โตเกียว–(บิสิเนสไวร์)–8 ม.ค. 2550
สำนักงานจดทะเบียนแห่งชาติของญี่ปุ่นเป็นหัวใจสำคัญต่อการสนับสนุนโครงการ ‘Rising Sun 2007’ ในการเข้าสู่ยุคใหม่ของการจัดการข้อมูลแบบครบวงจร
อาเจนทริคส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันแหล่งข้อมูล ความร่วมมือ การเชื่อมโยงข้อมูล และการจัดการด้านอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลกและหุ้นส่วนการค้า ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ร่วมมือกับสถาับันวิจัยโนมูระ (NRI) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เพื่อสร้างสำนักงานจดทะเบียนแห่งชาติญี่ปุ่น (JNR) ภายใต้ข้อตกลงกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่น โดย JNR จะเป็นสำนักงานจดทะเบียนแห่งชาติในด้านข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกลุ่มผู้ค้าปลีก ค้าส่ง และผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศ
“สำนักงานจดทะเบียนแห่งชาติของญี่ปุ่นจะนำเสนอความสำเร็จที่สำคัญของชาติ เนื่องจากจะทำให้่การค้าระหว่างผู้ค้าปลีกและผู้จัดจำหน่ายของญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของตลาดภายในประเทศสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ” นิแฮท อาร์คาน รองประธานอาวุโสฝ่ายการจัดการและบริการลูกค้าทั่วโลกของอาเจนทริคส์กล่าว “อาเจนทริคส์จะพัฒนาประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในการสนับสนุนความต้องการด้านค้าปลีกระดับประเทศเพื่อส่งมอบและส่งเสริมประโยชน์ของการเชื่อมโยงข้อมูล ขณะที่ยังคงมีความสอดคล้องกับมาตรฐาน GDS โดย NRI เป็นหุ้นส่วนที่ทรงคุณค่าในการพัฒนาแนวทางในระดับประเทศนี้”
อาเจนทริคส์จะนำเสนอการพัฒนา การให้คำปรึกษา และการฝึกอบรมในการร่วมงานกับ NRI ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและผู้รวมระบบชั้นนำ เพื่อส่งมอบโซลูชัน โดยโครงการนี้จะรวมถึงการสนับสนุนต่อมาตรฐานการเชื่อมโยงข้อมูลทั่วโลก (GDS) ของ NRI ซึ่งจะทำให้ศูนย์รวมข้อมูลภายในประเทศสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลของญี่ปุ่นในลักษณะที่เป็นไปตามมาตรฐาน
JNR ได้รับการมอบหมายโดยกระทรวง METI เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของห่วงโซ่อุปทานหลายชั้นของญี่ปุ่นซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิต ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก โดยจะดำเนินกระบวนการเชื่อมโยงข้อมูลทางธุรกิจและความต้องการเฉพาะภายในประเทศเพื่อสนับสนุนการค้าของญี่ปุ่นให้ดีขึ้น โดย JNR จะสนับสนุนโครงการ Rising Sun 2007 ของรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย ซึ่งมุ่งให้ความสำคัญต่อการเพิ่มการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยการผลักดันผู้นำอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน
“ตลาดญี่ปุ่นมีความต้องการที่จะต้องให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งอาเจนทริคส์และ NRI จะผลักดันความพยายามในการสร้างกรอบการดำเนินงานและความร่วมมืออย่างกว้างขวางโดยทำให้บรรดาคู่ค้าสามารถที่จะรวมความสัมพันธ์และกระบวนการทางการค้าที่มีอยู่เข้าสู่เครือข่าย GDS” นายทาดาชิ สึจิ หัวหน้าที่ปรึกษาและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมธุรกิจของ NRI กล่าว โดย JNR จะมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของประเทศ เนื่องจากจะส่งเสริมการเข้าร่วมในการเชื่อมโยงข้อมูลซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของโครงการ Rising Sun 2007
อัตสุโนบุ อากาตะ รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของ Aeon ซึ่งเป็นผู้ค้าของชำรายใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของญี่ปุ่น มีความตื่นเต้นอย่างมากกับความเป็นไปได้ของการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล “ความสัมพันธ์ใดๆระหว่างผู้ค้าปลีก-ผู้จัดจำหน่ายจะเป็นประโยชน์ต่อระดับของคุณภาพข้อมูล” เขากล่าว “อาเจนทริคส์ได้พิสูจน์ทั่วโลกแล้วว่า โซลูชันมาตรฐานระดับประเทศจะผลักดันความสัมพันธ์ของผู้จัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งจะเป็นประโยชน์ในที่สุดต่อผู้บริโภคอันเป็นผลจากการจัดการด้านห่วงโซ่อุปทาน โดย JNR และโครงการ Rising Sun 2007 จะผลักดันการเชื่อมโยงข้อมูลเพิ่มขึ้น และช่วยเหลือเราในการเก็บข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและถูกต้องสำหรับเป้าหมายการให้บริการที่ดีขึ้นต่อลูกค้าของเรา”
เกี่ยวกับอาเจนทริคส์
อาเจนทริคส์เป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจสำหรับภาคอุตสาหกรรมค้าปลีกและสินค้าเพื่อผู้บริโภค โดยได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ค้าปลีก ผู้ผลิต และกลุ่มหุ้นส่วนทางการค้า ด้วยการใช้ประโยชน์จากกระบวนการทาง ธุรกิจร่วมกันเพื่อให้บริการแก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลูกค้าของเราได้พึ่งพาการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การดำเนินงานเชิงปฏิบัติที่โดดเด่น และความเชี่ยวชาญในเชิงลึกของอาเจนทริคส์ เพื่อผลักดันผลทางธุรกิจที่แท้จริง โดยในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา อาเจนทริคส์ได้ช่วยให้ลูกค้าของเราประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐด้วยการเป็นหุ้นส่วนกับพวกเขาในการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีและบริการของเราอย่างมีประสิทธิภาพ
อาเจนทริคส์ให้บริการลูกค้ากว่า 250 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ค้าปลีกชั้นนำของโลก 17 รายจากจำนวน 25 ราย ในด้านแหล่งข้อมูล ความร่วมมือของโซ่อุปทาน การเชื่อมโยงข้อมูลระดับโลก และการจัดการด้านอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ ลูกค้าของอาเจนทริคส์ได้แก่ Aeon, Ahold USA, Alcampo, Auchan, Best Buy, Canadian Tire, Carrefour, Casino, Chedraui, Coles Myer, Coop Italia, Coop Switzerland, CVS/pharmacy, Dairy Farm, Dansk Supermarked Gruppen, Delhaize Group, Diageo, El Corte Ingles, Food Lion, GlaxoSmithKline, Izumiya, KarstadtQuelle, Kesa, Kesko Food Ltd., Kingfisher, Kroger, Lotte, Makro Asia, Makro S.A., Manor, Markant, Marks & Spencer, Metro Group, Migros, Modelo Continente Hipermercados, S.A., Panasonic, PPR, Publix, REWE Group, Royal Ahold, Safeway, Sainsbury’s, SCA Hygiene Products, Sears Canada, Sears Holdings Corp., Shopko, Smart and Final, Tesco และ Walgree’s
เครื่องหมายการค้าทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง
ติดต่อ: Agentrics International
Hirobumi Iitsuka, +81-3-3586-6860
[email protected]
หรือ
Stanton Communications
Adam R. Pratt, 202-223-4933
[email protected]
อเล็กซานเดรีย, เวอร์จิเนีย และ ชิคาโก–(บิสิเนส ไวร์)–15 พ.ย.2548 – บริษัท GNX และบริษัทเวิลด์ไวด์ รีเทล เอ็กซ์เชนจ์ (WWRE) ประกาศว่าทั้งสองบริษัทได้บรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการ ซึ่งได้ประกาศไว้เมื่อต้นปีนี้ บริษัทที่ีมีการควบรวมกิจการกันจะมีชื่อว่าบริษัทอาเจนทริึคส์ แอลแอลซี (Agentrics LLC) ซึ่งจะเน้นถึงศักยภาพหลักของธุรกิจ ในฐานะองค์กรสำหรับโซลูชั่นความร่วมมือและสารสนเทศด้านการค้าปลีกภายในภาคอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคและการค้่าปลีกระดับโลก
นายเอริค รีสส์ ซีเอฟโอบริษัทคาร์ฟูร์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการของอาเจนทริคส์กล่าวว่า “ในฐานะผู้ลงทุนและผู้บริโภค เรามองว่าอาเจนทริคส์เป็นองค์กรที่เชื่อถือได้ที่จะช่วยให้เราสามารถประสานงานกับซัพพลายเออร์ต่าง ๆ อาเจนทริคส์มีสถานภาพที่ได้เปรียบในการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ศักยภาพที่โดดเด่นของเราเพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจ และให้บริการโซลูชั่นมูลค่าเพิ่มที่มีประสิทธิภาพสูงทั่วเครือข่ายการให้บริการค้าปลีก”
อาเจนทริคส์ ซึ่งได้รวม 2 ภาคธุรกิจที่ให้บริการกลุ่มผู้ค้าปลีกระดับโลกกว่า 50 รายตลอดจนซัพพลายเออร์ กลุ่มผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายอีกหลายพันรายเข้าด้วยกันนั้น จะกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง
นายเควิน สมิธ จาก SVP Supply Chain & Logistics, CVS/pharmacy และเป็นสมาชิกคณะกรรมการของอาเจนทริคส์ กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ประกาศการบรรลุข้อตกลงนี้ และได้ประโยชน์มหาศาลจากการรวม 2 ธุรกิจดังกล่าว สมาชิกของเราทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการอย่างมากที่จะเสริมความแข็งแกร่งของโซลูชั่น แพลตฟอร์มที่มีการขยายขอบเขตของอาเจนทริคส์ และในการร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงมาตรฐานด้านการผลิตและการดำเนินงานโซลูชั่นขึ้นอย่างมาก”
อาเจนทริคส์มีสำนักงานใหญ่อยู่ทั้งในเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย และเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และได้นำเสนอโซลูชั่นต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง:
— การบริการและให้คำปรึกษาด้านการประมูลออนไลน์และแหล่งข้อมูลทางกลยุทธ์
— โซลูชั่นความร่วมมือของโซ่อุปทาน (Supply Chain Collaboration) ซึ่งรวมถึง:
— การให้คำปรึกษาและบริการด้าน Global Data Synchronization & Data Quality
— การวางแผนด้าน Collaborative Supply Chain, การจัดการส่งเสริมการขาย และการจัดการด้านความร่วมมือในการจัดกิจกรรม
— การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานีบริการ ณ จุดขายในระดับปฏิบัติการ และการให้บริการแบบมูลค่าเพิ่ม
— Trading Partner Performance ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นการจัดการและ score-carding
— การจัดการเกี่ยวกับอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีธุรกิจให้คำปรึกษาและบริการระดับโลก เพื่อที่จะช่วยกลุ่มผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตในการกำหนดทิศทางความร่วมมือทางกลยุทธ์ ประเมินเทคโนโลยีที่พึงพอใจ และช่วยเหลือคู่ค้าในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และความสามารถในการจัดการปริมาณมาก อาเจนทริคส์กำลังรวมกลุ่มชุมชนและกลุ่มทำงานของทั้ง WWRE และ GNX เพื่อที่จะรวมการดำเนินงานเชิงปฏิบัติที่ดีที่สุด, เพื่อผลักดันและดำเนินการมาตรฐานระดับโลก และตอบสนองความต้องการโดยตรงต่อแผนการด้านการพัฒนาโซลูชั่น
ทีมผู้นำอาวุโสของอาเจนทริคส์ นำโดยนายคริสโตเฟอร์ เซลเลอร์ส (ประธานคณะกรรมการบริหาร) และนายโจเซฟ ลาฟลิน (ซีอีโอ) ได้นำศักยภาพด้านการบริหารที่ดีที่่สุดของทั้ง 2 บริษัทมาร่วมกันเพื่อที่จะผลักดันการใช้โซลูชั่นและผลตอบแทนจากการลงทุนของลูกค้าที่ระดับสูง
นายคริสโตเฟอร์ เซลเลอร์ส ประธานบริหารของอาเจนทริคส์ กล่าวว่า “ด้วยการดำเนินธุรกิจในสหรัฐ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิค ทีมงานระดับโลกของเราได้ให้บริกาารลูกค้าภายประเทศที่มีการดำเนินงานดังกล่าว เราได้มีความคืบหน้าอย่างมากในแผนการควบรวมกิจการของเรา ซึ่งได้เปิดตัวโซลูชั่น แพลตฟอร์มการใช้ข้อมูลร่วมกัน ณ จุดให้บริการแบบใหม่ล่าสุด (1) และมีแผนที่ชัดเจนสำหรับการเสริมสร้่างความแข็งแกร่งของสถานภาพทางกลยุทธ์ของเราในฐานะช่องทางสำหรับความร่วมมือและผู้นำในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความไว้วางใจ”
ประเด็นหนึ่งที่อาเจนทริคส์ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือการควบรวมกิจการและการปรับเปลี่ยนซอฟท์แวร์และเทคโนโลยี แพลตฟอร์มจาก GNX และ WWRE ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทใหม่มีความได้เปรียบด้านต้นทุน โดยผ่านทางการเป็นหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีและการลงทุน อาเจนทริคส์จะดำเนินการการเชื่อมต่อด้านความร่วมมือแบบมูลค่าเพิ่มที่ีมีการรวมกันสำหรับกลุ่มผู้ค้าปลีกและซัพพลายเออร์ ซึ่งจะลดต้นทุนในการบริการ ร่นระยะเวลาในการเปิดตัวสู่ตลาด และเพิ่มมูลค่าสำหรับผู้บริโภค
นายโจเซฟ ลาฟลิน ซีอีโอของอาเจนทริคส์กล่าวว่า “อาเจนทริคส์จะให้บริการจำนวนมากตั้งแต่เริ่มแรก โซลูชั่นและการให้บริการของเราได้รับปัจจัยหนุนโดยตรงจากความต้องการทางธุรกิจของกลุ่มผู้ค้าปลีกระดับโลก 50 รายและซัพพลายเออร์ของพวกเขาอีกหลายพันราย อาเจนทริคส์ได้เข้าถึงสมาชิกกลุ่มนี้อย่างไม่มีใครเทียบได้ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดำเนินงานที่่ดีที่สุดร่วมกัน และการผลักดันการใช้และดำเนินงานโซลูชั่นแบบร่วมมือกันจำนวนมาก” นายลาฟลินกล่าว
เกี่ยวกับอาเจนทริคส์
อาเจนทริคส์จัดหาการให้บริการและโซลูชั่นแบบผนวกรวม ที่เชื่อมต่อกลุ่มผู้ผลิต กลุ่มผู้ผลิต และกลุ่มคู่ค้าในการปรับปรุงและทำให้แหล่งทรัพยากร, การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และกระบวนการ supply chain มีความเป็นอัตโนมัติ โซลูชั่้นของอาเจนทริคส์จะช่วยกลุ่มคู่ค้าในภาคอุตสาหกรรมค้าปลีกในการลดต้นทุนและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการใช้ศัีกยภาพด้านสารสนเทศและกระบวนการทำงานร่วมกัน ในปัจจุบันนี้ อาเจนทริคส์ประกอบด้วยสมาชิกจากเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ โดยมียอดขายรวมที่ราว 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อาเจนทริคส์ภูมิใจที่ได้ให้บริการแก่ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตชั้้นนำ รวมทั้งกลุ่มลูกค้าและนักลงทุน ซึ่งรวมถึง Aeon, Ahold USA, Ahold, Albertsons, Auchan, Best Buy, Campbell’s Soup Co., Canadian Tire, Carrefour, Casino, Coles Myer, Coop Italia, Coop Switzerland, Costco, CVS/pharmacy, Dairy Farm, Dansk, Delhaize Group, Diageo, El Corte Ingles, E-Plat, Food Lion, GSK, Karstadt, Kingfisher, Quelle, Kroger, Lexmark, Lotte, Makro Asia, Manor, Markant, Marks & Spencer, Metro, Migros, Panasonic, PPR, Publix, Radio Shack, REWE, Safeway, Sainsbury’s, SCA Hygiene, Schering Plough, Sears Canada, Sears Roebuck and Co., SeS, Shopko, Smart and Final, Target, Tesco, Vinculum และ Walgree’s อาเจนทริคส์จะดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ทั้งสองแห่งในอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย และในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา และมีการดำเนินงานผ่านดาวเทียมในโตเกียว ลอนดอน และปารีส
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาดูประกาศในเว็บไซท์ www.agentrics.com
(1) http://www.verisign.com/wwre
ติดต่อ: อาเจนทริคส์ แอลแอลซี
เอมี่ คาลเฮาน์, 202-223-4933
อีเมล์: [email protected]