สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ที่ระบุว่า การจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าในประเทศ ไตรมาส 4 ปี 2566 เครื่องปรับอากาศ มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.9% และพัดลม มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.2% ขณะที่อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภท เตาอบไมโครเวฟ ลดลง 69.4% กระติกน้ำร้อน ลดลง 50.9% หม้อหุงข้าว ลดลง 30.0% คอมเพรสเซอร์ ลดลง 8.7% ตู้เย็น ลดลง 5.8% และเครื่องซักผ้า ลดลง 0.3%

แม้แนวโน้มยอดขายของฮาตาริในปีที่แล้วจะทำเป้าได้ถึง 7 – 7.5 ล้านตัว แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทฯ ยังคงศึกษาและหันมาทำการตลาดเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ Gen Z ที่ปัจจุบันกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของธุรกิจทุกภาคอุตสาหกรรมในการช่วงชิงให้มาเป็นฐานลูกค้าของแบรนด์

‘ฮาตาริ’ ยุคเจน 3 กับโจทย์ใหม่ เข้าถึงคนรุ่นใหม่

ฮาตาริ ที่ถือเป็นแบรนด์พัดลมในระดับแมสมากๆ มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นคนรุ่นพ่อแม่อากงอาม่า ทุกครัวเรือนอย่างน้อยต้องมีพัดลมฮาตาริ ด้วยดีไซน์ที่แสนธรรมดา แต่ด้านฟังก์ชันจัดเต็ม ทั้งมีความแข็งแรง ราคาจับต้องได้ มีสีสันหน่อยๆ แต่มีลมพัดที่แรง ที่สำคัญทนทาน ใช้ได้เป็นสิบๆ ปี ทำให้โดนใจผู้บริโภค เพราะตอบโจทย์ในการดับร้อนได้ดี

หรือแม้กระทั่งจะซื้อไปทำบุญ ถวายวัด ซื้อแทนพวงหรีด พัดลมก็เป็นหนึ่งในไอเทมนั้น เพราะสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง

แต่ในยุคปัจจุบันฟังก์ชันอย่างเดียวไม่อาจจูงใจเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคได้ ในเมื่อกลุ่มรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่นานๆ จะเปลี่ยนพัดลมสักตัว ถ้าหันมามองกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองการซื้อพัดลมเป็นการ “แต่งห้อง” อย่างหนึ่ง “ดีไซน์” จึงต้องเข้ามาตอบโจทย์ ที่สำคัญคือสีต้องมีความคุมโทน ดีไซน์มินิมัล บางแบรนด์ถึงขนาดมีรีโมตในการเปิดปิด หรือควบคุมผ่านแอปพลิเคชันเลยก็ยังมี

ฮาตาริ ในวัย 34 ปี ที่เข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านสู่เจนเนอเรชันที่ 3 ที่เจอความท้าทายรอบด้าน ทั้งคู่แข่งในตลาด พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แม้จะเป็นเจ้าตลาดแต่ก็อยู่เฉยไม่ได้ ในปีนี้จึงถือเป็นฤกษ์ดีในการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในการปรับภาพลักษณ์

โดยที่ผู้บริหารรุ่นที่ 3 ทั้ง 3 คน ของฮาตาริ มีหน้าที่แตกต่างกัน “ชัญญา พานิชตระกูล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด, “ทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา และ “วรันธร วนวิทย์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด

ที่จริงแล้วทั้ง 3 ได้นำร่องทดลองงานได้ประมาณ 8 ปี ก่อนจะขยับมาสู่ตำแหน่งบริหารกันเต็มตัวในปีนี้ พร้อมกับภารกิจครั้งใหญ่ในการครองใจคนรุ่นใหม่ให้ได้

ลบภาพพัดลมอาม่า สู่พัดลมมินิมัล

ฮาตาริที่มีภาพจำว่าเป็นแบรนด์มีอายุ ทำให้เร่งปรับตัวเพื่อจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ไปพร้อมๆ กับการรักษากลุ่มฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา 3 ผู้บริหารรุ่นใหม่ของฮาตาริ ได้เริ่มปรับเปลี่ยนดีไซน์ของพัดลมใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัยมากขึ้น

ต่อมาในปี 2567 ฮาตาริเริ่มมีการพัฒนาสินค้าอย่าง พัดลมมือถือ มาเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Z ทำให้ฉีกภาพเดิมๆ ที่สินค้าของฮาตาริมักจะโดนจำกัดว่าเป็นสินค้าที่อยู่แค่ในบ้าน แต่ปัจจุบันสินค้าสามารถที่ไปอยู่กับผู้บริโภคข้างนอกบ้านได้ด้วย เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน มีการเดินทางด้วยรถสาธารณะอยู่บ่อย หลายคนจึงต้องพกพัดลมส่วนตัว

นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับ Habits Design Studio สตูดิโอด้านการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากมิลาน ที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มาพัฒนาการออกแบบดีไซน์พัดลมใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ อาทิ HATARI S16M1, HATARI Cyclone Max, HATARI พัดลมพกพา Handy Wind Max เป็นต้น ถือเป็นการปูทางสู่ Global Brand ที่ทางบริษัทฯ ได้วางแผนและกำลังอยู่ในขั้นการดำเนินการในลำดับถัดไป

ส่ง WindBox พัดลมกล่อง จับตลาดคนรุ่นใหม่

ล่าสุดฮาตาริได้เปิดตัว WindBox พัดลมกล่องขึ้นมา โดยเอาดีไซน์พัดลมทรงเหลี่ยมที่คุ้นเคย มาดัดแปลงลบเหลี่ยมมุมเพิ่มความโค้งมน มีขนาดกะทัดรัดประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในคอนโดและหอพักแต่ยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งาน ทนทาน เสียงเบา และราคาจับต้องได้ พร้อมโทนสีมินิมัล 4 สี เพื่อให้กลมกลืนไปกับบรรยากาศของบ้าน

โดย ชัญญา พานิชตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด เผยว่า การเปิดตัว WindBox พัดลมกล่องของฮาตาริในครั้งนี้ ทางบริษัทฯได้เตรียมงบการตลาดไว้ในสัดส่วน 5-10% ของงบการตลาดทั้งปีในการร่วมทำกิจกรรมตลาดและนำเสนอสินค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและงานอีเวนต์ต่างๆ และจากการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทฯจึงตั้งเป้าภาพรวมผลประกอบการของ ฮาตาริในปี 2567 ให้ขยายตัวได้ 5-10% จากปีก่อน

นอกจากนั้น ฮาตาริยังได้วางช่องทางจำหน่ายต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกรวมกว่า 1,400 จุด และช่องทางดั้งเดิมจำนวนกว่า 715 สาขาทั่วประเทศ พร้อมมีพนักงานทำหน้าที่ขายสินค้ากว่า 1,000 คน รวมทั้งช่องทางจำหน่ายทางออฟไลน์และออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้เช่นกัน

WindBox พัดลมกล่อง ถือเป็นสินค้าตัวที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปทรง ที่ไม่ว่าจะมองใกล้หรือมองไกลก็ยังสามารถมองเห็นได้ว่าคือพัดลม อีกทั้งมีการใส่ดีเทลลงไปในสินค้ามากขึ้น ใช้งานง่ายโดยลูกค้าสามารถใช้งานได้เองโดยที่ไม่ต้องอ่านคู่มือ และเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่แต่ก็ยังถูกใจกลุ่มลูกค้าเดิมเช่นกัน

ทั้งนี้ ฮาตาริ ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดย จุนและสุนทรีย์ วนวิทย์ สองสามีภรรยาที่เดิมทำธุรกิจของเล่นพลาสติกสำหรับเด็กมาทำธุรกิจพัดลมของตนเอง ภายใต้ชื่อแบรนด์ ฮาตาริ เพราะเห็นช่องวางทางการตลาดของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในสมัยก่อน ที่พัดลมมักผลิตมาจากเหล็ก ซึ่งแม้จะทนทานแต่ก็มีการผลิตยุ่งยาก