิ่งใหญ่น่าประทับใจ

  • นิทรรศการ “Xu Hongfei World Tour Exhibition – Thailand : Love in Siam” แสดงผลงานประติมากรรมศิลปินชื่อดังชาวจีน Xu Hongfei ‘ซู หวงเฟย’ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 ธ.ค. 67 ณ นภาลัย เทอร์เรซ ชั้น 7 ไอคอนสยาม

ไอคอนสยามเป็นสถานที่หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นแลนด์มาร์คในการจัดนิทรรศการ “Xu Hongfei World Tour Exhibition – Thailand : Love in Siam” ซึ่งเป็นการแสดงผลงานประติมากรรมระดับโลกจากสถาบันประติมากรรมกว่างโจว โดยศิลปินชื่อดังชาวจีน Xu Hongfeiซู หวงเฟย’ เจ้าของผลงานประติมากรรมชุด Chubby Women in Thailand ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในการจัดแสดงงานนิทรรศการมาทั้งหมด 50 ครั้ง จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติร่วม 20 แห่ง และจุดแลนด์มาร์คสำคัญทั่วโลกทั้งในฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, อิตาลี, อังกฤษ, สิงคโปร์, ตุรกี, อเมริกา, เยอรมนี, คิวบา, ญี่ปุ่น และอีกมากมายมา ตั้งแต่ปี 2013


ผนึกกำลังพันธมิตรระดับโลก นำเทรนด์ฮิตคาแรกเตอร์ระดับโลก สร้างความตื่นตาตื่นใจแบบเอ็กซ์คลูซีพก่อนใคร

  • งาน “Celebrate Like Never Before” – Invitation to World of Frozen ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย. ณ ริเวอร์พาร์ค ไอคอนสยาม

กระแสความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง ไอคอนสยาม และ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ระดับเอเชีย จากการเปิดตัว Olaf ‘โอลาฟ’ ตัวละครจากแอนิเมชันชื่อดัง Frozen ของดิสนีย์ขนาดใหญ่สูง 10 เมตร นั่งเอนพิงหมอนสามเหลี่ยมที่ผสานความเป็นไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ครั้งแรกในโลก ที่มาพร้อมการ์ดเชิญในฐานะตัวแทนจาก World of Frozen ในงาน “Celebrate Like Never Before” – Invitation to World of Frozen ที่ได้ถูกออกแบบสุดเอ๊กซ์คลูซีฟเพื่อประเทศไทยเท่านั้น ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน

  • ต้อนรับคาแรกเตอร์ระดับโลก BELLYGOM หมีสีชมพูขี้เล่นสุดน่ารักที่โด่งดังจากเกาหลีใต้ บินตรงมาสร้างรอยยิ้มและมอบความสุขให้ทุกคน วันนี้ถึง 14 ม.ค. 2567 Discovery Plaza สยามดิสคัฟเวอรี่

นอกจากนี้ สยามดิสคัฟเวอรี่ยังได้มีโอกาสร่วมเฉลิมฉลองกับการมาถึงครั้งแรกในประเทศไทย ของ BELLYGOM คาแรคเตอร์หมีสีชมพูขี้แกล้งสุดน่ารักที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากประเทศเกาหลีใต้ โดยโด่งดังมาจาก YouTube ตั้งแต่ปี 2561 ด้วยยอดวิวมากกว่า 200 ล้านครั้ง และมีผู้ติดตามมากกว่า 1.4 ล้านรายในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งกำลังมาแรงและเป็นที่นิยมจากนานาชาติ  มาร่วมสร้างบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร โดย BELLYGOM ขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 4 เมตร จะเป็นจุดแลนด์มาร์กที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปร่วมกับต้นคริสมาสต์ในธีม Sustainable Living X’mas Tree 2023

สยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มต้นแบบจุดหมายปลายทางระดับโลก มีความภาคภูมิใจที่พันธมิตรระดับโลกได้ให้ความไว้วางใจในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานสำคัญระดับโลก เพื่อนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายระดับเวิล์ดคลาสให้กับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์มีความพร้อมที่จะเติมเต็มปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร และเดินหน้ายกระดับประเทศไทยให้เป็นหมุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน ตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้คนอย่างต่อเนื่อง

 

]]>
1453398
สยามพิวรรธน์เสริมแกร่งผู้นำอันดับ 1 Luxury Retail ในไทย ตั้งเป้าจุดหมายปลายทาง Luxury ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก https://positioningmag.com/1449176 Wed, 25 Oct 2023 10:49:40 +0000 https://positioningmag.com/?p=1449176

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เดินหน้าเกมรุกครั้งสำคัญที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับโครงการศูนย์การค้าชั้นนำระดับเวิล์ดคลาส ที่จะมาพลิกเกมธุรกิจ ด้วยการ Co-create ร่วมกับลักซ์ซูรี่แบรนด์ ในการ curate สินค้าและบริการ เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาด Luxury Retail ปักหมุดจุดปลายทางระดับโลก ที่รวบรวมความเพลิดเพลินของการใช้ชีวิตแบบลักซ์ซูรี่ที่ครบครันที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ในปัจจุบัน ธุรกิจ Luxury ต้องนำเสนอประสบการณ์หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนในทุกเจนเนอเรชั่นและทุกรูปแบบการใช้ชีวิต สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโกลบอลเดสติเนชั่น อย่าง สยามพารากอน ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ซึ่งเป็นเอาท์เล็ต Luxury แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันสูงสุดในตลาด Luxury Retail ในประเทศไทย และ ยังคงยืนอยู่แถวหน้าเสมอในการปรับภูมิทัศน์ตลาดลักซ์ซูรี่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “แรงขับเคลื่อนที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสยามพิวรรธน์ให้อยู่แถวหน้าในตลาดลักซ์ซูรี่ คือ ความเข้าใจเทรนด์ของโลก เข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง และข้อกำหนดต่างๆ ของลักซ์ซูรี่แบรนด์ชั้นนำ สยามพิวรรธน์มีวิถีการทำงานแบบ co-create ร่วมกับร้านค้าเพื่อที่จะ curate สินค้า และ ส่งมอบประสบการณ์สุดพิเศษและแตกต่างก่อนใคร เราจึงมีฐานลูกค้าที่ทรงพลังและมีความผูกพันต่อเรามาก รวมถึงความเชื่อมั่นและสัมพันธภาพที่สั่งสมมายาวนานกับลักซ์ซูรี่แบรนด์ทั้งหมด พวกเขามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในศักยภาพของเราที่สามารถสร้างจุดหมายปลายทางระดับโลก และเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ทุกแบรนด์สามารถทำยอดขายสูงสุดในระดับภูมิภาค  และบ่อยครั้งที่ติดอันดับสูงสุดระดับโลก”

สยามพารากอน แลนด์มาร์กระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ถือเป็นหมุดหมายปลายทางที่ครองใจคนไทย และนักเดินทางจากทั่วโลกมานานเกือบ 2 ทศวรรษ  ขณะที่อีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของสยามพิวรรธน์ ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งกำลังฉลองครบรอบ 5 ปี ในปี 2566 นี้ ไม่ได้เป็นเพียงโครงการที่ได้พลิกเกมธุรกิจและ สร้างมาตฐานใหม่ให้กับวงการรีเทลเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของลักซ์ซูรี่ที่ไม่เหมือนใคร และเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองที่แผ่ขยายไปยังคอมมูนิตี้และธุรกิจโดยรอบ แม้มีปัจจัยท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ไอคอนสยามสามารถฟันฝ่าอุปสรรค และประสบความสำเร็จในการยกระดับแม่น้ำเจ้าพระยา และเปลี่ยนพื้นที่ฝั่งธนบุรี ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ และเป็นย่านธุรกิจที่มีการเติบโตสูงที่สุดในกรุงเทพฯ  ในวันนี้ ไอคอนสยามเดินหน้าไปสู่บทบาทใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจ ด้วยการขยายพื้นที่โซนลักซ์ซูรี่อีกเท่าตัว เพื่อครองความเป็นผู้นำในตลาด เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกที่ผู้คนทั่วโลก ต้องมาเยือน

แคโรไลน์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการทำงานร่วมกับแบรนด์หรูระดับโลกมากมาย จนทำให้สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็นจุดหมายปลายทางของ Luxury Brand  และทิพาณัท เลณบุรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายและธุรกิจสัมพันธ์ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการบริหารการตลาดกลุ่มสินค้าลักซ์ชูรี่มายาวนานกว่า 20 ปี เข้ามาเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีม

ทิพาณัทกล่าวว่า “สยามพิวรรธน์เป็นผู้พัฒนาตลาดลักซ์ชูรี่ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในประเทศไทย ทั้งสยามพารากอนและไอคอนสยาม ยังคงเป็นจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกลักซ์ซูรี่แบรนด์ระดับโลก ในเดือนตุลาคม 2566 มีการเปิดพื้นที่โซน Luxe Hall ที่สยามพารากอน ซึ่งจะโชว์เคสร้าน Luxury Brand เปิดใหม่ถึง 20 แบรนด์ รวมทั้งแบรนด์ที่เพิ่งเปิดร้านใหม่ อาทิ Loro Piana แบรนด์แฟชั่นเรียบหรูจากประเทศอิตาลี เปิดบูติกแห่งแรกในประเทศไทยที่สยามพารากอน อีกทั้งแฟชั่นแบรนด์เนมยอดนิยม อย่าง Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง) และ Fendi (เฟนดิ)  เปิดบูติกสำหรับผู้ชายแห่งแรกในประเทศไทย ไปจนถึงนาฬิกาแบรนด์หรูตั้งแต่ Vacheron Constantin, Jaeger Le Coultre, IWC, Panerai, Piaget, Chopard และ Franck Muller ล้วนเปิดบูติกแฟล็กชิปแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่สยามพารากอน”   

The New World of Luxury  

สยามพารากอน ได้ทรานสฟอร์มสู่การเป็น New World of Luxury เสริมศักยภาพเพื่อให้สามารถส่งมอบประสบการณ์หลากหลายที่ตรงใจผู้มาเยือน พร้อมสร้างคอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก (Global citizens) เพื่อก้าวไปสู่อีกขั้นของความสมบูรณ์แบบที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคต สยามพารากอนได้พัฒนาคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่หลายรูปแบบ เพื่อนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก

“การรีโนเวทครั้งนี้ สยามพารากอนตั้งใจที่จะขยายทั้งความกว้างและความลึกของลักซ์ซูรีให้ไปสู่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภูมิภาคนี้ เพื่อดึงดูดกลุ่มคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ของลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่จะเป็นแฟนคลับประจำของจุดหมายปลายทางสุดพิเศษแห่งนี้” แคโรไลน์กล่าวเสริม

ในช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา สยามพารากอนได้เปิดพื้นที่สาธารณะ รับฟังไอเดียของลูกค้าผ่าน Wall of Wonders ที่เป็น Interactive Wall เพื่อสอบถามถึงรูปแบบความแปลกใหม่ที่ลูกค้าต้องการแล้วนำความคิดเห็นนั้น มารังสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้มีความหลากหลายตรงใจของผู้คนในแต่ละคอมมูนิตี้ และยังนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อที่จะรู้เท่าทันเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เติมเต็มความต้องการในไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของลูกค้า และส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง

“ทุกคนจะร่วมสร้างนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศร่วมกับผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งได้เคยสร้างปรากฏการณ์เปิด Flagship Store ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว ใน Next Level เราก็จะรังสรรค์ Iconic Store ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นของความสมบูรณ์แบบที่สุดหนึ่งเดียว และเป็นมาตรฐานใหม่ของความยอดเยี่ยมในประเทศไทย” แคโรไลน์กล่าวปิดท้าย

สยามพารากอนกำลังเตรียมทยอยเปิดพื้นที่โซนใหม่ในปีนี้ พร้อมกับเตรียมเผยโฉมใหม่ของการ รีโนเวทที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Luxury แห่งโลกอนาคต ในกลางปี 2567

]]>
1449176
Creating Visionaries ในแบบสยามพิวรรธน์ สู่ความสำเร็จโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลก https://positioningmag.com/1445294 Mon, 25 Sep 2023 11:00:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445294

ประเทศไทยในตอนนี้มีความคึกคักไม่น้อย เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 20 ล้านคนในปีนี้แล้ว บรรดานักธุรกิจและผู้นำระดับโลกต่างก็เดินทางมาร่วมงานประชุมและงานสัมมนาระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด CNBC สถานีโทรทัศน์ข่าวธุรกิจชั้นนำระดับโลก เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานประชุม CNBC Connect ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเอเชียในธีม ASEAN and Beyond โดยมีกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกชั้นนำ และไอคอนสยาม ร่วมเป็นพันธมิตรด้านสถานที่การจัดประชุม

นอกจากข้อมูลอินไซด์จากเหล่าผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนในภูมิภาคเอเชีย ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทรานสฟอร์มธุรกิจ ความท้าทายในการสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่นเพื่อการแข่งขันและเติบโตในอนาคต รวมทั้งแนวทางการลงทุนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของเอเชียเพื่อเป้าหมายสู่ความยั่งยืน คุณชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ร่วมเสวนาใน หัวข้อ Creating Visionaries แชร์อินไซด์และแนวคิดการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกของสยามพิวรรธน์ อย่างสยามพารากอน และไอคอนสยาม หมุดปลายทางที่ต้องมาเยือนและได้รับการยอมรับในเวทีโลก แม้ต้องฟันฝ่าวิกฤตหลังเปิดตัวไม่นานในช่วงโควิค-19

คุณชฎาทิพกล่าวว่า การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในย่านฝั่งธนบุรีอย่างไอคอนสยาม เปรียบเสมือนการสร้าง “แมนฮัตตันของนิวยอร์ค” (Manhattan of New York) มหานครระดับโลก ซึ่งต้องมั่นใจว่าจะต้องเป็นโครงการที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน สยามพิวรรธน์จึงจับมือกับหลากหลายพันธมิตร เพื่อเนรมิตให้ไอคอนสยามเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก ที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตและสร้างความรุ่งเรืองให้ชุมชนและผู้คนโดยรอบ เหมือนโคมไฟที่จุดประกายให้ทั่วโลกหันกลับมามองประเทศไทยอีกครั้ง

“เราไม่ได้คิดที่จะสร้างโกลบอลเดสติเนชั่นเพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่เราสร้างแพลตฟอร์มส่งเสริมให้เกิดโอกาสและหาวิธีการที่จะร่วมมือกันในรูปแบบ Collaborate to Win ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของเราที่จะต้อง engage กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการริมน้ำ โรงแรม เรือ และชุมชน ความสำเร็จของไอคอนสยามเกิดจากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในหลายภาคส่วน เพื่อพัฒนาโครงการนี้ให้เหมือนเป็นเมืองแมนฮัตตันของนิวยอร์ค” คุณชฎาทิพกล่าวในงานเสวนา CNBC ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ TRUE  ICON HALL ไอคอนสยาม

ในวันนี้ ไอคอนสยามเป็นแลนด์มาร์กที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในย่านฝั่งธนฯ อีกทั้งยัง ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนพัฒนาระบบการเดินทางแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งทางรถ ราง เรือ ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก และยังได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบโครงการค้าปลีกที่บุกเบิกนำเสนอความแปลกใหม่ รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมไทย ผสมผสานกับนวัตกรรม และสถาปัตยกรรมระดับโลก สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นโครงการที่ดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักพัฒนาโครงการค้าปลีกจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม

ด้วยแรงบันดาลใจในการสนับสนุนการท่องเที่ยว ที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้พัฒนาโรงแรม 5 ดาวแห่งแรกในประเทศไทย จนถึงการพัฒนาศูนย์การค้าที่ได้มาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทยที่กลายจุดหมายปลายทางระดับโลกและเป็นต้นแบบให้กับวงการมาตลอด สถานที่ของเราเป็นสถานที่มี Heart and Soul  ที่ทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษ คุณชฎาทิพกล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์ Top of mind เพื่อเป็นที่หนึ่งทั้งในใจทั้งลูกค้า ร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรธุรกิจ เแนวทางการทำธุรกิจของสยามพิวรรธน์จึงแตกต่างจากโครงการทั่วไป เพราะไม่ใช่เป็นแลนด์ลอร์ด แต่เป็นพาร์ทเนอร์กับทุกคน   และ เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 สยามพิวรรธน์ได้เร่งพัฒนา ONESIAM SuperApp เป็น digital platform เพื่อบริการลูกค้า และสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจของร้านค้าและเชิญพันธมิตรจากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมใน Global Ecosystem  ONESIAM SuperApp จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผลักดันธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และสามารถเติบโตกลับมาแข็งแกร่งได้

ในวันนี้สยามพิวรรธน์เป็นผู้สร้างประสบการณ์ลักซ์ซูรี่ที่ยังคงสร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ ไอคอนสยามถือเป็นหนึ่งในโครงการสุดยอดไอคอนิค รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานเคานต์ดาวน์ระดับโลก ท่ามกลางการแสดงพลุตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาของงาน Amazing Thailand Countdown จนกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกต้องปักหมุดร่วมนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ในทุกๆ ปี  แน่นอนว่าการทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท จัดกิจกรรมระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ในทุกศูนย์การค้ารวมกันถึง 40 กิจกรรม จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้แตะ 30 ล้านคน ในปลายปีนี้ รวมทั้งปักหมุดให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน

]]>
1445294
สยามพิวรรธน์เตรียมขยายธุรกิจบุกต่างประเทศ https://positioningmag.com/1444706 Tue, 19 Sep 2023 12:55:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444706

· ประกาศเตรียมขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสริมแกร่งผู้นำการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่สำคัญระดับโลก (World-class Destination)

· รายได้ 6 เดือนแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เติบโตกว่า 25%จากปีก่อน

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจ ค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ ประกาศแผนเตรียมขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางที่ประสบความสำเร็จและมีความสำคัญระดับโลก (World-class Destination) ที่ได้รับการยอมรับนับถือในเวทีพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

โดยผลประกอบการของทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรกของ ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้เติบโตกว่า 25% จากปี 2565 อีกทั้งมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่ศูนย์การค้าในกลุ่มวันสยามอันประกอบด้วย สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ มากถึง 45 ล้านคน เติบโตกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา ส่วนไอคอนสยามซึ่งในปัจจุบันเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากในหลายประเทศว่า เป็นโครงการที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาโครงการเมือง ที่รวบรวมความครบครันของการ ช้อปปิ้ง เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ศิลปวัฒนธรรมและนวัตกรรมที่อำนวยความสะดวกสบาย โรงแรมและคอนโด มีเนียมที่อยู่อาศัยเหนือระดับ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ รองรับด้วยการสัญจรที่เชื่อมต่อระบบรถ ราง เรือ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว อีกทั้งเป็นจุดหมายสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้อยากมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากนั้น ในปัจจุบันไอคอนสยามมีจำนวนลูกค้าแตะวันละ 100,000 คน และใน 6 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนผู้ที่มาใช้บริการในไอคอนสยามทั้งชาวไทยและต่างชาติรวมกันถึง 15.5 ล้านคน ซึ่งเติบโตจากปี 2565 อย่างมากถึง 70%

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า “ในปัจจุบันวงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก เริ่มมีการตื่นตัวหลังจากผ่านพ้นวิกฤตการณ์โควิด 19 ทั้งนี้ในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมานั้น สยามพิวรรธน์ได้รับการติดต่อจากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับต้นๆ จากหลายประเทศที่เดินทางมาเยี่ยมชมศูนย์การค้าต่างๆ ของสยามพิวรรธน์เป็นจำนวนมาก ได้แสดงความประสงค์ที่จะให้สยามพิวรรธน์ไปร่วมลงทุน เพื่อสร้างโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ซึ่งนอกจากจะมีแผนการลงทุนภายในประเทศแล้ว คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นชอบที่จะศึกษาการขยายธุรกิจไปต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าจะทำแผนเสร็จสมบูรณ์และประกาศได้ต้นปี 2567”

เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์และการขยายธุรกิจระยะยาว บริษัทฯ จึงได้ลงนามแต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อช่วยปรับโครงสร้างและวางแผนทางการเงิน ศึกษาเรื่องการระดมทุนที่เหมาะสม รวมทั้งความเป็นไปได้ในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

“การที่สยามพิวรรธน์ได้รับการทาบทามให้ไปร่วมลงทุนกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในหลายประเทศนั้น ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งและเป็นบทพิสูจน์ว่า งานของสยามพิวรรธน์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยด้วยคอนเซปต์แปลกใหม่และเป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในสาขาต่างๆ บนเวทีโลก สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คน และล้วนแต่เป็นโครงการที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยตลอดมา ในวันนี้สยามพิวรรธน์พร้อมแล้วที่จะก้าวออกไปต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศด้วยความมั่นใจ” นางชฎาทิพกล่าวในตอนท้าย

]]>
1444706
สยามพิวรรธน์เดินเกมรุก ครองแชมป์ Global Destination อันดับหนึ่งของไทย ขานรับนโยบายรัฐบาล ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ดันนักท่องเที่ยว ทะลุเกินเป้าใน Q4 https://positioningmag.com/1444112 Thu, 14 Sep 2023 04:00:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444112

บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ประกาศยุทธศาสตร์ ขับเคลื่อนธุรกิจขานรับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ผ่าน 4 Strategic Pillars ย้ำจุดแข็งในการเป็นผู้สร้าง Global Destinations อันดับหนึ่งของประเทศไทย ดังนี้ 1) ผู้นำการสร้างประสบการณ์ shopping ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย เสริมแกร่งตลาด Luxury retail ที่มีความครบครันที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 2) ผู้นำการจัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ 3) ผู้นำในการยกระดับผลงานศิลปะไทย สนับสนุนกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก และ 4) ผู้นำในการปั้น Soft power ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก  ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ได้เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท อัดฉีดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้แตะ 30 ล้านคน ในไตรมาส 4 ปีนี้

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ กล่าวว่าสยามพิวรรธน์เป็นผู้นำในการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destinations) ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายที่ครองความเป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนานประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกด้วยรางวัลชนะเลิศหลากหลายเวที อีกทั้งยังเป็นผู้ครองฐานลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทยตลอดมา ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 นี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์มีถึง 14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 46% จากปี 2565 โดยมียอดการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยที่ 8,500 บาท/คน/วัน เมื่อรัฐบาลมีนโยบายที่จะอำนวยความสะดวกและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างเต็มที่แล้ว เชื่อมั่นว่าภายในสิ้นปีนี้ประเทศไทยจะมียอดนักท่องเที่ยวถึง 30 ล้านคน และสยามพิวรรธน์จะทุ่มทุนจัดกิจกรรมในไตรมาสสุดท้ายทุกศูนย์การค้าด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อเป็นแม่เหล็กให้ผู้คนทั่วโลกอยากมาเยี่ยมชม

การขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มสยามพิวรรธน์เพื่อขานรับนโยบายรัฐบาล ได้กำหนดยุทธศาสตร์ผ่าน 4 Strategic Pillars  ดังนี้

1. ผู้นำการสร้างประสบการณ์ Shopping ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย เสริมแกร่งผู้นำในตลาด Luxury retail ด้วยการผนึกกำลังกับ Luxury brand ร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรธุรกิจ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเตรียมเปิดร้าน Luxury brands ใหม่เพิ่มเติมถึง 20 ร้านค้าในไตรมาส 4 ซึ่งหลายแบรนด์เป็นสาขาแรกในประเทศไทย อีกทั้ง มีคิวจัด Pop-up store และงานอีเวนต์ระดับโลก ร่วมกับแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 40 แบรนด์ไปจนถึงสิ้นปี 2567 รวมทั้งบรรดาลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกค่าย เตรียมขยายพื้นที่กว่าเท่าตัวให้เป็น Iconic store ที่ใหญ่ที่สุดในสยามพารากอนและไอคอนสยามในปีหน้าอีกด้วย

2.ผู้นำการจัด World Class Event และการประชุมนานาชาติ โดยทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) และภาคเอกชนต่างๆ เพื่อดึงดูดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ที่มีกำลังซื้อสูงจากทั่วโลก โดยใช้พื้นที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน และทรู ไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เป็นสถานที่จัดงานอีเวนต์มาตรฐานระดับโลกหรือการประชุมนานาชาติ ซึ่งในปีนี้ได้รองรับงานสำคัญรวมกันกว่า 40 งาน และมีการจองใช้ใน ปี 2567 แล้วมากถึง 70% โดยสยามพิวรรธน์จะร่วมมือกับพันธมิตรใน Global Ecosystem ซึ่งประกอบด้วยพันธมิตรจากหลากหลายธุรกิจทั้งสายการบิน ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ภัตตาคาร เพื่อรองรับการจัดงานหลากหลายรูปแบบ ส่งเสริมธุรกิจ MICE และสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางการจัดประชุมนานาชาติของ S/E Asia นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้จัดงานอีเวนต์รายใหญ่ของโลกรายหนึ่งที่จะมาร่วมลงทุนสร้างศูนย์ประชุมและการแสดงเพิ่มเติมอีกด้วย สำหรับในไตรมาส 4 ของปีนี้จะลงทุนจัดกิจกรรมระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ในทุกศูนย์การค้ารวมกันถึง 40 กิจกรรม ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะสื่อสารประชาสัมพันธ์ออกสื่อทั่วโลก จึงมั่นใจว่าจะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต้องการมาชมและสนุกสนานร่วมกัน

3.ผู้นำในการส่งเสริมศิลปะไทย ยกระดับกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก  โดยสยามพิวรรธน์ได้บุกเบิกและเป็นผู้ประกอบการที่สนับสนุนศิลปินไทยมาตลอดเวลากว่า 15 ปี เป็นรายแรกที่นำผลงานของศิลปินไทยมาจัดแสดงเป็น public arts ประจำในศูนย์การค้า และจัดกิจกรรมต่างๆ ส่งเสริมความสามารถของศิลปินไทยตลอดมา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สยามพิวรรธน์เตรียมแผนเสนอรัฐบาลที่จะปั้นให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางของ S/E Asia ที่จะจัดงานศิลปะระดับโลกให้เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดบุคคลในวงการศิลปะเข้ามาในประเทศไทย อาทิ งาน Art Basel และ Frieze เป็นต้น ซึ่งจะทำให้บรรดาศิลปินไทยได้มีโอกาสแสดงผลงานร่วมกับศิลปินระดับโลกด้วย โดยจะร่วมทำงานกับภาครัฐในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น สยามพิวรรธน์มีนโยบายที่จะเปิดศูนย์ศิลปะริเวอร์มิวเซียม ชั้น 8 ไอคอนสยาม ในปี 2026 ด้วยพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นมิวเซียมมาตรฐานโลกแห่งแรกของประเทศไทยที่สามารถรองรับงานศิลปะ master piece ระดับโลกได้ทัดเทียมกับมิวเซียมชั้นนำในประเทศต่างๆ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะดึงดูดบุคคลสำคัญในวงการศิลปะและบรรดา นักสะสมงานศิลปะจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศไทย นับว่าเป็นกลุ่มท่องเที่ยวคุณภาพสูงกลุ่มใหม่ที่จะต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีในระยะยาว

4.ผู้นำในการปั้น Soft power ของไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์และต่อยอดสู่เวทีโลก ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่สยามพิวรรธน์ได้พัฒนาแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่นำสุดยอดฝีมือในด้านต่างๆ ของไทย เพื่อนำเสนอ Soft power ของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น ดีไซเนอร์ และอื่นๆ รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs และพ่อค้าแม่ค้าจาก 77 จังหวัด จำนวนกว่า 6,000 ราย มารวมตัวกันนำเสนออัตลักษณ์ไทยรูปแบบต่างๆ ผ่านเมืองสุขสยาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมไม่ต่ำกว่าวันละ 70,000 คนและเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมากใน social media ทั่วโลก นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยผ่านธุรกิจรีเทลของสยามพิวรรธน์ อันได้แก่ ICONCRAFT, ODS และ ECOTOPIA ก็สามารถขายแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์​พร้อมที่จะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งพันธมิตรระดับโลก ยกระดับ Soft power ของคนไทยให้เป็นที่ชื่นชมบนเวทีโลกด้วยเช่นกัน

สยามพิวรรธน์พร้อมที่จะผสานพลังทุกภาคส่วน สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ ทำให้ประเทศไทยครองแชมป์จุดหมายปลายทางของโลก ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ที่จะช่วยกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และก่อให้เกิดการจ้างงานกับประชาชนจำนวนมาก ส่งผลกระทบครอบคลุมกว้างขวาง ไม่ใช่เฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ MICE และบริการที่จะได้ประโยชน์จากการมาเยือนของชาวต่างชาติ

“สยามพิวรรธน์จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง โดยเตรียมอัดงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในไตรมาส 4 นี้ และเตรียมจัดงบประมาณเพิ่มอีกเท่าตัวในปีหน้า เพื่อเดินเครื่องหนุนการท่องเที่ยวของไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดยมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม สร้างปรากฏการณ์ ปักหมุดให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางแรกที่ต้องมาเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางจากทั่วโลก” นางชฎาทิพกล่าวปิดท้าย

 

]]>
1444112
สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปี สยามพิวรรธน์คว้า 3 รางวัลใหญ่จาก Retail Asia Awards 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาแลนด์มาร์คระดับโลก https://positioningmag.com/1434751 Fri, 23 Jun 2023 08:00:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1434751

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติจาก Retail Asia Awards 2023 โดยสยามพารากอน ได้รับรางวัล Mall of the Year สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปีของประเทศไทยที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ รางวัล Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Campaign แคมเปญสร้างปรากฏการณ์ความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีและรางวัล Customer Service Initiative of the year จากการให้บริการ Luxury Chat and Shop สะท้อนความเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก (Global Admiration) พร้อมเดินหน้าสู่การสร้างแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้ทุกมิติ

นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ได้รับ 3 รางวัล Retail Asia Awards 2023 จาก Retail Asia สื่อด้านธุรกิจรีเทลชั้นนำในเอเชีย ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราที่นำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อยกระดับศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก และเป็นการยกระดับให้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสุดยอดในหลากหลายวงการ ผนึกกำลังกับแบรนด์ดังทั่วโลกและผู้ประกอบการไทย มาร่วมกัน Co-create สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้กลุ่มสยามพิวรรธน์สามารถได้รับการยอมรับในเวทีโลก รวมทั้งรางวัลในด้านแคมเปญการตลาด และการให้บริการลูกค้ากลุ่มลักซ์ซูรีอีกด้วย”


รางวัล Mall of the Year – Thailand สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยสยามพารากอน ประสบความสำเร็จทั้งในด้านแทรฟฟิค และยอดขาย โดยเฉพาะกลุ่มลักซ์ซูรีแบรนด์ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับต้นๆ ของโลก จนทำให้แบรนด์ระดับโลกต่างขยายพื้นที่พร้อมสร้างประสบการณ์ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างต่อเนื่อง สยามพารากอนอยู่ระหว่างการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญที่จะปรับโฉมให้เป็นที่สุดของความเลิศล้ำ เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน


รางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาด Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Celebration: Infinite Happiness แคมเปญสร้างมหาปรากฏการณ์แห่งความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2565 ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลก Smiley ที่มีสัญญลักษณ์รูปรอยยิ้มที่ผู้คนทั่วโลกรู้จัก และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ Smiley โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ร่วมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์โลกในรูปแบบ Global Collaboration อย่างแท้จริง


รางวัลสุดยอดบริการลูกค้า Customer Service Initiative of the year จากการเปิดให้บริการ Luxury Chat & Shop ของสยามพิวรรธน์ในปี 2564 มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัด สะดวกทุกที่ทุกเวลา ลูกค้าสามารถแชตและช้อปสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกจากร้านค้าในสยามพารากอนและไอคอนสยาม ผ่านช่องทางออมนิชาแนล ถือเป็นบริการที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้สยามพิวรรธน์ครองความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศไทย และได้ต่อยอดบริการ Luxury Chat & Shop ผ่านแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงประสบการณ์ในโลกออนไลน์และออฟไลน์ไว้ในที่เดียว

รางวัลเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์การค้า แต่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้คนในทุกเจนเนอเรชั่น ที่มีความพร้อมมอบประสบการณ์แปลกใหม่และสร้างแรงบันดานใจในระดับโลก สร้างชื่อเสียงของบริษัทไทยบนเวทีโลก

]]>
1434751
สยามพิวรรธน์ กระหึ่มครองความเป็นที่ 1 สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จทะลุเป้าไตรมาสแรกปี 2566 https://positioningmag.com/1429096 Tue, 02 May 2023 10:00:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1429096
  •  รายได้รวมทั้งกลุ่มสยามพิวรรธน์ในไตรมาสแรก 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรก 2565 โดยเพิ่มขึ้น 27%
  •  ส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายด้วย Iconic World Class Event ระดับโลก ดึงดูด Traffic มหาศาลเพิ่มขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
  •  ย้ำความสำเร็จผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) เป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอ
  •  คว้ารางวัลที่ 1 จากหลายเวที ตอกย้ำแบรนด์ที่หนึ่งในใจของผู้คน

  • กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพฯ ประกาศปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จทะลุเป้าในไตรมาสแรกปี 2566 ผลประกอบการของทั้งกลุ่มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรกของปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 27% ย้ำความสำเร็จผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ปริมาณ Traffic ของทั้ง 4 ศูนย์การค้า เพิ่มขึ้นประมาณ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก หนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยสร้างเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศ พร้อมคว้ารางวัลที่ 1 จากหลายเวทีมาครอบครอง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มสยามพิวรรธน์และสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด

    นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า“การเริ่มต้นปี 2566 นี้ สยามพิวรรธน์ได้ตอกย้ำและสร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างสูง สามารถสร้างรายได้ในไตรมาสแรก 2566 เติบโตสูงกว่าไตรมาสแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 27% ด้วยปัจจัยจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกลยุทธ์ของสยามพิวรรธน์มุ่งเน้นเป็นเวทีที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์และผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ส่งผลให้สินค้ากลุ่มลักซ์ซูรี่แบรนด์ทุกประเภทได้รับการตอบรับอย่างดี ตอกย้ำให้สยามพารากอนและไอคอนสยามเป็น Destination ของ Luxury Brand ที่รวมแบรนด์ชั้นนำทุกประเภททั้งสินค้าแฟชั่น accessories นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงได้ครบครันมากที่สุดในประเทศ ย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย”

    “นอกจากนี้สยามพิวรรธน์ยังคงรังสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย โดยได้รับเกียรติจากแบรนด์ดังระดับโลก สร้างปรากฏการณ์เปิดตัวเวิลด์คลาสอีเวนต์ยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในเอเชีย ด้วยการเป็นสถานที่ในการจัดงานสำคัญระดับโลกตั้งแต่ต้นปี อาทิ LOUIS VUITTON (หลุยส์ วิตตอง)หลุยส์ จัดแสดงอินสตอลเลชั่น “Dancing Pumpkin” นำเสนอผลงานสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด ณ สยามพารากอน และไอคอนสยาม ซึ่งเป็นการจัดงานแสดงพร้อมกับสถานที่สำคัญและเป็นสุดยอดเดสติเนชั่นต่างๆ ทั่วโลก อาทิ โตเกียว ปารีส ลอนดอน เป็นต้น และอีเวนต์เต็มรูปแบบครั้งแรกในเอเชีย งานแสดง “BAO BAO VOICE” โดย BAO BAO ISSEY MIYAKE (อิซเซ่ มิยะเกะ) ณ สยามดิสคัฟเวอรี่ สะท้อนความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในการมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมายแบบลักซ์ซูรี่สำหรับทุกคน (Luxury for all) อีกทั้งแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ลักซ์ซูรี่แบรนด์มอบให้กลุ่มสยามพิวรรธน์ พร้อมยกระดับประเทศไทยเป็นหมุดหมายตลาดลักซ์ซูรี่เทียบเท่าระดับโลก อีกทั้งยังได้ Global Collaboration ร่วมกับ พาราเมาท์ คอนซูเมอร์ โปรดักส์ นำแบรนด์ระดับโลก Nickelodeon SpongeBob SquarePants (นิคคาโลเดียน สพันจ์บ็อบ) การ์ตูนสุดฮอตที่เป็นที่รู้จักและมีแฟนคลับทั่วโลก จัดแคมเปญเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย ณ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ต้อนรับนักช้อปและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตลอดช่วงซัมเมอร์นี้”

    ในไตรมาสแรกของปีนี้ ยังเดินหน้าปล่อยเม็กเน็ตใหม่ต่อเนื่อง โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดพื้นที่ True 5G PRO HUB โลกใบใหม่สำหรับคน New Gen พื้นที่แห่งความสร้างสรรค์ การค้นพบ และการพัฒนาตัวเองสู่ทักษะอนาคต ตอบโจทย์ 3 ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ Gamer & E-Sports, Gen Z Lifestyle และ Future Skills อย่างไร้ขีดจำกัด ในขณะเดียวกันสยามดิสคัฟเวอรี่มีสินค้าแบรนด์ดังมาสร้างกระแสทอล์กออฟเดะทาว์นอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิด pre-order กระเป๋าแบรนด์ดัง CARLYN จากประเทศเกาหลี ที่สร้างสถิติยอดจองหมดภายใน 11 นาที โดยจากความนิยมของลูกค้าที่มีมากมายจากการเปิด pre order ส่งผลให้แบรนด์ตัดสินใจมาเปิด pop up boutique แห่งแรกในประเทศไทยที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ด้านสยามเซ็นเตอร์สร้าง engagement กับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ร่วมกับ Tiktok จัดแคมเปญ The Fashhh Battle เปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัย ได้แสดงออกทางความคิด ไอเดียที่แปลกใหม่ และเปิดกว้างให้ทำในสิ่งที่ถนัด ถ่ายทอดลงบนแพลตฟอร์ม TikTok มีผู้ชมและร่วมแคมเปญกว่า 26 ล้านวิว

    นับตั้งแต่เปิดปี สยามพิวรรธน์ยังคว้ารางวัลชนะเลิศจากหลายเวที ล่าสุดเวที 2023 Thailand’s Most Admired Brand & Why We Buy? โดยนิตยสาร BrandAge สยามพารากอนคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ศูนย์การค้าที่น่าเชื่อถือมากสุดในประเทศไทย และไอคอนสยามคว้ารางวัลอันดับ 3 นอกจากนี้ ในงานประกาศรางวัล THAILAND SOCIAL AWARDS จัดโดยบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด สยามพารากอน คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Brand Performance on Social Media เป็นแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สาขากลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า และไอคอนสยาม ได้รับรางวัล Finalist เป็นหนึ่งในห้าของแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกลุ่มสยามพิวรรธน์และสามารถครองความเป็นที่หนึ่งในใจคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด

    นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2566 นี้ ไอคอนสยามก้าวย่างสู่ปีที่ 5 และประสบความสำเร็จเติบโตอย่างสูงมาก ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ได้คลี่คลายลง ไอคอนสยามสามารถสร้างยอดขายสูงขึ้นกว่า 40% และจำนวน Traffic เพิ่มขึ้นถึง 94% เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2565 จากฐานลูกค้าประจำที่เป็นคนไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงอาศัยในฝั่งธนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวยังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ล้วนปักหมุดไอคอนสยามเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ยืนยันได้จากแกร็บประเทศไทย ได้ประกาศข้อมูลการใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันแกร็บของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไอคอนสยามติดโผอันดับ 1 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวต่างชาติชอบไปมากที่สุด”

    “นับตั้งแต่ต้นปี ไอคอนสยามรวมพลังความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของพลังหัวใจไทย ทั้งจาก ภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างมหาปรากฏการณ์ World Class Event ระดับโลกอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้เป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก อาทิ ล่าสุดผนึกกำลังพันธมิตร สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ เปิดอาร์ตแอทแทรกชั่น “Van Gogh Alive Bangkok” (แวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก) นิทรรศการแสดงผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งนิทรรศการนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมกว่า 8.5 ล้านคนใน 80 เมืองทั่วโลก ทั้งปักกิ่ง, เบอร์ลิน, เดนเวอร์, ลอนดอน, มาดริด, มอสโก, โรม, ซิดนีย์, แฟรงค์เฟิร์ต, นาโกย่า และกัวลาลัมเปอร์, งานมหาสงกรานต์ “THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023 สืบสานประเพณีสงกรานต์มหัศจรรย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเดียวในไทย พร้อมสนับสนุนให้สงกรานต์ไทยขึ้นแท่นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตอกย้ำแลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา, เบิกฟ้าเทศกาลตรุษจีนปีกระต่ายทองฉลองตรุษจีน “THE ICONSIAM ETERNAL PROSPERITY CHINESE NEW ยิ่งใหญ่ตระการตา นอกจากนี้ ไอคอนสยาม ยังมีเมืองสุขสยาม เมืองสารพัดสุข สนุกแบบไทย ที่เป็นอีกหนึ่งแมกเน็ตสำคัญของไอคอนสยาม จัดกิจกรรมเทศกาลผลไม้ 4 ภาคทั่วไทย กับงาน Amazing Thai Fruit Paradise ณ เมืองสุขสยาม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดล้วนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลเข้าไอคอนสยามอย่างล้นหลาม”

    ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อศูนย์การค้าในเครือของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ผู้นำความคิดสร้างสรรค์นำเสนอประสบการณ์เหนือระดับที่สร้างความตื่นตาตื่นใจรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า และยังมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะ Top of mind of Tourism สร้างชื่อเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยด้วยการดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลเข้าประเทศอีกด้วย

    ]]>
    1429096