แรงงานดิจิทัล – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Jun 2023 08:17:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “SKILLKAMP” โปรเจ็กต์จาก KBank ปลุกปั้น Tech Talent สู่โอกาสเป็นตัวท็อปในโลกดิจิทัล https://positioningmag.com/1435050 Tue, 27 Jun 2023 10:00:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435050

KBank” เปิดโครงการ “SKILLKAMP” มุ่งเป้าที่จะช่วยพัฒนาทักษะให้คนทำงานรุ่นใหม่ให้กับเมืองไทย อุดช่องว่างการขาดแคลนแรงงานดิจิทัลที่เป็นกำลังสำคัญต่อการพัฒนาในด้านต่างๆ ของประเทศ ผ่านกิจกรรมเข้มข้นทั้งเวิร์กช็อปสร้างประสบการณ์ เป็นแต้มต่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการในการสมัครงานและการทำงานจริงในองค์กรต่างๆ พร้อมต่อยอดโครงการนี้ผ่านเว็บไซต์ WWW.SKILLKAMP.COM รวบรวมหลักสูตรด้านดิจิทัลกว่า 250 คอร์ส เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาทักษะดิจิทัลของตนเอง

“ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม” ที่เกิดขึ้นในองค์กรส่วนใหญ่ของไทย ทำให้แรงงานทักษะดิจิทัลหรือกลุ่ม Tech Talent” เป็นที่ต้องการตัว โดยข้อมูลจาก Amazon Web Service ระบุชัดเจนว่า 90% ขององค์กรในไทยต้องการบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัล

ด้วยความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในระยะหลัง ประกอบกับโอกาสสร้างรายได้และเลื่อนตำแหน่งที่ดีกว่า ทำให้นักศึกษาไทยหันมาเลือกเรียนสายงานดิจิทัล รวมถึงคนทำงานรุ่นใหม่บางส่วนได้ ‘Reskill’ พัฒนาเปลี่ยนทักษะให้ตนเองเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดงานดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักศึกษาจบใหม่หรือคนทำงานที่ต้องการเปลี่ยนสายงานเหล่านี้ยังขาดคือ “ประสบการณ์” การทำงานจริงซึ่งองค์กรทุกแห่งต่างมองหาในตัว Tech Talent จึงเป็นจุดตั้งต้นให้ธนาคารกสิกรไทยสร้างโครงการที่จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างความต้องการและการจัดหาบุคลากรในตลาดงาน  ช่วยเจียระไนเพชรในกลุ่มคนที่มีทักษะให้ได้เข้าสู่ตลาดงาน

“พิพิธ เอนกนิธิ” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงการริเริ่มดำเนินโครงการ SKILLKAMP (สกิลแคมป์) ว่าเกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนโอกาสการเติบโตในวิชาชีพให้กับทั้งนักศึกษา/คนทำงานที่เรียนจบในสายดิจิทัลโดยตรง และผู้ที่ไม่ได้จบมาโดยตรงแต่มีความสนใจจะพัฒนาตนเองในสายงานดิจิทัล ธนาคารกสิกรไทยจึงร่วมมือกับ SEEN จาก BASE Playhouse สตาร์ทอัพผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ สร้างเป็นโครงการเวิร์กช็อปเพื่อคนทำงานสายดิจิทัลขึ้น

“พิพิธ เอนกนิธิ” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

ภารกิจของโครงการนี้คือการยกระดับการเรียนรู้และเปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงความสามารถผ่านการพัฒนา Business Case ผู้ที่ผ่านเข้ารอบจนถึงรอบสุดท้ายและเข้าร่วมจนจบโครงการ จะได้รับเกียรติบัตรรับรองประสบการณ์การผ่านโครงการ SKILLKAMP เป็นแต้มต่อในการเข้าสู่องค์กรต่างๆ ในอนาคต

“เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์” CEO & Co-founder BASE Playhouse กล่าวว่า ทาง BASE Playhouse และทางธนาคารกสิกรไทยได้ใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาโครงการนี้ให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่มากที่่สุด

ฝั่ง KBank นั้นมีจุดแข็งในเรื่องพันธมิตร มีเครือข่ายบริษัทชั้นนำที่สามารถกระจายข้อมูลให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นใหม่ ขณะที่ BASE Playhouse เองมีแพลตฟอร์ม SEEN ที่สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนรู้ว่าตนเองโดดเด่นในด้านใดและต้องการเสริมทักษะอะไรเพิ่มเติม นำไปสู่การสร้างเส้นทางเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเอง โดย SEEN จะวัดระดับความสามารถได้อย่างตรงจุด แม่นยำ จากการวิจัยที่ครอบคลุมทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ของสายอาชีพนั้นๆ พร้อมระบบป้องกันการทุจริต ทำให้โครงการ SKILLKAMP เป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ในสายงานได้อย่างเต็มที่

“เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์” CEO & Co-founder BASE Playhouse

โครงการ SKILLKAMP เริ่มเปิดรับสมัครไปเมื่อเดือนมีนาคม 2566 และเปิดรับผู้ที่สนใจแบ่งออกเป็น 5 สายวิชาชีพดิจิทัลที่ตลาดต้องการตัวมากที่สุด ได้แก่

1) Business Analyst
2) Data Analytics and Visualization
3) Front-End Developer
4) Performance Marketing
5) Web Developer

ในรอบแรกที่เปิดรับสมัคร มีผู้สมัครเข้ามาล้นหลามถึง 2,800 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 จนถึงนักศึกษาจบใหม่ และคนทำงานในกลุ่ม first jobbers

รอบต่อมาจะเป็นการคัดเลือกด้วยข้อสอบ Pre-Assessment Test ที่แยกแบบทดสอบตามแต่ละสายวิชาชีพที่สมัคร ซึ่งผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะได้เข้าสู่รอบการทำ Business Case

ในรอบ Business Case นี้ทาง SKILLKAMP จะมีการเชิญ “เมนเทอร์” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากในสายวิชาชีพนั้นๆ มาเป็นที่ปรึกษาการพัฒนา Business Case ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการด้วย โดยผู้เข้าร่วมสามารถติดต่อเมนเทอร์ผ่านข้อความ (text) ได้ตลอดเวลา และนัดจองเวลาเพื่อขอคำปรึกษาจากเมนเทอร์ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ สามารถปรึกษาได้ทุกประเด็น เช่น การวางกลยุทธ์ธุรกิจ การทำแคมเปญอีคอมเมิร์ซ การศึกษาตลาดเชิงประสิทธิภาพ การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ขอเทคนิคพร้อมใช้จากเมนเทอร์เพื่อปฏิบัติจริงได้ดีขึ้น

รอบสุดท้ายของโครงการ SKILLKAMP คือรอบ Final Pitch ซึ่งโครงการจะคัดเลือกผู้เข้าร่วมที่พัฒนา Business Case ได้ดีที่สุดไม่เกิน 10 คนต่อสายวิชาชีพเข้าสู่รอบสุดท้ายนี้ เพื่อมานำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการจากองค์กรธุรกิจชั้นนำทั้งหมด 5 องค์กร ได้แก่ แอสเซนด์ (Ascend) กสิกร ไลน์ (KASIKORN Line) ไรส์ (Rise) สตอรี่ล็อก (Storylog) และ  ไทยเบฟเวอเรจ (ThaiBev)

เสวนากับผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรธุรกิจชั้นนำ

ในการประกวดงานขั้นสุดท้ายจะไม่มีการประกาศผลรางวัล แต่ผู้ที่เข้าสู่รอบ Final Pitch ทั้งหมดจะได้รับประกาศนียบัตรการผ่านโครงการ SKILLKAMP ซึ่งในปี 2566 นี้มีผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายทั้งหมด 45 คน


SKILLKAMP โครงการที่ได้ทำจริงกับตัวจริง

หลังสิ้นสุดรอบ Final Pitch ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง SKILLKAMP ได้รวบรวมความเห็นของผู้ที่ผ่านโครงการ และพบว่าโครงการนี้ได้ช่วยให้บุคลากรดิจิทัลเพิ่มพูนทักษะและประสบการณ์จริง

ยกตัวอย่างความเห็นจากกลุ่มนักศึกษาที่ยังอยู่ระหว่างเรียนและได้เข้าร่วมโครงการนี้ “ณัฐณิชา ธนปุณยนันท์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ มองว่าโครงการนี้เป็นการเปิดประสบการณ์การพัฒนา Business Case ครั้งแรกของตนเองซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่ทำให้ได้ทำอะไรใหม่ๆ ในขณะที่  “ปวีณ์นุช ฐานานุศักดิ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะพาณิชศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เข้าร่วมโครงการในสายวิชาชีพ Performance Marketing มองว่า โครงการนี้มีจุดเด่นที่เมนเทอร์ที่ช่วยให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงใช้ในงานต่อไปและได้พัฒนาทักษะของตนเอง

ในกลุ่มนักศึกษาสายอาชีพก็สามารถสมัครได้เช่นกัน “กัณติกรณ์ สรสุริยวงษ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ปวส. สาขานักพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ มองว่าโครงการ SKILLKAMP เป็นพื้นที่ที่เปิดกว้าง ไม่จำกัดประสบการณ์หรือความรู้ก่อนเข้าโครงการ และบริษัทที่เข้าร่วมในโครงการล้วนน่าสนใจ เป็นโอกาสให้ได้ทดลองทำจริง ได้พัฒนาตัวเอง และอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ที่สนใจสายงานเทคโนโลยีเข้ามาสมัคร

ขณะที่ผู้ที่เรียนจบแล้วก็มีการสมัครเข้าโครงการ “ธรรพ์ณธร จักคำบาง” ซึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะการจัดการ ธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่าตนเองมีความสนใจงานด้านการตลาด (Marketing) แต่ไม่เคยมีประสบการณ์หรือความรู้มาก่อน การเข้าร่วมโครงการนี้จึงเป็นการเปิดมุมมองงานด้านการตลาดได้มากยิ่งขึ้น และได้คำแนะนำ คำชี้แนะที่ดีที่นึกไม่ถึงจากคณะกรรมการ ช่วยเติมเต็มความรู้ในสายงานนี้ได้เป็นอย่างดี


เปิดประตูแห่งโอกาส

โครงการ SKILLKAMP ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ธนาคารกสิกรไทยต่อยอดไปสู่โครงการที่จะเปิดประตูแห่งโอกาส โดยคุณพิพิธกล่าวว่า ล่าสุด KBank ได้เปิดเว็บไซต์ WWW.SKILLKAMP.COM เพื่อรวบรวมหลักสูตรด้านดิจิทัลกว่า 250 หลักสูตร จากผู้พัฒนาหลักสูตรออนไลน์ชั้นนำทั้งหมด 14 แห่ง ได้แก่  9Expert, BorntoDev, ConicleX, DataRockie, FutureSkill, HACKaTHAILAND, Klasssi, LINE Developers Thailand, PrasertCBS, SkillLane, Thai MOOC, ThaiWinner, WeStride และ Zinglecode

จุดประสงค์ของเว็บไซต์นี้ คือการคัดกรองคอร์สเรียนที่มีคุณภาพมานำเสนอกับผู้ที่สนใจต้องการฝึกทักษะดิจิทัลของตนเอง ด้วย 4 ไฮไลท์ฟีเจอร์พิเศษที่สำคัญ ที่จะช่วยประหยัดเวลา และทำให้การค้นหาตรงตามความต้องการ คือ 

  1. Curated Course Aggregator รวบรวมและคัดเลือกหลักสูตรคุณภาพด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เป็นที่ต้องการของตลาด
  2. Suggestion Learning Path แนะนำคอร์สเรียนจากหลากหลายแพลตฟอร์ม เพื่อเสนอหลักสูตรการเรียนรู้ (Learning path) สู่การเริ่มต้นในสายอาชีพ Data analyst, Database admin, Front-End Web Developer และ Digital Marketer ที่ถูกต้อง เหมาะสม รวดเร็ว และดีที่สุด เพื่อการเตรียมตัวให้บรรลุเป้าหมายอาชีพที่ต้องการ
  3. Blog Review บทความพิเศษจากผู้มีประสบการณ์ในสายงานจริง ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การทำงาน การย้ายสายงาน เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา และค้นหาความสนใจของตัวเองได้อย่างตรงความต้องการ
  4. Mentor Feature เมนเทอร์ที่คอยให้คำปรึกษาเจาะลึกของแต่ละหลักสูตร ไขข้อสงสัย และให้คำแนะนำกับผู้เรียน

โดยอนาคต KBank จะมีการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เรียนเพื่อเฟ้นหาบุคลากรคุณภาพมาร่วมงานกับธนาคารกสิกรไทยและบริษัทในเครือ

พิพิธกล่าวด้วยว่า ธนาคารเชื่อมั่นว่าผู้เรียนในหลักสูตร SKILLKAMP จะได้ความรู้และประสบการณ์ไปต่อยอดในการทำงานจริง และในอีกมุมหนึ่ง โครงการจะช่วยให้มี “Tech Talent” เข้าสู่ตลาดงานมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กมีบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้เกิด “ดิจิทัล ทรานสฟอร์ม” ในองค์กรเช่นกัน เป็นกำลังสำคัญเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในโลกธุรกิจแห่งอนาคต

พิเศษ! เมื่อลงทะเบียนแคมเปญหลักสูตรการเรียนรู้จาก SKILLKAMP ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทั้ง Front-End Developer,  Data Analyst,  Database Admin และ Digital Marketer โดยเรียนจบภายในวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคมนี้ สามารถเลือกรับ Voucher เรียนออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์บนเว็บไซต์ FutureSkill หรือ e-voucher starbucks มูลค่าสูงสุดถึง 750 บาท อ่านรายละเอียดแล้วสมัครเลยที่ https://www.skillkamp.com/campaign

 

 

]]>
1435050
เปิดวิสัยทัศน์ ‘Sea Thailand’ กับการปรับตัวสู่ ‘Digital Nation’ ในอีก 10 ปีข้างหน้า https://positioningmag.com/1358728 Wed, 27 Oct 2021 11:17:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1358728 หากพูดถึงการปรับตัวใช้งานดิจิทัลของคนไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าก้าวกระโดดมาก เพราะได้ COVID-19 เป็นตัวเร่ง แต่แค่นั้นจะเพียงพอหรือเปล่า หากพูดถึงการอยู่รอดอย่างยั่งยืนในอีก 10 ปีข้างหน้า Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการ การีนา (Garena) ช้อปปี้ (Shopee) และซีมันนี่ (SeaMoney) ได้ออกมาเผยถึงมุมมองภาพอนาคตยุคดิจิทัลหลัง COVID-19 ผ่านงาน Sea Story 2021: Digital Visionary ในงานเสวนาหัวข้อ “Accelerated Transitions to the Digital Nation”

เศรษฐกิจดิจิทัลไทยโต แต่ขาดแรงงาน

เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่องและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Internet Penetration ในประเทศไทยซึ่งอยู่ที่ 96.5% และยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม แม้การมาของ COVID-19 จะทำให้การปรับใช้ดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ฉุดเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่มีผู้ตกงานกว่า 2.5 ล้านคน และผู้ว่างงานแฝงกว่า 4 ล้านคน กว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอาจต้องรอไปถึงกลางปีหน้า

ขณะที่ความต้องการจ้างงานในอนาคตก็มองหากลุ่มที่มีทักษะงานทางดิจิทัลมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน รวมถึงต้องการสกิลเซตที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีแรงทักษะทางดิจิทัลที่ 55% หรือกว่า 17 ล้านคนที่ยังขาดทักษะ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคมีเฉลี่ยที่ 66% โดยสิงคโปร์มีสูงสุดที่ 75%

และเมื่ออ้างอิงรายงาน IMD World Digital Competitiveness Ranking 2021 พบว่า ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันเป็นอันดับที่ 38 จาก 64 ประเทศทั่วโลก โดยมีปัจจัยด้าน Technology (อันดับที่ 22) เป็นจุดแข็ง และมีปัจจัยด้าน Knowledge (อันดับที่ 42) และด้าน Future Readiness (อันดับที่ 44)

“นี่ถือเป็นความน่ากังวล จะทำอย่างไรให้คนเพิ่มทักษะดิจิทัลที่เหมาะสมให้คนครึ่งประเทศ ถ้ายังละเลยจะยิ่งทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ดังนั้น ต้องรีเลิร์น รีสกิลแรงงาน ไม่เช่นนั้นจะถูกแทนที่ด้วยออโตเมชั่น” มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าว

Aging Society โอกาสและปัญหาสำคัญในอีก 10 ปี

การเข้าสู่สังคมสูงวัย หรือ Aging Society เป็นสิ่งที่หลายคนเริ่มตระหนักแล้ว โดยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ ประชากร 40% เป็นวัยเกษียณ ดังนั้น คนกลุ่มนี้จะมีความระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น ทำให้กำลังซื้อในประเทศจะลดลง เกิดปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ถือเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของไทย ดังนั้น จะเพิ่มคุณภาพของแรงงานที่น้อยลงอย่างไร

อย่างไรก็ตาม อาจจะเห็นธุรกิจที่โตก้าวกระโดดในอีก 10 ปีข้างหน้า เช่น Healthtech, Medtech เพราะจะมาตอบโจทย์ผู้สูงวัย เพราะแม้ว่ากลุ่มผู้สูงวัยจะระวังเรื่องการจับจ่าย แต่เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น

ตอบโจทย์ Segment of One ด้วยดิจิทัล

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร Future Tales Lab by MQDC กล่าวว่า ในอดีต ธุรกิจจะคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขัน 3 ด้าน ได้แก่ ความเร็ว คุณภาพที่สูง ต้นทุนที่ต่ำ แต่ปัจจุบันและใน 10 ปีข้างหน้าจะต้องขับเคลื่อนองค์กรด้วยดาต้าหรือข้อมูลให้ได้ เพราะความต้องการคนที่เปลี่ยนไปไม่สามารถแบงเป็นกลุ่มหรือ Segment ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่เป็น Segment of One นอกจากนี้ต้อง ที่ไหน เมื่อไหร่ ก็ได้ นี่คือความต้องการใหม่ที่เกิดขึ้น

ดังนั้น Digital Adoption จะเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะปัจจุบันองค์กรเริ่มเห็นเรื่องข้อมูล เนื่องจากทุกอย่างออนไลน์ ขณะที่ 62% ของคนไทยต้องการนำดิจิทัลมาใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าสะดวก ดังนั้น จะเห็นว่ามี Digital Tools มาเสิร์ฟความต้องการผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อย ๆ

มณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย)

“ต่อจะไปเห็นการทำงานของออฟไลน์ออนไลน์ (O2O) ที่ไร้รอบต่อ มีการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง business landscape ที่เป็นไปได้มากขึ้น เพราะโอกาสเปิดกว้างมากขึ้น เนื่องจากโลกไม่มีพรมแดนอีกต่อไป”

นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านของแรงงานรุ่นใหม่ องค์กรก็ต้องปรับตัวสู่ Hybrid Work Place หรือแม้กระทั่งการทำงานในโลกเสมือนจริง (Metaverse) เพราะ COVID-19 ทำให้แรงงานรู้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องทำงานในออฟฟิศ ดังนั้น องค์กรก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ ไม่เช่นนั้นอาจนำไปสู่การลาออกครั้งใหญ่ของ Gen Z ที่ต้องการ Work-Life Balance

ตั้งเป้าสร้าง Digital Talent 10 ล้านคน ใน 10 ปี

ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา Sea (Group) ได้ประกาศยุทธศาสตร์ 10 in 10 ตั้งเป้าสร้าง ‘Digital Talent’ 10 ล้านคน ใน 10 ปี โดยปัจจุบัน Sea (ประเทศไทย) สามารถเข้าไปเสริมสร้างทักษะดิจิทัลด้านต่าง ๆ ให้แก่คนไทยได้ราว 3.8 ล้านคน โดยในปีนี้ Sea (ประเทศไทย) จัดโครงการต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่ Mega Trends คือ “E-commerce for All” หรือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนและเพิ่มศักยภาพ SMEs ด้วยอีคอมเมิร์ซ

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ ผู้อำนวยการบริหาร Future Tales Lab by MQDC

เนื่องจากอีคอมเมิร์ซเป็นเครื่องมือสำคัญ โดยจะเห็นว่าตอนนี้การค้าขายบนโลกออนไลน์เป็นช่องทางในการหารายได้เพิ่มเติม สะท้อนให้เห็นได้จากจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่เป็นนักเรียนนักศึกษา แม่บ้าน และพนักงานบริษัทที่มีงานประจำอยู่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ในปัจจุบัน การใช้จ่ายเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์จำนวนมาก

ทั้งนี้ ช้อปปี้ (ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ) มีการเติบโตทั้งในแง่คำสั่งซื้อและความเข้มแข็งของฐานผู้ใช้งาน โดยมีกว่า 1,400 ล้าน Gross Order ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เติบโตราว 127% จากช่วงเดียวกันของปี 2563

]]>
1358728