การเตรียมเลิกจ้างพนักงานดังกล่าว เป็นการลดพนักงานลงราว 8.6% จากพนักงานที่มีทั้งหมด 5,800 คน และไม่ได้เกิดขึ้นเพราะต้องการลดต้นทุนจากผลดำเนินการต่ำกว่าเป้าหมาย แต่เป็นไปตามแผนกระจายอำนาจของบริษัท และโอนความรับผิดชอบจากสำนักงานใหญ่ไปยังตลาดแต่ละแห่ง
เนื่องจาก Adidas เพิ่งแถลงผลประกอบการประจำปี 2024 ที่ดีเกินคาดหมายของนักลงทุน โดยมียอดขาย 23,683 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปี 2023 ที่ทำยอดขายไป 21,427 ล้านยูโร เช่นเดียวกับกำไรที่ปี 2024 มีกำไรจากการดำเนินงาน 1,337 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปี 2023 ที่ทำกำไรไป 268 ล้านยูโร
การเตรียมประกาศเลย์ออฟพนักงานนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่ Bjoern Gulden ซีอีโอของ Adidas Adidas เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทต้องกลับมาเติบโตอีกครั้งให้ได้ก่อนถึงจะมาแก้ไขปัญหาเรื่องโครงสร้างองค์กรและบุคลากรเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันยุคใหม่
โดยที่ผ่านมา Gulden ได้ทยอยกระจายอำนาจการบริหาร ด้วยการโอนความรับผิดชอบจากสำนักงานใหญ่ไปยังตลาดแต่ละประเทศ
ที่มา
https://www.reuters.com/business/retail-consumer/adidas-axe-up-500-jobs-headquarters-source-says-2025-01-23
]]>Adidas ผู้ผลิตรองเท้ารวมถึงเสื้อกีฬา มีแผนที่จะผลิตรองเท้ารุ่นนิยมหลายรุ่นในราคาที่ถูกลงมา เช่น ในรุ่น Samba โดย CEO ของบริษัทได้ให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการที่จะให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเทรนด์การใส่รองเท้าของบริษัทบางรุ่นยังได้รับความนิยมเรื่อยๆ จนทำให้บริษัทปรับกลยุทธ์
Bjorn Gulden ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทกล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทว่า “สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนสามารถซื้อรองเท้าราคา 120 หรือ 150 ดอลลาร์สหรัฐได้ แต่ทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในเทรนด์เดียวกัน”
เขายังกล่าวเสริมว่า รองเท้าที่มีราคาแพงมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทจะผลิตรุ่นที่มีราคาถูกลงมา คาดว่า Adidas จะผลิตรองเท้าราคาอยู่ที่ราวๆ 60-80 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรองเท้ารุ่นราคาถูกนี้จะมีวางขายตามร้านรองเท้าทั่วไปๆ ในทวีปยุโรป
ในช่วงที่ผ่านมารองเท้าของบริษัทในหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น Samba และ Gazelle หรือแม้แต่รุ่น Spezial นั้นมีความต้องการจากผู้บริโภคอย่างแข็งแกร่ง และความต้องการยังเติบโตตลอดเวลา ซึ่งรองเท้าบางรุ่นที่บริษัทนั้นมีวางขายมามากกว่า 10 ปีด้วยซ้ำ
ปี 2023 ที่ผ่านมาบริษัทประกาศผลประกอบการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยสาเหตุสำคัญมาจากตลาดสำคัญของบริษัทอย่างสหรัฐอเมริกาประสบปัญหายอดขายลดลง จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันบริษัทยังคาดไว้ว่าในปี 2024 นี้ยอดขายในตลาดแดนมะกันก็จะประสบปัญหาลดลง 4%
นอกจากนี้ Adidas เองยังมีปัญหาสินค้าคงคลังจำนวนมากอย่าง Yeezy ที่เป็นรองเท้ารุ่นความร่วมมือกับ Kanye West (หรือ Ye ซึ่งเป็นชื่อในปัจจุบัน) นักร้องชื่อดัง แต่กลับมีปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติจนทำให้บริษัทต้องยกเลิกสัญญา ส่งผลทำให้บริษัทต้องเคลียร์ขายสินค้าออกมาทั้งหมด ซึ่งกระทบกับผลดำเนินงานอย่างหนัก
แผนการดังกล่าวของ Adidas คาดเดาได้ว่าบริษัทต้องการที่จะขยายตลาดกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มรายได้ของบริษัทกลับมาอีกครั้งในปีนี้
ที่มา – Fox Business, Reuters
]]>หลังจากที่ Adidas ประกาศยุติสัญญากับ Kanye West ไปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เนื่องจากพฤติกรรมแย่ ๆ ของเขา ซึ่ง Adidas ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีสินค้า Yeezy ในสต็อกรวมแล้วมีมูลค่าสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ และยิ่งเก็บไว้ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายตามมา
ทำให้ Bjørn Gulden CEO ของ Adidas ตัดสินใจว่า บริษัทจำนำสินค้าแบรนด์ Yeezy ที่เหลืออยู่ในสต็อกมาขาย และจะนำเงินไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล และถือโอกาสเป็นตัวแทนของผู้ที่ได้ผลกระทบจากความคิดเห็นของ Kanye West
“เราพยายามหาทางแก้ไข และตัดสินใจไม่เผาสินค้าที่เหลือทิ้ง โดยเราต้องลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด และแผนการดังกล่าวก็ถือเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์”
Adidas ได้ยุติความร่วมมือของแบรนด์กับ Kanye West ไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังจากที่ Kanye West สวมใส่เสื้อสกรีนประโยค White Lives Matter ที่ใช้โดยกลุ่มผู้นิยมอำนาจนิยมผิวขาว ซึ่งขัดแย้งกับการรณรงค์ของคนทั่วโลกที่ไม่ต้องการให้มีการเหยียดสีผิว อย่างไรก็ตาม Kanye ไม่ได้มองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิด แต่กลับเชื่อว่าประโยคดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ Yeezy นั้นประสบความสำเร็จอย่างมาก และการที่ Adidas ต้องเสียแบรนด์ Yeezy ไป ส่งผลให้รายได้ในไตรมาสที่ผ่านมาของ Adidas ลดลงถึง 441 ล้านเหรียญสหรัฐ
]]>2 โลโก้นี้มีอิทธิพลมากอย่างเหลื
ในขณะที่ครอบครัวได้ขอความเป็
หลังจบการศึกษาจากสถาบันศิลปะ Chouinard Art Institute มัวร์ในวัยหนุ่มมีลูกค้
จากคำบอกเล่า มัวร์นั้นมีชื่อเสียงเรื่
4 ปีผ่านไป มัวร์ออกจากไนกี้เพื่อก่อตั้
หลังจากข่าวการเสียชีวิตของมั
Peter Moore,
You took a chance on us.
You always believed in possibilities.
You changed us forever.Thank you for showing us the future. We are forever grateful. You’ll be missed by all of us.
Love,
Your adidas family pic.twitter.com/3xqV0YyWW1— adidas Originals (@adidasoriginals) May 1, 2022
ความดีของมัวร์ที่ทิ้งร่องรอยซึ่
รายงานจาก WWD บอกเล่าเกร็ดการทำงานของมัวร์ว่
สำหรับกรณีการโต้เถียงกันว่
มัวร์มองว่าทุกอย่างสมเหตุ
นิสัยยกย่องเพื่อนร่วมงานอย่
เวลานั้นมัวร์ยกย่องเพื่อนว่
แม้จะถ่อมตัวเช่นนี้ แต่จอห์น ฟรีด (John Fread) ซึ่งเคยเป็นผู้นำทีมสื่
สำหรับการจากไปของมัวร์ ภรรยาและลูกชาย 3 คน ได้แก่ เดวิน ดิลลอน และฮาเกนแจ้งแก่ผู้ร่วมไว้อาลั
ที่มา : WWD, Design Taxi, USA Today
]]>