เหยียดสีผิว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 28 Jun 2020 01:26:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เหยียดผิวเป็นเหตุ สังเกตได้! “ลอรีอัล” ประกาศเลิกใช้คำว่า “Whitening” ในทุกผลิตภัณฑ์ https://positioningmag.com/1285509 Sat, 27 Jun 2020 17:09:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1285509 ลอรีอัล ประกาศว่า จะถอดคำว่า “ทำให้ผิวขาว” (whitening) ออกจากผลิตภัณฑ์ ท่ามกลางกระแสประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวทั่วโลก

“ลอรีอัล กรุ๊ป ตัดสินใจถอดคำว่าทำให้ผิวขาว สม่ำเสมอ กระจ่างใส ออกจากทุกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว” บริษัทระบุในถ้อยแถลง

เช่นเดียวกับยูนิลีเวอร์ในอินเดียและบังกลาเทศที่จะเปลี่ยนชื่อครีมทำให้ผิวขาว “Fair & Lovely” ด้วยเช่นกัน

ยูนิลีเวอร์ ที่โกยรายได้ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์จากผลิตภัณฑ์ในอินเดียเมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า พวกเขาจะเลิกใช้คำว่า “Fair” เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ เนื่องจากทางแบรนด์ “มีเจตนารมณ์ที่จะยกย่องทุกโทนสีผิว”

ในช่วงนี้หลายบริษัท รวมทั้ง ลอรีอัล ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำให้ผิวขาว หลังจากการลุกฮือทั่วโลกของขบวนการ Black Lives Matter ภายหลังเหตุตำรวจผิวขาวสังหารชายผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกานาม จอร์จ ฟลอยด์ ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ระบุว่า พวกเขาจะเลิกขายผลิตภัณฑ์ Neutrogena และ Clean & Clear บางส่วน ที่ถูกโฆษณาว่าลดรอยด่างดำในเอเชียและตะวันออกกลาง

หลายบริษัทในสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของบริษัท เช่น Mars ที่ระบุว่ามีแผนจะพัฒนาแบรนด์ Uncle Ben’s ซึ่งใช้ภาพชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกาเป็นโลโก้

Source

]]>
1285509
จลาจลลามทั่วสหรัฐฯ 40 เมืองประกาศใช้เคอร์ฟิว “ทรัมป์” ลั่นพร้อมส่งทหารจัดการม็อบ https://positioningmag.com/1281819 Tue, 02 Jun 2020 16:15:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1281819 “ทรัมป์” ส่งทหารปราบผู้ก่อความวุ่นวายในวอชิงตัน ดี.ซี. ขู่พร้อมระดมกำลังเข้าจัดการในรัฐที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ขณะการประท้วงต้านการเหยียดผิว และความโหดเหี้ยมของตำรวจ ซึ่งลุกลามเป็นความรุนแรงทั่วสหรัฐฯ มาหลายวันแล้ว ยังคงทำให้กว่า 40 เมือง ต้องประกาศเคอร์ฟิว ส่วนผลชันสูตรจากผู้เชี่ยวชาญอิสระยืนยัน “จอร์จ ฟลอยด์” เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ

ในคืนวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งนับเป็นคืนที่ 7 ติดต่อกันแล้วที่ทั่วสหรัฐฯ เกิดเหตุจลาจลรุนแรง รายงานระบุว่า พวกผู้ประท้วงจุดไฟเผาศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส และห้างร้านหลายแห่งในนิวยอร์กซิตี้ ถูกฝูงชนบุกเข้าไปฉกชิงขโมยข้าวของ

การประท้วงที่ลุกลามกลายเป็นการจลาจลในหลายพื้นที่คราวนี้ เกิดขึ้นหลังการตายของ ฟลอยด์ ชายผิวดำ ไม่มีอาวุธที่ถูกตำรวจจับ และใช้เข่าทับคอจนขาดอากาศหายใจในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. กำลังนำไปสู่เหตุการณ์ไม่สงบครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งในนครนิวยอร์ก แอลเอ และอีกนับสิบเมืองทั่วอเมริกา

หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ได้แสดงความป็นผู้นำของประเทศกับวิกฤตอันเลวร้ายครั้งนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวปราศรัยด้วยน้ำเสียงดุดันจากสวนกุหลาบของทำเนียบขาว เวลาเดียวกับที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง ซึ่งชุมนุมอย่างสันติที่ด้านนอกของรั้วทำเนียบ

ทรัมป์ประกาศว่า กำลังส่งทหารติดอาวุธหนัก เจ้าหน้าที่ทางทหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายรวมหลายพันคนออกไปหยุดยั้งการจลาจล การปล้นชิง การทำลายทรัพย์สินและสถานที่ต่างๆ และประณามสิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันเมื่อคืนวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ว่า “น่าอัปยศ”

ประมุขทำเนียบขาวสำทับว่า หากเมืองหรือรัฐที่ไม่ยอมดำเนินการที่จำเป็นเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตนจะส่งทหารเข้าไปจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว และประณามว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้ายภายในประเทศ

แต่หลังการปราศรัยของทรัมป์ ฝูงชนยังออกไปประท้วง ซึ่งส่วนมากเป็นไปอย่างสันติในเมืองใหญ่หลายแห่ง แม้มีรายงานการปล้นห้างร้านในนิวยอร์กและแอลเอก็ตาม

(Photo by Stephen Maturen/Getty Images)

นอกจากนั้น ระหว่างการปราศรัยของผู้นำสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่รวมถึงสารวัตรทหาร ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบขาวเพื่อเคลียร์ทางให้ทรัมป์ข้ามถนนไปยังโบสถ์เซนต์จอห์น ที่ถูกพ่นสีและถูกไฟเผาได้รับความเสียหายบางส่วนระหว่างการจลาจลเมื่อวันอาทิตย์

กระแสการประท้วงคราวนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางที่สุดในอเมริกานับจากปี 1968 เมื่อเมืองต่างๆ ลุกเป็นไฟจากการลอบสังหาร มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำชาวผิวดำที่ต่อสู้เรียกร้องสิทธิพลเมือง

หลายๆ พื้นที่ การประท้วงเป็นไปอย่างสงบ บางแห่งมีภาพตำรวจสวมกอดหรือคุกเข่าอยู่ข้างๆ ผู้ประท้วงที่กำลังร้องไห้ แต่อีกหลายแห่งมีการปะทะรุนแรง ระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ นอกจากนั้น ยังมีการทำลายอาคารสถานที่หลายแห่ง รวมถึงบุกเข้าฉกชิงสินค้าในห้างร้าน เช่น บนถนนฟิฟธ์อะเวนิวในเขตแมนฮัตตันของนิวยอร์กซิตี้ และมีคนถูกยิงตายหนึ่งรายในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี

กว่า 40 เมืองต้องประกาศเคอร์ฟิว เฉพาะคืนวันจันทร์ บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ประกาศห้ามประชาชนออกจากบ้านระหว่างเวลา 20.00 น. จนถึงเช้าวันที่ 2 มิ.ย. หรือเริ่มใช้เร็วขึ้นจากคำสั่งเดิม 3 ชั่วโมง

Source

]]>
1281819