บริษัทวิจัย Canalys ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 3/2022 ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งแตะระดับต่ำสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2014 เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงทั่วโลก ส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกจะใช้จ่ายกับสิ่งจำเป็นมากกว่าอัปเกรดสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด
“แนวโน้มเศรษฐกิจที่ย้ำแย่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อฮาร์ดแวร์อิเล็กทรอนิกส์และจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ”
แม้ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนปรับตัวดีขึ้นในเดือนกันยายน แต่ก็มาจากส่วนลดและโปรโมชันที่รุนแรง โดย Sanyam Chaurasia นักวิเคราะห์ของ Canalys คาดว่า ช่วงสิ้นปีจะยิ่งดุเดือด เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นที่ผู้คนจะหาซื้อของขวัญ โดยผู้บริโภคเลือกจะรอโปรโมชันส่วนลดสำหรับอุปกรณ์รุ่นเก่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าช่วงสิ้นปีภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนอาจจะกลับมาดีขึ้น แต่ก็เป็นเพราะโปรโมชัน ดังนั้น ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ จะยังทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนในปี 2023 ยังลดลงต่อเนื่อง ดังนั้น ในฝั่งของร้านค้าและผู้ค้าส่วนใหญ่ควรเริ่มกลับมาดูการสต็อกสินค้า เนื่องจากความต้องการที่ลดลง และสินค้าที่เหลือราคาตก เนื่องจากขายไม่ออก
ทั้งนี้ แม้ภาพรวมตลาดจะตกลง แต่ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ Apple เพิ่มขึ้นเป็น 18% ในไตรมาสล่าสุด เทียบกับ 15% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่เบอร์ 1 อย่าง Samsung มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 1% เป็น 22% โดย Angelo Zino นักวิเคราะห์ของ CFRA มองว่า ที่ Apple ยังเติบโตได้ท่ามกลางความต้องการสมาร์ทโฟนที่ลดลง เป็นเพราะจับกลุ่มบนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม Apple เองก็ต้องมีกลยุทธ์การกำหนดราคาของผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงแรงผลักดันที่สำคัญจากผู้บริโภคที่ตอนนี้มักจะอ่อนไหวต่อการขึ้นราคา นอกจากนี้ Apple ยังยกเลิกการผลิต iPhone 14 รุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไปเนื่องจากความต้องการที่ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
]]>สำหรับข่าวล่าสุด LG บริษัทเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ประกาศว่าจะปิดธุรกิจสมาร์ทโฟนทั่วโลก หลังจากที่ประกาศเลิกขายสมาร์ทโฟนในจีนอย่างเป็นทางการเมื่อกุมภาพันธ์ 2561 ในแถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า จะก้าวออกจากการผลิตโทรศัพท์เพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจอื่น เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า สินค้ากลุ่มบ้านอัจฉริยะ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ที่ผ่านมา LG เป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนของสหรัฐฯ บริษัทยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนด้านบริการ และการอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับลูกค้าผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือไปแล้ว โดยจะวางกรอบระยะเวลาแตกต่างกันไปตามภูมิภาค
ก้าวที่พลาดไปของ LG เชื่อว่าเกิดจากการวางจุดยืนเน้นผลิตสมาร์ทโฟนระดับกลาง และระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิต เช่น Huawei, Xiaomi และ Oppo ที่เปิดตัวรุ่นที่ราคาถูกกว่า เบื้องต้นจากข้อมูลของเว็บไซต์ TechCrunch มีข่าวลือแพร่สะพัดในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า LG ต้องการขายธุรกิจสมาร์ทโฟน แต่เพราะธุรกิจไม่เติบโตพอทำให้ไม่สามารถบรรลุการซื้อขายได้ตามแผนที่วางไว้
ดังนั้น จึงพามาย้อนรอยดู 5 นวัตกรรมมือถือของ LG กัน
หนึ่งในนวัตกรรมที่ LG เคยการันตีไว้คือ ลำโพงบลูมบ็อกซ์ สปีกเกอร์ (Boombox Speaker) ในโทรศัพท์รุ่นถัดไปอย่าง LG G7 ThinQ ว่าจะให้พลังเสียงที่เหนือกว่าลำโพงของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในท้องตลาด โดยย้ำว่าลำโพงจะให้กำลังเสียงเบสเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ขณะที่โทรศัพท์จะถูกวางราบกับโต๊ะเรียบ
ก่อนหน้านี้ LG เคยโชว์ข้อมูลบางส่วนของสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป G7 ThinQ โดยเรียกน้ำย่อยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีหน้าจอสว่างพิเศษ 1,000 nits เท่ากับ Galaxy Note 8 แต่จะเหนือกว่า iPhone X ที่ถูกทดสอบพบว่ามีค่าความสว่างสูงสุด 625 nits ล่าสุด LG ตัดสินใจเผยแพร่จุดขายใหม่ ก่อนที่สมาร์ทโฟนจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมปีนั้น
จุดขายใหม่ของ LG คือ Boombox Speaker ให้ตัวเลขว่า ลำโพงนี้สามารถเพิ่มระดับเสียงพื้นฐานได้ 6dB พร้อมกับเสียงเบสที่จะดังขึ้น 2 เท่า จากข้อมูลการตรวจวัดของแอลจี เทียบได้ว่าลำโพงของ G7 จะดังกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปถึง 10 เท่า
ประเด็นนี้ถูกยอมรับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะสมาร์ทโฟนมักมีข้อจำกัดทางกายภาพทำให้เสียงจากลำโพงภายในไม่มีคุณภาพเท่าลำโพงคุณภาพสูง กรณีของ LG เจ้าพ่อกิมจิยืนยันว่า ข้อจำกัดทั้งหมดนี้ถูกปลดทิ้งไปได้ เพราะลำโพงใหม่ ซึ่งเหมือนได้โบนัส คุณภาพเสียงเบสจะดีขึ้นอีก หากผู้ใช้วางสมาร์ทโฟนบนพื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ หรือพื้น
หลังจากเปิดตัวในงาน IFA ที่กรุงเบอร์ลินเมื่อกลางปี 2561 LG เริ่มจำหน่ายสมาร์ทโฟน 2 หน้าจอ “G8X ThinQ” เมื่อตุลาคม 2562 ความหวังคือการตอบโจทย์ทุกคนที่โดนใจปรากฏการณ์สมาร์ทโฟนพับได้แบบหน้าจอคู่ ท้าชนรุ่นใหญ่ที่มีหน้าจอแสดงผลพับเก็บได้อย่าง Samsung Galaxy หรืออุปกรณ์จอคู่ของ Microsoft อย่าง Surface Duo ที่กำลังจะเปิดตลาด แต่ใช้วิธีแถมจอเสริมเพื่อให้ผู้ใช้ต่อหน้าจอเพิ่มเป็นแอกเซสซอรีที่ถอดออกได้เมื่อไม่ต้องการใช้งาน
สำหรับ G8X ThinQ ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า LG Dual Screen จะเริ่มต้นที่ราคา 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21,200 บาท
มิถุนายน 2561 ยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้เปิดสงครามกล้องสมาร์ทโฟนให้ร้อนระอุ ด้วยการจัดเต็มกล้อง 5 ตัว เพื่อติดตั้งลงในสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป คาดว่าจะทำให้มือถือ LG เหนือกว่าสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่ครองตลาดโลกขณะนั้น
รายงานชี้ว่า กล้อง 5 ตัวของ V40 จะประกอบด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับ Huawei P20 Pro ของหัวเว่ย ที่ประเดิมทำระบบกล้องทริปเปิลคาเมราเป็นรายแรก ผลจากการติดกล้อง 3 ตัว จะทำให้การถ่ายภาพหมู่บุคคลมีมิติมากขึ้น อาจให้ผลชัดลึก หรือซูมที่แปลกตาในภาพหมู่ที่มีการนั่งเรียงแถวหน้า และหลัง
กล้องอีก 2 ตัวจะถูกติดไว้ที่ด้านหน้าของ V40 ระบบกล้องคู่ด้านหน้านี้เดินตาม HTC U12 Plus ของเอชทีซี จากไต้หวัน ข่าวลือระบุว่า กล้องคู่นี้อาจทำให้ผู้ใช้สามารถปลดล็อกด้วยใบหน้า รวมถึงใช้งานแอปพลิเคชันวิเคราะห์ใบหน้าอื่นได้ดี
ในที่สุด LG ก็แจ้งเกิด V40 ThinQ จัดเต็มกล้องดิจิทัล 5 ตัวในเครื่องหน้าจอใหญ่ 6.4 นิ้วเครื่องเดียวตามข่าวลือ โดยแบ่งเป็นกล้องหลัง 3 ตัว และกล้องหน้า 2 ตัว หั่นขอบเครื่องให้บางลง พร้อมกับลำโพงเทคโนโลยีใหม่
ราคาพรีเมียม 900-980 เหรียญสหรัฐ หรือ 29,400-32,000 บาท เริ่มทำตลาด 18 ตุลาคม ที่ตลาดสหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้ LG เคยตกเป็นข่าวเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่สามารถบินได้เหมือนโดรน แม้ในเวลานั้นยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม แต่มีการระบุว่า สมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีโหมด Flying Face time ให้ผู้ใช้ที่มือไม่ว่างสามารถคุยวิดีโอคอลกับปลายสาย โดยที่สมาร์ทโฟนนี้สามารถลอยมาจับภาพใบหน้าผู้ใช้ได้ชนิดไม่ต้องเมื่อยมือ
แน่นอนว่า LG ไม่ได้พัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ออามาวางจำหน่ายจริง ในเวลานั้นสมาร์ทโฟนเครื่องร่อนลูกผสมนี้ถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “โดรนโฟน” (Drone Phone) ซึ่ง LG เรียกอีกชื่อว่าแอลจี ยูพลัส (LG U+) ตัวแนวคิด
วิดีโอนี้ถูกเปิดตัวเมื่อปลายปี 2016 สะท้อนว่าสมาร์ทโฟนทูอินวัน โดรน และโทรศัพท์เคลื่อนที่นี้ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถทำวิดีโอคอลหรือเซลฟี่ได้ โดยที่เครื่องลอยอยู่บนอากาศ จุดนี้มีรายงานว่า LG U+ สามารถหมุนวนเพื่อจับภาพได้แบบ 360 องศา ทำให้ผู้ใช้ที่กำลังทำกิจกรรมทุกชนิด สามารถบันทึกภาพวินาทีประทับใจได้ ทั้งขณะปีนหน้าผา บันจี้จัมพ์ หรือทำอาหาร
สำหรับประเทศไทย ความสดใหม่ที่ LG เคยทำไว้คือการเปิดจำหน่าย LG G6 ที่การันตีเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์แรกที่มาพร้อมดอลบี้ วิชัน HDR 10 และ FullVision หน้าจอขยายเต็ม ใช้งานสะดวกง่ายดายเพียงมือเดียว เวลานั้น LG จับมือเอไอเอส จัดโปรโมชันร่วมกันซื้อ LG G 6 แถมทีวี 43 นิ้ว มูลค่ากว่า 13,900 บาท
โปรโมชันนี้เกิดขึ้นหลังการว่างเว้นการทำตลาดสมาร์ทโฟนไทยไปกว่า 6 เดือน
ทั้ง 5 ความตื่นเต้นจากสมาร์ทโฟน LG เหล่านี้กำลังกลายป็นตำนาน ซึ่งตอกย้ำว่านวัตกรรมน่าตื่นเต้นอาจไม่มีพลังพอที่จะสร้างประโยชน์ให้ยอดขายบริษัทเสมอไป
]]>