หมีเนย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 21 Aug 2025 06:32:49 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จับตาการกลับมา ‘น้องเนย’ พนักงาน 7-Eleven ที่ครั้งนี้ควงคู่มากับ ‘เฮลโล คิตตี้’ https://positioningmag.com/1534488 Tue, 19 Aug 2025 12:34:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1534488 น่าสนใจเป็นอย่างมากเมื่อ ‘7-Eleven’ (เซเว่น อีเลฟเว่น) ประกาศถึงการกลับมาของ ‘น้องเนย’ (BUTTERBEAR) พนักงานเซเว่นฯ ซึ่งครั้งนี้ไม่ธรรมดาเพราะมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ที่ดังระดับตำนาน อย่าง ‘เฮลโล คิตตี้’ (Hello Kitty)

 

อย่างที่ทราบกับดีน้องเนย หรือหมีเนย เป็นคาแรกเตอร์ที่มีพลังทางการตลาดมาก โดยเมื่อไป Collab กับแบรนด์ใด ก็สามารถสร้างกระแสไวรัลและยอดขายได้เป็นอย่างดี 

 

อย่างกรณีการไป Collab กับ KFC ในช่วง 3 เดือน สามารถสร้างยอดขายเพิ่มให้ 49% และในช่วงสัปดาห์แรกของแคมเปญมีจำนวนในการซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 59%เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนของปีที่ผ่านมา

.

สำหรับ 7-Eleven ก่อนหน้านี้ได้มีความร่วมมือกับน้องเนย ภายใต้แคมเปญ ‘เพื่อนที่ฮีลใจ ใกล้ๆคุณ’ ให้เป็นพลังซอฟท์ พาวเวอร์ของไทย และเข้าถึงทุกคนได้มากขึ้นผ่านสินค้าอาหารและเครื่องดื่มแพ็กเกจจิง

 

รวมไปถึงของพรีเมียมที่น่าสะสม อาทิ กระเป๋านุ่มนิ่ม กระเป๋าขนปุย ผ้าห่มมีฮู้ด สมุด แก้วน้ำ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งต้องบอกว่า ผลตอบรับของแคมแปญนี้ดีมาก ๆ ทั้งกระแสการพูดถึงและกลายเป็นไอเท็มตามหาของผู้คน

 

ขณะที่ความแรงของ ‘เฮลโล คิตตี้’ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเป็นคาแรกเตอร์ดังระดับตำนานที่มีอายุยาวนานกว่า 50 ปี มีความร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย และหลากหลาย จนสามารถสร้างรายได้ให้กับ Sanrio ได้อย่างมหาศาล

 

สำหรับการโคจรมาพบกันของ ‘2 สาวเพื่อนซี้คู่ใหม่’ หมีเนยและเฮลโล คิตตี้ ครั้งนี้ จะมาภายใต้แคมเปญ ‘น่ารัก แพ็คคู่…ดูแลทั่วไทย’ ส่วนจะมี ‘พลัง’ และ ‘ปัง’ แค่ไหน ต้องรอติดตามในวันที่ 24 สิงหาคม 2568 นี้!

]]>
1534488
เปิดเบื้องหลัง ‘Acer x หมีเนย’ ในยุคแข่งสเปกไม่พอ ต้องหลอกล่อด้วยความ ‘น่ารัก’ ให้พร้อมควักเงินจ่าย ! https://positioningmag.com/1529649 Fri, 11 Jul 2025 04:40:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1529649 “แค่เป็นน้องเนย พี่ก็ซื้อเลย ไม่รู้หรอกสเปกเป็นยังไง” หนึ่งในเสียงของ มัมหมี ที่จอง Acer Aspire Lite 15 Limited Edition x Butterbear โน้ตบุ๊กรุ่นพิเศษของ เอเซอร์ (Acer) ที่เปิดจองในหลักพันเครื่องเท่านั้น ซึ่งความเห็นดังกล่าวน่าจะตอบแทนแล้วว่า ยุคนี้สินค้าไอทีไม่ได้แข่งแค่สเปกอีกต่อไป แต่ต้องมีเรื่อง Emotional ด้วย

ครั้งแรกที่คอลแลปกับโลคอลคาแรกเตอร์

เรียกได้ว่า คอลแลปกับแบรนด์ไหน แบรนด์นั้นปังตลอดสำหรับ น้องหมีเนย หรือ Butterbear จนล่าสุดมาถึงคิวของแบรนด์สินค้าไอทีอย่าง เอเซอร์ ซึ่งเบื้องหลังการคอลแลปกันครั้งนี้มาจากผู้บริหารใหม่อย่าง เจฟ ลี ที่มาแทน อลัน เจียง ที่เกษียณไป โดยที่ผ่านมา เจฟ ลี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการคอลแลปกันของเอเซอร์กับ Hello Kitty ในระดับโลกมาแล้ว

แต่สำหรับ Acer x หมีเนย จะเป็น ครั้งแรกที่คอลแลปกับคาแรกเตอร์ไทย และขายเฉพาะในไทย จากปกติที่ผ่านมาจะเป็นการคอลแลปในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Ferrari, Marvel และ Hello Kitty และสำหรับสินค้าตัวแรกของ Acer x หมีเนย จะเป็น Acer Aspire Lite 15 Limited Edition x Butterbear ซึ่งออกมาหลักพันเครื่องเท่านั้น

“จุดเริ่มต้นของโปรเจกต์นี้เกิดจากโมเมนต์เล็ก ๆ ที่ผมได้พบกับน้องเนยในงานที่ห้างฯ แห่งหนึ่ง และรู้สึกถึงพลังของความน่ารักที่สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนได้อย่างลึกซึ้ง ต่อมา ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับมัมหมี ที่เป็นพนักงานที่เอเซอร์ เลยทราบว่าน้องเนยกำลังจะเข้าโรงเรียน เลยคิดว่า น้องเนยก็ต้องมีโน้ตบุ๊กไว้ใช้ทำการบ้านสิ” เจฟ ลี กรรมการ    ผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เล่า

ไม่ได้หวังยอดขาย แต่ต้องการขยายฐานลูกค้า

ด้วยจำนวนที่ไม่ได้เยอะ เพราะต้องการทำให้มันหมีรู้สึก พิเศษ จริง ๆ ดังนั้น เป้าหมายหลักของเอเซอร์จึงไม่ใช่การเติบโตของยอดขาย แต่เป็นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ให้กับเอเซอร์ และทำให้ภาพของแบรนด์ดู เด็กลง เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา เอเซอร์ไม่ได้มีแค่สินค้าไอที แต่เริ่มเข้าสู่ไลฟ์สไตล์แบรนด์ โดยมีการออกสินค้าในหมวดไลฟ์สไตล์มากขึ้น เช่น เครื่องกรองน้ำ, เครื่องกรองอากาศ หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลัง

“เราทำมาจำกัดจริง ๆ และเชื่อว่ายังไงก็ถูกจองหมด ดังนั้น เป้าหมายการคอลแลปไม่ใช่เรื่องสร้างการเติบโตของยอดขาย แต่จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่เราอาจจะเข้าไปไม่ถึง” นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด อธิบาย

ทั้งนี้ สัญญาของเอเซอร์กับหมีเนยจะมีอายุ 1 ปี และทำได้แค่สินค้าในกลุ่มโน้ตบุ๊กเท่านั้น ส่วนส่วนค้าอื่น ๆ ไม่ได้ไลเซ่นส์

แข่งแค่สเปกทำไม แค่น่ารักลูกค้าก็ควักเงินจ่าย

ที่ผ่านมา ตลาดโน้ตบุ๊ก-พีซี มักจะแข่งกันที่ ราคา-สเปก ใครมีของใหม่ออกมาก่อนก็ได้เปรียบ ทำให้เอเซอร์เองต้องการฉีกออกจากการแข่งขันแบบเดิม ๆ โดยหันไปเล่นกับ emotional มากกว่า ซึ่งหลังจากที่ออก Acer Aspire Lite 15 Limited Edition x Butterbear มีความเห็น ไม่ถึง 1% ที่อยากรู้สเปก ที่เหลือบอกว่า น่ารัก ซื้อเลย

“มัมหมีหรือแฟนคลับเขาชอบก็ซื้อเลย เขาไม่สน ไม่อยากรู้ว่าสเปกเท่าไหร่ อะไรยังไง บางคนก็ซื้อไปสะสม ไม่ได้ใช้งาน” นิธิพัทธ์ เล่า

ภาพรวมตลาดปีนี้มีโอกาสบวก

สำหรับภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊ก-พีซีปีนี้ นิธิพัทธ์ มองว่ามีโอกาส เติบโต โดยดูแนวโน้มจากช่วงครึ่งปีแรกที่ค่อนข้างมีทิศทางบวก โดยมีปัจจัยบวกมาจาก AI โน้ตบุ๊ก ที่ปัจจุบันราคาลงมาอยู่ในระดับ 20,000 ต้น ๆ จากเดิมที่ต้องเป็นรุ่นไฮเอนด์ราคา 3-4 หมื่นบาทขึ้นไป ส่งผลให้โน้ตบุ๊กกลุ่ม Mid-End ราคาเฉลี่ย 22,000 – 25,000 บาท เป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุดในตลาด

อย่างไรก็ตาม โดยปกติตลาดจะเติบโตดีในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น อาจต้องรอดูในช่วง Q3/2025 ถึงจะเห็นภาพที่ชัดขึ้น ขณะที่เอเซอร์เองคาดว่าจะเติบโตเช่นกัน แต่ไม่สามารเปิดเผยถึงตัวเลขเป้าหมายได้

“จริง ๆ ตลาดครึ่งปีแรกก็ถือว่าไม่ตก แต่ช่วงพีคของตลาดไอทีมันจะอยู่ช่วงครึ่งปี ดังนั้น อยากให้รอดู Q3 ก่อน แต่ตอนนี้ ตลาดไม่ได้แข่งขันที่ตัวถูกแล้ว เพราะคนก็อยากอัปเกรดไปใช้ AI โน้ตบุ๊ก และโน้ตบุ๊กเกมมิ่งก็ยังเป็นเซกเมนต์ที่ขายดี”

สำหรับ Acer x Butterbear Aspire Lite 15 Limited edition มาพร้อม AMD Ryzen™ 5 7430U processor RAM 32GB DDR4 / SSD 512GB หน้าจอ 15.6″ IPS Full HD (1920×1080) Windows 11 Home Microsoft Office Home & Student 2024 and Microsoft 365 basic นอกจากลวดลายน้องเนยแล้ว ยังมีไอคอนที่ออกแบบพิเศษและวอลเปเปอร์ลายน้องเนย

ราคาอยู่ที่ 19,990 บาท และจะได้ของแถมพิเศษเป็นเมาส์, กระเป๋า, แผ่นรองเมาส์ ลายพิเศษ สามารถ  สั่งจอง Acer x Butterbear Aspire Lite 15 Limited edition ได้ทาง Acer Online Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ระหว่างวันที่ 3 – 31 กรกฎาคม 2568

]]>
1529649
BUTTERBEAR ดัน “น้องหมีเนย” คาแรกเตอร์ระดับโลก ทำบ้านหมีเนยกลางสยาม ตกมัมหมีไทย-เทศ https://positioningmag.com/1505627 Tue, 07 Jan 2025 17:26:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1505627 หากกล่าวถึง หนึ่งในคาแรกเตอร์มาแรงในปีที่ผ่าน หนีไม่พ้น “น้องหมีเนย” จาก BUTTERBEAR ไอดอลสาวที่คว้าใจเหล่ามัมหมีได้

ในปี 2568 แผนใหญ่ของแบรนด์ คือ การปั้นน้องหมีเนย ที่เป็นตัวแทนคาแรกเตอร์ไทยไปสู่ระดับโลกให้ได้

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ก็มีคาแรกเตอร์จากต่างชาติที่ไปถึงระดับโลกได้ อาทิ Hello Kitty หรือกระทั่ง Disney

ดัน “น้องหมีเนย” ไอคอนคาแรกเตอร์ระดับโลก

“ธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์” ประธานเจ้าหน้าบริหาร BUTTERBEAR เล่าให้ฟังว่า น้องหมีเนย มีคาแรกเตอร์คล้าย 3 ขวบ ที่สร้างความสุขและฮีลใจผู้คน จนสร้างฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ได้ หลัก ๆ เป็นไทย 50% และจีน 50% รวมไปถึงค่อย ๆ ขยายความนิยมไปสู่ตลาดใหม่ อาทิ เม็กซิโก อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ที่เริ่มมีแฟนคลับติดตาม

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่แบรนด์อยากทำให้ “น้องหมีเนย” เป็นไอคอนสร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก และเป็นตัวแทนคาแรกเตอร์จากไทยที่ไปสู่ระดับสากลมากขึ้น

“ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยเห็นของจากไทยได้ไปประเทศอื่น แต่ตอนนี้เรามีโอกาสที่หลายประเทศให้ความสนใจน้องหมีเนย”


น้องหมีเนย ไม่เพียงแต่สร้างแบรนด์เลิฟเวอร์ให้ BUTTERBEAR แต่ยังสร้างโอกาสในการต่อยอดธุรกิจไปหลายเส้นทาง โดยเตรียมเปิดสาขา Pop-up แห่งที่สองในจีนเพิ่ม ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ หรือเมืองอื่น

ส่วนในไทยมีการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ นิทรรศการ “BUTTERY WORLD PRESENTED BY 7-11” เปิดบ้านน้องหมีเนยครั้งแรก 7 ห้อง + 1 สวนดอกไม้ ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. – มิ.ย. 68

อย่างไรก็ดี แบรนด์ยังคงมุ่งเน้นในธุรกิจร้านอาหาร โดยมีแผนทำขนมรูปแบบของฝากมากขึ้น และจะพัฒนาเป็นกล่องจุ่มกับน้องหมีเนย เพื่อเป็น Merchandise ซึ่งปัจจุบันแบรนด์มีรายได้หลักจากธุรกิจร้านอาหาร 70% คาแรกเตอร์ 15% และ Merchandise 15%

เปิดบ้านหมีเนยแห่งแรก

“เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ร่วมกับ BUTTERBEAR เนรมิตบ้านน้องเนยใจกลางเมือง ที่สยามพารากอน คอนเซ็ปต์บ้าน “A Magical Journey to Our Buttery World”

เบื้องต้น ใช้งบประมาณ 50-60 ล้านบาท บนพื้นที่ขนาด 800 ตร.ม. ภายในมีทั้งรูปแบบชั้นเดียวและสองชั้น และมีห้องไฮไลต์ อาทิ ห้องแห่งความสุข มีส่วนของครัว ซึ่งเป็นสถานที่ที่ยัยหนูเนยชอบแอบมากินป๊อกโกแลต รวมถึงมีส่วนให้ผู้เข้าชมค้นหาการบ้านแช่แข็งของน้องเนยได้อีกด้วย

สำหรับกลุ่มลูกค้าวางเป้าเป็นคนต่างชาติ 60% และคนไทย 40% โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชม 1,400 คน/วัน ประเมินขายบัตรเข้าชมได้ไม่ต่ำกว่า 60,000 ใบ หากผลตอบรับดีอาจไปแสดงต่อจีนหรือฮ่องกง

]]>
1505627
‘หมีเนย-หมูเด้ง’ ครองตำแหน่งขวัญใจชาวโซเชียล ส่วน ‘หลวงพ่อทันใจ’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยขอพรออนไลน์มากสุด https://positioningmag.com/1504628 Mon, 23 Dec 2024 11:11:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504628 LINE ประเทศไทยได้เปิดเผยถึงเทรนด์กระแสไวรัลและเทรนด์ฮิตในปี 2024 โดยสรุปผ่าน ‘10 เทรนด์ฮิตชีวิต ดิทัล 2024’ จากผู้ใช้ LINE ในประเทศไทย ซึ่งปีนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘หมีเนย – หมูเด้ง – ช็อกโกแลตดูไบ – ไข่พะโล้’ มีการพูดถึงมากที่สุด ขณะที่ ‘กีฬา – สมรสเท่าเทียม – ฉ้อโกง’ กลายเป็นประเด็นฮอต และกระแสร้อนที่คนไทยเกาะติด

 

  1. ‘หมีเนย-หมูเด้ง’ คว้าหัวใจครองโลกดิจิทัล

 

ในรอบปี 2024 เป็นการจับมือครองโลกออนไลน์กันแบบไม่ต้องสงสัย สำหรับ ‘หมีเนย’ จาก Butterbear และ ‘หมูเด้ง’ ที่ติดอันดับท็อปในหลายบริการบนแอป LINE โดย ‘ด้อมหมีเนย’ ขึ้นแท่นกลุ่มแฟนคลับที่มีสมาชิกมากที่สุดบน LINE OPENCHAT กว่า 40,000 คน ส่วน ‘ด้อมหมูเด้ง’ สร้างสถิติใหม่กวาดแฟน ๆ เข้ากลุ่มเร็วที่สุด โดยมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 5,000 คน เป็น 10,000 คน ในเวลาเพียง 10 นาที

 

นอกจากนี้เพลง ‘น่ารักมั๊ยไม่รู้’ ของหมีเนยยังติดท็อปเพลงฮิตที่ผู้ใช้นำมาสร้างคอนเทนต์มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม LINE VOOM พร้อมด้วยเป็นหนึ่งในเพลงฮิตที่คว้ารางวัล Black Melody ศิลปินที่มียอดดาวน์โหลดบน LINE MELODY สูงสุดภายใน 2 วัน

 

2.คนดังแห่ออกสติกเกอร์ เข้าถึงแฟนในทุกโมเมนต์

 

ฟาก LINE STICKERS ก็พบว่า เป็นปีที่คอลเลกชันสติกเกอร์ ‘คนดัง’ เพิ่มขึ้นสูง จากการเป็นเครื่องมือสื่อกลางที่เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับได้ทุกโมเมนต์ ทุกการพูดคุยบนโลกออนไลน์ เพราะมีทั้ง น้องเนย, หมูเด้ง, พี่จอง คัลแลน น้องแดน คุณจูดี้, ครอบครัวตัวฟอร์, หลิง-ออม, เจมิไนน์ – โฟร์ท และนักแสดงที่มีฐานแฟนด้อมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ก็เป็นปีที่สติกเกอร์จากคำฮิตวลีเด็ดบนโลกโซเชียลก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง อย่าง birthday but with me (เกิดแต่กับกู) ที่ให้อารมณ์สนุกและกวน ไม่พลาดสักกระแส

 

3. ยกเครื่อง ‘อิโมจิ’ ครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี

 

หลายคนอาจเตะตาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเวลาแชท เพราะมีการยกเครื่องปรับโฉม ‘อิโมจิ’ ครั้งใหญ่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่หยิบมาอิโมจิตัวเดิมที่คุ้นเคย อีกหนึ่งไอเท็มสื่อสารอมตะบนโลกดิจิทัลกลับมาออกแบบใหม่และจัดเรียงตัวให้เหมาะกับการใช้งานจริง สอดคล้องกับพฤติกรรมที่คนใช้อิโมจิเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับอิโมจิบน Reaction ข้อความบน LINE ที่มีผู้ใช้งานมากขึ้นเช่นกัน

 

4. ของกินบนโลกโซเชียลมาแรง รอนานแค่ไหนก็ยอม

 

ต้องเรียกว่า ปี 2024 เป็นปีที่ ‘ของกิน’ ที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีอิทธิพลอย่างมากกับวัฒนธรรมป๊อปในเมืองไทย ทำให้ตลาดอาหารคึกคักแบบไม่ต้องสงสัย อย่าง LINE SHOPPING พบว่า ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ เป็นสินค้าขายดีสุดๆ โดยช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมขายได้รวมกว่า 30,000 ชิ้น หรือร้านเค้กทุเรียน เค้กลอดช่องอย่าง Nie and Ivan ก็ครองสถิติการพรีออเดอร์รอเค้กนานที่สุดถึง 5 เดือน

 

ฟาก LINE MAN ก็พบว่า ‘ไข่พะโล้’ จากกระแสของ ‘พี่เอ ศุภชัย’ มียอดออเดอร์จากร้านต่าง ๆ รวมกันแล้วโตขึ้นกว่า 2 เท่าใน 1 เดือน เมื่อเทียบกับเวลาปกติ โดยเฉพาะไข่พะโล้ก็ขายจากร้านต่าง ๆ รวมกันทั่วประเทศมากกว่า 260,000 ฟอง ขณะที่ ‘ข้าวขาหมู’ จากกระแสหมูเด้ง ก็ทำให้ยอดค้นหาเมนูข้าวขาหมูบน LINE MAN เพิ่มขึ้น 50% ภายใน 1 สัปดาห์เช่นกัน ซึ่งทุกเมนูล้วนเป็นมีจุดเริ่มต้นจากกระแสบนโลกโซเชียลทั้งสิ้น

 

5. ‘กีฬา – สมรสเท่าเทียม – ฉ้อโกง’ ประเด็นคอนเทนต์คนไทยมีส่วนร่วมคึกคัก

 

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกปีที่ผ่านมาสร้างบรรยากาศเชียร์ไทยปกคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้คอนเทนต์ของ LINE TODAY ในหมวดกีฬามีผู้รับชมเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากช่วงเวลาปกติ เช่น ข่าวเทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองแรกให้กับประเทศไทยในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 สอดคล้องกับที่แฟน ๆ กีฬาเปิดห้องโอเพนแชทเพื่อพูดคุยและเชียร์กีฬาที่ตัวเองชอบเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงโอลิมปิกเช่นเดียวกัน ขณะที่คนไทยก็ตื่นตัวเสพคอนเทนต์ข่าวสารประเด็น ‘ฉ้อโกง – มิจฉาชีพ’ รวมกว่า 36 ล้านเพจวิว โดยเนื้อหาที่คนเข้าชมมากที่สุดได้แก่ กรณี The Icon Group อันดับสองได้แก่ ทองแม่ตั๊ก และอันดับสาม อย่างแกงค์คอลเซ็นเตอร์ระบาด

 

ด้านประเด็น ‘สมรสเท่าเทียม ที่สร้างบรรยากาศของการตื่นเต้นยินดี ก็ครองอันดับหนึ่งการรับชมไลฟ์บน LINE TODAY มากที่สุดถึง 1 ล้านคน จากงาน Pride Parade มากกว่าคอนเทนต์ไลฟ์อื่นถึง 3 เท่า

 

6.วงการเพลงสุดคึกคักเพราะความหลากหลาย

 

ปีนี้ LINE MELODY มีการมอบรางวัล Black Melody รางวัลที่มอบให้แก่เพลงที่มียอดดาวน์โหลดเร็วและมากที่สุดบนบริการ LINE MELODY มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18 รางวัล ซึ่งถือได้ว่าเป็นปีที่เพลงที่ได้รับรางวัลมีความหลากหลายสุด ๆ สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ความนิยมของผู้ใช้งานที่หลากหลายและขยายกว้างมากขึ้น ตั้งแต่ศิลปินสังกัด ศิลปินอิสระ เพลงประกอบวิดีโอของคัลแลน-พี่จอง สองหนุ่มเกาหลีเที่ยวไทยอย่าง Toxic – HateBerry เพลงที่แต่งจากกระแสโซเชียลอย่าง หมูเด้ง Moo Deng (Reggaeton) – Karat K รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ผู้ได้รับรางวัล BLACK MELODY เป็นหมีน้อยน่ารักอย่าง ‘น้องเนย’ จากเพลง น่ารักมั้ยไม่รู้ – Butterbear

 

7. ‘หลวงพ่อทันใจ’ แซง ‘พระแม่ลักษมี’ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คนไทยขอพรออนไลน์มากที่สุด

 

หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยใช้บริการขอพรออนไลน์ผ่าน LINE ดูดวงมากที่สุดในปีทีผ่านมา ตามมาด้วยวัดดั๊กดูเศรษฐ์ อินเดีย และ พระแม่ลักษมี เกษรวิลเลจ ที่อยู่ในอันดับสาม นอกจากนี้คนไทยก็ไม่ลืมที่จะ ‘บริจาค’ เพื่อสังคม โดย LINE ดูดวง ร่วมมือกับ ‘เทใจ’ เป็นสื่อกลางในการส่งน้ำใจของคนไทยไปสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจุดทั่วประเทศ ที่เฉพาะในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียวก็ได้รับเงินบริจาคจากพี่น้องชาวไทยกว่า 8 แสนบาท

 

8.เกมสนุก เว็บตูนไทยปังเกินต้าน

 

LINE ไอเดิล เรนเจอร์ เกมใหม่ล่าสุดจาก LINE GAME เผยสถิติผู้เล่นในไทยใช้เวลาในโหมด Idle รวมกว่า 242,023 นาที (4,033 ชั่วโมง) ภายในวันแรกที่เปิดให้บริการ หรือเทียบเท่าการออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงนานถึง 11 ปี ขณะที่ฟาก LINE WEBTOON “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุดในสยาม” ก็ต่อยอดความดัง จัดกิจกรรม Pop-up Store กลางสยาม เอาใจแฟนคลับแห่ร่วมช้อปรวมกว่าหมื่นคน

 

9. SME ทั่วไทยกว่า 2 ล้านคน ตื่นตัวหาความรู้ใหม่

 

LINE for Business กระจายความรู้ให้ผู้ประกอบการ SME กว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ ผ่านงานสัมมนามากมาย อาทิ BOOTCAMP DAY และ UPSKILL SME ที่จับมือกับ สสว. รวมถึงงานธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารอย่าง  ‘จุดประกายธุรกิจไมซ์ ติดอาวุธธุรกิจอย่างยั่งยืน’ ร่วมกับ TCEB และ THAI MICE Connect รวมทั้งคอร์สออนไลน์อย่าง BOOTCAMP Classroom และรายการโค้ชชวนคุย เป็นต้น

 

10. ‘หลานม่า – ธี่หยด 2’ ครองหนังซื้อตั๋วผ่าน LINE Pay

เป็นปีที่หนังไทยคึกคักมากกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ไทยในปี 2567 สุดฮิตอย่าง หลานม่า และ ธี่หยด 2 สร้างปรากฏการณ์เป็นหนังที่คนซื้อตั๋วและจ่ายด้วย LINE Pay ที่แท็บ SF Cinema บนแท็บ LINE Wallet มากที่สุดของปี

]]>
1504628