อัตราเกิดต่ำ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 30 Nov 2024 00:28:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ญี่ปุ่น” ใกล้วิกฤต! อัตราการเกิดในปี 2024 ลดลงต่ำกว่า 700,000 เป็นครั้งแรก https://positioningmag.com/1501389 Fri, 29 Nov 2024 09:02:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1501389 ข้อมูลขอตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เผยจํานวนการเกิดในญี่ปุ่น ครึ่งปีแรกของ 2024 ลดลง 6.3% จากปีก่อนเป็น 329,998 และคาดว่าภายในปี 2024 จะมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่า 700,000 เป็นครั้งแรก

โดยตัวเลขจํานวนการเกิดในครึ่งปีแรกยังไม่รวมจํานวนการเกิดของเด็กจากพ่อหรือแม่ที่เป็นชาวต่างชาติ สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเกิดที่ยังคงลดต่ำอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนจํานวนมากเลือกที่จะไม่แต่งงานหรือเลื่อนการแต่งงานและมีลูก จนกว่าจะรู้สึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

นอกจากอัตราการเกิดที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ญี่ปุ่นยังมีจํานวนผู้เสียชีวิตในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ที่มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 1.8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 800,274 ราย หักลบจากจํานวนการเกิดของประชากรอยู่ที่ 470,276

ด้วยจํานวนประชากรที่ลดลงเป็นปีที่ 15 ติดต่อกันในปี 2023 ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการขาดแคลนแรงงานที่คุกคามความยั่งยืนของระบบประกันสังคม เช่น การดูแลสุขภาพและเงินบํานาญ รวมถึงการบริการของหน่วยงานท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบไปด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นมีความพยายามในการเพิ่มอัตราการเกิด ด้วยการขยายเบี้ยเลี้ยงเด็กและการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตร รวมถึงมาตรการอื่นๆ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าภายในต้นทศวรรษ 2030 อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของญี่ปุ่นที่จะแก้วิกฤตประชากรในประเทศ

โดยจํานวนการเกิดที่เทียบเคียงได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 คือ 352,240 คน โดยมียอดรวมทั้งปีอยู่ที่ 727,277 คนเท่านั้น

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่โดยกระทรวงฯ ในเดือนสิงหาคมแสดงให้เห็นว่า จํานวนเด็กที่เกิดในญี่ปุ่น รวมถึงชาวต่างชาติและพลเมืองญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ลดลง 5.7% จากปีก่อนเป็น 350,074 ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน

ที่มา : KYODO NEWS

]]>
1501389
‘ไต้หวัน’ ตั้งเป้าดึงแรงงานต่างชาติกว่า ‘4 แสนคน’ เข้าประเทศภายในปี 2573 หลังเจอปัญหาอัตราเกิดต่ำ https://positioningmag.com/1419136 Tue, 14 Feb 2023 03:16:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1419136 ไต้หวัน ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจสำหรับตลาดแรงงานต่างชาติเนื่องจากปัจจุบัน ไต้หวันมีรายได้เฉลี่ยที่สูงกว่าเกาหลี เนื่อจากเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้เศรษฐกิจไต้หวันจะเติบโตดี ในขณะที่ประชากรประมาณ 23.4 ล้านคน ก็มีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากอัตราการเกิดที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้รัฐบาลพยายามจะดึงดูดแรงงานต่างชาติเข้ามามากขึ้น

เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมา ไต้หวัน ได้เปิดเผยว่า ต้องการดึงดูดแรงงานต่างชาติ 400,000 คนภายในปี 2573 โดยไต้หวันมองหาแรงงานสำหรับทำงานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ บล็อกเชน การเงิน และพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยไต้หวันต้องการดึงดูดแรงงานที่มีทักษะในหลายระดับ ตั้งแต่ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษระดับสูง, คนงานด้านเทคนิค รวมถึง นักศึกษามหาวิทยาลัยจากต่างประเทศ 

“การดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูงให้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมของไต้หวันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยถึงมาตรการดึงดูดว่าจะออกมาในลักษณะใด แต่เมื่อเดือนที่แล้วคณะรัฐมนตรีของไต้หวันได้ อนุมัติร่างแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง 52 ฉบับ เพื่อให้แรงงานต่างชาติสามารถพำนักอาศัยได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมา ไต้หวันค่อนข้าง เข้มงวดกับแรงงานต่างชาติเป็นพิเศษ ขณะที่เหล่านักกศึกษาต่างชาติก็หวังว่าจะทำงานในไต้หวันหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในไต้หวัน

ปัจจุบัน ไต้หวันมีชาวต่างชาติมากกว่า 5,300 คน ที่จัดอยู่ในประเภทผู้มีความสามารถระดับมืออาชีพมีคุณสมบัติภายใต้วีซ่า 3 ปีและโครงการใบอนุญาตทำงานแบบเปิดที่สร้างขึ้นในปี 2561

หนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ไต้หวัน พยายามจะดึงดูดแรงงานต่างชาตินั้นมาจาก จำนวนประชากรของประเทศลดลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้แรงงานในประเทศจะเริ่มหดตัว โดยจำนวนประชากรโดยรวมของเกาะ ลดลง 110,674 คนในปีที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนการเกิดที่ต่ำเป็นประวัติการณ์และการเสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ขณะที่วัยเจริญพันธุ์ของไต้หวันคาดว่าจะ ลดลงสู่ระดับต่ำที่สุดในโลกภายในปี 2578 ตามที่สภาพัฒนาแห่งชาติระบุเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ภายในปี 2588 ก็ตาม

ไม่ใช่แค่ไต้หวันที่เจอปัญหาด้านแรงงาน แต่ยังมี ฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ซึ่งต่างก็ประสบปัญหาแรงงานในท้องถิ่นหดตัวเนื่องจากอัตราการเกิดต่ำ โดยฮ่องกงเองเพิ่งจะขยายเวลาการพำนักสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศเป็น 2 ปี พร้อมเสนอวีซ่าใหม่ 2 ปีแก่ผู้ที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านเหรียญฮ่องกง (318,000 เหรียญสหรัฐ) ต่อปี

“ฉันคิดว่าทุกคนกำลังแข่งขันเพื่อสิ่งเดียวกัน” อลิเซีย การ์เซีย-เฮอร์เรโร หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Natixis Corporate & Investment Banking ในฮ่องกง กล่าว

]]>
1419136
คุณพ่อลูกสิบ ‘อีลอน มัสก์’ ชวนคนมี ‘ลูก’ หลังอัตราเกิดต่ำอาจเป็นอันตรายต่อ ‘อารยธรรมมนุษย์’ https://positioningmag.com/1398156 Tue, 30 Aug 2022 05:00:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398156 ต้องยอมรับว่าปัจจุบันอัตราการเกิดในหลาย ๆ ประเทศลดลงอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา อัตราการอัตราการเติบโตของประชากรลดลงเหลือต่ำกว่า 1% โดยในปี 2564 เหลือเพียง 0.82% ซึ่ง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า โลกจำเป็นต้อง ผลิตลูกให้มากขึ้น และขุดหาน้ำมันต่อไป

อย่างที่หลายคนรู้ อีลอน มัสก์ ไม่ใช่แค่ชายที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ยังเป็นคุณพ่อลูก 10 ได้ออกมาเตือนว่า อัตราการเกิดที่ต่ำ ก่อให้เกิด อันตรายต่ออารยธรรม โดยเขากล่าวก่อนการประชุมด้านพลังงานในนอร์เวย์ว่า วิกฤตทารก เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกต้องเผชิญ

“เราไม่ต้องการให้ประชากรลดลงจนแทบตายในที่สุด อย่างน้อยก็สร้างลูกให้เพียงพอที่จะรักษาจำนวนประชากรเดิม ถ้าเรามีลูกไม่พอ เราจะตายพร้อมกับส่งเสียงครวญครางใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และนั่นก็เป็นเรื่องที่น่าสลดใจ อีลอน มัสก์ กล่าว

สังคมตะวันตกและประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก เช่น จีน กำลังเผชิญกับอัตราการเกิดที่ลดลง ในขณะที่สังคมสูงอายุที่มีมากขึ้น และจากรายงานของ บีบีซี ระบุว่า เกาหลีใต้ ครองสถิติเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยอยู่ที่ 0.81 หรือมีเด็กเกิดไม่ถึง 1 คนต่อผู้หญิง 1 คน ลดลงจากปีก่อน 0.3 จุด และลดลงเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว

อย่าง จีน แม้จะยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว และได้อนุมัตินโยบาย ลูก 3 คน ในปี 2564 พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีลูกด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น การให้เงินโบนัสในการมีบุตร การอุดหนุนการคลอดบุตรและการช่วยเหลือค่าเรียนการศึกษาของเด็ก แต่ดูเหมือนว่านโยบายนี้จะมาช้าไป เพราะในหลายมณฑลของจีนมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในรอบหลาย 10 ปี และบางพื้นที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในรอบ 60 ปี โดยมีอัตราการเกิดเฉลี่ยเพียง 7.52 คนต่อประชากร 1,000 คน

อีกวิกฤตของโลกที่มัสก์มองคือ โลกต้องการแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ ดังนั้น โลกต้องพยายามหาแหล่งน้ำมันแหล่งใหม่ นอกจากนี้เขายังสนับสนุนการซ่อมบำรุง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แม้หลายประเทศในยุโรปได้ตัดสินใจที่จะเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์ แต่หลังจากการบุกโจมตียูเครนของรัสเซีย ทำให้หลายคนเริ่มหยิบเรื่องพลังงานนิวเคลียร์มาพูดขึ้นอีกครั้ง

“ผมคิดว่าตามความเป็นจริง เราจำเป็นต้องใช้น้ำมันและก๊าซในระยะสั้น เพราะไม่เช่นนั้น อารยธรรมจะพังทลาย การสำรวจเพิ่มเติมควรมีได้แล้วในตอนนี้”

Source

]]>
1398156