Automotive – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 08 Jul 2016 10:23:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับงาน FAST Auto Show Thailand 2016 ยอดเงินสะพัดมากกว่า 2 พันล้านบาท https://positioningmag.com/1096800 Fri, 08 Jul 2016 03:18:14 +0000 http://positioningmag.com/?p=1096800 วงการรถยนต์ต่างกล่าวขวัญอีกครั้งกับงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ป้ายแดงและรถยนต์ใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand ครั้งที่ 5 ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ FAST “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่” ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยการขยายพื้นที่เพิ่มเกือบเท่าตัว หลังประสบความสำเร็จ 4 ปีซ้อน โดยนำทีมกูรูรถยนต์แถวหน้ามาตอบโจทย์คนอยากมีรถ ทั้งป้ายแดงจากค่ายรถชั้นนำ 13 ราย และรถใช้แล้วจากศูนย์รถมือสองชั้นนำ 16 ราย บนพื้นที่ 16,000 ตร.ม. ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน -3 กรกฎาคม 2559 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปีที่ FAST Auto Show Thailand ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากยอดสถิติผู้เข้าร่วมงานที่มากถึง 252,216 คน มีผู้ที่จองซื้อรถยนต์ภายในงานสูงถึง 2,729 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ป้ายแดงจำนวน 1,526 คัน และรถยนต์ใช้แล้วจำนวน 1,203 คัน รวมมูลค่ากว่า 2,240,000,000 บาท

มหกรรมจำหน่ายรถยนต์ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand 2016 นำทีมคัดสรรรถยนต์ดีมีคุณภาพพร้อมประกันชั้นเลิศโดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานบริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรม FAST Auto Show Thailand 2016” พร้อมพันธมิตรหลักค่ายจำหน่ายรถยนต์ป้ายแดงยกทัพเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมโปรโมชั่นสินเชื่อต่างๆ รวมถึงศูนย์จำหน่ายรถยนต์ใช้แล้วก็จัดโปรโมชั่นแรงไม่แพ้กัน ด้วยของแถมพร้อมการรับประกันคุณภาพต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในงานได้ครบทุกรูปแบบ

นอกจากการอัดแน่นจัดเต็มโปรแรงๆ ไปกับสิทธิพิเศษต่างๆ จากค่ายรถยนต์และโปรโดนๆ แล้ว FAST Auto Show Thailand 2016 ยังมาพร้อมโชค 3 ชั้น เริ่มด้วยโชคชั้นที่ 1 กับผู้ซื้อรถในงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์ SUZUKI CELERIO 1.0 GA MT มูลค่า 366,000 บาท จำนวน 1 รางวัล โชคชั้นที่ 2 จองรถในงานมีสิทธิ์ลุ้นรับสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง (3.8 กรัม) มูลค่า 5,700 บาท วันละ 5 รางวัล รวม 25 รางวัล และโชคชั้นที่ 3 สำหรับผู้เข้าชมงาน ลงทะเบียนรับของที่ระลึกทุกวัน วันละ 500 รางวัลอีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสร้างสีสันให้กับงานอีกมากมาย อาทิ กิจกรรม Sexy Car Wash โชว์พริ๊ตตี้ล้างรถกันแบบสดๆ และ Sexy Dance โดยกิจกรรมดังกล่าวมีการหมุนเวียนไปตลอดทั้งวัน

ภาพรวมจากการจัดงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand 2016 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรและค่ายรถยนต์ชั้นนำ ทั้งนี้ยังได้รับความสนใจจากบรรดาคนรักรัก หรือผู้ที่มีความสนใจรถยนต์เข้าร่วมงานจำนวนมาก ถือเป็นสัญญาณให้เห็นว่าคนไทยนั้นยังให้ความสนใจกับประสิทธิภาพการเลือกใช้รถยนต์ นอกจากนี้การจัดงานครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตลาดรถยนต์ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนให้เม็ดเงินสะพัดในระบบอีกด้วย และจากความสำเร็จในครั้งนี้ทำให้ทางผู้จัดมีความมั่นใจและมีกำลังใจที่จะจัดงานมหกรรมจำหน่ายรถยนต์ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว FAST Auto Show Thailand ในปีต่อๆ ไป ซึ่งผู้จัดรับรองว่าจะต้องเข้มข้มกว่าเดิมอย่างแน่นอน แล้วพบกันใหม่กับ FAST Auto Show Thailand 2017

]]>
1096800
เอ็มจี ลงทุน 35 ล้านบาท เนรมิต “เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์” แห่งใหม่ มุ่งพัฒนาหลักสูตร เน้นความปลอดภัยเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน https://positioningmag.com/1094847 Fri, 17 Jun 2016 04:29:15 +0000 http://positioningmag.com/?p=1094847
  • ขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีกเท่าตัว ด้วยเงินลงทุนกว่า 35 ล้านบาท
  • พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมที่สมจริง พร้อมด้วยห้องฝึกอบรมและสนามทดสอบใหม่ ที่ได้มาตรฐาน และทีมผู้ฝึกสอนคุณภาพ มากประสบการณ์
  • แบรนด์รถยนต์รายแรกที่มีสนามทดสอบเพื่อใช้อบรมลูกค้าและผู้ที่สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ายกระดับความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยการเปิดศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่ หรือ เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ แห่งใหม่ ที่มีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันกว่าเดิม พร้อมหลักสูตรที่เปิดกว้างสำหรับลูกค้าและผู้สนใจสามารถเข้ารับการฝึกอบรมการใช้รถอย่างถูกต้องและการขับขี่อย่างปลอดภัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

    เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนถนนศรีนครินทร์ (100 เมตร ก่อนถึงศูนย์การค้า ซีคอน สแควร์) ซึ่งไม่ห่างจากเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ แห่งเดิมที่เคยรองรับลูกค้าและผู้ให้ความสนใจเข้าฝึกอบรมแล้วกว่า 3,000 ราย โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายนับตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

    ด้วยเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าและผู้ที่สนใจ ทำให้ เอ็มจี ตัดสินใจลงทุนเพิ่มกว่า 35 ล้านบาท เพื่อสร้าง เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ แห่งใหม่นี้บนพื้นที่กว่า 18 ไร่ ครบครันทั้งห้องฝึกอบรมที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์การสอน พื้นที่รับรองลูกค้าที่สะดวกสบาย รวมถึงสนามทดสอบที่มีทั้งถนนเรียบและถนนแบบออฟโรดที่มีความสมจริงและช่วยเสริมทักษะการขับขี่ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถรองรับลูกค้า เอ็มจี และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้สูงสุด 100 คนต่อวัน

    นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ศูนย์ฯ แห่งใหม่นี้มีพื้นที่ประมาณ 29,000 ตารางเมตร ซึ่งกว้างขวางกว่าสถานที่เดิมเกือบหนึ่งเท่าตัว ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ทักษะการขับขี่ และใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่อัดแน่นในรถยนต์ เอ็มจี ทุกรุ่นได้อย่างถูกต้องภายใต้หลักสูตร ‘ใช้ให้เป็น ขับให้ปลอดภัยกับ เอ็มจี’ทั้งหมดนี้ยังช่วยเสริมความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์เอ็มจีให้โดดเด่น อีกทั้งยังเสริมความเข้าใจอย่างถ่องแท้ทั้งในเรื่องสมรรถนะและอุปกรณ์ที่มอบมาในรถ อันจะทำให้ผู้ขับได้รับรู้ถึงความสนุกสนานในการขับขี่รถยนต์ เอ็มจี ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย”

    “ลูกค้าและผู้ที่สนใจที่เข้ารับการฝึกอบรมจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้รถและทักษะการขับขี่รถยนต์จากทีมครูฝึกมืออาชีพ ทั้งภาคทฤษฎีในห้องเรียนและภาคปฏิบัติบนสนามทดสอบตลอดหนึ่งวันเต็มด้วยการขับขี่รถเอ็มจี 3 เอ็มจี 5 เอ็มจี 6 และนิว เอ็มจี จีเอส ตั้งแต่การปรับท่านั่งและการปรับกระจกอย่างถูกวิธี การควบคุมพวงมาลัยขณะเข้าโค้ง การใช้เบรกอย่างปลอดภัย การระมัดระวังมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การแก้ไขสถานการณ์ในกรณีฉุกเฉิน การตรวจสอบและเปลี่ยนยางอย่างปลอดภัย ตลอดจนการใช้ระบบความปลอดภัยที่ทันสมัยของรถยนต์ เอ็มจี ทั้งหมด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุลงได้” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเสริม “เมื่อผ่านการอบรมแล้วผู้เข้าอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจาก เอ็มจี และที่สำคัญ เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ แห่งใหม่นี้ยังเปิดให้บริการฝึกอบรมแก่ลูกค้าและผู้ที่สนใจตลอด 7 วันใน 1 สัปดาห์อีกด้วย”

    ทั้งนี้ ผู้เข้าอบรมต้องถือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมาอย่างน้อย 1 ปี หรือ ตามการประเมินของเจ้าหน้าที่ของ เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ ในกรณีที่ถือใบอนุญาตขับขี่น้อยกว่า 1 ปี

    “อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย เอ็มจี ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งเสริมทักษะการขับขี่เพื่อยกระดับความปลอดภัยและการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การฝึกอบรมของ เอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ จึงไม่ใช่แค่เพียงการเสริมสร้างความรู้ด้านการขับขี่ที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังมุ่งปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยที่จะช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งอาจช่วยยกมาตรฐานด้านการขับขี่ปลอดภัยของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นในระยะยาวอีกด้วย” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

    ท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์ เซ็นเตอร์ หรือ สำรองที่นั่งได้ที่หมายเลข 095-368-8600 เวลาทำการ 08.00 – 17.00น.

    ]]>
    1094847
    นิสสันซื้อหุ้นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส หลังเผชิญวิกฤตหลอกลวงผู้บริโภค https://positioningmag.com/1091738 Fri, 13 May 2016 08:33:51 +0000 http://positioningmag.com/?p=1091738 นิสสัน มอเตอร์ ได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นใหญ่ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ประสบปัญหาหนักหลังถูกพบว่าหลอกลวงผู้บริโภคในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงของยานยนต์

    นิสสันจะซื้อหุ้นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในสัดส่วนร้อยละ 34 ด้วยเงิน 237,300 ล้านเยน หรือราว 76,900 ล้านบาท และจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จำนวนหุ้นที่นิสสันจะถือครองมากกว่าจำนวนหุ้นที่บริษัทในเครือมิตซูบิชิ 3 บริษัทถือครองรวมกัน

    นิสสันกับมิตซูบิชิกล่าวว่าทั้งสองจะรวบรวมแผนหุ้นส่วนภายในวันที่ 25 พฤษภาคม

    บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ทั้ง 2 บริษัทได้ตั้งบริษัทร่วมทุนเมื่อ 5 ปีก่อนเพื่อพัฒนายานพาหนะขนาดเล็ก แต่เมื่อเดือนที่แล้วบริษัทมิตซูบิชิได้เกิดเหตุอื้อฉาวเมื่อคณะเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้ยอมรับว่าให้ข้อมูลเกินจริงในเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงของยานยนต์ 4 รุ่น มีรถยนต์มิตซูบิชิ 600,000 คันที่ได้รับผลกระทบ จนบริษัทมิตซูบิชิ มอเตอร์สถูกประเมินว่าหมดสิ้นอนาคตในการทำตลาดยนต์ในประเทศญี่ปุ่นอีกต่อไป

    การเข้าซื้อกิจการของมิตซูบิชิ ทำให้แม้แต่นายโยะชิฮิเดะ ซุงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังแสดงความหวังว่า ข้อตกลงระหว่างนิสสัน มอเตอร์และมิตซูบิชิ มอเตอร์สจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น

    นายซุงะกล่าวแสดงความหวังว่าการเป็นพันธมิตรระหว่างทั้ง 2 บริษัทจะช่วยให้มิตซูบิชิสร้างระบบที่ไว้วางใจได้ในการป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดเพิ่มเติมอีก

    ที่มา: http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9590000048114

    ]]>
    1091738
    ซูบารุ ยอดขายพุ่งเป็นประวัติกาลหลังปรับโครงสร้างราคาใหม่เปิดฉากปี 58 https://positioningmag.com/59694 Mon, 09 Mar 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59694

    บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของซูบารุในครั้งนี้ว่า ภายหลังจากได้ประกาศปรับโครงสร้างราคาใหม่เมื่อ ก.พ. 2558 ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีกลุ่มลูกค้าสนใจดำเนินการจองรถยนต์ในรุ่นต่างๆ มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในเดือนกุมภาพันธ์มียอดจองเพิ่มขึ้นสูงถึง 3 เท่า ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัทฯ หลังจากเริ่มรุกตลาดรถยนต์ในไทยอย่างหนักตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์ “ซูบารุ เอ็กซ์วี” ก็ยังเป็นรุ่นยอดนิยมของกลุ่มลูกค้าชาวไทยเช่นเดิม

    “การปรับโครงสร้างราคาในครั้งนี้ คือแรงเสริมครั้งสำคัญที่ทำให้เรากลายเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า ณ ปัจจุบัน เพราะจากการสำรวจความเห็นของลูกค้าพบว่า รถยนต์ซูบารุได้รับความไว้วางใจในเรื่องคุณภาพ และสมรรถนะอย่างเหนือกว่า หากนำมาผนวกเข้ากับราคาที่ปฏิเสธไม่ได้ ดังเช่นราคาที่เรานำเสนอสู่ตลาดในปีนี้ เชื่อมั่นว่าเราจะได้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยการปรับโครงสร้างราคาในครั้งนี้เกิดจากการ สนับสนุนของบริษัทแม่ทั้ง ฟูจิเฮฟวี อินดัสตรี (FHI) และ มอเตอร์ อิมเมจ (Motor Image) ผู้ได้รับสิทธิ์ดูแลด้านการตลาดและการขายซูบารุในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงการอ่อนตัวของค่าเงินเยนจึงมีผลโดยตรงแบบอัตโนมัติต่อการปรับลดราคารถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น”

    ทั้งนี้ ต่อประเด็นเกี่ยวกับภาพรวมการเติบโตของตลาดยานยนต์ในประเทศไทยนั้น บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความเห็นว่า “จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกของปี 2558 ตลาดรถยนต์จะเริ่มปรับฐานและปรับตัวดีขึ้น โดยในปี 2558 ทีซี ซูบารุ ตั้งเป้ายอดขายรวมทุกรุ่นไว้ที่ 3,000 คัน ซึ่งจากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาปรับเพิ่มยอดขายขึ้น ซึ่งขอสรุปหลังการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 อีกครั้ง”
     

    ]]>
    59694
    ‘มาสด้า2’ ใหม่ เทียบสเปค-ราคา… ชนคู่แข่งเก๋งซับคอมแพ็กต์ https://positioningmag.com/59206 Wed, 21 Jan 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59206

    ประเดิมเปิดตัวบุกตลาดปีแพะ 2558 อย่างเป็นทางการโมเดลแรก “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่โฉมใหม่แปลงร่างไปอยู่ในโครงการอีโคคาร์ เฟส2 แต่ค่ายมาสด้ากลับฉีกแนวทางของอีโคคาร์ในไทยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องยนต์ และราคา ซึ่งเมื่อพิจารณาสังเวียนที่จะลงไปแข่งขันในปัจจุบัน ย่อมเป็นตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์มากกว่า ดังนั้น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จึงได้นำข้อมูลเทคนิค หรือสเปคสำคัญ มาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านที่กำลังจะพิจารณาซื้อรถกลุ่มนี้เห็นภาพชัดๆ มากขึ้น…

    ในเรื่องเกี่ยวกับรูปลักษณ์หน้าตาเป็นความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งมีไม่เหมือนกันจึงขอข้ามประเด็นนี้ไป เช่นเดียวกับมิติตัวถังที่แทบจะไม่สามารถแยกความเป็นอีโคคาร์ กับซับคอมแพ็กต์ได้ เพราะอีโคคาร์บางรุ่นในปัจจุบันตัวถังใหญ่กว่าซับคอมแพ็กต์เสียอีก (ดูเปรียบเทียบมิติตัวถังรถในกลุ่มคู่แข่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จากตารางประกอบ)


           
    ประเด็นที่พอแยกตลาดอีโคคาร์กับซับคอมแพ็กต์ในไทย สิ่งแรกคงเป็นเรื่องของเครื่องยนต์ เพราะตามเงื่อนไขอีโคคาร์ทั้งเฟส1 และ 2 กำหนดเครื่องยนต์เบนซินต้องไม่เกิน 1,300 ซีซี และเครื่องดีเซลล่าสุดในอีโคคาร์ เฟส 2 ต้องไม่เกิน 1,500 ซีซี(เฟสแรกไม่เกิน 1,400 ซีซี) ซึ่ง “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการอีโคคาร์ เฟส2 จึงต้องไปอยู่ในกลุ่มอีโคคาร์ เพียงแต่ปัจจุบันไม่มีคู่แข่งในตลาดอีโคคาร์ หรือซับคอมแพ็กต์ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลโดยตรง ทำให้กลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ที่วางเครื่องยนต์เบนซินระดับ 1,500-1,600 ซีซี กลายเป็นคู่แข่งของมาสด้า2 ใหม่ไปทันที
           
    เก๋งซับคอมแพ็กต์เกือบทั้งหมดในไทย วางเครื่องยนต์เบนซิน 1,500 ซีซี ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า วีออส, ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และฟอร์ด เฟียสต้า แต่จะมีเชฟโรเลต โซนิค ที่ขยับขึ้นมาหน่อยเป็น 1,600 ซีซี เพราะเบื้องต้นทำตลาดกับเครื่องยนต์ 1,400 ซีซี แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จจึงออกรุ่น 1,600 ซีซีมาเป็นอีกทางเลือก นอกจากนี้ยังมีฟอร์ด เฟียสต้า ที่ได้เพิ่มทางเลือกกับเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 1,000 ซีซี เทอร์โบ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอีกขั้นจากฟอร์ด ที่เครื่องเล็กให้ความแรงกว่า แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า มาเป็นอีกทางเลือกในกลุ่มตลาดซับคอมแพ็กต์ (ดูรายละเอียดข้อมูลเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจากตารางประกอบ)

    โดยมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เป็นเพียงรายเดียวที่ฉีกมาวางเครื่องยนต์คลีนดีเซล Skyactiv D ขนาด 1,500 ซีซี เทอร์โบแปรผัน แม้แรงม้าจะใกล้เคียงซับคอมแพ็กต์รายอื่นๆ แต่เครื่องยนต์ดีเซลจะโดดเด่นในเรื่องของแรงบิดสูงและมาตั้งแต่รอบต่ำ จึงให้ความจี๊ดจ๊าดและเร่งแซงไหลลื่น แม้จะอยู่ในช่วงความเร็วต่ำก็ตาม นอกจากนี้เรื่องของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ซึ่งในมาสด้า2 ใหม่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของอีโคคาร์ เฟส2 ไม่ต่ำกว่า 23 กม./ลิตร แต่ทางมาสด้าระบุว่ารุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 26.3 กม./ลิตร(วิ่งใช้งานจริงจะกินน้ำมันมากกว่านี้)
           
    ส่วนซับคอมแพ็กต์เครื่องยนต์เบนซินในตลาดทุกรุ่น อย่างเก่งที่วิ่งต่างจังหวัดจะมีอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 15-18 กม./ลิตร โดยบางรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นอย่าง “ฮอนด้า ฟิต/แจ๊ซ” มีระบุอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 21.8 กม./ลิตร (ตามมาตรฐานทดสอบ JC08 ของญี่ปุ่น – เช่นกันวิ่งใช้งานจริงจะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่านี้) แต่ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และเชฟโรเลต โซนิค จะมีความโดดเด่นที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ที่ขณะนี้มีราคาต่ำกว่า 2-3 บาท (อาจจะไม่จูงใจเท่ากับเมื่อก่อน) จึงมาช่วยชดเชยเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ และยังมี “ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบูสต์” ที่มีขุมพลังแรงระดับใกล้เคียงกับเก๋งคอมแพ็กต์คาร์ 1,600 ซีซี ซึ่งให้แรงบิดที่ดีในรอบต่ำ และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำกว่ารุ่นปกติ 20% รุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนเรื่องของความต่างราคาน้ำมันดีเซลกับเบนซินคงจะไม่ใช่จุดขายแล้ว เพราะราคา ณ ปัจจุบันแทบไม่ต่างกัน
           
    สิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่ต่อไป คงจะเป็นเรื่องของราคาและออปชั่น โดยมาสด้า2 สกายแอคทีฟเปิดราคามา 3 รุ่นย่อย เหมือนกันทั้งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ราคาเริ่มต้น 675,000-790,000 บาท หากมองจากราคาตรงนี้ย่อมชัดเจน ว่าต้องแข่งขันกับเก๋งซับคอมแพ็กต์เท่านั้น

    Honda City & Honda Jazz

    คู่แข่งที่ชนหรือใกล้เคียงกันระดับราคาเริ่มต้นในรุ่น XD ของมาสด้า2 สกายแอคทีฟ จะเป็นเชฟโรเลต โซนิค ซีดาน 4 ประตู รุ่น LT ราคา 677,000 บาท ฮอนด้า ซิตี้ V/V+ ราคา 649,000/689,000 บาท ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่น V/V+ ราคา 654,000/694,000 บาท โตโยต้า วีออส รุ่น E/TRD Sportivo /G ราคา 654,000/669,000/699,000 บาท ส่วนฟอร์ด เฟียสต้า มีรุ่นราคาที่ต่ำกว่า 644,000 บาท หรือไม่ก็โดดทะลุ 709,000 บาทขึ้นไปเลย
           
    กลุ่มนี้ดูจากภายนอกไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก มาสด้า2 ทุกรุ่นจะมากับไฟหน้ารีเฟลกเตอร์แบบฮาโลเจน เช่นเดียวกับรายอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์ โดยไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติจะมีเฉพาะในฟอร์ด เฟียสต้า และเชฟโรเลต โซนิคทุกรุ่นย่อย และในรุ่น G ของโตโยต้า วีออส เป็นแบบโปรเจคเตอร์ กับราคาแตะ 7 แสนบาท วีออสยังหล่อกับล้ออัลลอย 15 นิ้ว เช่นเดียวกับฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ และเชฟโรเลต โซนิค 4ประตู ในรุ่น LT แต่มาสด้า 2 จะเป็นขนาด 16 นิ้วทุกรุ่นย่อย เหมือนกับฟอร์ด เฟียสต้า และโตโยต้า วีออส รุ่น G ซึ่งในรุ่นโซนิคพิเศษกว่ากับฝากระโปรงหลังเปิดแบบกดสัมผัส(Touch Pad)
           
    ขณะที่ภายในและสิ่งอำนวยความสะดวก มาสด้า2 สกายแอคทีฟทุกรุ่นย่อย มากับระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติ เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้าทุกรุ่นย่อย แต่คู่แข่งฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ แม้มีมาให้ในรุ่น V ขึ้นไป ยังนับว่ายังเป็นกลุ่มราคาใกล้เคียงกัน และเด่นกว่ากับระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาด้วย เหมือนในฟอร์ด เฟียสต้า ที่มาครบทุกรุ่นย่อยในกลุ่มราคานี้
           
    หน้าจอแสดงข้อมูลแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว นับว่าเพิ่มความโดดเด่นให้กับ ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ที่ให้มาตั้งแต่ในรุ่น V+ ขึ้นไป และที่น่าสนใจเป็นรุ่นพิเศษของ โตโยต้า วีออส TRD Sportivo ราคา 669,000 บาท ที่ติดตั้งจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วมาให้ ซึ่งค่อนข้างแปลกในเมื่อรุ่นท็อปราคาสูงกว่ากลับไม่มีให้ โดยมาสด้า2 จะมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยทุกรุ่น เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้า และเชฟโรเลต โซนิค โดยในกลุ่มราคาใกล้เคียงกันนี้ ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ จะมีในรุ่น V+ ขึ้นไป เหมือนกับโตโยต้า วีออส เริ่มตั้งแต่รุ่น G เป็นต้นไป ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก รวมถึงระบบรองรับความบันเทิง และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ โดยฟอร์ด เฟียสต้า เพิ่มความโดดเด่นกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC แต่ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ก็มีระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI ที่รองรับเฉพาะ IPhone 4S ขึ้นไป ติดตั้งในรุ่น V+ เป็นต้นไป

    Toyota Vios

    รุ่นต่อมา XD High ของมาสด้า 2 สกายแอคทีฟ ราคา 735,000 บาท จะมีคู่แข่งเป็นเชฟโรเลต โซนิค LTZ ราคา 719,000 บาทเท่ากันทั้งสองตัวถัง ฮอนด้า ซิตี้ SV/SV+ ราคา 734,000/749,000 บาท ฮอนด้า แจ๊ซ SV/SV+ ราคา 739,000/754,000 บาท ฟอร์ด เฟียสต้า 1.5L Titanium ทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก ราคาเดียวกัน 709,000 บาท รวมถึงรุ่น 1.0L EcoBoost แบบซีดาน ราคา 749,000 บาท และแบบแฮทช์แบ็ก 754,000 บาท ส่วนโตโยต้า วีออส จะมีรุ่น S ราคา 734,000 บาท
           
    เมื่อพิจารณาจากอุปกรณ์ต่างๆ นอกจากมีเหมือนกับรุ่นย่อยกลุ่มราคาแรกที่กล่าวไป ในกลุ่มนี้โตโยต้า วีออส ยังโดดเด่นกว่าในเรื่องของไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ แต่อุปกรณ์อย่างอื่นๆ รุ่นที่โดดเด่นอยู่แล้วก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ในส่วนล้ออัลลอยเชฟโรเลต โซนิค รุ่น LTZ รวมถึงฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ รุ่น SV และ SV+ จะมากับขนาด 16 นิ้ว เหมือนกับมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ขณะที่ภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มาครบเช่นกัน โดยมาสด้า2 จะมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติเพิ่มเข้ามาในรุ่นย่อยนี้ขึ้นไป แต่ในรุ่น SV/SV+ ของทั้งฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ติดตั้งมาให้ด้วย
           
    หากดูจากอุปกรณ์ภายนอก-ภายใน และสิ่งอำนวยความสะดวก ของราคาทั้ง 2 กลุ่มราคา นับว่าฟอร์ด เฟียสต้า และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ ค่อนข้างโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะรุ่นเฟียสต้าที่มีราคาต่ำกว่าคู่แข่งหลายหมื่นบาท…
           
    อย่างไรก็ตาม มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ มีจุดเด่นเรื่องของเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ติดตั้งในทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ขณะรถหยุดจอด หรือระบบ i-Stop ตลอดจนระบบช่วยประหยัดพลังงาน i-ELOP ที่ช่วยแปลงพลังงานจากการเบรกไปเก็บไว้ในรูปพลังงานไฟฟ้า เมื่อยามต้องการใช้ไฟฟ้าอย่างระบบ i-Stop เครื่องเสียง หรือระบบปรับอากาศ

    Ford Fiesta

    ในส่วนของมาสด้า 2 ใหม่ ตัวท็อป XD High Plus ราคา 790,000 บาท ซึ่งค่อนข้างจัดมาครบเต็มจากอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 7 นิ้ว รองรับการเล่นเครื่องเสียง แสดงข้อมูล และมีปุ่มควบคุมเหมือนกับรถหรูฝั่งยุโรป พร้อมมีช่องใส่ SC Card สำหรับระบบนำทาง (Navigator ) มาให้ด้วย รวมถึงระบบจดจำเสียง แต่เนื่องจากราคาที่กระโดดห่างจากคู่แข่งพอสมควร จึงยากที่จะนำมาเปรียบเทียบได้
           
    ส่วนระบบความปลอดภัยของมาสด้า 2 สกายแอคทีฟทุกรุ่น นอกจากระบบที่มีทั่วๆ ไป ยังให้มาครบครันเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ (DSC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) ระบบป้องกันล้อล็อค (4W -ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบสัญญาณไฟเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (ESS) และแป้นเบรกยุบตัวอัตโนมัติ เช่นเดียวกับฟอร์ด เฟียสต้า และฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ โดยเฉพาะรายหลังสุดที่โดดเด่นกว่ากับการเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมด้านข้าง มาให้ในรุ่นท็อป SV+ ด้วย
           
    สรุป… หากพิจารณาเฉพาะข้อมูลเทคนิค โดยไม่นำเรื่องของบริการหลังการขายมาร่วมพิจารณา “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” นับว่าโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมัน และขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล โดยมี “ฟอร์ด เฟียสต้า อีโคบูสต์” เป็นอีกตัวแทรกที่น่าสนใจ รวมถึงรุ่น 1.5 ลิตรของเฟียสต้า ที่มีอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก เมื่อเทียบกับราคานับว่าโดดเด่น เคียงคู่มากับ “ฮอนด้า ซิตี้/แจ๊ซ” แต่หากต้องการความครบครันคงเป็นรุ่นท็อปของมาสด้า2 ใหม่ นั่นหมายถึงต้องจ่ายในราคาที่กระโดดห่างจากคู่แข่งสักหน่อย

    Chevrolet Sonic

    ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000007675

    ]]>
    59206
    ตลาดรถ"เอสยูวี-รถหรู"สุดคึก ยกขบวนเปิดศึกชิงยอด! https://positioningmag.com/59143 Thu, 15 Jan 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59143

    ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีที่ผ่านมาถึงจะสะดุดหัวทิ่ม แต่ในส่วนของตลาดรถหรูยังคงรักษาตัวเลขการขายไว้ได้ดี แม้ในช่วงปลายปีจะเจอพิษแทรกจากการปรับฐานราคาคิดภาษีศุลกากรใหม่ ทำให้รถหรูนำเข้ามีราคาเพิ่ม 10-20% แต่ดูเหมือนจะไม่ส่งผลต่อการบุกตะลุยตลาดรถไทย เพราะหากขี่แพะสำรวจค่ายรถหรูในปี 2558 นี้ ต่างมีแผนนำแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาดไทยอย่างคึกคัก โดยเฉพาะกลุ่มเอสยูวีหรูที่ปัจจุบันกลายมาเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง…
           
    เอสยูวีหลากหลายตัวเลือกยกทัพเปิดศึก
           
    อย่างที่ได้รายงานไปในครั้งที่แล้ว กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์อย่างรถพีพีวีนับว่าเปิดศึกกันดุเดือด และเมื่อลองขยายไปโฟกัสกลุ่มเอสยูวี หรือครอสโอเวอร์ ยังมีรถใหม่ที่ควรจะเปิดตัวหลายรุ่นในปีนี้ อย่างโฉมใหม่ของ “ฮุนได ทูซอน” ที่ใกล้จะเผยโฉมสู่ตลาดแล้ว และรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ “เชฟโรเลต แคปติวา” ซึ่งในตลาดต่างประเทศจะเผยโฉมออกมาแน่ๆ ปีนี้ ดังนั้นในไทยก็ไม่ควรจะทิ้งห่างกันนัก น่าจะถูกส่งลงสู่ตลาดช่วงปลายปี หรือแบบช้าสุดๆ คงเป็นต้นปีหน้า

    Mazda CX-3

    อีกรุ่นที่ไม่ควรจะเว้นระยะห่างมากนัก “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” เพราะเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้มีการเผยโฉมรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกมาแล้ว ด้วยการปรับรูปลักษณ์ให้ดูหรูหรามากขึ้น ในเมื่อไทยพยายามจะเปิดตัวรถใหม่ให้ใกล้เคียงกับต่างประเทศ ฉะนั้นอย่างช้าก็น่าจะเป็นปลายปีนี้ คงไม่เหมาะที่จะกลับมาเป็นแบบเดิมที่ยื้อไปข้ามปีโน้น และอีกรุ่นที่ต้องจับตาคงเป็น “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” Skyactiv D 1.5 ลิตร บี-ครอสโอเวอร์ที่เพิ่งเรียกเสียงฮือฮาไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ตัวนี้น่าจะเป็นการขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานในไทย เพียงแต่จะมาทันทีปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเท่านั้น
           
    แต่ถ้าขยับมากลุ่มเอสยูวีหรูมีจ่อคิวเปิดตัวเพียบ เริ่มตั้งแต่รุ่นเล็ก “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์1” ที่ถึงเวลาปรับโฉม และน่าจะเปิดตัวในตลาดต่างประเทศช่วงกลางปีนี้ ที่จะหันมาพัฒนาบนพื้นฐานของซีรีส์ 2 ไม่ใช่ซีรีส์ 3 เหมือนกับรุ่นที่แล้ว และจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบ และ 4 สูบ 2,000 ซีซี พร้อมเกียร์ ธรรมดา 6 จังหวะ และอัตโนมัติ 8 จังหวะ ขณะที่คู่แข่งสำคัญ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” เตรียมจะบุกตลาดคอมแพ็กต์เอสยูวีในไทยครั้งแรก จากการเตรียมแนะนำ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี” (GLC) สู่ตลาด
           
    จะว่าไปมันคือรุ่นจีแอลเค(GLK) เวอร์ชั่นโมเดลเชนจ์นั่นเอง เพียงแต่ค่ายตราดาวได้มีการปรับชื่อเรียกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถเอสยูวีใหม่ โดยมากับรหัส X205 พร้อมใช้ชื่อใหม่เป็น GLC-Class เพื่อระบุตัวตนที่แท้จริงว่าจะอยู่ในกลุ่มของ C-Class และเป็นคู่แข่งของบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 (BWM X3) กำหนดเปิดตัวในไทยคาดเป็นช่วงปลายปีนี้ และไม่เพียงเท่านั้นยังเตรียมเปิดศึกในตลาดคูเป้เอสยูวี หลังจากเพิ่งเผยโฉมรุ่น “จีแอลอี คูเป้” (GLE Coupe) ก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา เพื่อท้าชนกับบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์6 โดยในไทยน่าจะทำตลาดช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน

    Mercedes-Benz GLE Coupe

    Land Rover Discovery Sport

    คอมแพ็กต์เอสยูวีหรูอีกรุ่นที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย เป็น “แลนด์โรเวอร์ ดิวคัฟเวอรี สปอร์ต” (Land Rover Discovery Sport) ซึ่งเป็นเล็กกว่ารุ่นดิสคัฟเวอรี ขุมกำลังวางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 240 แรงม้า และในยุโรปทำตลาดกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า คู่แข่งสำคัญในตลาดเป็น บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี
           
    ขยับขึ้นมาจะได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ “วอลโว่ เอ็กซ์ซี90” (XC90) เพราะเป็นการโมเดลเชนจ์ปรับรูปลักษณ์ใหม่ โดยแสดงการผสานความหรูหราและสปอร์ตเอสยูวีอย่างลงตัว แม้หลายฝ่ายจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ในการเปิดรับจองล็อตแรกกว่าพันคัน ลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดีทีเดียว โดยเอ็กซ์ซี90 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ทวินเทอร์โบ และเบนซิน เทอร์โบ สายการผลิตจริงจะเริ่มปีนี้ และตลาดไทยน่าจะนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้
           
    รุ่นใหญ่อีกตัวที่ชัดเจนจะทำตลาดในไทย ต้องเป็น “ออดี้ คิว7” (Audi Q7) ที่เพิ่งเผยโฉมไปก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร TFSI 333 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร TDI 272 แรงม้า นับเป็นอีกรุ่นที่มีตัวเลขยอดขายในไทยเดินไปได้เรื่อยๆ จึงไม่น่าพลาดที่ทางยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จะนำเข้ามาทำตลาดภายในปีนี้แน่นอน

    Volvo XC90

    Audi Q7

     

    รถหรู-สปอร์ตตะลุยตลาดไทยคึกคัก
           
    มาทางฝั่งรถซีดานหรูสองค่ายผู้นำตลาด “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” ยังคงเดินหน้าบุกตลาด แต่ที่น่าจับตามองคงเป็นการเตรียมเผยโฉมใหม่รุ่นท็อปซีรี่ส์ของค่ายใบพัดสีฟ้า “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์7” ซึ่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมามีภาพหลุดออกมาให้เห็นกันชัดเจน ดังนั้นอีกไม่น่านเท่าไหร่น่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และในไทยคงจะได้พบกับรุ่นนำเข้าสำเร็จรูป (CBU) ในช่วงครึ่งปีหลัง และปีนี้ยังจะได้พบกับรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของ “ซีรี่ส์3” อีกรุ่นด้วย
           
    ทางฝั่งค่ายตราดาวนอกจากจะเป็นการขึ้นไลน์ประกอบซีเคดี “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส” โฉมใหม่แล้ว โมเดลแรกที่น่าจะเปิดตัวช่วงต้นปีนี้คงเป็น “ซีแอลเอ ชูตติ้งเบรก” (CLA Shooting Brake) เวอร์ชั่นแวกอนของซีแอลเอ-คลาสนั่นเอง แต่ถ้าเวอร์ชั่นปกติน่าจะมีคู่แข่ง “ออดี้ เอ3 แฮทช์แบ็ก” มาค่อยแซะยอดขาย ซึ่งปีนี้ทางค่ายยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น เตรียมนำเข้ามาเสริมทัพรุ่นซีดานที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นรุ่นซีดานจากแดนปลาดิบต้อง “ซูบารุ เลกาซี่” ที่เผยโฉมในไทยช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา แต่จะนำเข้ามาทำตลาดจริงในปีนี้

    Mercedes-Benz CLA Shooting Brake

    Subaru Legacy

    ส่วนโมเดลที่หมายมั่นปั้นมือนำเข้ามาแน่ๆ คงเป็น “ออดี้ ทีที” (Audi TT) โฉมใหม่ของสปอร์ตคูเป้ตัวธงค่าย 4 ห่วง โดยยังคงโดดเด่นในด้านการออกแบบ ดูคล้ายกับออดี้ เอ8 ใหม่ ที่มาพร้อมกับไฟ LED และมาในแนวทางของรถสมัยใหม่ ที่ลดน้ำหนักให้เบาขึ้นถึง 90 กก. แต่ได้เพิ่มฐานล้อยาวขึ้นเพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น ขุมกำลังมากับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร TFSI 230 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 184 แรงม้า แต่ในไทยน่าจะเห็นบล็อกเบนซินมากกว่า และยังมาลุ้นจะมีรุ่นโรดสเตอร์ตามมาด้วยหรือไม่ รวมถึงแฝดรถสปอร์ตที่มีความแรงมากกว่าอย่าง “ออดี้ ทีทีเอส” (Audi TTS) ด้วย
           
    ในกลุ่มรถสปอร์ตรุ่นที่ถูกเฝ้าจับตามองมากที่สุดอีกรุ่น คงจะเป็นโฉมใหม่ของ “มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5” (Mazda MX-5) รหัส ND ซึ่งเผยโฉมไปในช่วงก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา กำหนดวางตลาดขายจริงจะเป็นในปีนี้ ซึ่งมากับคอนเซปต์ที่ใครก็ขับและสัมผัสเป็นเจ้าของได้ง่าย โดยมากับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน วางเครื่องยนต์ทั้งแบบ 1,500 ซีซี 130 แรงม้า และ 2,000 ซีซี 160 แรงม้า ที่มีเบสอยู่บนเครื่องยนต์ 4 สูบ นับเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในทั่วโลก รวมถึงตลาดไทยที่มีแฟนพันธุ์แท้เหนียวแน่น ปีนี้จึงเตรียมนับถอยหลังรอเป็นเจ้าของโฉมใหม่ได้เลย…

    Audi TT Coupe

    Mazda MX-5

     

    ส่วนใครที่เป็นสาวกของแบรนด์ตราดาว มาลุ้นปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะตัดสินใจนำเข้าสปอร์ตอย่าง “เอเอ็มจี จีที” (AMG GT) ขุมพลังเครื่องยนต์ วี8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ 462 แรงม้า และรุ่น “เอส-คลาส คูเป้” เครื่องยนต์ วี8 ขนาด 4.6 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ 455 แรงม้า มาเพิ่มทางเลือกไลน์ผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าในไทยหรือไม่?
           
    ทั้งหมดเป็นรถหรูและสปอร์ต ตลอดจนกลุ่มรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีหรู ที่กำลังมาแรงในตลาดทั่วโลก รวมถึงลูกค้ากระเป๋าหนักของไทย ซึ่งบรรดาค่ายรถหรูต่างเตรียมเดินเกม เพื่อล้วงกระเป๋ากันค่อนข้างครบครันทุกทางเลือก…

    Mercedes-Benz AMG GT

    Mercedes-Benz S-Class Coupe

    ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9580000004718

    ]]>
    59143
    เปิดราคาแล้ว!!… มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ ชูเก๋งเล็กเครื่องดีเซลเริ่ม 6.75 แสน https://positioningmag.com/59151 Thu, 15 Jan 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59151

    มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “มาสด้า2” ใหม่ ชูเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน และเป็นครั้งแรกในไทยวางเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน สร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มเก๋งเล็ก ที่เด่นทั้งสมรรถนะความแรง แต่ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จับกลุ่มเป้าหมายรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียม มีให้เลือกทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก ราคาเริ่ม 6.75-7.90 แสนบาท

    รายงานข่าวจากบริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดตัวรถยนต์นั่งใหม่ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” สู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ โดยต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคจากความเชื่อแบบเดิมๆ ไปจนหมดสิ้น ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “สกายแอคทีฟ” ที่ให้ประสิทธิภาพทั้งความแรงและความประหยัด จากเครื่องยนต์ SKYACTIV-D คลีนดีเซลขนาด 1500 ซีซี มาวางในรถยนต์ขนาดเล็กเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และมาพร้อมกับธีมการออกแบบของรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ “โคโดะ ดีไซน์” ที่สวยงามเทียบเท่ารถยุโรป
           
    ครั้งแรกเก๋งเล็กเครื่องดีเซลกินน้ำมัน 26.3 กม./ลิตร
           
    สำหรับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-D เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า มีขนาดความจุ 1500 ซีซี มาพร้อมเทอร์โบแปรผันที่มีน้ำหนักเบา เครื่องเดินเงียบ และคงคุณสมบัติของเครื่องดีเซลที่แข็งแกร่ง ทนทานสูง ดูแลรักษาง่าย มีอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 จึงเผาไหม้สมบูรณ์กว่า ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 -2,500 รอบต่อนาที ซึ่งเทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2500 ซีซี อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง100 กรัมต่อกิโลเมตร สามารถผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษของยุโรป ที่เข้มงวดที่สุดในระดับ 5 (Euro 5)
           
    “เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่นำเครื่องยนต์คลีนดีเซล 1500 ซีซี มาวางจำหน่ายในตลาดรถยนต์นั่งซับคอมแพ็คที่ผลิตในไทย เพราะเครื่องยนต์คลีนดีเซลเป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีเฉพาะในรถระดับหรูของยุโรปเท่านั้น และเป็นเครื่องยนต์ที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าแข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ประหยัดน้ำมัน ได้จำนวนกิโลเมตรที่มากกว่าต่อน้ำมันหนึ่งถัง โดยมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร ดังนั้นจึงเป็นรถรุ่นเริ่มต้นของตลาดที่มาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล ถือเป็นเรื่องใหม่ที่พิเศษเหนือความคาดหมายของผู้บริโภคในไทย” ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทยกล่าว

    เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคันโมเดลที่ 3
           
    มาสด้า2 ใหม่ ยังมากับเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ-ไดร์ฟ 6 สปีด ที่รวมเอาจุดแข็งของเกียร์ทุกระบบเข้าไว้ด้วยกัน โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ-บอดี้ ที่พัฒนาเพื่อให้ได้น้ำหนักลดลง แต่ให้ความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และระบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ-แชสซี ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนมากยิ่งขึ้น ควบคุมทุกการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ จากสิ่งเหล่านี้ทำให้มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่หมด ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน ซึ่งนับเป็นโมเดลที่ 3 ในไทยต่อจากมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 และมาสด้า3 สกายแอคทีฟใหม่ พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีทันสมัยไม่ว่าจะเป็นระบบไอ-สต็อป และระบบการหมุนเวียนพลังงานไอ-อีลูป เพื่อให้ทุกองค์ประกอบมีส่วนช่วยในการประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่คงไว้สมรรถนะความแรง รวมถึงนวัตกรรมระบบความปลอดภัยรอบคัน ทำให้ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้
           
    ทุ่ม2.5หมื่นล. ผลิตเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
           
    ทาเกสึเอะกล่าวว่า มาสด้ามีความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของมาสด้า ที่มีต่อประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการลงทุนในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์(AAT) เพื่อทำการผลิตรถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟ ใหม่ ภายใต้โครงการรถยนต์รถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลระยะที่2 หรือโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 เป็นรายแรกของประเทศ ด้วยเงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท และยังลงทุนในโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 11,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโรงงานผลิตระบบเกียร์อัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของมาสด้า โดยเริ่มทำการผลิตในวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งจะผลิตเพื่อป้อนให้กับโรงงานเอเอทีและโรงงานอื่นๆ ทั่วโลก
           
    “ล่าสุดมาสด้าได้ลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ มูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการอีโคคาร์อีกด้วย นอกจากนี้มาสด้ายังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของมาสด้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง”

    จับกลุ่มลูกค้าใช้รถยนต์นั่งขนาดเล็กพรีเมียม
           
    สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์นั่งขนาด B-Car และ Eco Car ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร และขนาด 1.3 ลิตร เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มียอดการจำหน่ายมากเป็นอันดับที่สองรองจากตลาดปิกอัพ รถยนต์ในกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูงมากทั้งในด้านราคา และการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งเคยทำสถิติยอดขายสูงสุดเมื่อปี 2555 อยู่ที่เกือบ 470,000 คัน โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในกลุ่มนี้ มีความต้องการชัดเจน ในเรื่องของการใช้งานที่มีความคล่องตัวสูง มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดี และใช้งานในเมืองเป็นสำคัญ
           
    ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียม มาสด้าจึงได้วางกลยุทธ์ของผลิตภัณฑ์ โดยใช้เครื่องยนต์คลีนดีเซลขนาด 1500 ซีซี พร้อมเทอร์โบแปรผันเป็นรายแรกในประเทศไทย ที่ให้พลังแรงบิดเทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2500 ซีซี แต่ประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังให้ความปลอดภัยรอบคัน กับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน ที่สำคัญยังเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลด้วยระบบเอ็มแซดดี คอนเน็ค เอาใจลูกค้ากลุ่มโพสต์โมเดิร์นที่ใช้ชีวิตอย่างมีไลฟ์สไตล์ บ่งบอกสถานะทางสังคม มีความหรูหรา และชอบเข้าสังคม

    เริ่มต้น 6.75 แสนบาท ยืนยันเป็นราคาคุ้มค่า
           
    “ขณะเดียวกันการวางกลยุทธ์ด้านราคา เพื่อให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบสมรรถนะของเครื่องยนต์คลีนดีเซล ซึ่งหาไม่ได้จากรถในระดับเดียวกัน จึงได้พิจารณาในการนำมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ลงสู่ตลาด ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6 แสนกลางๆ ในขณะที่รุ่นท็อปซึ่งทั้งภายนอก ภายใน และชุดเสริมความสปอร์ต ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ราคายังต่ำกว่า 8 แสนบาท เมื่อเทียบคุณสมบัติของมาสด้า2 ใหม่ ที่มีมาให้กับราคา นับว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งในตลาดที่คุ้มค่ามาก” สุรีทิพย์กล่าว
           
    ทั้งนี้รถยนต์มาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ประกอบด้วย…
           
    Mazda2 รุ่น Sports XD แฮตช์แบค 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 675,000 บาท
    Mazda2 รุ่น Sports XD High แฮตช์แบค 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 735,000 บาท
    Mazda2 รุ่น Sports XD High Plus แฮตช์แบค 5 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 790,000 บาท
    Mazda2 รุ่น Sedan XD 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 675,000 บาท
    Mazda2 รุ่น Sedan XD High 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 735,000 บาท
    Mazda2 รุ่น Sedan XD High Plus 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 790,000 บาท

    ชูสีใหม่‘แดง โซลเรด’เงาวาวประกายเมทัลลิค
          
    ในส่วนของสีภายนอกเป็นอีกหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญ เช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ ของการออกแบบรถยนต์มาสด้า และยังเป็นการนำเสนอรถยนต์ที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งสีใหม่ที่มาสด้าได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนาแบบใหม่ มีลักษณะเฉพาะของสีที่มีความงดงาม เงาวาวเป็นประกายเมทัลลิค ดูมีมิติเชิงลึก นั่นคือสีแดง “โซลเรด”โดยรถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซลเรด ซึ่งเป็นสีใหม่และเป็นสีสำหรับการเปิดตัว สีขาวมุก สโนว์เฟค ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล ไททาเนียมแฟลช, ฟ้า ไดนามิก บลู, สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิก, สีดำ แบล็กไมก้า, สีขาว อาคติค ไวท์ และสีเทา เมโทรโพลิทัน
           
    สำหรับการเปิดตัวมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เจนเนอเรชั่นใหม่ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนมุมมองและความเชื่อแบบเดิมๆ ของลูกค้าไปจนหมดสิ้น เนื่องจากมาสด้ามุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เพื่อให้ได้สมรรถนะและคุณภาพชั้นสูงเทียบเท่ากับรถยุโรป และเหนือกว่ารถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันในทุกๆด้าน ด้วยสมรรถนะที่ให้ได้ทั้งความประหยัดน้ำมันและตอบสนองการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมในคันเดียวกัน

    ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000005253

    ]]>
    59151
    มาดู โฉมหน้ารถรุ่นใหม่ ในงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ https://positioningmag.com/59136 Wed, 14 Jan 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59136
     

    มาดูโฉมหน้ารถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในงาน “ดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์”  จัดขึ้นที่ Cobo Hall นครดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แหล่ง อุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นเส้นเลือดหลักของเมืองลุงแซม มอเตอร์โชว์แรกของปี มีของใหม่ๆ ให้ดูและติดตามกันเป็นประจำทุกปี ไม่เฉพาะจากแบรนด์เจ้าถิ่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ผลผลิตจากแบรนด์ต่างแดนที่หวังจะเข้ามาครองส่วนแบ่งทางการตลาดของอดีตตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในด้านยอดขาย ก่อนเสียตำแหน่งนี้ไปให้กับจีน)

    ในงานนี้จะมีรถยนต์ใหม่เปิดตัวมากกว่า50 รุ่นและมีผู้ผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องจาก 60 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมงาน 

    มีนักข่าวทั่วโลก โดยว่ากันว่า 30% ของนักข่าวที่เดินทางมาทำข่าวที่นี่มาจากต่างประเทศส่วนอีก 70% เป็นนักข่าวอเมริกัน โดยจำนวนของนักข่าวที่เดินทางมาทำข่าวนั้นคาดการณ์กันเอาไว้ว่าน่าจะมากกว่า 5,000 คน

    ฟอร์ดต้อนรับการเปิดตัวของ NSX ใหม่ด้วยโปรเจ็กต์ใหม่เช่นกัน อย่าง GT โฉมใหม่ ที่ว่ากันว่าจะเข้ามาแทน Halo Car อย่าง GT ที่เปิดตัวขายเมื่อปี 2005 โดยในรุ่นใหม่เด่นด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost แบบวี6 3,500 ซีซี เทอร์โบที่มีกำลังมากกว่า 600 แรงม้า

    สำหรับงานจริงๆ ‘กำลังจะมี’ ขึ้นในวันที่ 17-25 มกราคม ซึ่งเป็นวันสำหรับคนทั่วไป หรือ Public Day และใครที่ตามงานมอเตอร์โชว์นี้มาตลอดจะทราบดีว่าผู้จัดงานจัดแบ่งรอบแบบซอยย่อยมาก โดย Press Preview สำหรับนักข่าวจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ตามด้วยรอบสำหรับผู้ที่อยู่ใน อุตสาหกรรมยานยนต์ หรือ Industry Preview รอบการกุศลในวันที่ 16 เป็นรอบการกุศล เรียกว่ากว่าคนทั่วไปจะได้ดูก็ต้องรอกันเหนื่อย และแทบจะหมด ความน่าสนใจไปแล้ว
           
    ไฮไลต์เด่นๆ ของปีนี้มีมากมายทั้งแบรนด์เจ้าถิ่น และผู้มาเยือน ซึ่งก็รวมถึงการเผยโฉมคันจริงเสียทีสำหรับ Acura NSX ใหม่ เช่นเดียวกับการเปิดตัว Toyota Tacoma คอมแพ็กต์ปิกอัพของแบรนด์นี้ ซึ่งถ้าตามติดกันมานานจะพบว่า ในรุ่นที่แล้ว การเปิดตัวของ Tacoma ถือเป้นระฆังบอกให้แฟนๆ Hilux ในบ้านเรารอกันอีกไม่นาน เพราะใน รุ่นที่แล้ว Vigo เปิดตัวตามหลัง tacoma ประมาณเกือบๆ ปี และในรุ่นนี้ก็น่าจะเช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจจะไม่ต้อง รอนานเหมือนรุ่นแรก
           
    มาดูกับบรรยากาศของงานตอนแรกกันได้เลย…

    ฟอร์ดต้อนรับการเปิดตัวของ NSX ใหม่ด้วยโปรเจ็กต์ใหม่เช่นกัน อย่าง GT โฉมใหม่ ที่ว่ากันว่าจะเข้ามาแทน Halo Car อย่าง GT ที่เปิดตัวขายเมื่อปี 2005 โดยในรุ่นใหม่เด่นด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost แบบวี6 3,500 ซีซี เทอร์โบที่มีกำลังมากกว่า 600 แรงม้า

    บูอิก แบรนด์ในเครือ GM มากับต้นแบบระดับหรูในแบบท้ายตัด 5 ประตู พร้อมความยาวในระดับที่เกิน 4,800 มิลลิเมตร พร้อมเครื่องยนต์วี6 ที่มีระบบ Auto Start/Stop

    เชฟโรเลต โคโลราโด ต้นแบบ ZR2 ยกสูง 2 นิ้ว แต่งเข้มสะใจ พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,800 ซีซีที่ผ่านการโมมาเต็มพิกัด

    เชฟโรเลต โวลต์ใหม่มาแล้วพร้อมสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่ดีขึ้น และหน้าตาที่สดใหม่ตลอดทั้งคัน

    มาสักทีสำหรับรุ่นขายจริงของ Acura NSX พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดวี6 DOHC เทอร์โบคู่พร้อมกับเกียร์ DCT แบบ 9 จังหวะ และขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อ SH-AWD โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมด 3 ตัว ส่วนราคาคาดว่าน่าจะอยู่ในระดับ 150,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.5 ล้านบาท

    ขายแล้วสำหรับอัลฟา 4C รุ่นเปิดประทุนหรือ Spyder ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,750 ซีซี เทอร์โบมีกำลังขับเคลื่อน 240 แรงม้า

    ออดี้ Q3 รุ่นปรับโฉมเปิดตัวออกมาให้สัมผัสแล้ว

    ความเร้าใจของสปอร์ตรุ่นใหญ่กับ BMW M6 Coupe รุ่นใหม่ที่มีกำลังขับเคลื่อนในระดับ 560 แรงม้าจาก เครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซี เทอร์โบ

    ฮุนไดส่งต้นแบบปิกอัพยุคหน้ามาให้สัมผัสกันในชื่อ Santa Cruz Crossover Truck แสดงความสวยล้ำ สมัยอย่างเต็มพิกัด โดยมีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี 190 แรงม้าเป็นขุมหลังหลักในการขับเคลื่อน อย่าถามว่าจะขายเมื่อไร คำตอบคือยังไม่มี

    อีกความก้าวหน้าของฮุนไดกับการผลิตเวอร์ชันไฮบริดแบบเสียบปลั๊กของ D-Car อย่าง Sonata ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซีแบบ GDI เป็นต้นกำลัง พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 50 KW ช่วยในการขับเคลื่อน

    ต้นแบบในสไตล์ SUV มาดสปอร์ตรุ่นใหม่ของโฟล์คสวาเกนในชื่อ Cross Coupe GTE เน้นความสวยและล้ำสมัยพร้อมระบบไฮบริดที่มีเครื่องยนต์วี6 แบบ FSI เป็นต้นกำลัง ผสานด้วยมอเตอร์ ไฟฟ้าขนาด 40 KW 2 ตัว ทำให้มีกำลังสูงสุด 360 แรงม้า

    โตโยต้า FT-1 มาโชว์อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นเวอร์ชัน Graphite ไม่ใช่ตัวสีแดงเหมือนกับปีที่แล้ว

    ปอร์เช่ 911 Targa 4 มากับความเร้าใจด้วยรหัส GTS เร้าใจด้วยกำลังในระดับ 430 แรงม้า

    ต้นแบบของเมอร์เซเดส-เบนซ์กับรูปทรงล้ำสมัยสุดๆ F015 Luxury in Motion Concept แสดงให้เห็นถึงแนวคิดของเบนซ์กับโลกยานยนต์ในอนาคต โดยเฉพาะในอีก 10 ปีข้างหน้า

    ประตูของ F015 เปิดออกได้อย่างกว้างขวาง แสดงให้เห็นถึงความโอ่อ่าอย่างแท้จริง

    ตัวแข่ง F1 ในปีที่แล้วของเบนซ์ก็มาจัดแสดงหลังจากที่พาทีมประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์โลกทั้งนักแข่งและทีมผู้ผลิต

    โตโยต้ากับโซน Motorsport ซึ่งมีการจัดแสดงตัวแข่งประเภทต่างๆ ของทีมโรงงานที่เข้าร่วมการแข่งขันในสหรัฐอเมริกาทั้ง NASCAR เก๋งและปิกอัพ รวมถึงแรลลี่รายการโหดๆ

    โตโยต้า Tacoma ปิกอัพขนาดคอมแพ็กต์เปิดตัวโฉมใหม่ที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ออกมาแล้วนั่นหมายความว่าเจนเนอเรชั่นที่ 7 ของ Hilux ซึ่งบ้านเราขายด้วยชื่อ Hilux Vigo นั้นกำลังเตรียมเปิดตัวตามมาแล้ว

    บูอิกเผยโฉมรถสปอร์ตคันสวยในชื่อ Casadaซึ่งก็ไม่ใช่ของใหม่ที่ไหนเพราะเป็นการนำรถยนต์จาก Opel ที่ขายในปี 2013 มาเปลี่ยนแบรนด์ใหม่สำหรับขายที่นี่พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซีเทอร์โบ 200 แรงม้า

    เทสลา Model S P85D มากับสีแดงทับทิมพร้อมกับสมรรถนะการขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เทียบเท่ากำลัง 691 แรงม้าและใช้เวลาเพียง 3.2 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    เชฟโรเลตสร้างกระแสในตลาด EV ด้วยต้นแบบขนาดคอมแพ็กต์ที่เรียกว่า Bolt EV Concept ขับทำระยะทางได้ 200 ไมล์หรือเกือบๆ 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งและว่ากันว่าจะมีการผลิตจริงกับราคาประมาณ 30,000 บาทหรือ 900,000 บาท

    นิสสันรุกตลาดรุ่นใหญ่ด้วยผลผลิตใหม่ของ Titan XD ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลวี8 5,000 ซีซีบล็อกใหม่

    เบนซ์มากับ GLE63AMG ผลผลิตใหม่ที่เตรียมลุยกับ BMW X6M โดยความเปลี่ยนนี้จะส่งผลกระทบไปยัง ML-Class ด้วยเพราะจะหันมาใช้ชื่อ GLE แทนเพื่อระบุตำแหน่งทางการตลาดที่ชัดเจน

    ตัวแรงสุดเร้าใจในตระกูล F-Series ของฟอร์ดกับรหัส Raptor ซึ่งใช้รุ่น F150 กับการโมดิฟายเครื่องยนต์วี6 EcoBoostด้วยเทอร์โบคู่ความจุ 3,500 ซีซีและมีกำลังในระดับ 411 แรงม้าและมีน้ำหนักตัวเบากว่ารุ่นเดิมราวๆ 227 กิโลกรัมอันเป็นผลมาจากการใช้ตัวถังอะลูมิเนียม

    ตัวแรงสุดร้าใจของฟอร์ด มัสแตงในรุ่น GT350R กับผลงานของ Shelby โมดิาฟยเครื่องยนต์วี8 จนมีกำลังมากกว่า 500 แรงม้า

    วอลโว่เปิดตัวความเร้าใจของ XC90 ในรหัส R Design เติมความร้อนแรงของภาพลักษณ์ด้วยชุดแต่งแบบสปอร์ตรอบคันด้วยล้อแม็ก20 นิ้วและมี 22 นิ้วเป็นออพชั่นโดย R Design จะเป็นชุดแต่งจากโรงงานที่ทางวอลโว่เตรียมวางขายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบความสวยจากโรงงาน

    วอลโว่ V60 มากับเวอร์ชันยกสูง V60 Cross Country

    ผ่าครึ่งแสดงให้เห็นชิ้นส่วนและใส่ในของโฟล์คสวาเกน e-Golf ขับเคลื่อนด้วยหลังไฟฟ้า

    มาเซราติ Alfieri มาโชว์ตัวอีกครั้งพร้อมกับคำถามที่ว่าสรุปแล้วจะมีการผลิตขายจริงหรือไม่ ?

    ต้นแบบมาดสปอร์ตของอินฟินิตี้ แบรนด์หรูของนิสสันกับรหัส Q60 ที่เน้นความสวยและสปอร์ตในแบบคูเป้ 2+2 ที่นั่งพร้อมความยาวในระดับเฉียด 4.7 เมตร

    โฉมใหม่ของ BMW ซีรีส์ 6 มาจัดแสดงกันครบทุกตัวถังทั้งคูเป้และที่เห้นในภาพคือ 650i Convertible

    ที่มา :

    http://www.manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9580000004534
    http://www.manager.co.th/Motoring/viewNews.aspx?NewsID=9580000004584

    ]]>
    59136
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป นำนวัตกรรมแห่งอนาคตของการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนสู่ประเทศไทย https://positioningmag.com/58806 Wed, 19 Nov 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58806

    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวโครงการเพื่ออนาคตของยนตรกรรมแห่งความยั่งยืน (sustainable mobility) ในประเทศไทย จัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 นวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยีที่สุดในโลก พร้อมด้วย บีเอ็มดับเบิลยู i8 รถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริด ณ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เป็นประธานในงาน ในโอกาสนี้ยังเป็นการต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยของ ดร. คลอส เดรกเกอร์ คณะกรรมการบริหารบีเอ็มดับเบิลยู เอจี เพื่อประกาศเจตจำนงในการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ThaiGerTec บริษัทเทคโนโลยี สัญชาติไทย-เยอรมัน ในการวิจัยและพัฒนาที่ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร็ว (DC quick charger) สำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า

    ดร.คลอส เดรกเกอร์ กล่าวว่า “เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งในชื่อของเรา ‘บาวาเรียน มอเตอร์ เวิร์คส์‘ เครื่องยนต์คือหัวใจของรถยนต์โดยสาร และเป็นกุญแจไขไปสู่สมรรถนะและประสิทธิภาพอันทรงพลัง เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพการผลิตส่วนประกอบของรถยนต์ที่สำคัญในประเทศไทย เรามีความยินดีที่จะประกาศเดินหน้าการประกอบเครื่องยนต์ในประเทศ ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีของเราคือ Powertech Engine Assembly เพื่อสนับสนุนการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ในประเทศไทย ซึ่งการประกอบเครื่องยนต์นี้จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป

    การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นการประกาศโครงการวิจัยและพัฒนาของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย โดย ดร.เดรกเกอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 เป็นรถยนต์โดยสารคันแรกของโลกที่ผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (carbon fibre-reinforced plastic หรือ CFRP) ที่มีน้ำหนักเบามาก ซึ่งนับเป็นวัสดุสำหรับวิศวกรรมยานยนต์ในอนาคต นอกจากนี้เรายังได้นำบางขั้นตอนของการทดสอบที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย ประกอบเข้าไปในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่น i  โดย ThaiGerTec บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย-เยอรมัน ได้พัฒนาซอฟท์แวร์ควบคุมความมั่นคงและความปลอดภัยสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i3 และ i8 วันนี้ ผมมีความยินดีที่จะแสดงเจตจำนงในการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และ ThaiGerTec ร่วมด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการวิจัยและพัฒนาที่ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร็วสำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า เราล้วนต้องการเห็นความล้ำหน้าและพลังแห่งนวัตกรรมนี้ จึงนำมาสู่การริเริ่มเสาะหาความร่วมมือกันเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์”

    มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู ได้พัฒนา เครื่องยนต์แบบ module-concept รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานระดับโลกของการประหยัดพลังงานที่มาพร้อมสมรรถนะอันเต็มเปี่ยม ด้วยการเลือกสรรวัสดุที่ทันสมัยและกระบวนการผลิตแบบพิเศษเฉพาะตัวสำหรับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุดของโลก ความริเริ่มในการประกอบเครื่องยนต์ในประเทศไทย รวมถึงการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นการถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะยานยนต์ระบบไฟฟ้าจากเยอรมนีมาสู่ประเทศไทย”

    เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เปิดสถานทูตต้อนรับการจัดงานสุดพิเศษในครั้งนี้ ฯพณฯ ชูลเซ่ กล่าวว่า “การแถลงข่าวในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและเยอรมันในด้านความยั่งยืน และยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ รวมทั้งการให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนของทั้งสองประเทศ เราส่งเสริมความร่วมมือนี้เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคยานยนต์ให้กับประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า”

     

    ]]>
    58806
    ฮอนด้าจัดงาน “Mobilio Big Day” จัดเต็มด้วยกิจกรรมสุดชิค ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกสมาชิกในครอบครัว https://positioningmag.com/58657 Mon, 27 Oct 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=58657

    บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม “Mobilio Big Day” ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยาม พารากอน ยกทัพฮอนด้า โมบิลิโอ ยนตรกรรมเอนกประสงค์ขนาดซับคอมแพคท์ ที่ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ด้วยดีไซน์สปอร์ตโดดเด่นเหนือใคร ให้ความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง พร้อมกิจกรรมสำหรับทุกคนในครอบครัว อาทิ กิจกรรม DIY สไตล์ โมบิลิโอ ที่ให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกกับ DIY แก้วเทียนหอมดีไซน์สุดชิค สำหรับผู้ที่ชอบบันทึกเรื่องราวก็สามารถออกแบบไดอารี่คู่ใจกับกิจกรรม DIY สมุดบันทึกความสุขทุกการเดินทาง และ DIY กล่องใหญ่คู่ใจสุดคูล เอาไว้ใส่ของได้สารพัดประโยชน์ หรือจะเอาไว้จัดระเบียบของใน Mobilio ก็สร้างความเก๋ไก๋ในสไตล์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี

    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่กล้าใช้ชีวิตที่ใหญ่กว่า ตามคอนเซ็ปต์ของ Mobilio Big Day ฮอนด้ายังได้จัดทอล์คโชว์ของเหล่าเซเลบบริตี้และ็ เน็ตไอดอล โดยมี น้ำหวาน ซาซ่า มาแชร์เคล็ดลับการแต่งบ้านแนวโมเดิร์นในแบบฉบับของตัวเอง คุณเกลือ เป็นต่อ ร่วมเผยชีวิตการทำงานและไลฟ์สไตล์ที่ลงตัว และคุณป๋อมแป๋ม คนดังจากเทยเที่ยวไทย ที่มาพูดคุยเกี่ยวกับทริปสุดประทับใจทั่วไทย ภายในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก วง Room 39 วง Mild และลุลา ที่มาร่วมสร้างบรรยากาศสุดชิลล์

    นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์โมบิลิโอภายในงานและรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 รับฟรี กระเป๋าล้อลาก ฮอนด้า โมบิลิโอ ดีไซน์สุดชิคพร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรม “เช็ค แชะ แชร์ กับโมบิลิโอ โอ๊ะ โอ” ลุ้นรับโมบิลิโอ ไปขับชิล ๆ 3 วัน พร้อมที่พักหัวหิน Pool Village และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

    ]]>
    58657