สั่งอาหารเดลิเวอรี่ทีต้องมีพลาสติกเกี่ยวข้องถึง 4 ชิ้น คือ กล่อง ช้อนส้อม ถุงน้ำจิ้ม และถุงใส่ของ ทำให้ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เจ้าของเชนร้านอาหาร บาร์บีคิว พลาซ่า, จุ่มแซบฮัท, สเปซ คิว, ฌานา และ เรดซัน ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดบริการจัดส่งอาหารเดลิเวอรี่ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เร่งหานวัตกรรมเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง (single-use) เนื่องจากฟู้ดแพชชั่นคาดว่า บริษัทต้องใช้บรรจุภัณฑ์รวม 1.2 ล้านชิ้น หลังขยายสาขาฮับจัดส่งเดลิเวอรี่ในปีหน้า

“ชาตยา สุพรรณพงศ์” ซีอีโอ ฟู้ดแพชชั่น อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดเดลิเวอรี่ไทยปี 2562 มีมูลค่าอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท หากหารเฉลี่ยมูลค่า 250 บาทต่อหนึ่งออเดอร์ จะเท่ากับมีออเดอร์รวม 140 ล้านครั้งต่อปี และในหนึ่งออเดอร์จะสร้างขยะ 4 ชิ้นดังกล่าว ทำให้มีขยะพลาสติกเกิดขึ้นในการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ปีละ 560 ล้านชิ้น

ทำให้ฟู้ดแพชชั่นต้องการมีส่วนร่วมลดขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ด้วยนโยบาย Wasteless Delivery โดยบริษัทร่วมมือกับ บริษัท เทอริเนกซ์ สยาม จำกัด (Duni Thailand) เป็นผู้ผลิตกล่องชานอ้อยที่ย่อยสลายได้ภายใน 45 วันให้กับเครือ และ บมจ.ทีพีบีไอ เจ้าของโครงการ “วน” ผลิตถุงพลาสติกทำจากขยะรีไซเคิล ความหนากว่าปกติ 5 เท่า เพื่อเพิ่มดีมานด์การใช้พลาสติกรีไซเคิล และกระตุ้นให้ผู้บริโภคนำถุงไปใช้ซ้ำ

นอกจากนี้ Grab Food บริการจัดส่งอาหารพันธมิตร ยังเข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญด้วยโค้ดลดราคา 10 บาท จำนวน 50,000 โค้ด และลดราคา 30% เมื่อสั่งอาหารที่ร่วมรายการจากเครือฟู้ดแพชชั่น ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี 2562

“ลงทุนสูงขึ้นจากพลาสติกปกติค่ะ” ชาตยาตอบต่อประเด็นการลงทุนเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “แต่เราเชื่อว่าในระยะยาว ถ้ารอจนวันหนึ่งโลกเราไม่มีวัตถุดิบผลิตพลาสติกคือน้ำมันให้ขุดมาใช้อีกแล้ว วันนั้นต้นทุนที่เราต้องจ่ายจะแพงยิ่งกว่านี้”

เพิ่มฮับเดลิเวอรี่เป็น 50 สาขา อัดเมนูอีก 50 เมนู

ชาตยาเปิดเผยว่า หลังให้บริการเดลิเวอรี่เกือบ 2 เดือน ใน 21 สาขาของบาร์บีคิว พลาซ่าที่มีบริการจัดส่งอาหาร สัดส่วนจำนวนออเดอร์เดลิเวอรี่ต่อจำนวนออเดอร์รวมของสาขาสูงถึง 35% มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 200 บาทต่อการสั่งหนึ่งครั้ง หากคิดเป็นมูลค่า ยอดขายจากการเดลิเวอรี่คิดเป็น 10% ของยอดขายทั้งหมดในสาขาที่เป็นฮับบริการ

แผนงานปีหน้า บาร์บีคิว พลาซ่าจะเพิ่มสาขาที่จัดส่งเดลิเวอรี่ได้เป็น 50 สาขาจากทั้งหมด 150 สาขา และเตรียมเมนูสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะจากปัจจุบัน 4 เมนู จะเพิ่มอีก 50 เมนูที่ทยอยลุยตลาดปี 2563

“เราต้องออกแบบให้เหมาะกับการจัดส่งเดลิเวอรี่ ทำให้รับประทานง่าย แต่ยังได้ประสบการณ์เหมือนกับมาทานที่ร้าน ตัวบรรจุภัณฑ์ต้องออกแบบให้คงคุณภาพอาหาร ไม่เปียกแฉะ หกเลอะเทอะ” ชาตยากล่าว

ในแง่การลงทุนสำหรับสาขาที่เป็นฮับเดลิเวอรี่ ชาตยากล่าวว่า สามารถใช้บุคลากรจำนวนเท่าเดิมได้ เพียงแต่ต้องมีการเทรนนิ่งเพื่อเตรียมอาหารจัดส่ง ส่วนการลงทุนอุปกรณ์มีเพิ่มบ้างเล็กน้อย

ฟู้ดแพชชั่น คาดว่าปีหน้าสัดส่วนจำนวนออเดอร์จากเดลิเวอรี่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่บริษัทจะพยายามควบคุมไม่ให้เกิน 50% ของจำนวนออเดอร์ทั้งหมด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับการบริการภายในร้านอาหาร หากในทำเลใดมียอดสั่งซื้ออาหารจัดส่งสูงจะพิจารณาเพิ่มจำนวนสาขาที่เป็นฮับเดลิเวอรี่ในบริเวณเพื่อกระจายออเดอร์ออกไป