เอกชัย สุขุมวิทยา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 29 Jul 2025 12:48:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 xBloom เครื่องดริปกาแฟอัตโนมัติ ปฏิวัติวงการ Home Brewing หมัดเด็ดใหม่เครือ JMART   https://positioningmag.com/1530988 Thu, 24 Jul 2025 11:40:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1530988 ทิศทางของตลาดกาแฟในประเทศไทยยังมีแนวโน้มในการเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะกาแฟ Specialty Coffee เมื่อคนเสพกาแฟเป็นเหมือนรสนิยม อีกทั้งตลาดยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พร้อมจะทำให้ประสบการณ์การดื่มกาแฟดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้เราอาจจะเริ่มเห็นการใช้หุ่นยนต์ชงกาแฟ หรือตู้ชงกาแฟอัตโนมัติ หรือคุ้นเคยในตู้เต่าบิน ตอนนี้มีเครื่องดริปกาแฟอัตโนมัติแล้ว เอาใจสายดื่มกาแฟดริป

xBloom ผู้พลิกวงการ Home Brewing

เครื่องดริปกาแฟอัตโนมัติที่ว่าก็คือ xBloom วางจุดยืนเป็นเครื่องดริปกาแฟแบบ All-in-one ที่รวมทุกฟังก์ชันที่ใช้ในการดริปกาแฟไว้ในเครื่องเดียว แบรนด์มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มก่อตั้งในปี 2564 หรือมีอายุได้ 4 ปีเท่านั้น แต่มีการเติบโตอย่างมาก

xBloom

ในประเทศไทย xBloom ทำตลาดมาได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว โดยบริษัท บรูอิ้ง แฮปปี้เนส จำกัด อยู่ในเครือ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านกาแฟคาซ่า ลาแปง (Casa Lapin) นั่นเอง โดยที่บรูอิ้ง แฮปปี้เนสเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายเดียวในไทย 

เอกชัย สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บรูอิ้ง แฮปปี้เนส จำกัด ทายาทเจน 2 ของเจมาร์ท เริ่มเล่าว่า 

“เห็นแบรนด์ xBloom มา 2-3 ปีแล้ว จนเมื่อเข้าเริ่มเปิดตลาดต่างประเทศเลยสนใจขอเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายในไทย เริ่มไปคุยเมื่อตอนสิ้นปี 2567 แล้วเริ่มทำตลาดเมื่อตอนต้นปี 2568 ที่ผ่านมา เราเห็นเทรนด์คนดื่มกาแฟเยอะขึ้น ช่วงหลังจาก COVID-19 ทำให้เทรนด์ Home Brewing หรือชงกาแฟที่บ้านโตขึ้นเช่นกัน มองว่าการมีเครื่อง xBloom ตอบโจทย์คนดื่มกาแฟอย่างมาก”

xBloom

xBloom เริ่มก่อตั้งในปี 2564 โดยผู้ก่อตั้งเป็นอดีต Product Design ของแอปเปิ้ล และมีแนวคิด Consumer Centric ปัจจุบัน xBloom อยู่ในเวอร์ชั่นที่ 2 หรือเรียกว่า xBloom Studio มีฟังก์ชันเยอะกว่า ราคาเข้าถึงง่ายกว่า เพราะมีการตัดวัสดุที่ไม่จำเป็นออก ทำให้น้ำหนักเบาขึ้น สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน และใช้บัตรสูตรกาแฟแบบ NFC ได้ พร้อมกับดีไซน์โมเดิร์น ทันสมัย มินิมัล แต่ใช้งานสะดวกสบาย สามารถดริปกาแฟภายใน 5 นาที  

เอกชัยเสริมว่า xBloom จะเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟไปโดยปริยาย ชีวิตง่ายขึ้น แต่ประสบการณ์ดีขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากโข สามารถดื่มกาแฟ Specialty ที่บ้านได้ในราคาแก้วละ 30-40 บาทเท่านั้น ถ้าเทียบไปกับไปทานที่ร้านส่วนใหญ่จะราคา 100 บาทขึ้นไป 

“ในปีนี้เราเห็นเรื่องสภาวะเศรษฐกิจอยู่เหมือนกัน คนออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง คนที่ชอบดื่มกาแฟไม่สามารถซื้อกาแฟแก้วละ 100 บาทได้ทุกวัน แต่เครื่อง xBloom สามารถดิสรัปต์ตลาดได้ด้วยการประหยัดเวลา ใช้เวลาดริป กาแฟไม่ถึง 5 นาที และประหยัดค่ากาแฟได้ กินกาแฟที่บ้านได้เยอะขึ้น ในราคาถูกลง เป็นการลงทุนระยะยาว”   

ชั่ง-บด-ชง ในเครื่องเดียว

ถ้าคนดื่มกาแฟจะรู้ดีว่าในการดริปกาแฟจะมีอุปกรณ์เยอะมาก ทั้งเครื่องบด เครื่องชั่ง กาดริป แผ่นรอง แปรงปัด กาน้ำร้อน ราคาก็มีทั้งแบบถูก และแพง ขึ้นอยู่กับงบประมาณ แต่ xBloom สามารถดริปกาแฟได้แบบครบวงจร และมีความแม่นยำเหมือนนำแชมป์บาริสต้าจากทั่วโลกมาดริปให้ 

xBloom

xBloom Studio เครื่องดริปกาแฟสดอัตโนมัติที่รวมทุกอุปกรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว ทั้งเครื่องชั่ง, เครื่องบด, กาต้มน้ำ, หัวดริป, และดริปเปอร์ ในขนาด 20.4 x 43.6 ซม. ใช้งานง่ายเพียงกดปุ่มเดียว ก็สามารถชงกาแฟตามสูตรที่แชมป์บาริสต้าทั่วโลกคิดไว้ได้ทันที พร้อมดีไซน์มินิมัล เหมาะกับผู้บริโภคที่บ้าน (Home User) หรือร้านกาแฟ ที่สามารถเซฟค่าพนักงานได้

การใช้งานของเครื่องจะประกอบด้วย 3 ฟังก์ชันหลัก ระบบชั่ง, ระบบบด และระบบชง ที่เป็นหัวใจสำคัญของการดริป กาแฟ เพียงแค่เตรียมเมล็ดกาแฟที่ชอบ และสูตรการชงกาแฟ ก็สามารถรังสรรค์เมนูกาแฟของตัวเองได้ หรือจะใช้สูตรของบาริสต้าดังๆ จากทั่วโลกก็ได้ โดยเครื่องได้รับการออกแบบให้สามารถทำตามสูตรได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกการชงสามารถสร้างรสชาติที่ตั้งใจไว้อย่างถูกต้อง และแม่นยำ

xBloom

เรียกได้ว่าจุดเด่นของ xBloom มีตั้งแต่ รวมหลายฟังก์ชันทั้งชั่ง บด ชง ในเครื่องเดียว ควบคุมอุณหภูมิน้ำได้ แต่งโปรไฟล์การชงตามใจชอบ ได้แก่ ค่าบดกาแฟ, อุณหภูมิน้ำ, สัดส่วนกาแฟต่อน้ำกาแฟ, จำนวนรอบที่เท หรือแม้  กระทั่งลูกเล่นในการเทน้ำ เช่น แบบเทตรงกลาง แบบวน หรือแบบเขย่า

รับเทรนด์ Specialty Coffee โตกระฉูด

สอดคล้องกับข้อมูลจากสมาคมกาแฟพิเศษไทย พบว่า ปัจจุบันคนไทยดื่มกาแฟเฉลี่ย 1.7 แก้ว/คน/วัน ในปี 2568 มีการประเมินว่าภาพรวมมูลค่าตลาดกาแฟไทยอยู่ที่ 65,000 ล้านบาท โดยที่กาแฟพิเศษไทย (Specialty Coffee) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 30,000 ล้านบาท หรือมีสัดส่วน 46% ของมูลค่าตลาดกาแฟทั้งหมด มีการเติบโตต่อเนื่อง 15% 

สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความนิยมบริโภคกาแฟพิเศษมากขึ้นด้วยความโดดเด่นของรสชาติ ประสบการณ์ รวมถึงค่านิยมการให้คุณค่าของกาแฟพิเศษที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ต้องมาจากแหล่งปลูกที่ดี ซึ่งร้านกาแฟก็หันมาจำหน่ายเมนู Specialty Coffee มากขึ้นด้วย

xBloom

ประกอบกับข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า จำนวนร้านกาแฟเปิดใหม่ในปีนี้ลดลงจาก 7,000 ร้านในช่วงครึ่งปีแรกของปีก่อน เหลือเพียง 5,000 ร้าน แต่ร้านกาแฟยังคงมีอัตราอยู่รอดในปีแรกสูงกว่าร้านอาหารทั่วไป โดยร้านกาแฟมีอัตราการปิดตัวในปีแรกอยู่ที่ 43% เทียบกับร้านอาหารทั่วไปที่ปิดตัวสูงกว่าในปีแรกถึง 50%

ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai ยังพบว่า Specialty Coffee มีส่วนแบ่งตลาดใหญ่กว่ากาแฟทั่วไป โดยมีสัดส่วนยอดขายทั่วประเทศ 56% และในกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงถึง 66% ยอดขายกาแฟใน LINE MAN เติบโตขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉลี่ยแล้ว 22% ของยอดขายร้านกาแฟมาจากเดลิเวอรี 

Small Luxury แบบเบาๆ

เอกชัย เสริมอีกว่า ไทยเป็นประเทศที่การดื่มกาแฟโตขึ้นเรื่อยๆ มองกระแสของกาแฟมาถึง Wave 3 แล้ว โดย Wave 1 เป็นกระแสของสตาร์บัคส์ Wave 2 การมาของเครื่อง Nespresso และ Wave 3 คนใส่ใจเรื่อง Specilty Coffee หรือเมล็ดซิงเกิ้ล ออริจิ้นมากขึ้น บางคนก็บอกว่าอาจจะมองไปถึง Wave 4 ก็คือ Home Automation Coffee หรือเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติแล้วด้วยซ้ำ  

xBloom

“xBloom เข้ามาปิดปัญหาของคนดื่มกาแฟแต่ดริปไม่เป็น หรือปัญหาที่ว่า คนดริปไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ดริป เครื่องสามารถทำได้หมด และทำให้คนเข้าถึงกาแฟมากขึ้น หลากหลายขึ้น”

กลุ่มเป้าหมายหลักของ xBloom ก็คือกลุ่มคนที่บ้ากาแฟ และกลุ่มลักชูรี่หน่อยๆ มีกำลังซื้อ เพราะในต่างประเทศก็วางเซกเมนต์เป็นลักชูรี่แบบเบาๆ 

หมัดเด็ดชิ้นใหม่ของ JMART

xBloom เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัท บรูอิ้ง แฮปปี้เนส จำกัด หรือธุรกิจกาแฟในเครือเจมาร์ท บริษัทนี้มีร้านกาแฟ Casa Lapin อยู่ด้วย แต่แยกหน่วยธุรกิจกันชัดเจน Casa Lapin เป็นธุรกิจร้านกาแฟ ส่วน xBloom เหมือนขายแกดเจ็ต

“เราดึง xBloom มาเติมพอร์ตให้สมบูรณ์ขึ้น จริงๆ ก็เหมือนการขายโทรศัพท์ แต่เปลี่ยนเป็นกาแฟ เป็นการขายแกดเจ็ต ขายเทคโนโลยี เพียงแต่ยัง Niche อยู่ ตลาดยังคงพัฒนาไปตามการเติบโตของกาแฟ สุดท้ายคนก็หันมา Home Brewing เหมือนที่คนมีเครื่อง Nespresso อยู่ที่บ้าน” 

xBloom

ตอนนี้ได้เปิด xBloom Experience Store ที่ศูนย์การค้า Central World เพื่อเป็นโชว์รูมให้ผู้บริโภคได้ลองสัมผัสเครื่อง ชิมกาแฟที่เครื่องชงออกมา พร้อมโซนเวิร์กช็อป อาจจะขยายเป็นป๊อปอัพสโตร์ที่ศูนย์การค้าอื่นๆ ในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟที่เป็นพาร์ทเนอร์ ที่มีเครื่อง xBloom ได้แก่ Crane Coffee Roaster, Koff and Bun Coffee Roasters, The Coffee Store Charoenkrung, Bluetamp Coffee, Coffee Therapy Thailand, Casa Lapin, Zakara Café, Onibus Thailand, P&F Coffee, Nowadays Coffee, Wanna Café, U-Cup Specialty Coffee, Agaligo Coffee & Alternative Brewing Tool, The Home Barista, Mitty Roaster, The Baristro Coffee Roaster, Ponganes Coffee Roasters และ Campus Phuket Patong

สำหรับเป้าหมายของ xBloom เอกชัยมองว่าอยากให้ทุกบ้านมีเครื่อง xBloom เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ คนชอบดื่ม แต่ไม่ชอบทำ ทั้งลูกค้าทั่วไป ร้านกาแฟ และโรงคั่ว โดยที่ในปีหน้าอาจจะมีสินค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม หรือมีสีใหม่เข้ามา

สำหรับเครื่อง xBloom จำหน่ายในราคา 25,900 บาท มีทั้งหมด 2 สี สีขาว และสีดำ หรือถ้าแบบครบเซตมีอุปกรณ์เสริมราคา 28,500 บาท ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://xbloom-thailand.com

xBloom

]]>
1530988