ไทยประกันชีวิต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 15 Dec 2022 09:17:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดตำนาน Sadvertising หนังรักทัชใจของ “ไทยประกันชีวิต” มากกว่าโฆษณา แต่คือ “แรงบันดาลใจ” https://positioningmag.com/1412624 Fri, 16 Dec 2022 04:00:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1412624

ถ้าพูดถึงผลงานโฆษณาที่สร้างความประทับใจให้คนไทยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ไทยประกันชีวิต” อยู่เป็นแน่ หลายคนอาจจะมอบมงให้ว่าเป็นเจ้าพ่อโฆษณาดราม่า หรือเจ้าพ่อโฆษณาไวรัล มีการตั้งฉายาที่แตกต่างกันไป เพราะในการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาแต่ละครั้ง มีแต่คนตั้งตารอคอย

“ไทยประกันชีวิต” ได้บุกเบิกการสร้างภาพยนตร์โฆษณาที่ท้าทายวงการอย่างมาก ถ้านับถึงปัจจุบัน ก็เป็นเส้นทางยาวนานกว่า 20 ปีมาแล้ว ซึ่งโฆษณาดังกล่าวจะมี DNA ของไทยประกันชีวิตอยู่เสมอ ทำให้ในการปล่อยโฆษณาแต่ละครั้ง ทุกคนจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิต

จริง ๆ แล้วอาจจะไม่เหมือนโฆษณาเลยก็ว่าได้ ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังรักฉบับย่อม ๆ DNA อันโดดเด่นของหนังโฆษณาจะมีเรื่องราวที่เน้น Emotional เข้าถึงความรู้สึกของผู้ชม มีเรื่องราว และสตอรี่ที่กินใจ เรียกได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จักโฆษณาไทยประกันชีวิต และอาจเคยเสียน้ำตาอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

จนถือได้ว่าเป็นต้นแบบการสร้างภาพยนตร์โฆษณารักเรียกน้ำตา ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของอีกหลาย ๆ แบรนด์ในการทำโฆษณาที่เรียก Emotional กันมากขึ้น ส่งผลให้ “ฟิลิป คอตเลอร์” ปรมาจารย์ด้านการตลาดระดับโลกนิยามคำว่า “Sadvertising” ให้กับภาพยนตร์โฆษณาของไทยประกันชีวิต รวมถึงได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก

Sadvertising ของไทยประกันชีวิตมีจุดเริ่มต้นที่ผลงาน Peace of mind มีเนื้อหาเล่าถึงหญิงสาวคนหนึ่งไปขอให้คุณหมอผ่าคลอดลูกให้ก่อนกำหนด เพราะสามี หรือพ่อของลูกป่วยเป็นโรคร้าย และอาจจะไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเจอหน้าลูกได้ เธอเองต้องการให้ลูกอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ และให้พ่อได้สัมผัสลูกเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้าย

ปฐมบทของ Sadvertising ได้เกิดจากส่วนผสมอันลงตัวของเหล่าขุนพลด้านครีเอทีฟของไทยทั้ง “กรณ์ เทพินทราภิรักษ์” อดีตผู้อำนวยการบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และผู้กำกับหนังโฆษณาระดับโลก  “ธนญชัย ศรศรีวิชัย” หรือ ต่อ ฟีโนมีนา เรียกว่าเป็นผู้กำกับมือทอง และเป็นคู่กำกับคู่บุญของไทยประกันชีวิตมาโดยตลอด

หลังจากผลงานชิ้นแรก ไทยประกันชีวิตได้มีปล่อยผลงานออกมาเรื่อยๆ แต่ที่รวบรวมมาอยู่ในแคมเปญ 80 ปี The Original Sadvertising เป็นโฆษณาจำนวน 11 เรื่อง ได้แก่ Peace of mind (2546), Everlasting love (2547), My son (2548), My Girl (2549), Melody of Life (2551), Silence of Love (2554), Forget me not (2555), Unsung Hero (2557), Que Sera Sera (2557), Mother knows best (2561) และ Until we meet again (2564)

ในช่วงที่ผ่านมา หนังโฆษณาของไทยประกันชีวิตได้ทำลายข้อจำกัดของหนังโฆษณาในหลาย ๆ อย่าง ในยุคที่คนไม่สนใจโฆษณา แต่กลับดึงดูดให้คนสนใจ และจดจ่อกับโฆษณาได้ รวมไปถึงโฆษณาทางโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะมีความยาวไม่เกิน 15-30 วินาที เพราะด้วยอัตราค่าโฆษณาที่ค่อนข้างสูง รวมไปถึงผู้ชมอาจไม่ได้สนใจ แต่ไทยประกันชีวิตทำโฆษณาที่มีความยาวมากกว่า 1 นาทีได้สำเร็จ

Sadvertising ได้แจ้งเกิดตั้งแต่ในยุคที่ออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟูเท่าไหร่นัก แต่สามารถทำให้คนกล่าวขานกันในโลกออฟไลน์เป็นวงกว้างได้ สร้างอิมแพ็คต่อสังคมได้ จนในยุคที่ออนไลน์เริ่มเป็นที่นิยม มีการเสพวิดีโอออนไลน์มากขึ้น เริ่มมีการแชร์จนเรียกกันว่า “ไวรัล” เกิดขึ้น เห็นได้ชัดจากผลงาน Unsung Hero มียอดวิวมากกว่า 100 ล้านวิว และ Que Sera Sera สร้างปรากฎการณ์ร้องเพลง Que Sera Sera กันทั่วเมือง

หลายคนอาจจะมองว่าหนังโฆษณาของไทยประกันชีวิตเป็นหนังดราม่าเรียกน้ำตา แต่จริงๆ แล้ว โจทย์ใหญ่ของหนังโฆษณาไม่ได้ต้องการให้ทุกคนร้องไห้ ซาบซึ้ง หรือโศกเศร้ากับเนื้อหา แต่เป็นการสร้างคุณค่ามากกว่าหนังโฆษณาทั่วไป เนื้อหาเน้นการสร้างให้เห็นถึงคุณค่าของตนเอง คุณค่าของคนอื่น พร้อมกับตั้งคำถามว่าเรามีชีวิตเพื่ออะไร และมีชีวิตเพื่อใคร เน้นสร้างสรรค์สังคม และส่งต่อแรงบันดาลใจ

โจทย์สำคัญของไทยประกันชีวิตเองก็ไม่ได้ต้องการขายของ ขายประกันแบบฮาร์ดเซลล์ เพราะผู้บริโภคไม่ชอบวิธีการตลาดแบบนั้น ใช้วิธีการสร้างแบรนด์ ให้ผู้บริโภคเข้าใจแก่นของแบรนด์

ไชย  ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางการสร้างแบรนด์ผ่านภาพยนตร์โฆษณาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

“มีคำถามว่าถ้าเราทำหนังโฆษณาสินค้าประกันชีวิต คนในสมัยนั้นมีความรู้ความเข้าใจสินค้าประกันชีวิตไหม เพราะสินค้าประกันชีวิตมีความซับซ้อน เราก็หันกลับมามองว่าการประกันชีวิตคืออะไร  ผมตั้งคำถามว่า คนซื้อประกันชีวิตไปทำไม ซื้อเพราะมีความรัก มีความห่วงใยคนที่เขารัก คนที่อยู่ในครอบครัว  หรือมีความรักตัวเอง จึงพบว่าแก่นของการประกันชีวิตเป็นเรื่องของความรัก ช่วงแรกเราจึงถ่ายทอดหนังโฆษณาอยู่บนแกนของ “คุณค่าความรัก” (Value of Love) ต่อมาพบว่า นอกจากคุณค่าของความรัก มีเรื่อง “คุณค่าของชีวิต” เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกคนถ้าตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตตัวเองก่อน แล้วต้องตระหนักในคุณค่าชีวิตของคนอื่นด้วย นั่นคือที่มาของคำว่า Value of life หรือคุณค่าของชีวิต และตกผลึกสู่คุณค่าของมนุษย์ (Value of People) นอกจากนี้เรากำหนดเจตนารมณ์ของแบรนด์ (Brand Purpose) ในการเป็นแบรนด์ที่ได้รับการชื่นชม ความไว้วางใจ และมุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนในสังคม เพื่อจุดประกายความคิดให้กับคนในสังคมมาอย่างต่อเนื่อง”

หนังโฆษณาของไทยประกันชีวิต ไม่ใช่โฆษณาขายสินค้า แต่เป็นการสร้างสรรค์สังคม ผ่านการสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อส่งมอบคุณค่า และกระตุ้นให้คนฉุกคิด และหันกลับมามองสังคมรอบตัว โดยใช้การเล่าเรื่องแบบ Storytelling หัวใจความสำเร็จของหนังโฆษณาไทยประกันชีวิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ “Content is king” โดยเนื้อหาของเรื่องราวของหนังสามารถเชื่อมโยงบริบทกับผู้ชมสร้างอารมณ์ร่วมให้คนสนใจ และเกิดความผูกพันกับเนื้อหา ขณะเดียวกันต้องสด โดนใจ เพราะความเหมือนไม่เคยเปลี่ยนโลก และแกนหลักสำคัญที่ขาดไม่ได้ “การสร้าง Controversial Issue” ประเด็นให้ผู้ชมถกเถียง เกิดความคิดและมุมมองที่แตกต่างกัน และกลายเป็นกระแสในการแสดงความคิดเห็นต่อหนังโฆษณา

ทางด้าน กรณ์ เทพินทราภิรักษ์ ครีเอทีฟผู้สร้างสรรค์หลากหลายงานโฆษณาไทยประกันชีวิต กล่าวว่า

“หนังโฆษณาแต่ละเรื่องนั้นเกิดจากการสำรวจว่าขณะนั้นมีประเด็นทางสังคมอะไร คนกำลังชอบอะไร หรือหลงลืมอะไร เพื่อมองหาประเด็นให้ผู้ชมเกิดการถกเถียง หรือกระตุ้นการตระหนักคิด โดยหนังโฆษณาทั้งหมดที่ผลิตต้องมีคุณสมบัติ เป็นมากกว่าหนังโฆษณาที่สร้างอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมทั่วไป แต่เป็นหนังที่มีความปรารถนาดีต่อผู้ชม ยกตัวอย่างเรื่อง Peace of Mind หนังโฆษณาเรื่องแรกของไทยประกันชีวิต ที่เนื้อหาเล่าถึงวาระสุดท้ายของพ่อที่ป่วยด้วยโรคร้าย แม่จึงตัดสินใจขอให้หมอทำคลอดก่อนกำหนด เพื่อให้ลูกกับพ่อได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของชีวิต ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างจากโครงเรื่องจริง โดยมีวัตุประสงค์ต้องการให้ผู้ชมเกิดการตระหนักรู้ถึงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต”

ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิต กล่าวว่า

“พวกเรามีเจตจำนงเดียวกันคือ มีความปรารถนาดี มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในหนังโฆษณา เพื่อจะทำให้โลกและสังคมดีขึ้น การทำหนังโฆษณาเราไม่ต้องการทำหนังที่จบด้วยการร้องไห้ แต่ต้องให้ข้อคิดและคุณค่าแก่ผู้ชม ทั้งนี้ การร้องไห้ไม่ได้หมายความถึงการเสียใจ แต่เกิดจากความซาบซึ้งปิติ หรือการได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจนทำให้กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซึ่งคือจุดประสงค์หลักในการทำงาน และเมื่อผู้ชมเกิดความประทับใจ จะทำให้เกิดการจดจำ ดูได้ต่อเนื่องและหลายครั้ง เป็นผลให้โฆษณาสามารถสื่อสารได้กับคนทุกยุค”

ในวาระการดำเนินงานครบรอบ 80 ปี ไทยประกันชีวิตเปิดตัวแคมเปญ 80 ปี The Original Sadvertising” รวบรวมภาพยนตร์โฆษณารักที่เป็นเอกลักษณ์ และเคยสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชม รวมถึงหลายเรื่องกลายเป็น Talk of the Town นำกลับมาให้รับชมอีกครั้งบน YouTube Channel Thai Life Insurance : Playlist  The Original Sadvertising เพื่อให้ผู้ที่เคยรับชม รวมถึงผู้ที่อาจไม่เคยได้ชมภาพยนต์โฆษณาของไทยประกันชีวิต ได้ร่วมซาบซึ้งกับเรื่องราวความรักที่ไม่มีวันหมดอายุ และร่วมสัมผัสคุณค่าแห่งความรักในหลากหลายรูปแบบ สามารถรับชมได้ที่ http://bit.ly/3UOi5kw

ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย เชื่อว่าหนังรักของไทยประกันชีวิตก็ยังคงสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมอยู่เสมอ เพราะไม่ว่าเราจะดูตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว หรือดูในปี 2565 ก็ยังคงซาบซึ้งใจ และยังคงทำให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิตอยู่เสมอ เรียกว่า Sadvertising เป็นมากกว่าหนังรัก มากกว่าโฆษณา แต่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการมีชีวิต และสร้างสรรค์สังคมได้อย่างดีเยี่ยมตลอดกาล

]]>
1412624
ไทยประกันชีวิต ระดมทุน 3.44 หมื่นล้านบาท เตรียมขึ้นแท่น IPO ใหญ่สุดของไทยในปี 2022 https://positioningmag.com/1390195 Mon, 27 Jun 2022 11:10:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1390195 บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เดินหน้าแผนการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยจะระดมทุนมูลค่า 34,400 ล้านบาท โดยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นจะนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมความแข็งแกร่งช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตร รวมถึงการนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีอีกด้วย

สำหรับการเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นนั้นชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “วันนี้ไทยประกันชีวิตจึงพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน ผ่านการปรับกระบวนทัศน์ในการดำเนินธุรกิจทุกด้าน โดยยกระดับสู่การเป็น Data Driven Company ดำเนินธุรกิจผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานแบบครบวงจรและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในลักษณะเฉพาะบุคคลได้อย่างแท้จริงการเสนอขายหุ้น IPO ของไทยประกันชีวิตในครั้งนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่มิติใหม่ รองรับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน”

นอกจากนี้เขาเองยังได้กล่าวเสริมว่า “คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่คู่แข่งบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่เป็นคู่แข่งที่ไม่ได้ทำธุรกิจแบบเดียวกัน แต่สามารถขายผลิตภัณฑ์ได้บนแพลตฟอร์มใหม่ๆ”

บริษัทได้ชี้ถึงจุดเด่นของบริษัทดังนี้

  • บริษัทประกันชีวิตรายแรกและรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีเจ้าของเป็นคนไทย
  • ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณที่มีมูลค่าสูง เน้นกรมธรรม์ที่ไม่อ่อนไหวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีมาร์จิ้นดีกว่า
  • บริษัทมีตัวแทนประกันมากถึง 64,000 ราย ซึ่งรายได้จากช่องทางนี้สูงถึงเกือบ 50%
  • มีงบการเงินที่แข็งแกร่ง ทำกำไรต่อเนื่อง 15 ปีติดต่อกัน รวมถึงมีพันธมิตรสำคัญนั่นก็คือ Meiji Yasuda Life Insurance ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น

สำหรับไทยประกันชีวิตนั้นมีผลการดำเนินงานในปี 2021 บริษัทมีรายได้รวม 109,246 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 8,394 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 25,955 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,793 ล้านบาท

หุ้น TLI ที่นำมา IPO ครั้งนี้จะมีสัดส่วนไม่เกิน 18.8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งมีทั้งหุ้นสามัญเพิ่มทุน รวมถึงกลุ่มไชยวรรณซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของไทยประกันชีวิตได้ขายหุ้นออกมาบางส่วนด้วย

ราคาหุ้นของ TLI ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนนั้นราคาอยู่ที่ 16 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะทำให้มูลค่าบริษัทของไทยประกันชีวิตนั้นอยู่ที่ประมาณ 183,200 ล้านบาท และจะทำให้บริษัทประกันภัยรายนี้มีโอกาสสูงมากที่จะติดดัชนี SET50 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยขนาดมูลค่าของบริษัท

นอกจากนี้เม็ดเงินในการระดมทุน 34,400 ล้านบาท ยังคาดว่าจะเป็นการระดมทุนที่ใหญ่สุดของปี 2022 ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกด้วย และเป็น IPO บริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทยอีกด้วย รวมถึงมีสิทธิ์ลุ้นเป็น 1 ใน IPO ของธุรกิจประกันที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนในปี 2022 อีกด้วย

]]>
1390195
“ไทยประกันชีวิต” เตรียม IPO สยายปีกสู่การเป็น Life Solutions Provider เพื่อเป็นทุกคำตอบของประกันชีวิต https://positioningmag.com/1375778 Fri, 04 Mar 2022 10:00:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1375778

บิ๊กมูฟครั้งใหญ่ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)(“ไทยประกันชีวิต”) เตรียม IPO และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”)ด้วยวิสัยทัศน์ “มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืน” วางจุดยืนเป็นมากกว่าบริษัทประกันชีวิตโดยจะเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือLife Solutions Provider


เติบโตเคียงข้างคนไทยตลอด80ปี

ถ้าพูดถึงตลาดประกันชีวิต ประกันสุขภาพ แน่นอนว่าแบรนด์แรกๆ ที่นึกถึง ต้องมี “ไทยประกันชีวิต” อยู่ใน Top of Mind ของคนไทยอย่างแน่นอน ต้องบอกว่าไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตซึ่งก่อตั้งโดยคนไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย¹ อยู่เคียงข้างคนไทยมาตลอด 80 ปี และยังคงยึดมั่นที่จะดูแลคนไทยในทุกช่วงเวลา

o จากยุคบุกเบิก ไทยประกันชีวิตใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เข้าถึงประชาชนในระดับเกษตรกรด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายเดือน พร้อมสร้างอาชีพให้กับคนไทยในต่างจังหวัด

o ต่อมาในยุคสร้างสรรค์ ไทยประกันชีวิตมุ่งสร้างแบรนด์ของคนไทยให้ได้รับความเชื่อมั่น และไว้วางใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนในสังคม พร้อมนำเสนอนวัตกรรมสินค้าและการบริการที่หลากหลาย

o มาจนถึงปัจจุบันยุคคิดต่าง ซึ่งไทยประกันชีวิตพร้อมก้าวสู่การเป็น Life Solutions Providerเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล

พร้อมฝ่าฟันมาทุกอุปสรรค เติบโตท่ามกลางวิกฤติสำคัญๆ ของประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาดด้วยวัฒนธรรมองค์กร ที่ปลูกฝังให้ทุกคนมีความเชื่อ และค่านิยมเดียวกันว่าไทยประกันชีวิตคือ บ้าน ไม่ใช่แค่องค์กร โดยไทยประกันชีวิตให้คุณค่ากับทุกคนอย่างเท่าเทียม ทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน คู่ค้าหรือคนในสังคม ขณะเดียวกันก็นำความมีน้ำใจ มาผสมผสานให้เห็นคุณค่าของความรัก ความเอาใจใส่กัน สร้างจิตวิญญาณให้คนไทยประกันชีวิต เป็นองค์กรที่ เข้าใจ จริงใจ ไม่ทิ้งกัน

ตลอด 80ปีที่ผ่านมา ไทยประกันชีวิตได้ส่งต่อภาพลักษณ์ของความเป็น “คู่คิด เพื่อทุกชีวิต รู้รอบ รอบรู้ คนดี มุ่งมั่นทำดี และ มองไกลและทุ่มเท” มาโดยตลอด ทั้งยังให้ความสำคัญกับเรื่องของมนุษยนิยม โดยเชื่อมั่นในคุณค่าความเป็นคน สร้างคุณค่าสูงสุดให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพราะเชื่อว่า คน คือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ

และนับจากนี้ ไทยประกันชีวิตเตรียมมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับทุกชีวิต เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในระดับสากลที่เป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิตจากข้อมูลผลการสำรวจคุณภาพของแบรนด์ (Brand Health Check) ซึ่งจัดทำในเดือนพฤศจิกายน2563โดย Nielsen ซึ่งแบรนด์ไทยประกันชีวิต ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 2 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากดัชนีชี้วัดคุณค่าของแบรนด์ (Brand Equity Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่อยู่ในใจผู้บริโภค เมื่อพิจารณาจากความชื่นชอบของแบรนด์ และความเต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อใช้บริการของแบรนด์

จุดเด่นที่สำคัญของไทยประกันชีวิตก็คือ การมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง คีย์แมนคนสำคัญหนีไม่พ้น “ไชย ไชยวรรณ” กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งทุ่มเททำงานให้กับไทยประกันชีวิตมาเกือบ 40 ปีรวมไปถึงรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารทั้ง 2 ท่าน คือ วรางค์ ไชยวรรณ วิญญู ไชยวรรณ และผู้จัดการใหญ่ คือ เคียน ฮิน ลิม ซึ่งทุกท่านล้วนมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และอยู่กับไทยประกันชีวิตมาอย่างยาวนานมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของไทยประกันชีวิต ที่มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตลอดมา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารทั้งคนไทย และต่างชาติที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละสาขาการผสานทีมผู้บริหารทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่นำจุดแข็งที่แตกต่างของผู้บริหารในแต่ละ Generation มาเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนให้ไทยประกันชีวิตบรรลุ Business Purpose ที่มุ่งสู่การเป็น Life Solutions Provider

นอกจากนี้ ไทยประกันชีวิต ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรคือ Meiji Yasuda Life Insurance Company (“MY”) ในการเติบโตสู่ระดับนานาชาติโดย MYเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตชั้นนำที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่มีบริษัทในเครือทั้งในสหรัฐอเมริกาสหราชอาณาจักร จีน อินโดนีเซีย โปแลนด์ และประเทศไทยโดยปัจจุบันMY เป็นผู้ถือหุ้นและถือหุ้นในไทยประกันชีวิตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.0 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วของบริษัทฯ ก่อน IPO

ซึ่ง MY ได้แสดงความสนใจและความพร้อมที่จะสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจในอนาคตของไทยประกันชีวิตไปยังประเทศเมียนมา กัมพูชา ลาว และช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดจำหน่ายและการขยายตลาดกับองค์กรญี่ปุ่นในประเทศไทย(Japanese Worksite Marketing)รวมถึงช่วยต่อยอดจากประสบการณ์ของ MY ในการเปลี่ยนผ่านสู่การทำธุรกิจแบบ Digitalization ของไทยประกันชีวิต


ต้องเป็นทุกคำตอบของประกันชีวิต

ใครว่าบริษัทประกันชีวิตจะต้องมีผลิตภัณฑ์แค่เพียงประกันชีวิตอย่างเดียวเท่านั้น ไทยประกันชีวิตมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ครบวงจร ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทบุคคลและผลิตภัณฑ์ประเภทกลุ่ม โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งด้านการคุ้มครองชีวิต คุ้มครองสุขภาพ การออม การลงทุน และการวางแผนมรดกและสามารถออกแบบตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคลได้ และจะเห็นได้ว่าไทยประกันชีวิตมักเป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเป็นรายแรกๆ อย่างสม่ำเสมอ

ปัจจุบันไทยประกันชีวิตมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบ่งได้เป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

1. ประกันชีวิตประเภทสามัญ (Basic Ordinary Life Insurance) แบ่งออกเป็นแบบสะสมทรัพย์(Endowment) แบบตลอดชีพ (Whole Life) แบบชั่วระยะเวลา (Term Life) และแบบเงินได้ประจำหรือแบบบำนาญ (Annuity)

2. ประกันชีวิตประเภทควบการลงทุน (Investment-linked) แบ่งออกเป็นแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) และแบบยูนิต ลิงค์ (Unit-linked)

3. ประกันชีวิตประเภทอุตสาหกรรม (Industrial Life Insurance)

4. ประกันชีวิตประเภทกลุ่ม (Group Life Insurance) แบ่งออกเป็นแบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว (Single Premium Policy)และแบบชั่วระยะเวลาต่ออายุรายปี (Yearly Renewable Term Policy)

5. ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (Personal Accident)

6. สัญญาเพิ่มเติม (Riders)ครอบคลุมถึงสัญญาเพิ่มเติมที่หลากหลาย เช่น สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ (Health Rider) สัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (Hospital Benefit Rider) และสัญญาเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุในกรณีที่เสียชีวิต / สูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพถาวร (Accidental Death /Dismemberment / Total Permanent Disability Rider)สัญญาเพิ่มเติมประกันโรคร้ายแรง (Critical Illness Rider) และสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองผู้ชำระเบี้ยประกันภัย (Payer Benefit Rider)

ไทยประกันชีวิตมุ่งสู่การเป็น Life Solutions Provider ด้วยกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่

  •  การขับเคลื่อนองค์กรสู่ Data Driven Company – ไทยประกันชีวิตปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อเปลี่ยนสู่การเป็น Life Solutions Provider อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์เพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานแบบครบวงจร (End-to-end) จากความได้เปรียบที่ไทยประกันชีวิตมี Big Data จากฐานลูกค้าโดยอ้างอิงจากจำนวนกรมธรรม์ที่มีผลบังคับใช้กว่า 4,500,000 กรมธรรม์²นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่จะตอบสนองความต้องการของผู้เอาประกันแบบเฉพาะบุคคล (Personalization) ในทุกช่วงของชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle)
  •  การเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – ไทยประกันชีวิตมีกลยุทธ์ในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดด้วยการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นช่องทางตัวแทนประกันชีวิตที่แข็งแกร่งกว่า 60,000 รายและเป็นบริษัทประกันชีวิตสัญชาติไทยเพียงแห่งเดียวที่ประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิตที่ครอบคลุมทั่วประเทศ

ขณะเดียวกันไทยประกันชีวิตยังร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและองค์กรของรัฐ บริษัทลีสซิ่งและเช่าซื้อ และบริษัทสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ซึ่งทำให้ไทยประกันชีวิตมีความยืดหยุ่นทางธุรกิจในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางของพันธมิตรที่หลากหลาย และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ยังมีการขายผลิตภัณฑ์ผ่านทางโทรศัพท์ (Telesales) และขยายสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)

    •  การยกระดับประสบการณ์ของผู้เอาประกัน –ไทยประกันชีวิตมุ่งพัฒนาบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต ใช้เทคโนโลยีเสริมสร้างความโดดเด่นในการให้บริการ โดยเป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เอาประกันในการเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ การตรวจสอบความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ การชำระค่าเบี้ยประกันภัย และการค้นหาชื่อคลินิกและโรงพยาบาลคู่สัญญา ตลอดจนฟังก์ชันอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชันไทยประกันชีวิต และการมอบสิทธิพิเศษด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ การพักผ่อน การเดินทาง และบริการต่างๆ แก่ผู้เอาประกันผ่านไทยประกันชีวิต Privilege นอกจากนั้น ยังมีการนำเสนอการให้บริการที่ยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้เอาประกันอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตไทยประกันชีวิตจะพัฒนาการจัดทำแพลตฟอร์มด้านไลฟ์สไตล์ที่เป็นประโยชน์ตามความสนใจของลูกค้า (Interest-based)

แบรนด์ประกันชีวิตสัญชาติไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ไทยประกันชีวิตขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ประกันชีวิตสัญชาติไทยที่ก่อตั้งโดยคนไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อพิจารณาจากรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และสำหรับรอบระยะเวลา6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564³ เป้าหมายสำคัญก็คือ การก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ยั่งยืนผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบครบวงจร เพื่อเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต การประกันสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือ Life Solutions Provider ในทุกช่วงชีวิต (Life Stage) ทุกจังหวะชีวิต (Life Event) และทุกการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของลูกค้า

ด้วยบริการ และผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนไทย ทำให้ไทยประกันชีวิตครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงเป็นหนึ่งในสามของบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในประเทศไทยด้วยรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวมคิดเป็น 13.7% ของตลาดประกันชีวิต 4

อีกทั้งจุดแข็งสำคัญก็คือ ไทยประกันชีวิตมีเครือข่ายตัวแทนประกันชีวิตที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 60,000 ราย และจากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนมิถุนายน 2564 ตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ คิดเป็นจำนวนมากกว่า 25% ของจำนวนตัวแทนประกันชีวิตทั้งหมดในประเทศไทยแต่ไม่ใช่แค่มีจำนวนเยอะอย่างเดียวเท่านั้นตัวแทนประกันชีวิตของไทยประกันชีวิตพร้อมที่จะดูแลลูกค้าด้วยหัวใจ ด้วยการสร้างจิตวิญญาณแห่งการบริการ หรือ Heart Made เสมือนการดูแลคนในครอบครัว

ไทยประกันชีวิตมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งและการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นจากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถทำกำไรได้ในทุกๆ วงจรธุรกิจอันเป็นผลมาจากความสามารถในการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์การจัดการการลงทุนที่สามารถบรรลุผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว

โดยไทยประกันชีวิตสามารถรักษาประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีการเตรียมแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการที่ดี


เตรียม IPO สยายปีกสู่การเป็น Life Solutions Provider เพื่อเป็นทุกคำตอบของประกันชีวิต

เรียกว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของไทยประกันชีวิตเลยก็ว่าได้ ด้วยการเตรียมตัวเพื่อนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในชื่อย่อว่า TLI โดยอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

เป้าหมายของการระดมทุนในครั้งนี้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการลงทุน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้นไป มีทั้งการลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาด

รวมไปถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางพันธมิตร ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับลูกค้าทั่วประเทศไทย และสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุน และสำรองเป็นเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์อื่นๆ

ไทยประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าจับตามองจากทั้งผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบครบวงจร รวมไปถึงผู้ลงทุนที่มองหาบริษัทที่มั่นคง มีการเติบโตอย่างยั่งยืน เชื่อว่าการ IPO ในครั้งนี้ ยิ่งช่วยติดสปีดให้ไทยประกันชีวิตมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนได้อย่างแน่นอน

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ในประเทศไทยเท่านั้น และไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ ห้ามมิให้มีการทำซ้ำ ส่งต่อ หรือเผยแพร่เอกสารฉบับนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต

¹จากข้อมูลของสมาคมประกันชีวิตไทย เมื่อพิจารณาจากรายได้เบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 และสำหรับรอบระยะเวลา  6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน2564

² ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2564

³ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย

4 ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย สำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน2564

]]>
1375778