อินเดียถือเป็นผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 1 ของโลก และเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิลในการส่งออกน้ำตาล โดยล่าสุด รัฐบาลอินเดีย ได้ออกแถลงการณ์ว่า จะจำกัดการส่งออกน้ำตาลไว้ที่ 10 ล้านตัน ในช่วงวันที่ 1 มิ.ย.-31 ต.ค. เพื่อคุมราคา และรักษาสต็อกน้ำตาลในประเทศ หลังจากที่การส่งออกเติบโตอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนในปีที่แล้วและในฤดูกาลปัจจุบัน โดยการจำกัดดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ในปีการตลาดปัจจุบันซึ่งเริ่มตั้งแต่ตุลาคม 2564 ถึงกันยายน 2565 โรงงานน้ำตาลในอินเดียได้ลงนามในสัญญาส่งออกประมาณ 9 ล้านตัน ในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า และในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า อินเดียได้ส่งออกน้ำตาลถึง 7 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นปริมาณสูงสุดในรอบหลายปี

อย่างไรก็ตาม อินเดียระบุว่า จะยังคงอนุญาตให้ส่งออกไปยังประเทศที่อ่อนแอและเพื่อนบ้าน ขณะที่การจำกัดการส่งออกสินค้าต่าง ๆ ของอินเดียได้เกิดขึ้นในช่วงที่เงินเฟ้อของอินเดียพุ่งสูงถึง 7.8% โดยถือว่าสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี และหลังจากที่อินเดียประกาศ ราคาสัญญาน้ำตาลที่มีการซื้อขายในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้นถึง 1%

ไม่ใช่แค่อินเดีย แต่ประเทศ มาเลเซีย ก็ได้จำกัดการส่งออกไก่ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แสดงให้เห็นว่านี่เป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการปกป้องแหล่งอาหารที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก หลังจากที่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรในยูเครนตกต่ำ โดยเฉพาะ ข้าวสาลี ที่รัสเซียและยูเครนส่งออกรวมกันคิดเป็น 30% ของตลาดโลก ส่งผลให้ประเทศผู้ผลิตสินค้าการเกษตรรายใหญ่ต้องออกมาควบคุมการส่งออก

ตั้งแต่ที่รัสเซียได้เปิดฉากรุกรานยูเครน ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนครั้งประวัติศาสตร์ต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยธนาคารโลกคาดว่าจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งสูงราว 22.9% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากราคาข้าวสาลีที่สูงขึ้น 40% และจะลากยาวจนถึงปี 2567

แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มจำกัดการส่งออกสินค้าทางการเกษตร แต่ก็มีข่าวดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดย อินโดนีเซีย จะยกเลิกการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนปีหน้า

Source