Application – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 26 May 2020 16:05:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รีวิวนวัตกรรม Teleclinic แพลตฟอร์มคัดกรอง COVID-19 ก่อนถึงมือหมอ สะดวก ใช้ง่าย ไม่โหลดไม่ได้แล้ว! https://positioningmag.com/1280641 Wed, 27 May 2020 04:00:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280641 จากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบมากมายทั้งต่อชีวิต และเศรษฐกิจ ทำให้หลายธุรกิจต่างต้องหยุดชะงักเพราะมาตรการล็อกดาวน์ อีกทั้งยังมีมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing อีกด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในสังคม

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนคงเห็นแล้วว่า กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล บุรุษพยาบาล หรือบุคคลที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลทั้งหมด มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากกว่าใครเพื่อน อีกทั้งยังมีภาระที่หนักอึ้ง เพราะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน

จะดีกว่าไหมถ้ามีนวัตกรรมที่ช่วยลดความเสี่ยง และช่วยแบ่งเบาภาระงานจากบุคลากรทางการแพทย์ได้?

ทาง “ทรู” จึงได้ผุดนวัตกรรม Teleclinic ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านสุขภาพ VHealth เรียกว่าเป็นการยกระดับสาธารณสุขยุคดิจิทัลไปอีกขึ้น สำหรับการฝ่าวิกฤต COVID-19 ในตอนนี้ โดยครั้งนี้ได้ร่วมมือ “โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย” , “โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต” , “โรงพยาบาลตราด” เปิดตัวแอปพลิเคชัน Chula Teleclinic , Vachira Phuket Teleclinic และ Trat Teleclinic ตอนนี้ได้เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรี และประเดิมใช้งานจริงได้แล้ว โดยจะขยายการใช้งานไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ อีกหลายแห่งทั่วประเทศ

รีวิวแบบจัดเต็ม สะดวก ใช้ง่าย

Chula Teleclinic , Vachira Phuket Teleclinic และ Trat Teleclinic ได้เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ถูกออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย และสะดวก ประชาชนทั่วไป และหมอสามารถใช้งานได้ นำเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาประยุกต์ใช้

โดยจะสาธิตวิธีการใช้งานแบบละเอียด สำหรับผู้ที่ต้องการประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อ COVID-19 แบบไม่ต้องเสี่ยงเดินทางไปโรงพยาบาล

  • ขั้นแรกดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Chula Teleclinic , Vachira Phuket Teleclinic หรือ Trat Teleclinic พร้อมกับลงทะเบียน กรอกรหัส OTP เพื่อความปลอดภัย

  • เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย เข้ามาสู่ช่วงแรกในการประเมินความเสี่ยงในการติดเชื้อ จะมีคำถามด้วยกันทั้งหมด 10 ข้อ ตั้งแต่การเก็บข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้น ชื่อ เพศ อายุ เบอร์โทรศัพท์ ไปจนถึงข้อมูลด้านสุขภาพ โรคประจำตัว และความเสี่ยงในการติดเชื้อ การเดินทาง การอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ รวมถึงอาการเบื้องต้น ไอ มีไข้ อาการเหนื่อย เพื่อทำการวิเคราะห์อาการในเบื้องต้น

  • เมื่อทำแบบประเมินเสร็จแล้วเรียบร้อย ทางระบบจะแสดงผลความเสี่ยงตั้งแต่ระดับ Group 0-4 ซึ่ง Group 0-1 จะเป็นกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล แค่กักตัวดูอาการที่บ้าน ส่วน Group 2-4 จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง ให้รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับทางออนไลน์ เพื่อนัดหมายในการเข้ารับการตรวจ
  • สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยง ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับมาเพื่อนัดหมายในการคุยกับคุณหมอผ่าน “วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์” เป็นการใช้เทคโนโลยีทุกรูปแบบจริงๆ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ทุกๆ คน รวมทั้งมีการออกตั๋วสำหรับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับกลุ่มที่คุณหมอมีความเห็นให้ต้องเข้ารับการรักษา

แพทย์เข้าใช้งานได้สะดวก ช่วยลดเวลาการทำงาน

ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ก็เข้าใช้งานแอปพลิเคชันนี้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดเวลา และความเสี่ยงในการเจอผู้ป่วย COVID-19 ได้มากมาย อีกทั้งยังมีระบบ Dashboad รวบรวมข้อมูลของคนไข้ทุกคนทั้งข้อมูลภาพรวมสถานะของผู้ที่เข้ามาทำการประเมินความเสี่ยง ประวัติการตอบคำถามตามแบบประเมิน และผลที่ระบบทำการคัดกรองเบื้องต้น เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การนัดหมายพูดคุยปรึกษาแพทย์ทาง วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ และการออกใบนัดหมายให้คนไข้เข้ามารับการรักษาได้ทันที

ด้วยเทคโนโลยีทั้งหมดนี้จึงช่วยลดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการบุคลากรทางการแพทย์ที่มีจำกัดได้เหมาะสมกับจำนวนผู้ป่วยอีกด้วย

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Chula Teleclinic ได้แล้ววันนี้ ที่ App Store หรือ Play Store รองรับระบบ ios และ Android: http://onelink.to/n5cn7n

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Vachira Phuket Teleclinic ได้แล้ววันนี้ ที่ Play Store : https://bit.ly/2zMacYu

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Trat Teleclinic ได้แล้ววันนี้ ที่ Play Store : https://bit.ly/2ZjQbDz

]]>
1280641
Facebook คลอด “Hobbi” แอปใหม่ใช้รวมไอเดีย งานอดิเรก ท้าชน Pinterest https://positioningmag.com/1265074 Wed, 19 Feb 2020 18:31:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1265074 Facebook เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ที่ถูกวิจารณ์ว่ามองเหมือนแอปปักหมุดเว็บไซต์น่าสนใจ Pinterest ที่ชาวเน็ตใช้แบ่งปันเรื่องราวงานอดิเรกของตัวเอง ด้าน Facebook ยืนยันแอปนี้เน้นให้ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ขณะที่ Pinterest มองต่างเพราะทั้งคู่ยืนคนละจุด

แอปพลิเคชันใหม่ของ Facebook มีชื่อว่าฮอบบิ” (Hobbi) แอปพลิเคชันจะเชิญให้ผู้ใช้จดบันทึก และรวมไอเดียแนวคิด ชิ้นงานอดิเรก และแรงบันดาลใจไว้ในที่เดียว แนวคิดนี้คล้ายกับแอปที่เน้นไลฟ์สไตล์ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ทำบุ๊คมาร์ค (bookmark) หรือบันทึกไอเดียนั้นเพื่อไม่ลืมและกลับมาอ่านซ้ำได้ง่ายในอนาคต

เช่นเดียวกัน Hobbi ยังช่วยให้ผู้ใช้บุ๊กมาร์กรูปภาพและวิดีโอในแอป ขณะเดียวกันก็จัดระเบียบเนื้อหาเหล่านี้ภายใต้หมวดหมู่ต่างๆ คุณสมบัติเพิ่มอีกอย่างคือความสามารถที่ผู้ใช้จะตรวจสอบความคืบหน้าของโปรเจกต์ตัวเอง ทั้งหมดนี้ Hobbi จะถูกแยกออกจาก Facebook เพื่อเป็นแอปของตัวเองผู้ใช้สามารถดูเนื้อหาตามไลฟ์สไตล์โดยไม่ต้องมีเครือข่ายสังคมใดมารองรับ

อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Pinterest กล่าวกับสื่อใหญ่อย่างซีเอ็นเอ็น (CNN) ว่าจุดต่างคือ Hobbi เน้นช่วยให้ผู้ใช้จัดเก็บข้อมูล และจดจำสิ่งที่ผู้ใช้ทำ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอดีต แต่ Pinterest นั้นเกี่ยวกับการค้นหาไอเดีย และสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับอนาคต

น่าเสียดายที่ Facebook ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด โดย Hobbi เป็นผลงานการพัฒนาของทีม NPE ใน Facebook ซึ่งถูกตั้งขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2019 เพื่อพัฒนาแอปที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางหรือ consumer-centered apps ผลงานที่ผ่านมาคือแอปสร้าง meme ชื่อ Whale และล่าสุดคือ Hobbi แอปพลิเคชันล่าสุดที่มีให้บริการบน iPhone และ iPad แล้ว ผ่านร้านแอปสโตร์ (App Store)

Source

]]>
1265074
กดปุ่มสตาร์ท TUK TUK PASS แพลตฟอร์มชุมชนคนชอบเดินทาง https://positioningmag.com/1168884 Mon, 07 May 2018 11:29:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1168884 “สตาร์ทอัพของฟ้าก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทาง เพราะเป็นคนที่สนใจการเดินทางมาตลอด ฟ้าเองก็ได้รับทุนการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่จะไปเรียนที่ NYU (New York University) และเคยได้ทุนจากรัฐบาล UAE เลยมีโอกาสได้อยู่ในหลายประเทศ ตื่นเต้นมากกับการได้พบเพื่อนมากมายระหว่างเดินทาง ได้เห็นอะไรใหม่ ชอบเที่ยว คิดถึงการท่องเที่ยว อยากทำงานด้านนี้ และคิดว่าทุกคนคงเคยรู้สึกและตื่นเต้นกับทริปแรกของการเดินทางกันมาแล้วทั้งนั้น”

ฟ้า หรือ ปรางพิสุทธิ์ แดงเดช ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตุ๊กตุ๊กพาส จำกัด เจ้าของแพลตฟอร์มตุ๊กตุ๊กพาส (TUK TUK PASS) เล่าถึงที่มา ภายในงานสัมมนา “START UP จับต้องได้ : เจาะลึกธุรกิจ สร้างสังคมแห่งสตาร์ทอัพ” จัดโดย positioningmag.com และองค์กรพันธมิตร ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์

ตุ๊กตุ๊กพาส เป็นแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวที่ถือกำเนิดในกรุงเทพมหานคร เดือนกุมภาพันธ์ปี 2018 นี้ พร้อมกับเปิดตัว Blockchain Kiosk พร้อมทำ ICO ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ (กำหนด 1 TTP-A เท่ากับ 1 USD) เปิดขายรอบแรก 26 กุมภาพันธ์ – 30 มิถุนายน 2561 ผ่านทางกระดาน TDAX เพื่อปูพรมบุก 100 เมืองท่องเที่ยวชั้นนำทั่วโลก

ทำให้แพลตฟอร์มของตุ๊กตุ๊กพาส ซึ่งให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว ผ่านบริการ 3 รูปแบบ ได้แก่ Blockchain Kiosk, Website และ Application

โดยส่วนตัว ปรางพิสุทธิ์เป็นคนรักการเดินทาง และเคยทำรายการ The Passion เพื่อส่งต่อและค้นหาแพชชั่นการเดินทางของผู้คนหลากหลายไลฟ์สไตล์ทั่วโลกจากการเดินทางท่องเที่ยวด้วย เรื่องราวของรายการที่ทำ มีทั้งเรื่องของผู้หญิงที่เดินทางรอบโลกในชุดเจ้าสาว การได้มีโอกาสได้คุยผ่านสไกป์กับชาวอังกฤษนักเดินทางเจ้าของสถิติในกินเนสส์บุ๊กเวิลด์เรคคอร์ดที่เดินทางไปครบทุกประเทศทั่วโลก โดยไม่ขึ้นเครื่องบินและไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลย แต่ใช้วิธีนั่งเรือหาปลา นั่งรถขนเนื้อ และพาหนะอื่น รวมทั้งเจอแม้กระทั่งการติดคุกถึง 2 ครั้ง พาสปอร์ต วีซ่า หมดอายุ ฯลฯ

เรื่องราวของนักเดินทาง ขณะที่ต้องเผชิญเหตุการณ์จริงบางเรื่องก็ไม่สนุกเท่ากับตอนที่นำมาเล่าหรือพูดถึงภายหลังเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว และสุดท้ายเรื่องราวของการเดินทางไม่ว่ารูปแบบใด นึกถึงที่ไรมักจะเต็มเปี่ยมหรืออย่างน้อยก็เจือด้วยความประทับใจเสมอ

ปรางพิสุทธิ์ ก็ตระหนักดีว่า เรื่องราวเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคน ซึ่งเธอได้มีโอกาสพูดคุยสื่อสารกับผู้ชมรายการของเธออยู่เสมอ แล้วระหว่างนั้นเธอก็คิดทำโปรเจกต์กับคอมมูนิตี้ เป็นการสร้างชุมชนการเดินทางที่ค่อนข้างใหญ่ที่มีนักเดินทางจากทั่วโลกมารวมกัน

ผ่านไป 2 ปีกับประสบการณ์พูดคุยกับนักเดินทางเหล่านี้ ทำให้เธอคิดขึ้นว่า ประเทศไทยซึ่งมีจีดีพีด้านการท่องเที่ยวและมีประสิทธิภาพสูงมากด้านนี้ ทำไมถึงไม่คิดทำอะไรขึ้นมาบ้าง

ไอเดียการพัฒนาแพลตฟอร์ม ตุ๊กตุ๊กพาส เกิดขึ้นในช่วงนี้

“คอนเซ็ปต์ของเราคือ ต้องการเชื่อมต่อผู้ใช้บริการกับบริการท้องถิ่นทั่วโลก ซึ่งเริ่มต้นคิดจากสเกลของประเทศไทยก่อน เพราะความที่อยากจะกลับมาพัฒนาการท่องเที่ยวไทย แต่หลังจากนำไอเดียไป Pitch กับนักลงทุน หรืออินเวสเตอร์และผู้สนใจทั่วไปในงาน Techsauce เมื่อปีที่แล้ว (2017) มีคนจากประเทศต่างๆ คอมเมนต์ว่าไอเดียที่เธอคิดเป็นที่สนใจในหลายประเทศ ทำให้เราคิดใหญ่ขึ้นและสเกลไปยังเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย”

ก็เป็นคอนเซ็ปต์ในการ connect เรื่องของผู้ชมและผู้ใช้งาน เข้ากับบริการ และเหตุผลที่ตัวนี้เป็นตัวที่สำคัญที่สุดก็เพราะว่า เงินในการใช้การตลาดของแอปตัวเล็กๆ ที่เป็นแอปท้องถิ่น อาจจะมีมากไม่เท่ากับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านการท่องเที่ยว ฉะนั้นการที่มีแพลตฟอร์มกลาง ที่ทำให้คนสามารถเดินทางได้ง่ายขึ้นจากการ access บริการต่างๆ ในแอปเดียว จะสะดวกขึ้นก็ทำให้นักเดินทางสามารถเข้ามาใช้แอปตัวนี้ตัวเดียวได้

ขั้นต่อไปหลังได้ไอเดีย แพลตฟอร์มที่คิดต้องการให้ผู้ใช้บริการกับการบริการเชื่อมต่อกันกลับไปมาได้ และสร้างเป็นชุมชนการท่องเที่ยว โดยมีไฮไลต์ว่า การใช้บริการในแพลตฟอร์มตุ๊กตุ๊กพาสจะต้องทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า บริการที่มีบนแพลตฟอร์มจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้ได้จริง

“ก่อนทำเรามีคุยกับนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ คุณชาติ จันทนประยูร และนักเดินทางหลายคนซึ่งบางคนเคยถูกหลอก ถูกแท็กซี่ทิ้งกลางทาง แต่ส่วนมากยังประทับใจเพราะชอบเมืองไทย แม้ต้องเจอบริการไม่ได้มาตรฐาน ไกด์ผี บริการเถื่อนก็ตาม”

หลังเปิดให้บริการแพลตฟอร์มตุ๊กตุ๊กพาส ปรางพิสุทธิ์ชี้ให้ลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงของบริการท่องเที่ยวในปัจจุบัน จะพบว่าตามโรงแรมต่าง ๆ ถ้านักท่องเที่ยวต้องการซื้อหรือข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์จะมีแค่บริการโทรจองทัวร์ที่เหลืออยู่ ไม่มีแล้วที่จะมีเคาน์เตอร์ทัวร์มาตั้งโต๊ะอยู่ในโรงแรมแบบเดิม ๆ

คีออสของตุ๊กตุ๊กพาส ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสมาร์ทคอนเชียสอยู่ที่โรงแรม จึงเป็นกลยุทธ์การตลาดที่เข้าแทนเคาน์เตอร์ทัวร์ที่เข้าถึงกลุ่มนักเดินทางโดยตรง และสามารถโฆษณาตรงถึงตัวกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องไปหว่านแม้โฆษณาออนไลน์ที่นิยมกันในปัจจุบัน

“คิดถึงสภาพเวลาเราเดินทาง ลงเครื่องก็รีบออกจากสนามบินไปที่พักเช็กอินพักผ่อน อยากกินอยากเที่ยวก็หาข้อมูล เต็มที่ก็ถามฟร้อนท์เดสก์แต่ถ้ามีสมาร์ทคอนเชียสให้หาข้อมูลได้ทั้งที่เกี่ยวกับกิน เที่ยว แถมเรื่องการจองรถ จองทัวร์ ได้อีก ความสะดวกจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน”

สิ่งที่ปรางพิสุทธิ์เล่ามาคือบริการที่ตุ๊กตุ๊กพาสเตรียมจะเปิดตัวให้บริการ โดยเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเอง (FIT Traveller) แน่นอนบริการอย่างการจองที่พักในที่อื่น ซึ่งมีผู้ให้บริการแล้วหลายราย ก็จะมีให้บริการในนี้ด้วย แล้วที่ผ่านมาผู้ให้บริการจองที่พักทั้งอโกด้า บุ๊คกิ้งดอทคอม ซึ่งเป็นเครือเดียวกันก็ติดต่อขอเป็นพันธมิตรกับตุ๊กตุ๊กพาสเพื่อให้บริการจองโรงแรมผ่านบริการที่จะเปิดตัวนี้ด้วย เช่นเดียวกับบริการเรื่องของรถเช่าที่ได้ rentalcars.com มาเป็นพาร์ตเนอร์ รวมไปถึงบริการทั้งเรื่องจองร้านอาหาร หรือจัดส่งอาหารถึงโรงแรมรวมอยู่ด้วย

พิเศษสำหรับประเทศไทย จะมีบริการเรื่อง Healthticket ซึ่งรวมถึงร้านนวดมาตรฐาน ที่เป็นบริการขึ้นชื่อรวมไว้ในลิสต์ให้ด้วย

“ตอนนี้ถ้าเรามองในเรื่องการท่องเที่ยว ถ้าคิดถึงคนที่เดินทางไปต่างประเทศ คนกลุ่มนี้จะมีทั้งหมด 1,235 ล้านคน และกรุงเทพฯ ก็ติดอยู่ในท็อปทรีด้านเมืองท่องเที่ยว ส่วน 100 เมืองท่องเที่ยวที่เราจะขยายให้เข้าถึงคาดว่าจะครอบคลุมนักเดินทางถึง 45% โดยจะโฟกัสเอเชียตลาดซึ่งกำลังโต” 

ในภาพรวม ปรางพิสุทธิ์ บอกว่า แพลตฟอร์มของตุ๊กตุ๊กพาสมีจุดเด่นของการเป็นทั้ง OTA (Online Travel Agency) และโซเชียลมีเดีย เพราะบริษัทต้องการสร้างชุมชนของนักท่องเที่ยวที่นอกจากจะเดินทางได้ง่ายแล้ว ยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์เป็นโอกาสให้คนอื่นในวันข้างหน้าได้

เก็บคำแนะนำจากประสบการณ์ของรุ่นพี่

นอกจากทำตามที่คิดที่ชอบ ปรางพิสุทธิ์ก็หาคำแนะนำจากธุรกิจรุ่นพี่เพื่อหาไอเดียไม่หยุด เช่น เธอเคยคุยกับ ดีเอโก เซอร์เดวา ประธานบีไคว์ลาตินอเมิกา ผู้ก่อตั้งอาร์เอสเค ซึ่งเชื่อเรื่องการสร้างคอมมูนิตี้ และได้ความรู้ว่า การให้รีวอร์ด หรืออินเทนซีฟสำหรับพาร์ตเนอร์ที่จะมาทำโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์มเพื่อนำเสนอบริการสินค้าและบริการจะเป็นส่วนช่วยชุมชนได้ดีขึ้น เพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน ให้กับกลุ่มที่ต้องการข้อมูลคล้าย ๆ กัน เช่น การรีวิวเรื่องต่าง ๆ ที่ช่วยนักเดินทางบนแพลตฟอร์มให้เดินทางได้สะดวกขึ้น ฯลฯ

หรือจากคำแนะนำของ เจมส์ คอล อดีต VP ของอินสตาแกรม (Instagram) ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Strava ก็เป็นแอปที่สร้างชุมชนเหมือนกันในการใช้โซเชียลมีเดียดูแลนักกีฬา ก็แชร์ไอเดียเรื่องการให้น้ำหนักกับชุมชนมาก โดยเน้นคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ซึ่งตอนนี้ทุกคนหันมาความสนใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

“จุดเด่นของ Strava เป็นแอปที่มีพันธมิตรกว่า 300 ล้านราย และมี API พาร์ตเนอร์ 30,000 กว่าราย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ต่างจากเจ้าอื่น เพราะในฐานะแพลตฟอร์มทำให้ Strava สามารถเป็นเจ้าบ้านของทุกคนที่จะเชื่อมต่อคนในชุมชนได้ง่าย แต่ถ้าเลือกอะไรสักอย่างก็จะทำให้มีคู่แข่งขึ้นจากคนที่ทำธุรกิจเหมือน ๆ กัน เช่น ถ้าเป็นแอปเปิล มีแอปเปิลวอทช์ ก็อาจจะแข่งกับการ์มินในเรื่องของแก็ดเจ็ต ฯลฯ”

จากประสบการณ์ของรุ่นพี่ ทำให้ตุ๊กตุ๊กพาสมีทั้งการให้รีวอร์ดสำหรับคนเข้าแอป OTA 2 ครั้งต่อปี และให้อินเทนซีฟเป็นแต้มจากการรีวิวและการเข้ามาแชร์ความรู้ให้คนอื่นผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อเอาแต้มที่ได้ไปเที่ยวต่อ

แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การทำให้บริการต่าง ๆ ภายใต้แพลตฟอร์มเป็นประสบการณ์เดินทางที่ครบถ้วน แถมยังได้แต้ม และส่งต่อโอกาสได้ตามคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น.

]]>
1168884
เผย 20 อันดับแอปไอโฟนยอดนิยมในไทย 2017 Messenger-Facebook-LINE ยึดแชมป์ https://positioningmag.com/1149635 Fri, 08 Dec 2017 08:28:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1149635 แอปเปิล (Apple) ประกาศ 20 อันดับสุดยอดแอปพลิเคชันแห่งปี 2017 ที่ได้รับความนิยมในแอปสโตร์ (App Store) ไทย พบคนไทยผู้ใช้ไอโฟนแห่ลงแอปพลิเคชันกลุ่มโซเชียล, กลุ่มแชต, กลุ่มดูวิดีโอ, ฟังเพลง, อีคอมเมิร์ซ, ตกแต่งภาพ, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มแอปพลิเคชันสำหรับใช้ประโยชน์อย่างแผนที่-อีเมล โดย 3 อันดับแรกคือแมสเสนเจอร์ (Messenger) เฟซบุ๊ก (Facebook) และไลน์ (LINE)

นอกจาก 3 แอปพลิเคชันนี้ สุดยอดแอปฟรีสำหรับไอโฟนที่มีการดาวน์โหลดมากสุดในประเทศไทย อันดับ 4 คือยูทูป (YouTube) อันดับที่ 5 คือแอปพลิเคชันเพลงอย่างจูกซ์ (JOOX Music)

แอปพลิเคชันยอดนิยมอันดับ 6 ในสังคมไอโฟนไทยคืออินสตาแกรม (Instagram) อันดับ 7 คือช็อปปี (Shopee) อันดับ 8 เป็นแอปพลิเคชันแต่งภาพ คาเมรา 360 (Camera360)

ขณะที่แอปพลิเคชันแผนที่ กูเกิลแมปส์ (Google Maps) ครองอันดับที่ 9 และเบอร์หนึ่งอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาดา (Lazada) ครองอันดับที่ 10

สิ่งที่เห็นชัดเจนในทำเนียบแอปพลิเคชันฟรีสำหรับ iPhone ไทยปีนี้คือแอปพลิเคชันกลุ่มธนาคารนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น อย่างเช่นเคพลัส (K PLUS) ได้รับความนิยมติดอันดับที่ 12 ยังมีทรูมันนี่ (TrueMoney Wallet) ที่ติดอันดับ 17 และเอสซีบีอีซี่ (SCB EASY) ที่ครองอันดับที่ 19

สำหรับสุดยอดแอปพลิเคชันแบบเสียค่าใช้จ่าย สำหรับไอโฟนไทย อันดับที่ 1 เป็นของแอปพลิเคชันเปลี่ยนสีคีย์บอร์ดสุดหวาน “พาสเทลคีย์บอร์ดธีม” (Pastel Keyboard Themes Color) รองลงมาเป็นแอปพลิเคชันแต่งภาพสไตล์ “กูดักแคม” (Gudak Cam) และแอปพลิเคชันแต่งรูปสีหวานโทนชมพูสไตล์ปารีส “อนาล็อกปารีส” (Analog Paris)

แอปพลิเคชันเปลี่ยนสีคีย์บอร์ดสุดหวาน “พาสเทลคีย์บอร์ดธีม” (Pastel Keyboard Themes Color) แชมป์แอปพลิเคชันแบบเสียค่าใช้จ่าย สำหรับไอโฟนไทย

ด้านสุดยอดแอปพลิเคชันฟรีสำหรับไอแพ็ด (iPad) ที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในไทยช่วงปีนี้นั้นส่วนใหญ่ตรงกับทำเนียบแอปพลิเคชันยอดฮิตบนไอโฟน แต่แชมป์คือ YouTube รองอันดับ 2คือ LINE ตามมาด้วย Facebook, Messenger และ Google

สุดยอดแอปพลิเคชันแบบจ่ายเงินสำหรับไอแพ็ดไทย คือแอปพลิเคชันจดบันทึก “กู้ดโน้ต” (GoodNotes 4) รองลงมาเป็นโนทาบิลิตี้ (Notability) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเพื่อการจดบันทึกเช่นกัน อันดับ 3 คือฮิวแมนอนาโตมี (Human Anatomy Atlas 2018) แอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่ผู้ใช้จะได้เห็นกายวิภาคของมนุษย์แบบเสมือนจริง

สุดยอดแอปพลิเคชันแบบจ่ายเงินสำหรับไอแพ็ดไทย คือแอปพลิเคชันจดบันทึก “กู้ดโน้ต” (GoodNotes 4)
ฮิวแมนอนาโตมี (Human Anatomy Atlas 2018) แอปพลิเคชันทางการแพทย์ที่ผู้ใช้จะได้เห็นกายวิภาคของมนุษย์แบบเสมือนจริง

ทั้งหมดนี้ แอปเปิลสรุปว่า ปี 2017 เป็นปีที่ดีสำหรับคอนเทนท์ในทุกหัวข้อเกี่ยวกับความบันเทิง โดย 4 เทรนด์ใหญ่ที่บริษัทมองเห็นได้แก่ แอปเกี่ยวกับความจริงเสมือน (Augmented Reality) และเกม, การเติบโตของเกมการแข่งขันแบบเรียลไทม์, แอพด้านสุขภาพและสมาธิ และแอพที่พลิกโฉมการเล่าเรื่องและการอ่าน

ผู้สนใจ ติดตามข้อมูลตารางแอปพลิเคชันแห่งปี 2017 ระดับโลกของแอปเปิลได้ที่นี่ 

***ประมวลข้อมูลเพิ่มเติม***

20 อันดับแอปพลิเคชันฟรีสำหรับ iPhone ไทย ได้แก่

  1. Messenger
  2. Facebook
  3. LINE
  4. YouTube: Watch Listen Stream
  5. JOOX Music – Live and Karaoke
  6. Instagram
  7. Shopee – ซื้อขายออนไลน์
  8. Camera360 – Selfie Sticker Cam
  9. Google Maps – GPS Navigation
  10. Lazada – #1 Online Shopping
  11. Google
  12. K PLUS
  13. SNOW – Fun camera & Video call
  14. Google Translate
  15. Gmail – Email by Google
  16. Google Chrome
  17. TrueMoney Wallet
  18. LINE TV
  19. SCB EASY
  20. BeeTalk – Video the Moments

20 อันดับแอปพลิเคชันเสียค่าใช้จ่าย สำหรับ iPhone ไทย ได้แก่

  1. Pastel Keyboard Themes Color
  2. Gudak Cam
  3. Analog Paris
  4. LightX
  5. kirakira+
  6. Glitché
  7. Analog London
  8. Plotagraph+ Photo Animator
  9. Analog Tokyo
  10. Scanner for Me + OCR
  11. Fonta
  12. Colorow – Draw a natural
  13. Analog Wedding
  14. Enlight
  15. Video Now Player – Supreme Edition
  16. Analog Jeju
  17. DSLR Camera
  18. Analog Portland
  19. Analog Seoul
  20. Fitness and Bodybuilding by VGFIT

20 อันดับแอปพลิเคชันเกมฟรี สำหรับ iPhone ไทย ได้แก่

  1. Garena RoV
  2. Super Mario Run
  3. QuizClash™
  4. Mobile Legends: Bang Bang
  5. Cookie Run: OvenBreak
  6. LINE Let’s Get Rich
  7. Candy Crush Saga
  8. Snake VS Block
  9. Toy Blast
  10. Subway Surfers
  11. Hay Day
  12. LINE Cookie Run
  13. 360mobi Nikki นิกกี้มหัศจรรย์
  14. Asphalt 8: Airborne
  15. Scream Bomb: Multiplayer Match
  16. Lineage2 Revolution
  17. Sniper 3D: Shoot to Kill FPS
  18. Legacy of Discord-FuriousWings
  19. slither.io
  20. Candy Sweet match 3 puzzle

20 อันดับแอปพลิเคชันเกม แบบเสียค่าใช้จ่าย สำหรับ iPhone ไทย ได้แก่

  1. Hitman Sniper
  2. PokeAquarium – Feed Fishes! Fight Aliens!
  3. Assassin’s Creed Identity
  4. The Greedy Cave
  5. Cut the Rope: Magic
  6. Minecraft
  7. Ski Safari
  8. Plague Inc.
  9. Game Dev Story
  10. Football Manager Mobile 2017
  11. Ski Safari 2
  12. The Amazing Spider-Man 2
  13. Infinity Blade III
  14. Doodle Jump
  15. Don’t Starve: Pocket Edition
  16. League of Stickman Zombie
  17. Real Steel
  18. Hatchi – A retro virtual pet
  19. Classic Brick Game Collection
  20. Mini Motor Racing

20 อันดับแอปพลิเคชันฟรี สำหรับ iPad ไทย

  1. YouTube: Watch Listen Stream
  2. LINE
  3. Facebook
  4. Messenger
  5. Google
  6. Google Chrome
  7. Calculator – Free Calculator
  8. Google Maps – GPS Navigation
  9. Lazada – #1 Online Shopping
  10. Gmail – Email by Google
  11. LINE TV
  12. Calculator Pro+ for iPad
  13. Google Translate
  14. Microsoft Word
  15. B612 – Trendy Selfie Camera
  16. Google Drive
  17. Sing! Karaoke by Smule
  18. Microsoft Excel
  19. Viu HD
  20. Camera Snow 360 Pro

20 อันดับแอปพลิเคชันแบบเสียค่าใช้จ่าย สำหรับ iPad ไทย

  1. GoodNotes 4
  2. Notability
  3. Human Anatomy Atlas 2018
  4. Procreate
  5. Pastel Keyboard Themes Color
  6. Duet Display
  7. GoodReader – PDF Reader Annotator and File Manager
  8. Notepad+ Pro
  9. Video Now Player – Supreme Edition
  10. Pixelmator
  11. AnyFont
  12. Plotagraph+ Photo Animator
  13. Amaziograph
  14. PDF Expert by Readdle
  15. Scanner for Me + OCR
  16. Calculator Pro for iPad – Scientific Calculator
  17. Pixomatic photo editor
  18. Evo Wallet – Money Tracker
  19. Analog Paris
  20. MyScript Nebo

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9600000123824

]]>
1149635
อาชีพโค้ชสอนร้องเพลงเตรียมตัวให้ดี เมื่อแอปฯ ยุคใหม่ สอนร้องเพลงได้แล้ว https://positioningmag.com/1122377 Thu, 13 Apr 2017 12:30:18 +0000 http://positioningmag.com/?p=1122377 อาชีพโค้ชสอนร้องเพลงเตรียมตัวให้ดี เมื่อแอปพลิเคชันยุคใหม่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยฝึกสอนทักษะการร้องเพลงส่วนบุคคลได้แล้ว ในชื่อ “Vanido”

สำหรับใครหลายคนที่อาจไม่มีเงินมากพอจะจ้างโค้ชสอนร้องเพลงส่วนบุคคลซึ่งมีค่าใช้จ่ายราคาแพง การมีสมาร์ทโฟนที่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมก็สามารถกลายเป็นเครื่องมือฝึกสอนให้คุณมีทักษะด้านการร้องเพลงที่ดีขึ้นได้เช่นกัน โดยแอปพลิเคชันชื่อ Vanido อ้างว่ามันมีความสามารถดังที่กล่าวมา

ในแต่ละวัน Vanido จะนำเสนอแบบฝึกหัด 3 ชิ้นให้ผู้ใช้งานได้ฝึกออกเสียงให้ตรงกับโน้ตดนตรี รวมถึงมีเกมให้เล่นสนุกๆ และทดสอบความสามารถของผู้ใช้งานไปด้วยในตัว ส่วนใครที่ก้าวล้ำนำหน้ามากๆ ทางเกมก็จะมีรางวัลให้ เหตุที่ทำเช่นนี้ได้เพราะในตัวแอปพลิเคชันมีอุปกรณ์อย่าง Real-time visual pitch detector ซึ่งสามารถจับเสียงการร้อง และแสดงผลการประเมินของแอปพลิเคชันออกมาได้

อย่างไรก็ดี Vanido เวอร์ชันปัจจุบันยังไม่รองรับฟีเจอร์การแชร์ไฟล์กับเพื่อนฝูงเพื่อไว้เปรียบเทียบกันแต่อย่างใด

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000037723

]]>
1122377
เผย 10 อันดับ แอปยอดนิยมของคนไทย ล่าสุด ไลน์ครองอันดับ 1 ใช้ 60 นาที/วัน https://positioningmag.com/1098920 Wed, 03 Aug 2016 06:50:03 +0000 http://positioningmag.com/?p=1098920 นีลเส็น ประเทศไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของคนไทย ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2559 (เมษายนมิถุนายน) พบว่า 10 แอปพลิเคชั่นที่คนไทยนิยมใช้มากสุด ไลน์มาเป็นอันดับ 1 ใช้ถึง 60 นาทีต่อวัน รองลงมา คือ เฟซบุ๊ก ใช้ 37 นาที/วัน ตามาด้วย กูเกิลโครม 12 นาที/วัน ยูทิวบ์ 11 นาทีต่อวัน

10_smarthphone

ที่มา : นีลเส็นสำรวจจากผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อายุ 15 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ จำนวน 705 คน ผ่านระบบการเก็บข้อมูลที่เรียกว่า Informate Mobile Insight ที่ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดมาเก็บไว้บนเครื่อง

]]>
1098920
เฟซบุ๊ก อัพเกรดฟีเจอร์ “สไลด์โชว์” เปลี่ยนธีม ใส่เพลงตามใจชอบ https://positioningmag.com/1095779 Tue, 28 Jun 2016 07:46:32 +0000 http://positioningmag.com/?p=1095779 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราสามารถโพสต์รูปภาพในแบบไลด์โชว์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวได้ แต่ทว่ายังไม่เจ๋งมากพอ ล่าสุดเฟซบุ๊กได้ทำการอัพเกรดฟีเจอร์สไลด์โชว์นี้เพื่อให้ใส่รูปแล้ววิดีโอได้สมบูรณ์แบบขึ้นโดยสามารถเลือกใส่เสียงเพลงประกอบรูปภาพและวิดีโอนั้นๆ เพื่อประกอบอรรถรส

วิธีการใช้งานฟีเจอร์สไลด์โชว์แบบใหม่นี้ เพียงแค่ถ่ายรูปหรือวิดีโอที่มากกว่า 5 ชิ้นขึ้นไป ภายในเวลา 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นเฟซบุ๊กก็จะทำการประมวลผล และนำเสนอสไลด์โชว์ให้ได้ลองปรับแต่งโดยอัตโนมัติ สามารถเลือกตัวช่วยต่างๆ ในการปรับแต่งสไลด์โชว์ดังกล่าวได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเพิ่มหรือลบรูปภาพและวิดีโอ เปลี่ยนธีม (ทั้งรูปภาพและเสียงเพลง) เพิ่มชื่อเรื่อง และแท็กหาเพื่อน

และหากได้เห็นสไลด์โชว์ของคนอื่นบนฟีดข่าวในเฟซบุ๊กก็ยังมีตัวเลือกปุ่มสร้างสไลด์โชว์ (Try It) ให้ได้ลอง ด้วยการเลือกรูปภาพหรือวิดีโอมากกว่า 5 ชิ้นขึ้นไป เลือกธีมที่ต้องการ เพิ่มชื่อเรื่อง และสุดท้ายแท็กเพื่อนๆ 

เริ่มแรกนั้น ฟีเจอร์สไลด์โชว์อยู่ในแอปพลิเคชั่นโมเมนต์ (Moments) และได้ทำการทดสอบกับผู้ใช้ในหลากหลายประเทศ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาแล้ว ก่อนเปิดใช้จริง ฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ผู้ใช้งานบนระบบ iOS ทั่วโลก ภายในสัปดาห์นี้

]]>
1095779
Facebook Messenger โฉมใหม่ เพิ่มปุ่ม Home https://positioningmag.com/1094852 Fri, 17 Jun 2016 04:37:42 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094852 Facebook Messenger แพลตฟอร์มส่งข้อความยักษ์ใหญ่ที่มีผู้ใช้งานกว่า 900 ล้านคนต่อเดือน เตรียมปรับโฉมการทำงานใหม่อีกครั้งด้วยการเพิ่มปุ่ม Home เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานให้กลับไปสู่หน้าศูนย์กลางของแอปพลิเคชันได้โดยง่าย

โดยปุ่ม Home ดังกล่าว จะปรากฏอยู่ที่บริเวณมุมซ้ายด้านบนของหน้าจอ เมื่อคลิกที่ปุ่มระบบจะพาผู้ใช้งานกลับไปหน้าหลักที่มีรายชื่อ Contacts ต่างๆ ปรากฏอยู่ แถมยังมีการจัดหมวดหมู่ของรายชื่อให้อีกด้วย ซึ่งการจัดกลุ่มนั้นแบ่งออกได้เป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

แยกรายชื่อออกเป็นหมวดต่าง ๆ
แยกรายชื่อออกเป็นหมวดต่าง ๆ

– หมวด Favorites – รายชื่อ Contact ที่ผู้ใช้รายนั้นชื่นชอบ
– หมวด Birthday – รายชื่อ Contact ที่มีวันเกิดในวันดังกล่าว
– หมวด Active Now – รายชื่อ Contact ที่กำลังออนไลน์อยู่ในขณะนั้น

นอกจากนั้น เดวิด มาร์คัส (David Marcus) ผู้บริหารของ Facebook Messenger ยังได้กล่าวด้วยว่า การพัฒนาปุ่ม Home คือก้าวแรกในการปรับโฉม “Inbox” ด้วยการพัฒนาฟังก์ชันการทำงานให้อยู่ในรูปของโมดูลต่างๆ แทนที่จะอยู่ในรูปของไทม์ไลน์อย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

ทั้งนี้ ผู้บริหาร Facebook ระบุด้วยว่า Facebook Messenger จะเริ่มอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันเร็วๆ นี้แล้ว

ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000060520

]]>
1094852
ฟู้ดแพนด้า ชู “มือถือ” เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสั่งอาหาร ด้วยยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “foodpanda” กว่า 5 ล้านครั้ง https://positioningmag.com/58673 Wed, 29 Oct 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58673

ฟู้ดแพนด้า (foodpanda) และแบรนด์ในเครือ ได้แก่ เฮลโลฟู้ด และเดลิเวอรี่คลับ ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นบนมือถือกว่า 5 ล้านครั้ง โดยบริษัทได้มุ่งให้ความสำคัญด้านแอพพลิเคชั่นบนมือถืออย่างต่อเนื่อง หลังการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นการสั่งอาหารทางมือถือรุ่นใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

แอพพลิเคชั่น “foodpanda” สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีบนแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ ได้แก่ ไอโอเอส แอนดรอยด์ และวินโดวส์ ในกว่า 40 ตลาด ใน 5 ทวีปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับในแอปเปิลแอพ สโตร์ กูเกิล เพลย์สโตร์ และวินโดวส์โฟนสโตร์ อีกด้วย

ส่วนแบ่งตลาดจากยอดสั่งซื้อทางโทรศัพท์มือถือของฟู้ดแพนด้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นแรกในปี 2013 โดยประเทศที่มียอดการใช้งานผ่านมือถือมากที่สุด ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย และบราซิล ซึ่งต่างมียอดการสั่งอาหารผ่านมือถือสูงกว่าร้อยละ 60 นอกจากนั้น แอพพลิเคชั่น “foodpanda” ได้รับการดาวน์โหลดบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์สูงสุดถึงร้อยละ 62 โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ยุโรปตะวันออก และละตินอเมริกา ที่ยอดการดาวน์โหลดบนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์สูงกว่าแพลตฟอร์มไอโอเอส อย่างไรก็ตาม จากสถิติพบว่าลูกค้าแอปเปิลมักมีกำลังซื้อสูงกว่า ดังเห็นได้จากยอดการสั่งอาหารในทุกภูมิภาคที่ ฟู้ดแพนด้า/เฮลโลฟู้ด ดำเนินธุรกิจอยู่ ทั้งในเอเชีย ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา ที่มักมีมูลค่าสูงกว่ายอดการสั่งอาหารของผู้ใช้แอนดรอยด์

ราล์ฟ เวนเซล ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ฟู้ดแพนด้า เล็งเห็นถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มมือถือในอนาคต จากยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นถึง 5 ล้านครั้ง พร้อมกล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในโลกสมัยใหม่ ที่ผู้คนใช้เวลาอยู่กับมือถือมากกว่าทีวีหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มือถือคือช่องทางหลักในการรับรู้ข่าวสารและการบริการออนไลน์ เราเชื่อว่า มือถือ เหมาะกับกลยุทธ์ของเราในการให้บริการส่งอาหารที่สะดวกสบาย มือถือช่วยให้เราสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงเมื่อพวกเขาหิว ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม เรามั่นใจว่ามือถือจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการสั่งอาหารในอนาคต และฟู้ดแพนด้าก็พร้อมมอบบริการนั้น”

การสั่งอาหารทางมือถือ สะดวกสบายยิ่งกว่าการสั่งอาหารผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ แอพพลิเคชั่นฟู้ดแพนด้า เฮลโลฟู้ด และเดลิเวอรี่คลับ ครบครันด้วยทุกฟีเจอร์เหมือนในเว็บไซต์ โดยลูกค้าสามารถเลือกวิธีจ่ายเงินตามความต้องการ ไม่ว่าจะผ่านทางมือถือหรือจ่ายเงินสดเมื่อได้รับอาหาร ลูกค้าสามารถสั่งเมนูโปรดซ้ำได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมเห็นภาพอาหาร รีวิวร้าน และการให้คะแนน รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษจากร้านอาหารมากมาย นอกจากนี้ แอพพลิเคชั่นนี้ยังช่วยเสริมประสบการณ์การ “เลือก” สั่งอาหาร โดยลูกค้าสามารถเลือกสั่งและปรับเพิ่มลดส่วนประกอบของเมนูอาหารได้ตามความต้องการเสมือนนั่งอยู่ในร้านอาหารจริง

]]>
58673
เอไอเอส จับมือ Click for Clever ให้นักเรียน ม.ปลาย ติว GAT/PAT ผ่านแอปฯ “AIS U Academy” บนมือถือ ฟรี! https://positioningmag.com/58561 Thu, 09 Oct 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58561

เอไอเอส โดย นางเบญจพร กำเพ็ชร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มลูกค้าทั่วไป ร่วมกับ Click for Clever สถาบันกวดวิชาแนวใหม่บนโลกออนไลน์ โดย นายณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ สานต่อกิจกรรมดีๆ เปิดตัวโครงการ “Click for U ระเบิดความรู้ สู่มหาวิทยาลัย Season 4” จัดกิจกรรมติวสด GAT/PAT เพื่อให้นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเตรียมความพร้อมในการสอบเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย โดยเอไอเอสมอบความพิเศษให้วัยทีนติว GAT/PAT ได้อย่างไร้ข้อจำกัด ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน “AIS U Academy” บนมือถือ ครั้งแรกที่รวมการให้ความรู้และการกำหนดทิศทางแห่งอนาคตมาไว้ในที่เดียวกัน โดยภายในแอปฯ ประกอบไปด้วย แบบทดสอบ “Scan Future” เพื่อให้น้องๆ ร่วมค้นหาตัวเองในการเลือกคณะที่เหมาะสมกับตนเอง นอกจากนี้ยังมีคลิปไฮไลท์การติว , มีข้อสอบเก่าให้ลองทำ และสามารถดาวน์โหลดหนังสือประกอบการติวได้ด้วย

น้องๆ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “AIS U Academy”มาไว้บนมือถือได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพียงกด *688# แล้วโทรออก (ฟรี) โดยสามารถใช้งานได้กับมือถือในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และจะใช้ได้กับระบบ iOS ในเร็วๆ นี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/12call  หรือ  www.clickforclever.com

]]>
58561