หลานม่า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 24 Dec 2024 02:09:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘หมีเนย-หมูเด้ง’ ครองตำแหน่งขวัญใจชาวโซเชียล ส่วน ‘หลวงพ่อทันใจ’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยขอพรออนไลน์มากสุด https://positioningmag.com/1504628 Mon, 23 Dec 2024 11:11:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504628 LINE ประเทศไทยได้เปิดเผยถึงเทรนด์กระแสไวรัลและเทรนด์ฮิตในปี 2024 โดยสรุปผ่าน ‘10 เทรนด์ฮิตชีวิต ดิทัล 2024’ จากผู้ใช้ LINE ในประเทศไทย ซึ่งปีนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘หมีเนย – หมูเด้ง – ช็อกโกแลตดูไบ – ไข่พะโล้’ มีการพูดถึงมากที่สุด ขณะที่ ‘กีฬา – สมรสเท่าเทียม – ฉ้อโกง’ กลายเป็นประเด็นฮอต และกระแสร้อนที่คนไทยเกาะติด

 

  1. ‘หมีเนย-หมูเด้ง’ คว้าหัวใจครองโลกดิจิทัล

 

ในรอบปี 2024 เป็นการจับมือครองโลกออนไลน์กันแบบไม่ต้องสงสัย สำหรับ ‘หมีเนย’ จาก Butterbear และ ‘หมูเด้ง’ ที่ติดอันดับท็อปในหลายบริการบนแอป LINE โดย ‘ด้อมหมีเนย’ ขึ้นแท่นกลุ่มแฟนคลับที่มีสมาชิกมากที่สุดบน LINE OPENCHAT กว่า 40,000 คน ส่วน ‘ด้อมหมูเด้ง’ สร้างสถิติใหม่กวาดแฟน ๆ เข้ากลุ่มเร็วที่สุด โดยมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 5,000 คน เป็น 10,000 คน ในเวลาเพียง 10 นาที

 

นอกจากนี้เพลง ‘น่ารักมั๊ยไม่รู้’ ของหมีเนยยังติดท็อปเพลงฮิตที่ผู้ใช้นำมาสร้างคอนเทนต์มากที่สุดบนแพลตฟอร์ม LINE VOOM พร้อมด้วยเป็นหนึ่งในเพลงฮิตที่คว้ารางวัล Black Melody ศิลปินที่มียอดดาวน์โหลดบน LINE MELODY สูงสุดภายใน 2 วัน

 

2.คนดังแห่ออกสติกเกอร์ เข้าถึงแฟนในทุกโมเมนต์

 

ฟาก LINE STICKERS ก็พบว่า เป็นปีที่คอลเลกชันสติกเกอร์ ‘คนดัง’ เพิ่มขึ้นสูง จากการเป็นเครื่องมือสื่อกลางที่เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับได้ทุกโมเมนต์ ทุกการพูดคุยบนโลกออนไลน์ เพราะมีทั้ง น้องเนย, หมูเด้ง, พี่จอง คัลแลน น้องแดน คุณจูดี้, ครอบครัวตัวฟอร์, หลิง-ออม, เจมิไนน์ – โฟร์ท และนักแสดงที่มีฐานแฟนด้อมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ก็เป็นปีที่สติกเกอร์จากคำฮิตวลีเด็ดบนโลกโซเชียลก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง อย่าง birthday but with me (เกิดแต่กับกู) ที่ให้อารมณ์สนุกและกวน ไม่พลาดสักกระแส

 

3. ยกเครื่อง ‘อิโมจิ’ ครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี

 

หลายคนอาจเตะตาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเวลาแชท เพราะมีการยกเครื่องปรับโฉม ‘อิโมจิ’ ครั้งใหญ่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่หยิบมาอิโมจิตัวเดิมที่คุ้นเคย อีกหนึ่งไอเท็มสื่อสารอมตะบนโลกดิจิทัลกลับมาออกแบบใหม่และจัดเรียงตัวให้เหมาะกับการใช้งานจริง สอดคล้องกับพฤติกรรมที่คนใช้อิโมจิเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับอิโมจิบน Reaction ข้อความบน LINE ที่มีผู้ใช้งานมากขึ้นเช่นกัน

 

4. ของกินบนโลกโซเชียลมาแรง รอนานแค่ไหนก็ยอม

 

ต้องเรียกว่า ปี 2024 เป็นปีที่ ‘ของกิน’ ที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีอิทธิพลอย่างมากกับวัฒนธรรมป๊อปในเมืองไทย ทำให้ตลาดอาหารคึกคักแบบไม่ต้องสงสัย อย่าง LINE SHOPPING พบว่า ‘ช็อกโกแลตดูไบ’ เป็นสินค้าขายดีสุดๆ โดยช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมขายได้รวมกว่า 30,000 ชิ้น หรือร้านเค้กทุเรียน เค้กลอดช่องอย่าง Nie and Ivan ก็ครองสถิติการพรีออเดอร์รอเค้กนานที่สุดถึง 5 เดือน

 

ฟาก LINE MAN ก็พบว่า ‘ไข่พะโล้’ จากกระแสของ ‘พี่เอ ศุภชัย’ มียอดออเดอร์จากร้านต่าง ๆ รวมกันแล้วโตขึ้นกว่า 2 เท่าใน 1 เดือน เมื่อเทียบกับเวลาปกติ โดยเฉพาะไข่พะโล้ก็ขายจากร้านต่าง ๆ รวมกันทั่วประเทศมากกว่า 260,000 ฟอง ขณะที่ ‘ข้าวขาหมู’ จากกระแสหมูเด้ง ก็ทำให้ยอดค้นหาเมนูข้าวขาหมูบน LINE MAN เพิ่มขึ้น 50% ภายใน 1 สัปดาห์เช่นกัน ซึ่งทุกเมนูล้วนเป็นมีจุดเริ่มต้นจากกระแสบนโลกโซเชียลทั้งสิ้น

 

5. ‘กีฬา – สมรสเท่าเทียม – ฉ้อโกง’ ประเด็นคอนเทนต์คนไทยมีส่วนร่วมคึกคัก

 

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกปีที่ผ่านมาสร้างบรรยากาศเชียร์ไทยปกคลุมทั่วประเทศ ส่งผลให้คอนเทนต์ของ LINE TODAY ในหมวดกีฬามีผู้รับชมเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากช่วงเวลาปกติ เช่น ข่าวเทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คว้าเหรียญทองแรกให้กับประเทศไทยในการแข่งขันโอลิมปิก 2024 สอดคล้องกับที่แฟน ๆ กีฬาเปิดห้องโอเพนแชทเพื่อพูดคุยและเชียร์กีฬาที่ตัวเองชอบเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงโอลิมปิกเช่นเดียวกัน ขณะที่คนไทยก็ตื่นตัวเสพคอนเทนต์ข่าวสารประเด็น ‘ฉ้อโกง – มิจฉาชีพ’ รวมกว่า 36 ล้านเพจวิว โดยเนื้อหาที่คนเข้าชมมากที่สุดได้แก่ กรณี The Icon Group อันดับสองได้แก่ ทองแม่ตั๊ก และอันดับสาม อย่างแกงค์คอลเซ็นเตอร์ระบาด

 

ด้านประเด็น ‘สมรสเท่าเทียม ที่สร้างบรรยากาศของการตื่นเต้นยินดี ก็ครองอันดับหนึ่งการรับชมไลฟ์บน LINE TODAY มากที่สุดถึง 1 ล้านคน จากงาน Pride Parade มากกว่าคอนเทนต์ไลฟ์อื่นถึง 3 เท่า

 

6.วงการเพลงสุดคึกคักเพราะความหลากหลาย

 

ปีนี้ LINE MELODY มีการมอบรางวัล Black Melody รางวัลที่มอบให้แก่เพลงที่มียอดดาวน์โหลดเร็วและมากที่สุดบนบริการ LINE MELODY มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18 รางวัล ซึ่งถือได้ว่าเป็นปีที่เพลงที่ได้รับรางวัลมีความหลากหลายสุด ๆ สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ความนิยมของผู้ใช้งานที่หลากหลายและขยายกว้างมากขึ้น ตั้งแต่ศิลปินสังกัด ศิลปินอิสระ เพลงประกอบวิดีโอของคัลแลน-พี่จอง สองหนุ่มเกาหลีเที่ยวไทยอย่าง Toxic – HateBerry เพลงที่แต่งจากกระแสโซเชียลอย่าง หมูเด้ง Moo Deng (Reggaeton) – Karat K รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ผู้ได้รับรางวัล BLACK MELODY เป็นหมีน้อยน่ารักอย่าง ‘น้องเนย’ จากเพลง น่ารักมั้ยไม่รู้ – Butterbear

 

7. ‘หลวงพ่อทันใจ’ แซง ‘พระแม่ลักษมี’ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คนไทยขอพรออนไลน์มากที่สุด

 

หลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ เชียงใหม่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยใช้บริการขอพรออนไลน์ผ่าน LINE ดูดวงมากที่สุดในปีทีผ่านมา ตามมาด้วยวัดดั๊กดูเศรษฐ์ อินเดีย และ พระแม่ลักษมี เกษรวิลเลจ ที่อยู่ในอันดับสาม นอกจากนี้คนไทยก็ไม่ลืมที่จะ ‘บริจาค’ เพื่อสังคม โดย LINE ดูดวง ร่วมมือกับ ‘เทใจ’ เป็นสื่อกลางในการส่งน้ำใจของคนไทยไปสู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจุดทั่วประเทศ ที่เฉพาะในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียวก็ได้รับเงินบริจาคจากพี่น้องชาวไทยกว่า 8 แสนบาท

 

8.เกมสนุก เว็บตูนไทยปังเกินต้าน

 

LINE ไอเดิล เรนเจอร์ เกมใหม่ล่าสุดจาก LINE GAME เผยสถิติผู้เล่นในไทยใช้เวลาในโหมด Idle รวมกว่า 242,023 นาที (4,033 ชั่วโมง) ภายในวันแรกที่เปิดให้บริการ หรือเทียบเท่าการออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงนานถึง 11 ปี ขณะที่ฟาก LINE WEBTOON “ฉันนี่แหละท่านขุนที่สวยที่สุดในสยาม” ก็ต่อยอดความดัง จัดกิจกรรม Pop-up Store กลางสยาม เอาใจแฟนคลับแห่ร่วมช้อปรวมกว่าหมื่นคน

 

9. SME ทั่วไทยกว่า 2 ล้านคน ตื่นตัวหาความรู้ใหม่

 

LINE for Business กระจายความรู้ให้ผู้ประกอบการ SME กว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศ ผ่านงานสัมมนามากมาย อาทิ BOOTCAMP DAY และ UPSKILL SME ที่จับมือกับ สสว. รวมถึงงานธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหารอย่าง  ‘จุดประกายธุรกิจไมซ์ ติดอาวุธธุรกิจอย่างยั่งยืน’ ร่วมกับ TCEB และ THAI MICE Connect รวมทั้งคอร์สออนไลน์อย่าง BOOTCAMP Classroom และรายการโค้ชชวนคุย เป็นต้น

 

10. ‘หลานม่า – ธี่หยด 2’ ครองหนังซื้อตั๋วผ่าน LINE Pay

เป็นปีที่หนังไทยคึกคักมากกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์ไทยในปี 2567 สุดฮิตอย่าง หลานม่า และ ธี่หยด 2 สร้างปรากฏการณ์เป็นหนังที่คนซื้อตั๋วและจ่ายด้วย LINE Pay ที่แท็บ SF Cinema บนแท็บ LINE Wallet มากที่สุดของปี

]]>
1504628
‘หลานม่า’ จากหนังที่คิดว่าทำเงินสูงสุด 80 ล้านก็ดีแล้ว สู่การสร้างหลายปรากฏการณ์ให้วงการหนังไทยบนเวทีโลก https://positioningmag.com/1504393 Fri, 20 Dec 2024 04:06:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504393 วันนี้ ‘หลานม่า’ ไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์เฉพาะเรื่องของรายได้ จากการเข้าฉายใน 36 ประเทศ สามารถกวาดรายได้ไปถึง 2,059 ล้านบาท แต่ยังสร้างประวัติศาสตร์หนังไทย ‘เรื่องแรก’ ที่เข้ารอบ 15 เรื่องสุดท้ายรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 ในสาขา ‘ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม’ ซึ่งก่อนจะดังเปรี้ยงอย่างที่เห็น หนังเรื่องนี้เคยถูกตั้งไว้ว่า ทำรายได้ 80 ล้านบาทคือดีที่สุดแล้ว 

ย้อนกลับไปวันเริ่มต้นของการปั้นโปรเจกต์หนังเรื่องนี้ หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า How To Make Millions Before Grandma Dies ทาง ‘จินา โอสถศิลป์’ ซีอีโอ GDH เล่าว่า ทางบอร์ดบริหารมีการตั้งคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องราวของหนังจะมีความ sensitive หรือไม่ เนื่องจากมีเนื้อหาที่หลานตั้งใจจะเอามรดก 

แต่ด้วยความเก่งของโปรดิวเซอร์ (วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์) ของผู้กำกับ (พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์) ไปจนถึงการเขียนบทที่นำเสนอเรื่องความกตัญญู และความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว ซึ่งสามารถทำออกมาได้ดี จนกระทั่งหนังตัดต่อออกมา เมื่อเธอได้ดูแล้วทำให้รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก  

ส่วนหนังจะไปได้ไกลแค่ไหน คำตอบ ณ ตอนนั้น คือ ‘ไม่รู้’ 

แต่ด้วยความเชื่อ ‘หนังดี ทุกอย่างจะไปได้ดี’ ทำให้จินาตัดสินใจเรียกทีมงานทั้งหมดเข้ามาพูดคุย โดยถามกับทีมงานมั่นใจหรือไม่ว่าหนังเรื่องนี้ดีและสนุกพอ? ซึ่งทีมงานตอบว่า ‘มั่นใจ’ 

จึงนำมาสู่คำถามถัดไป ‘คิดว่า จะทำรายได้มากสุดที่เท่าไร’ 

คำตอบที่ได้รับจากทีมงานทุกคนคือ ‘80 ล้านบาทสุด ๆ แล้ว’ แต่เมื่อเธอได้เห็น cutting สุดท้ายของหนัง ทำให้จินามั่นใจและขอใช้สิทธิ์ซีอีโอฟันธง ‘หนังเรื่องนี้ต้องทำรายได้ 150 ล้านบาท’ ตอนนั้นหลายคนบอกว่า ‘เธอบ้าไปแล้ว’ เพราะด้วยเนื้อหามีความเป็นดราม่า ซึ่งอย่างที่ทราบกัน หนังดราม่า ‘ไม่ใช่หนังที่จะทำเงินได้มากมายนัก’ 

สำหรับการประสบความสำเร็จของหลานม่าอย่างที่เห็น เกิดขึ้นจากองค์ประกอบหลายอย่าง ทว่าพื้นฐานและเป็นสารตั้งต้นสำคัญของความสำเร็จ ก็คือ ‘ตัวหนังดี’ จากการที่ทุกคนทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ออกมาดีที่สุด 

ถัดมา เป็นเรื่องของการตลาด ด้วยการใช้ Word of Mouth สร้างกระแส ‘หนังดี ต้องปากต่อให้คนมาดู’ ซึ่งเป็นวิธีที่จินาเคยใช้สร้างความสำเร็จอย่างถล่มทลายมาแล้วกับหนังเรื่อง ‘แฟนฉัน’ โดยไม่ได้ใช้ Influencer ของหนังอย่างเดียว แต่เป็นการใช้เครือข่ายที่มีทั้งหมดเพื่อดึงคนเข้ามาให้มากที่สุด

“การไปดูหนังมันเสียทั้งเงินและเวลา ยิ่งตอนนี้มีสตรีมมิ่งเสิร์ฟความบันเทิงไปถึงบ้านด้วย คุณจะเอาชนะได้อย่างไร ซึ่งเราเอาชนะได้อย่างเดียวคือ ตัวงาน อันนี้คือพื้นฐาน ทำอย่างไรให้คนดูอดทนรอไปอีก 3-4 เดือนไม่ได้ ตอนนั้นที่ทำโฟกัส กรุ๊ป คนดูเสร็จคนชอบมาก ๆ มีเด็กผู้ชายอายุ 16 ร้องไห้ จนเรามั่นใจ”

จากหนังที่หลายคนมองว่า ทำรายได้ 80 ล้านบาทก็สุด ๆ แล้ว มาถึงวันนี้หลานม่า ได้สร้างหลายปรากฏการณ์ให้เห็นกับวงการหนังไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายได้ที่ทำเงินไปถึง 2,059 ล้านบาท จากการเข้าฉายใน 36 ประเทศ และกวาดรางวัลจากเวทีประกวดมากมายทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ติด 15 เรื่องสุดท้ายที่เสนอเข้าชิงเวทีระดับโลกอย่าง รางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 ในสาขา ‘ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม’

ส่วนจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ติด Final list หนัง 5 เรื่องสุดท้ายที่เข้าชิงรางวัลจากเวทีระดับโลกนี้ได้หรือไม่ ต้องติดตามกันวันที่ 17 มกราคม 2025 ขณะที่งานดังกล่าวจะมีการประกาศรางวัลในวันที่ 2 มีนาคม 2025

]]>
1504393
“GULFxGDH Family Power หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน” https://positioningmag.com/1469587 Wed, 10 Apr 2024 13:00:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469587
  • กัลฟ์ จับมือ GDH จัดแคมเปญ “Family Power หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน”
  • เพราะสำหรับทุกครอบครัว เวลาคือสิ่งมีค่าและสำคัญเสมอ GULF ในฐานะผู้ผลิตพลังงานชั้นนำของประเทศ จึงจัดรถบัส EV พลังงานไฟฟ้า เพื่อส่งต่อพลังงานสู่พลังครอบครัว ให้รถรับ-ส่ง ผู้โดยสารกลับบ้านไปหาครอบครัวฟรี โดยมี MRT ร่วมสนับสนุน จุดปล่อยรถ
  • รถบัส EV “Family Power” ให้บริการในระหว่างวันที่ 5,6,7 และ 10,11,12 เม.ย. 2567 ณ จุดรับบริเวณลานจอดรถ MRT สามย่าน (วัดหัวลำโพง) เพื่อไปส่งยัง 4 สถานีปลายทาง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต2), สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) สถานีขนส่งผู้โดยสาร สายใต้ใหม่ (ตลิ่งชัน) และสถานีขนส่งสายตะวันออกกรุงเทพฯ(เอกมัย)

  • โดยมี คุณจินา โอสถศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้าจำกัด , คุณพัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้กำกับภาพยนตร์ “หลานม่า” พร้อมด้วย คุณธนญ ตันติสุนทร Executive Officer บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) และ คุณพรรณวิภา บูรณดิลก ผู้อำนวยการส่วนการตลาดอาวุโส บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ( BMN) มาร่วมคิกออฟ ปล่อยรถรับส่งพลังงานไฟฟ้าพาผู้โดยสารกลับบ้านฟรีเมื่อวันก่อน
  • คุณจินา โอสถศิลป์ ตัวแทนจาก GDH กล่าวถึงความรู้สึกในกิจกรรมวันนี้ว่า “ภาพยนตร์เรื่องหลานม่า เป็นภาพยนตร์อบอุ่น พูดถึงเรื่องความผูกพันในครอบครัว เราเชื่อว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมทุกคน อยากกลับไปกอดใครสักคนที่บ้าน จากจุดเริ่มต้นตรงนี้เราโชคดีมากๆ ที่ได้ GULF มา Make it Happen ทำให้แคมเปญดีๆ เกิดขึ้นจริง”
  • สำหรับ คุณธนญ ตันติสุนทร ตัวแทนจาก GULF กล่าวว่า “เราพร้อมสนับสนุนส่งเสริมพลังหนังไทยนะครับ โดยเฉพาะภาพยนตร์หลานม่า ถือเป็นหนังดีๆที่ทำให้ผู้ชมเกิดความสุขและอยากกลับไปใช้เวลาที่มีความหมายกับครอบครัว การได้ทำแคมเปญ Power Family หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน จะเสริมทั้งพลังหนังไทย เสริมพลังครอบครัว สร้างพลังดีๆให้กับสังคม ยินดีที่ได้ทำแคมเปญที่เป็นประโยชน์ในช่วงวันหยุดสำคัญของคนไทยในช่วงนี้ครับ”
  • ด้าน คุณพรรณวิภา บูรณดิลก ตัวแทนจาก BMN กล่าวว่า “ MRT มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของภาพยนตร์หลานม่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลานจอดรถ MRT สามย่าน จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการรับส่งความรักและความคิดถึงของทุกคนกลับไปหาครอบครัวอันเป็นที่รักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ค่ะ”
  • กลับไปชวนคนที่บ้านมาใช้เวลาร่วมกันกับ “หลานม่า” 4 เมษายนนี้ พร้อมหน้าพร้อมตากันในโรงภาพยนตร์ #GULF #GulfSPARK #หลานม่า #FamilyPower
]]>
1469587