ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น เริ่มจาก โตโยต้า (Toyota) ได้ระงับสายการผลิตในรัสเซีย ส่วนหนึ่งมาจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกภายหลังการรุกรานยูเครน ทำให้กระทบต่อการขนส่งและตัดซัพพลายเชน โดยโตโยต้าระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทยังได้ระงับการส่งออกรถยนต์ไปยังรัสเซียอย่าง ไม่มีกำหนด เช่นเดียวกันกับ ฮอนด้า (Honda) และ มาสด้า (Mazda)

โตโยต้า ถือเป็นแบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่นในรัสเซีย โดยสามารถผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 80,000 คันที่โรงงานในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยมีพนักงานรวมกว่า 2,000 คน

ในส่วนของผู้ผลิตรถยนต์จากฝั่งยุโรป ก็มี Volvo ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตยานยนต์แรกที่ออกมาประกาศระงับการส่งออกไปยังรัสเซีย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และตามมาด้วย General Motors (GM), Mercedes-Benz, Ford และ BMW ก็หยุดการผลิตและส่งออกรถยนต์ไปยังรัสเซีย

สำหรับ Mercedes-Benz ไม่ใช่แค่ระงับการผลิตและส่งออก แต่ยังเตรียมขายหุ้น 15% ของบริษัท Kamaz ผู้ผลิตรถบรรทุกสัญชาติรัสเซียให้เร็วที่สุดอีกด้วย

แทบทุกอุตสาหกรรมร่วมคว่ำบาตร

เรียกได้ว่าตอนนี้แทบทุกอุตสาหกรรมกำลังคว่ำบาตรรัสเซีย อย่างฝั่งของโลจิสติกส์ก็มี MSC สายการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Maersk ระงับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปและกลับจากประเทศรัสเซีย โดย Maersk ระบุว่า “การขนส่งอาหารและเวชภัณฑ์ไปยังรัสเซียมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายหรือเน่าเสียเนื่องจากความล่าช้าที่สำคัญที่ท่าเรือและศุลกากร”

ส่วน Amazon.com ก็ได้เปิดเผยว่าบริษัทกำลังใช้ความสามารถด้านโลจิสติกส์เพื่อจัดหาสิ่งของให้กับผู้ที่ต้องการและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนยูเครน นอกจากนี้ Japan Airline และ ANA Holdings ซึ่งปกติใช้น่านฟ้ารัสเซียสำหรับเที่ยวบินยุโรปก็ได้ออกมายกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดไปและกลับจากยุโรป

ในส่วนของธุรกิจพลังงาน ก็มีบริษัทพลังงานสหรัฐฯ Exxon Mobil บริษัทพลังงานของอังกฤษ BP และ Shell ต่างก็ถอนการลงทุนในรัสเซีย

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ อาทิ Spotify ก็ได้ปิดสำนักงานในรัสเซียอย่างไม่มีกำหนด ส่วน Netflix ได้เบรกออริจินอลคอนเทนต์ 4 เรื่องที่ถ่ายทำในรัสเซีย ส่วนบริษัทด้านความบันเทิงยักษ์ใหญ่อย่าง Disney และ Warner Bros. ได้ประกาศระงับการฉายภาพยนตร์ทุกเรื่องในรัสเซีย

บริษัทยักษ์ใหญ่อื่น ๆ อาทิ H&M บริษัทสินค้าแฟชั่นสัญชาติสวีเดน ได้หยุดการขายในรัสเซียชั่วคราว ส่วน Apple ก็หยุดการขาย iPhone และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในรัสเซียด้วย

Reuter / Japantoday / variety

นายบีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแผนการขอสนับสนุนการลงทุนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่ได้รับการอนุมัติ จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

“เรามีแผนการลงทุนเช่นเดียวกับบริษัทฯ อื่นที่ยื่นเข้าไป แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมรายอื่นได้อนุมัติแล้ว แต่ทางเมอร์เซเดสเบนซ์-เบนซ์ ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งอาจจะทำให้การนำรถเข้ามาจำหน่ายล่าช้าไปบ้าง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน จะทำให้การลงทุนเพิ่มก้อนใหม่นี้ยังเป็นไปตามแผนงานได้”

ทั้งนี้ การอนุมัติแผนการลงทุนที่ล่าช้าดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการเปิดตัวโรงงานประกอบแบตเตอรี่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการลงทุนคนละส่วนกัน โดยมีกำหนดเปิดสายการประกอบแบตเตอรี่อย่างเป็นทางการในช่วงเดือนหน้า

นายบีเยิร์น กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐมีการเตรียมความพร้อมรองรับด้านพลังงานไฟฟ้า ที่เพียงพอต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกควรตระหนักถึง เพราะไม่ว่าอย่างไรรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน

“ชัดเจนว่า ในระดับโลกนั้น ทุกค่ายต่างมีทิศทางในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรวมถึง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วย และเรามีรถรุ่น อีคิวซี ที่เปิดตัวออกมาจำหน่ายแล้ว และคงไม่ใช่เรื่องยากหากจะนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เพราะเรามีสินค้าพร้อมอยู่แล้ว รอเพียงแค่ภาครัฐอนุมัติเท่านั้น”

สำหรับประเทศไทยถือว่ามีโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยมจากรัฐบาล และเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีสัดส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 40% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดขายทั้งสิ้น 11,000 กว่าคัน ลดลง 1.75% ปัจจัยสำคัญมาจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก แต่ในเดือนกันยายนยอดขายเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เติบโตราว 23%.

Source

บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังแห่งเยอรมันได้เปิดตัวเรือยอชต์ Arrow460-Grandturismo รุ่น 1 ที่งาน Monaco Yacht Show หลังเคยเผยโฉมคอนเซ็ปต์ให้ชมกันมาตั้งแต่ปี 2012 โดยเป็นการร่วมมือกับบริษัท Silver Arrows Marine ผู้เชี่ยวชาญด้านพาหนะทางน้ำ จนผลิตออกมาได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับราคา 1.7 ล้านเหรียญฯ (58 ล้านบาท) สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ

แต่แค่เงินอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการซื้อ Arrow460-Grandturismo เพราะบริษัททั้ง 2 มีแผนจะผลิตออกมาเพียง 10 ลำเท่านั้น และจะขายให้กับลูกคนเพียงคนเดียว ในแต่ละประเทศ จึงคงไม่ใช่สินค้าที่จะหาซื้อกันได้อย่างง่ายๆ แน่

Arrow460-Grandturismo มีชื่อเล่นว่า “ลูกศรสีเงินแห่งท้องทะเล” เพราะตั้งแต่ยุค 1930s รถแข่งของ Mercedes ก็มีชื่อว่า “ลูกศรสีเงิน” เช่นเดียวกัน

เรือยอชต์ความยาว 46 ฟุตลำนี้อาจจะถือว่าเป็นเรือขนาดเล็ก แต่การออกแบบก็สามารถชดเชยเรื่องขนาดของเรือได้อย่างสบายๆ

สำหรับด้านในเรือได้รับการออกแบบสไตล์ซาลูน แบบเดียวกับ Mercedes รุ่น S-Class

กระจกด้านกว้างสามารถเปิดออกไปได้ เพื่อให้ผู้โดยสารที่นั่งด้านในได้นั่งรับลม ระหว่างดื่มด่ำกับทัศนียภาพทางทะเลด้านนอก

ด้วยความแรง 960 แรงม้า เรือสามารถทำความเร็วได้ 40 นอต

เรือมีพื้นที่ซึ่งรองรับคนได้สบายๆ ถึง 10 คน

ส่วนโต๊ะและเตียงยังสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายดาย จึงเพิ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสบายๆ ด้วย

ในตัวเรือยังประกอบไปด้วยสิ่งอำนาจความสะดวกสมัยใหม่พร้อม อย่างที่เรือยอชต์ยุคนี้ควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง ที่เก็บไวน์และที่ทำน้ำแข็ง

Silver Arrows Marine ได้เริ่มผลิต Arrow460-Grandturismo มาตั่งแต่ปี 2016 และพร้อมที่จะส่งให้กับผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของได้ภายในครึ่งหลังของปี 2017

ที่มา : http://www.thisisinsider.com/mercedes-yacht-arrow460-granturismo-pictures-2016-9?utm_content=buffer3f930&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer-insider

โชว์รูมจำหน่ายรถเบนซ์ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดพื้นที่พิเศษจำหน่ายบะหมี่ราเม็ง โดยลูกค้าสามารถซดราเม็งร้อนๆ คลายความหนาว เคียงข้างรถยนต์หรูได้

เมนูราเม็ง “เบนซ์” เป็นตำรับพิเศษมี 2 ชนิดคือ รสทะเล เป็นบะหมี่เส้นเล็กในซุปปลาแบบฝรั่งเศส พร้อมด้วยเนยแข็ง, ข้าวโพด, ผัก และหอยหวานที่มีโลโก้ “เบนซ์” เสิร์ฟพร้อมข้าวปั้นย่างรสซอสมิโซะ

อีกเมนูหนึ่ง คือ บะหมี่รสเป็ด ใช้บะหมี่เส้นหนาเสิร์ฟพร้อมเนื้อเป็ดอบ พร้อมขนมปังฝรั่งเศสและซอสตับห่าน

ราเม็งทั้ง 2 ชนิดเสิร์ฟในชามที่มีโลโก้ “เบนซ์” ที่ก้นชาม สนนราคาเพียง 1,200 เยน นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องเคียงอีกหลายอย่างที่ลูกค้าเลือกรับประทานเพิ่มเติมได้

ผู้จัดการโชว์รูมเบนซ์ สาขากรุงโตเกียว เปิดเผยถึงสาเหตุที่หันมาขายบะหมี่ราเม็งว่า นี่เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพื่อสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าที่ส่วนใหญ่มักคิดว่ารถ “เบนซ์” ราคาแพง ยากจะได้เป็นเจ้าของ หากแต่ทุกคนสามารถมารับประทานราเม็งพร้อมชื่นชมรถ “เบนซ์” ได้

บรรดาลูกค้าต่างบอกว่า ราเม็ง “เบนซ์” รสชาติอร่อย และยังรู้สึกเหมือนได้เป็น “เศรษฐี” อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยากจะชิมราเม็งนี้อาจต้องรีบ เพราะมีจำนวนจำกัดเพียงแค่วันละ 100 ชาม ทำให้จำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็วเพียง 1ชั่วโมงหลังจากเปิดร้านเท่านั้น โดยจะจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 25 ธันวาคมนี้เท่านั้น

นอกจากราเม็งรสเด็ดแล้ว โชว์รูมเบนซ์ สาขากรุงโตเกียว ยังสร้างซุ้มคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อโปรโมตรถเบนซ์ E-Class Stationwagon ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถทดลองนั่งรถขึ้นไปบนรางความสูง 9 เมตร ที่มีความลาดชัน 45 องศา เพื่อพิสูจน์ถึงศักยภาพของรถเบนซ์รุ่นนี้ และในช่วงค่ำยังมีการประดับไฟอย่างสวยงามอีกด้วย