ปฏิบัติการกู้ซากระหว่างประเทศทำงานตลอดเวลาเพื่อขับเรือออกจากริมฝั่งคลองทวีความรุนแรงขึ้นทั้งในความเร่งด่วนและความสนใจจากทั่วโลกในแต่ละวันที่ผ่านไป เนื่องจากเรือจากทั่วโลกซึ่งบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้าสำคัญถูกขัดขวางไม่ให้เข้าสู่คลอง จนในที่สุดเรือ Ever Given ประสบความสำเร็จในการลอยตัวอีกครั้งในวันที่ 29 มีนาคมและย้ายไปที่ Great Bitter Lake ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบว่าสามารถลอยลำลงสู่ทะเลได้อีกครั้ง

ศาลอียิปต์สั่งให้ Shoei Kisen Kaisha เจ้าของเรือชาวญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชย 900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.8 หมื่นล้านบาท อันเป็นผลมาจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยค่าเสียหายดังกล่าวรวมถึงค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการช่วยเหลืออีกด้วย ขณะที่ Shoei Kisen Kaisha กล่าวว่า บริษัทประกันภัยและทนายความกำลังดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

UK Club ซึ่งเป็นบริษัทประกันการคุ้มครองและการชดใช้ค่าเสียหายของ Ever Given กล่าวเมื่อวันอังคารว่า พวกเขาได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากหน่วยงานคลองสุเอซเป็นเงิน 916 ล้านดอลลาร์

“แม้จะมีขนาดของข้อเรียกร้องซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับการสนับสนุน แต่เจ้าของและบริษัทประกันของพวกเขาก็กำลังเจรจากับ SCA ในวันที่ 12 เมษายนได้มีการพิจารณาข้อเสนออย่างรอบคอบ เพื่อชำระข้อเรียกร้องของพวกเขา”

ทั้งนี้ เรือ Ever Given ถูกยึดไว้จนกว่าข้อพิพาทจะได้รับตกลง ที่ผ่านมา เรือมากกว่า 400 ลำถูกปิดกั้นไม่ให้ผ่านช่องทางเดินเรือที่สำคัญก่อให้เกิดความเสียหายระหว่างเอเชียและยุโรปเฉลี่ยกว่า 300,000 ล้านบาทต่อวัน โดยเรือ Ever Given เกยตื้นในวันที่ 23 มีนาคม ก่อนจะกลับมาลอยลำในวันที่ 29 มีนาคม

Source

บริษัท Inchcape Shipping Services แถลงผ่านทวิตเตอร์ว่า เรือเอเวอร์ กีฟเวน (Ever Given) ความยาว 400 เมตร กลับมาลอยลำได้บางส่วนตั้งแต่เวลา 04.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และอยู่ระหว่างตรวจเช็กสภาพ

หลังจากที่มีความพยายามขุดลอกทรายตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ทีมกู้ภัยเรือจากองค์การคลองสุเอซ (SCA) และทีมงานจากบริษัท Smit Salvage ของเนเธอร์แลนด์ ก็ได้เริ่มใช้เรือลากจูงกว่า 10 ลำ ดึงเรือยักษ์จากทั้งส่วนหัวและท้ายตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันนี้

ล่าสุด SCA ยืนยันว่า เรือเอเวอร์ กีฟเวน ได้ถูกดึงกลับมาอยู่ในแนวขนานกับลำคลองเรียบร้อยแล้ว และทีมกู้ภัยจะเริ่มปฏิบัติการลากจูงเรืออีกครั้งหลังจากที่กระแสน้ำขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเปิดคลองสุเอซให้เรือสินค้าสัญจรผ่านได้ตามปกติหลังจากที่เรือเอเวอร์ กีฟเวน ถูกนำไปยังบริเวณ Great Lakes ซึ่งเป็นจุดที่ลำคลองมีความกว้างเป็นพิเศษ

คลิปวิดีโอที่แชร์ผ่านโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่าส่วนท้ายของเรือเริ่มหลุดออกมาจากตลิ่งฝั่งตะวันตกของคลองและเปิดช่องทางน้ำบางส่วน ขณะที่อีกคลิปหนึ่งมีเสียงผู้คนโห่ร้อง และเสียงเปิดหวูดเรือเฉลิมฉลองด้วยความดีใจ

ล่าสุด เว็บไซต์ติดตามเรือ VesselFinder ได้ปรับสถานะของเรือลำนี้เป็น “อยู่ระหว่างการเดินทาง” (under way) แล้ว

เรือเอเวอร์ กีฟเวน เผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายและถูกกระแสน้ำพัดจนไปเกยตลิ่งคลองสุเอซเมื่อวันอังคารที่แล้ว เป็นเหตุให้การขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางเดินเรือที่ใกล้ที่สุดระหว่างยุโรปกับเอเชียกลายเป็นอัมพาตนานเกือบ 1 สัปดาห์

โอซามา ราบี ประธานองค์การคลองสุเอซ (SCA) ของอียิปต์ ให้สัมภาษณ์กับ Extra News เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค. ว่า ขณะนี้มีเรือนานาชาติอย่างน้อย 369 ลำ ที่ต้องจอดลอยลำเพื่อรอที่จะล่องผ่านคลองสายนี้ รวมถึงเรือขนส่งสินค้า, เรือบรรทุกน้ำมัน และเรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติ

การขนส่งสินค้าทางน้ำราว 15% ของทั่วโลกจะต้องผ่านคลองสุเอซ ซึ่งช่วยดึงเงินตราต่างประเทศเข้าสู่คลังอียิปต์ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

วิกฤตเรือยักษ์ขวางคลองครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลอียิปต์ต้องสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 14-15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อวัน และการที่เรือลำนี้จอดปิดเส้นทางอยู่ก็ส่งผลให้อัตราค่าขนส่งของเรือบรรทุกน้ำมันพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่า

ทั้งนี้ ผู้ขนส่งสินค้าทางเรือบางรายตัดสินใจนำเรือไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปแทน ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางนานขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ และมีต้นทุนเชื้อเพลิงสูงขึ้นด้วย

Source