แบนหัวเว่ย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 19 Mar 2023 09:03:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 แบนแล้วไง! ‘หัวเว่ย’ เผยได้เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สหรัฐฯ แบนกว่า 13,000 ชิ้น ด้วยวัสดุที่ผลิตเองได้ในจีน https://positioningmag.com/1423840 Sun, 19 Mar 2023 01:00:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423840 นับตั้งแต่ปี 2019 ที่ หัวเว่ย (Huawei) ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ ทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจกับบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับภัยความมั่นคงจากการเก็บข้อมูลส่งให้รัฐบาลจีนผ่านอุปกรณ์ของบริษัท จนธุรกิจโดยเฉพาะในส่วนของสมาร์ทโฟนนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก

ล่าสุด เหริน เจิ้งเฟย (Ren Zhengfei) ผู้ก่อตั้ง หัวเว่ย (Huawei Technologies Co Ltd) ได้เปิดเผยตอนขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัย Shanghai Jiao Tong ของจีนว่า บริษัทได้ เปลี่ยนชิ้นส่วนมากกว่า 13,000 ชิ้นในผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางการค้าของสหรัฐฯ ด้วยวัสดุทดแทนที่ผลิตได้ในประเทศจีนตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ ออกแบบแผงวงจรใหม่ 4,000 ชิ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน

คำพูดดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า นี่เป็นอีกความพยายามของหัวเว่ยที่จะ เอาชนะมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจต่อไป นับตั้งแต่ปี 2019 ที่หัวเว่ยในฐานะผู้จัดหาอุปกรณ์รายใหญ่ที่ใช้ในเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ตกเป็นเป้าหมายของการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ โดยการควบคุมเหล่านั้นจะตัดทั้งการจัดหาชิปของหัวเว่ยจากบริษัทในสหรัฐฯ และการเข้าถึงเครื่องมือเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในการออกแบบชิปของตนเอง

เหริน ได้กล่าวต่อว่า หัวเว่ยในปี 2022 ได้ทุ่มงบลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาสูงถึง 23,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่เริ่มดีขึ้น บริษัทก็จะเพิ่มการงบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาต่อไป โดยภายในเดือนเมษายนนี้ บริษัทกำลังจะเปิดตัวระบบวางแผนทรัพยากรของตนเองที่เรียกว่า MetaERP ขึ้นมา เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลัก ๆ ของหัวเว่ยทั้งในด้านการเงิน ห่วงโซ่อุปทาน และสายการผลิต

อย่างไรก็ตาม เหริน ระบุว่า หัวเว่ยยังไม่มีแผนที่จะเปิดตัว AI เพื่อมาแข่งกับ AI ChatGPT โดยเขาระบุเพียงว่า หัวเว่ยกำลังมุ่งเน้นไปที่การเป็น แพลตฟอร์มประมวลผลพื้นฐานของ AI

]]>
1423840
‘หัวเว่ย’ ชี้ บริษัทออกจากโหมด ‘วิกฤต’ แล้ว แม้รายได้จะไม่เติบโตก็ตาม https://positioningmag.com/1414372 Mon, 02 Jan 2023 04:54:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414372 นับตั้งแต่ปี 2018 ที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน กระทบมาถึง หัวเว่ย (Huawei) ทั้งการจับกุมผู้บริหารระดับสูง, การขึ้นบัญชีดำบริษัท ลามไปถึงการกดดันหลายประเทศให้แบนหัวเว่ย เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับภัยความมั่นคงจากการเก็บข้อมูลส่งให้รัฐบาลจีนผ่านอุปกรณ์ของบริษัท

แม้ว่าตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ย จะไม่สามารถทำตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตลาดคอนซูมเมอร์ แต่ล่าสุด หัวเว่ยได้สรุปว่า ตอนนี้บริษัทได้ออกจาก โหมดวิกฤต แม้ว่ารายได้ในปี 2565 จะไม่เติบโตจากปีก่อนหน้าก็ตาม

“ข้อจำกัดของสหรัฐฯ เป็นเรื่อง New Normal ของเรา และเรากลับมาทำธุรกิจตามปกติแล้ว” Eric Xu ประธานคนปัจจุบันของหัวเว่ย กล่าว

รายได้ที่ยังไม่ผ่านการยืนยันของหัวเว่ยในปี 2022 คาดว่าจะอยู่ที่ 636,900 ล้านหยวน (91,600 ล้านดอลลาร์) ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าและสอดคล้องกับการประมาณการก่อนหน้านี้ Eric Xu กล่าวในข้อความว่าธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมของบริษัทยังคง เติบโตอย่างมั่นคง ขณะที่บริษัทเองก็พยายามลดการพึ่งพารายได้จากภาคอุปกรณ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์ได้

สำหรับปีที่กำลังจะมาถึง Xu ให้คำมั่นว่าจะรักษาการลงทุนอย่างหนักของหัวเว่ยในส่วนการวิจัยและพัฒนา และกล่าวว่า ธุรกิจคลาวด์ จำเป็นต้องกลายเป็น รากฐานในการขับเคลื่อนการเติบโต นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการเติบโตอย่างรวดเร็วในธุรกิจคลาวด์

อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยไม่ได้เปิดเผยตัวเลขทางการเงินที่มีรายละเอียดมากขึ้นสำหรับธุรกิจหรือผลกำไรโดยรวมของบริษัท

ทั้งนี้ หัวเว่ยถือเป็นแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกรายแรกของจีนที่ประสบปัญหาถูกขึ้นบัญชีดำในสมัย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ปิดกั้นการเข้าถึงชิปประมวลผลและเทคโนโลยีอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากข้อกังวลว่าหัวเว่ยจะเก็บข้อมูลส่งให้รัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

Source

]]>
1414372
‘หัวเว่ย’ หัวจะปวด! หลัง ‘แคนาดา’ สั่งแบนอุปกรณ์ 5G เพราะเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ https://positioningmag.com/1386150 Fri, 20 May 2022 08:18:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386150 รัฐบาลแคนาดาได้สั่งให้บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายในแคนาดาห้ามติดตั้งอุปกรณ์ของ ‘หัวเว่ย’ (Huawei) และ แซดทีอี (ZTE) ในเครือข่าย 5G เนื่องจากมีความกังวลเรื่องด้านความมั่นคง

ที่ผ่านมา แคนาดาเป็นสมาชิกเพียงกลุ่มเดียวของกลุ่มพันธมิตรด้านข่าวกรองของ Five Eyes ที่จะไม่ห้ามหรือจำกัดการใช้อุปกรณ์จากบริษัท หัวเว่ย (Huawei Technologies Co Ltd) ในเครือข่าย 5G ขณะที่ สหรัฐฯ และประเทศสมาชิกอื่น ๆ ได้แก่ อังกฤษ, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้แบนหัวเว่ยทั้งหมด

การแบนของแคนาดาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่หัวเว่ย แต่รวมถึง ZTE Corp หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของจีนและเป็นบริษัทของรัฐบาล โดยให้บริการที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้ไว้แล้วจะต้องหยุดใช้งานและถอดอุปกรณ์ออกภายในเดือนมิ.ย. 2567 โดยทางรัฐบาลจะไม่มีการชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะที่บริษัทไร้สายรายใหญ่ของแคนาดาได้เริ่มทำงานกับผู้ให้บริการรายอื่นแล้ว

“เรากำลังประกาศเจตนารมณ์ที่จะห้ามการรวมผลิตภัณฑ์และบริการของ Huawei และ ZTE ในระบบโทรคมนาคมของแคนาดาฟรองซัวส์-ฟิลิปป์ ชองปาญ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมกล่าว

มาร์โก เมนดิซิโน รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะ กล่าวว่า มีผู้แสดงพฤติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์หลายคนที่พร้อมจะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในการป้องกันของเรา โดยรัฐบาลได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดและเพิ่มความพยายามในการปกป้องชาวแคนาดาเป็นสองเท่า

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พยายามโน้มน้าวพันธมิตรอย่างแคนาดามาหลายปีแล้ว เพื่อกีดกันหัวเว่ยจากเครือข่ายมือถือ 5G เนื่องจากกังวลว่าผู้ปกครองคอมมิวนิสต์ของจีนจะบังคับให้บริษัทช่วยเรื่องการจารกรรมทางอินเทอร์เน็ต สหรัฐฯ เตือนว่าจะทบทวนการแบ่งปันข่าวกรองกับทุกประเทศที่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย

อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ Saint-Jacques กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายของจีนไม่มีบริษัทใดสามารถปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลจีนในการแบ่งปันข้อมูล ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ยในประเทศ

“การตัดสินใจควรเกิดขึ้นเมื่อสองหรือสามปีที่แล้ว แต่มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา” Guy Saint-Jacques อดีตเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศจีนกล่าว

ย้อนไปเมื่อปี 2562 รัฐบาลแคนาดาได้จับกุม เมิ่งหว่านโจว บุตรสาวของ เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยที่สนามบินแวนคูเวอร์ ภายใต้คำร้องของของรัฐบาลสหรัฐฯ จากนั้นจีนก็ตอบโต้ด้วยการจำคุกชาวแคนาดา 2 คน จนในเดือนกันยายนปี 2564 ทางหัวเว่ยก็บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเมิ่งไปจนถึงปี 2022 ซึ่งทำให้ศาลในเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดามีคำสั่งปล่อยตัวเธอ และอาจเป็นการสิ้นสุดการฟ้องร้องดำเนินคดีที่ยืดเยื้อเกือบ 3 ปีจนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ จีน และแคนาดาตึงเครียด

Source

]]>
1386150