แว่นตา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 13 Jun 2025 06:45:40 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ชีวิต ‘ติดจอ’ ดันตลาดแว่นตาโตแรง มีมูลค่า 1.24 แสนล้านบาทในอีก 5 ปี https://positioningmag.com/1525969 Fri, 13 Jun 2025 06:45:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1525969 ด้วยการใช้ชีวิตแบบ ‘ติดจอ’ และ ‘ดิจิทัลไลฟ์สไตล์’ ด้วยการท่องโลกออนไลน์ผ่านจอดิจิทัลรูปแบบต่าง ๆ ทำให้คนมีปัญหาด้านสายตามากขึ้น โดยเฉพาะ ‘คนทำงาน’ และ ‘เด็ก’ ส่งผลให้ตลาดแว่นตาในไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ

 

ทิศทางการเติบโตของอุตสาหกรรมแว่นตา

 

ในปี 2024 ตลาดแว่นตาของอาเซียนมีมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท และในอีก 10 ปีข้างหน้า สามารถเติบโตเป็นปีละมากกว่า 400,000 ล้านบาท

 

ขณะที่ในประเทศไทยปี 2024 มูลค่าตลาดดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 63,000 ล้านบาท และคาดการณ์จะมีมูลค่า 124,000 ล้านบาท ภายในปี 2030 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ด้วยอัตราการเติบโต 11.6% ต่อปี

 

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ตลาดนี้เติบโต ประกอบด้วย

1.การก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย’ ทำให้จำนวนผู้มีปัญหาทางสายตาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีสายตายาวตามวัย (presbyopia)

2.การใช้ชีวิตแบบติดจอ ทั้งกลุ่ม ‘วัยทำงาน’ และ ‘เด็ก’ ที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลและมีการใช้ชีวิตดิจิทัลไลฟ์สไตล์

3.การเพิ่มขึ้นของคนชนชั้นกลาง ซึ่งมีกำลังใช้จ่ายและเลือกจ่ายซื้อแว่นตาที่เน้น ‘คุณภาพ’ มากกว่า ‘ราคาถูก’ ทำให้ตลาดแว่นตามีการขยายตัวเชิงมูลค่ามากขึ้นตามไปด้วย

 

กลุ่มลูกค้าหลักของอุตสาหกรรมแว่นตา ได้แก่ วัยทำงาน อายุ 30–55 ปี, กลุ่มผู้สูงวัย อายุ 60 ปีขึ้นไป และ กลุ่มเด็กเล็ก จากปัญหาสายตาสั้นเร็วขึ้นจากการใช้จอดิจิทัล

 

จากแนวโน้มดังกล่าวประเทศไทยมีโอกาสแค่ไหนในธุรกิจนี้ ?

 

ประเด็นนี้ถูกหยิบมาพูดถึงในงานแถลงข่าว ASEAN Int’l Optics Fair ที่จะถูกจัดขึ้นวันที่ 9-11 ต.ค.2568 นี้ โดย สมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ISOPTIK กล่าวว่า ปัจจุบันไทยถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก โดยเป็นผู้ผลิตแว่นตาและเลนส์แว่นตาเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่ประเทศจีน

 

ทั้งนี้ การผลิตของบ้านเรา จะเป็นแว่นตาและเลนส์สายตาคุณภาพสูง ขณะที่จีนเป็นแชมป์ในเชิงปริมาณที่เน้นราคาถูก อย่างไรก็ตาม ปัญหาของไทย คือ ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยีและยังขาดการ R&D ดังนั้น หากไทยอยากเพิ่มขีดการแข่งขันจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของตัวเอง

 

โดยเฉพาะเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากขึ้น จากปัญหาสายตาและต้องการความสะดวกสบายที่ให้สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น โดยตลาดเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 376,000 ล้านบาท ส่วนในอาเซียน มีขนาดตลาดอยู่ที่ 32,750 ล้านบาท ในปี 2024 และคาดว่า จะมีอัตราการเติบโตปีละ 10 % จนมีมูลค่ามากกว่าปีละ 76,000 ล้านบาท ในปี 2035

 

ดร.ลักษณรินทร์ คานิเยาว์ ผู้จัดการฝ่ายวิชาการพัฒนาวิชาการ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(ไทย) จำกัด กล่าวว่า การผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแว่นตาโลก รวมถึงให้ไทยเป็น Hub ของอุตสาหกรรมนี้ในภูมิภาคอาเซียนเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐในการออกกฎเกณฑ์สร้างมาตรฐานและควบคุมคุณภาพให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจและการยอมรับในเวทีระดับโลก

 

ขณะที่ ดร.วุฒิพงษ์ พึงพิพัฒน์ อาจารย์พิเศษ สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ กล่าวถึงทิศทางของอุตสาหกรรมแว่นตาในอาเซียนว่ามีการเติบโตที่ดีตามความต้องการของผู้บริโภคที่มีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตบุคลากรสำคัญอย่างนักทัศนมาตรให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด เช่น ในประเทศไทยตอนนี้มีนักทัศนมาตรเพียง 800 คน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้น จึงควรเร่งผลิตนักทัศนมาตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

]]>
1525969
ยลโฉม ‘Ray-Ban Stories’ แว่นอัจฉริยะจาก ‘Facebook’ https://positioningmag.com/1351266 Fri, 10 Sep 2021 05:39:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1351266 ย้อนไปปี 2562 ‘Facebook’ เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ประกาศว่าจะสร้าง ‘แว่นตาอัจฉริยะ’ โดยร่วมกับ ‘EssilorLuxottica’ บริษัทแม่ของแว่นชื่อดัง ‘Ray-Ban’ และในปี 2563 โดยทาง ‘มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก’ ได้เปิดเผยว่าจะเปิดตัวแว่นอัจฉริยะในปีนี้ ซึ่งล่าสุด ก็ได้เปิดตัว ‘Ray-Ban Stories’

สำหรับ ‘Ray-Ban Stories’ จะมีกล้องขนาด 5MP จำนวน 2 ตัว ทำให้สามารถถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ โดยสามารถบันทึกได้นานสุด 30 วินาที สามารถสั่งได้ด้วยคำสั่งเสียงของ Facebook Assistant โดยเมื่อเกิดการบันทึกภาพแว่นตาจะสว่างขึ้นเพื่อให้รับรู้ได้ว่าแว่นกำลังบันทึกภาพเพื่อความเป็นส่วนตัว

ในตัวแว่นตายังมีลำโพงแบบ open-ear และอาร์เรย์ไมโครโฟน 3 ตัว และมีฟังก์ชันลดเสียงรบกวนภายนอก เพื่อให้รับเสียงได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะใช้ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ คุยโทรศัพท์ได้ รวมถึงการบันทึกเสียงเวลาถ่ายวิดีโอให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ไม่ใช่แค่การถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ และคุยโทรศัพท์ แต่ Ray-Ban Stories สามารถจับคู่ใช้งานร่วมกับแอป ‘Facebook View’ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหากับเพื่อนและผู้ติดตามโซเชียลมีเดียได้ผ่านทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp, Messenger, Twitter, TikTok, Snapchat และสามารถส่งคอนเทนต์ที่ได้จากแว่นไปบันทึงยัง camera roll ของสมาร์ทโฟนได้ด้วยเช่นกัน

สำหรับ Ray-Ban Stories จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ $299 หรือประมาณ 9,800 บาท จากร้านค้าออนไลน์ของ Ray-Ban โดยมีจำหน่ายแล้วทางออนไลน์และในร้านค้าบางแห่งในสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์, อิตาลี และสหราชอาณาจักร

แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Stories นั้นมีให้เลือกมากมายถึง 20 รูปแบบในสไตล์ Ray-Ban สุดคลาสสิก — Wayfarer, Wayfarer Large, Round และ Meteor และมีสีให้เลือก 5 สีพร้อมเลนส์หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น เลนส์ใส, เลนส์กันแดด, เลนส์ทรานซิชันและเลนส์พรีสคริปชัน

Source

]]>
1351266