AIS – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 25 Dec 2023 13:28:49 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เจาะกลยุทธ์การดัน ‘eSports’ ของ ‘AIS’ ที่ได้ทั้งใจ ‘วัยรุ่น’ และโอกาสสร้างรายได้จากบทบาท ‘Promoter’ https://positioningmag.com/1457078 Mon, 25 Dec 2023 12:26:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457078 ตลาด เกม และ อีสปอร์ต ถือเป็นตลาดใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อยากเข้ามา เพราะไม่ใช่แค่เม็ดเงินมหาศาล แต่ New Gen ก็ถือเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมากับเกม ดังนั้น อีสปอร์ตก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้แบรนด์ยังอยู่ในสายตาของคนรุ่นใหม่ ซึ่ง เอไอเอส ก็เห็นถึงความสำคัญข้อนี้ดี

เริ่มเข้าสู่อีสปอร์ตตั้งแต่ 2019

การเล่นเกมในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตทั้งนั้น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกหาก เอไอเอส จะโดดเข้ามาในอีโคซิสเต็มส์นี้ตั้งแต่ปี 2019 ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน Thailand Game Expo การสร้าง Facebook AIS eSports ไว้สำหรับเป็นช่องทางพูดคุยกับเหล่าแฟนเกม จนมาปี 2020 เอไอเอสได้เปิดตัว AIS eSports STUDIO ที่สามย่านมิตรทาวน์ และเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันต่าง ๆ จากนั้นก็ได้ขยับไป จัดทัวร์นาเมนต์การแข่งขันเป็นของตัวเอง

“เอไอเอสมี 4 ยุทธศาสตร์หลักในด้านอีสปอร์ต คือ Connect โดยมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ, Complete คือมีเวทีแข่งขันอีสปอร์ต, Co-Educate เป็นแหล่งให้ได้มาเรียนรู้ และ Share เผยแพร่กีฬาอีสปอร์ตให้คนได้รับรู้ในวงกว้าง” รุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการพันธมิตรธุรกิจด้านบันเทิงและคอนเทนต์ AIS กล่าว

เปิด AIS eSports STUDIO สาขาใหม่ใจกลางสยาม

หลังจากที่ AIS eSports STUDIO ที่สามย่านมิตรทาวน์ จะได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉลี่ยจะมีทราฟฟิกประมาณ 200 คน/วัน ปัจจุบันมี Members แล้วกว่า 2 หมื่นราย โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็น First Jobber และนักศึกษาเป็นหลัก ล่าสุด เอไอเอสก็เปิด AIS eSports STUDIO แห่งที่สอง ที่สยามสแควร์ ซอย 7

โดยเอไอเอสมองว่าพื้นที่ย่านสยามแคร์ จะช่วยให้เอไอเอสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็น กลุ่มวัยรุ่น นักเรียน และนักศึกษา โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้วันละกว่า 100 คน โดยมอง่าช่วงที่พีคจะเป็นแต่ละช่วง เช่น ช่วงบ่ายที่น้อง ๆ นักเรียนเลิกเรียน, ช่วงเย็นเป็นกลุ่มคนทำงาน ส่วนนักศึกษาจะมาช่วงค่ำ และตอนเช้าก่อนเรียน

อีสปอร์ตช่วยให้เอไอเอสเด็กลง

จะเห็นว่าเป้าหมายการเข้าถึงของเอไอเอสจะเด็กลงเรื่อย ๆ ซึ่งนับตั้งแต่เอไอเอได้เข้ามาในอีสปอร์ต รุ่งทิพย์ ยอมรับว่า ช่วยให้แบรนด์ ดูเด็กลง และกลายเป็น เพื่อน กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบัน ยอดผู้ติดตามในเพจ AIS eSports ก็มีกว่า 2.8 แสน Followers

นอกจากนี้ การเปิด AIS eSports STUDIO ยังไม่ได้แค่ช่วยให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นพื้นที่ โชว์ศักยภาพ ของเอไอเอส อย่างที่สาขาสามย่านมิตรทาวน์ก็เป็นที่เปิดตัวความเร็วอินเทอร์เน็ต 1000/1000 Mbps จนทำให้ผู้ใช้งานบางคนใช้งานเพื่อน กดบัตรคอนเสิร์ต และสำหรับสาขาสยาม เอไอเอสก็เปิดตัวความเร็วอินเทอร์เน็ต 5000/5000 Mbps และจะรองรับเทคโนโลยี WiFi 7 ในอนาคตอีกด้วย

ดังนั้น จะเห็นว่าการมาของของ AIS eSports STUDIO สามารถใช้ทั้งสร้างการรับรู้แบรนด์, สร้างความสัมพันธ์และความรู้สึกดีกับแบรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ ที่อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของเอไอเอสในอนาคตได้ ซึ่งปัจจุบันผู้ใช้งานครึ่งหนึ่งของ AIS eSports STUDIO ไม่ใช่ลูกค้าเอไอเอส ดังนั้น ก็มีโอกาสที่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอาจเปลี่ยนใจเมื่อได้สัมผัสกับ AIS eSports STUDIO

“ตอนนี้ลูกค้าที่ AIS eSports STUDIO ครึ่งหนึ่งไม่ใช่ลูกค้าเอไอเอส ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้นอยู่แล้ว เราเปิดให้ทุกค่ายได้มาใช้งาน”

จากเทลโคสู่ผู้จัดอีสปอร์ต

นับตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบันที่เริ่มจากการเป็นแบรนด์สปอนเซอร์ ซึ่งปัจจุบันเอไอเอสมองว่าตัวเองมาถึงสเต็ป 3  ก็คือการ ผันตัวจากเทเลคอมมาเป็นผู้รับจ้างจัดการแข่งขันอีสปอร์ต เนื่องจากมองว่าตอนนี้มีความพร้อมทั้งอีโคซิสเต็มส์และคอมมูนิตี้ ดังนั้น ส่วนนี้ก็จะเป็นรายได้ใหม่ ๆ จากฝั่งเกมของเอไอเอส นอกเหนือจากการที่ลูกค้าเข้ามาเติมเกม ซื้อเกมผ่านช่องทาง Google Store Apple Store และ Huawei Store ซึ่งที่ผ่านมาทั้งจำนวนผู้เล่นเกมและการใช้ดาต้าเพื่อเล่นเกมมีการเติบโตประมาณ 7-8% และเกมถือเป็นรายได้มากกว่าครึ่งของกลุ่มเอนเตอร์เทนต์เมนต์ (บริการสมัครสตรีมมิ่ง)

“รายได้จากเกมหลัก ๆ เรามาจากการเติมเกม ซื้อเกม และเราก็มีการออก Seed ซิม รวมถึงแพ็กเกจสำหรับเล่นเกม ส่วน AIS eSports STUDIO ไม่ได้ทำรายได้เยอะขนาดนั้น แค่พอเลี้ยงตัวเองได้ เพราะเราไม่ได้มองว่าจะมาเป็นแค่ส่วนเสริมให้การกลยุทธ์ด้านอีสปอร์ตของเอไอเอสแข็งแรงยิ่งขึ้น”

ในปีหน้า เอไอเอสจะการแข่งขันต่อเนื่อง แม้ปริมาณการจัดจะไม่เยอะเท่าปีก่อน ๆ แต่จะจัดใหญ่ขึ้น และให้นักกีฬาหรือผู้ชนะสามารถไปต่อในระดับต่างประเทศได้ ซึ่งปัจจุบันไทยถือเป็นประเทศที่สำคัญ โดยค่ายเกมมองไทยเป็นหมุดหมายประเทศแรก ๆ

“ความยากของกีฬาอีสปอร์ตคือ หาสปอนเซอร์ เพราะในอุตสาหกรรมนี้คนที่ได้เงินเยอะคือสตรีมเมอร์ เนื่องจากเขามีแฟนคลับ เป็นเหมือนดารา ส่วนค่ายเกมที่อยู่รอดก็จะเป็นเกมรายใหญ่ ๆ ซึ่งจุดอ่อนของไทยตอนนี้คือ เราเป็นผู้บริโภคไม่ใช่ผู้ผลิต” รุ่งทิพย์ ทิ้งท้าย

]]>
1457078
กางแผน ‘MONO’ หลัง AIS เข้าซื้อ 3BB และการดันรายได้ MONOMAX แซงช่อง MONO 29 https://positioningmag.com/1452160 Thu, 16 Nov 2023 10:56:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452160 อย่างที่หลายคนรู้ก็คือ เอไอเอส (AIS) ได้เข้าซื้อกิจการของ 3BB และนอกจากสมาชิกของ 3BB แล้ว อีกสิ่งที่พ่วงตามไปด้วยก็คือ คอนเทนต์จาก MONOMAX ที่ร่วมกันทำ 3BB GIGATV ดังนั้น ในวันที่ 3BB เปลี่ยนเจ้าของ และธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เป็นขาลง บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป

มั่นใจเอไอเอสช่วยดันลูกค้าเพิ่ม 20%

ปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นความร่วมมือของ MONOMAX กับ 3BB จนเกิดเป็น 3BB GIGATV ว่า 3BB อยากได้อาปู้ (ARPU) Average Revenue Per User หรือ รายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคนเพิ่ม เลยได้ MONOMAX เข้ามาพ่วงเพื่อหารายได้ร่วมกัน

ซึ่งจุดแข็งของ 3BB นั้นคือ ต่างจังหวัด โดยคิดเป็นถึง 70% ของลูกค้า ซึ่งคอนเทนต์ของ MONOMAX ตรงใจกับคนต่างจังหวัด เพราะเป็น พากย์ไทย 100% ไม่เหมือนคนเมืองหรือวัยรุ่นที่อ่านซับฯ ได้

“กลายเป็นว่า HBO ไม่ใช่คอนเทนต์นำอย่างที่ 3BB คิด แต่เป็น MONOMAX”

ปฐมพงศ์ เชื่อว่า การที่ 3BB กลายเป็นส่วนหนึ่งของเอไอเอส จะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกได้ประมาณ 20% เพราะในปีหน้าบริการ MONOMAX จะบัลเดิลไปกับกล่อง AIS Play จากเดิมที่เริ่มทดลองให้บริการการร่วมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ส่งผลให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ปัจจุบัน MONOMAX มีสมาชิกประมาณ 8.6 แสนราย

“ตอนที่เราอยู่กับ 3BB เราไม่เคยทำงานร่วมกับเอไอเอสเลย เพราะเขาถือว่าเราเป็นพันธมิตรกับคู่แข่ง” ปฐมพงศ์ กล่าว

ทีวีกลับมาไม่ได้แล้ว

ในยุคนี้ธุรกิจทีวีมีแต่จะถดถอยลง เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ดูทีวีน้อยลง โดยมีการประเมินว่า การรับชมทั่วโลกจะลดลง 10% ทุกปี ขณะที่รายได้จาก โฆษณาลดลง 4-12% ทุกปี ในส่วนช่อง MONO 29 ยอดรับชมลดลงใกล้เคียงกันที่ 10% ทุกปี และนับตั้งแต่ปี 2023 คาดว่ารายได้โฆษณาลดลง 15-20% หรือเฉลี่ยลดลง 4% ต่อปี

กลับกัน การเติบโตของบริการสตรีมมิ่งยังสูงขึ้น โดยจากการประเมินของ กสทช. พบว่ามูลค่าตลาด OTT ในปี 2022 อยู่ที่ 14,600 ล้านบาท มีผู้ใช้บริการกว่า 22 ล้านครัวเรือน ที่ใช้บริการ เติบโต 26.15% และปีนี้คาดว่าจำนวนครัวเรือนจะเติบโต 36.19% ส่วนมูลค่าตลาดคาดว่าจะเติบโต 20% และภายในปี 2024-2025 จะเติบโตเฉลี่ย 33% ต่อปี ขณะที่การสมัครบริการ OTT แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 4-5 แอปต่อครัวเรือน ส่วนการสมัครแบบเสียค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 2-4 แอปต่อครัวเรือน

รายได้ MONO MAX จะแซง MONO 29 ในปีหน้า

ในช่วง 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้รวม 1,387 ล้านบาท แบ่งเป็นทีวีดิจิทัล 795 ล้านบาท ตามด้วยแพลตฟอร์ม MONOMAX มีรายได้ 400 ล้านบาท และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ปฐมพงศ์ คาดว่า MONOMAX จะทำรายได้แซงหน้า MONO 29 ภายในไตรมาส 2 ปี 2024 โดยจุดแข็งของ MONOMAX คือ พากย์ไทย 100% และ คอนเทนต์จีน นอกจากนี้มีคอนเทนต์จาก อินเดีย บ้าง ส่วนใหญ่เป็นแนวแอ็คชั่น

“ทีวีมาชัวร์แล้ว คนอาจไม่ดูมากไปกว่านี้ แต่สตรีมมิ่งยังโตได้อีก ทีวีต้องลงทุนเยอะ ซับซ้อน แต่สตรีมมิ่งซับซ้อนน้อยกว่า โอกาสทำกำไรมากกว่า ซึ่งพฤติกกรรมผู้บริโภคต่างจาก 8 ปีก่อนที่เราพึ่งเริ่ม ตอนนั้นเขาจ่ายเงินยากมาก ตอนนี้เขายอมจ่าย แต่ตอนนี้ผู้เล่นมีหลายราย เราจะดึงเงินให้เขามาจ่ายอย่างไรคือความท้าทาย”

อัดงบคอนเทนต์ 1,200 ล้านบาท

การจะดันรายได้ของ MONOMAX และรักษารายได้ MONO 29 ก็คือ คอนเทนต์ โดยวางงบไว้ 1,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน คือ

  • ผลิตออริจินอลคอนเทนต์ (ปีละ 8-12 เรื่อง)
  • คอนเทนต์สำหรับ MONO29 (ภาพยนตร์ฮอลลีวูด 5-8 เรื่อง/เดือน)
  • คอนเทนต์สำหรับ MONOMAX (ปัจจุบันมี 3,000 เรื่อง)

โดยในส่วนของ MONO29 ช่วงไพรม์ไทม์ของช่อง (6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม) จะยังฉายภาพยนตร์ฮอลลีวูด และปีหน้าจะโฟกัสที่รายการข่าวและวาไรตี้มากขึ้น นอกจากนี้ หลังจากที่ทดลองนำซีรีส์จีนที่ลงในแพลตฟอร์ม MONOMAX มาฉายในช่วงกลางวันก็ได้รับการตอบรับที่ดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มยอดผู้ใช้งานใน MONOMAX อีกทางด้วย

สำหรับจำนวนสมาชิก MONOMAX ปีหน้า ปฐมพงศ์ คาดว่าจะทะลุ 1 ล้านราย และเพิ่มเป็น 2-2.85 ล้านรายภายในปี 2025

]]>
1452160
สรุปเวทีสัมมนา “AIS Greenovation The Road Towards Digital World” ที่ยิ่งตอกย้ำว่าปัญหา ‘สิ่งแวดล้อม’ ต้องเร่งช่วยกันแก้ https://positioningmag.com/1451302 Fri, 10 Nov 2023 01:43:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451302

หนึ่งในพาย 3 ชิ้นที่ เอไอเอส (AIS) ยึดเป็นแนวทางในการทำงานก็คือ ความยั่งยืน ทั้งในมิติของสังคม เศรษฐกิจ รวมถึง สิ่งแวดล้อม ที่เอไอเอสให้ความสำคัญมาโดยตลอด ล่าสุดเอไอเอสเปิดเวทีสัมมนา AIS Greenovation The Road Towards Digital World เชื่อมต่อนวัตกรรมสู่การเติบโตในโลกดิจิทัลอย่างยั่งยืน” ชวนพาร์ทเนอร์และ Stake Holder มาถกประเด็นถึงด้านสิ่งแวดล้อมและแนวทางการทำงานเพื่อร่วมกันลด และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน


ไทยสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 6 แสนล้านบาทจากโลกร้อน

ภคมน สุภาพพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ได้มาเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม พื้นที่กรุงเทพฯ มีอุณหภูมิทะลุเกิน 40 องศา ที่ 42-44 องศาเลยทีเดียว ส่วนในยุโรปเองอุณหภูมิก็สูงขึ้น 5 องศาต่อเนื่อง 5 วัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการเปลี่ยนเเปลงทางสภาพภูมิอากาศถึง 6 ราย และการที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3-5 องศา ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 7 เมตร เลยทีเดียว

โดยนับตั้งแต่ปี 2011 ประเทศไทยได้สูญเสียทางเศรษฐกิจกว่า 6 แสนล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น เป็น 2.89 ล้านล้านบาท หรือเทียบเท่างบของประเทศทั้งหมดกว่า 3 ล้านล้านบาท


มี E-Waste ในไทยเพียง 10% ที่ถูกกำจัดอย่างถูกต้อง

เอื้อง สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS เล่าถึงสาเหตุที่เอไอเอสริเริ่มโครงการ คนไทยไร้ E-Waste ว่า ในช่วง 6 ปีหลังมานี้ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) มีส่วนทำให้ก๊าซคาร์บอนเพิ่มขึ้นกว่า 53% โดยขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกเผาทำลายคิดเป็นมูลค่าถึง 57,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลมีมูลค่าเพียง 10,000 ล้านดอลลาร์ เท่านั้น ขณะที่ประเทศไทย มีขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกกำจัดอย่างถูกต้องเพียง 10% เท่านั้น

จากการคาดการณ์ของ GSMA พบว่า ปัจจุบันประชากรทั่วโลกถือครองโทรศัพท์ราว 5.4 พันล้านเครื่อง และภายในปี 2030 จะเพิ่มเป็น 9 พันล้านเครื่อง หรือเกือบเท่าตัว หรือเฉลี่ยแล้วแต่ละคนมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 8 กิโลกรัม และปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้นเป็น 110 เมตริกตัน ภายในปี 2050

โดยจากการสำรวจพบว่ามีหลายสาเหตุที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้วไว้กับตัว หรือทิ้งแบบผิด ๆ ได้แก่

  • ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน (83%)
  • ไม่รู้ว่ารีไซเคิลได้ (60%)
  • กลัวข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล (52%)

ดังนั้น ในแกน ลดและรีไซเคิลของเสีย จากการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมให้คนไทยร่วมกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี เอไอเอสและพาร์ทเนอร์กว่า 190 องค์กรทั่วประเทศ ร่วมกับเป็น Hub of E-Waste ที่จะเป็นพื้นที่สร้างการตระหนักรู้ สร้างจุดดร็อปพ็อยต์รับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ สร้างกระบวนการคัดแยก จัดส่ง และนำไปรีไซเคิลโดยปราศจากการฝังกลบ รวมถึงการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามายกระดับการจัดการโดยแอปฯ E-Waste Plus ที่ช่วยให้ติดตามเส้นทางการกำจัดและคำนวนคาร์บอนสกอร์ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นคาร์บอนเครดิตได้ในอนาคต และลูกค้าเอไอเอสจะได้รับพ็อยต์เมื่อทิ้ง E-Waste กับเอไอเอส

“ยิ่งโลกเข้าสู่โลกดิจิทัลแค่ไหน อุปกรณ์ก็ยิ่งเพิ่มเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เอไอเอสตระหนักและทำให้เกิดเป็นวาระที่ต้องพูดคุยว่าจะทำอย่างไรกับมัน และเราไม่เหนื่อยที่จะสร้างอแวร์เนสหรือเอดดูเขตผู้คน เราพร้อมที่จะร่วมกับทุกหน่วยงาน เราพร้อมมาก” สายชล ย้ำ


ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจเสียหาย ตัวมนุษย์เองยิ่งเสีย

สมปรารถนา นาวงษ์ ผู้ก่อตั้ง “เพจอีจัน” กล่าวต่อว่า การกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่ถูกวิธีส่งผลเสียมากกว่าการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจหรือทรัพยากรในการนำไปรีไซเคิล แต่ขยะอิเล็กทรอนิกส์หากนำไปเผาทำลายหรือทำลายไม่ถูกวิธีจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและร่างกาย เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มีทั้งตะกั่ว, ปรอท และสารพิษอื่น ๆ ซึ่งมันก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย หรือถ้าไปอยู่ในดินหรือแหล่งน้ำ มันก็จะกลับมาสู่ห่วงโซ่ระบบนิเวศและมาสู่ร่างกายคนเราในที่สุด

“คนไทยหลายคนเลือกขายให้กับซาเล้ง เขาก็ไปชำแหละหาของที่นำไปขายได้ อะไรขายไม่ได้เขาก็เผาทิ้ง ซึ่งก็ไปทำลายชั้นบรรยากาศ ตัวเขาเองก็สูดดมควันพิษ มีการสุ่มเจาะเลือดแรงงานหลายคนพบว่ามีสารตะกั่วปนในเลือด บางรายเกินมาตรฐาน หรือในดินที่มีการเผาหรือฝังขยะอิเล็กทรอนิกส์มีสารตะกั่วเกินมาตรฐาน 20 เท่า สารหนู 5 เท่า” สมปรารถนา กล่าว


เดินหน้าสร้างเน็ตเวิร์กสีเขียว

ไม่ใช่แค่แกนลดและรีไซเคิลของเสีย แต่เอไอเอสก็มีแผน ลดผลกระทบผ่านการบริหารจัดการกระบวนการดำเนินธุรกิจและห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ โดย วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เล่าว่า ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไปแล้วถึง 131,752 ตัน หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้รวม 17 ล้านต้น

โดยหนึ่งในกิจกรรมที่เอไอสทำคือ เปลี่ยนสถานีฐานมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 8,884 สถานี โดยสามารถ ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 39,832 ตัน โดยเอไอเอสมีแผนเปลี่ยนสถานีฐานมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพิ่มขึ้น 4,000 สถานี  รวมถึงมีแผนการนำ AI มาใช้จัดการเครือข่ายอัตโนมัติ Autonomous Network  โดยตั้งเป้าพัฒนาเครือข่าย  Autonomous Network ไปสู่มาตรฐาน L3 (Level 3) ในปีนี้และ L5 ในปี 2025

“หากนับเฉพาะอุตสาหกรรมโทรคมคอนซูเมอร์ มีการใช้พลังงาน 0.4% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมทั่วโลก อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการโทรคมนาคมกว่า 50% รวมถึงเอไอเอสก็มีความพยายามลดใช้พลังงาน สร้างกรีนเน็ตเวิร์ก และต้องการไป  Net Zero” วสิษฐ์ ทิ้งท้าย

 

 

]]>
1451302
‘AIS’ ชี้ตลาดโทรคมนาคมยังคงแข่งขัน! เชื่อคลื่น 700 MHz จาก ‘NT’ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณขึ้น 30% https://positioningmag.com/1450806 Mon, 06 Nov 2023 13:38:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1450806 หลังจากที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ออกมายืนยันว่า ไม่เคยมีการ ฮั้วราคา กับ เอไอเอส ตามที่มีประเด็นในโลกโซเชียลฯ หลังจากที่หลายคนบ่นว่าคุณภาพสัญญาณมีปัญหา และปรับราคาแพ็กเกจใหม่ โดยล่าสุด ทางเอไอเอสก็ออกมายืนยันอีกเสียงว่า การแข่งขันยังมี เพราะเอไอเอสก็ไม่ยอม

การแข่งขันยังมี แต่ราคากลับสู่ภาวะปกติ

จากประเด็นในโลกโซเชียลฯ ว่าหลังจากที่ตลาดโทรคมนาคมเหลือผู้เล่นหลัก 2 ราย ทำให้ราคาค่าบริการสูงขึ้นสวนทางกับคุณภาพหรือไม่ ทาง สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS อธิบายว่า หากเทียบคุณภาพกับราคา ตลาดไทยถือว่า ถูกกว่าหลายประเทศ เพียงแต่ในช่วง 2-3 ปีก่อนมีการแข่งขัน ผิดปกติ เพราะมีการแข่งขันเพื่อขยับจากเบอร์ 3 ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ซึ่งผู้บริโภคอาจจะเคยชิน แต่ปัจจุบันตลาดกลับไปสู่ ราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ตลาดไทยมี กสทช. ควบคุมราคาอยู่แล้ว ซึ่งราคาในปัจจุบันยังถือว่า ต่ำกว่าที่ กสทช. กำหนด

“การแข่งขันยังมีเพราะเราก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ตอนนี้สงครามราคาก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ตอนนี้มันถูกปรับมาสู่ภาวะการตลาด เพราะเรามีการลงทุนปีละหลายหมื่นล้านบาท ตอนนี้ต้นทุนเรื่องค่าไฟต่าง ๆ ก็สูงขึ้น” สมชัย อธิบาย

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS

คลื่น 700 MHz ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 30%

ในส่วนของเรื่องคุณภาพ Network สมชัยก็ย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับที่เหลือผู้เล่น 2 ราย แต่เป็นหน้าที่ของเอไอเอสที่จะทำให้ดีขึ้น โดยนอกจากการลงทุนปีละหลายหมื่นล้านบาทแล้ว ล่าสุด เอไอเอสได้ร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT นำคลื่น 700 MHz จำนวน จำนวน 5 MHz มาเสริมทำให้เอไอเอสมีคลื่น 700 MHz รวม 20 MHz ก็จะยิ่งทำให้เน็ตเวิร์กกว้างขึ้น ทะลุทะลวงมากขึ้น

“การที่ได้คลื่น 700 MHz มาอีก 5 MHz จะช่วยให้สัญญาณเราดีขึ้น 30%” สมชัย ย้ำ

นอกจากนี้ เอไอเอสเปิดตัวบริการ 5G Living Network ที่เป็นบริการ Network on Demand ให้ผู้ใช้สามารถเลือกความเร็ว เลือกเวลา และเลือกสถานที่ที่จะอัปสปีดความเร็วของสัญญาณได้ ซึ่งจะมีค่าบริการเพิ่มเติม และใช้ได้ 3 ชั่วโมง โดยจะเปิดให้ใช้บริการในช่วงต้นเดือนหน้า

ย้ำ 3BB ไม่ผูกขาด

ในส่วนของดีลระหว่างเอไอเอสกับ 3BB ที่ยังไม่จบนั้น สมชัย เชื่อว่า ไม่ผูกขาด เพราะในตลาด อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ยังมีผู้เล่นรายใหญ่อีกหลายราย อาทิ ทรู และ ToT อีกทั้งธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยัง ไม่ต้องมีคลื่นความถี่ ดังนั้น สามารถมีผู้เล่นใหม่เข้ามาได้ตลอด ซึ่งปัจจุบันตลาดก็มีผู้เล่นรายย่อยหลายร้อยราย

ทั้งนี้ เอไอเอสเชื่อว่าหากควบรวมกับ 3BB สำเร็จจะทำให้บริการครอบคลุมกว่า 13 ล้านครัวเรือน ล่าสุด เอไอเอสได้เปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุด WiFi 7 รายแรกในไทย โดยร่วมกับ TP-Link ที่มาพร้อมเราเตอร์มาตรฐาน WiFi 7 ในการรองรับดีไวซ์ Device ให้เชื่อมต่อได้ ลดปัญหาเกี่ยวกับช่องสัญญาณที่แออัด ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น รองรับการ สตรีมแบบวิดีโอแบบ 8K การใช้งาน VR ที่ตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้อย่างครบถ้วน

ยังยึดหลัก “พาย 3 ชิ้น”

สำหรับทิศทางของเอไอเอสยังคงอยู่บนเส้นทางการเป็น องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co พร้อมยึดหลัก พาย 3 ชิ้น หรือ ECOSYSTEM ECONOMY โดยเอไอเอสยังคง 1. ลงทุนในอินฟราสตรักเจอร์พร้อมพัฒนาสู่โครงข่ายเน็ตเวิร์คอัจฉริยะ โดยจะมีบริการใหม่ ๆ เช่น 5G Living Network, WiFi 7, Enterprise Platform – CPaaS (Communication Platform as a Service) และ AIS Paragon ที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G, Fibre, Edge Computing, Cloud, และ Software Application

2. Cross Industry Collaboration เพราะเอไอเอสไม่อยากโตคนเดียว ดังนั้น ด้วยฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านเลขหมาย จะช่วยให้พาร์ตเนอร์สามารถเติบโตไปพร้อมกับเอไอเอส อาทิ ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เชื่อมโยงร้านค้าถุงเงินรวมกว่า 1.8 ล้านร้านค้า และจับมือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ตเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง ให้นำ AIS Point ใช้แทนเงินสด ล่าสุด สามารถนำ Point ของพันธมิตรเอไอเอสมาเปลี่ยนเป็น AIS Point ได้ด้วย

ในส่วนขององค์กร ได้ร่วมกับ ZTE เพื่อเตรียมเปิดตัวบริการ Cloud PC for Enterprise ให้องค์กรใช้งานคอมพิวเตอร์ผ่านคลาวด์ในรูปแบบ Desktop as a Service (DaaS) และถือเป็น ครั้งแรกในอาเซียน ที่พร้อมให้บริการ Microsoft Teams Phone ให้องค์กรและพนักงานสามารถโทรออกไปยังเบอร์ภายนอกและรับสายได้ผ่าน Microsoft Teams รวมไปถึงการนำสุดยอดนวัตกรรม genAI ช่วยยกระดับการทำงานของ Microsoft 365 Copilot for Enterprise

สุดท้าย 3. ความยั่งยืน เพราะองค์กรต้องมีส่วนร่วมในการดูแล เศรษฐกิจ ผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กัน ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ทำหลักสูตร AIS อุ่นใจ CYBER ตั้งแต่ปี 2009 ในด้านสิ่งแวดล้อมก็มุ่งสร้าง Green Network ผ่านการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม อาทิ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในสถานีฐานเพื่อบริหารจัดการพลังงานให้, การเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานหมุนเวียนจากทั้งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม และการรณรงค์แยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste

“เราไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนเลย เรายังยึดมั่นในพาย 3 ชิ้น เราอยากทำ ECOSYSTEM ECONOMY หรือเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน เพราะเราเชื่อว่าพาย 3 ชิ้นนี้จะนำไปสู่ Sustainable Nation เพื่ออนาคตไทยอย่างยั่งยืน” สมชัย ทิ้งท้าย

]]>
1450806
AIS ยกระดับ “อุ่นใจ CYBER“ สร้าง ดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล เดินหน้าสู่เป้าหมาย Cyber Wellness for THAIS ภารกิจสร้างสังคมดิจิทัลให้ปลอดภัย https://positioningmag.com/1435005 Tue, 27 Jun 2023 02:00:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435005

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เรียกว่าประเทศไทยได้เข้าสู่งสังคมดิจิทัลอย่างเต็มตัว มีผู้ใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้นมากมาย แต่สังคมดิจิทัลนี้เองก็มีทั้งคุณ และโทษในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่ามีคุณอนันต์ทั้งในเรื่องของการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ก็ตามมาด้วยโทษทั้งทางตรง และทางอ้อม ไม่ว่าจะเรื่องความปลอดภัย รวมไปถึงผลเสียด้านจิตใจอีกด้วย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้งานโซเชียลมีเดียสูงเป็นอันดับต้นๆ แพลตฟอร์มใหญ่ๆ ล้วนมีผู้ใช้งานมหาศาล ได้แก่ Facebook มีผู้ใช้งาน 48.1 ล้านคน, YouTube 43.9 ล้านคน, TikTok 40.8 ล้านคน, Messenger 35.05 ล้านคน, Instagram 17 ล้านคน และ Twitter 14.6 ล้านคน นอกจากมีผู้ใช้งานที่สูงแล้ว จำนวนการใช้งานก็ไม่น้อยเลย บางคนถึงกับติดโซเชียล มีการใช้งานเฉลี่ยถึงวันละ 7-8 ชั่วโมงเลยก็มี

เมื่อสังคมดิจิทัลกำลังผลิบานไปทั่วโลก ผู้ประกอบการทางด้านโทรคมนาคม หรือไอทีที่เป็นหนึ่งในกลไลสำคัญในการขับเคลื่อนดิจิทัลก็ขอเป็นส่วนใหญ่ในการสร้างสังคมดิจิทัลที่สร้างสรรค์ด้วยเช่นกัน


เปิดเส้นทาง 4 ปี “อุ่นใจ CYBER”

ในประเทศไทยเราเห็นได้ชัดจาก AIS หลังจากที่เคยประกาศว่าจะเป็นมากกว่าโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ ทรานส์ฟอร์มสู่ Digital Service Provider นั้น AIS ได้มีบริการที่หลากหลายออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานดิจิทัล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ลืมที่จะทำควบคู่กันไปก็คือ ความรับผิดชอบต่อสังคมในการสร้างพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลด้วยเช่นกัน เพราะนอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลกำไรแล้ว หนึ่งในภารกิจใหญ่ของ AIS ก็คือ การสร้างสังคมดิจิทัลให้สร้างสรรค์ และปลอดภัยนั่นเอง

AIS ริเริ่มโครงการ “อุ่นใจ CYBER” ในปี 2562 โดยมีเป้าหมายให้คนไทยสามารถเข้ามาเรียนรู้วัดระดับการรับมือกับภัยไซเบอร์รูปแบบต่างๆ โดยมีทั้งการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยไซเบอร์ และสร้างองค์ความรู้เพิ่มเติม เพื่อให้ใช้งานอย่างปลอดภัยมากขึ้น และในปีเดียวกันนั้นก็ได้เปิดให้บริการ AIS Secure Net และ Google Family Link ด้วยเช่นกัน

เส้นทางของอุ่นใจ CYBER มีวิวัฒนาการที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2564 ได้เริ่มพัฒนาหลักสูตรอุ่นใจ CYBER ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ในปี 2565 และได้นำหลักสูตรเข้าสถานศึกษาทั้งหมดในสังกัด สพฐ. เพื่อถ่ายทอดให้กับนักเรียนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีผู้เรียนหลักสูตรอุ่นใจ CYBER แล้วกว่า 250,000 คน

โดยที่ในปี 2565 ในประเทศไทยได้มี “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ระบาดอย่างหนัก และมีคนตดเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพมากมาย ทาง AIS จึงได้เปิดสายด่วน 1185 เพื่อรับแจ้งเบอร์ และ SMS มิจฉาชีพ และร่วมกับตำรวจไซเบอร์ในการจับมิจฉาชีพด้วย

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า

“ปัญหาภัยไซเบอร์กลายเป็นวาระที่ทั้งโลกหันมาให้ความสำคัญเพราะมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยส่งผลกระทบตั้งแต่ระดับบุคคล ทั้งเรื่องการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล การล่อลวงผ่านช่องทางออนไลน์ และการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ไปจนถึงระดับประเทศ หรือองค์กร ในเรื่องของความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่เชื่อมโยงกับเรื่องของ เศรษฐกิจดิจิทัล ระบบสารสนเทศ ที่ต้องมีการรับมืออย่างจริงจัง 

ดังนั้น AIS ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัล เราเข้าใจดีว่าเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญต่อสังคมดิจิทัลทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่ผ่านมากว่า 4 ปี  AIS จึงอาสาจุดประกายสังคมเกี่ยวกับประเด็นนี้ ตั้งแต่วันที่ดิจิทัลเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อวิถีการใช้ชีวิต ผ่านโครงการ AIS อุ่นใจ CYBER ทั้งในด้านการสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตราย และผลกระทบจากการใช้งาน การพัฒนาโซลูชันและบริการดิจิทัลเพื่อปกป้องและส่งเสริมการใช้งานอย่างปลอดภัย และการสร้างองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมความฉลาดและทักษะของพลเมืองดิจิทัล”


ยกระดับสู่ Cyber Wellness for THAIS

สมชัยยังเสริมอีกว่า ยังจำได้ว่าในตอนที่เข้ารับตำแหน่ง CEO ใหม่ๆ ได้มีภารกิจ Digital for THAIS ในการสร้างสังคมดิจิทัลให้เข้าถึงคนไทยได้ทุกคนอย่างยั่งยืน แต่ว่าตอนนี้ภารกิจนี้อย่างเดียวไม่พอ ตอนนี้ต้องเป็น Cyber Wellness for THAIS ต้องทำสังคมดิจิทัลให้ปลอดภัย และเป็นประโยชน์

“ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา มีการใช้งานดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีข้อมูลว่าตอนนี้มีผู้ใช้งานดิจิทัลทั่วโลกรวมกว่า 1,200 ล้านคน แต่ในปี 2568 จะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านคน การใช้งานดิจิทัลได้แทรกซึมเข้าไปถึงทุกคน และอุปกรณ์ต่างๆ สมาร์ทโฟนก็จะทรงพลังมากขึ้น”


เปิดดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล คนไทยยังเสี่ยงภัยไซเบอร์

จากการที่ AIS ทำงานเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแนวทางแก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ และเกิดความยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาดัชนีชี้วัดที่จะบ่งบอกถึงระดับความรู้ และทักษะดิจิทัลในด้านต่างๆ ที่ชัดเจนของประชาชนในแต่ละกลุ่ม อันจะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำเครื่องมือ และองค์ความรู้ส่งมอบให้กับคนไทยได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย และสอดคล้องกับปัญหาเกิดขึ้น

จึงได้เปิดตัว “ดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล หรือ Thailand Cyber Wellness Index (TCWI)” ถือเป็นฉบับแรกของประเทศไทย โดยมีพันธมิตรรายสำคัญอย่าง “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี” พร้อมนักวิชาการหลากหลายแขนง มาร่วมกันทำงานเพื่อยกระดับเรื่องดังกล่าวให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วม

ดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล Thailand Cyber Wellness Index ชี้ให้เห็นถึงทักษะดิจิทัล  ที่ครอบคลุมพฤติกรรมการใช้งานดิจิทัลของคนไทย 7 ด้าน ประกอบด้วย ทักษะการใช้ดิจิทัล (Digital Use), ทักษะการรู้เท่าทันดิจิทัล (Digital Literacy), ทักษะ ด้านการสื่อสารและการทำงานร่วมกันบนดิจิทัล (Digital Communication and Collaboration), ทักษะด้านสิทธิทางดิจิทัล (Digital Rights), ทักษะด้านความมั่นคงความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security and Safety), ทักษะด้านการกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ (Cyberbullying) และทักษะด้านความสัมพันธ์ทางดิจิทัล (Digital Relationship)

มีขั้นตอนวิธีการเก็บผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่มีความหลากหลายทั้งช่วงอายุ และกลุ่มอาชีพจากทุกจังหวัด ทั่วประเทศกว่า 21,862 คน จากผลการศึกษาพบว่า ภาพรวมของคนไทยมีสุขภาวะทางดิจิทัล อยู่ในระดับพื้นฐาน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีถึง 44.04% ที่ยังอยู่ในระดับต้องพัฒนา แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ดิจิทัลให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น

สมชัย กล่าวเสริมอีกว่า “จากผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย ทำให้เราเห็นจุดที่ต้องพัฒนาทักษะเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ใช้งานในอีกหลายประเด็น โดย AIS พร้อมด้วยพันธมิตรจะยังคงเดินหน้าทำงานเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามามีส่วนสำคัญทำให้ดัชนีฉบับนี้เป็นสมบัติของประเทศไทย อันจะเป็นเสมือนหนึ่งเข็มทิศที่ช่วยให้พวกเรามองเห็นเส้นทางในการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับคนไทยได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง”

AIS มีความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมดิจิทัลให้มีความปลอดภัย ทั้งในแง่ของการสร้างความตระหนักรู้ และภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์ และไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างครอบคลุม

เพราะนอกเหนือจากภารกิจในการมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อคนไทยแล้ว AIS ยังมีอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัล หรือ Digital Literacy ให้สังคม ลูกค้า และประชาชนทุกกลุ่ม รู้เท่าทันภัยด้านไซเบอร์หลากหลายรูปแบบที่อาจเกิดตามมาจากการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต สื่อโซเชียล

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย เพิ่มเติมที่ https://sustainability.ais.co.th/storage/update/report/advanc-ebook-thailand-cyber-wellness-th.pdf หรือองค์กรใดสนใจนำดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัล Thailand Cyber Wellness Index เพื่อใช้วัดผลและขับเคลื่อนองค์กร สามารถติดต่อมาได้ที่ aissustainability@ais.co.th

]]>
1435005
‘เอไอเอส’ ดึง ‘HBO’ คัมแบ็ก! เสริมแกร่งพอร์ตคอนเทนต์ รับเทรนด์วิดีโอสตรีมมิ่งที่กำลังเติบโต https://positioningmag.com/1430829 Thu, 18 May 2023 10:00:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1430829

สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดและลูกค้าไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน เมื่อ เอไอเอส (AIS) ได้เป็นพันธมิตรกับ เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) พร้อมจัดแพ็คเกจรายเดือน ล่าสุด เอไอเอสก็ได้อีกแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง เอชบีโอ (HBO) กลับเข้ามาสู่มืออีกครั้ง ซึ่งจะยิ่งเสริมแกร่งคอนเทนต์ให้กับเอไอเอส


ดึง HBO กลับบ้าน AIS อีกครั้ง

ย้อนไปปี 2560 ใครที่ใช้บริการ AIS Play บริการบันเทิงเต็มรูปแบบของเอไอเอสน่าจะคุ้นเคยกับช่อง HBO แต่ในปี 2563 ช่อง HBO ก็หมดสัญญาไป จนมาปี 2566 นี้ เอไอเอสก็ได้พา HBO กลับมาให้บริการอีกครั้ง และครั้งนี้พิเศษกว่าเดิม เพราะนอกจากแพลตฟอร์ม HBO Go แล้วยังมีอีก 5 ช่องเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ HBO, HBO Signature, HBO HITS, HBO Family และ Cinemax

การที่เอไอเอส ได้ HBO เข้ามาเป็นพันธมิตรใหม่อีกราย ทำให้เอไอเอสแทบจะกวาดแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่ให้บริการในไทยครบทุกรายแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เอไอเอสก็พึ่งได้ Netflix เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หรืออีกแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Disney+ Hotstar นอกจากนี้ ไม่ว่าจะ IQIYI, VIU, WeTV หรือช่องกีฬาอย่าง beIN Sports ก็เป็นพาร์ทเนอร์กับเอไอเอสทั้งหมด ตอนนี้คงจะเหลือเพียง Prime Video แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Amazon ที่พึ่งทำตลาดในไทยไปไม่นานมานี้เท่านั้น

 


ทำไมคอนเทนต์ถึงสำคัญ?

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS อธิบายว่า การแข่งขันของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่ว่าจะเป็น 5G หรืออินเตอร์เน็ตบ้าน คอนเทนต์ ได้กลายเป็น ส่วนเสริม และกลายเป็นเรื่องปกติถ้าไม่มีแปลว่าแปลก

ขณะที่เทรนด์ของไทยและทั่วโลก การใช้งานแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต 71 ล้านคนในไทย มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งถึง 25.15 ล้านราย คิดเป็น 38% มีมูลค่าจับจ่ายราว 12,341 ล้านบาท เติบโต 14.4% และมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1,291 บาท/คน/ปี เติบโต 8.26%

นอกจากนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการว่า คอนเทนต์เอนเตอร์เทนต์เมนต์ เป็นตัวขับเคลื่อนในการใช้งานอินเตอร์เน็ต โดยปัจจุบัน ค่าเฉลี่ยการใช้โมบายดาต้าทั่วไปเฉลี่ยที่ 22-24 GB ส่วนกลุ่มที่ใช้งานหนัก ๆ จะเกิน 40 GB ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรับชมวิดีโอ

ดังนั้น การเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มคอนเทนต์ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเอไอเอส คือ นำเสนอโครงข่ายที่ดีคอนเทนต์ที่ดีให้กับลูกค้า ปัจจุบัน 5G ของเอไอเอสครอบคลุมพื้นที่กว่า 87%

“เราร่วมงานกับทุกคอนเทนต์พาร์ทเนอร์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงคอนเทนต์คุณภาพ แต่ไม่จำเป็นว่าเราต้องเป็นเจ้าของคอนเทนต์ แต่เป็นพาร์ทเนอร์กับคนที่มีคอนเทนต์ โดยการเติบโตไปของเราจะอยู่บนพื้นฐานของอีโคซิสเต็มส์ที่ร่วมกับนี่พาร์ทเนอร์


AIS Play ยิ่งแกร่ง

การได้ HBO เข้ามา ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าสาวก DC, Harry Potter, ซีรีส์ Game of Thrones และ คอนเทนต์คุณภาพจากค่าย Warner Bros. อีกมากมาย บอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ยิ่งลูกค้า AIS ทั้งในระบบเติมเงิน และรายเดือน รวมถึงลูกค้า AIS Fibre สามารถสมัครแพ็กเกจราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 99 บาท/เดือน นาน 3 เดือน (จากนั้นจะคิดค่าบริการตามปกติ 149 บาท/ เดือน) เพียงกด USSD *888# โทรออก

นอกจากนี้ ยังมีแพ็คเกจรายปี 999 บาท เพียงกด USSD *888*1#โทรออก ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 กรกฎาคม 2566 เท่านั้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและรายละเอียดแพ็กเกจ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ AIS PLAY https://www.ais.th/play/hbo.html และ HBO GO

]]>
1430829
อยากอัพสกิลไม่ต้องไปไกล! ‘AIS Academy’ ยกหลักสูตรจาก ‘แคนาดา’ ลงแพลตฟอร์ม ‘LearnDi’ ให้คนไทยได้เรียน https://positioningmag.com/1424392 Fri, 31 Mar 2023 13:00:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424392

อย่างที่หลายคนรู้กันว่า แคนาดา เป็นประเทศที่มีระดับคุณภาพการศึกษาที่สูง มาตรฐานการศึกษานั้นถือเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยเยาวชนของแคนาดาได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่เยาวชนมีผลการเรียนเป็นเลิศจากการวัดผลในโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Program for International Student Assessment) หรือ PISA และ เอไอเอส (AIS) ก็ได้ผนึกสถานทูตแคนาดา และสมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนการสอนมาให้คนไทยได้เรียนหลักสูตรแคนาดาผ่านแพลตฟอร์ม LearnDi

เพื่อยกระดับทักษะการเรียนรู้ให้กับคนไทน เอไอเอสจึงได้ต่อยอด AIS Academy สู่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ ชื่อ LearnDi ที่ เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้ เพื่อยกระดับทักษะของตัวเอง โดยมีทั้งหลักสูตร Hard Skill และ Soft Skill ให้ได้เรียนรู้ โดยปัจจุบันได้เปิดมานานกว่า 5 ปีแล้ว

ล่าสุด เอไอเอสก็ร่วมมือกับ สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และ สมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา หรือ Colleges and Institutes Canada (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศแคนาดา อาทิ Southern Alberta Institute of Technology (SAIT), McGill University, Athabasca University, Dalhousie University และ Humber College มาใส่ไว้ในแพลตฟอร์ม LearnDi โดยที่ไม่ต้องไปไกลถึงแคนาดา

สำหรับหลักสูตรจะมีทั้งสำหรับใช้พัฒนาอาชีพและประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง อาทิ แนวทางและการรับรองด้านการบริหารโครงการแบบ Agile (Agile Project Management Practice & Certification online), การบัญชีและการเงินสำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานด้านบัญชี (Accounting and Finance for Non- Accountants), การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Communicating effectively), การจัดการความขัดแย้ง (Conflict Management) เป็นต้น ความน่าสนใจคือ ในบางหลักสูตรนั้นมี Certificate จากสถาบัน ซึ่งจะสามารถนับเป็น หน่วยกิต เพื่อนำไปเรียนต่อที่สถาบันนั้น ๆ ของแคนาดาได้ในอนาคตได้อีกด้วย

“หลักสูตรที่นำมาใช้สอนจะเป็นประโยชน์ต่อเอไอเอสและคนไทย เพราะเป็นหลักสูตรที่ทางแคนาดาใช้สอนจริงไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คนทำงาน และเจ้าของกิจการ” นางสาวกานติมา เลอเลิศยุติธรรม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัท AIS และ กลุ่มอินทัช กล่าว

สำหรับความร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดาในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือในระดับมหภาค ดังนั้น เอไอเอส ต้องการให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ดังกล่าวได้ในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน, พาร์ทเนอร์ของเอไอเอส รวมไปถึงประชาชนทั่วไป และในอนาคตเอไอเอสจะยกบางส่วนของมหาวิทยาลัยแคนาดามาเปิดสอนใน AIS Academy เพื่อให้นักเรียนไทยที่สนใจเรียนต่อที่แคนาดา สามารถเรียนออนไลน์เพื่อเก็บหน่วยกิตได้ เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่าย

“ความตั้งใจของ AIS Academy ไม่ได้เปลี่ยนไป คือทำให้การศึกษาไร้พรมแดนเกิดขึ้นจริงผ่านแพลตฟอร์ม LearnDi เพื่อลดช่องว่างของโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา เพราะประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ”

นายซันจีฟ เชาเดอรีย์, ทูตพาณิชย์, สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา เสริมว่า ประเทศแคนาดาให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก และมาตรฐานการศึกษาของแคนาดาเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ดังนั้น การทำงานร่วมกับ AIS Academy จะเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่สิ่งยิ่งใหญ่ในอนาคต เพราะจะช่วยทำให้คนไทยได้เข้าถึงรูปแบบการเรียนการสอนของแคนาดา สามารถนำไปต่อยอดในวิชาชีพการทำงาน และยังเสริมทักษะใหม่ ๆ ให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถนับเป็นหน่วยกิตเพื่อนำไปเรียนต่อที่สถาบันนั้น ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

นางสาวเดนิส แอมโยท, ประธาน Colleges and Institutes Canada (CICan) กล่าวว่า CICan นั้นทำงานร่วมกับหลายองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น การร่วมมือกับ AIS Academy นับเป็นโอกาสอันดี เพราะเอไอเอสมีแพลตฟอร์มที่จะกระจายองค์ความรู้ที่เหมาะกับความต้องการของคนไทย

กานติมา ทิ้งท้ายว่า ในโลกยุคหลังโควิดจะเห็นว่าหลายคนต้องการอัพสกิล-รีสกิล โดยเฉพาะการเพิ่มทักษะเกี่ยวกับการทำงานใหม่ ๆ เช่น การใช้ประโยชน์จากข้อมูล, การสร้างความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม เอไอเอสมีหน้าที่ทำให้คนเข้าถึงหลักสูตรได้มากที่สุด แต่การจะมาเรียนรู้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ ดังนั้น เอไอเอสไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะในด้านจำนวนผู้ใช้ แต่อยากจะเป็นอีกช่องทางให้คนที่อยากพัฒนาตัวเองได้เข้าถึง

“เป้าหมายของ AIS Academy นั้นไม่เคยเปลี่ยน เราต้องการจะขยายโอกาสให้คนทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้เรียนรู้ เพราะเรามองว่าประเทศจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ศักยภาพของคนเป็นเรื่องสำคัญ และเราเชื่อว่าบริษัทเราจะเจริญก้าวหน้าได้สังคมต้องเติบโตให้เร็วกว่าเอไอเอส”

สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://learndi.aisacademy.com/

]]>
1424392
สรุปทิศทาง ‘AIS’ 2023 กับแนวคิด ‘พาย 3 ชิ้น’ และการเติบโตในแบบ Ecosystem Economy! https://positioningmag.com/1425569 Thu, 30 Mar 2023 08:57:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425569 เป็นประจำทุกปีที่ เอไอเอส (AIS) จะมาเปิดเผยถึงทิศทาง กลยุทธ์ ขององค์กร รวมถึงแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยในปีนี้ สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) แม่ทัพใหญ่ของ AIS ก็ได้ออกมาพูดถึงแนวคิด พาย 3 ชิ้น ที่จะพาเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ทั้งองคาพยพ

SME โตไม่ได้เพราะโครงสร้างไม่เอื้อ

สมชัย อธิบายว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2023 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 3.6% ซึ่งถือว่าสูงกว่าหลาย ๆ ประเทศ เนื่องจากองค์กรใหญ่ในไทยนั้นมีความแข็งแรง แม้สถานการณ์ทั่วโลกจะมีความไม่แน่นอนทั้งจากสงคราม ค่าพลังงานที่สูงขึ้น และการล้มละลายของแบงก์ แต่เชื่อว่าประเทศสามารถผ่านวิกฤตได้แน่นอน

“ไทยมี GDP ใหญ่อันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน มีประชากร 72 ล้านคน และมี SME กว่า 3.2 ล้านราย ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะเติบได้ไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่แข็งแรง แต่ SME ต้องแข็งแรงด้วย”

อย่างไรก็ตาม ที่ SME ในไทยยังเกิดไม่ได้ สมชัยมองว่า เป็นเพราะ โครงสร้างของไทยมันเอื้อองค์กรใหญ่ ทั้งที่ในยุคดิจิทัลถือเป็น โอกาสทองของ SME ดังนั้น สิ่งที่เอไอเอสอยากนำเสนอคือ Ecosystem Economy คือการทำเศรษฐกิจแบบร่วมกันเพื่อช่วยให้เติบโตทั้งองคาพยพเติบโตขึ้นมา ซึ่งประกอบด้วย พาย 3 ชิ้น ได้แก่

  • การใช้งานโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Intelligence Infrastructure)
  • เปิดใจให้กว้างเพื่อรับทุกคนอย่ากินรวบคนเดียว (Cross Industry Collaboration)
  • ร่วมกันพัฒนาบุคลากรของไทย (Human Capital & Sustainability)

เห็นการเติบโตของดีไวซ์ 8 เท่า

ปัจจุบัน AIS ถือครองคลื่นความถี่ครบทั้งย่านความถี่ต่ำ กลาง และสูง รวมกว่า 1460 MHz มีผู้ใช้งานรวม 46 ล้านเลขหมาย ขณะที่ AIS Fibre เข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วไทยกว่า 8.8 ล้านครัวเรือน และครองส่วนแบ่งตลาดในเชิงของผู้ใช้งานกว่า 16%

ในส่วนของ 5G ก็ครอบคลุม 87% ของไทย โดยปีนี้ AIS ได้เป็นพันธมิตรกับ NT ทำให้ AIS มีคลื่น 700 MHz รวมเป็น 40 MHz ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ นอกจากนี้ AIS ได้พัฒนาบริการ AIS PARAGON (Next Generation Orchestration Platform) ที่จะเป็นเสมือน 5G One Stop Platform ให้ภาคอุตสาหกรรมช่วยบริหารจัดการ resources ผ่าน Cloud และ Edge Computing และอีกหนึ่งโครงสร้างพื้นฐานอย่าง Green Data Center ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยในปีนี้ AIS คาดว่าจะมีการลงทุนราว 27,000 – 30,000 ล้านบาท

“ปัจจุบัน ทั้งเราและคู่แข่งมีเลขหมายรวมกันกว่า 100 ล้านเลขหมาย แต่ภายในปี 2027 คาดว่าจะมีดีไวซ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านเครื่อง ดังนั้น เราเห็นโอกาสเติบโตอีกถึง 8 เท่า” สมชัย กล่าว

Subscription Model ที่เกิดได้เพราะ Collaboration

AIS ได้ยกตัวอย่างความร่วมมือข้ามองค์กรจนเกิดเป็นบิสซิเนสโมเดลใหม่ ๆ โดยอย่างแรกที่สร้างเสียงฮือฮาก็คือ Subscription iPhone 14 ที่ร่วมกับธนาคาร UOB ให้ใช้ iPhone รุ่นใหม่ทุก ๆ 2 ปี ในราคาเริ่มต้น 850 บาท/เดือน หรือการร่วมกับ Samsung ที่จับคู่ TV กับอินเทอร์เน็ตบ้าน และคอนเทนต์ต่าง ๆ ในราคาเดือน 1,299 บาท สัญญา 2 ปีเช่นกัน พร้อมได้ทีวีไปใช้เลย

“นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเข้าถึงลูกค้า ด้วยความที่เรามีฐานลูกค้า มีโครงข่ายกับระบบที่พร้อมจะร่วมกับพันธมิตร ดังนั้น พอร่วมกันแต่ละธุรกิจก็ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ทาง เราอาจได้ลูกค้าเพิ่มจากพันธมิตร ส่วนพันธมิตรก็ได้ลูกกค้าเอไอเอสเพิ่ม ซึ่งนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น” ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าว

นอกจากนี้ ในส่วนของ คอนเทนต์ หลังจากที่เคยร่วมกับ Disney+ Hotstar ในการออกแพ็กเกจราคาพิเศษ ล่าสุด ก็ได้ประกาศความร่วมมือกับ Netflix ปิดตัวแพ็กเกจ 5G + Netflix นอกจากนี้ ก็มี ช่อง 3 และ MonoMax ที่จะออกแพ็กเกจราคาพิเศษด้วยเช่นกัน

ไม่ใช่แค่ความร่วมมือกับอุตสาหกรรมใหญ่ แต่ที่ผ่านมา AIS ได้จับมือกับธนาคารกรุงไทยนำ AIS POINTS ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ในร้านถุงเงินที่มีกว่า 1.8 ล้านร้าน นอกจากนี้ก็มีการจับมือกับ ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัว บัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ที่สามารถนำการใช้จ่ายบนบัตรมาเปลี่ยนเป็น AIS POINTS และนำไปแลกสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้

การพัฒนาคนสิ่งที่ขาดไม่ได้

ในแกนของการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา AIS Academy ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน สถานทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และ สมาคมวิทยาลัยและสถาบันประเทศแคนาดา หรือ Colleges and Institutes Canada (CICan) ในการนำหลักสูตรการเรียนรู้จากสถาบันชั้นนำของประเทศแคนาดาเสมือนการนำโลกไร้พรมแดนมาให้คนไทยและลูกค้าได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง

นอกจากนี้ AIS ก็มีแคมเปญ “อุ่นใจ CYBER” ที่ส่งเสริมและสร้างทักษะดิจิทัลให้คนไทยรู้เท่าทัน พร้อมอยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์

Cognitive Tech-Co สิ้นปีหน้าได้เห็น

สำหรับการทรานส์ฟอร์มตัวเองไปสู่ Cognitive Tech-Co หรือพัฒนาโครงข่ายและองค์กรให้มีความอัจฉริยะขึ้น ทาง สมชัย คาดว่าจะได้เห็นความสมบูรณ์ภายในสิ้นปีหน้า โดยปัจจุบันกำลังเร่งสร้างทีม Data Analytics เพื่อพัฒนา Data Insight สำหรับตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อทำให้ IT Infrastructure ฉลาดขึ้น รวมถึงการพัฒนา Network Automation ที่จะมากกว่าความเร็วแรงของอินเทอร์เน็ต

“ปัจจุบัน AIS ขับเคลื่อนด้วย 4 แกน 1. Mobile ที่ยังแข็งแรงเป็นเบอร์ 1 2. Fixed Broadband แม้ปัจจุบันเป็นที่ 3 แต่ก็สามารถเติบโตอย่างรวดเร็ว 3. Enterprise Business ที่คาดว่าจะคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% และสุดท้าย Digital Service ที่ต้องค่อยเป็นค่อยไป อาศัยการลงทุนร่วมกับพาร์ตเนอร์”

ไตรมาส 2 ปิดดีล 3BB ได้แน่

ในส่วนของธุรกิจเน็ตบ้าน หรือ Fixed Broadband ปีที่ผ่านมา AIS มีลูกค้าอยู่ 2.2 ล้านราย มีรายได้ 10,064 ล้านบาท และหากดีลการเข้าซื้ออ 3BB สำเร็จ AIS จะมีลูกค้าเพิ่ม 2.4 ล้านราย รวมเป็น 4.6 ล้านราย ขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากเบอร์ 1 ที่มีฐานผู้ใช้ 5 ล้านราย โดย AIS คาดว่า หากได้ 3BB จะทำให้สัดส่วนธุรกิจบรอดแบนด์เพิ่มขึ้นมาเป็นกว่า 20% ของรายได้รวม

“เรายังมีเจตนาซื้อ 3BB ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้จะล่าช้ากว่าที่คิดไว้ก็ตาม ตอนนี้เรารอแค่กสทช. อนุญาต ซึ่งเราเชื่อว่าดีลนี้จะไม่มีปัญหา เพราะเป็นดีลที่สะอาดและโปร่งใสมาก” สมชัย ย้ำ

จะเห็นว่าเพียงแค่ไตรมาสแรก AIS ก็ขยับตัวในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการหา พันธมิตร ที่จะเข้ามาช่วย มัดใจลูกค้า เพราะต้องยอมรับว่าหลังจากที่ True และ Dtac ควบรวมกัน ทั้ง 2 ก็จัดเต็มสิทธิพิเศษยื้อลูกค้าให้อยู่ด้วยกัน จากนี้คงต้องรอดูว่าจะมีโมเดลใหม่ ๆ อย่าง Subscription ดีไวซ์จากอีกค่ายมาแข่งด้วยหรือไม่

]]>
1425569
แบงก์กรุงเทพ จับมือ AIS เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ชูจุดเด่นช้อปปลอดภัย ปรับวงเงินได้ https://positioningmag.com/1425114 Tue, 28 Mar 2023 04:32:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425114 ธนาคารกรุงเทพ จับมือกับ AIS เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดบัตร การเพิ่มหรือลดวงเงิน สามารถทำได้ผ่านแอป Bualuang mBanking นอกจากนี้ยังสามารถสะสมแต้ม AIS Points เพื่อสามารถนำแต้มไปแลกได้ในภายหลัง

ธนาคารกรุงเทพ และ AIS ได้เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS (บัตรบีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์) ซึ่งชูจุดเด่นในเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ทุกการช้อปออนไลน์ 200 บาท ได้รับ 1 AIS Points โดยที่ลูกค้าสามารถนำคะแนนแลกรับสิทธิพิเศษจากร้านค้ามากกว่า 1,800,000 ร้านค้าทั่วประเทศ

ความร่วมมือดังกล่าวนั้นผู้บริหารของ AIS มองเห็นคือผู้บริโภคซื้อของออนไลน์มากขึ้น โดย AIS มองว่าภายในปี 2027 ตลาด E-commerce อาจเติบโตได้ถึง 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่ทางผู้บริหารของธนาคารกรุงเทพก็มองถึงการฟื้นตัวของผู้บริโภคหลังการแพร่ระบาดโควิด รวมถึงการขยายลูกค้าที่ยังเข้าไม่ถึงบริการดังกล่าว

ผู้บริโภคที่สนใจสามารถออกบัตรเดบิตดังกล่าวเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ โดยสมัครผ่านแอป Bualuang mBanking ของธนาคารกรุงเทพ และสามารถสมัครใช้งานบัตรและเปิดใช้งานได้ทันที

ส่วนประเด็นความปลอดภัยของบัตรเดบิต หมายเลขบัตรเดบิตและ CVC และลูกค้าจะอยู่บนแอป Bualuang mBanking นอกจากนี้ยังสามารถปรับวงเงินของบัตรเดบิต หรือแม้แต่การเปิด-ปิดในการใช้งานบัตรดังกล่าวได้ทันที

นอกจากนี้การที่บัตรได้ใช้ระบบของ Master Card ยังทำให้ผู้ที่ใช้งานบัตรสามารถทวงเงินคืนได้ ถ้าได้สินค้าไม่ตรง หรือโดนโกง ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจเวลาการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้

โชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทางธนาคารกรุงเทพมองว่าคนมีความมั่นใจเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งยอดใช้จ่ายของลูกค้าธนาคารผ่านบัตรนั้นเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว รวมถึงการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีมากขึ้น

ขณะที่ ธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS กล่าวเสริมว่า ความมุ่งมั่นของ AIS ในการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้มีขีดความสามารถ และเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมหลักเพื่อสร้างการเติบโตให้กับ Digital Economy ของประเทศ โดยการจับมือกับพาร์ตเนอร์รายต่างๆ ในการสร้าง Ecosystem

เป้าหมายของธนาคารกรุงเทพคือมีผู้ใช้งานบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ถึง 6 ล้านรายภายใน 5 ปี โดยเน้นไปยังบัตรเดบิตแบบดิจิทัลมากกว่าบัตรจริง ซึ่งธนาคารกรุงเทพเองมองถึงโอกาสจากฐานลูกค้าของ AIS ที่มีลูกค้าใช้งานมากถึง 46 ล้านคน

]]>
1425114
มองเส้นทางแคมเปญ “มีความรู้ก็อยู่รอด” จาก “AIS อุ่นใจ CYBER” ที่สะท้อนว่า “ไม่ใช่แค่วิธีการ แต่เนื้อหา และเป้าหมายการทำงานก็สำคัญ” https://positioningmag.com/1419481 Fri, 17 Feb 2023 13:00:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1419481

การใช้ชีวิตประจำวันของเราในทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องจนแทบจะแยกกันไม่ออก และแน่นอนว่านอกจากประโยชน์ก็ต้องมีโทษที่เป็นเหมือนเงาตามตัวของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะจากมิจฉาชีพ ปัญหาไซเบอร์บูลลี่ และเฟคนิวส์ต่าง ๆ โดย เอไอเอส (AIS) ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่พยายามสร้าง ภูมิคุ้มกันไซเบอร์ ให้คนไทยมาตลอด ผ่านโครงการ AIS อุ่นใจ CYBER

เป้าหมายที่ไม่ใช่แค่ให้กระทรวงศึกษารับรองหลักสูตรแล้วจบไป

แต่ที่ผ่านมา เราเห็นกลยุทธ์การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่น่าสนใจอย่างมากของเอไอเอส เพื่อที่จะเข้าหาคนไทยให้ได้มากที่สุด


คอลแลปฯ ‘จอยลดา’ สร้างนิยายแชทเข้าถึง Gen Z

จอยลดา (joylada) แพลตฟอร์มนิยายแชทที่มีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มกว่า 10 ล้านคน และกว่าครึ่งเป็นกลุ่ม Gen Z ดังนั้น หากต้องการจะเข้าหาวัยรุ่น ทำไมจะไม่จอยกับจอยลดา จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ เอไอเอส จะมองเห็นโอกาสในการเผยแพร่หลักสูตร อุ่นใจ CYBER โดยร่วมกับจอยลดา

เพราะต้องยอมรับก่อนว่าถ้าแค่นำเสนอเนื้อหาแบบดั้งเดิมแบบวิชาการ คงไม่มีใครอยากจะเปิดอ่าน แต่ถ้าเป็นในรูปแบบของ Edutainment คือต้อง บันเทิง ไปพร้อม ๆ กับได้ความรู้ หลักสูตรอุ่นใจ CYBER เลยถูกย่อยออกมาเป็น นิยายแชท 7 เรื่อง ที่สะท้อนปัญหา 7 ด้านและ 7 ทักษะที่ควรรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการบูลลี่ การวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานการณ์ที่วัยรุ่นต้องเผชิญในชีวิตจริง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องยากที่วันรุ่นจะอินไปกับนิยาย

หลังจากที่ปล่อยแคมเปญไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม นิยายแชททั้ง 7 เรื่องก็มียอดวิวสูงถึง 2.8 ล้านครั้ง จนถึงปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่สะท้อนให้เห็นก็คือ การเข้าใจถึง Insight กลุ่มเป้าหมายของเอไอเอส ที่คิดแล้วว่าจะนำเสนอแค่หลักสูตรแล้วคาดให้วัยรุ่นมาศึกษามันไม่ได้ แต่ต้องปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นของเอไอเอสไม่ใช่แค่สร้างหลักสูตรแล้วจบไป แต่ต้องการให้เข้าถึงจริง ๆ


#มีความรู้ก็อยู่รอด หนังโฆษณาย่อยง่าย ไม่ต้องตีความ ไม่ทำร้ายใคร

หลังจากที่เคยใช้ออกโฆษณา เพราะเราทุกคนคือเครือข่าย ที่นำเสนอในแบบดราม่าจริงจัง พร้อมสะท้อนถึงปัญหาที่เยาวชนต้องเผชิญจากการมาของอินเตอร์เน็ตจากปัญหาการบูลลี่ การติดเกม จนมาสู่แคมเปญโฆษณาชุดใหม่ มีความรู้ก็อยู่รอด ที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในบริบทปัจจุบันที่มีเรื่องของมิจฉาชีพ ปัญหาเฟคนิวส์ และทุกปัญหาอาจนำไปสู่การสูญเสีย

หากแคมเปญที่ร่วมกับจอยลดาเน้นการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น แคมเปญโฆษณา มีความรู้ก็อยู่รอด ก็จะเป็นอะไรที่แมสมากกว่า ดังนั้น การทำการสื่อสารออกมาในรูปแบบ หนังโฆษณา จึงเป็นช่องทางที่น่าจะเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างได้มากที่สุด แต่สิ่งสำคัญและความท้าทายของเอไอเอส คือ คอนเทนต์ที่ต้องโดนใจ เพราะถ้าเป็นเรื่องสาระ ความรู้ หลายคนอาจมองเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ โฆษณาก็ไม่ประสบความสำเร็จ


ดังนั้น ในหนังโฆษณาจึงออกแบบมาให้ ย่อยง่าย ไม่ต้องตีความ และไม่ทำร้ายใคร ซึ่งจะเห็นว่าโฆษณาออกมาในแนวคอมมาดี้เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย มีการเล่าเรื่องผ่าน ผี ที่เป็นเรื่องความเชื่อที่อยู่คู่คนไทย แถมแสดงให้เห็นถือความร้ายแรงของปัญหาที่ส่งผลกระทบถึงชีวิตจริง ๆ และตัวละครมนุษย์หนึ่งเดียวที่ถูกบูลลี่เรื่อง เขี้ยวยักษ์ ก็เป็นลักษณะที่ ไม่มีจริง ดังนั้น การบูลลี่รูปร่างหน้าตาในโฆษณาจะไม่ทำร้ายหรือบูลลี่ใครในทางอ้อม

หลังจากปล่อยแคมเปญไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน โฆษณามีความรู้ก็อยู่รอดสามารถเข้าถึงคนไทยกว่า 30 ล้านคน ทั่วประเทศผ่านสื่อ สื่อโฆษณาทีวี, ป้ายโฆษณา และสื่อออนไลน์ยอดนิยมต่าง ๆ ช่วยสร้างกระแสตื่นตัวในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่ม KOLs ที่ออกมาโพสต์เล่าผ่านประสบการณ์ส่วนตัวผ่านช่องทางอย่าง TikTok แสดงให้เห็นว่าโฆษณาดังกล่าวถูกสร้างจาก Insight จริง สามารถทำให้ทุกคนฉุกคิดถึงปัญหา และสามารถย่อยง่ายจนทำให้เข้าถึงคนในวงกว้าง





AIS อุ่นใจ CYBER X Capital

มาในปี 2023 เอไอเอสยังคงหา วิธีการสื่อสารใหม่ ๆ และในครั้งนี้ก็มาในรูปแบบการทำ Quiz เพื่อหา ตัวตนบนโลกออนไลน์ โดยเป็นการร่วมกับ Capital สื่อออนไลน์ชื่อดังภายใต้โปรเจกต์ Cyber Survivor ซึ่งใน Quiz ก็เหมือนเป็นการ สอนให้รู้เท่าทันไซเบอร์ แบบเนียน ๆ รวมถึงยังเป็นเหมือนการ เตือนสติ ผ่าน 5 คาแรกเตอร์

เพราะระหว่างการทำ Quiz เพื่อหาตัวตน เชื่อว่าต้องมีฉุกคิดบ้างแหละว่าตัวเองมีพฤติกรรมอย่างไรบนโลกออนไลน์ ซึ่งตรงนี้ก็อาจช่วยให้ผู้ทำ Quiz ได้สำรวจตัวเองจนนำไปสู่การปรับปรุงพฤติกรรมการอยู่ในโลกออนไลน์ของตัวเองในอนาคต


เล่าเรื่องผ่านการ์ตูน สร้างวิธีการใหม่ ๆ ให้เข้าถึงผู้คน

นอกจากนี้ เอไอเอสยังร่วมกับค่ายการ์ตูนไทยระดับตำนาน ขายหัวเราะ สตูดิโอ ส่งการ์ตูนชุด เมื่อผมตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว รับวัน Safer Internet Day ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสานต่อกลยุทธ์ Edutainment เหมือนกับที่เคยทำกับจอยลดา แต่เปลี่ยนจากย่อยเนื้อหานิยายแชทมาอยู่ในรูปแบบของ การ์ตูน ซึ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายและหลากหลาย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งต้องยอมรับว่าขายหัวเราะ ครีเอเตอร์ด้านการเล่าเรื่องผ่านการ์ตูนที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน

ทุกวันนี้ภัยไซเบอร์มาในหลายรูปแบบ มิจฉาชีพยังคงสรรหาสารพัดรูปแบบการหลอกลวง ทำให้ตัวเลขของผู้เสียหาย ทำให้เราเห็นถึงการทำงานของเอไอเอสที่ไม่หยุดที่จะตั้งคำถามเพื่อหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในการที่จะทำให้ลูกค้ามีทักษะดิจิทัล เข้าใจ รู้เท่าทัน ภัยไซเบอร์

ถึงวันนี้หลักสูตรอุ่นใจ CYBER ได้ถูกนำไปขยายผลผ่าน สพฐ. แล้วกว่า 29,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ในขณะเดียวกันเราจะเห็นถึงเส้นทางการพาหลักสูตรดังกล่าวไปให้มากกว่าแค่ในห้องเรียน ด้วยเป้าหมายที่อยากให้คนไทยเข้าใจเรื่องดังกล่าวให้มากที่สุด ผ่านแคมเปญที่มีการคิดวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายมาเป็นอย่างดี และหาวิธีสื่อสารที่ตรงกลุ่มที่สุด ที่สำคัญเอไอเอสเลือกจะร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการทำงานในปัจจุบันเราสามารถร่วมกับผู้เชี่ยวชาญได้ ไม่จำเป็นต้องทำเองทุกอย่าง

]]>
1419481