สถานีโทรทัศน์ ATV ที่ออกอากาศมาถึง 6 ทศววรษได้ยุติการแพร่ภาพไปเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นการปิดฉากความยิ่งใหญ่ของ “ฟรีทีวี” ช่องใหญ่ของฮ่องกง ที่เป็นคู่แข่งของ TVB ในหลายสิบปีที่ผ่านมา

 

หลังเมื่อเดือน เม.ย. ปีก่อนทางการฮ่องกงได้ตัดสินใจที่จะไม่ต่อใบอนุญาตให้สถานีโทรทัศน์ ATV ดำเนินธุรกิจต่อไป สุดท้ายในวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา ATV ทั้ง 12 ช่อง รวมถึง 2 ช่องอนาล็อกจึงได้ยุติการออกอากาศเป็นที่เรียบร้อย

 

โดยในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการออกอากาศนั้น ทางสถานี ATV ก็ยังคงแพร่ภาพรายการต่างๆ ไปตามปกติ ขณะที่ผู้บริหารได้สั่งให้พนักงานทำงานเหมือนกับที่เคยทำมาในทุกวัน มีการออกอากาศข่าวภาคเช้าเหมือนเดิมขณะที่ เจฟฟ์ หว่อง ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ATV ได้ยอมรับว่านับตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีการทยอยให้พนักงานออกจากงานไปเรื่อยๆ รวมถึง 160 คนแล้ว ซึ่งพนักงานหลายๆ คนที่ยังทำงานจนถึงวันสุดท้ายของการออกอากาศก็คงจดจำวันนี้เอาไว้ไปอีกนาน

 

อย่างไรก็ตามแม้ ATV จะไม่ได้ออกอากาศแล้วแต่ตัวบริษัทก็ยังไม่ได้ปิดดำเนินการไปแต่อย่างใด แต่ผู้บริหารกำลังพยายามหาวิธีในการดำเนินงานต่อ อาจจะใช้ช่องทางอินเตอร์เน็ตเพื่อเผยแพร่ผลงานของบริษัทเหมือนสื่อในยุคนี้ทั่วๆ ไป ซึ่งผู้บริหาร และผู้ลงทุนกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ข่าวระบุว่ามีแฟนๆ ของ ATV โดยเฉพาะที่จีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางมาให้กำลังใจพนักงานที่สำนักงานใหญ่ในไท่ป๋อ และเพื่ออยู่เป็นกำลังใจให้กับสถานีในวินาทีสุดท้ายของการออกอากาศด้วย ซึ่ง เจฟฟ์ หว่อง ก็กล่าวว่าเขารู้สึกซาบซึ้งใจกับกำลังใจของแฟนๆ ทุกคน

 

สถานีโทรทัศน์ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีวีช่องแรกของฮ่องกงเริ่มดำเนินการในปี 1957 ภายใต้ชื่อ Rediffusion Television หรือ RTV (จากที่ก่อนหน้านี้เคยดำเนินกิจการสถานีวิทยุมาตั้งแต่ปี 1949) ในรูปแบบของเคเบิลทีวี ก่อนจะได้ยกฐานะเป็นฟรีทีวีในปี 1982 พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น ATV (Asia Television) และถือว่าเป็นคู่แข่งเพียงรายเดียวของ TVB

 

ตลอดระยะเวลาของการออกอากาศ ATV ได้พยายามต่อสู้แย่งชิงเรตติ้งกับ TVB ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อโทรทัศน์ของฮ่องกงมาอย่างต่อเนื่อง และพอจะสามารถผลิตรายการที่สร้างกระแส และเรตติ้งออกมาได้เป็นระยะ อาทิ ละครชุด ภูติพิทักษ์ดูดวิญญาณ และ นักชกผู้พิชิต รวมถึงการซื้อลิขสิทธิ์ของซีรีส์จากไต้หวัน อาทิ องค์หญิงกำมะลอ หรือซีรีส์จากเกาหลีใต้ ไปออกอากาศจนพอจะต่อสู้เรื่องเรตติ้งกับ TVB ได้บ้าง

 

นอกจากนั้น ATV ก็ยังจัดประกวดนางงามเวที “มิสเอเซีย” ขึ้นมาสู้กับ มิสฮ่องกง และมิสไชนิส อินเตอร์เนชั่นแนลของทาง TVB ด้วย

 

อย่างไรก็ตามหลังเข้าสู่ปี 2000s เรตติ้งของ ATV ก็ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องทั้งในเขตฮ่องกงที่เรตตติ้งตกลงอย่างหนัก จนบางช่วงเหลือไม่ถึง 1% เท่านั้น

 

แต่ที่เสียหายหนักก็คือในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง อันประกอบไปด้วยเขตเศรษฐกิจของ 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง ที่ผู้คนใช้ภาษาจีนกวางตุ้งและนิยมชมรายการโทรทัศน์ฮ่องกงที่ ATV เคยครองความนิยมในเขตดังกล่าวถึง 70% ในช่วงปลายยุค 90s แต่แล้วในช่วงกลางยุค 2000s ตัวเลขผู้ชมของ ATV ในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง กลับเหลือเพียงแค่ 2-3% เท่านั้นเพราะแม้แต่ผู้ชมชาวจีนแผ่นดินใหญ่เองก็ยังรู้สึกว่ารายการของ ATV เริ่มจะเชยเกินไป

 

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ATV ต้องเผชิญกับปัญหา และพยายามดิ้นรนอย่างหนัก ทั้งการประกาศปรับแนวเป็นสถานีข่าว และประกาศตัวเป็น CNN แห่งฮ่องกงในปี 2010 และยังมีการพยายามเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามาถรแก้ไขปัญหาที่หมักหมมมานานได้

 

จนในครึ่งหลังของปี 2014 ATV ก็เริ่มมีปัญหาในการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน ก่อนที่ในวันที่ 1 เม.ย. สภาผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงจะประกาศว่าจะไม่มีการต่อใบอนุญาตออกอากาศแบบฟรีทีวีให้กับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้อีกต่อไป

 

 

 

 

 

ที่มา: http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9590000035060