Daily – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sun, 20 Dec 2009 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “สยามนิรมิต”อิงทิก้า-สสปน. เพิ่มกลุ่มไมซ์-ปรับรับอีเวนต์ https://positioningmag.com/12167 Sun, 20 Dec 2009 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=12167

สยามนิรมิต ขอฝากตัว ทิก้าและสสปน. ขยายฐานตลาดไมซ์ ปีหน้า ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้โตจากปีก่อนเท่าตัวเป็น 20% ของรายได้รวม ชูคอนเซปต์การแสดงตระการตาในราคาคุ้มค่า พร้อมปรับพื้นที่เอาท์ดอร์ รองรับตลาดจัดอีเว้นต์ในหน้าฝน ส่วนสถานการณ์ปลายปีนี้ ลูกค้าใช้บริการ 600 คนต่อวัน ลดจากปีก่อน 30% ระบุปีหน้าตลาดยังแข่งดุ

นายสุริยา ส่งสมบูรณ์ ผู้จัดการทั่วไป “สยามนิรมิต” อัครการแสดงแห่งความเป็นไทย เปิดเผยแผนธุรกิจในปีหน้าว่า จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าไมซ์ ที่เป็นกลุ่มประชุม สัมมนา และ ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยจะทำงานร่วมกับสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ(ไทย) หรือ ทิก้า และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)

จัดโปรแกรมชมการแสดงใส่รวมไว้ในการแพกเกจ เพื่อไปนำเสนอต่อลูกค้า รวมถึงการรับออกแบบธีมการจัดงานตามความต้องการของลูกค้าที่จะเข้ามาจัดงาน โดยเราจะมุ่งรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มไมซ์และคอร์ปอเรท เป็น 20% ของรายได้ จากปีนี้ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 10%

“ตลาดที่จะเจาะเป็นพิเศษ คือยุโรปและอเมริกา เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ผู้คนเริ่มจับจ่าย และเดินทางท่องเที่ยว ล่าสุดยอดจองจากนักท่องเที่ยวจากตลาดอเมริกาในปีหน้า ขณะนี้มีเกือบ 4 พันคนแล้ว ส่วนตลาดยุโรป ปีนี้มีสัดส่วน 30% ของลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด โดยในปี 2553 แนวโน้มการเติบโตที่ดี”

อย่างไรก็ตาม ตลาดที่เป็นลูกค้าของสยามนิรมิต มากที่สุดยังคงอยู่ในย่านเอเชีย โดยเฉพาะจากประเทศจีน มีสัดส่วนถึง 45% แต่เป็นตลาดที่ได้ราคาต่อคนค่อนข้างต่ำ ซึ่งแผนงานปีหน้า จะไม่เน้นกลยุทธ์ราคา แต่จะนำเสนอแบบคุ้มค่าเงิน เช่น เสริมในเรื่องของอาหาร และกิจกรรมอื่นๆ เป็นต้น

นายสุริยา กล่าวว่า ในปีหน้า จะมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงสถานที่ส่วนที่เป็นเอาท์ดอร์ คือจะทำหลังคาเปิดปิดได้ เพื่อรองรับการจัดงานในช่วงฤดูฝน รวมถึงการปรับการแสดง ให้มีความสนุกสนานตระการตาขึ้น และ มีความเป็นไทยเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงระบบการจองแบบออนไลน์ให้รวดเร็วขึ้น

สำหรับสถานการณ์ บริษัท ปีนี้ผลประกอบการขาดทุน ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการสยามนิรมิต วันละ 600 คน ลดลงราว 30% จากปีก่อนจะอยู่ที่ 800 คนต่อวัน จำนวนลูกค้า ณ วันนี้ เท่ากับช่วงที่เปิดให้บริการใหม่ๆเมื่อ 4 ปีก่อน เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองภายในประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งช่วงนั้น ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและความรุนแรงทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้บางวันแทบไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเลย ส่วนปีหน้าสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เราจึงต้องทำงานแบบระมัดระวัง และเชื่อว่ายังเป็นอีกหนึ่งปีที่กลยุทธ์สงครามราคายังคงอยู่

]]>
12167
“สดเด้งกว่าเดิม” https://positioningmag.com/10948 Thu, 05 Jun 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=10948

เป๊ปซี่และเสริมสุข จัดทีมผู้บริหารใหม่ เน้นทั้งการตลาดและการขายอย่างเข้มข้น เพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

นับตั้งแต่การประกาศแต่งตั้งฐิติวุฒิ์ บุลสุข เป็นผู้จัดการโรงงาน ปทุมธานี และแต่งตั้งปริญญา เพิ่มพานิช นักขายมือดีของเสริมสุขขึ้นควบตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็มีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง

ครั้งนี้เกิดขึ้น หลัง ชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โบกมือลาไปร่วมค่ายไทย เบฟเวอเรจ เป๊ปซี่ โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง พันธมิตรซึ่งแน่นแฟ้นมายาวนานร่วม 55 ปีของเสริมสุข ก็เปิดตัว เอริค กิจจาธนพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม เพื่อทำหน้าที่แทน

โดยทั้งเอริคและปริญญา เป็นคนคุ้นเคยซึ่งร่วมงานกันมา 10 กว่าปี มิหนำซ้ำยังมีชื่อจริงในบัตรประชาชนเหมือนกัน ดังนั้นในงานแถลงข่าวพบปะกับสื่อมวลชน ปริญญา กิจจาธนพันธ์ จึงต้องใช้ชื่อเอริค กิจจาธนพันธ์ แทน เพื่อป้องกันความสับสน

“สำหรับในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์นี้ ทำหน้าที่เหมือน GM ดูแลทั้งการขาย การตลาด และแผนปฏิบัติการของบริษัท” เอริค ซึ่งก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่ง Franchise Director และ CFO บอก

นอกจากนี้เป๊ปซี่ฯ ยังส่งเจษฏากร ธราธิป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เครื่องดื่มอัดลม ขึ้นเป็น 1 ใน Spoke Person เธอเป็นนักการตลาดฝีมือดี ที่คลุกคลีและฝึกปรือวิทยายุทธ์กับชาลีมาแบบเข้มข้น ก่อนหน้านี้เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ

ด้าน นภ วงศ์พานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเสริมสุข ปรากฏตัวในงานแถลงข่าวบ่อยครั้งขึ้น และเป็น 1 ใน Spoke Person เช่นเดียวกัน นภเป็นศิษย์เก่าอัสสัมชัญ บางรัก AC103 รุ่นเดียวกับพงศ์ สกุนตนาค และ เจตน์ บุลสุข โดยก่อนหน้าที่จะมาร่วมงานกับเสริมสุขเขาเป็น Senior Product Manager ที่คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ ขณะที่หากเป็นธุรกิจ NCB หรือเครื่องดื่มไม่อัดลม จะมีอิศเรศ สุนทราวรากุล เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว

เจษฏากร บอกว่า ทั้ง 2 บริษัททำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มีการประชุมร่วมกันเป็นปกติระหว่างทีมเป๊ปซี่กับทีมเสริมสุข ทุกวันอังคาร ขณะที่การประชุมนอกรอบและการออกตระเวนสำรวจตลาดจะมีอยู่ขึ้นบ่อยครั้ง

“เป๊ปซี่ฯ จะแชร์ข้อมูล โนว์ฮาว และข้อมูลการตลาดต่างๆ จากบริษัทแม่ ส่วนเสริมสุขจะแชร์ข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะด้านการขาย สภาพตลาดในเมืองไทย เป็นต้น”

ขณะที่สมชาย บุลสุข ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) บอกว่า “การผสมผสานระหว่างคนเก่าซึ่งมากประสบการณ์ในขอบเขตงานที่ทำอยู่ กับคนใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังไอเดีย และสั่งสมประสบการณ์ด้านการขายจากบริษัทอื่น จะช่วยทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

Did you know?

18 มีนาคม 2496 หรือเมื่อ 55 ปีที่ผ่านมา เป๊ปซี่ขวดแรกขนาด 10 ออนซ์ ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานเสริมสุขบนถนนสีลม (ปัจจุบันคือเซ็นทรัล สีลม) ภายใต้สโลแกน “ดีมาก มากดี” (Quality Quantity)

]]>
10948
ยุคบัตรเงินสด https://positioningmag.com/8865 Wed, 05 Jul 2006 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=8865

แม้โปรแกรมการแลกของรางวัลจาการช้อปผ่าน เดบิต การ์ด หรือบัตรเงินสด จะยังสู้เครดิต การ์ด ไม่ได้เช่น หากใช้เดบิต การ์ดจ่ายค่าสินค้า 2 เหรียญสหรัฐ จะได้ 1 คะแนนสะสม แต่หากใช้เครดิต การ์ด 1 เหรียญก็ได้แล้ว 1 คะแนน เพราะฉะนั้นถ้าอยากแลกของรางวัล เป็นจอทีวีพลาสม่า ก็ต้องจ่ายด้วยเดบิต การ์ด นานและมากเป็น 2 เท่า

แต่บรรดาเดบิต การ์ด ต่างพาเหรดกันออกมาทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างหนัก และต่อเนื่อง อย่าง Master Card ที่ร่วมกับบริษัท Upromise ผู้ให้บริการด้านการศึกษา ที่ช่วยเติมเงินออมให้ในแบงก์เมื่อลูกค้าซื้อของโดยใช้เดบิต การ์ด, Washington Mutual ให้เงินคืนลูกค้า 3 เซนต์ เมื่อรูดซื้อของแต่ละครั้ง, Citibank ให้คะแนนสะสม แลกของรางวัล

กลยุทธ์แรงจูงใจแลกของที่มีทั้งสินค้าและบริการ อย่างการไปพักโรงแรม ตั๋วเครื่องบินฟรี ประกอบกับการตอบสนองไลฟ์สไตล์แนวใหม่ ที่ผู้คนไม่ต้องพกเงินสด ความสะดวกนี้เองทำให้ยอดลูกค้าเดบิต การ์ดเติบโตขึ้น ดูสถิติจากปี 2548 แบงก์ 3 แห่ง จะมี 1 แห่ง ที่ให้รางวัลสะสมแต้มแก่ลูกค้า จากปี 2546 ที่แบงก์ 1 ใน 4 ถึงจะมีแคมเปญนี้ เช่นเดียวกับฝากผู้ซื้อสินค้าที่ 1 ใน 3 นักช้อปจะรูดเดบิตการ์ด เพิ่มขึ้นจากปี 2544 ถึง 26%

งานนี้เห็นทีแบงก์ทั้งหลายต้องตั้งหลักให้ทันยุคบัตรเงินสด แม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมต่อครั้งจากการรูดเดบิต การ์ดของลูกค้าจะน้อยกว่าเครดิต การ์ดก็ตาม

]]>
8865