ไอซีเอส – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 25 Oct 2024 13:43:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ICS ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ตอกย้ำความเป็น ‘มิกซ์ยูส’ สมบูรณ์แบบ เปิดตัวโรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ ยกระดับแลนด์มาร์กฝั่งธนฯ สู่จุดหมายใหม่ด้านการลงทุนและท่องเที่ยว https://positioningmag.com/1495584 Fri, 25 Oct 2024 06:00:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1495584

ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์  (ตรงข้ามไอคอนสยาม)  หนึ่งในโครงการมิกซ์ยูส ที่ให้บริการครบครันทั้งพื้นที่รีเทล โรงแรม และพื้นที่สำนักงาน ล่าสุดเปิดให้บริการ “ฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์” โรงแรมใหม่ล่าสุดของฮิลตัน เสริมภาพให้ ICS เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ ตอกย้ำแลนด์มาร์คใหม่ฝั่งธนบุรี ตอบโจทย์ความครบครันทุกมิติ ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองในฝั่งธนบุรี ประกาศรุกไตรมาสสุดท้าย จัดแคมเปญโปรโมชั่น “Catch Deals, if you can ช้อปคว้าดีล” มอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก ONESIAM เพื่อลุ้นรับรางวัลและแลกของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 67 – 30 พ.ย. 67

นายไพรัช วิเศษศิริลักษณ์ ผู้บริหารสายงานบริการลูกค้า บริษัท  ไอซีเอส จำกัด กล่าวว่า การเปิดให้บริการของโรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์  ทำให้ ICS เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่สมบูรณ์แบบ รวมการใช้งานพื้นที่ทั้งรีเทล โรงแรม และพื้นที่สำนักงานอย่างลงตัว เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน ช่วยเสริมสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้มาเยือนและชุมชนในพื้นที่ พร้อมเป็นจุดหมายใหม่ที่ครบวงจรสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว

สำหรับ “ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์” เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ตั้งอยู่ริมถนนเจริญนคร พื้นที่ 5 ไร่ เป็นอาคารสูง 29 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนเจริญนคร ตรงข้ามกับไอคอนสยาม ทำเลทองที่มีความโดดเด่นเดินทางสะดวกได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธาธารณะ และรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อตรงกับโครงการไอคอนสยามที่ด้านหลังติดโค้งน้ำเจ้าพระยาซึ่งรองรับการหมุนเวียนของทราฟฟิกจากท่าเรือสาธารณะถึง 99 ท่าเรือ ภายในโครงการประกอบด้วยธุรกิจ 3 ส่วน ได้แก่ 1. ธุรกิจค้าปลีก รูปแบบเป็นอาคารโลว์ไรส์ รวม 8 ชั้น โดยจับมือกับพันธมิตรคู่ค้าชั้นนำอีกกว่า 200 แบรนด์ 2. ไอซีเอส ออฟฟิศทาวเวอร์ พื้นที่สำนักงานให้เช่า ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 6-8 พัฒนาภายใต้แนวคิดที่ต้องการส่งเสริมการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ และ 3. โรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์  บริหารโดย ฮิลตัน บริษัทชั้นนำด้านธุรกิจการบริการระดับโลก จ้าของแบรนด์ระดับโลกถึง  24 แบรนด์ ประกอบด้วยโรงแรมมากกว่า 8,000 แห่ง และห้องพักกว่า 1.2 ล้านห้องใน 126 ประเทศ

ความโดดเด่นของ “ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์” ที่สร้างความแตกต่างจากค้าปลีกอื่นๆ ยังเป็นความครบครันทั้งด้านสินค้าและบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่ม จากกลยุทธ์การผนึกกำลังกับแบรนด์ชั้นนำ ที่เปรียบเสมือน “จิ๊กซอว์” แต่ละตัวที่เข้ามาเติมเต็มให้ภาพโครงการมีความสมบูรณ์ ภายใต้โมเดล “บิสเนส แฟลกชิพ” ที่มีความพิเศษ แตกต่าง ทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ นอกเหนือจาก “ฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์” ที่เปิดให้บริการล่าสุด ก่อนหน้านี้ ยักษ์ค้าปลีก “โลตัส” เลือกที่จะเปิดแบรนด์ใหม่ Lotus’s Privé (โลตัส พรีเว่) พรีเมียมไฮเปอร์มาร์เก็ต ประเดิมสาขาแห่งแรกที่โครงการไอซีเอส (ICS) เช่นเดียวกับ โรงพยาบาลศิริราช” ที่เลือกเปิด “SIRIRAJ H SOLUTIONS” ศูนย์ดูแลสุขภาพแบบครบวงจรนอกพื้นที่ครั้งแรกที่ไอซีเอสฯ  เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการ ทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ย่านฝั่งธนฯ ได้เพิ่มมากขึ้น

“จากการเปิดตัว “ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์” โครงการมิกซ์ยูส ที่ให้บริการครบครันทั้งพื้นที่รีเทล โรงแรม และพื้นที่สำนักงาน ออฟฟิศอย่างสมบูรณ์แบบ ยังเป็นการตอบรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโค้งท้ายของปี ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2567 สถานการณ์ตลาดท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินทางเข้าประเทศไทย มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คาดว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12,226,500 คน หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% สร้างรายได้ 652,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566” คุณไพรัช กล่าว

ด้านนายศิรพัฒน์ เลิศกังวาลไกล กรรมการบริหาร บริษัท ไอคอน โฮเทล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า   โรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ ที่ตั้งอยู่ในโครงการ ICS ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ถนนเจริญนคร มีห้องพัก 241 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มธุรกิจและนักเดินทางที่มาพักผ่อน โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งเป็นอาคารสูงเพียงแห่งเดียวในย่าน ทำให้สามารถรับชมวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี

“โรงแรมแห่งนี้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบาย พร้อมให้บริการในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงเทพฯ คึกคักไปด้วยกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นโดยไอคอนสยามและไอซีเอส เราเชื่อมั่นว่าโรงแรมฮิลตัน การ์เดน อินน์ กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ จะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวและพักผ่อนในใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่เหมือนใคร”  คุณศิรพัฒน์  กล่าวทิ้งท้าย

ภาพห้องพัก-King-Deluxe-City-View

ภาพห้อง Twin-Deluxe-River-View

เพื่อร่วมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ ICS  ส่งแคมเปญโปรโมชั่น “Catch Deals, if you can ช้อปคว้าดีล” เอาใจนักช็อป ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 โดยมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิก ONESIAM เพื่อลุ้นรับรางวัลและแลกของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท ลุ้นโชค 2 ต่อ: ต่อที่ 1: ลุ้นรับแพ็กเกจความงามจากร้าน APEX, Gangnam Clinic และ The Ritz Clinic จำนวน 3 รางวัล รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท และต่อที่ 2: ช็อปครบตามเงื่อนไข รับสิทธิ์แลกของรางวัล เช่น SIAM GIFT CARD หรือคูปองส่วนลดจากร้านค้าที่ร่วมรายการ  *โปรดตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

นอกจากนี้  ไอซีเอส ไลฟ์สไตล์ คอมเพล็กซ์ ยังจัดมหกรรมความงามแห่งปี  ICS BEAUTY AND THE LISTS” ขนทัพบิวตี้ไอเท็มเด็ดมาให้เลือกช้อปลดสูงสุดกว่า 70% จากร้านค้าที่ร่วมรายการ พร้อมบริการเพื่อความงามจากแบรนด์ดังมาให้เลือกสรรครบครัน พบกิจกรรมเพื่อความงามมากมายอาทิ กิจกรรมหาโทนสีที่ใช่กับ “Personal Color” กิจกรรม Beauty Pool : Lucky Time All You Can Beauty” ตักสินค้า Beauty ไม่อั้นใน 10 วินาที และกิจกรรมพิเศษ ICS Beauty Happy Fan รับสิทธิ์กระทบไหล่ศิลปินสุดฮอต  ตลอดจนโปรโมชั่นพิเศษจากร้านค้ากลุ่ม Health & Beauty ใน ICS เพื่องานนี้เท่านั้น กิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม 2567- 10 พฤศจิกายน 2567 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ก ICS

]]>
1495584
สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปี สยามพิวรรธน์คว้า 3 รางวัลใหญ่จาก Retail Asia Awards 2023 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการพัฒนาแลนด์มาร์คระดับโลก https://positioningmag.com/1434751 Fri, 23 Jun 2023 08:00:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1434751

กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหาร สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม ไอซีเอส และ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติจาก Retail Asia Awards 2023 โดยสยามพารากอน ได้รับรางวัล Mall of the Year สุดยอดศูนย์การค้าแห่งปีของประเทศไทยที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ รางวัล Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Campaign แคมเปญสร้างปรากฏการณ์ความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีและรางวัล Customer Service Initiative of the year จากการให้บริการ Luxury Chat and Shop สะท้อนความเป็นผู้นำในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก (Global Admiration) พร้อมเดินหน้าสู่การสร้างแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกอนาคตได้ทุกมิติ

นางสรัลธร อัศเวศน์ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งที่กลุ่มสยามพิวรรธน์ได้รับ 3 รางวัล Retail Asia Awards 2023 จาก Retail Asia สื่อด้านธุรกิจรีเทลชั้นนำในเอเชีย ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเราที่นำความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อยกระดับศูนย์การค้าในกลุ่มสยามพิวรรธน์ ให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก และเป็นการยกระดับให้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นสุดยอดในหลากหลายวงการ ผนึกกำลังกับแบรนด์ดังทั่วโลกและผู้ประกอบการไทย มาร่วมกัน Co-create สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้กลุ่มสยามพิวรรธน์สามารถได้รับการยอมรับในเวทีโลก รวมทั้งรางวัลในด้านแคมเปญการตลาด และการให้บริการลูกค้ากลุ่มลักซ์ซูรีอีกด้วย”


รางวัล Mall of the Year – Thailand สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางกรุงเทพมหานคร โดยสยามพารากอน ประสบความสำเร็จทั้งในด้านแทรฟฟิค และยอดขาย โดยเฉพาะกลุ่มลักซ์ซูรีแบรนด์ที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับต้นๆ ของโลก จนทำให้แบรนด์ระดับโลกต่างขยายพื้นที่พร้อมสร้างประสบการณ์ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างต่อเนื่อง สยามพารากอนอยู่ระหว่างการทรานสฟอร์มครั้งสำคัญที่จะปรับโฉมให้เป็นที่สุดของความเลิศล้ำ เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน


รางวัลสุดยอดแคมเปญการตลาด Marketing Initiative of the year จาก ONESIAM Siam Smiley Celebration: Infinite Happiness แคมเปญสร้างมหาปรากฏการณ์แห่งความสุขในเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2565 ซึ่งเป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์ระดับโลก Smiley ที่มีสัญญลักษณ์รูปรอยยิ้มที่ผู้คนทั่วโลกรู้จัก และในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ Smiley โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ได้ร่วมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์โลกในรูปแบบ Global Collaboration อย่างแท้จริง


รางวัลสุดยอดบริการลูกค้า Customer Service Initiative of the year จากการเปิดให้บริการ Luxury Chat & Shop ของสยามพิวรรธน์ในปี 2564 มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้ขีดจำกัด สะดวกทุกที่ทุกเวลา ลูกค้าสามารถแชตและช้อปสินค้าแบรนด์เนมระดับโลกจากร้านค้าในสยามพารากอนและไอคอนสยาม ผ่านช่องทางออมนิชาแนล ถือเป็นบริการที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นและสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้สยามพิวรรธน์ครองความเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในประเทศไทย และได้ต่อยอดบริการ Luxury Chat & Shop ผ่านแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงประสบการณ์ในโลกออนไลน์และออฟไลน์ไว้ในที่เดียว

รางวัลเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์มที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงศูนย์การค้า แต่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้คนในทุกเจนเนอเรชั่น ที่มีความพร้อมมอบประสบการณ์แปลกใหม่และสร้างแรงบันดานใจในระดับโลก สร้างชื่อเสียงของบริษัทไทยบนเวทีโลก

]]>
1434751
เมื่อ ICONSIAM วางจุดยืนลักชัวรี่ ก็ต้องมีเฟส 2 “ICS” เจาะกลุ่มแมส สร้างเมืองใหม่ย่านฝั่งธน https://positioningmag.com/1395997 Thu, 11 Aug 2022 08:58:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395997 ไอคอนสยาม (ICONSIAM) เปรียบเสมือนเมกะโปรเจกต์ในย่านฝั่งธน ได้เปิดให้บริการเมื่อเดือน พ.ย. 2561 โครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 55,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ วางจุดยืนเป็นระดับลักชัวรี่ จับกลุ่มลูกค้าระดับ A และกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก มีพาร์ตเนอร์หลายเจ้าที่เปิดสาขาแฟล็กชิพสโตร์สาขาแรกที่ เช่น Apple Store และ % Arabica

แต่ด้วยความที่จุดยืนในระดับลักชัวรี่ อาจจะทำให้เข้าถึงลูกค้าไม่ครบทุกกลุ่ม ทำให้ไอคอนสยามต้องเปิดทำการเฟส 2 นั่นก็คือ ICS เป็นโครงการมิกซ์ยูสเช่นเดียวกัน ตั้งอยู่ตรงข้ามกัน แต่จับกลุ่มแมสมากขึ้น

ICS ไอคอนสยามเฟส 2 มูลค่า 4,000 ล้าน

ICS เป็นโครงการภายใต้การร่วมทุนของ 3 พาร์ตเนอร์หลักของไอคอนสยามเหมือนเดิม ก็คือ “สยามพิวรรธน์-แมกโนเลีย-ซีพี” มีมูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 5 ไร่ เป็นโครงการูปแบบรูปแบบมิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ มีพื้นที่ให้บริการรวม 70,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่ค้าปลีก, โรงแรม และอาคารสำนักงาน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับไอคอนสยามเลย มีรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเจริญนครเชื่อมกัน

ภายในโครงการประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ

  1. ธุรกิจรีเทล เป็นอาคาร 8 ชั้น มีร้านค้าตั้งแต่ร้านอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าไอที แฟชั่น และซูเปอร์มาร์เก็ต ได้พาร์ตเนอร์ โลตัส กับคอนเซ็ปต์ใหม่ซูเปอร์มาร์เก็ตแบบพรีเมียม
  2. ไอซีเอสออฟฟิศทาวน์ อาคารสำนักงานให้เช่า ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับศูนย์การค้า รวม 3 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 6-8
  3. โรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ กรุงเทพ ไอซีเอส เจริญนคร (Hilton Garden Inn Bangkok ICS CharoenNakhon) เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ภายใต้การบริหารงานโดยโรงแรมฮิลตัน การ์เด้น อินน์ เชนโรงแรมชั้นนำจากต่างประเทศ ที่มีแผนเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ เป็นแห่งแรก สูง 19 ชั้น พื้นที่ 17,000 ตารางเมตร 241 ห้อง คาดว่าห้องพักเรทราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท

มีการประเมินว่าที่ดินตรงนี้เป็นอีกหนึ่งทำเลทอง มีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัยมากที่สุดย่านหนึ่ง โดยภายใน 2-3 ปีจากนี้ คาดว่าจะมีที่พักอาศัยคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 50 โครงการ หรือราว 25,000 ยูนิต รายล้อมไปด้วยโรงแรม 5 ดาว อย่าง มิลเลนเนียมฮิลตัน, เพนนินซูลา, โอเรียนเต็ล และแชงกรีลา ในอนาคตยังจะมีกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำที่เตรียมขยายบริการมายังทำเลย่านนี้อีก 2-3 โครงการ

รวมถึงมีแผนงานการย้ายศูนย์ราชการขนาดใหญ่มายังย่านคลองสาน แสดงให้เห็นว่าเป็นพื้นที่ธุรกิจที่มีการขยายตัวสูงมาก จากศักยภาพทำเลดังกล่าวจึงเป็นจุดดึงดูดกลุ่มลูกค้าหลัก พนักงานออฟฟิศ เจ้าของธุรกิจ และประชาชนทั่วไป

ต้องแมสขึ้น ร้านค้าจับต้องได้

แน่นอนว่าด้วยความไอคอนสยามวางจุดยืนไว้ในระดับลักชัวรี่ จึงไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม จึงต้องการเปิด ICS เพื่อมาต่อจิ๊กซอว์ช่องว่างตรงนี้ให้เต็มยิ่งขึ้น เป็นการจับกลุ่มลูกค้าระดับแมส หรือระดับ B+ ลงมา

สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเอส จำกัด เปิดเผยว่า

“เราวาง Positioning ให้ ICS เป็นมิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการสินค้า และบริการของลูกค้าได้ครบครัน โดยเน้นให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ เน้นตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน และการช้อปปิ้งที่สะดวก ง่าย เร็ว ทำให้สามารถขยายไปยังฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่สินค้าและบริการในไอคอนสยามอาจยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการในบางวัน เชื่อว่าหลัง ICS เปิดให้บริการ จะช่วยเติมเต็มไอคอนสยามที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้ครบทุกเซกเมนต์”

สุพจน์เสริมอีกว่า ICS เริ่มคิดโครงการตั้งแต่ตอนเปิดไอคอนสยามแล้ว ต้องการให้เป็นเฟส 2 ได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ช่วงหลังไอคอนสยามเปิดใหม่ๆ เป็นการวางจุดยืนที่ต่างกัน ไอคอนสยามอาจจะตอบโจทย์ไม่ 100% โดยเฉพาะเรื่องซูเปอร์มาร์เก็ต แถวนี้ไม่มีโลตัสเลยด้วย

ICS จึงเข้ามาอุดช่องว่างที่ไอคอนสยามไม่มี โดยสัดส่วนร้านค้ามีความแตกต่างจากไอคอนสยาม เน้นที่อาหาร 30% แฟชั่น 20% ไอที 10% และอื่นๆ 40% เป็นพาร์ตเนอร์หลัก ในขณะที่ไอคอนสยามมีสัดส่วนร้านค้าเป็นร้านอาหาร 50% สินค้าลักชัวรี่ 20% และอื่นๆ 30% (แฟชั่น ไอที แกดเจ็ต)

จากการเปิดไอคอนสยามก็พบว่ายังขาดในส่วนโรงแรม และสำนักงาน ถึงแม้ไอคอนสยามจะมี Magnolias Waterfront Residences at ICONSIAM และ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok in ICONSIAM เป็นอาคารพักอาศัยแล้ว แต่ก็เป็นอาคารชุดในระดับลักชัวรี่ ยังไม่มีโรงแรมในระดับแมส

ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต ไอคอนสยามมี “เดียร์ ทัมมี” สาขาแรกในไทย เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม การร่วมลงทุนระหว่างสยามพิวรรธน์ และกูร์เม่ต์ เอเชีย ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงได้หมดทุกกลุ่ม ICS จึงต้องมีโลตัสมาอุดช่องว่างนั้น แต่ก็มาในคอนเซ็ปต์ใหม่ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแบบพรีเมียม เน้นสินค้านำเข้า

3 ปี ไอคอนสยาม COVID-19 คือโอกาส

ไอคอนสยามมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2561 ในตอนนั้นเรียกว่าเล่นใหญ่แบบสุดๆ เชิญเซเลบริตี้ทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมอีเวนต์ แถมยังมีการแปรขบวนโดรนจำนวน 1,400 ลำ

แรกเริ่มไอคอนสยามได้วางจุดยืนเป็นศูนย์การค้าที่จับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นหลักอยู่แล้ว เพราะได้ทำเลทองติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโลเคชั่นที่ชาวต่างชาตินิยม เห็นได้จากเชนโรงแรมยักษ์ใหญ่ต่างจับจองพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงเทรนด์ของรีเทลก็มีผุดริมแม่น้ำ เช่น เอเชียทีคฯ และล้ง 1919

จากสถิติหลังการเปิด 1 ปีของไอคอนสยาม (ปี 2562) ไอคอนสยามมีผู้เข้ามาใช้บริการในวันปกติเฉลี่ย 80,000-120,000 คนต่อวัน ส่วนในวันเทศกาล เช่น วันสิ้นปี วันขึ้นปีใหม่ วันลอยกระทง วันสงกรานต์ มีจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ย 200,000-350,000 คนต่อวัน และมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ 35% โดยมีกลุ่มหลักๆ คือชาวจีน เกาหลี ไต้หวัน อินเดีย และกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ทำให้มียอดใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวประมาณ 10,000-15,000 บาท ถือว่าสูงกว่าศูนย์การค้าทั่วไปในประเทศไทย

แต่หลังจากเปิดได้ปีเศษๆ ก็เจอวิกฤตครั้งใหญ่ที่เจอกันทั่วโลกก็คือ COVID-19 ทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวหาย ไอคอนสยามจึงต้องหันมาจับกลุ่มลูกค้าในประเทศแทน แต่วิกฤตนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อย เพราะคนไทยจับจ่ายใช้สอยในศูนย์มากขึ้น ตอนนี้ถือว่าอัตราเงินสะพัดในศูนย์สูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 แล้ว

แอปเปิ้ลสโตร์

“ช่วงวิกฤต COVID-19 ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมลูกค้าชัดขึ้น ลูกค้าคนไทยไปต่างประเทศไม่ได้ ก็หันมาใช้จ่ายที่ไอคอนสยาม ทำให้ตอนนี้มีลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้น 52% และมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้น 90% เมื่อเทียบกับปี 2562”

หลังจากที่เปิดให้บริการได้ 3 ปีกว่าๆ ไอคอนสยามได้ทำผลสำรวจของลูกค้าที่ใช้บริการ พบว่า 56% ของลูกค้ามีอายุในช่วง 31-50 ปี มีกำลังซื้อสูงอยู่ในระดับ A/B โดยคำจำกัดความของระดับ A ว่ามีรายได้มากกว่า 70,000 บาท/เดือน ส่วนระดับ B มีรายได้มากกว่า 50,000 บาท/เดือน

ในวันธรรมดาลูกค้าชอบมาช้อปปิ้งคนเดียว หรือมาเป็นคู่ ส่วนในวันหยุดจะมาเป็นครอบครัว 41% เป็นลูกค้าเดิม 65% เป็นนักธุรกิจ หรือพนักงานออฟฟิศที่มีเวลาน้อย อยากหาร้านอาหารที่สะดวก รวดเร็ว

สุพจน์บอกว่า ไอคอนสยามมีลูกค้าประจำเยอะ มาเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง ปัจจุบันมีทราฟฟิกผู้ใช้บริการเฉลี่ย 70,000-80,000 คน/วัน ถ้าเทียบกับช่องก่อน COVID-19 มีทราฟฟิกเฉลี่ยวันละ 100,000 คน ในช่วงเทศกาลมีทราฟฟิก 150,000 คน แต่ตอนนี้ได้นักท่องเที่ยวกลุ่มอินเดีย, มาเลเซีย และโซนอาหรับเยอะขึ้น ทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมาไม่ได้

สำหรับโครงการ ICS ที่ทางไอคอนสยามหมายมั่นปั้นมือให้เป็นโครงการพี่น้อง หวังว่าจะต่อจิ๊กซอว์เสริมกันทั้งคู่ ตอนนี้ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 90% เตรียมเปิดให้บริการช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จะเปิดให้บริการในส่วนของพื้นที่รีเทลก่อน ส่วนของโรงแรมจะเปิดช่วงต้นปี 2566 ปัจจุบันมีอัตราเช่า 65% คาดว่าจะมีทราฟฟิกเฉลี่ย 40,000 คน/วัน และมีรายได้ 2,500 ล้านบาทในปีแรก

]]>
1395997