ล่าสุด MAERSK ผู้ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก ออกมาชี้เเจงว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกนำมาใช้เป็นสิ่งกีดขวางกิจกรรมในประเทศไทยนั้น “ไม่ได้อยู่ในการครอบครองบริษัท เพราะได้ขายต่อไปในตลาด ให้บุคคลที่ 3 แล้ว”
วันนี้ เราจะพามารู้จัก MAERSK ผู้ให้บริการการขนส่งสินค้าทางทะเลเบอร์ 1 ของโลกจากเดนมาร์ก ให้มากขึ้นกัน
โลจิสติกส์เป็นหนึ่งในธุรกิจ “ดาวรุ่ง” เมื่อโลกปัจจุบันเชื่อมต่อกัน ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ “ง่ายเเละเร็ว” กว่าสมัยก่อนมาก โดยเฉพาะธุรกิจเรือขนส่ง “ตู้คอนเทนเนอร์” ที่เฟื่องฟูมาเรื่อยๆ
MAERSK (เมอส์ก) หรือ A.P. Moller Maersk บริษัทขนส่งสัญชาติเดนมาร์ก ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1904 ถึงตอนนี้ก็อายุราวๆ 116 ปี เริ่มต้นด้วยการเป็นธุรกิจครอบครัวของตระกูล Møller เป็นที่รู้จักในวงกว้างในวงการเดินเรือสมุทรมานับศตวรรษ
ปัจจุบันให้บริการกว่า 130 ประเทศ มีพนักงานมากกว่า 88,000 คน และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางทะเลเเละทางบกเเบบ “ครบวงจร”
ธุรกิจหลักๆ ของ MAERSK ส่วนใหญ่จะเป็นการขนส่งและพลังงาน นอกนั้นจะเป็นธุรกิจค้าปลีก อู่ต่อเรือ การทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่น เเละสนใจการลงทุนในธุรกิจการเงินด้วย
การขนส่งสินค้าทางทะเล เป็นส่วนที่ทำรายได้ให้ MAERSK มากที่สุด โดยบริษัทเปิดให้บริการทั้งเเบบขนสินค้าใส่ตู้คอนเทนเนอร์ เเละเเบบ Bulk cargo (เรือสินค้าเเบบเทกอง ขนส่งครั้งละมากๆ เเต่ไม่มีภาชนะบรรจุสินค้า)
ปัจจุบันมีเรือในสังกัดมากกว่า 786 ลำ รวมไปถึงเปิดให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ “ท่าเรือ” ซึ่งมีท่าเรือที่ให้ทั้งหมด 65 แห่งทั่วโลก
จากนั้น MAERSK มีธุรกิจบริการขนส่งเเบบครบวงจรใน “ทางบก” ทั้งการบริหารสินค้าคงคลัง และให้บริการโกดังสินค้าให้กับโรงงานต่างๆ
ในส่วนของธุรกิจ “ตู้คอนเทนเนอร์” นั้น บริษัทมีการผลิตเพื่อใช้งานภายในกลุ่มธุรกิจตัวเอง เเละผลิตขายให้ลูกค้าภายนอก มีฐานผลิตที่ประเทศจีน โดยในปี 2018 สามารถผลิตตู้คอนเทนเนอร์ได้ถึง 1.5 เเสนตู้
ข้อมูลจากเว็บไซต์ ship-technology ประเมินว่า MAERSK เป็นบริษัทขนส่งทางเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ถึง 4.1 ล้านทีอียู ตามมาด้วย Mediterranean Shipping Company (MSC) ด้วยขนาด 3.8 ล้านทีอี เเละ COSCO Shipping Lines อยู่ที่ 3.1 ล้านทีอียู
เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โลกต้องเผชิญกับโรคระบาด COVID-19 ทาง MAERSK ออกมาเตือนว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกจะ “ร่วงลง” อย่างรุนแรงในปีนี้ จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 1-3%
สำหรับผลประกอบการของ MAERSK ในไตรมาสที่ 2/2020 พบว่า บริษัทมีผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.1 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนหน้า ที่มีผลกำไรอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 หมื่นล้านบาท) แม้จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของ COVID-19
ส่วนไตรมาสที่ 3/2020 การส่งออกทั่วโลกเริ่มมีการฟื้นตัว เป็นผลดีต่อผลประกอบการของ MAERSK ทำให้มีผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 2.3 พันล้านดอลลาร์ (6.9 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสก่อนหน้า
โดยในสถานการณ์โรคระบาด ธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล เเละการให้บริการท่าเรือ มีรายได้ “ลดลง” เเต่บริษัทมีรายได้ “ชดเชย” จากธุรกิจขนส่งคงคลัง (Logistics & Services Segment) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
]]>