ไทยชนะ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 03 Mar 2021 04:47:06 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 The Pizza Company เล่นใหญ่! อัดฉีด 1 แถม 1 พ่วงลุ้นทอง หลังตลาดซบหนักกว่าโควิดรอบแรก https://positioningmag.com/1321421 Mon, 01 Mar 2021 16:31:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1321421 The Pizza Company จัดแคมเปญใหญ่ในรอบปี ดึงโปรคู่บุญ 1 แถม 1 แต่ต้องเล่นใหญ่ลุ้นทอง อัดฉีดครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี หลังเจอศึกรอบด้าน ผู้บริโภคไม่เข้าร้านเพราะเราชนะ ตลาดซบหนักกระทบจาก COVID-19 หนักกว่ารอบแรก ต้องกระตุ้นหนักกว่าเดิม วอนภาครัฐรักลูกให้เท่ากัน เยียวยาทุกฝ่าย

1 แถม 1 ไม่พอ ต้องแจกทอง!

ที่ผ่านมาวงการร้านอาหารมีการอัดโปรโมชันไม่ว่าจะลดแลกแจกแถม หรือโปรร่วมกับฟู้ดเดลิเวอรี่ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น แต่ตอนนี้ร้านอาหารต้องมาถึงจุดที่ต้องกระตุ้นตลาดด้วยการอัดโปรโมชันลุ้นทองกันแล้ว! เพราะแค่โปรลดราคาไม่เพียงพออีกต่อไป

เป็นประจำทุกปีที่ The Pizza Company จะจัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 เป็นโปรคู่บุญที่จัดทุกเดือนมีนาคม จัดติดต่อกันเป็นปีที่ 20 แล้ว เนื่องจากเป็นเดือนเกิดของแบรนด์นั่นเอง

ในปีที่แล้วเป็นช่วงล็อกดาวน์ของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้คนอยู่บ้านกันเยอะขึ้น โปร 1 แถม 1 จึงเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน จากปกติที่โปรโมชันจะมีแค่เดือนมีนาคมเท่านั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายของลูกค้า

แต่ในปีนี้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ COVID-19 จะยังไม่คลี่คลาย แถมยังดูแย่กว่าการแพร่ระบาดรอบแรกในปีที่แล้วอีกด้วยซ้ำ แม้ห้างจะไม่ปิด ไม่มีการล็อกดาวน์ แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคหาย บางคนไม่มีเงินแล้ว หรือไม่มีงาน ทำให้การขายยิ่งยากกว่าเดิม

โจทย์ของ The Pizza Company ในปีนี้แค่อัดโปรโมชัน 1 แถม 1 คงไม่พอแล้ว ต้องเล่นใหญ่ยิ่งกว่าเดิม ในปีนี้เลยพ่วงแจกทองเข้ามา หวังกระตุ้นกำลังซื้อให้มากขึ้น เลยเอาทองเข้ามาดึงดูด เพราะเป็นไอเท็มที่คนไทยชอบ สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้

ภาณุศักดิ์ ซื่อสัตย์บุญ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เล่าว่า

“การแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่นี้ ทำให้ตลาดซึมกว่าที่คิด ก่อนที่จะมีแคมเปญแจกทองได้คิดว่าจะมีกิจกรรมอื่นๆ มีการคิดเยอะแยะ แต่เราเห็นว่าตลาดซึมมาก มีสัญญาณตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ห้างฯ ใหญ่ๆ ยอดขายตกหมด เลยมาพลิกเกมใหม่ ได้คุยกับลูกค้าต่างจังหวัด พบว่าลูกค้าอยากได้เงิน แต่เราแจกเงินไม่ได้ เพราะไม่ได้รวยเหมือนรัฐบาล เลยทำเป็นแจกทอง เป็นอีกอย่างที่คนไทยอยากได้ เพราะเปลี่ยนเป็นเงินได้ เป็นการฉลอง 20 ปีไปในตัวด้วย”

แคมเปญใช้ชื่อว่า 1 แถม 1 พลัส ด้วยการแจกทองคำแท่ง หนักรวม 200 บาท มูลค่า 5 ล้านบาท ซื้อพิซซ่า 1 แถม 1 หน้าอะไรก็ได้ ราคา 239 บาทขึ้นไป ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับทองได้ทุกสาขาทั่วประเทศ แจกทุกสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2564

การแจกทองครั้งนี้เรียกว่าเป็นแคมเปญครั้งใหญ่ที่สุด ทางแบรนด์เคยจัดชิงโชครถมอเตอร์ไซค์ 20 คันมาแล้วในปีก่อน แต่ไม่ค่อยถูกใจผู้บริโภคเท่าไหร่ เพราะเปลี่ยนเป็นเงินยาก มองว่าแจกทองจึงถูกใจคนไทยมากที่สุด

“เราชนะ” พ่นพิษ ทำคนไม่เข้าร้าน

คนละครึ่ง เราชนะ COVID-19 โรงเรียนไม่ปิดเทอม… ล้วนเป็นส่วนผสมทำให้ The Pizza Company ต้องกุมขมับอย่างหนักในตอนนี้

ภาณุศักดิ์ เสริมว่า นอกจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 พบว่าหลังจากมีมาตรการเยียวยาของทางรัฐบาลต่างๆ ได้สร้างผลกระทบอย่างหนัก ไม่ว่าจะ คนละครึ่ง เราชนะ ที่จะให้เงินเยียวยาผ่านทางแอปพลิเคชัน เพื่อใช้จ่ายตามร้านเล็กๆ ในชุมชน แต่ไม่สามารถใช้จ่ายตามร้านในศูนย์การค้าได้

“หลังจากมีไทยชนะทำให้คนเข้าห้างฯ น้อยลง ผู้บริโภคเอาเงินเยียวยาไปซื้อร้านข้างนอกหมด แต่ธุรกิจเล็กใหญ่ก็เจ็บตัวเหมือนกัน วอนให้รัฐช่วยเหลือกันด้วย คนที่มีกิจการใหญ่ก็เจ็บมาก คนมีกิจการน้อยก็เจ็บน้อย แต่พอมีมาตรการช่วยบางคน ไม่ช่วยบางคน”

เหมือนรัฐบาลรักลูกไม่เท่ากัน อย่างน้อยต้องให้ทุกบริษัทเข้าร่วมมาตรการ ให้โอกาสคนมาใช้เงินกับเราบ้าง ให้เราได้ใช้บ้าง

นอกจากไทยชนะแล้ว ร้านอาหารยังต้องเจอกับปัญหาใหญ่ก็คือ “โรงเรียนยังไม่ปิดเทอม” หลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะศูนย์การค้า ร้านอาหาร ล้วนเฟื้องฟูในช่วงปิดเทอมอย่างมาก เพราะเป็นช่วงที่ผู้ปกครองพาเด็กๆ มาเที่ยวเล่นในห้างฯ มาจับจ่ายใช้สอย

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ที่เพิ่งมีการเปิดเรียนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ยังไม่ทราบเลยว่าจะมีการปิดเทอมหรือไม่ การเข้าห้างฯ ก็ยิ่งลดลง แถมเลยเทศกาลปาร์ตี้ จัดเลี้ยงไปแล้วด้วย ทำให้การขายเหนื่อยหนักเป็น 2 เท่า

ปรับแผนกันรายอาทิตย์!

จากแผนการตลาดที่มีการวางเป็นรายปี ก็เริ่มขยับปรับเปลี่ยนทุกไตรมาส ทุกเดือน จนตอนนี้ต้องมีการประเมินสถานการณ์ ปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์เลยทีเดียว

“ตอนนี้การทำงานต้องคุยกันอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ตอนแรกเตรียมแผนเปิดสินค้าที่เน้นการทานในร้านก็ต้องหยุด เพราะไม่มีคนมาทาน นิวยอร์ก พิซซ่าต้องปรับให้มีไซส์ 15 นิ้วเพื่อให้ส่งบ้านได้ ต้องมีการปรับแผนกันหมด แต่ยังดีที่พิซซ่าเป็นสินค้าที่เหมาะสั่งทานที่บ้าน” 

Photo : Shutterstock

สำหรับเดือนมีนาคมปีที่แล้วที่มีโปร 1 แถม 1 สามารถสร้างยอดขาย 1,000 ล้านบาท โตกว่าปีก่อนๆ 10% เป้าหมายของปีนี้ ภาณุศักดิ์บอกว่า อยากได้ยอดขายเท่าปีที่แล้ว หรืออยู่ที่ 800-1,000 ล้านบาท ไม่หวังให้เติบโตมากกว่าเดิม เป็นการหวังสูงไป เพราะปีที่แล้วมีปิดเทอม มีการล็อกดาวน์ที่ชัดเจน แต่ปีนี้ยังไม่รู้ว่าจะปิดเทอมเมื่อไหร่ กำหนดอนาคตยาก

“แต่ก่อนถ้ามีโปรแบบนี้จะสบายใจแล้ว คนพร้อมจะกินได้ทุกเมื่อ เดี๋ยวเงินก็เข้า แต่ตอนนี้เราไม่รู้เงินในกระเป๋าลูกค้าว่ามีมากน้อยแค่ไหนแล้ว” 

สำหรับปีนี้ยังมีแผนที่จะขยายอีก 4-5 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างจังหวัด ทำให้ปัจจุบันมีสาขารวมทั้งหมด 417 สาขา เป็นสาขาแฟรนไชส์ 50%

]]>
1321421
รู้จัก “หมอชนะ” แอปติดตาม COVID-19 ที่แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงได้ไวกว่า “ไทยชนะ” https://positioningmag.com/1288283 Fri, 17 Jul 2020 06:44:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1288283 นอกจากแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่เป็นแอปสำหรับติดตามกลุ่มคนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ยังมีแอป “หมอชนะ” ด้วยเช่นกัน จากเคส “ทหารอียิปต์” ก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในสถานที่เดียวกันได้ แม้ไม่ได้เช็กอิน

หมอชนะคือใคร คนละแอปกับไทยชนะ

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลายคนได้รู้จัก “หมอชนะ” กันมากขึ้น ในฐานะแอปพลิเคชันติดตามในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย เริ่มเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 แต่หลายคนยังสับสนกับแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ใช้สหรับเช็กอินตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ตามตัวบุคคลได้ง่าย จะมาเล่าเรื่องราวของหมอชนะให้รู้จักกันมากขึ้น

แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” คือ Contact Tracing Application เป็นความร่วมมือของ 3 ฝ่าย ประชาชน เอกชน และรัฐบาล พัฒนาขึ้นโดยทีมพัฒนาร่วมประชาชน นำโดยกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ ภายใต้ชื่อ “Code for Public” และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และการวิเคราะห์ข้อมูลภายใต้ชื่อ “กลุ่มช่วยกัน” ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสถาบันการศึกษา เครือข่ายโรงพยาบาลและองค์กรสาธารณสุข หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรธุรกิจจำนวนมาก พร้อมกับภาครัฐกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม

เป็นระบบเก็บข้อมูลการเดินทางของประชาชน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบ และประเมินระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อ COVID-19 จากสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการวิเคราะห์ระดับความเสี่ยงในการติดเชื้อของประชาชนที่เข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว

การทำงานของหมอชนะจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ก็คือ เป็นแอปที่ให้ผู้ใช้งานสามารถรายงานความเสี่ยงในการติดเชื้อของตัวเองได้ และแจ้งเตือนผู้ใช้หากเข้าใกล้พื้นที่เสี่ยงที่มีผู้ติด COVID-19 นั่นเอง

หลักการทำงานของหมอชนะเพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน จากนั้นแค่เปิด GPS และ Bluetooth ไว้ โดยที่ไม่ต้องทำการ “เช็กอิน” ใดๆ เหมือนอย่างไทยชนะ เมื่อแอปได้ทำการตรวจพบว่าผู้ใช้มีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ทางแอปก็จะทำงานและแจ้งเตือนเมื่อพบว่าผู้ใช้งานมีความเสี่ยงติดเชื้อ โดยกลไกเหล่านี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ถือแอปหมอชนะได้รับการแจ้งเตือนได้ทันทีแม้ว่าจะไม่ได้ทำการสแกนเช็กอิน QR Code ของระบบไทยชนะก็ตาม

โดยการแจ้งเตือนนี้จะทำให้ผู้ถือแอปหมอชนะได้ทราบว่าตนเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการของตน รวมถึงต้องติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขทันทีเพื่อที่จะได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว และป้องกันการแพร่ระบาดไปยังบุคคลรอบข้างด้วย

ประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง

หมอชนะได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย และเน้นในการคัดกรองความเสี่ยง โดยไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพ และข้อมูลส่วนบุคคล การลงทะเบียนใช้แอปจึงเป็นแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous)

โดยที่คณะรวมอาสาสมัครยังได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จัดตั้งกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบกระบวนการจัดการข้อมูลให้เป็นไปตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โค้ดแอปยังมีลักษณะเป็น “โอเพ่นซอร์ส (Open Source)” เพื่อให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และง่ายต่อการส่งต่อไปยังระบบอื่นๆ เพื่อขยายผลต่อไปอีกด้วย

ระบบตั้งให้ข้อมูลที่อยู่ในระบบมีอายุ 30 วัน เมื่อข้อมูลอยู่ในระบบครบตามอายุแล้วระบบทำลายข้อมูลที่หมดอายุโดยอัตโนมัติ และข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบทิ้งภายใน 30 วันหลังจากจบวิกฤตการแพร่ระบาด

ซึ่งหัวใจการทำงานของแอป อยู่ที่การรายงานผลเป็นค่าสีต่างๆ ตามระดับความเสี่ยง แบ่งเป็น

  • สีเขียว สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีอาการ ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
  • สีเหลือง สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งอาจจะมีอาการไข้หวัด แต่ไม่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
  • สีส้ม สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยง เพราะเป็นคนที่มีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา แต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่เด่นชัด คนในกลุ่มนี้ต้องกักตัวอยู่กับบ้านจนครบ 14 วัน พร้อมทั้งเฝ้าระวัง ถ้ามีอาการควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
  • สีแดง สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงมาก เพราะทั้งมีอาการ และมีประวัติไปต่างประเทศ หรือใกล้ชิดผู้มีความเสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา จะต้องรีบไปโรงพยาบาลทันทีส่วนขั้นตอนการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก เพียงดาวน์โหลด อัพโหลดรูป ตอบคำถามประเมินสุขภาพเบื้องต้นจากกรมควบคุมโรค เปิด GPS & Bluetooth ไว้ ระบบก็พร้อมทำงานและแจ้งเตือนได้ทันทีถ้าพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนของเบอร์โทรศัพท์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะไม่แจ้งตอนติดตั้งแอปได้ นอกจากนี้ ยังไม่ต้องแจ้งชื่อนามสกุลตอนดาวน์โหลด และไม่จำเป็นต้องเช็กอินเช็กเอาต์เพื่อให้ระบบทำงาน

แจ้งเตือนความเสี่ยงได้ไวกว่าไทยชนะ?

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยตื่นตระหนกกับกรณีของ “ทหารอียิปต์” ที่เข้ามาพักที่จังหวัดระยอง พร้อมกับได้เดินทางไปห้างสรรพสินค้าในจังหวัดระยองอีกด้วย

แต่เรื่องราวได้ร้อนระอุขึ้น เมื่อชาวบ้านจังหวัดระยองต้องการทราบพื้นที่ที่กลุ่มทหารเหล่านี้ได้เดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม และห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อโทรติดต่อไปยังหน่วยงานรัฐ กลับไม่สามารถให้ข้อมูลได้ พร้อมกับแจ้งว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง ซึ่งจริงๆ แล้วประชาชนทั่วไปมีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล เพื่อได้ประเมินความเสี่ยงของตนเอง

แต่แอปพลิเคชันหมอชนะสามารถจับโลเคชั่นของบุคคลที่เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว ในวัน และเวลาเดียวกัน โดยได้ทำการส่งข้อความแจ้งเตือนบุคคลที่ไปห้างแหลมทองในเวลาที่ทหารอียิปต์ไป พบทั้งหมด 10 ท่าน หาเจอด้วยระบบ GPS ทำให้กลุ่มเสี่ยงรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

กลายเป็นว่าหมอชนะเป็นที่สนใจของประชาชนมากขึ้น เพราะสามารถแจ้งเตือนได้รวดเร็ว อีกทั้งยังประเมินความเสี่ยงได้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้

]]>
1288283