Architecture – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 02 Aug 2013 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 JARKEN ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ เปิดตัว “PYE” บริษัทรับออกแบบ รองรับตลาด Segment ระดับกลาง-บน ให้บริการทั้ง กทม. และต่างจังหวัด https://positioningmag.com/56977 Fri, 02 Aug 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56977

บริษัท จาร์เค็นฯ บริษัทสถาปนิกระดับรางวัลนานาชาติชื่อดังของเมืองไทย ผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมอาคาร โรงแรม ที่พักอาศัย สำนักงาน และงานตกแต่งภายในได้เปิดตัวบริษัท ออกแบบ “PYE” (PYE Design Co,. Ltd.) สำหรับเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เพื่อรองรับ Segment ระดับกลาง-บน ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ที่ต้องการบ้าน และคอนโดที่มีดีไซน์ สไตล์เป็นของตัวเอง มีอิสระในการคิดและกำหนดงบประมาณการสร้าง – ตกแต่งบ้านได้

คุณสิริทร สิทธิวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกล่าว “จากที่บริษัท JARKEN ได้รับความไว้ใจให้ดูแลโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และกลุ่มลูกค้าระดับบนของประเทศ รวมทั้งบริษัทฯ ยังได้รับรางวัลระดับโลกเกี่ยวกับการออกแบบมาตลอดทุกปีนั้น ปัจจุบันลูกค้าเราได้ขยายออกไปมากบวกกับเสียงเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้า Mass Affluent มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตามใคร อยากได้ที่อยู่อาศัยที่สะท้อนความเป็นตัวเอง ดังนั้นจึงทำให้ทางบริษัทฯ เราเปิดตัว “PYE” (พาย) บริษัทรับออกแบบภายใต้แนวคิด “Practical, Youthful & Exquisite” ที่ลูกค้าสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเอง มีบุคลิกภาพที่มั่นใจและความสดใสของผู้อยู่อาศัย โดย “PYE” มีมุมมองในการคิดและวิธีการดำเนินธุรกิจซึ่งทำเรื่องที่เข้าใจยากให้เป็นเรื่องง่าย เริ่มตั้งแต่ลูกค้าที่มีคอนโดหรือที่ดินต้องการสร้างบ้าน สามารถเลือกแบบบ้านและงานออกแบบตกแต่งภายในตามความชอบ พร้อมฟังก์ชั่นและสไตล์ในงบประมาณที่ลูกค้าสามารถกำหนดเอง อีกทั้ง “PYE” ยังช่วยลดขั้นตอนบางขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกเพื่อทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายและได้รับงานที่รวดเร็วขึ้น แต่ยังคงอยู่ภายใต้การจัดระเบียบการทำงานด้วยขั้นตอนอย่างเป็นระบบ พร้อมทีมงานที่มีความชำนาญในการออกแบบอย่างมืออาชีพ เปรียบเสมือนเพื่อนรู้ใจที่ช่วยแก้ปัญหาวิถีชีวิตของลูกค้าทั้งในเรื่อง Space, Function และ Design ไม่ทำให้รู้สึกว่าการคุยกับสถาปนิกนั้นเป็นเรื่องเข้าใจยากอีกต่อไป และสิ่งสำคัญที่ “PYE” มีให้มากกว่าคือ ความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับงานที่ดีที่สุด ตรงตามเวลาและงบประมาณที่กำหนด

ซึ่งขณะนี้ทาง “PYE” ได้เริ่มเปิดตัว (Soft Launch) ไปแล้วผ่านช่องทาง Facebook โดยใช้ชื่อว่า www.facebook.com/pyedesign.net ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจาก fanpage กว่า 20,000 ราย ซึ่งถือว่าเกินความคาดหมายจากกลุ่มลูกค้าและคาดว่าจำนวน fanpage จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

ลูกค้าท่านใดสนใจหรือกำลังต้องการหาบริษัทรับออกแบบบ้านสามารถติดต่อ “บริษัท ออกแบบพาย จำกัด (PYE)” ได้ที่ www.pyedesign.net หรือ www.facebook.com/pyedesign.net หรือสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-718-2099, 083-279-5444

]]>
56977
อิมแพ็ค เปิด 2 งานใหญ่ BMAM & GBR Expo Asia 2011 https://positioningmag.com/54810 Wed, 21 Sep 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54810

อิมแพ็ค เปิดแล้ว 2 งานใหญ่  BMAM & GBR Expo Asia 2011 ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ หน่วยงาน และองค์กรที่เกี่ยวข้องได้แสวงหาและเพิ่มเติมองค์ความรู้ ทั้งในด้านการก่อสร้างอาคาร และเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนแรง และอยู่ในความสนใจของคนทั่วโลก พร้อมเชิญชวนให้ผู้ประกอบการ และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมงาน พร้อมเลือกเข้ารับการอบรมในหลากหลายหลักสูตร เพื่อสร้างความรู้ความเชี่ยวชาญในการประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่อไป

บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ซีเอ็มซี เอ็กชิบิชั่นเซอร์วิสเซส จำกัด ผนึกกำลังร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติด้านการบำรุงรักษาอาคารและการบริหารจัดการทรัพยากรอาคารแห่งเอเชีย ครั้งที่ 4 (Building Maintenance & Asset Management Expo Asia 2011 : BMAM EXPO ASIA 2011)  และงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติด้านการก่อสร้างและต่อเติมอาคารสีเขียวแห่งเอเชีย (Green Building & Retrofits Expo Asia 2011 : GBR EXPO ASIA 2011) โดยได้รับเกียรติจากนายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานฯ

ด้านนางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “วัตถุประสงค์การจัดงานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติด้านการบำรุงรักษาอาคารและการบริหารจัดการทรัพยากรอาคารแห่งเอเชีย ครั้งที่ 4 (Building Maintenance & Asset Management Expo Asia 2011: BMAM EXPO ASIA 2011) ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายนนี้ ณ อาคาร 5-6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งรวบรวมเอามืออาชีพจากหลากหลายสถาบันชั้นนำ ตลอดจนการจัดอบรมสัมมนาที่เน้นไปที่การพัฒนาหน่วยงานตลอดจนเสริมองค์ความรู้ที่จำเป็นในวิชาชีพ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ และผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรม ได้เห็นถึงโอกาสของการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของตนเองในการสร้างความได้เปรียบในเชิงธุรกิจ

“หลักสูตรของการสัมมนาในครั้งนี้ เชื่อว่าจะอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ไม่มากก็น้อย นอกจากที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้ความรู้ แล้วยังมีโอกาสที่จะเห็นเทคโนโลยีระดับสูงที่นำมาจัดแสดงภายในงาน ตลอดจนได้เสวนากับผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในประเด็นที่น่าสนใจอีกด้วย ซึ่งการมาครั้งเดียวได้ชมถึง 2 งานใหญ่ นับว่าเป็นความคุ้มค่าในการเดินทางมาอย่างยิ่ง” นางสาวพรพรรณ บุลเนอร์ กล่าว

ทั้งนี้นายสตีเว่น ชิว ผู้อำนวยการ บริษัท ซีเอ็มซี เอ็กซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดงานจากประเทศสิงคโปร์กล่าวว่า “เพื่อให้การมาร่วมชมงาน หรือสัมมนาได้รับประโยชน์ที่ครอบคลุมสูงสุด คณะผู้จัดงานจึงได้มีมติจัด งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี และการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติด้านการก่อสร้างและต่อเติมอาคารสีเขียวแห่งเอเชีย (Green Building & Retrofits Expo Asia 2011 : GBR EXPO ASIA 2011) ที่จะเน้นไปที่การอัพเดทความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การแข่งขันเพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำเทคโนโลยีสีเขียว อันจะสามารถสร้างจุดเด่นและความได้เปรียบในเชิงธุรกิจ ตลอดจนช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านต่างๆ เพื่อความยั่งยืนในอนาคต โดยงานจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน ซึ่งทั้ง 2 งานจะใช้พื้นที่ในการจัดงานเดียวกัน ทั้งนี้เพื่ออำนวยประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าร่วมชมงาน และเข้าร่วมสัมมนา โดยทั้ง 2 งานใหญ่นี้ถือเป็นความร่วมมือผนึกกำลังครั้งสำคัญของทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนองค์กร สถาบันที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนอกจากจะให้การสนับสนุนการจัดงานแล้ว ยังได้ร่วมออกบูธภายในงานอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าด้วยการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การจัดงานในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จดังที่ได้กำหนดเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ การจัดงานได้ร่วมมือกับสมาคมและหน่วยงานต่างๆ ในการจัดประชุมสัมมนา ที่จัดขึ้นสำหรับเจ้าของและผู้บริหารอาคารและโรงงาน สถาปนิก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และวิศวกร โดยจัดควบคู่ไปกับงานแสดงสินค้า สินค้า เทคโนโลยี และบริการที่จัดแสดงภายในงาน จะครอบคลุมทั้งเรื่อง อัคคีภัย การประหยัดพลังงาน ตัวอย่างการบริหารอาคาร แนวคิดในการต่อเติมอาคาร และพลาดไม่ได้สำหรับปีนี้ “แนวคิดในการก่อสร้างหรือต่อเติมอาคารสีเขียว” เพียบพร้อมไปด้วยเนื้อหาทางวิชาการ กรณีศึกษาต่างๆ จากวิทยากรที่มีชื่อเสียงในวงการทั้งในและต่างประเทศ” นายสตีเว่น ชิว กล่าว

คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและ นิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างพร้อมใจกันประสานพลังเพื่อใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญตลอดจนศักยภาพของหน่วยงานเพื่อรวมรวบและเผยแพร่องค์ความรู้ให้เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจของประเทศไทยในครั้งนี้ ทั้งในส่วนของกระทรวงพลังงาน สถาบันอาคารเขียว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ตลอดจนด้วยศักยภาพของคณะผู้จัดงานร่วมทั้ง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ บริษัท ซีเอ็มซี เอ็กชิบิชั่นเซอร์วิสเซส จำกัด ที่ได้ประสานและอำนวยการให้บริษัทชั้นนำระดับโลกได้นำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดงในครั้งนี้

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นความร่วมมือร่วมใจกันเพื่อจัดแสดงงานที่มีความสำคัญ อันมีความเชื่อมโยงสอดคล้องซึ่งกันและกันเช่นนี้ ในคราวเดียวกันผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมชมงานทั้งสอง ซึ่งจะสามารถนำเอาความรู้ และประโยชน์จากสิ่งที่ได้พบภายในงาน ทั้งสินค้าและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งจัดแสดงภายในบริเวณเดียวกัน นอกจากนั้น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจ คือ การจัดหลักสูตรเพื่อยกระดับความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาในสายงานต่อไป ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนคณะผู้จัดงานร่วมที่ได้จัดงานคุณภาพถึง 2 งาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมชมงาน และเข้าร่วมสัมมนาต่อไป” คุณศุภวรรณ ตีระรัตน์ กล่าว

]]>
54810
เคล็ดลับสร้าง Thailand pavilion สู่ Top 10 ศาลายอดนิยม https://positioningmag.com/13052 Tue, 17 Aug 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13052

จากฉบับที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับรายละเอียดการจัดงาน World Expo ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้กำลังมีการจัดงานขึ้น ณ เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รวมถึงเล่าเกี่ยวกับกลยุทธ์วิธีการทำ Brand ประเทศผ่านงาน World Expo ซึ่งผมได้ยกตัวอย่างประเทศที่มีเศรษฐกิจค่อนข้างดีไปแล้วไม่ว่าจะเป็น ประเทศสหรัฐอเมริกา, สเปน, อังกฤษ, เยอรมัน และฝรั่งเศส สำหรับฉบับนี้ผมขอเล่าเรื่องการทำ Brand ประเทศต่อ ซึ่งแต่ละประเทศถ่ายทอดจุดเด่นของประเทศตัวเองผ่านแต่ละพาวิลเลียน โดยขอยกตัวอย่าง Pavilion ที่น่าสนใจในโซน A ที่จัดแสดง Pavilion ในฝั่งเอเชีย (แต่ไม่รวมประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ซึ่งเป็นอีกโซนที่น่าสนใจในการเข้าชมงาน

China Pavilion (ประเทศจีน) ด้วยความสูง 63 เมตร บนเนื้อที่ 45,000 ตร.ม. จึงไม่แปลกที่ Pavilion ของจีนนั้นเด่นและสง่าที่สุด รูปแบบศาลามาจากสถาปัตยกรรมโบราณภายใต้แนวคิด “มงกุฎแห่งตะวันออก” (The Crown of The East) ส่วนจัดแสดงแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นนิทรรศการเล่าความเป็นมาในการพัฒนาบ้านเมือง รวมถึงการวางผังเมือง วิธีวางแผนการปกครองของตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบัน ชั้นที่สองเป็นส่วนที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมทดลองวางผังเมืองด้วยตัวเองซึ่งเป็นลูกเล่นที่ทันสมัยและน่าสนใจ และชั้นสุดท้ายเป็นการแสดงมณฑลต่างๆ ในจีนรวมถึงฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน เรียกได้ว่าคุณสามารถเที่ยวทุกที่ในประเทศจีนภายในเวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้นครับ
รูป China บรรยาย “มงกุฎแห่งตะวันออก”

Japan Pavilion (ประเทศญี่ปุ่น) แน่นอนว่าคงไม่พ้นเรื่องของเทคโนโลยี “The Harmony between the Human Heart and Technology” คือ Theme ของ Pavilion ภายในแบ่งเป็น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เสนอเรื่องของการนำเทคโนโลยีทางระบบนิเวศวิทยามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อลดปัญหามลภาวะเป็นพิษและรักษาสิ่งแวดล้อม โดย Present ผ่าน Di-Cut และเทคนิค Two Layers นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังได้นำหุ่นยนต์อย่าง Palro ที่สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้ชมมาแสดงใน Pavilion ด้วย

Saudi Arabia Pavilion (ประเทศซาอุดิอาระเบีย) เป็น Pavilion ที่ใช้เวลาเข้าแถวนานที่สุด เพราะต้องรออย่างน้อย 4 -5 ชั่วโมง ด้วยรูปร่างลักษณะเป็น Moon Boat (เรือคล้ายซีกดวงจันทร์) จึงทำให้เป็นที่น่าสนใจ ทางเข้ามีลักษณะเป็นก้นหอยเมื่อเดินวนมาได้ประมาณ 4-5 ชั้นจึงนำเข้าห้องจัดแสดงซึ่งเราแค่ยืนบนสายพานเฉยๆ ครับ การแสดงเริ่มด้วยภาพกราฟิกฉายลงบนจอขนาดต่างๆ โดยจะเปลี่ยนมุมและองศาของจอไปเรื่อยๆ จนมาถึงจอสุดท้ายซึ่งเป็นจอขนาดใหญ่ถึง 1,600 ตารางเมตร อยู่รอบตัวเรา ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราลอยได้เลยครับ

United Arab Emirates Pavilion (ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) Pavilion นี้ตั้งใจออกแบบให้เหมือนกับเนินทรายจึงมีชื่อว่า “Sand Dune” ส่วนจัดแสดงแบ่งเป็น 3 ส่วน เริ่มจากประวัติความเป็นมาของประเทศ ต่อด้วยนิทรรศการแสดงประวัติบุคคลสำคัญของประเทศ และห้องสุดท้ายเป็นการนำ Media ทุกชนิด อาทิ Magic Vision, Light and Sound, กราฟิกมาแสดงผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

Republic of Korea Pavilion (ประเทศเกาหลีใต้) อาคารของ Pavilion ออกแบบเป็นตัวอักษรเกาหลีเพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมของชาติ ภายนอกปกคลุมด้วยกระเบี้องสีสันสดใสที่เขียนภายใต้ Concept “Friendly City, Colorful Life” ภายในแบ่งเป็น 3 ชั้น นำเสนอเรื่องราวของชาติเกาหลีในรูปแบบของภาพยนตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศเกาหลีถนัด ดำเนินเรื่องด้วยเด็กผู้หญิงที่มีความฝันอยากเป็นนักบัลเลต์แต่ต้องผิดหวังเพราะประสบอุบัติเหตุจนพิการ และได้นำเทคนิค Animation เข้ามาผสมผสานในการเล่าเรื่องด้วย เนื้อหาของภาพยนตร์ทำได้ซาบซึ้งและกินใจมากครับ ผมเห็นผู้ชมสาวๆ หลายท่านแอบเช็ดน้ำตากันเป็นแถว

Thailand Pavilion ระหว่างที่ผมปฏิบัติงานบริหารจัดการศาลาไทยมีโอกาสต้อนรับแขกระดับ VIP หลายท่าน ตั้งแต่รับเสด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, คณะรัฐมนตรี, อดีตนายกรัฐมนตรี, ข้าราชการระดับชั้นผู้ใหญ่, นักธุรกิจชั้นแนวหน้า รวมถึงนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาที่มาเยี่ยมศาลาไทยเรา ผมยอมรับว่าตอนที่ Brainstorm เพื่อเสนอตัวเข้ารับเลือกเป็นผู้บริหารจัดการนั้น ทราบดีว่าต้องเจอแรงกดดันมากจากอาคารศาลาไทยที่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อแสดงที่ไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นเราทราบว่าการทำงานชิ้นนี้ไม่ง่ายและต้องเหนื่อยแน่นอน แต่เนื่องจากงาน World Expo ครั้งนี้เป็นครั้งที่จัดใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งผมเชื่อว่าตรงนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะแก้ภาพลักษณ์ใหม่ให้กับประเทศไทย งานนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทอินเด็กซ์และบริษัทสถาปนิก Design 103 International Limited ในการพัฒนาและออกแบบสร้างสรรค์ เพราะแค่สวยงามภายนอกไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องออกแบบกิจกรรมและการจัดแสดงภายในให้สอดคล้องกันทุกส่วนด้วย

เราเริ่มด้วยคำถามว่า Concept ในการออกแบบศาลาไทยคืออะไร? และจบลงที่การนำวิถีชีวิตไทยกับสายน้ำมาเป็นแกนหลักของการพัฒนางาน ต่อมาจึงหาวิธีว่า ทำอย่างไรให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายมาก ซึ่งแน่นอนว่า 97% คือประชาชนจีน ผมและทีมงานเดินทางมาประเทศจีนก่อนล่วงหน้าเป็นปีเพื่อทำงานวิจัยว่าคนจีนรู้จักประเทศไทยมากน้อยเพียงไร รู้จักในด้านไหนและมีความสนใจจะเข้าศาลาไทยของเราหรือไม่

แม้ผลการวิจัยจะไม่ค่อยดีเนื่องจากคนจีนส่วนใหญ่ตอบว่าถ้ามีเวลาพอจึงจะมาเยี่ยมศาลาของเรา ถือเป็นคำตอบที่สุภาพมากแล้วครับ เพราะเราต้องยอมรับว่า Brand ของประเทศเราก็ไม่แข่งพอที่จะดึงดูดผู้ชมได้ เมื่อผลการวิจัยออกมาในลักษณะนี้หมายความว่าแนวโน้มที่คนจะไม่เข้าศาลาไทยเราค่อนข้างสูง ถือเป็นความโชคดีเพราะในช่วงที่ผมรอคำตอบจากทางรัฐบาลว่าจะได้รับเลือกให้ทำศาลาไทยหรือไม่นั้นประเทศอื่นๆ เริ่มก่อสร้าง Pavilion ไปบ้างและมีหลายประเทศที่เปิดแบบศาลาออกมาเรียบร้อยแล้วทำให้เราเห็นว่า Pavilion ส่วนใหญ่ออกแบบเป็น Modern Style ทำให้เราตัดสินใจออกแบบศาลาไทยในรูปแบบที่เรียกว่า Thai perspective

“Thai perspective” คือการนำสถาปัตยกรรมไทยจากหลายสถานที่มารวมกันไว้เป็นหมู่อาคารเหมือนกับภาพวาดไทยตามฝาผนังวัดสมัยก่อน เพราะเราเชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ศาลาเราโดดเด่นอย่างแน่นอน ซึ่งผลก็ออกมาตามนั้นจริงๆ สิ่งที่ต้องคิดต่อคือ นิทรรศการแบบไหนที่คนจีนชื่นชอบ เรานำงานวิจัยหลายชิ้นมาศึกษารสนิยมของคนจีนและค้นพบว่า คนจีนนิยมงานที่มีสีสันและ Hi technology หลังจากนั้นจึงศึกษาลักษณะการเข้าชมว่าในหนึ่งวันผู้ชมจะสามารถเข้าชมได้กี่ Pavilion เพื่อกำหนดความยาวของ Presentation ว่าควรใช้เวลาเท่าไร รวมถึงกิจกรรมต่างๆที่จะดึงดูดความสนใจจากผู้ชม เราตั้งเป้าผู้เข้าศาลาไทยของเราไว้ที่ 10% ของผู้ชมทั้งหมด 70 ล้านคนซึ่งเท่ากับ 7 ล้านคน หรือวันละกว่า 30,000 คน ผมกำหนด Brand ประเทศไทยให้เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ผู้คนสนุกสนามเต็มไปด้วยมิตรภาพ น้ำใจ และรอยยิ้ม ดังนั้นทีมงานทีมงานทั้งหมดของเราจะเป็นคนไทย เพื่อต้องการเน้นความเป็นไทยจริงๆ ผมกำหนดให้มีการต้อนรับตั้งแต่ยังไม่เข้าศาลาเลยครับ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่จาก 240 ประเทศที่ให้มีการต้อนรับที่เป็นพิเศษแบบนี้

การที่เราก้าวขึ้นมายืนอยู่ในตำแหน่ง Top Ten ได้นั้น เริ่มจากการเราเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้เสร็จทันช่วง Soft Opening (ก่อนการเปิดงานอย่างเป็นทางการประมาณ 20 วัน) ซึ่งมีศาลา เพียง 27 ประเทศเท่านั้นที่สามารถเปิดทันในช่วงนั้น เพราะผมทราบดีว่าช่วงนี้ถ้าศาลาไทยของเราสามารถให้เข้าชมในช่วงนั้นจะสามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวจากสื่อมวลชนและหัวใจชาวจีนได้ก่อนคนอื่น ที่สำคัญคือการทำนิทรรศการที่สามารถสร้างความประทับใจนั้นต้องเกิดจากประสบการณ์ตรงจากผู้เข้าชม และถ้าเราสามารถทำให้ผู้ที่มาชมประทับใจได้ จะทำให้เกิดการบอกต่อๆ กันไป และด้วยสีสันในการนำเสนอจึงทำให้ศาลาไทยของเรากลายเป็นคำร่ำลือที่บอกต่อกันว่า “เป็นหนึ่งในสิบของศาลาที่ห้ามพลาด” ประกอบกับการตอกย้ำของสื่อมวลชนจีนที่ช่วยยืนยันว่า อาคารศาลาไทยของเราเป็น 1 ใน 7 ที่มีผู้ชมต่อแถวรอเข้าชมยาวและนานที่สุด ซึ่งยืนยันได้จากภาพเข้าแถวยาวเหยียดของผู้ที่มาเข้าชมอาคารศาลไทยที่ถูกเผยแพร่ออกไป

ผมเองทราบดีว่าเมื่อเทียบชื่อประเทศที่ติดอยู่ในอันดับ Top 10 ด้วยกันที่ล้วนเป็นประเทศที่มีชื่อ Brand ประเทศเข้มแข็งอยู่แล้วก็เปรียบเสมือนเป็นแม่เหล็กชั้นดีดึงดูดให้ผู้ชมสนใจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, สเปน, เกาหลีใต้, อิตาลี, ซาอุดีอาระเบีย และไทย จะมีเพียงประเทศซาอุดีอาระเบียเท่านั้นที่ชื่อชั้นประเทศอาจไม่เท่ากับชาติอื่น แต่ประเทศเขาใช้เงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุดไม่นับประเทศเจ้าภาพคือประเทศจีน ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 7,200 ล้านบาทในขณะที่ประเทศเราใช้เงินลงทุนเพียง 599 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารศาลาไทย ในแง่ของ Return of Investment นั้นผมมองว่าคุ้มค่ามาก ผมมีโอกาสได้คุยกับท่านกงสุลใหญ่ประจำเซี่ยงไฮ้ ท่านยังบอกเลยครับว่าศาลาของเราทำให้จำนวนคนจีนอยากไปเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญทั้งๆ ที่เพิ่งประสบกับปัญหาทางการเมือง หรือแม้กระทั่ง Director ของ Pavilion ประเทศโปแลนด์ยังบอกว่าไม่น่าเชื่อว่าประเทศเล็กๆ ที่มีงบประมาณจำกัดสามารถนำเสนอประเทศออกมาได้ดีกว่าชาติที่มีเงินมหาศาลอย่าง สหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษเสียอีก ซึ่งผมได้ยินแล้วก็รู้สึกชื่นใจและหายเหนื่อยกับสิ่งที่ทีมของเราทุ่มเทมาโดยตลอด

จนวันนี้ศาลาของเรามีผู้มารอเข้าคิวยาวตั้งแต่ 9 โมงเศษๆ ทั้งที่เวลาเปิดประตูของ Expo Park คือ 9 โมงนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าคนจีนตั้งใจที่จะเข้ามาชมศาลาของประเทศไทยก่อนโดยวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าเพราะเป็นศาลาที่พลาดไปไม่ได้ ไม่ใช่ไปเยี่ยมเยียนศาลาของประเทศอื่นๆ แล้วค่อยมาที่ศาลาประเทศเรา สิ่งที่ผมเขียนอยู่นี้ท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวท่านเองที่ Thailand Pavilion ซึ่งวันนี้กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการกอบกู้ชื่อเสียงของชาติเรากลับคืนอยู่จนถึงจนวันที่ 31 ตุลาคมนี้ครับ

]]>
13052
สุดยอด 6 ไอเดีย ช่วยลดโลกร้อน ภายใต้หัวข้อ “ Below 2 degrees ” https://positioningmag.com/51517 Wed, 24 Mar 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=51517

นายยศพล บุญสม ประธานจัดงาน International Landscape Expo’10 พร้อมด้วยคณะกรรมการจากสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย ได้คัดเลือกสุดยอด 6 ผลงานของนิสิต นักศึกษาที่ส่งผลงานเข้าร่วมการออกแบบสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตามแนวทางของ Green Creative ภายใต้หัวข้อ “ Below 2 degrees” เพื่อร่วมกันนำเสนอแนวคิด ในการป้องกันไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 2๐c ในอีก 10 ปี โดยทั้ง 6 ทีมสุดท้ายนี้ จะนำผลงานจริงร่วมแสดงในงาน International Landscape Expo 2010 ในระหว่างวันที่ 1 – 4 เมษายน 2553 ณ Crystal Design Center ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ

]]>
51517
สมาคมภูมิสถาปนิกฯเลื่อนการจัดงาน “International Landscape Expo 2010” https://positioningmag.com/51432 Wed, 17 Mar 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=51432

นายชัยยุทธ เทียนวุฒิชัย นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย (Thai Association of Landscape Architects – TALA) เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย ได้มีกำหนดจัดงาน International Landscape Expo 2010 งานแสดงเทคโนโลยีทางภูมิทัศน์ครั้งยิ่งใหญ่ของเมืองไทย ขึ้นในระหว่างวันที่ 18 – 21 มีนาคม 2553  ณ โครงการ Crystal Design Center (CDC)  ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา และด้วยสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน เช่น การประกาศการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ในกรุงเทพฯ และนนทบุรี ในระหว่างวันที่ 18-23 มีนาคม 2553 นั้น ทางสมาคมภูมิสถาปนิกฯ จำเป็นที่จะต้องเลื่อนการจัดงานดังกล่าวจากเดิมในวันที่ 18 –21 มีนาคม 2553 นั้น มาเป็นวันที่ 1-4 เมษายน 2553 ณ โครงการ Crystal Design Center (CDC) ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เพื่อหลีกเลี่ยงหรือเหตุการณ์อื่นใดที่อยู่เหนืออำนาจการควบคุมของทางสมาคมฯ ดังนั้นจึงเห็นสมควรที่จเลื่อนการจัดงานดังกล่าวออกไป

]]>
51432
สมาคมภูมิสถาปัตยกรรม ชวนออกแบบสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ภายใต้หัวข้อ “ Below 2 degrees ” https://positioningmag.com/50815 Tue, 09 Feb 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=50815

นายยศพล บุญสม ประธานจัดงาน International Landscape Expo’10 เปิดเผยว่า สมาคมภูมิสถาปัตยกรรม ในฐานะวิชาชีพที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในการร่วมหาทางออกกับที่จะทำอย่างไรต่อการช่วยลดอุณหภูมิโลกไม่เพิ่มขึ้น 2๐c ในอีก 10 ปี ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลังการประชุม Climate Change ที่เมือง Copenhagen ประเทศ Denmark เมื่อเดือน ธันวาคม ปี 2552 ที่ผ่านมา ที่จะสามารถส่งผลที่ยิ่งใหญ่ต่อการดำรงรักษาสภาพแวดล้อมบนโลกใบนี้ ดังนั้นจึงได้จัดโครงการประกวดออกแบบภายใต้หัวข้อ “ Below 2 degrees ”

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประกวดนั้น ผู้เข้าประกวดจะต้องนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ ในการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม ให้มีความสวยงามและยั่งยืน ตามแนวทางของ Green Creative โดยให้สอดคล้องกับความตั้งใจของแต่ละบุคคลที่จะช่วยกันบำรุงรักษาโลกใบนี้ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนและสวยงามตลอดไป ซึ่งผู้ที่มีสิทธ์ส่งผลงาน ได้แก่ นักศึกษา และบุคคลทั่วไปไม่จำกัดอายุ (ผลงานเดี่ยวหรือกลุ่มบุคคล) ทั้งนี้แบบที่ส่งเข้าประกวดต้องเป็นผลงานที่ออกแบบสำหรับการประกวดครั้งนี้เท่านั้น และจะต้องเป็นผลงาน ที่ไม่เคยส่งประกวดหรือนำเสนอที่ใดมาก่อน

ในการประกวดครั้งนี้จะเป็นการนำเสนอแนวคิดของการผสมผสานแนวทางการอนุรักษ์สภาพแวดล้อม กับการสร้าง Built-up Environment และงานศิลปะเข้าด้วยกัน ผ่านงานภูมิสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม การออกแบบชุมชนเมือง หรืองานศิลปะการจัดวาง (Installation Art) โดยมุ่งหวังให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการเอาแนวคิดต่างๆ มาใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ใกล้ตัวสัมผัสได้ง่าย สร้างสรรค์ และขยายผลได้ในวงกว้าง ทั้งนี้ได้กำหนดให้จัดแสดงงานในพื้นที่ขนาด 3×3 เมตร โดยอาจมีการจัดทำฉากหลังได้ตามความเหมาะสมของชิ้นงาน หมดเขตรับแบบในวันจันทร์ที่ 22 ก.พ. 2553 ภายใน 18.00 น. โดยส่งผลงานมาที่สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย อาคารสภาสถาปนิกฯ และจะประกาศผลผู้เข้ารอบ 6 ทีมสุดท้ายวันอังคาร ที่ 23 ก.พ. 2553 และจะต้องเข้ามาสร้างผลงานจริง และนำเข้าติดตั้งผลงาน ณ ลานจอดรถด้านหน้า CDC (Crystal Design Center) ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม (ถ.เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) กรุงเทพฯ ให้แล้วเสร็จ ในวันพุธที่ 17 มี.ค. 2553 เพื่อแสดงผลงาน ตั้งแต่วันพฤหัสที่ 18 – วันอาทิตย์ที่ 21 มี.ค. 2553 ในงาน International Landscape Expo 2010 จัดโดย สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย

ผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะถูกตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังต่อไปนี้ คุณปรีดาพนธ์ บัณฑิตยานนท์ :Landscape Architect, รศ.ดร.อลิศรา มีนะกนิษฐ : Landscape Architect and Horticulturist, คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค :Architect and Designer ,ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต : Architect, Designer and Environmentalist และคุณวิทย์ พิมพ์กาญจนพงษ์ : Artist ทั้งนี้ผู้สำหรับผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับร้างวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ 1 รางวัลเป็นเงิน 50,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ รางวัลรองชนะเลิศ 1 รางวัล เป็นเงิน 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร รางวัลชมเชย 4 รางวัล เป็นเงินรางวัลละ 7,500 บาท พร้อมประกาศนียบัตร อย่างไรก็ดีสำหรับแบบที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบ จะได้รับเงินสนับสนุนในการจัดรายละ 13,500 บาท (รวมค่าทำฉากหลัง) อย่างไรก็ดีสำหรับผู้สนใจร่วมส่งผลงานเข้าประกวดสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทยโทร02-369-3006 แฟกซ์ 02-369-3007 E-mail:[email protected] www.inter-landscapeexpo.com

]]>
50815
TALA’s Landscape 09 @CentralWorld โชว์ฝีมือภูมิสถาปัตยกรรมชั้นเลิศ https://positioningmag.com/45986 Thu, 05 Feb 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=45986

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์จับมือกับสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทยสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกอันยิ่งใหญ่ด้วยการเนรมิตสวนสวยใจกลางเมืองที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวในคอนเซ็ปต์ “Green Heart Society” ให้คนกรุงฯ ได้สัมผัสบรรยากาศและรับกลิ่นไอจากธรรมชาติกันอย่างเต็มปอด พร้อมชมภูมิทัศน์ร่มรื่นที่ออกแบบอย่างมีดีไซน์ และเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ดี เป็นมิตรกับโลกและสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน การลดการทิ้งขยะ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับคนกรุงฯ

โดยภายในงานสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทยได้เนรมิตลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองด้วยการร่วมมือของ ของ กันตภณ ผาณิตรัตน์ ผู้อำนวยการ การตลาดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และ นักออกแบบชื่อดังของไทย ชัยรัตน์ สุระจรัส เจ้าของผลงานมากมายที่ผ่านมาอาทิ ผลงานการออกแบบสวนสนุก Dream World, สนามบินสุวรรณภูมิ ปรับปรุงหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต, สวน ๖๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ลาดกระบัง, ปรับปรุงธนาคารแห่งประเทศไทยและวังบางขุนพรหม, งานออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม, โครงการบ้านพักอาศัย, อาคารสำนักงาน และรีสอร์ท โรงแรมต่างๆ โดยคราวนี้จะมาร่วมกันรังสรรค์สวนสวยที่ประดับประดาไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่น และสวยงามและด้วยการจัดวาง อย่างสมบูรณ์แบบของหลักการจัดสวนตาม ภูมิสถาปนิก ที่พร้อมจะให้คนกรุงฯและประชาชนทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศแสนร่มรื่น ใจกลางเมือง

และงานนี้ได้รับเกียรติจากนักออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมชื่อดังระดับโลกProfessor HU JIE (หู จี) เจ้าของรางวัลการันตีระดับโลก IFLA-APR Award และผลงานสุดตื่นตาตื่นใจคนทั้งโลกกับ Olympic Forest Park ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งประกอบด้วยการวางผังพื้นที่และอาคารสำคัญอย่างสนามกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง หรือที่รู้จักกันนามของ สนามกีฬารังนก (Bird nest) และอาคารกีฬาทางน้ำ วอเตอร์ คิวบ์ (Water cube) ประกอบด้วยสวนขนาดใหญ่รวมพื้นที่กว่า 680 เฮคเตอร์ นับได้ว่าเป็นงานออกแบบภูมิสถาปัตย์ที่ใหญ่สุดแห่งหนึ่ง ความโดดเด่นของงานออกแบบชิ้นนี้ได้รับการกล่าวขวัญกันในแวดวงดีไซน์

เต็มอิ่มกับบรรยากาศสบายๆ ใจกลางเมืองกันถึง 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 – 15 กุมภาพันธ์ นี้ พร้อมกิจกรรมน่าสนใจมากมายอาทิ ตระการตากับ ‘Urban Park’ ร่มรื่นกับไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณในสวนสวย ชมสวนมีดีไซน์ “Celebrity Garden” โดยเหล่าดาราและเซเลบริตี้ที่คุณชื่นชอบ 10 สวน 10 สไตล์ พร้อมชมมินิคอนเสิร์ต จากดารานักร้องชื่อดัง อาทิ Modern dog, Lady Killers ฯลฯ และรับความรู้กับนิทรรศการความเป็นมาของภูมิสถาปัตยกรรมในประเทศไทย ชมการแสดงเทคโนโลยีการปลูกต้นไม้และสวนน้ำอันทันสมัยร่วมชมผลงานภูมิสถาปัตยกรรม ชั้นเลิศ ที่เนรมิตสวนสวยกลางเมืองขนาดใหญ่กว่า4,000 ตรม.ได้ ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ The Largest Lifestyle Shopping Destination in Bangkok งานนี้เหล่าคนหัวใจสีเขียวห้ามพลาด!!!

]]>
45986
วินด์มิลล์ อาร์คิเท็คบุกบ้านแนวใหม่ 4 ไลฟ์สไตล์ 20 แบบ https://positioningmag.com/42806 Tue, 19 Aug 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=42806

“วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค” บุกเต็มสูบ ผุดบ้านแนวใหม่ ตอบรับ New Lifestyle คนรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิด The Metro Lifestyle Living Mode ขยับรุกพัฒนาโครงการ Metro Project in Bangkok พร้อมปรับทัพองค์กร รองรับการเติบโตแบบยั่งยืน มั่นใจโกยรายได้ 200 ล้านบาทตามเป้า

นายสมศักดิ์ โรจน์ดรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด บริษัทออกแบบ ปลูกสร้างบ้านคุณภาพในเครือ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผย ว่าจากการให้บริการในธุรกิจ รับสร้างมากว่า 5 ขวบปี จนถึงวันนี้บริษัทได้สั่งสมประสบการณ์ ให้บริการออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่งภายใน ทั้งบ้านและโครงการมามากมายอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดทิศทางการพัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยการออกแบบบ้านแนวคิด “ The Metro Lifestyle Living Mode ” คือ การพัฒนาบ้าน 4 ไลฟ์สไตล์ 20 แบบบ้าน ระดับราคาตั้งแต่ 6 – 50 ล้านบาท ครอบคลุมการใช้ชีวิตทุกองศาไลฟ์สไตล์ โดยเน้นที่ function and emotion metro lifestyle เช่น High Rise House บ้านแนวสูง 7 ชั้น 4 ครอบครัว พื้นที่ใช้สอย 1200 ตร.ม. หรือ Cluster House บ้านแนวราบ 3 หลัง 3 ครอบครัว พื้นที่ ใช้สอย 1100 ตร.ม. ที่ผสมผสานถึงความเป็นสังคมครอบครัวส่วนตัวที่อบอุ่น สะท้อนอารมณ์บ้านที่มีไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เป็นต้น

โดยการออกแบบของวิลด์มิลล์ อาร์คิเท็ค ครั้งนี้จัดเป็นความแปลกใหม่ของวงการรับสร้างบ้าน ที่มีการคิด อย่างครบถ้วนเป็นทางเลือกใหม่ให้กับครอบครัวที่เปลี่ยนไป มุ่งตอบสนองให้กับไลฟ์สไตล์ที่ได้มีการศึกษาและวิจัยกลุ่มเป้าหมายในตลาดที่อยู่อาศัยประเภทรับสร้างบ้าน โดยพิจารณาจากสภาวะทางเศรษฐกิจ และ ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงการขยายโครงข่ายคมนาคม ขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า ล้วนแล้วแต่ส่งผล ให้วิถีการใช้ชีวิตและรูปแบบการอยู่อาศัยเปลี่ยนไป รูปแบบของที่อยู่อาศัยให้เข้ากับ Lifestyle ที่เปลี่ยนไป

นอกจากนั้นนโยบายอีกทางหนึ่งของวิดล์มิลล์ อาร์คิเท็ค คือ การรุกเข้าสู่การพัฒนาโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม โรงแรม รีสอร์ท โดยวางตัวเองเป็น Development Services นั้น อยู่ในช่วงดำเนินการ 2 โครงการ ซึ่งทำให้ต้องมีการพัฒนาศักยภาพขององค์กร ที่ผ่านมาได้มีการปรับทัพองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “ 6 Star Luxury Services ” มุ่งสู่องค์กรที่มีการทำงานและให้บริการระดับ 6 ดาว และตอบรับตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ในทุกๆ มิติ และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

“สำหรับผลประกอบการในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา วินด์มิลล์ สามารถทำยอดขายได้ 90 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมมูลค่างานพัฒนาโครงการ ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปี 2008 จะได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 200 ล้านบาท อย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์กล่าว

]]>
42806
อาจารย์สถาปัตย์ ม.รังสิต ออกแบบซอฟต์แวร์ รองรับการขยายตัว “โครงการบ้านมั่นคง” https://positioningmag.com/41050 Tue, 20 May 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=41050

หัวหน้าหลักสูตรปริญญาโทคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต นำเสนอผลงานวิจัยออกแบบเว็บแอพพลิเคชั่นจัดเก็บข้อมูลในโครงการบ้านมั่นคง และแสดงผลผ่านกูเกิ้ลแมพ สะดวกและง่ายในการค้นหาและจัดเก็บ หวังต่อยอดใช้ในโครงการเคหะแห่งชาติ และเรื่องการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัย Paris Val-de-Seine ประเทศฝรั่งเศส

ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ รักษาการหัวหน้าหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรมเพื่อการออกแบบสถาปัตยกรรม (M.S.(CAAD)) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตนและทีมงานได้มีโอกาสทำโครงการวิจัยเพื่อหาแนวทางจัดเก็บข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการบ้านมั่นคง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ DEVELOPMENT OF A SIMPLE WEB-BASED GIS SYSTEM FOR SUSTAINABLE HOUSING PROJECTS VISUALIZATION นำเสนอในการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติ CAADRIA 2008 จัดโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยโครงการวิจัยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อโครงการบ้านมั่นคงอย่างเป็นระบบ ให้สามารถค้นหาข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถมองเห็นภาพลักษณ์ของโครงการฯ ได้ ในลักษณะของหมุดที่ปัดบนแผนที่ ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยปัจจุบันได้พัฒนาไปแล้วกว่า 3,750 ครัวเรือน ทั่วประเทศ

“โครงการบ้านมั่นคงนี้มีข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมาก และปีนี้ก็จะขึ้นอีกหลายหมื่นยูนิต ซึ่งข้อมูลของโครงการยังไม่มีการถูกจัดเก็บรวบรวมอย่างเป็นระบบ ตนและทีมงานจึงได้เสนองานวิจัยการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นต่อโครงการนี้ ซึ่งได้ไปค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมแผนที่บนเว็บมากมาย ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก Google Map เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถพัฒนาได้หลากหลาย มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้มาก และอธิบายแผนที่ประเทศไทยได้อย่างละเอียดเป็นภาษาไทย โดยก่อนที่จะออกแบบซอฟต์แวร์นี้ ได้ทำการหาข้อมูล เช่น ผังองค์กร flow การทำงาน พื้นที่การทำงาน pilot project เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์ว่ามีชุดข้อมูลอะไรบ้างที่จะนำมาพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะทำงานบนเว็บไซต์ของโครงการบ้านมั่นคงที่เราได้จัดทำด้วย Google Map API โปรแกรม PHP MySQL และ Ajax โดยจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกในการค้นห้าข้อมูล ซึ่งผู้ใช้จะต้องล็อกอินผ่านอินเตอร์เน็ต เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ ผู้ใช้สามารถดูแบบแผนที่ สามารถขยายดูโครงการได้ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งตนได้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้สามารถเลือกดูตามภูมิภาค แสดงตำแหน่งโครงการแบบรายจังหวัด และมีการรวบรวมภาพถ่ายโครงการบ้านมั่นคงในแต่ละชุมชนอีกด้วย

นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะนำไปต่อยอดใช้งานในโครงการต่างๆ อีก เช่น โครงการของการเคหะแห่งชาติ และงานวิจัยเรื่องการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ร่วมกับ Ecole Nationale Sup?rieure d’Architecture Paris Val de Seine ประเทศฝรั่งเศส

]]>
41050
นิทรรศการโครงการ “ประกวดถ่ายภาพและวาดเส้นสถาปัตยกรรมคลาสสิคในเมืองไทย 2550” https://positioningmag.com/37309 Tue, 09 Oct 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=37309

บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด และ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมชมงาน และเป็นเกียรติในการตัดสินผลงานการประกวดในโครงการ “ประกวดถ่ายภาพและวาดเส้นสถาปัตยกรรมคลาสสิคในเมืองไทย 2550” โดยภายในงานจะมีการแสดงผลงานผู้ที่เข้ารอบ และผู้ที่ส่งเข้าประกวดจำนวนกว่า 1,000 ภาพ ตั้งแต่วันที่ 10-13 ตุลาคม 2550 โดยจะมีการตัดสินผลงานการประกวดในวันที่ 13 ตุลาคม 2550 เวลา 16.00 -17.00 ณ แกรนด์ฮอลล์, ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา

]]>
37309