CPN – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 25 Nov 2025 06:15:05 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘เซ็นทรัลพัฒนา’ สร้าง Dream destinations ดันการใช้จ่ายปลายปี https://positioningmag.com/1548205 Fri, 21 Nov 2025 11:32:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1548205 ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยกำลังมาถึง เซ็นทรัลพัฒนา จับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ทุ่มกว่า 800 ล้านบาท เปิดตัว The Magical Stars อาณาจักรดิสนีย์ที่เซ็นทรัลทั่วประเทศ เพื่อสร้าง Dream destinations ดันการใช้จ่ายและท่องเที่ยวไทยให้คึกคัก

ปีนี้เป็นปีที่เซ็นทรัลพัฒนาครบรอบ 45 ปี จึงอยากนำคาแรกเตอร์ที่ผู้คนผูกพันมายาวนานมาร่วมเฉลิมฉลอง บวกกับการไปดิสนีย์ แลนด์ถือเป็นความใฝ่ฝันของคนที่อยากไปเยือนสักครั้ง จึงเป็นที่มาของ The Magical Stars เพื่อสร้าง Dream destinations โดยไฮไลต์ ได้แก่

  • The Magical Thai Pride ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ท้องถิ่น ฝีมือชุมชนทั่วประเทศ ร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเป็นครั้งแรกของมิกกี้ เมาส์–มินนี่ เมาส์ สูง 3 ม. ในชุดผ้าไทยที่ 8 สาขาทั่วประเทศ
  • อาณาจักร ‘Magic Storyland’ สร้าง Sensory Living เหมือนอยู่ในโลกของดิสนีย์ ด้วยทุกประสาทสัมผัสภาพ แสง สี เสียง และกลิ่น
  • เซ็นทรัลเวิลด์ จะรวมคาแรกเตอร์ดิสนีย์สุดฮิตทั่วโลกไว้ในที่เดียว ถือเป็นงานที่จัดนอกดิสนีย์ที่ใหญ่สุดในเอเชีย     บนพื้นที่กว่า 3,500 ตร.ม.
  • Mickey & Friends ใน ‘Magic Town’ ที่เซ็นทรัล 24 สาขา และ ‘Magic Castle’ ปราสาทคริสต์มาสของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่ 17 สาขา

ครั้งนี้ ทางเซ็นทรัลพัฒนาต้องการช่วยขับเคลื่อน Festival Economy หนึ่งในกลไกสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค ผ่านพลังของเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี

อย่างที่ผ่านมาได้มีการสร้าง ‘เทศกาลระดับชาติ’ ต่อเนื่อง อาทิ ตรุษจีน, สงกรานต์, Pride Month, Grand Sale, Halloween และ Countdown ที่เซ็นทรัลเวิลด์-Time Square of Asia ฯลฯ ซึ่งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญ

โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีที่คาดว่าจะมีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นกว่า 25–30% ทั่วประเทศ และดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่าน Tourist malls 12 แห่งทั่วประเทศ ทั้งกลุ่ม Short-haul เช่น มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน และกลุ่ม High Potential จากตะวันออกกลาง 

รวมถึงเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอย่าง พัทยา สมุย ภูเก็ต และกระบี่ ที่ดึงดูดตลาดยุโรปที่นิยมท่องเที่ยวเป็นพิเศษช่วงปลายปี

]]>
1548205
เซ็นทรัลกระบี่ มิกซ์ยูสแห่งแรกของกระบี่ มูลค่า 4.5 พันล้าน เปิดวันแรกคนทะลัก-รถติดยาว https://positioningmag.com/1544048 Fri, 24 Oct 2025 05:00:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1544048 ‘เซ็นทรัลกระบี่‘ ศูนย์การค้าแห่งที่ 44 ของ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ต.ค. 68 ทราฟฟิกแน่นตั้งแต่วันแรก ส่งผลให้คนต่อคิวรอเข้าห้างยาวเหยียด และรถติดยาวบริเวณหน้าทางเข้า สะท้อนความฮอตของศูนย์การค้าใหม่แห่งที่ 44 ของ CPN

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า ปี 2568 CPN เปิดตัวมิกซ์ยูสแห่งใหม่ ’เซ็นทรัลกระบี่‘ มูลค่าโครงการ 4,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 114 ไร่ ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่

1.ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ รูปแบบ Semi Outdoor จำนวน 54 ไร่พื้นที่อาคารรวม (GBA) 86,609 ตารางเมตร รวมแบรนด์กว่า 300 แบรนด์

2โครงการที่อยู่อาศัย 2 โครงการ

  • คอนโดแบรนด์ PHYLL KRABI จำนวน 160 ยูนิต ราคา 3.99 – 10 ล้านบาท
  • วิลล่าหรูวิวภูเขาแบรนด์ BAAN NINYA KRABI จำนวน 100 ยูนิต มูลค่า 16 – 25 ล้านบาท ปัจจุบันเปิดขายเฟสแรก จำนวน 10 หลัง ทำยอดขายได้ 100% กำลังเปิดเฟสที่ 2

3.โรงแรม (อยู่ระหว่างเลือกเชนโรงแรมมาเปิด) เป็นโรงแรมขนาด 200-300 ห้องขึ้นไป

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)

สำหรับปัจจัยหลักที่เลือก “กระบี่” เนื่องจาก เป็นจังหวัดท่องเที่ยวศักยภาพสูงของภาคใต้

  • ปี 2567 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 91,000 ล้านบาท ติด Top 5 ของไทย (ไม่รวม กทม.)
  • ปี 2568 คาดการณ์จะทำรายได้จากการท่องเที่ยวทะลุ 100,000 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 6.3 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพจากยุโรป มาเลเซีย อินเดีย และสิงคโปร์

เซ็นทรัลกระบี่
รวมถึงกระบี่มี การพัฒนาโครงการพื้นฐาน อาทิ
การขยายท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เทอร์มินอลใหม่ ที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 8 ล้านคนต่อปี และโครงการ ท่าเรือวงแหวนอันดามัน ที่เชื่อมกระบี่–ภูเก็ต–พังงา เป็น Triangle of Andamanรองรับเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูง

“เซ็นทรัลกระบี่ เจาะกลุ่มกำลังซื้อสูงในภาคใต้ และนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่ม Expats และนักท่องเที่ยวระยะยาว สะท้อนเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกระบี่ CPN คาดว่า ศูนย์การค้านี้ จะมีทราฟฟิกกว่า 25,000 คน/วัน เฉพาะวันแรกนี้ (24 ต.ค. 68) มีผู้ใช้บริการถึง 45,000 คน”

ลูกค้าใช้บริการเซ็นทรัลกระบี่วันแรก

สอดคล้องกับ ข้อมูลจาก The 1 Insight ที่พบว่า คนกระบี่ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูง ด้านภาพรวมการใช้จ่ายภาคใต้

  • การใช้จ่ายสูงสุด เฉลี่ยกว่า 10,000 บาทต่อบิลในกลุ่มสินค้า Luxury ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศถึง 2 เท่า และเพิ่มขึ้นกว่า 22% ในช่วง High Season
  • กลุ่มแฟชั่น มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยเกือบ 20,000 บาทต่อบิล

สะท้อนถึงศักยภาพของกลุ่มลูกค้าภาคใต้ที่มีกำลังซื้อสูง และมีความพร้อมในการจับจ่ายสินค้าพรีเมียม การเปิดศูนย์การค้าใหม่ในพื้นที่จึงช่วยตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”

เซ็นทรัลกระบี่

]]>
1544048
วิเคราะห์ ทำไม CPN ถึงกล้าสร้างศูนย์การค้าติดกัน? กรณีศึกษา The Central พหลโยธิน – เซ็นทรัล ลาดพร้าว https://positioningmag.com/1542138 Thu, 09 Oct 2025 03:00:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1542138 เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดตัว เมกะโปรเจกต์ศูนย์การค้าแห่งใหม่ “The Central พหลโยธิน” ขนาดใหญ่ 49 ไร่ พื้นที่ (GBA) 4.57 แสนตร.ม. พร้อมชูเป็นสาขาแฟล็กชิปของกรุงเทพฯ โซนเหนือ

อย่างไรก็ดี ที่น่าสนใจ คือ ‘The Central’ อยู่ห่างจาก ’เซ็นทรัล ลาดพร้าว‘ สาขาเรือธงที่สร้างรายได้ติด Top 5 ของกลุ่มศูนย์การค้า ‘Positioning’ พาเจาะเหตุผล CPN กล้าสร้างห้างใกล้กัน?

CPN มอง “ลาดพร้าว–พหลโยธิน” เป็น Mega Catchment Area

พื้นที่ The Central พหลโยธิน และ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ไม่ใช่แค่ย่านชุมชนธรรมดา แต่เป็นจุดตัดของถนน 2 เส้นสำคัญ คือ ถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นจุดชุมชนหนาแน่น สะท้อนจาก

  • โครงการที่อยู่อาศัย 472 โครงการ
  • อาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) 52 ตึก
  • โรงแรม 41 แห่ง
  • สถานศึกษาขนาดใหญ่ (โรงเรียน + มหาวิทยาลัย) 51 แห่ง

โดยย่านนี้มีรถยนต์สัญจรผ่าน 337,000 คัน/วัน ส่วนรถไฟฟ้า 2 สาย (MRT สีน้ำเงิน สถานีพหลโยธิน + BTS สายสีเขียว สถานีห้าแยกลาดพร้าว) มีผู้ใช้งานกว่า 50,000 คน/วัน

“ส่งผลให้ในรัศมี 10 กม. รอบ 2 ศูนย์การค้านี้ เป็น Mega Catchment Area มีการเข้าถึงประชากรราว 2.5 ล้านคน ถือเป็นจำนวนที่เยอะมาก และถึงแม้ตั้ง 2 ศูนย์ชนกัน ก็ไม่ถือว่าเป็นการแย่งลูกค้ากันเอง”

The Central พหลโยธิน

กำลังซื้อกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือสูง แต่คู่แข่งน้อย

โฟกัสพื้นที่กรุงเทพฯ โซนเหนือ แม้จะมีแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่น แต่มีศูนย์การค้าเพียงไม่กี่แห่ง เช่น

  • โซนลาดพร้าว มียูเนี่ยนมอลล์
  • โซนพหลโยธิน มีเซ็นทรัล ลาดพร้าว
  • เลยขึ้นไป โซนรัชโยธิน มีเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน

ขณะที่ กำลังซื้อคนกรุงเทพฯ โซนเหนือ ถือว่าสูงกว่าหลายโซนในกรุงเทพฯ สะท้อนจากตัวยอดขายของ ‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว’ ดังนี้

  • กำลังซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ถึง 2.3 เท่า จากลูกค้ากลุ่ม Wealth Segment สูง
  • ยอดขายต่อพื้นที่ (Sales per GLA) สูงกว่าค่าเฉลี่ยศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ ถึง 45%
  • จํานวนผู้ใช้บริการ (ทราฟฟิก) มากกว่าศูนย์การค้าในกรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยถึง 2.19 เท่า

ด้วยช่องว่างของกำลังซื้อที่ยังมีเหลือ ๆ ทำให้การนำ ‘The Central พหลโยธิน‘ ไปเติมตลาดจะช่วยเสริมขาศูนย์การค้ากรุงเทพฯ โซนเหนือของ CPN ให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยลูกค้าจะข้ามไปมาระหว่าง 2 ศูนย์ฯ ทำให้    ประเมินทราฟฟิกอยู่ที่ 130,000 คน/วัน ทั้ง 2 ศูนย์ฯ 

และเมื่อเชื่อม 2 ศูนย์การค้า (อยู่ระหว่างศึกษาทำสกายวอล์ก 300 เมตร) จะมีขนาดใหญ่เทียบเท่า ‘เซ็นทรัล เวิลด์’

เซ็นทรัล ลาดพร้าว

The Central พหลโยธิน ไม่ได้ชนกับ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตรง ๆ

ถึงจะอยู่ใกล้ แต่ คอนเซ็ปต์และฟังก์ชันคนละแบบ

  • เซ็นทรัล ลาดพร้าว เน้นแบรนด์แฟชั่น, ร้านอาหาร, โรงแรม พูดง่าย ๆ คือ โฟกัส ช้อป กิน เที่ยว
  • The Central พหลโยธิน วางตัวเป็นพื้นที่แห่งอนาคตให้คนได้มาใช้ชีวิต โดยเลือกใส่กิจกรรมหลากหลาย อาทิ สวนสีเขียว สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และมีโซนสำหรับออกกำลังกายวิ่งเทลล์ด้วย

ยุทธศาสตร์ป้องกันความเสี่ยงเรื่องที่ดิน

‘เซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนที่ดินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หมดสัญญาในปลายปี 2571 นี้      แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการต่อสัญญา

ดังนั้น การตั้ง ‘The Central พหลโยธิน’ บนที่ดินของตนเอง ถูกมองเป็นแผนสำรอง กรณีในกรณีเลวร้ายที่สุด (worst case scenario) ที่ ‘อาจจะ’ ไม่ได้ต่อสัญญาเช่าที่ดินเซ็นทรัล ลาดพร้าว

การมี The Central พหลโยธิน ในทำเลใกล้เคียงเดิม จะทำให้ไม่เสียรายได้จากศูนย์การค้าเรือธง

แต่หาก “การต่อสัญญาที่ดิน” ราบรื่น CPN ก็มี 2 ศูนย์การค้าไว้ส่งเสริมกันให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่า ไม่ว่าทางไหน หมากเกมนี้ CPN ก็ชนะทุกทางอยู่ดี

]]>
1542138
CPN ลุยเปิดแฟล็กชิปโรงแรม “GO Hotel กรุงเทพ สุวรรณภูมิ” แผน 5 ปี จ่อขยาย 25 แห่ง https://positioningmag.com/1537602 Wed, 10 Sep 2025 06:00:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1537602 “ภูมิ จิราธิวัฒน์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงาน Hotel Business บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จํากัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจโรงแรมและ GO!Hotel กล่าวว่า GO!Hotel เป็น Budget Hotel ราคาประหยัด เจาะผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความสะดวกสบายและความคุ้มค่า

โดยกลยุทธ์สำคัญ คือ เลือกปักหมุดสร้างโรงแรมบนทำเลศักยภาพ และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งยังเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์นักเดินทาง ทั้งผู้ที่มาทำธุรกิจและเดินทางมาท่องเที่ยว สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Retail-Led Mixed-Use Development ของ CPN 

GO!Hotel กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต

ดังนั้น ในปลายปี 2568 นี้ CPN เปิดตัว GO!Hotel กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต จำนวน 179 ห้อง ขนาดห้องอยู่ที่ 18-34 ตารางเมตร ถือเป็นโรงแรมแห่งที่ 5 และเป็นแฟล็กชิปแห่งแรกของแบรนด์

“ทำเลสุวรรณภูมิถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และเชื่อมต่อไปยัง EEC รองรับนักเดินทางทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มเที่ยว กลุ่มทำงาน และกลุ่มที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง”

“ภูมิ จิราธิวัฒน์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงาน Hotel Business บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จํากัด (มหาชน)


จากก่อนหน้านี้ มีโรงแรม 4 แห่ง จำนวน 316 ห้อง ได้แก่
GO!Hotel บ่อวิน, GO!Hotel ชลบุรี, GO!Hotel ศรีราชา ในจังหวัดชลบุรี และ GO!Hotel บ้านฉาง จังหวัดระยอง

นอกจากนี้ แผนระยะ 5 ปี ของ Go!Hotel คือการขยายโรงแรมไปทั่วประเทศตามการเติบโตของห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล และวางเป้าใหญ่เตรียมเพิ่มสาขาไปจนครบ 25 แห่งทั่วประเทศ รวมห้องพัก 1,500 ห้อง

ตัวอย่างห้องพักใน GO!Hotel กรุงเทพ สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต
]]>
1537602
สรุป “เซ็นทรัล พาร์ค” ศูนย์การค้าใหม่ติดสวนลุมฯ เดินง่าย + ของกินเยอะ https://positioningmag.com/1536840 Thu, 04 Sep 2025 12:03:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1536840 “เซ็นทรัล พาร์ค” เปิดวันนี้ (4 ก.ย. 68) วันแรก ภาพรวมเป็นศูนย์การค้าเดินง่าย โดยมีการแบ่งโซนในแต่ละชั้นชัดเจน

สรุปแบบเร็ว ๆ จะมีทั้งหมด 7 ชั้น ดังนี้

ชั้น LG : Parkside Market

เน้นโซนอาหารสตรีทฟู้ดเป็นหลัก และมีร้านมิชลินด้วย อาทิ เบญจรงค์ปาย, ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกคุณประนอม, ขาหมูโบราณกระทู้ ภูเก็ต, นายอ้วนเย็นตาโฟบะเต็งเสาชิงช้า, ราดหน้ายอดผักสูตร 40ปี (ศาลเจ้าพ่อเสือ), ข้าวมันไก่โกยี

ชั้น G : Parkside Food Hall

รวมร้านอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ชื่อดัง อาทิ ทองสมิทธิ์, ฟ้าประทาน, Souri, Yole, Chadee รวมถึงร้านใหม่ ๆ อย่าง Downtown by Fran’s ของเครือ iberry Group เป็นต้น รวมถึง Top Food Hall ก็อยู่ชั้นนี้ด้วยเช่นกัน

ชั้น 1 About Fashion สินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ นาฬิกา อาทิ YSL, TORY BURCH, ยูนิโคล่ (เปิดเดือน ต.ค.), BOYY

ชั้น 2 Fashion Playglound แฟชั่น อาร์ตทอย น้ำหอม เครื่องสำอาง อาทิ Popmart, Zara, Cross, Sephora, Lacoste

ชั้น 3 Active Energy โซนสปอร์ต และ แฟชั่น เช่น Adidas, Nike, Onitsuka, New Balance, Beautrium

ชั้น 4 Gadgets & Services สินค้าไอที ธนาคารต่าง ๆ และ โซนความงาม อาทิ True, AIS, Asiabooks, Banana

ชั้น 5 Parkside Eatery ร้านพรีเมียม ร้านอาหารเปิดใหม่ และร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ เช่น Hikiniku to come, Kiwamiya, MAGURO Kappou, Katsu midori shushi, แก้ว Boutique, fastfoot, Saemaeul

ชั้น 6 The Glasshouse ร้านอาหารดาดฟ้าวิวพาโนรามา พร้อมเชื่อมต่อกับสวนลอยฟ้า สวนดุสิตอรุณ ได้ด้วย

POP MART สาขาเซ็นทรัล พาร์ค

“อาหาร” = จุดดึงทราฟฟิกที่ทรงพลังที่สุด

ปกติศูนย์การค้าโซนกลางเมือง มักเน้นไปที่แฟชั่น ลักชัวรี หรือไลฟ์สไตล์วาไรตี้ แต่ “เซ็นทรัล พาร์ค” ชูเรื่องร้านอาหารมากกว่า โดยรวมร้านหลายสไตล์ตั้งแต่ร้านดังคนต่อคิวยาว ร้านสตรีทฟู้ด และร้านที่ได้ดาวมิชลิน สร้างแรงดึงดูดได้อย่างมหาศาล

ซึ่งรอบโครงการเต็มไปด้วย นักท่องเที่ยว, expat, พนักงานออฟฟิศ กลุ่มนี้มีทั้งสายกินด่วน (Street food, Grab & Go) และสายดินเนอร์หรู (Michelin, fine dining) การเน้นอาหารหลายเซ็กเมนต์จึงครอบคลุมลูกค้าหลากหลายกำลังซื้อ

ร้านมิชลินสตาร์

ประกอบกับเทรนด์ Culinary Tourism ทำให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ มักเลือก “กินอะไร” เป็นอันดับแรกในการเที่ยว ซึ่งกรุงเทพฯ เองก็ติดอันดับ เมืองที่มีสตรีทฟู้ดดีที่สุดในโลก

ดังนั้น CPN จึงยก Bangkok’s Global Dining Stage เป็น positioning ของ เซ็นทรัล พาร์ค เพื่อให้ห้างนี้กลายเป็น Landmark ด้านอาหารในเอเชีย (ไม่ใช่แค่ในไทย แต่มองภาพใหญ่ไปถึงภูมิภาค)

เซ็นทรัล พาร์ค กรุงเทพ

วางเกมโตระยะยาว

CPN เคยให้ข้อมูลว่า เซ็นทรัล พาร์ค จะมีขนาดเทียบเท่า เซ็นทรัล แอมบาสซี แตกต่างตรงที่ เซ็นทรัลแอมบาสซีวาไรตี้ และแบรนด์แฟชั่นลักชัวรี ส่วนเซ็นทรัลพาร์ค แบรนด์แฟชั่นจะไม่ถึงขนาดลักชัวรี แต่มีร้านอาหารมากกว่าถึง 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม แม้ค่าเช่าร้านอาหาร จะไม่สูงเท่าลักชัวรีแบรนด์ แต่อัตราการหมุนเวียนลูกค้าสูงกว่ามาก

เมื่อลูกค้ากลับมาซ้ำบ่อย ๆ เท่ากับ การันตี traffic และรายได้ต่อเนื่อง ทำให้โมเดลของ Central Park มั่นคงมากกว่าการพึ่งพาแฟชั่นอย่างเดียวนั่นเอง และเป็นการสร้างความแตกต่าง ให้ “เซ็นทรัล พาร์ค” แข็งแกร่ง และสู้ได้ในสมรภูมิศูนย์การค้าพระรามสี่ที่มีคู่แข่งมากหน้าหลายตา!

]]>
1536840
ไขรหัสความแกรม “เซ็นทรัลพัฒนา” กับการผนึกกำลังครั้งใหญ่กับ Fazaa Card เจาะกลุ่มเศรษฐี UAE เที่ยวไทย ขึ้นแท่นศูนย์การค้าแรกและหนึ่งเดียวในเอเชีย! https://positioningmag.com/1533211 Mon, 11 Aug 2025 09:48:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1533211

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโต ถึงแม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ประเทศไทยอาจจะเจอหลายวิกฤตการณ์ อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลงไปบ้างในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้วประเทศไทยก็ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ดี

ในอดีตประเทศไทยให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวชาวจีนค่อนข้างมากเพราะเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้าไทยเป็นอันดับหนึ่งมีทั้งกลุ่มทัวร์และ FIT ที่เดินทางด้วยตัวเองจะมีกำลังซื้อมากกว่ากลุ่มทัวร์แต่ในช่วงหลายปีมานี้นักท่องเที่ยวศักยภาพกลุ่มอื่นๆทะยอยตบเท้าเข้าไทยเรื่อยๆทั้งรัสเซียอินเดียมาเลเซียยุโรปสหรัฐอเมริการวมไปถึงกลุ่มที่น่าสนใจที่สุดคือกลุ่มตะวันออกกลาง

กลุ่มตะวันออกกลางเป็นที่คุ้ยเคยกันดีกับฉายา“เศรษฐีบ่อน้ำมัน” เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีอัตราการอยู่ยาวกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งแต่เดิมกลุ่มตะวันออกกลางมีการเดินทางเข้ามาใช้บริการสถานบริบาล หรือโรงพยาบาลในไทยอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้เองทำให้ “เซ็นทรัลพัฒนา” เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางล่าสุดได้ประกาศประกาศความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับ Fazaa Card โครงการ CRM ระดับชาติที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นบัตรสมาชิกระดับพรีเมียมที่ก่อตั้งโดยกระทรวงมหาดไทย UAE โดยสมาชิกของบัตรนี้จะเป็นบุคลากรและข้าราชการระดับสูงของ UAE รวมถึงนักลงทุนนักธุรกิจชั้นนำการจะเป็นสมาชิกบัตรนี้ได้จะต้องได้รับคำเชิญเท่านั้นบุคคลทั่วไปไม่สามารถเป็นได้ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1.5 ล้านราย

ก่อนหน้านี้เซ็นทรัลพัฒนาเคยจับมือกับ ESAAD มาแล้วแต่เป็นกลุ่มตำรวจของ UAE มีความเฉพาะกลุ่มกว่าโดยความแข็งแกร่งของ Fazaa Card คือกลุ่มสมาชิกมีฐานกำลังซื้อสูงมีความเป็นไลฟ์สไตล์และมีแอปพลิเคชั่นในการ Offer สิทธิพิเศษมากมาย

เรียกได้ว่าการร่วมมือกันครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังของยักษ์ใหญ่ 2 เจ้ามาจับมือกันโดยนับเป็น“ศูนย์การค้าแรกและหนึ่งเดียวในเอเชีย” ที่สามารถร่วมมือในระดับ Ecosystem กับพันธมิตรระดับชาติของ UAE เป็นการ“เจาะไข่แดงคนรวย” ของ UAE ในการดึงมาเที่ยวไทยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

ความร่วมมือนี้ได้ดีไซน์สิทธิพิเศษที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลวิลเลจ และเซ็นทรัลภูเก็ตซึ่งเป็น Top Tourist Destination ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวและพร้อมขยายความร่วมมือไปทั่วประเทศในอนาคตสะท้อนกลยุทธ์ความสำเร็จของเซ็นทรัลพัฒนาในการเป็น Global Elite Destination

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า

“กลุ่มนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงและมีศักยภาพสำหรับการท่องเที่ยวไทย โดยในปี 2568 พบนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้สามารถสร้างเงินสะพัดจากการใช้จ่ายโดยค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงถึง 90,000 – 100,000 บาท ซึ่งความร่วมมือกับFazaa Card นี้เป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามองของวงการค้าปลีกไทยเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของประเทศและสะท้อนความสำเร็จของเซ็นทรัลพัฒนาในการเข้าถึง Ecosystem กลุ่มลูกค้าต่างชาติระดับไฮเอนด์ทั่วโลกสอดคล้องกับนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่เน้นกลุ่ม Quality Shopper โดยกลุ่มสมาชิกหลักของบัตรนี้ครอบคลุมบุคลากรและข้าราชการระดับสูงของภาครัฐ, นักลงทุน, ผู้ได้รับสิทธิพิเศษจากบัตร Golden Visa และกลุ่มกำลังซื้อสูงโดยมี 3 กลยุทธ์ขับเคลื่อนความร่วมมือได้แก่ 


1.Strategic Alliance with a National-Level CRM

สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับFazaa Card บัตรสมาชิกระดับพรีเมียมจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ทรงพลังด้วยสิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 7,200 แบรนด์ครอบคลุม 92 ประเทศทั่วโลกนับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่เจาะตรงถึงกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงจากตะวันออกกลางโดยตรงที่มีไลฟ์สไตล์พรีเมียมและนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ การเป็นพันธมิตรครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายระดับบนได้อย่างแม่นยำ แต่ยังตอกย้ำ Positioning ของเซ็นทรัลพัฒนา ในการเป็น Global Elite Destination’ และยังสามารถใช้ประโยชน์จากระบบฐานข้อมูลและแพลตฟอร์ม CRM ที่ทรงพลังของ Fazaa ในการออกแบบแคมเปญร่วมกันเพื่อผลักดันการใช้จ่ายจริงและส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ไทยในระดับสากลได้อย่างตรงจุด


2.Curated Experience for High-Spending Tourists

รุกตลาดนักท่องเที่ยวพรีเมียมจากตะวันออกกลางอย่างเต็มรูปแบบด้วยการออกแบบสิทธิประโยชน์เฉพาะสำหรับสมาชิก Fazaa Card เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าครอบคลุมทุกมิติโดยได้ปักหมุดนำร่องใน 3 ศูนย์การค้าเมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ครองใจนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้แก่เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลวิลเลจ และเซ็นทรัลภูเก็ตจากข้อมูลพบกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูงสุดเฉลี่ย 104,138 บาท/ทริปและนิยมพักผ่อนระยะยาว 10-12 วันโดยมุ่งตอบโจทย์กิจกรรมยอดนิยมของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไปโดยกิจกรรมยอดนิยม 3 อันดับแรกคือช้อปปิ้ง, ท่องเที่ยวชายทะเลและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-การแพทย์โดยจังหวัดที่เป็น Top destination ของกลุ่มนี้คือกรุงเทพฯภูเก็ตชลบุรี (พัทยา)

โดยสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก Fazaaได้แก่ Welcome Package รวมส่วนลดสูงสุดถึง 40% จากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์ฯ, Exclusive Lounge Access ที่เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลวิลเลจ, บัตรเข้าชม Aquaria Phuket ที่เซ็นทรัลภูเก็ต, Shuttle Bus Pass จากเซ็นทรัลเวิลด์สู่เซ็นทรัลวิลเลจและจากเซ็นทรัลวิลเลจไปสนามบินสุวรรณภูมิ, รับฟรี Gift และส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์ Erb, Divana Signature Café, และKarmakamet


3.Expanding Global Partnerships for Thailand’s Tourism Economy

สร้าง ‘Ecosystem การท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ’ โดยเชื่อมโยงพันธมิตรชั้นนำของโลกเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็น WeChat Pay, Alipay, MasterCard, Trip.com, Klook, The Shilla, Lotte Duty Free และ Daimaru สะท้อนความสำเร็จด้าน      กลยุทธ์ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายคือการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไทยและยกระดับบทบาทของศูนย์การค้าไทยเป็น‘จุดหมายแรกและจุดหมายเดียว’ ที่ต้องมาเยือน

นอกจากนี้ในปี 2024 ที่ผ่านมาเซ็นทรัลเวิลด์ยังได้รับรางวัลระดับนานาชาติ 2 รางวัลจากเวที International Business Magazine Awards ณ เมืองดูไบได้แก่รางวัล‘Mall of The Year APAC 2024’ และรางวัล‘Most Family Friendly Store APAC 2024’  สะท้อนศักยภาพของเซ็นทรัลเวิลด์ ในฐานะศูนย์การค้าระดับโลกที่ตอบโจทย์ทั้งประสบการณ์ช้อปปิ้งและการเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างแท้จริง

ติดตามความเคลื่อนไหวของเซ็นทรัลพัฒนาคลิก https://www.centralpattana.co.th

]]>
1533211
“เซ็นทรัล” ลุยคอนโด-บ้านหรูกระบี่ครั้งแรก เจาะเศรษฐีท้องถิ่น https://positioningmag.com/1523728 Wed, 28 May 2025 12:56:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1523728 วัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กล่าวว่า ธุรกิจที่อยู่อาศัย เป็นอีกหนึ่งน่านน้ำรายได้สำคัญเป็นอันดับ 2 ของบริษัทฯ รองจากธุรกิจหลักอย่างศูนย์การค้าเท่านั้น

ตลอด 10 ปีนี้ สร้างการเติบโตระดับ Double Digit (ตัวเลข 2 หลัก) และเตรียมขึ้นแท่น Top 10 แบรนด์อสังหาที่ทำรายได้ที่อยู่อาศัยสูงสุดของไทย

เบื้องต้น แผนการดำเนินงานธุรกิจที่อยู่อาศัย ระยะ 5 ปี CPN ได้ลงทุนรวม 12,000 ล้านบาท คิดเป็น 10% จากงบลงทุนใหญ่ของทั้งกลุ่ม CPN ที่อยู่ราว 120,000 ล้านบาท

โดยปี 2568 เตรียมเปิดโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวม 16,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ภูเก็ต และกระบี่

เซ็นทรัล CPN
วัลยา จิราธิวัฒน์

โครงการไฮไลต์ คือ ทำเลกระบี่ ที่เตรียมเปิด 2 โครงการที่อยู่อาศัย เกาะไปกับศูนย์การค้าแห่งใหม่เซ็นทรัล กระบี่ ได้แก่

  • บ้านเดี่ยวแบรนด์ BAAN NINYA ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท/ยูนิต และรูปแบบพูลวิลล่า ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท/ยูนิต
  • คอนโดมิเนียมแบรนด์ PHYLL ราคาเฉลี่ย 1 แสนบาท/ตร.ม. ห้องขนาดเล็กสุดเริ่มต้น 4 ล้านบาท/ยูนิต

”ที่อยู่อาศัย 2 โครงการอยู่ใกล้กับเซ็นทรัล กระบี่ และนับเป็นมิกซ์ยูสแห่งที่ 3 ที่มีการนำ ‘บ้านแนวราบ’ เปิดตัวพร้อมศูนย์การค้า จากก่อนหน้านี้เคยทำโมเดลนี้ที่นครปฐม และพิษณุโลก”

คอนโด CPN กระบี่
โครงการ PHYLL กระบี่

ทั้งนี้ CPN จะเจาะกลุ่มลูกค้า Super Premium กำลังซื้อสูงในกระบี่ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • กลุ่มคหบดี (ผู้มีฐานะ) / เศรษฐีท้องถิ่น ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุน
  • กลุ่มนักท่องเที่ยววัยเกษียณ ต้องการที่พักอาศัย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกอย่างศูนย์การค้า และสามารถเดินทางไปชายหาดได้ใน 15-20 นาที
  • กลุ่ม Digital Nomad ผู้ทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลก

“ตอนนี้กระบี่ขึ้นแท่นเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้งานในภาคบริการขยายตัวสูง ส่งผลให้มีคนหลั่งไหลเข้ามาทำงานในพื้นที่ หนุนดีมานด์ที่อยู่อาศัยในกระบี่”

ปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีที่ดินในกระบี่มากกว่า 100 ไร่ สำหรับรองรับการพัฒนาในอนาคตได้อีก 7-8 ปี หากดีมานด์ขยายตัว

CPN เซ็นทรัล ผู้บริหาร
ร.อ.กรี เดชชัย

ร.อ.กรี เดชชัย President, Residential Business บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทฯ วางเป้ายอดขาย 7,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี Backlog ในมือรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 2,000 ล้านบาท และในปี 2569 อีก 3,000 ล้านบาท

“ตอนนี้ยอมรับตลาดแนวราบการแข่งขันสูงมาก ผู้ประกอบการทยอยระบายสต๊อกกัน ทำให้มีการแข่งขันราคาสูง ส่วน CPN มีแนวราบน้อย ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมากกว่า”

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีคอนโดเป็นตัวชูโรง ด้วยกลยุทธ์ด้านทำเลที่อยู่ติดศูนย์การค้าจึงได้รับความนิยมสูง อาทิ ESCENT อุบลราชธานี ทำยอดขายได้กว่า 80% แม้เปิดมา 5 เดือน

ขณะที่คอนโดในภูเก็ตเตรียมเปิดโครงการ PHYLL Phuket 2 เพิ่ม หลังจากปิดการขายโครงการแรกหมด และโครงการทำยีลด์เช่าสูง 7-8% จากคอนโดห้องเริ่มต้น 28 ตร.ม.  ราคา 2.3 ล้านบาท ปล่อยเช่าได้ 20,000 บาท/เดือน

“ปีนี้ธุรกิจอสังหากลุ่มราคาที่พอไปได้ คือ 5-10 ล้านบาท และราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป“

]]>
1523728
เซ็นทรัล ลงทุน 5 ปี 1.2 แสนล้านบาท ลุยเปิดตัวเมกะโปรเจกต์ศูนย์การค้าใหม่ https://positioningmag.com/1515546 Thu, 20 Mar 2025 09:28:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1515546 เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) วางงบลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2568 – 2572) มูลค่า 120,000 ล้านบาท ทั้งโครงการ Mega Projects และโครงการใหม่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่จะทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง

โครงการไฮไลต์ที่เตรียมเปิดตัว หลัก ๆ มี 5 โครงการ มีไทม์ไลน์เปิดตัว ดังนี้

  • The Central พหลโยธิน (เดอะ เซ็นทรัล) เปิด Q4/2569 ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 49 ไร่ มีพื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 460,000 ตร.ม. เติบโตคู่กับเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งส่วนของศูนย์การค้าเป็นเพียง การลงทุนเฟส 1 ที่มีมูลค่าราว ๆ 17,000-20,000 ล้านบาท เท่านั้น

  • Central Park (เซ็นทรัล พาร์ค) เปิดเดือน ส.ค. 2568 เป็นศูนย์การค้าระดับ Masterpiece ใจกลางกรุงเทพฯ บนที่ดิน 23 ไร่ พื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 130,000 ตร.ม. ขณะนี้แบรนด์ระดับโลกเตรียมเปิดแล้วเกือบเต็มพื้นที่ รวมกว่า 230 แบรนด์ ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดตัว Central Park Offices ตั้งเป้าอัตราการเช่า (Occupancy Rate) 80%

  • Central Northville (เซ็นทรัล นอร์ธวิลล์) เปิดไตรมาส 2 ปี 2569 เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ในนนทบุรี บนพื้นที่เดิมของเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ด้วยที่ดินถึง 59 ไร่ และมีพื้นที่ศูนย์การค้า(GBA) 210,000 ตร.ม.

  • Central KhonkaenCampus (เซ็นทรัล ขอนแก่น แคมปัส) เปิดไตรมาส 2 ปี 2569 ถือเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลแห่งที่ 2 ของขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง ทำเลศักยภาพสูงบนย่านการศึกษาและโรงพยาบาลสำคัญของเมืองบนพื้นที่ 30 ไร่ มีพื้นที่ศูนย์การค้า (GBA) 67,000 ตร.ม. และมีแผนพัฒนาคอนโดรูปแบบใหม่ และ GO! Hotel แห่งแรกของอีสาน

  • Central Krabi (เซ็นทรัล กระบี่) เปิดเดือน ต.ค. 2568 เป็นศูนย์การค้าต้นแบบด้าน Sustainable & Mindful Travel ควบคู่ไปกับเมือง และคาดมีส่วนผลักดันด้านการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ เปิดศูนย์การค้าใหม่แล้ว เซ็นทรัล วางงบประมาณราว 10,000 ล้านบาท จะใช้ในการปรับปรุงศูนย์การค้าเดิมในโลเคชั่นสำคัญ เพื่อดึงกลุ่มกำลังซื้อสูง ผ่านการเพิ่มแม็กเนต ทั้ง Fashion, Food Hub, Family & Edutainment อาทิ

  • Central Pinklao (เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า) เปิด Q3 ปี 2568 เน้นการดึงอินเตอร์แบรนด์เพิ่มขึ้น ตอบรับผู้บริโภคย่านธนบุรี ที่ประชากรเติบโต และมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

  • Chaengwattana (เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ) เปิด Q4 ปี 2568 ย่านนี้เติบโตมีกลุ่มครอบครัวกำลังซื้อสูงขยายตัว จากการเข้ามาของ รร.นานาชาติ และกลุ่ม Expat จึงเน้นเพิ่มในส่วนของ Family & Edutainment

  • Central Bangna (เซ็นทรัล บางนา) เปิด Q3 ปี 2569 โดยบางนา เป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับลักซูรีกำลังซื้อสูง จึงได้ตัดสินใจปรับ Master Planning ขยายพื้นที่โครงการมิกซ์ยูสบนพื้นที่ 50 ไร่ เป็น Total Transformation ในรอบ 30 ปี

ส่งผลให้ภายในสิ้นปี 2568 เซ็นทรัลจะมีโครงการทั้งสิ้น 135 โครงการจากทุกธุรกิจ และจากจำนวนนี้เป็นโครงการมิกซ์ยูสรวมทั้งสิ้น 30 โครงการจากทั้งหมด 44 ทำเล และประเมินว่า ภายใน 5 ปี จะมีโครงการมิกซ์ยูสเพิ่มเป็น 37 โครงการ

ทั้งนี้ เซ็นทรัลทำทราฟฟิกคนเข้าศูนย์การค้าสูงถึง 500 ล้าน Visits ต่อปี และมีนักท่องเที่ยวมาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลถึง 67 ล้าน Visits ต่อปี

ส่งผลให้ผลประกอบเซ็นทรัล ปี 2567 ทำ All Time High รายได้รวม 51,843 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16,729 ล้านบาท จากนี้ไปอีก 5 ปี ตั้งเป้ารายได้โต 10% ต่อปี

]]>
1515546
เซ็นทรัล สวนกระแสเศรษฐกิจ ทุบสถิติ All-Time High รายได้กำไรปี 67 https://positioningmag.com/1513096 Mon, 03 Mar 2025 03:54:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513096 ปี 2567 แม้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายน้อยลง แต่นั่นไม่ส่งผลกระทบต่อยักษ์ค้าปลีกไทยอย่าง “เซ็นทรัล” ภายใต้การบริหารของ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)

ที่สวนกระแส ทำตัวเลขงบปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ All-Time High

  • รายได้รวม 51,843 ล้านบาท เติบโต 11% (YoY)
  • กำไรสุทธิ 16,729 ล้านบาท เติบโต 11% (YoY)

เบื้องต้น เตรียมสร้างผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงถึง 15% รวมทั้งประกาศจ่ายปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.1 บาทต่อหุ้น (จ่อนำเสนอและรออนุมัติจากผู้ถือหุ้น)

ปัจจัยการเติบโตมาจาก 4 ธุรกิจในมือ ดังนี้

1. ธุรกิจรีเทล บริหารศูนย์การค้ารวม 42 แห่ง และคอมมูนิตี้มอลล์ 15 แห่ง พื้นที่เช่ารวม 2.3 ล้านตร.ม. ปัจจุบันมีอัตราการเช่า (OCC Rate) 91%

  • มีผู้คนมาใช้บริการที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศกว่า 500 ล้านครั้งต่อปี
  • กลุ่มนักท่องเที่ยว มาเยือนกว่า 67 ล้านครั้งต่อปี อาทิ ชาวจีน รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย มาเลเซีย

2. ธุรกิจที่อยู่อาศัย มีโครงการอยู่ระหว่างขาย และโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 30 โครงการ (คอนโด 16 แห่ง และแนวราบ 14 แห่ง)

  • คอนโดมิเนียมติดศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้รับความนิยมสูง ทั้งเอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และเอสเซ็นท์ นครปฐม ขายหมดอย่างรวดเร็วนับเป็นการเติบโตท่ามกลางความท้าทายสวนทางภาพรวมตลาดวงการอสังหาฯ

3. ธุรกิจโรงแรม บริหารรวม 10 โรงแรม จำนวน 1,681 ห้อง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี (OCC Rate) 70%

  • Hilton Pattaya ทำอัตราค่าห้องพัก รายได้เฉลี่ยต่อห้อง และรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
  • โรงแรมเซ็นทารา โคราช, อยุธยา, อุดร, อุบล ล้วนมี Performance ดีเยี่ยม
  • การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุด Hilton Garden Inn Rayong บนทำเลศักยภาพติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด

4. ธุรกิจอาคารสำนักงาน (ออฟฟิศ) มีทั้งหมด 10 อาคาร คิดเป็นพื้นที่เช่า 314,654 ตร.ม. ทำ Occupancy Rate 90% (ณ สิ้นปี 2567) สวนทางตลาดที่กำลังซบเซา

  • ออฟฟิศติดศูนย์การค้า ตอบโจทย์การใช้ชีวิตครบวงจรที่ดีที่สุด ทั้ง 10 แห่งรอบกรุงเทพฯ
  • centralwOrld Offices ใจกลางเมืองได้รับความนิยมสูง
]]>
1513096
“เซ็นทรัลพัฒนา” ยกระดับการเป็น Place Maker ขยายบทบาทสู่ Holistic Partnership เปิดโปรแกรม The 1 BIZ ให้ผู้เช่าเชื่อมต่อ The 1 แพลตฟอร์ม CRM ที่มีฐานสมาชิกลูกค้าใหญ่สุดในไทย 20 ล้านรายได้ทันที https://positioningmag.com/1466398 Fri, 15 Mar 2024 12:48:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466398

ขึ้นชื่อว่า “เซ็นทรัลพัฒนา” ย่อมไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่เดิมที่เป็นผู้นำในฐานะ Retail Developer อันดับ 1 ในไทย แต่ตอนนี้ได้ยกระดับมากกว่าการเป็น Place Maker ไปอีกขั้นกับการขยายบทบาทสู่ Holistic Partnership จับมือช่วยปั้นธุรกิจให้กับผู้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลในทุกมิติ ด้วยการคลอดโปรแกรม The 1 BIZ ที่มีการจับมือร่วมกับ The 1 แพลตฟอร์มที่มีฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดในไทย ในการสร้าง CRM แพลตฟอร์มพร้อมใช้ ให้ร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล สามารถเข้าถึงฐานสมาชิกลูกค้ากว่า 20 ล้านรายของ The 1 ที่ใช้เวลาสะสมมานานกว่า 20 ปี ได้ทันที เพื่อช่วยยกระดับการเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น

ซึ่งแต่เดิม The 1 เป็นโปรแกรม CRM ที่รองรับธุรกิจในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, เพาเวอร์บาย, B2S, ไทวัสดุ และอื่นๆ

แต่วันนี้บทบาทของเซ็นทรัลพัฒนาพร้อมเปิดตัวโปรแกรม The 1 BIZ ที่ได้ขยายความพิเศษของ The 1 สู่กลุ่มร้านค้าผู้เช่าของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เรียกได้ว่าปกติเซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้พัฒนาในด้านฮาร์ดแวร์ สร้างตึก พัฒนาโครงการ แต่ตอนนี้ได้ขยายการพัฒนาในด้านซอฟท์แวร์ที่พร้อมสนับสนุนผู้เช่าที่เป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ช่วยทำให้อีโคซิสเท็มแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

โปรแกรม The 1 BIZ ได้เริ่มเปิดตัวมาได้ประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว ความพิเศษก็คือร้านค้าสามารถเชื่อมต่อกับ CRM แพลตฟอร์มพร้อมใช้ ที่มีฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดกว่า 20 ล้านคนได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาพัฒนาเอง ไม่ต้องเสียเวลาเก็บข้อมูลใหม่ ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า เพิ่มฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย รวมถึงการเข้าถึงลูกค้าได้ถูกช่องทาง เพื่อใช้งบทางการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งผ่าน Social Media และ Own Channel ของเซ็นทรัลเอง อย่าง The 1 Application

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ร้านค้าจะได้รับก็คือ ได้อินไซต์ข้อมูลของลูกค้าที่สามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจได้ เป็นข้อมูลเชิงลึกถึงพฤติกรรมการซื้อ (Purchasing Behavior) ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ความสนใจของลูกค้าแบบผิวเผิน รวมถึงได้ข้อมูลเชิงกว้างกว่า ถ้าร้านค้าพัฒนาระบบ CRM ของตัวเอง ก็จะเห็นข้อมูลแค่ร้านค้าของตนเองแค่อย่างเดียว แต่ The 1 BIZ ช่วยให้ร้านค้าเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคได้แบบ 360 องศา จากพันธมิตรร้านค้ากว่า 800 แบรนด์ ครบคลุมทุกอุตสาหกรรมกว่า 10 ล้าน SKUs

โดยข้อมูลที่ได้มานั้น จะนำมาวิเคราะห์อย่างแม่นยำผ่าน Data Analyst ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง แม่นยำที่สุด ตั้งแต่วิเคราะห์ปัญหาทางธุรกิจได้อย่างถูกจุด เพื่อเข้าถึงโอกาสของลูกค้า สามารถเพิ่มยอดขายจากการเข้าใจลูกค้าแบบ 360 องศา เพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Basket size ลูกค้าได้จากการเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ครบแบบครบทุกมิติ รวมถึงเห็นโอกาสในการเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า

“สิ่งที่เซ็นทรัลพัฒนาทำได้สะท้อน Brand Purpose ที่ชัดเจน ซึ่งเราทำอย่างต่อเนื่องด้วยบทบาทของ Place Maker ตอนนี้ เราไม่ได้การปรับตัวทางธุรกิจตามเทรนด์เท่านั้น เพราะเราต้องตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคอยู่ตลอด ดังนั้นการเติบโตของเซ็นทรัลพัฒนา เรามองในภาพ Beyond Retail และมองไปถึงอีโคซิสเท็มทั้งระบบ เราไม่ได้สร้างแค่ศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่ได้ขยายจุดแข็งที่เราเก่งในด้านค้าปลีกไปพัฒนาอสังหาฯ อื่นๆ ทั้งที่อยู่อาศัย, โรงแรม และออฟฟิศด้วย

แต่อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เป็นหัวใจของทั้งเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่เชื่อมทุกอย่างในระบบ นั่นก็คือ The 1 วันนี้เซ็นทรัลพัฒนาได้พูดถึงครบทุกมิติทั้ง B2C และ B2B การให้ผู้เช่าเข้าถึงโปรแกรม The 1 ได้ จะช่วยสร้างการเติบโตแบบติดสปีดได้อีก”

นายอิศเรศ กล่าวเสริมอีกว่า “โปรแกรม The 1 BIZ จะช่วยตอบโจทย์ทั้งในแง่ของลูกค้า และผู้ประกอบการได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ  ในมุมลูกค้านั้น การสะสมแต้ม การแลกแต้มจะได้สิทธิประโยชน์ ได้ส่วนลดเพิ่มขึ้น จากพันธมิตรร้านค้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมสนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในมุมของร้านค้า The 1 เป็นแพลตฟอร์มที่สตรองมาก และพร้อมใช้งานได้ทันที เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ Ready to Use และช่วยให้ธุรกิจ Ready to Scale สามารถเข้าถึงลูกค้า 20 ล้านคนได้ทันที พร้อมกับข้อมูลในมือที่นำไปต่อยอดวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ” 

ร้านค้าผู้เช่าภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกร้าน สามารถเข้าร่วมโปรแกรมได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านแฟชั่น ร้านไอที และอื่นๆ อีกมากมาย หลังจากที่นำร่องโปรแกรม The 1 BIZ มาแล้ว มีบทพิสูจน์ความสำเร็จที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ร้านค้าผู้เช่ามากมาย

– จำนวนลูกค้าที่มาสะสม-แลกคะแนน The 1 ที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นถึง 382% ต่อปี

– ยอดขายของร้านเค้าที่เข้าร่วมโครงการ เติบโตมากกว่าถึง 10% (เทียบกับร้านที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ)

– ลูกค้าเข้ามาใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า (ในช่วงเวลาที่มีแคมเปญ)

– จำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นถึง 300% ใน 3 ปี

ความสำเร็จของเซ็นทรัลพัฒนาในวันนี้ สู่การขยายบทบาทสู่ Holistic Partnership เป็นอีกก้าวของการทำธุรกิจค้าปลีกที่เข้าไปทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ในทุกขั้นตอนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผู้พัฒนา และให้เช่าพื้นที่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งการันตีได้เลยว่าเซ็นทรัลพัฒนาจะช่วยสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจไม่ว่าจะหน้าบ้าน หรือระบบหลังบ้านที่พร้อมซัพพอร์ตทุกโอกาส ซึ่งทำให้ทั้งอีโคซิทเท็มเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน

]]>
1466398