“SOUL รัชดาภิเษก 68” โดย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Housing Development (Bangkok) ในงานประกาศผลรางวัล Thailand Property Awards 2014 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความเป็นมืออาชีพและการยอมรับในระดับสากล ทั้งในเรื่องการออกแบบโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับไฮเอ็นท์ ที่ผสานงานดีไซน์สถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นและฟังก์ชั่นการใช้งานของสเปซภายในและภายนอก เพื่อตอบวิถีการใช้ชีวิตของครอบครัวคนเมืองอย่างมีระดับแบบ Luxury  Gated Community และด้วยความโดดเด่นของโลเคชั่นใจกลางเมืองและความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 30 ยูนิตภายใต้แนวคิด The Private Residences จึงส่งผลให้ SOUL รัชดาภิเษก 68 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการเดียวที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ โดยมี คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติรับมอบรางวัลในงาน ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพ เมื่อเร็วๆ นี้

สร้างชื่อให้มีเดียเอเยนซี่ไทยได้อีกครั้ง เมื่อผลงานของสามแผนกในเครือ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประเทศไทย ร่วมมือร่วมใจไปคว้า 2 รางวัล The Loyalty & Engagement Awards จากการประกวดผลงานในระดับอาเชียนของ Marketing Magazine ด้วยฝีมือจาก อินิชิเอทีฟ กับรางวัลบรอนซ์ในผลงาน Best use of Social ของผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากลิสเตอรีน และรางวัลซิลเวอร์จากฝีมือยูเอ็มกับเอ็นเซมเบิลที่ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานของ Microsoft Surface ให้ได้รับรางวัลประเภท Best use of Co-creation เรียกได้ว่า ไอพีจี เป็นมีเดียเอเยนซี่มือรางวัลได้เลย เพราะช่วง 2 – 3 ปีมานี้คว้ารางวัลได้เพียบจริงๆ

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) รับรางวัล “BCI Asia Top 10 Developers Awards 2014” จาก ดร.แมเธียรส์ ครัปส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  BCI Media Group ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบุคคลในแวดวงการออกแบบ ที่มีผลงานการออกแบบโครงการที่โดดเด่นและมีคุณภาพ โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ที่ได้รับรางวัล จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ ฟิวส์ เซนเซ่ บางแค, พลัม คอนโด บางแค, ฟิวส์ จันทน์-สาทร และ คอนโดเลต มิสท์ อโศก – พระราม 9  ซึ่งบริษัทฯ  ได้รับรางวัล BCI Asia Top 10 Developers Awards ทั้งโครงการทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการยืนยันด้านคุณภาพโครงการที่อยู่อาศัยของพฤกษา เรียลเอสเตท ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) (JWT Bangkok) ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาดชั้นนำระดับโลกในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป จับมือ อินิชิเอทีฟ (Initiative Thailand) และ ทีจีเอ บางกอก (TGA Bangkok) คว้ารางวัลบรอนซ์ อวอร์ด สาขาการใช้สังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม ให้กับลิสเตอรีนจากงาน “The Loyalty and Engagement Awards 2014” ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเร็วๆ นี้

เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาดชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วย อินิชิเอทีฟ ที่ปรึกษาด้านการวางแผนสื่อ และ ทีจีเอ บางกอก ออนไลน์เอเจนซี่ ประสบความสำเร็จจากการทำแคมเปญสื่อสารการตลาดบนแพลทฟอร์มออนไลน์ ด้วยการคว้ารางวัลบรอนซ์ อวอร์ด สาขาการใช้สังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม (Best Use of Social) ให้กับแคมเปญ “Personalized MV กับ Listerine” ที่นำเสนอวิธีการส่งต่อความรู้สึกห่วงใยโดยให้ผู้บริโภคสามารถใส่ชื่อของคนพิเศษที่อยากดูแลลงไปในมิวสิควิดีโอแล้วแชร์ผ่านสังคมออนไลน์เป็นครั้งแรก จากงานประกาศรางวัล “The Loyalty and Engagement Awards 2014” ที่จัดขึ้นโดยนิตยสารมาร์เก็ตติ้ง (Marketing) นิตยสารชั้นนำจากประเทศสิงคโปร์ที่ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการตลาดอย่างรอบด้าน

คุณปรัตถจริยา ชลายนเดชะ กรรมการผู้จัดการ เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) กล่าวถึงแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จของแคมเปญว่า “การทำงานกับลูกค้าและเอเจนซี่สาขาอื่นๆ อย่างเป็นพันธมิตร เป็นสิ่งที่เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้งานที่ประสบความสำเร็จ และในครั้งนี้ เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) จึงได้ร่วมกับอินิชิเอทีฟ และทีจีเอ บางกอก สร้างสรรค์ไอเดียการบอกต่อเรื่องราวการดูแลของลิสเตอรีนซึ่งต้องการนำเสนอวิธีการสุดน่ารักที่ให้ทุกคนมาดูแลสุขภาพช่องปาก โดยการให้ แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ศิลปินหนุ่มมากความสามารถและหนึ่งในโค้ชจากรายการเดอะวอยซ์ 
(The Voice) ช่วยบอกเล่าผ่านมิวสิควิดีโอเพลง “เกี่ยวกับเธอ” ที่แสตมป์แต่งขึ้นมาใหม่ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการดูแลคนรักอย่างดีที่สุดเสมอ ซึ่งมิวสิควิดีโอเพลงนี้เป็นแบบ Personalized ตัวแรกของประเทศไทย ให้ผู้บริโภคสามารถใส่ชื่อของคนพิเศษที่อยากดูแลลงไปในมิวสิควิดีโอแล้วแชร์ผ่านสังคมออนไลน์เป็นครั้งแรก และได้กลายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้แก่คนที่รักอีกด้วย”

สำหรับแคมเปญ “Personalize MV กับ Listerine” ได้สร้างปรากฎการณ์การมีส่วนร่วมของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ โดยภายในระยะเวลาการดำเนินแคมเปญเพียง 4 เดือน ยอดผู้ชมมิวสิควิดีโอเพลง “เกี่ยวกับเธอ” และจำนวนผู้ที่มาร่วมเล่นส่งต่อ Personalized MV รวมกว่า 2.5 ล้าน ครั้ง และมีการนำเพลงดังกล่าวไปทำการร้องใหม่ (Cover) กว่า 50 ครั้ง จึงกล่าวได้ว่า “Personalize MV กับ Listerine” เป็นแคมเปญสื่อสารการตลาดบนแพลทฟอร์มออนไลน์ที่เกิดจากความร่วมมือของที่ปรึกษาด้านการสื่อสารการตลาด ด้านการวางแผนสื่อ และด้านออนไลน์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

เจดับบลิวที เป็นที่ปรึกษาด้านการสื่อการตลาดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและมีอายุยาวนานถึง 150 ปี ในเครือดับบลิวพีพี กรุ๊ป โดยมีแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ดูทันสมัยและมีกระบวนการวางแผนการสื่อสารการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานในต่างประเทศกว่า 64 แห่งทั่วโลก

โดย เจดับบลิวที (กรุงเทพ) ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2525 และได้สั่งสมความสำเร็จคว้ารางวัลในการสร้างสรรค์ไอเดียและกลยุทธ์การสื่อสารให้แก่แบรนด์ชั้นนำระดับโลกและระดับประเทศ ทั้งในเวทีระดับนานาชาติและระดับประเทศมาแล้วมากมาย

โลกแห่งการเชื่อมต่อในปัจจุบันเปิดโอกาสให้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์มีพื้นที่ในการแสดงออกมากยิ่งขึ้น การสนับสนุนผลงานที่เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของนักการตลาดและเอเจนซี่ทั่วโลกจึงเป็นที่มาของ Facebook Studio (www.facebook-studio.com) พื้นที่ที่นักการตลาดจะได้เป็นที่รู้จักผ่านผลงานอันโดดเด่น ทั้งยังสามารถค้นหาแรงบันดาลใจจากแคมเปญต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงเรียนรู้วิธีการสร้างความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การตลาดบน Facebook                                            

หัวใจหลักของ Facebook Studio คือรางวัล Facebook Studio Awards ซึ่งมอบให้แก่แคมเปญบน Facebook ที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยจัดต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 3 ปีด้วยกัน การคัดเลือกผู้ชนะทำโดยกรรมการผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการตลาด โดยมีเกณฑ์การตัดสิน ได้แก่ ทักษะที่ใช้และวิธีการดำเนินแคมเปญ, ขนาดและการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ได้รับ นอกจากนี้ Facebook ยังได้เพิ่มรางวัลใหม่ในปีนี้ ได้แก่ ‘Facebook for Good’ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับองค์กรการกุศลหรือองค์กรไม่แสวงผลกำไรอีกด้วย

ในปีพ.ศ. 2557 คณะกรรมการประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากวงการโฆษณารวม 14 ท่าน และมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจากประเทศต่างๆ รวม 80 ประเทศ ขณะที่ผู้เข้ารอบ 35 รายสุดท้ายมาจากประเทศต่างๆ 17 ประเทศ และผู้ชนะทั้ง 15 รายมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, บราซิล, นอร์เวย์, นิวซีแลนด์ และเยอรมนี

แคมเปญเข้าประกวดจากประเทศไทย : ผงหอมศรีจันทร์

ปีพ.ศ. 2557 ผงหอมศรีจันทร์ซึ่งคนไทยคุ้นเคยมานานกว่า 60 ปี ได้ส่งผลงานเข้าชิงรางวัล Facebook Studio Awards ก่อนหน้าที่จะเริ่มแคมเปญ ผงหอมศรีจันทร์มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าค่อนข้างน้อยและมีแฟนเพจบน Facebook เพียง 4,000 ราย แคมเปญดังกล่าวจึงมุ่งที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ยกระดับคุณค่าตราสินค้าให้กับแบรนด์ รวมทั้งเพิ่มความน่าสนใจของแบรนด์ต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเปลี่ยนมุมมองการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ในสายตาของผู้บริโภค

แนวคิดของแคมเปญ

ผงหอมศรีจันทร์ใช้เรื่องราวความรักแบบละครเป็นเนื้อหาหลักเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มวัยรุ่นไทยด้วยการสร้าง “เรื่องราวความรักของศรีจันทร์” ขึ้นบนเพจ Facebook ของแบรนด์ โดยร่วมกับเพจ “ออกพญาหงส์ทอง” ซึ่งเป็นเพจของตัวละครชายย้อนยุคที่เดินทางข้ามเวลามายังอนาคต เพื่อใช้กลุ่มผู้ติดตามของเพจออกพญาหงส์ทอง ซึ่งขณะนั้นมีแฟนเพจ 13,000 คน เป็นฐานในการดึงผู้บริโภคให้เข้าสู่เพจของผงหอมศรีจันทร์  นอกจากนี้ ผงหอมศรีจันทร์ยังดึงเพจตัวละครอื่นเข้ามาร่วมในแคมเปญเพื่อสร้างพัฒนาการให้เรื่องราวความรักครั้งนี้อีกด้วย

แคมเปญดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ระยะ เริ่มจากการที่เพจออกพญาหงส์ทองโพสต์บอกแฟนๆ ว่าต้องการตามหาหญิงสาวในฝันและขอให้ผู้ติดตามเพจช่วยเหลือภารกิจครั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยบรรดาแฟนๆ ต่างเริ่มแนะนำเพจมากมายที่เหมาะจะเป็นคู่กับออกพญาหงส์ทอง แต่ไม่มีการตอบรับจากออกพญาหงส์ทอง จนกระทั่งแฟนเพจรายหนึ่งแนะนำ “แม่ศรีจันทร์” ซึ่งเป็นชื่อตัวละครของเพจผงหอมศรีจันทร์ (Srichand Powder)

ระยะที่สองของแคมเปญคือการให้ทั้งสองเพจส่งข้อความแสดงความรักต่อกัน บรรดาแฟนๆ ของทั้งสองเพจต่างมีส่วนร่วมด้วยการแนะนำเคล็ดลับการพูดคุยและสานสัมพันธ์ พร้อมกับติดตามเรื่องราวความรักตลอดระยะเวลาของแคมเปญ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มตัวละคร “แม่บ้านมีหนวด” ซึ่งเป็นเพจของตัวละครเพศที่สาม มาสร้างสีสันให้กับเรื่องราวความรักในระยะที่สองนี้อีกด้วย ในระยะสุดท้ายของแคมเปญ เรื่องดำเนินมาถึงช่วงที่ตัวละครทั้งสอง “นัดพบ” กันในโลกออฟไลน์ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศการออกเดทครั้งนี้บน Facebook ของทั้งสองเพจให้แฟนๆ ติดตาม

ผลลัพธ์จากแคมเปญ

แคมเปญของผงหอมศรีจันทร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี กลุ่มวัยรุ่นไทยหันมาให้ความสนใจในแคมเปญอย่างรวดเร็ว รวมถึงติดตามมีส่วนร่วมกับ “เรื่องราวความรัก” ครั้งนี้โดยตลอด ทำให้ตัวเลขการมีส่วนร่วมกับเหล่าผู้ใช้โซเชียล เน็ตเวิร์กของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 2 ล้านคน มีเสียงตอบรับที่ดีมากกว่า 18 ล้านครั้ง และจำนวนผู้ติดตามเพจผงหอมศรีจันทร์เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 500 นอกจากนี้ แบรนด์ยังเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถเปลี่ยนมุมมองของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อแบรนด์ให้หันมาสนใจซื้อผลิตภัณฑ์ผงหอมศรีจันทร์มากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ “เรื่องราวความรักของศรีจันทร์” ได้รับรางวัลบรอนซ์ อวอร์ด (Bronze Award) ในสาขา “สุดยอดการใช้โซเชียล มีเดีย (Best Use of Social Media)” จาก แอดแมน อวอร์ด แอนด์ ซิมโพเซียม 2013

รายละเอียดเกี่ยวกับแคมเปญ

· บริษัท :  บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด

· แบรนด์ : ผงหอมศรีจันทร์

· เอเจนซี่ : เอดจ์ เอเชีย กรุงเทพฯ

· กลุ่มเป้าหมาย : ประเทศไทย – เอเชีย แปซิฟิก

· ภาษา : ไทย

· ประเภทสินค้า : สินค้าอุปโภคบริโภค

· วัตถุประสงค์ : เพิ่มการรู้จักแบรนด์ และสร้างออนไลน์ทราฟฟิค

· ช่องทางสื่อสาร : ออนไลน์

ผลงานและเนื้อหาเกี่ยวกับแคมเปญดังกล่าวมาจากเอเจนซี่หรือแบรนด์เจ้าของผลงานข้างต้น

เครดิต

· ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง เอเจนซี่: เอดจ์ เอเชีย

Facebook Studio Awards 2015 จะเปิดรับผลงานเข้าประกวดอีกครั้งในปีพ.ศ. 2557 นี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดและข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมได้ที่ https://www.facebook.com/business/news และสามารถอ่านเงื่อนไขการส่งผลงานที่ https://www.facebook-studio.com/site/terms

ทั้งนี้สามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลเพื่อการเรียนรู้, แนะนำผลิตภัณฑ์, กรณีศึกษาต่างๆ การวัดผลและข้อมูลจากการวิจัย และอื่นๆ ได้จาก https://www.facebook-studio.com/education/index

สำนักงานรางวัลคุณภาพแห่งชาติ จัดงานแถลงข่าวผลรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ในวันที่ 22 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ณ ห้องจามจุรีบอลรูม A ชั้น M โรงแรม ปทุมวัน ปริ๊นเซส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกาศผลการตรวจประเมินองค์กรที่สมัครขอรับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) ประจำปี 2556 โดยมี 10 องค์กรคุณภาพที่คว้ารางวัล “การบริหารสู่ความเป็นเลิศ” หรือ Thailand Quality Class (TQC)

นั่นคือ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ,บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.สผ. สยาม จำกัด , บริษัท พีทีที โพลีเมอร์ โลจิสติกส์ จำกัด , โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) , โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำ หนองแค – บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), โรงงานอาหารแปรรูปสัตว์น้ำระโนด , บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย , โรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย , สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี

สมภพ อมาตยกุล ประธานคณะกรรมการรางวัลคุณภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การพิจารณาให้รางวัลคุณภาพแห่งชาติ และรางวัล การบริหารสู่ความเป็นเลิศ ได้ดำเนินการมาครบรอบ 12 ปี แล้วในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งผลการตรวจประเมินองค์กรที่สมัครขอรับรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) ประจำปี 2556 โดยรางวัลคุณภาพแห่งชาติ หรือ Thailand Quality Award (TQA) ต้องได้รับคะแนนการตรวจประเมินสูงกว่า 650 คะแนนขึ้นไป ทำให้ยังไม่มีองค์กรใดสามารถพิชิต “รางวัลคุณภาพแห่งชาติ” หรือ Thailand Quality Award (TQA) เช่นเดียวกับปี 2555

อย่างไรก็ดี TQA ใม่ใช่เรื่องที่สูงเกินเอื้อมสอย เพราะหากองค์กรใดที่เดินมาถึงระดับ TQC ได้ ก็คือการส่งสัญญานว่าจะก้าวถึงเส้นชัย TQA ในไม่ช้า และข้อความข้างล่างนี้ก็คือ ความรู้สึกขององค์กรผู้ชนะ

บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด นั้นเคยได้รับรางวัล TQC ครั้งแรกเมื่อปี 2549 และที่สุดก็สามารถคว้ารางวัลนี้ได้อีกในปี 2555 “ในความเป็นจริงแล้ว เราใช้รางวัล TQA เป็นกรอบในการบริหารจัดการองค์กรตลอดมา ” วีรเดช อัครผลพานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เคาน์เตอร์เซอร์วิส กล่าว “ภายใต้กรอบของ TQA ทำให้องค์กรมีแต่ได้กับได้ เคาน์เตอร์เซอร์วิสเป็นธุรกิจบริการ ที่ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้ มิหนำซ้ำในช่วงที่เริ่มต้น ประเทศไทยยังไม่เคยมีธุรกิจในรูปแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเราต้องหาหนทางในการ สร้างคุณภาพและความน่าเชื่อถือ”

ในวันนี้ เคาน์เตอร์เซอร์วิส สามารถความยอมรับในตลาดไทย และวางแผนต่อว่าจะต้องเป็นองค์กรไทยที่เป็นที่ยอมรับบนเวทีสากล วีรเดช บอกว่า ยิ่งนานวันยิ่งมีความมั่นใจว่า การที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสตัดสินใจเลือกเดินบนเส้นทาง TQA นั้นถูกต้องแล้ว และเชื่อว่าเป็นวิถีทางที่นำไปสู่ความยั่งยืนตรงปลายทาง

LINE ผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือยอดนิยมระดับโลก และมีผู้ใช้กว่า 330 ล้านคนทั่วโลก วันนี้ได้ประกาศถึงLINE whoscall ซึ่งเป็นฟรีแอพกรองและตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดย Gogolook บริษัทชั้นนำของโลกผู้ให้บริการด้าน ID caller

LINE whoscall สำหรับระบบแอนดรอยด์ ทำให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบที่มาของเบอร์ที่โทรเข้า รวมถึงกรองเบอร์และข้อความที่ผู้รับไม่ต้องการอีกด้วย โดยตัวแอพได้ถูกดัดแปลงจากแอพ whoscall ตัวเก่า ที่มียอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 5 ล้านครั้งทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นแอพยอดเยี่ยมประจำปี 2013 บนใน 8 ภูมิภาค รวมถึงประเทศไทย, ไต้หวัน, ฮ่องกง, อินโดนีเซียและมาเลเซีย

LINE whoscallมีฐานข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์กว่า600 ล้านหมายเลข ครอบคลุมทั้งร้านค้าและธุรกิจต่างๆ โดยมีแหล่งที่มาจากเยลโล่เพจเจสและข้อมูลสาธารณะอื่นๆซึ่งสามารถระบุและแสดงที่มาของข้อความและเบอร์ที่โทรเข้ามาได้อย่างอัตโนมัติทันที ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องสงสัยก่อนที่จะรับสายได้

หมายเหตุสำคัญ

1. ข้อมูลของหมายเลขโทรศัพท์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่จะไม่ถูกบันทึกโดยบริการจากLINE whoscall

2. แอพพลิเคชั่นนี้จะไม่รวมฟังก์ชั่นที่เชื่อมโยงกับแอคเค้าท์ LINE  ดังนั้นข้อความและสายที่ได้รับ ผ่านแอพ LINE จะไม่ถูกกรองโดย LINE whoscall

LINE whoscall

ระบบปฏิบัติการที่สนับสนุน : แอนดรอยด์

ภาษาที่รองรับ : ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น

พื้นที่ ที่รองรับ: ทั่วโลก

วันที่สามารถเริ่มต้นใช้บริการ : วันที่ 9 มกราคม 2557

ค่าใช้จ่าย : ไม่เสียค่าบริการ

ดาวน์โหลด : https://play.google.com/store/apps/details?id=gogolook.callgogolook2

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ : http://whoscall.line.me/