แบรนด์ “ห้าดาว” หรือ Five Star เกิดขึ้นในไทยตั้งแต่ปี 2528 แต่มาเริ่มขยายในลักษณะแฟรนไชส์เมื่อ 20 ปีก่อน จนปัจจุบันมีถึง 6,000 สาขาในไทย และ 1,600 สาขาที่ต่างประเทศ การขยายแฟรนไชส์มานานสองทศวรรษสะท้อนว่า แบรนด์ห้าดาวสามารถสนับสนุนให้พันธมิตรที่ลงทุนร่วมกันเห็นความสำเร็จได้จริง โดยที่รากฐานไม่ต้องเป็นนักธุรกิจมาก่อน แต่ต้องมีความตั้งใจและเรียนรู้

“สร้างฐานะ” เป็นความฝันที่หลายคนมีแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ถ้าจะเปิดร้านค้าขายจะขายอะไร แล้วทำอย่างไรให้มีคนซื้อ คำถามเหล่านี้ถูกตอบโจทย์ด้วยธุรกิจแฟรนไชส์ โดยมีแบรนด์ “ห้าดาว” เป็นหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์มากประสบการณ์ที่ช่วยสนับสนุนให้คนธรรมดากลายเป็นเถ้าแก่มาแล้ว 6,000 สาขาในไทย

ห้าดาวมีหลายกรณีศึกษาที่ซื้อแฟรนไชส์ไปใช้แล้วประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น “นิตยา ดาดขุนทด” นักธุรกิจห้าดาว ตลาดเคหะโคราช ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นชีวิต นิตยาเคยเป็นแม่บ้านดูแลลูก แต่เมื่อลูกเข้าโรงเรียน ทำให้เธอต้องการทำธุรกิจเพื่อช่วยสร้างรายได้ให้ครอบครัว โดยมีความฝันแบบเดียวกับคนทั่วไปคือต้องการให้ชีวิตสบายขึ้น

นิตยาเลือกห้าดาวเพราะเป็นแบรนด์ที่รู้จักอยู่แล้ว จึงติดต่อปรึกษาทีมงานห้าดาว และเมื่อทีมงานได้ช่วยวิเคราะห์ทำเลก็ได้คำแนะนำว่าถ้าขายไก่ย่างบริเวณนี้จะมีคู่แข่งมาก จึงปรับมาเลือกไก่ทอดห้าดาวแทน ซึ่งกลายเป็นการเลือกลงทุนที่ถูกต้องและทำให้ร้านขายดี

ระหว่างทำธุรกิจกับห้าดาว นิตยาได้แนวคิดวิธีทำธุรกิจ เข้าใจการปรับสินค้าให้ตรงกับตลาดอย่างต่อเนื่อง และนำเงินที่ได้ไปต่อยอดลงทุนทำบ้านเช่า จนวันนี้มีบ้านเช่า 18 หลังที่เริ่มต้นมาจากการเปิดซุ้มขายไก่ทอดห้าดาว

“จากที่เคยคิดว่าอยากได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ปรากฏว่าได้มากกว่านั้นเป็นสิบเท่า แล้วพี่ก็ภูมิใจว่าเงินที่ใช้สร้างบ้าน 18 หลัง พี่ได้มาจากการขายไก่ห้าดาว” นิตยากล่าว

สูตรสำเร็จ: แฟรนไชส์ที่แข็งแกร่ง+นักธุรกิจที่ตั้งใจจริง

ถอดสูตรความสำเร็จของนิตยาและนักธุรกิจห้าดาวอีกหลายคนที่มีเรื่องราวคล้ายคลึงกัน ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้มาจากทั้งสองส่วนคือ ห้าดาวผู้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ และตัวนักธุรกิจที่รับแฟรนไชส์ไปใช้

แบรนด์ห้าดาวมีจุดเด่นหลายอย่างที่ช่วยให้นักธุรกิจห้าดาวตั้งตัวง่ายขึ้น เช่น

1) สูตรอาหาร ทั้งสินค้าเดิมที่อร่อยถูกใจผู้บริโภค และสินค้าใหม่ที่บริษัทพัฒนาออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านนำไปใช้ดึงลูกค้าได้เป็นวงกว้างมากขึ้น

2) แบรนด์และการตลาด การที่แบรนด์ห้าดาวเป็นที่รู้จักของคนไทยมาตั้งแต่ปี 2528 และบริษัทยังคงทำการตลาดให้สม่ำเสมอ ลูกค้ารู้จักรสชาติและทราบถึงมาตรฐานสินค้า ทำให้การขายง่ายขึ้น

3) ระบบขนส่งวัตถุดิบ มีระบบจัดส่งสินค้าที่ชัดเจน และมีศูนย์จัดส่งกระจายสินค้าอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเปิดร้านบริเวณไหนก็จัดส่งให้ได้อย่างครอบคลุม

แต่ถึงแม้ว่าบริษัทจะคิดระบบให้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ก็ยังต้องอาศัยความตั้งใจและการศึกษาพื้นที่ของนักธุรกิจที่มาร่วมลงทุน อย่างนิตยาที่ศึกษาทำเลไว้ตั้งแต่แรกว่าลงสินค้าประเภทไหนจะเข้าถึงลูกค้าและทำให้ขายได้ดีกว่า โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงสินค้ามากน้อยแตกต่างกันตามความเหมาะสมของแต่ละร้านแต่ละทำเลและหลังจากขายไปสักระยะก็ต้องศึกษาลูกค้าว่าน่าจะต้องการสินค้าอะไรมาเสริมให้ร้าน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคขึ้นไปอีก

“ห้าดาว” เป็นฐานไปสู่ธุรกิจอื่น

เคสของนิตยายังน่าสนใจมากขึ้นว่า แม้ไก่ห้าดาวจะเป็นธุรกิจเล็กๆ ที่ลงทุนไม่มาก เริ่มต้นเพียง 40,000 บาทสำหรับร้านแบบ mini kiosk (ค่าใช้จ่ายรวมทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าอบรม ค่าสินค้า วัสดุอุปกรณ์และตู้แช่) แต่เธอสามารถใช้กำไรที่ได้และความรู้จากการทำธุรกิจห้าดาวไปต่อยอดทำธุรกิจอื่นคือการทำบ้านเช่า เพราะแม้จะเป็นร้านขนาดเล็กแต่ก็ทำให้ได้ประสบการณ์ สร้างให้เกิด ‘สายตาแบบนักธุรกิจ’ เห็นหนทางและเป้าหมายชัดขึ้นว่าควรลงทุนอย่างไรต่อ

นอกจากประสบการณ์ตรงแล้ว ห้าดาวยังมีส่วนช่วยสนับสนุนนักธุรกิจห้าดาวให้มีองค์ความรู้เพิ่มขึ้นด้วย โดยสร้างระบบนิเวศที่ช่วยส่งเสริม ผ่านการสัมภาษณ์เคสของนักธุรกิจรายอื่นๆ มาเผยแพร่เพื่อให้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

ห้าดาวจึงเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ที่เริ่มต้นได้ไม่ยาก เพราะมีการสนับสนุนที่ครอบคลุมมากกว่า และยังช่วยสร้างประสบการณ์ให้นักธุรกิจ เพื่อนำไปต่อยอดเป้าหมายของตัวเองได้

-สนใจทำธุรกิจห้าดาว สอบถามรายละเอียดที่ http://www.fivestar.in.th หรือโทร 02-800-8000

-ค้นหาแรงบันดาลใจ และความรู้ในการทำธุรกิจจากบทเรียนอื่น ๆ ได้ที่ http://www.fivestar-class.com หรือแอดไลน์ @FiveStarClass ได้เลย