สำหรับแคมเปญ “Takoyaki Style Donut” มีโปรโมชั่นพิเศษ คือ เมื่อซื้อทาโกะยากิ สไตล์ โดนัท 1 กล่อง รับสิทธิ์กล่องที่ 2 ราคาพิเศษ 40 บาท รวมราคา 109 จากปกติ 138 บาท และเมื่อซื้อทาโกะยากิ สไตล์ โดนัท พร้อมเครื่องดื่มทุกเมนู ราคาชุดละ 99 บาท ได้ตั้งแต่วันนี้ – 14 ตุลาคม 2562 ได้ที่ร้านดังกิ้นทุกสาขาที่ร่วมรายการ #DUNKINอร่อยฟินสไตล์ญี่ปุ่น #DUNKIN #DUNKINTAKOYAKISTYLEDONUT

นางสาวนบเกล้า ตระกูลปาน กรรมการผู้จัดการ  บริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า บริษัทได้ปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจในไทยให้สอดคล้องกับแผนของ ดังกิ้น ที่สหรัฐอเมริกา โดยได้มีการรีแบรนด์ดิ้งชื่อตราสินค้า จาก “ดังกิ้น โดนัท” เป็น “ดังกิ้น”(DUNKIN’) ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ “Coffee & Donuts” ภายใต้ Coffee Concept Stores โดยยังจะเน้นให้ความสำคัญในส่วนของโดนัท ซึ่งเป็นส่วนสร้างรายได้หลัก และยังจะขยายไลน์ไปยังกลุ่มสินค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้ง กาแฟ แซนวิช และเบเกอร์รี่ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าในไทย หลังจากที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดอื่น ๆ ของโลก

ภายใต้ชื่อ “ดังกิ้น” และภาพลักษณ์ใหม่ดังกล่าว ผู้บริโภคในไทยจะยังคงได้ลิ้มลองโดนัทในรสชาติหลากหลาย รวมถึงความพิเศษในส่วนของการปรับเปลี่ยน Menu Innovation ด้วยสุดยอดเมนูความอร่อยที่มีมาให้เลือกตามโอกาส และวันพิเศษต่าง ๆ

นางสาวนบเกล้า กล่าวด้วยว่า  นอกจากการรีแบรนด์ดิ้ง และการเพิ่มไลน์สินค้าแล้ว ทางบริษัทยังมองในเรื่องของการขยายสาขาเพื่อให้รองรับความต้องการกับลูกค้าให้มากขึ้น จากที่ปัจจุบันมีร้านภายใต้ Coffee Concept Stores อยู่กว่า 150 สาขา ทั่วประเทศ โดยมีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งในส่วนที่อยู่ในศูนย์การค้า และในรูปแบบร้าน คีออส หรือบริการ ไดรฟ์-ทรู ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก อย่างไรก็ตามจะพิจารณาตามความเหมาะสม

และเพื่อฉลองภาพลักษณ์ใหม่ ดังกิ้นในประเทศไทยได้สร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษในแคมเปญ DUNKIN’ SUMMER PARTYพร้อมกัน 6 รสชาติใหม่ ได้แก่

-บลูเวฟ บลูวนิลาฟ้าสดใส
-ไฮ เบอร์รี่ ชมพูน่ารักสดใส หอมสตรอเบอร์รี
-เมลโล่ เมล่อน สีเขียวหอมสดชื่นกลิ่นเมล่อน,
-ช็อคโก แฟลช สีสันแห่งความสุข เพิ่มความเข้มข้นด้วยช็อกโกแลต สอดไส้ครีมบาวาเรี่ยน
-เซย์ เบอร์รี่ชีส ชมพูหวาน ด้วยสตรอเบอร์รีครีมชีส
-ซันนี่ ไซด์ อัพ ความลงตัวที่เข้ากัน ของไวท์ช็อกโกแลตและแยมส้ม

พร้อมเครื่องดื่ม 3 รสชาติใหม่ ที่จะมาช่วยเติมความสดชื่นตลอดซัมเมอร์ เริ่มต้นกันที่
-แฟลท ไวท์ ลาเต้ รสชาติเข้มข้น หอมละมุน ไปกับกาแฟอาราบิก้าแท้ 100%
-พิงค์ ลาเต้ กาแฟ ผสมกับนมเย็น การผสมผสานแบบใหม่ที่ได้ความหอมหวาน สดชื่น เข้ากัน
-แดงซ่า โซดา หอมหวาน ซ่า บวกด้วยท็อปปิ้งเยลลี่พีช เพิ่มความหอมสดชื่น

แคมเปญ DUNKIN’ SUMMER PARTY สุดคุ้ม พาคุณไปอิ่มอร่อยอย่างจุใจเมื่อซื้อแวลูแพค 1 กล่อง รับสิทธิ์ซื้อ โดนัท 4 ชิ้น ในราคาเพียง 40 บาท รวมราคา 199 บาท (ราคาปกติ 290 บาท) และเมื่อซื้อเครื่องดื่ม ซัมเมอร์ปาร์ตี้ ยังสามารถแลกซื้อโดนัทในราคาพิเศษ 19 บาท 1 แก้ว ต่อ 1 สิทธ์ ได้อีกด้วย

หลังจากประกาศเตรียมลบคำว่า Donuts ออกไปจากชื่อตั้งแต่ปี 2017 ล่าสุดการเปลี่ยนแปลงนี้กำลังมีผลอย่างเป็นทางการ โดยแถลงการณ์ Dunkin’ ย้ำว่าทุกร้านและบรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นของบริษัทจะไม่มีคำว่า Donuts อีกต่อไปภายในมกราคมปีหน้า รวมถึงสัญลักษณ์หรือโลโก้ที่จะไม่มีรูปโดนัทด้วย

ผลจากแถลงการณ์นี้ แบรนด์ Dunkin’ ที่เคยรู้จักกันดีในชื่อ Dunkin’ Donuts จะเข้าสู่การรีแบรนด์ครั้งใหญ่อย่างเป็นทางการ แสดงว่าแบรนด์เชนค้าปลีกอาหารกำลังเปลี่ยนโฉมเพื่อสร้างแบรนด์ใหม่อย่างจริงจัง ดีเดย์เผด็จศึกคือเดือนมกราคมปีหน้า

แม้จะเปลี่ยนแบรนด์ แต่ Dunkin’ ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเมนู โดยในสหรัฐฯ Dunkin’ จะไม่ได้ลดเมนูอาหารเช้าที่ช่วยให้ Dunkin’ เป็นเชนอาหารที่มีชื่อเสียง เช่นเดียวกับโดนัท ซึ่งสถิติล่าสุดย้ำว่า Dunkin’ มียอดขายโดนัทมากกว่า 2,900 ล้านชิ้นต่อปีในตลาดโลก ซึ่งในจำนวนนี้รวมขนมหวานชื่อ Munchkins ขนมวงกลมเล็กที่ใช้แป้งซึ่งตัดออกมาจากหลุมโดนัทด้วย

โลโก้ใหม่ ไฉไลกว่าเดิม?

ในโลโก้ใหม่ของ Dunkin’ ชื่อและภาพโดนัทไม่มีปรากฏแม้เงาในโลโก้ของบริษัท จุดนี้ Dunkin’ ย้ำว่าบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการโดนัท ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Dunkin’ ต่อไป 

Tony Weisman หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดของ Dunkin’ กล่าวในแถลงการณ์เพิ่มว่า Dunkin’ จะยังคงพัฒนาและนำเสนอโดนัทรสใหม่ รวมถึงรสพิเศษตามฤดูกาลเพื่อคนรักโดนัททุกคนทั่วโลกเช่นเดิม

การประกาศอย่างเป็นทางการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Dunkin’ เริ่มทดสอบชื่อและโลโก้ใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ในร้านสาขาเมืองพาซาเดลา รัฐแคลิฟอร์เนีย 

รีแบรนด์เพื่อเปลี่ยนแปลง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Dunkin’ ถูกมองว่าได้ก้าวไปไกลกว่าการจำหน่ายแค่โดนัท โดย Dunkin’ ถูกมองว่าสามารถขึ้นเป็นแถวหน้าในตลาดเครื่องดื่มทั้งกลุ่มกาแฟและชาเย็น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวเมนูเครื่องดื่มกาแฟ cold brew coffee กระตุ้นภาพผู้จำหน่ายกาแฟสดให้ลูกค้าสัมผัสได้

นอกจากเครื่องดื่ม Dunkin’ ยังเปิดตัวเมนูใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าซื้ออาหารได้หลากหลาย ที่เห็นชัดคือในเดือนมิถุนายน Dunkin’ เปิดตัวขนมโดนัททอด ซึ่งทำด้วยแป้งโดนัทสไตล์ครัวซอง ก่อนจะเอาไปคลุกน้ำตาลอบเชย

สำหรับภาพรวมจุดประสงค์ของการรีแบรนด์ครั้งนี้ คือการปรับให้แบรนด์ Dunkin’ ดูง่ายและทันสมัยมากขึ้น จุดนี้ผู้บริหารอย่าง Weisman กล่าวในแถลงการณ์ว่าด้วยการปรับชื่อให้เรียบง่ายและทันสมัย Dunkin’ ยังมีโอกาสที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับแบรนด์ Dunkin’ อย่างไม่น่าเชื่อ โดยทิ้งท้ายว่าทุกคนจะได้เห็น Dunkin’ โฉมใหม่ทั้งภายในและภายนอกร้านแน่นอน.

ที่มา : 

• https://www.usatoday.com/story/money/nation-now/2018/09/25/dunkin-donuts-drops-donuts-brand-name/1422584002/
• https://adage.com/article/news/wake-call-dunkin-ditches-donuts/315064/
• https://www.wgbh.org/news/local-news/2018/09/25/dunkin-officially-drops-the-donuts

มาวันนี้ดังกิ้นโดนัทต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งจากการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งเป็นผลมาจากเทรนด์สุขภาพ ดังกิ้นโดนัทจึงไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยโดนัทเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

ในสหรัฐอเมริกาดังกิ้นโดนัทรีแบรนด์ใหม่ ตัดคำว่า “โดนัท” ออก เหลือแต่คำว่า “ดังกิ้น” เพื่อสะท้อนว่าจากนี้ไปดังกิ้นไม่ได้ขายแค่โดนัทอีกต่อไป

ประเทศไทยก็เช่นกัน บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) เจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังกิ้นโดนัทในไทยก็ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ที่เป็นมากกว่าโดนัท

ประเดิมด้วยการเปิดสาขา Drive Thru แห่งแรกในไทย ที่คอมมูนิตี้มอลล์ Porto Go บางปะอิน จุดแวะพักรถบนถนนสายเอเชีย จึงต้องเป็นมากกว่าร้านโดนัท ใช้คอนเซ็ปต์ Dunkin’ Donut – ‘Coffee and More’ เน้นเมนู กาแฟสด แซนด์วิชอบร้อน และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น 

จุดขายของดังกิ้นสาขานี้ถูกวางให้เป็น Drive Thru ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

นาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) บอกถึงที่มาของสาขานี้ว่า เพื่อตอบโจทย์กระแส Drive-Thru ในประเทศไทยกำลังมาแรง ซึ่งธุรกิจ Fast-food and Beverage รายใหญ่ในไทยต่างเร่งเปิดสาขาในลักษณะนี้ที่กำลังขยายตัวมากขึ้น

Dunkin’ Donuts เล็งเห็นถึงช่องทางการเติบโตของธุรกิจ Drive-Thru เพื่อขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมถึงการขยายเรื่องของกาแฟเพิ่มขึ้น

โดยในช่วง 3 ไตรมาสทีผ่านมา ได้ขยายรูปแบบร้านมาใช้คอนเซ็ปต์ Coffee & More เน้นกาแฟสด และแซนด์วิช โดยสาขาที่เป็น Coffee Concept มีทั้งหมด 125 สาขา และจะนำคอนเซ็ปต์ Dunkin’ Donut – ‘Coffee and More’ ไปใช้กับทุกสาขาในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 283 สาขา

นาดิม เชื่อว่า การปรับคอนเซ็ปต์ใหม่มาเน้นกาแฟจะช่วยให้ดังกิ้นโดนัทมีอัตราเติบโตของรายได้ 30% จากเดิมที่เติบโตเพียงแค่ 10% ต่อปี

ความท้าทายจากนี้ของดังกิ้นโดนัท คือ ทำอย่างไรให้คิดถึงดังกิ้นแล้วคิดถึงกาแฟด้วย

Hoffmann จะขึ้นรับตำแหน่งแทน Nigel Travis อดีตซีอีโอ Dunkin’ Brands คนก่อนหน้าวัย 68 ปีซึ่งเกษียณจากตำแหน่งหลังจากครองเก้าอี้ยาวนานตั้งแต่ปี 2009 โดย David Hoffmann ได้รับการแต่งตั้งเป็น CEO ของ Dunkin’ Brands อย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา

สำหรับ Hoffmann หนุ่มใหญ่วัย 50 นั้นข้ามห้วยมาจาก McDonald’s ก่อนจะเข้าร่วมกับ Dunkin’ Brands ในฐานะประธาน Dunkin’ Donuts U.S. ในปี 2016 ช่วงเวลาไม่นาน Hoffmann มีบทบาทโดดเด่น สามารถแสดงจุดยืนเป็นผู้นำด้านธุรกิจในตลาดสหรัฐฯ ทุกด้าน ขณะเดียวกันก็พยายามขยายร้านค้าแนวคิดใหม่ พร้อมกับคอยดูแลร้าน Dunkin อีกหลายร้อยแห่งในประเทศ

Hoffmann ลูกหม้อ McDonald’s 22 ปี

ข้อมูลระบุว่าก่อนที่จะร่วมงานกับ Dunkin’ ซีอีโอ Hoffmann เคยใช้เวลา 22 ปีกับบริษัทใหญ่อย่าง McDonald’s โดยเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานรายชั่วโมง ไต่เต้าขึ้นไปจนเป็นประธานให้ McDonald’s ในหลายภูมิภาค ซึ่งแต่ละตลาดล้วนไม่ธรรมดาเพราะมีการเติบโตสูงในส่วนธุรกิจเบอร์เกอร์ ได้แก่ เอเชีย และยุโรปตะวันออก

ประเด็นนี้ Travis ระบุในแถลงการณ์ว่าการคัดเลือก Hoffmann ให้มาดูแล Dunkin ‘Brands เมื่อ 18 เดือนก่อนนั้น เป็นการคัดเลือกที่มีจุดประสงค์ให้ Hoffmann รับตำแหน่งซีอีโอโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อได้ตัว “Dave” มา บริษัทก็พบว่านี่คือผู้นำระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมร้านอาหาร และผลงานของ Hoffmann ถือว่าเกินความคาดหมาย

Hoffmann นั้นถูกมองว่าเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการวางแผนการเติบโตใหม่ระยะ 3 ปีของ Dunkin ซึ่งมีการแถลงชัดเจนในงานประชุมนักลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลักการของแผนใหม่คือการลดเมนู เพิ่มความเร็วและความสะดวกสบายในการให้บริการ และเน้นให้บริการเครื่องดื่มมากกว่าอาหาร

นักลงทุนตอบรับเรื่องนี้ในแง่บวก หุ้นของ Dunkin’ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงบ่ายวันพุธซึ่งมีแถลงการณ์แต่งตั้ง Hoffmann เป็นซีอีโอ

การนั่งแท่นซีอีโอของ Hoffmann เกิดขึ้นก่อนที่ Dunkin’ จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 โดยในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทมีอัตราการเติบโตตามเป้าที่นักวิเคราะห์คาดหวังไว้ แรงหนุนสำคัญคืออัตราภาษีที่ลดลงและการซื้อหุ้นคืน แต่รายได้ของบริษัทยังอ่อนแอและลดลงต่ำกว่าคาดการณ์

เปลี่ยนรอบ 10 ปี

นักลงทุนเชื่อว่า Dunkin’ Brands ในช่วงหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงมหาศาล เพราะนี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 10 ปีจากที่ Travis ครองบัลลังก์ซีอีโอ Dunkin’ มาตั้งแต่ปี 2009 โดยนับจากนี้ Travis จะยังคงมีส่วนร่วมกับ บริษัท และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ภารกิจจะเปลี่ยนมาโฟกัสที่การพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศแทน

สำหรับ Travis ผลงานหลักคือการเป็นผู้ผลักดันให้ Dunkin’ เข้าตลาดหุ้นเป็นบริษัทมหาชนในปี 2011 และการช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทขึ้นไปอีก 60 เปอร์เซ็นต์ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง นับตั้งแต่การขายหุ้น IPO หุ้นของ Dunkin’ เพิ่มขึ้น 271 เปอร์เซ็นต์จากราคาเริ่มต้นที่ 19 เหรียญสหรัฐ มาเป็นระดับมากกว่า 70 เหรียญในขณะนี้

Dunkin’ ยังเติบโตขึ้นด้วยจำนวนร้านค้าที่เพิ่มขึ้นประมาณ 6,000 แห่ง จำนวนนี้รวมร้านค้าในสหรัฐอเมริกาอีก 2,800 แห่ง Travis ยังมีส่วนสำคัญในการดูแลการกลับมาของ Dunkin ในตลาดแคลิฟอร์เนีย 

สำหรับภาวะตกต่ำของยอดขาย Dunkin’ อดีตซีอีโออย่าง Travis โยนบาปให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันสภาพแวดล้อมอย่างสภาพอากาศก็ไม่เอื้ออำนวยให้ธุรกิจของ Dunkin’ เติบโตเท่าที่ควร และการปรับเมนูซึ่งทำให้ยอดขายของ Dunkin’ ไม่หวือหวาเท่าที่คาดไว้

การแข่งขันที่ Dunkin’ ได้พบนั้นมาจากแบรนด์ใหญ่ ซึ่งทำให้กลุ่มธุรกิจกาแฟและโดนัทได้รับแรงกดดันสูงถ้วนหน้า คู่แข่งเหล่านี้ได้แก่ McDonald’s, Burger King และ Starbucks ทั้งหมดนี้ทำให้ Dunkin’ ต้องเร่งมือทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักมากกว่าร้านโดนัทธรรมดา.

ที่มา : 

• https://www.cnbc.com/2018/07/10/david-hoffmann-named-new-dunkin-brands-ceo-effective-immediately.html
• http://www.wcvb.com/article/new-dunkin-boss-is-the-guy-behind-dropping-donuts-from-restaurant-name/22115086

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นการรีแบรนด์ครั้งแรกในรอบ 67 ของร้านดังกิ้นโดนัท หลังจากที่บริษัทแม่ของ Dunkin’ Donuts ในสหรัฐอเมริกาได้เตรียมวางแผนนโยบายใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตซึ่งจะเน้นกาแฟและเครื่องดื่มมากขึ้น โดยต้องการที่จะเป็นร้านกาแฟที่ขายโดนัทมากกว่าร้านขายโดนัทที่มีกาแฟ

สำหรับ Dunkin’ Donuts จะเริ่มทดสอบตลาดในการใช้ชื่อ Dunkin’ โดยตัดคำว่า Donuts ออกในสาขาที่เพิ่งเปิดใหม่ในเมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ในเดือนหน้า ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีในอนาคตก็จะทยอยเปลี่ยนให้ครบทุกสาขา และจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งช่วงครึ่งหลังของปี 2561

แต่สำหรับในสื่อโฆษณาได้มีการใช้เฉพาะคำว่า Dunkin’ มาแล้วกว่า 10 ปี รวมถึงแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่อย่าง ‘America Runs on Dunkin’

ปัจจุบัน Dunkin’ Donuts สามารถครองตลาดโดนัทในสหรัฐฯ มูลค่า 1.46 หมื่นล้านเหรียญฯ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 62.1% และมีสาขาทั่วโลกกว่า  12,000 แห่ง

ที่มา : The Mercury News