เเผนการตลาด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 16 May 2020 00:00:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไม่ปิดเฉยๆ! “ศรีพันวา” ดึงอินฟลูเอนเซอร์กักตัวในวิลล่า สร้างคอนเทนต์การตลาด https://positioningmag.com/1278773 Fri, 15 May 2020 14:03:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1278773 การระบาดของไวรัส COVID-19 คือพายุลูกใหญ่ที่ซัดสาดธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่เครือ “ศรีพันวา” ที่พักระดับลักชัวรีของเมืองไทย จากฤดูขายของรีสอร์ตกลายเป็นความเงียบเหงา แต่ “ปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสสระ” บอสใหญ่ของเครือยังมองบวก การท่องเที่ยวประเทศไทยจะฟื้นทันทีที่รัฐปลดล็อก ปั้นคอนเทนต์การตลาดผ่าน “อินฟลูเอนเซอร์” ถ่ายภาพไลฟ์สไตล์กักตัวลงไอจีสร้างกระแส

ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมไทยเริ่มมีผลกระทบตั้งแต่มีข่าวค้นพบผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อปลายเดือนมกราคม ก่อนที่สถานการณ์จะยิ่งร้ายแรงขึ้นจนในที่สุดรัฐบาลไทยตัดสินใจปิดสนามบิน งดเข้าออกประเทศ มาตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 63 และยิ่งกระทบเครือศรีพันวามากขึ้น เมื่อวันที่ 4 เมษายน 63 ทั้งจังหวัดภูเก็ต พังงา และประจวบคีรีขันธ์ สั่งปิดโรงแรมทั้งหมด (ยกเว้นมีแขกที่พักอยู่ก่อนแล้วสามารถบริการต่อได้จนกว่าแขกจะเช็กเอาต์)

เป็นเวลามากกว่า 1 เดือนที่โรงแรมแทบจะปิด 100% Positioning ได้พูดคุยกับ “ปลาวาฬ-วรสิทธิ อิสสระ” ประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด, กรรมการผู้จัดการ ศรีพันวา และ บาบา บีช คลับ ถึงผลกระทบที่ได้รับ และวิสัยทัศน์อนาคตการท่องเที่ยวไทยเมื่อ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย

จากห้องเต็มกลายเป็นต้องปิดโรงแรม

วรสิทธิฉายภาพก่อนว่าปกติโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต, บาบา บีช คลับ ภูเก็ต และ บาบา บีช คลับ หัวหิน จะมีหน้าไฮซีซันที่สุดของปีคือช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ ปิดเทอม และสงกรานต์ ยาวติดต่อกัน ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนโรงแรมมีแขกคึกคักมาก ยิ่งบาบา บีช คลับ ภูเก็ต มีแขกพักเต็มเพราะจัดเทศกาลดนตรี Circoloco ติดกัน 2 สัปดาห์

วรสิทธิ อิสสระ ประธานกรรมการ บริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบออนไลน์

“ตอนข่าว COVID-19 ออกมาก่อนหยุดตรุษจีนแค่ 2 วัน มีข่าวแบนการเดินทางจากจีน เรายังสงสัยเลยว่าไวรัสนี้จริงเหรอ เป็นไปได้เหรอ” วรสิทธิกล่าว

แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นชาวจีนซึ่งคิดเป็นลูกค้า 30% ของเครือศรีพันวาทยอยแจ้งขอยกเลิกห้องพัก หรือเลื่อนการจองออกไป รวมถึงอีเวนต์ทั้งงานแต่งงาน ทริปบริษัท ฯลฯ ทยอยเลื่อนเช่นกัน ปัจจุบันทั้ง 60 งานอีเวนต์ที่จองไว้เลื่อนออกไปทั้งหมด

ช่วงนั้นศรีพันวาปรับตัว พยายามโปรโมตดึงคนไทยและต่างชาติอื่นๆ เข้ามาแทน ถึงขนาดจัดแพ็กเกจพิเศษแถม “เบียร์โคโรนา” ในห้องพักและทุกมื้ออาหาร “ตอนนั้นเราโดนด่าเลยว่าเล่นประเด็นอ่อนไหว แต่ผมก็คิดว่าเราทำเพื่อให้ธุรกิจเราอยู่รอด” วรสิทธิกล่าว

แพ็กเกจเบียร์โคโรนาที่ศรีพันวาซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์

สุดท้ายจากสถานการณ์ระดับโลกที่ยั้งไม่ไหว อัตราเข้าพักจึงลดลงจากปกติ 90% เหลือ 30% เท่านั้นในเดือนมีนาคม จนถึงขณะนี้ยังมีแขกพักอยู่ราว 20 กว่าคนเท่านั้น

 

ไม่ปลดพนักงาน แต่จำต้องลดวันทำงาน

“ช่วงที่สถานการณ์เริ่มแย่ลง ไม่กี่วันก่อนมีข่าวสั่งปิดโรงแรม พนักงานหลายคนในโรงแรมเราพานิกมาก เพราะทุกคนมีภาระ มีผ่อนบ้านผ่อนรถ เราต้องคุยกับแต่ละทีมว่าจะทำอย่างไร จะช่วยกันลดเงินเดือนได้กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ผมบอกเลยว่าผมจะไม่เลย์ออฟใคร ถ้าทีมไหนต้องการเลย์ออฟคนให้คิดแผนเองว่าจะบอกกับเขาอย่างไร” วรสิทธิกล่าว

ผลสุดท้ายคือพนักงานบางส่วนจำต้องลาโดยไม่รับค่าจ้าง (leave without pay) ไปตลอดเดือน และบางส่วนที่ยังอยู่บนเกาะภูเก็ตจะสลับกันเข้างาน 7-10 วันต่อเดือน ทีมนี้เป็นผู้ดูแลแขกที่ยังพักอยู่และซ่อมบำรุงที่พัก

“ผมขอบคุณมากที่ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ บางคนถึงขนาดอาสาที่จะลาออกไปก่อนเพื่อช่วยบริษัท เพราะเขารู้ว่าถ้าบริษัทดีขึ้นเขาจะได้กลับมา”

บาบา บีช คลับ ภูเก็ต

วรสิทธิกล่าวด้วยว่า ในเรื่องร้ายยังมีเรื่องดีคือก่อนหน้านี้เขาปลุกปั้นกับการ “ยกเครื่อง” โรงแรมมานานร่วมปีแล้ว เนื่องจากโรงแรมถึงจุดอิ่มตัว ติดลมบนในตลาด ทำให้บริการหละหลวมและเริ่มคุมค่าใช้จ่ายไม่ได้

ทำให้ก่อนหน้าการเกิดโรคระบาดเพียง 2 สัปดาห์ โรงแรมเพิ่งปลดพนักงานที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือฟรีซตำแหน่งบางจุดไป รวมถึงลงรายละเอียดการประเมินค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม ทำให้แม้จะ “เลือดไหล” แต่ไม่ถึงกับ “เลือดท่วม” รวมถึงเป็นวิกฤตที่ทำให้พนักงานตื่นตัวมากขึ้น

“ย้อนกลับไปก่อนปี 2562 เราสบายมา 6 ปีแล้วเพราะเราได้ตลาดจีน เราไม่ต้องทำอะไรเลยเขาก็มา เราเหมือนเสือนอนกิน เหมือนแม่ทัพที่ไม่เคยออกรบ ทีมเราเริ่มประมาทว่าแขกเยอะ รายได้เยอะ” วรสิทธิกล่าวถึงสาเหตุที่ต้องขันน็อตกันใหม่มาตั้งแต่ปี 2562  “พอเจอวิกฤตไวรัสก็เลยเหมือนเราได้เตรียมตัวมาพักหนึ่งแล้ว”

 

ทำการตลาดรอวันกลับมาบูม

ส่วนสถานการณ์โรงแรมปิดขณะนี้ วรสิทธิกล่าวว่าเขาได้เชิญเพื่อนๆ คนดัง-อินฟลูเอนเซอร์ จากต่างประเทศมาพักในฐานะ “แขก” ตั้งแต่ก่อนปิดประเทศ ให้มาพัก “กักตัว” แบบสุดคูลในรีสอร์ตประเทศไทย ดีกว่าติดอยู่ในบ้านของตัวเองที่ต่างประเทศ อย่างน้อยที่นี่มีกิจกรรมให้ทำ มีวิวสวยๆ ให้ถ่ายรูปเป็นคอนเทนต์ มีร้านอาหาร มีเพื่อนที่กักตัวด้วยกัน

อินฟลูเอนเซอร์ตอบรับคำเชิญของเขา 20 กว่าชีวิต โดยมีเงื่อนไขคือทุกคนต้องกักตัวเองก่อนเดินทางมา 14 วัน และระหว่างอยู่ที่นี่ขอความร่วมมือไม่ไปในพื้นที่เสี่ยง

 

View this post on Instagram

 

Isolation queen

A post shared by Kaz (@kazcrossley) on

ส่วนสิ่งที่ศรีพันวาได้คือ คอนเทนต์การตลาด อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้มีผู้ติดตามตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านคน ระหว่างอาศัยอยู่ในศรีพันวา พวกเขาจะถ่ายทอดภาพสวยๆ และชีวิตคุณภาพระหว่างกักตัวที่โรงแรมในประเทศไทยออกไป

“มันคือการสร้าง awareness พอประเทศเราเปิด จะมีคนที่ติดตามคนกลุ่มนี้บินมาอยู่กับเราเพิ่ม” วรสิทธิกล่าว

 

ขอมองในแง่บวก…มั่นใจนักท่องเที่ยวจะกลับมา

สำหรับแนวโน้มอนาคต วรสิทธิมองว่าประเทศไทยรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีมาก ระบบสาธารณสุขที่ดี มีผู้เสียชีวิตไม่มาก เชื่อว่าจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาได้เร็ว

“อันดับแรกเลยคือคนไทย ไทยเที่ยวไทยมาชัวร์ๆ เพราะความเบื่อชนะความกลัว ถ้าเปิดให้เดินทางเมื่อไหร่คนจะออกไปเที่ยวกันเลย จริงๆ ตอนนี้เริ่มบ้างแล้ว เพราะคนที่มีบ้านพักตากอากาศที่เชียงใหม่ หัวหิน เขาใหญ่ มีการเดินทางไปพักต่างจังหวัด”

ไทยเที่ยวไทยมาชัวร์ๆ เพราะความเบื่อชนะความกลัว

อันดับสองคือ คนจีน แต่มองว่าอาจจะไม่มากเท่าในอดีต เพราะตั้งแต่ปี 2562 จีนมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศอยู่แล้ว ยิ่งต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจหลัง COVID-19 นโยบายนี้น่าจะเข้มข้นขึ้น

ส่วนกลุ่มเป้าหมาย ชาวยุโรปและอเมริกัน ซึ่งเป็นทาร์เก็ตของบาบา บีช คลับ ภูเก็ต วรสิทธิยืนยันว่าจะยังเน้นความเป็น Music Destination เช่นเดิม เพราะกรุยทางดึงเทศกาลดนตรี Circoloco มาจัดจนติดตลาดไปแล้ว เชื่อว่าช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าน่าจะจัดได้ใหม่

 

View this post on Instagram

 

A post shared by Baba Beach Club (@bababeachclub) on

“ปกตินักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะไปเที่ยวชายหาดเมดิเตอร์เรเนียน ไปปาร์ตี้ที่อิบิซ่า ช่วงเดือนเมษายน-กันยายนจะคึกคักมาก แต่มาเจอ COVID-19 งานดนตรีงดทั้งหมด ดังนั้นเขาจะอัดอั้นมาก เป็นโอกาสของเรา พอทางยุโรปเข้าหน้าหนาว เขาจะมาที่เราทันที”

ด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยว เขาเชื่อว่าอนาคตภาครัฐและสายการบินจะมีมาตรการเข้มงวดตั้งแต่ต้นทาง เช่น มีมาตรการตรวจค้นหาเชื้อไวรัส COVID-19 ก่อนขึ้นบินหรือก่อนเข้าประเทศ ทำให้คนที่เข้ามาต้องปลอดเชื้อเท่านั้น

ส่วนมาตรการในศรีพันวาเอง เนื่องจากที่พักเป็นวิลล่า และมีอาณาบริเวณกว้าง ทำให้ความหนาแน่นของแขกต่ำอยู่แล้ว จะมีที่ต้องปรับคือไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้าเปลี่ยนเป็นแบบสั่งโดยตรง กับพนักงานทั้งหมด และพนักงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยให้บริการ

เพื่อต้อนรับการท่องเที่ยวที่จะกลับมา วรสิทธิแย้มว่ากำลังจัดแพ็กเกจโปรโมชัน ซื้อโควตาห้องพัก 10 คืน หรือ 20 คืนในราคาพิเศษ เหมาะสำหรับมากักตัวในรีสอร์ต หรือจะทยอยใช้ครั้งละ 3-5 คืนก็ได้ ไม่มีวันหมดอายุ

โดยรวมแล้ว เอ็มดีเจ้าของอาณาจักรศรีพันวามองว่า ปีนี้หากโรงแรมมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 50% ถือว่าเก่งมากแล้ว จากเป้าเดิมที่วางไว้ 70%

พร้อมฝากถึง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ควรใช้โอกาสที่การท่องเที่ยวซบเซานี้ ปรับการตลาดของท่องเที่ยวไทยใหม่ให้เจาะกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามามีคุณภาพ เม็ดเงินตกอยู่กับคนท้องถิ่นอย่างแท้จริง

“อยากให้โปรโมตประเทศให้ดีกว่านี้ การทำออนไลน์มาร์เก็ตติ้งยังไม่ดีพอ สื่อที่ใช้ยังเชยๆ อยู่ อยากให้มีคนรุ่นใหม่มาช่วยคิด และควรจะปรับ position ตัวเองไปเจาะกลุ่มพรีเมียมด้วย ทัวร์ศูนย์เหรียญเราไม่ควรจะมีอีกแล้ว” วรสิทธิกล่าวปิดท้าย

]]>
1278773
อ่านเกม “กู๊ดเยียร์” 2020 บุกยางรถกระบะ ขยายตลาดต่างจังหวัด ดัน “บัวขาว” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ https://positioningmag.com/1257218 Mon, 16 Dec 2019 11:32:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1257218 เเม้อุตฯ รถยนต์จะอยู่ในช่วงขาลง เเต่ “กู๊ดเยียร์ ประเทศไทย” ยังเดินหน้าขยายลงทุนโรงงานเฟส 2 พร้อมเปิดตัว Cargo Max ยางพรีเมียมเจาะกลุ่มรถกระบะเเละรถตู้ อัดเเคมเปญการตลาดในปี 2020 ดึง “บัวขาว” นักชกขวัญใจชาวไทยขึ้นเเท่นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ สะท้อนความอึดความทน 

เรียกได้ว่าเตรียมเดินเกมการตลาดอย่างหนัก เพราะกู๊ดเยียร์ห่างหายจากการโปรโมตผ่านคนดังมานาน นับตั้งเเต่ “ ก้อง-สหรัถ” พรีเซ็นเตอร์คนแรกของกู๊ดเยียร์ในไทย เมื่อปี 2556 ที่มาพร้อมยางเอฟฟิเชี่ยนกริป เอสยูวี ชูจุดขายเป็นยางเงียบที่สุดและนุ่มที่สุด เข้ากับคาเเร็กเตอร์ของหนุ่มก้อง ผ่านมาหลายปีก็มาถึง บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยดุดัน เข้าคาเเร็กเตอร์กับยางรถกระบะรุ่นใหม่ชูความทนอย่าง Cargo Max เช่นกัน 

เปิดตัว Cargo Max เอาใจคนรักระกระบะ-รถตู้ 

ยางรถกระบะ Cargo Max ที่กำลังจะจำหน่ายทั่วประเทศในเดือนมกราคม ปี 2020 นี้ โดยออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถกระบะและรถตู้ เน้นจุดขายเรื่องความทนทาน ทางกู๊ดเยียร์เคลมว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่ายางคู่แข่งถึง 20% ซึ่งผ่านการทดสอบทั้งในสหรัฐฯ เเละในไทย

ความสำคัญของยางตัวนี้ได้มีการใช้เทคโนโลยีแมกซ์โหลด (MaxLoad) เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของกู๊ดเยียร์ ทำให้ขีดความสามารถในการรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น และเหมาะสมกับทุกสภาพถนนในไทย ออกแบบหน้ายาง และปรับปรุงเนื้อยางสูตรพิเศษ ที่ช่วยลดการสึกหรอเเละยังรักษาคุณสมบัติเรื่องการยึดเกาะบนถนนเปียก การรีดน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะกับฤดูฝนของประเทศไทย

ทำไมเลือกรุกตลาดรถกระบะ? 

ผู้บริหารกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย บอกว่า Cargo Max เกิดขึ้นจากการค้นหาว่าอะไรคือ Pain point และ Unmet needs ของลูกค้า พบว่า กระบะเป็นรถที่ใช้ 1 ใน 3 ของไทย ที่สำคัญนอกจากใช้เพื่อการขนส่งแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน จึงมีการใช้งานที่หนัก ดังนั้นต้องหายางที่มีความทนทานใช้ได้นาน ซึ่งกู๊ดเยียร์ต้องการตอบโจทย์นี้

ก่อนหน้านี้ กู๊ดเยียร์ได้ตีตลาดกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เเละกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ไปเเล้ว จึงต้องขยายให้ครอบคลุมสู่รถกระบะ เเละมองว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ใช้ขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดที่นิยมใช้รถกระบะมากกว่าในเมือง ให้เข้ากับเเผนขยายช่องทางการขายที่ในปีหน้าตั้งเป้าจะมีร้านตัวเเทนจำหน่ายให้ถึง 1,000 ร้านทั่วประเทศด้วย 

“ปัจจุบันเรามียางรุ่น แอสชัวแรนซ์ ทริปเปิลแมกซ์ (Assurance TripleMax) สำหรับกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และ แรงเลอร์ ทริปเปิลแมกซ์ (Wrangler TripleMax) สำหรับกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) การเปิดตัวกู๊ดเยียร์ Cargo Max สำหรับกลุ่มรถกระบะและรถตู้ จึงทำให้ยางในตระกูลแมกซ์ครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในกลุ่มยางพรีเมียมของลูกค้า”

“บัวขาว” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ สะท้อนความอึด 

ล่าสุดกู๊ดเยียร์ ประเทศไทย ได้ดึงยอดนักชกขวัญใจมหาชนอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” มาเป็นแบรนด์พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เพื่อต้องการสื่อถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน

ลูก้า เครปาโชลี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า

“บัวขาวมีความเหมาะสมกับแบรนด์กู๊ดเยียร์ เป็นยอดนักชกที่โด่งดังท่ามกลางบรรดายอดนักชกมวยไทยมากว่า 30 ปี พร้อมทั้งมีสถิติคว้าชัยชนะในการขึ้นชกระดับโลกมาแล้วอีกนับครั้งไม่ถ้วน สะท้อนความเเกร่ง เเละทรงพลังเหมือนยางรถยนต์ของกู๊ดเยียร์”

ฮึดสู้รอบใหม่ของธุรกิจยางรถยนต์ 

ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเข้าสู่ยุคขาลง เหล่าผู้ผลิตหลายใหญ่ต่างพากันหั่นค่าใช้จ่าย ปลดพนักงานเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทกันถ้วนหน้า สำหรับอุตสาหกรรมยางรถยนต์เเล้วนั้นก็ย่อมได้รับผลกระทบตามๆ กัน

ผู้บริหารกู๊ดเยียร์ เปิดเผยว่า “ในปี 2019 นับเป็นความท้าทายอย่างมาก ทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลกเเละอุตสาหกรรมรถยนต์ ขณะที่ธุรกิจยางรถยนต์ก็ต้องเผชิญกับปัญหา “วัตถุดิบที่มีราคาสูงขึ้น” เเต่ด้วยความพยายามที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เเละการปรับกลยุทธ์การสื่อสารของกู๊ดเยียร์ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้มองเห็นโอกาสที่จะกลับมาเป็นบวกมากขึ้นในปีหน้า” 

“หากมองอีกมุมเราจะเห็นว่ามีรถใหม่ออกมาจำนวนมากเช่นกัน เเละจะต้องมีการเปลี่ยนยาง นี่คือโอกาสของกู๊ดเยียร์ ที่เราจะเสนอโปรดักส์ใหม่ที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนานกว่าคู่เเข่ง 20% ให้กับผู้บริโภคที่กำลังลังเลใจในการซื้อ” 

สำหรับการลงทุนขยายโรงงานในจังหวัดปทุมธานี นับเป็นการลงทุนเฟส 2 ของงบการลงทุนกว่า 2.97 พันล้านบาทในเเผนปี 2018-2022 ที่คาดว่าจะเพิ่มผลผลิตยางรถยนต์ได้มากขึ้นราว 5-10 % ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยโรงงานในประเทศเเห่งนี้ จะผลิต Cargo Max ยางพรีเมียมรุ่นใหม่ รวมไปถึงยางที่ใช้ในเครื่องบินด้วย

ด้านภาพรวมการตลาดของอุตฯ ยางรถยนต์ในไทย เครปาโชลี่ เปิดเผยว่า ตั้งเเต่ช่วงไตรมาสที่ 1-3 ของปีนี้ยังติดลบอยู่ที่ -4% ถึง -5% เเละมียอดขายยางรถยนต์โดยรวมมากกว่า 10 ล้านเส้น อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 2020 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น 

รวมถึงกลยุทธ์หลักในปีหน้าที่จะมี “กลุ่มยางติดรถยนต์ (OEM)” เพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการเจรจาเพิ่มสัญญากับเหล่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ซึ่งรับรองว่ารถยนต์ป้ายเเดงที่จะออกมาในปี 2020 นั้นจะมีโอกาสได้ใช้ยางรถยนต์ของกู๊ดเยียร์ พร้อมกันนั้นจะมีการขยายโรงงานในจังหวัดปทุมธานีเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต 

รวมไปถึงขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุม โดยในปีหน้าตั้งเป้าจะมีร้านตัวเเทนจำหน่ายให้ถึง 1,000 ร้าน 

]]>
1257218