โอเปก – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 03 Apr 2023 06:18:58 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 จับตา “ราคาน้ำมัน” หลัง OPEC+ ประกาศลดกำลังการผลิตลง 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน https://positioningmag.com/1425996 Mon, 03 Apr 2023 06:11:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425996 หลังจาก OPEC+ ประกาศลดกำลังการผลิตลง 1.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน ล่าสุด สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 5.07% เป็น 83.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 5.17% เป็น 79.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำหรับการปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC+ จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงสิ้นสุดปี 2566 โดยซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การปรับลดกำลังการผลิตเป็น มาตรการป้องกันการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน หลังจากที่ รัสเซียจะลดการผลิตน้ำมันลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน จนถึงสิ้นปี 2566

ประเทศสมาชิกอื่น ๆ ได้ให้คำมั่นว่าจะลดกำลังการผลิตลงตามลำดับ โดย ซาอุดีอาระเบียจะลด 500,000 บาร์เรลต่อวัน และ UAE จะลด 144,000 บาร์เรลต่อวัน รวมถึงการลดกำลังการผลิตอื่น ๆ จากคูเวต โอมาน อิรัก แอลจีเรีย และคาซัคสถาน

“แผนของ OPEC+ สำหรับการลดการผลิตเพิ่มเติมอาจผลักดันราคาน้ำมันให้แตะระดับ 100 ดอลลาร์อีกครั้ง เมื่อพิจารณาจากการเปิดประเทศของจีนและการลดกำลังการผลิตของรัสเซีย ที่ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก” Tina Teng นักวิเคราะห์ของ CMC Markets กล่าว

มีการคาดการณ์ว่าอุปสงค์ของจีนกลับมาที่ 16 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจากข้อมูลของ Wood Mackenzie จีนสามารถคิดเป็น 40% ของความต้องการที่ฟื้นตัวของโลกในปี 2566

ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคมราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 เนื่องจากผู้ค้ากลัวว่าการล้มของธนาคารอาจบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก โดยกลุ่มค้าน้ำมันและพันธมิตรกำลังหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในปี 2008 ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงนั้นมีความผันผวนอย่างมาก

“พวกเขากำลังมองไปยังช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และตัดสินใจว่าพวกเขาไม่ต้องการหวนนึกถึงปี 2008 ที่ราคาน้ำมันพุ่งจาก 35 ดอลลาร์เป็น 140 ดอลลาร์” Bob McNally ประธาน Rapidan Energy Group กล่าว

Source

]]>
1425996
‘ซาอุดีอาระเบีย’ ยัน! ไม่มีแผนผลิตน้ำมันเพิ่ม แม้เกิดความผันผวนของราคา https://positioningmag.com/1374464 Fri, 18 Feb 2022 02:57:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1374464 ซาอุดีอาระเบีย ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน และจะไม่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงกับรัสเซียและผู้ผลิตรายอื่น ๆ ที่ยังคงจำกัดระดับการผลิตน้ำมันไว้ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เกิดความกังวล เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น และความตึงเครียดกับรัสเซียในยูเครนยังเพิ่มความไม่แน่นอนให้ตลาดเชื้อเพลิง

ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี Joe Biden ได้ส่ง Brett McGurk ผู้ประสานงานตะวันออกกลางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ Amos Hochstein ผู้แทนด้านพลังงานของกระทรวงการต่างประเทศไปยังริยาดเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับสงครามที่ดำเนินอยู่ในเยเมนและการจัดหาพลังงานทั่วโลก

โดยเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียสองคนบอกกับ Associated Press ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียได้แจ้งให้องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC+ ทราบถึงความมุ่งมั่นของราชอาณาจักรต่อแผนงานปัจจุบันของกลุ่มในการเพิ่มปริมาณการผลิตอย่างระมัดระวังทุกเดือน

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กษัตริย์ซัลมาน ได้ตรัสกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า จะเน้นถึง “ความสำคัญของการรักษาข้อตกลง” ของ OPEC+ พันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันที่นำโดยซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียมีความสามารถในการผลิตประมาณ 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ปัจจุบัน ผลิตอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสอดคล้องกับการควบคุมของ OPEC+ ในช่วงการระบาดของ COVID-19

ปัจจุบัน เกณฑ์มาตรฐานราคาน้ำมันดิบซื้อขายที่ประมาณ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี  โดยค่าเฉลี่ยของน้ำมันเบนซินปกติหนึ่งแกลลอนในสหรัฐอเมริกามีราคาประมาณ 3.50 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 40% จากค่าเฉลี่ย 2.50 ดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา

สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด

ที่ผ่านมากลุ่ม OPEC+ ได้ปฏิเสธแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด โดยตัดสินใจที่จะเพิ่มความระมัดระวังในแต่ละเดือนแทน ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย เนื่องจากมอสโกต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรจากตะวันตกต่อยูเครน

เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมัน และราคาน้ำมันที่สูงและอัตราเงินเฟ้อที่สูงนั้นเป็นวัฏจักรและส่งผลกระทบต่อกันและกัน ผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีอุปทานเพียงพอกับความต้องการ เพื่อที่ราคาจะไม่ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง ” Amos Hochstein กล่าว

Fatih Birol กรรมการบริหารของ IEA ก็ได้เรียกร้องให้ผู้ผลิต OPEC+ “เพิ่มปริมาณให้กับตลาด” เพื่อลดความผันผวนของราคาที่สร้างภาระให้ครัวเรือน

Source

]]>
1374464
‘OPEC+’ ตัดสินใจเพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน แม้ ‘Omicron’ ระบาดอาจทำให้ความต้องการลดลงก็ตาม https://positioningmag.com/1365360 Fri, 03 Dec 2021 11:25:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1365360 OPEC+ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ตัดสินใจที่จะเพิ่มระดับการผลิตน้ำมันในเดือนมกราคม แม้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ที่อาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมัน โดยเฉพาะภาคการเดินทางลดลง

ก่อนหน้านี้พันธมิตร OPEC+ ที่นำโดยซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย ได้ต่อต้านแรงกดดันที่นำโดยสหรัฐฯ ในการเพิ่มผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญเพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่หลายส่วนคาดว่า กลุ่ม OPEC+ จะลดกำลังการผลิตในเดือนมกราคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเกิดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ส่งประเทศต่าง ๆ ที่เร่งรีบเพื่อกำหนดขอบเขตการเดินทางใหม่และครุ่นคิดมาตรการอื่น ๆ ที่สามารถลดความต้องการน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลต่อราคา

แต่หลังจากการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นเวลากว่าชั่วโมงเล็กน้อยในบ่ายวันพฤหัสบดี สมาชิก 13 คนขององค์กรกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในกรุงเวียนนาและพันธมิตรทั้ง 10 ของพวกเขาตัดสินใจที่จะ เพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อยที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ทุกเดือนเหมือนที่ทำกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

การตัดสินใจดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันมาตรฐานทั้งสองสัญญา WTI และ Brent ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมที่ 62 ดอลลาร์และ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามลำดับ จากนั้นพวกเขาฟื้นตัวมาเกือบ 67 ดอลลาร์และ 70 ดอลลาร์ ทั้งคู่เพิ่มขึ้นในวันนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดที่บันทึกไว้ในปลายเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ การประชุมกลุ่ม OPEC+ มีขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ตัดสินใจที่จะลดปริมาณสำรองทางยุทธศาสตร์เพื่อช่วยลดราคาน้ำมันดิบ หลังจากที่ราคาพุ่งสูงขึ้นซึ่งบั่นทอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งสหรัฐอเมริกายินดีกับการตัดสินใจของสมาชิก OPEC+ เพื่อเพิ่มผลผลิต

“เราเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก” เจน ซาซากิ โฆษกทำเนียบขาว กล่าว

อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกกับสำนักข่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าว “อธิบายได้จากข้อเท็จจริงที่ว่าตลาดมีเสถียรภาพและความต้องการดังกล่าวกำลังฟื้นตัว” อย่างไรก็ตาม เขารับทราบว่ามี “ความไม่แน่นอนอยู่มาก” ที่เชื่อมโยงกับตัวแปร Omicron และกล่าวว่า “แน่นอนว่าเราจะติดตามสถานการณ์นี้ไปพร้อมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อดูว่ามันส่งผลต่อการเดินทางอย่างไร”

Source

]]>
1365360
‘โอเปก’ ยืนยันส่งน้ำมันดิบ 4 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลค่าน้ำมันแพงสุดในรอบ 7 ปี https://positioningmag.com/1355217 Wed, 06 Oct 2021 07:04:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1355217 ช่วงนี้ราคาน้ำมันในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้ำมันไฮพรีเมียมดีเซล อยู่ที่ระดับ 35.06 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 อยู่ที่ 31.15 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่ใช่แค่ไทย แต่ขึ้นทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากจาก ‘โอเปก’ (OPEC) หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ยืนยันว่าจะส่งออกน้ำมันดิบเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

ราคาน้ำมันทั่วโลกพุ่งขึ้นในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันยังคงใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไปในการฟื้นฟูผลผลิตในช่วงการระบาดใหญ่ โดยตกลงที่จะส่งออกเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ยาวถึงเดือนเมษายน 2565

จากแนวทางดังกล่าว ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้น จากการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิด โดยเฉพาะจากการเดินทางต่าง ๆ ที่มีมากขึ้นเนื่องจากการผ่อนตลายมาตรการข้อจำกัดต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ น้ำมันเบนซินและน้ำมันเครื่องบิน ยิ่งไปกว่านั้น ราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงผิดปกติกำลังผลักดันให้ผู้ผลิตไฟฟ้าบางรายในเอเชียเปลี่ยนจากก๊าซธรรมชาติไปเป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำมัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนมากกว่า

ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมาแล้วมากกว่า 50% ปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หนึ่งบาร์เรลแตะระดับ 78.93 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.7%

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น เมื่อเขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ในกลุ่มโอเปกคนสำคัญของซาอุดิอาระเบียในการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างเงื่อนไขเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19

โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยังคงติดต่อกับสมาชิกโอเปกเกี่ยวกับราคาและกำลังมองหาเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาเนื่องจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงขึ้น พร้อมย้ำว่าจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่ต่อไป แม้ว่าสหรัฐฯ จะไม่ใช่สมาชิกของโอเปกก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถลดราคาน้ำมันสำหรับประชาชนชาวอเมริกันได้

โดยจากราคาน้ำมันดิบทำขึ้นประมาณครึ่งหนึ่งของต้นทุนน้ำมันเบนซินที่ปั๊มในราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยแห่งชาติของสหรัฐอเมริกายังทรงตัวที่ประมาณ 3.20 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตามรายงานของสหพันธ์สมาคมยานยนต์ AAA โดยเพิ่มสูงขึ้นค่าเฉลี่ยปีที่แล้วอยู่ที่ 97 เซ็นต์

ขณะที่ทางฝั่งรัฐบาลประเทศจากสหภาพยุโรปได้มีกำหนดประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการรับมือร่วมกันหรือไม่ โดย อันแดรย์ บาบิช นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก กล่าวว่า สถานการณ์เริ่มหนักหน่วง ราคาที่สูงนั้นเป็นปัญหาต่อศักยภาพการแข่งขันของเศรษฐกิจยุโรป และยังส่งผลกระทบต่องบจับจ่ายของผู้บริโภค ด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ สหภาพยุโรปอาจจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงด้วย

Source

]]>
1355217
อุตสาหกรรม ‘พลังงาน’ อาจสูญรายได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เหตุการเดินทางที่ลดลงเพราะ COVID-19 https://positioningmag.com/1276358 Thu, 30 Apr 2020 11:26:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276358 แม้ว่า สหรัฐอเมริกา ได้กดดัน องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ที่นำโดยซาอุดีอาระเบียและชาติพันธมิตรนำโดย “รัสเซีย” จนสามารถทำให้บรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ใน 5 ของกำลังการผลิตเดิม เนื่องจากความต้องการน้ำมันที่ลดลงทั่วโลกเพราะ COVID-19 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า เพราะความต้องการที่ลดลง อาจทำให้บริษัทด้านพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน อาจสูญเสียรายได้ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

(photo: Shutterstock)

บริษัทวิจัย Rystad Energy ระบุว่า ก่อนที่ไวรัสจะเริ่มโจมตีเศรษฐกิจ บริษัทได้คาดการณ์ว่ารายได้จากกลุ่มอุตสาหกรรม E&P หรืออุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมถึงอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ในปี 2020 จะสูงถึง 2.35 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีที่ผ่านมาทำรายได้ 2.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่หลังจากเกิดวิกฤติ COVID-19 ส่งผลให้การใช้งานน้ำมันลดลง จึงมีการปรับคาดการณ์ว่าปี 2020 นี้ อุตสาหกรรม E&P จะสามารถทำรายได้เพียง 1.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลงไป 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ภาคพลังงานมีการหดตัวอย่างรุนแรงจนกลายเป็นกลุ่มที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองในดัชนี S&P ทั้งหมด อุตสาหกรรมในขณะนี้คิดเป็นเพียง 3% ของดัชนีเมื่อเทียบกับ 15% ในทศวรรษที่แล้วและ 30% ในปี 1980”

(Photo by Laurel Chor/Getty Images)

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า ในปี 2020 สหรัฐฯ ได้สูญเสียความต้องการใช้งานน้ำมันถึง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) เนื่องจากธุรกิจสำคัญในหลาย ๆ ประเทศถูกบังคับให้ต้องปิดตัวลงและประชาชนหลายล้านคนถูกกักตัวอยู่แต่บ้าน ส่งผลให้การบินในสหรัฐอเมริกาลดลง 95% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงกว่า 60% ต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี แม้ว่าสหรัฐอเมริกาได้กดดันโอเปกให้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงแล้วก็ตาม

Source

]]>
1276358
OPEC บรรลุข้อตกลงลดกำลังผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน พยุงราคาน้ำมันฝ่าวิกฤต COVID-19 https://positioningmag.com/1272917 Mon, 13 Apr 2020 04:05:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272917 กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และชาติพันธมิตรที่นำโดยรัสเซียบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเมื่อวันที่ 12 เม.. ว่าจะปรับลดกำลังผลิตลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันในช่วงที่ไวรัส COVID-19 ระบาด

มาตรการชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง และราคาร่วงดิ่งเหว ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อชาติผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลก รวมไปถึงอุตสาหกรรมน้ำมันจากหินดินดาน (shale) ในสหรัฐฯ ที่เสี่ยงต่อปัญหาราคาตกต่ำมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า

กลุ่มโอเปกพลัสมีมติเห็นพ้องให้ลดกำลังผลิตลง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือราวๆ 10% โดยจะมีผลในช่วงเดือน พ..-มิ.. หลังใช้เวลาเจรจาต่อรองกันนานถึง 4 วัน และยังถูกประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันให้เร่งแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ

มติครั้งนี้ถือเป็นการปรับลดกำลังผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุด มากกว่าเมื่อช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2008 ถึง 4 เท่า และแม้ว่าผู้ผลิตจะทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดตั้งแต่เดือน มิ.. เป็นต้นไป แต่กำลังการผลิตก็จะยังต่ำกว่าปกติไปเรื่อยๆ จนถึงเดือน เม.. ปี 2022

ข้อตกลงน้ำมันที่ยิ่งใหญ่กับโอเปกพลัสสำเร็จลุล่วงแล้ว และมันจะช่วยปกป้องงานหลายแสนตำแหน่งในอุตสาหกรรมพลังงานของสหรัฐฯทรัมป์ ทวีตข้อความ พร้อมกล่าวขอบคุณประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียที่มีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดข้อตกลงนี้ขึ้น

การระบาดใหญ่ (pandemic) ของเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกลดลงราว 1 ใน 3 ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของคูเวตคาดการณ์ว่า ท้ายที่สุดแล้วข้อตกลงของโอเปกพลัสอาจทำให้กำลังผลิตทั่วโลกหายไปถึง 20 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากผู้ผลิตที่อยู่นอกกลุ่มก็คงจะช่วยลดกำลังผลิตด้วยส่วนหนึ่ง

เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุฯ บอกกับรอยเตอร์ว่า ยอดการผลิตที่ลดลงอย่างแท้จริงในกลุ่มโอเปกพลัสอาจสูงถึง 12.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวตมีแนวโน้มว่าจะลดกำลังการผลิตลงอีก ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอย่างบราซิล, แคนาดา, อินโดนีเซีย, นอร์เวย์ และสหรัฐอเมริกา ก็คาดว่าจะลดกำลังผลิตของตัวเองลงประมาณ 4-5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ข่มขู่ซาอุฯ ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มโอเปกว่าจะรีดภาษีน้ำมันและใช้บทลงโทษอื่นๆ หากไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐฯ ด้วย

ข้อตกลงลดกำลังผลิตของโอเปกพลัสฉบับก่อนหน้านี้ต้องล่มไป หลังเกิดข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับซาอุดีอาระเบียจนนำมาสู่สงครามตัดราคา ซึ่งส่งผลให้น้ำมันล้นตลาดในช่วงที่อุปสงค์ทั่วโลกร่วงดิ่งเหวจากมาตรการล็อกดาวน์

Source

]]>
1272917
บริษัทน้ำมัน Saudi Aramco ทำสถิติใหม่มูลค่า IPO สูงสุดในโลก เเซง “อาลีบาบา” https://positioningmag.com/1256166 Fri, 06 Dec 2019 14:59:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1256166 Photo : Reuters

Saudi Aramco บริษัทผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย สร้างสร้างสถิติใหม่มูลค่า IPO สูงสุดในโลก เเซงหน้าเเชมป์เก่าอย่าง “อาลีบาบา”

โดยบริษัทเปิดขายหุ้นต่อสาธารณชน (IPO) เป็นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์ Tadawul กรุงริยาดห์เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย ด้วยมูลค่า IPO รวม 25,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เเละราคา 8.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งถือว่ามูลค่าสูงที่สุดในโลก ล้มเเชมป์เก่าอย่าง “อาลีบาบา” อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีนที่เคยเสนอขาย IPO ได้รวม 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2014

เเม้ว่ามูลค่าตลาด (Market Capitalization) ของบริษัท Saudi Aramco หลังการเสนอขายหุ้น IPO ให้สาธารณชนครั้งนี้ อยู่สูงถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เเต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าที่มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เคยตั้งเป้าไว้ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม Saudi Aramco ก็ยังคงเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยสูงกว่ามูลค่าตลาดของแอปเปิล ซึ่งอยู่ที่ 1.15 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่ผ่านมาบริษัท Saudi Aramco เป็นเเหล่งเงินทุนของราชวงศ์ซาอุฯ ที่ถือครองหุ้น 100% ตั้งแต่ปี 1980 และกำไรของบริษัทมักจะถูกจัดสรรไปเป็นงบประมาณสำหรับการบริหารงานของรัฐบาลซาอุฯ

เเละการขายหุ้น IPO ของ Saudi Aramco ครั้งนี้เป็นไปตามความมุ่งหมายของมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ต้องการนำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศ ซึ่งในปีนี้มีอัตราการว่างงานสูงถึง 10% เเละต้องการลดการพึ่งพาน้ำมันทางเศรษฐกิจ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงมาอย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2014

ทั้งนี้ การประชุมขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาระหว่างวันที่ 5-6 ธ.ค. คาดว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 40% เพื่อช่วยหนุนราคาน้ำมันโลก

 

ที่มา : BBC , Reuters
ภาพ : Reuters

]]>
1256166