FINNOMENA – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 24 Jun 2022 02:08:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 FINNOMENA เผย 5 เทรนด์นักลงทุนไทยครึ่งปีแรก กลุ่มวัยคนทำงานอายุน้อยนิยมลงทุนเพิ่มมากขึ้น https://positioningmag.com/1389905 Thu, 23 Jun 2022 12:27:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1389905 FINNOMENA แพลตฟอร์มการลงทุนในกองทุนรวม ได้เปิดเผย 5 เทรนด์การลงทุนของนักลงทุนไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 หลังจากที่ตลาดการเงินทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ หรือตราสารหนี้นั้นประสบกับความผันผวนอย่างหนัก ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้เปิดตัวพอร์ตการลงทุนตามกูรูชื่อดังเพิ่มเติมด้วย

กสิณ สุธรรมนัส CEO & Co-Founder บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ได้กล่าวถึงสภาวะการลงทุนในช่วงนี้ว่า ในปี 2022 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดการลงทุนในทุกๆ ด้าน เนื่องจากมีความผันผวนและปัจจัยเสี่ยงที่รุมเร้าหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว เพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ และหากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง ความเสี่ยงของการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะยิ่งสูงขึ้น ดังนั้นในแง่ของการลงทุนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกระจายความเสี่ยงและเพิ่มการตั้งรับในภาพรวมให้เหมาะสม

ขณะเดียวกัน CEO & Co-Founder ของ FINNOMENA ยังได้เปิดเผยถึงเทรนด์การลงทุนของนักลงทุนไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ซึ่งมีดังต่อไปนี้

  1. โฟกัสในการลงทุนมากขึ้น กสิณได้กล่าวว่าพฤติกรรมของนักลงทุนเริ่มกลับมาโฟกัสที่ Valuation หรือหามูลค่าที่แท้จริง และไม่กลัวถ้าหากพลาดการลงทุนไป (ไม่กลัวตกรถ)
  2. วินัยการลงทุน ขณะเดียวกันนักลงทุนหน้าเก่าหรือใหม่มีวินัยในการลงทุนมากขึ้น โดยนักลงทุนได้ใช้วิธีการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging หรือ DCA ซึ่งเป็นวิธีการลงทุนรูปแบบหนึ่ง แบ่งเฉลี่ยเงินลงทุนในแต่ละเดือนเท่าๆ กัน กสิณได้กล่าวว่าปัจจุบันเม็ดเงินที่นำมา DCA ผ่านแพลตฟอร์มของ FINNOMENA นั้นสูงถึง 100 ล้านบาทต่อเดือน
  3. นักลงทุนลงทุนด้วยตัวเองมากขึ้น กสิณได้กล่าวว่าปัจจุบันนักลงทุนจับจังหวะการลงทุนด้วยคำแนะนำของ FINNOMENA แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ลงทุนด้วยตัวเองมากขึ้น
  4. บริษัทต่างๆ หาช่องทางการลงทุนตราสารหนี้คุณภาพดีมากขึ้น ในครึ่งปีแรกของปี 2022 กสิณกล่าวว่าบริษัทต่างๆ ที่มีเงินสดเหลือ เริ่มหาโอกาสการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี มีความเสี่ยงต่ำเพิ่มมากขึ้น
  5. นักลงทุนอายุน้อยเริ่มมีสัดส่วนมากขึ้น โดยนักลงทุนที่ใช้แพลตฟอร์มของ FINNOMENA ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี นั้นมีมากถึง 40% ของลูกค้าบริษัท ขณะเดียวกันกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเองก็หาช่องทางการลงทุนเพิ่มมากขึ้น

ด้วยสภาวะตลาดผันผวน Co-Founder ของ FINNOMENA เองได้กล่าวว่าบริษัทได้ร่วมมือกับกูรูด้านการลงทุน อย่าง Deepscope, BottomLiner และ MacroView นำแนวคิดที่โดดเด่นของแต่ละกูรูมาพัฒนาเป็นพอร์ตการลงทุนทางเลือกสำหรับการตัดสินใจของนักลงทุนในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวน ซึ่งรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

  • Growth Momentum AI (GMAI) โดย Deepscope: พอร์ตลงทุนที่เน้นการลงทุนในกองทุนที่ NAV เติบโตเร็วด้วย momentum ผ่านการคัดเลือกโดย AI จาก Deepscope ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนา AI สำหรับการลงทุน
  • Optimal Megatrend Opportunities (OMO) โดย BottomLiner: ลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นธีม เมกะเทรนด์ โดยปรับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ได้รับ ในระดับที่ควบคุมได้
  • MRI โดย MacroView: ลงทุนผ่านแนวทางการสแกนกองทุนด้วยปัจจัยเชิง Macro ความเสี่ยง (Risk) และการวิเคราะห์แบบ Induction (MRI)

นอกจากนี้ยังรวมถึงพอร์ตการลงทุนทางเลือกจาก แอนดรูว์ สต๊อทซ์ นักวิเคราะห์และนักวิจัย ผู้มีประสบการณ์ในแวดวงการเงินและการลงทุนมากว่า 20 ปี ที่เตรียมนำพอร์ตการลงทุน All-Weather Alpha Focus มาให้บริการกับลูกค้าของ FINNOMENA ด้วย

สำหรับผลการดำเนินงานของ FINNOMENA นั้นในปี 2021 มีรายได้ 466.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 159.33 ล้านบาทในปี 2020 ขณะที่กำไรของบริษัทอยู่ที่ 29.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าในปี 2020 ที่ 4.69 ล้านบาท

]]>
1389905
โบรกเกอร์ถูกดิสรัปต์! พฤติกรรมนักลงทุนยุคใหม่เปลี่ยน เน้นธีม-ใช้เทคโนโลยีดูหุ้น-เดินตามเซียนที่ชอบ https://positioningmag.com/1240563 Fri, 26 Jul 2019 05:45:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1240563 โบรกเกอร์ยุคเก่าส่อแววช้ำ สตาร์ทอัพดาวรุ่งวงการฟินเทคไทย “FINNOMENA” เผยเทรนด์แรงพฤติกรรมนักลงทุนยุคใหม่เปลี่ยนชัด วันนี้หลายคนเน้นลงทุนตามธีมความชอบส่วนตัวเช่นธีมบริษัทสีเขียวรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือธีมบริษัทเทคโนโลยีซีเคียวริตี้ ขณะที่นักลงทุนในตลาดโลกเน้นใช้ระบบแนะนำหุ้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ท่ามกลางอีกหลายคนที่เดินสายลงทุนตามเซียนที่ประทับใจ ทุกพฤติกรรมถูกนำมาตอบโจทย์ในแพลตฟอร์มการลงทุนใหม่ “GURUPORT” ซึ่ง FINNOMENA มั่นใจว่าจะจุดติดในตลาดแมส คาดว่าจะดึงเม็ดเงินลงทุนใหม่ได้มากกว่า 200 ล้านบาทภายในปีนี้

FINNOMENA มีดีกรีเป็นบริษัทสตาร์ทอัพอายุ 3 ปีที่ก่อตั้งโดยคนไทย วางตัวเป็นผู้พัฒนาเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นเผยแพร่ความรู้เรื่องการลงทุนแบบเข้าใจง่าย เมื่อผู้อ่านสนใจวางแผนการเงินก็สามารถใช้บริการแพลตฟอร์มการลงทุนของ FINNOMENA ได้แบบครบวงจร ทำให้ FINNOMENA มีรายได้จากส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการขายหลักทรัพย์เช่นเดียวกับธนาคารและ บลจ.

ภาพ : facebook.com/pg/finnomena

วันนี้ FINNOMENA ได้รับการยอมรับในวงกว้างบนสังคมการเงินการลงทุนของประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 80,000 คน คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 6,700 ล้านบาท ตัวสตาร์ทอัพได้รับการลงทุนจาก บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต, กลุ่มเบญจจินดา, ดีแทค แอคเซอเลอเรท Batch 4, และ 500 TukTuks คาดว่าการเพิ่มทุนรอบ Series B จะเกิดขึ้นได้ในปีนี้ หลังจากที่ Series A สามารถระดมทุนได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทในช่วงปีที่แล้ว

Thematic Portfolio แรงดี

เจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FINNOMENA วิเคราะห์พฤติกรรมนักลงทุนยุคใหม่ว่าวันนี้เด็กรุ่นใหม่นิยมลงทุนตามสไตล์ที่ชอบ เช่น เด็กไม่ใช้หลอด พกแก้วไปซื้อเครื่องดื่ม หรือชื่นชอบเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็จะเลือกซื้อหุ้นตามบริษัทที่ชื่นชอบ ขณะที่ผู้ชื่นชอบในธีมซีเคียวริตี้ ก็สามารถคลิกซื้อหุ้นลงทุนได้ทุกบริษัททั้งธีมที่จัดมา แนวทางการลงทุนตามธีมของบริษัทนี้มีชื่อเรียกว่า Thematic Portfolio ซึ่งพบว่ามาแรงในตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ยุคใหม่ระดับโลก

เทรนด์แรงถัดมาที่เห็นชัดคือการใช้เทคโนโลยี หากไม่นับกระบวนการ e-KYC ที่ทำให้แพลตฟอร์มซื้อขายหุ้นยืนยันตัวบุคคลได้แบบไม่ต้องใช้กระดาษใน 1 ชั่วโมงจนลดเวลาดำเนินการจากหลายวันเหลือวันเดียว อีกเทคโนโลยีที่มีบทบาทในกลุ่มนักลงทุนยุคใหม่คือ Robo-advisor ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาแนะนำการลงทุนโดยอิงฐานข้อมูลของตัวบริษัทล้วนๆ สถิติล่าสุดพบว่าที่ปรึกษาการลงทุนในต่างประเทศมีการพัฒนาระบบ Robo-advisor มากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นโบรกเกอร์ยุคใหม่ค่าธรรมเนียมต่ำ

แต่ใน Robo-advisor ก็มีเซ็กเมนต์ที่ย่อยลงไปเป็น Hybrid Robo-advisor เพราะนักลงทุนที่มีเงินทุนหลักล้านยังไม่เชื่อมั่นหากไม่มีบุคลากรคนเข้ามาร่วมแนะนำ แนวโน้มนี้ทำให้หลายบริษัทที่ต้องการเจาะกลุ่มนักลงทุนเงินล้าน ต้องจัดพนักงานที่เป็นคนเข้ามาประกบเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่น

แทนที่จะเป็นพนักงานหรือใครก็ได้ นักลงทุนยุคใหม่ยังเลือกลงทุนตามเซียนที่ประทับใจ เรื่องนี้ต่างจากอดีตที่การตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมักมาจากข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์หรือสถาบันการเงินที่เป็นผู้ขายโดยตรง แต่ปัจจุบัน กูรูหรือใครที่มีความสนใจเรื่องการลงทุนด้านเดียวกันสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์กันได้บนโลกออนไลน์, Social Media หรือแพลตฟอร์มการลงทุนอื่น จนทำให้โลกแจ้งเกิดกูรูการลงทุนขึ้นมากมายหลายร้อยพันคน ลักษณะการลงทุนนี้เรียกว่า Crowdsourcing

เทรนด์ทั้งหมดนี้ถูก FINNOMENA จับมารวมกันจนทำให้เกิดเป็นบริการใหม่ชื่อ GURUPORT ตัวบริการถูกต้องตามตำราเทรนด์โลกจน FINNOMENA มั่นใจมากว่านักลงทุนไทยจะตอบรับ FINNOMENA ดีเหมือนในต่างประเทศที่การลงทุนส่วนใหญ่ทำผ่านที่ปรึกษาการเงินหรือ financial advisor เป็นหลัก (ไม่ใช่การซื้อเองโดยตรง) FINNOMENA จึงคัดเลือก 6 กูรูชั้นนำด้านการเงินของประเทศไทยมาจัดพอร์ตโชว์ เพื่อให้ลูกค้าฟินโนมีนาสามารถลงทุนตามกูรูได้ระหว่างที่กำลังศึกษาเรื่องการลงทุนแบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ชู Influencer เป็นแม่เหล็ก

บทสรุปของภาวะโบรกเกอร์ถูกดิสรัปนั้นไม่ได้อยู่ที่การใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยจัดพอร์ตลงทุน แต่อยู่ที่การตอบพฤติกรรมของนักลงทุนด้วย สำหรับก้าวใหม่ใน GURUPORT ตัว FINNOMENA ประเดิมก่อนที่ 6 ธีม ได้แก่ ธีมหุ้นระดับโลก ธีมหุ้นไทย ธีมหุ้นอาเซียน ธีมเน้นกลยุทธ์คลาสสิก ธีมสินทรัพย์ยอดนิยม และธีมเสี่ยงต่ำเหมาะเก็บระยะยาว ทั้งหมดนี้ร่างพอร์ตโดยนักวิเคราะห์ เซียนตลาดหลักทรัพย์ อาจารย์ เจ้าของเพจ และผู้เขียนหนังสือ ที่จะเป็นแม่เหล็กดูดให้คนไทยหันมาลงทุนมากขึ้น

เมื่อมีธีมและมีกูรู Influencer สำหรับ Thematic Portfolio FINNOMENA ก็ถึงเอาแกนเทคโนโลยี Robo-advisor มาใส่ใน GURUPORT เพราะการที่กูรูแต่ละคนจะไล่คุยกับนักลงทุนแต่ละคนนั้นเป็นไปได้ยาก กลายเป็นระบบแพลตฟอร์ม Crowdsourcing Robo-advisor ที่ผู้บริหารตั้งเป้าว่าจะจุดประกายให้เกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเป้าหมายที่อยากเห็นคือสิ้นปีนี้มีนักลงทุนสร้างพอร์ตบนแพลตฟอร์มใหม่ราว 1 หมื่นราย

เมื่อคำนวณเม็ดเงินของนักลงทุน 1 หมื่นรายที่จะใช้งานแพลตฟอร์ม GURUPORT ในปีนี้ พบว่าอาจสูงถึง 200 ล้านบาทเพราะ FINNOMENA กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไว้ 20,000-50,000 บาท ซึ่งผู้ใช้จะต้องเป็นผู้คลิกซื้อด้วยตัวเองในขั้นตอนสุดท้าย เรียกว่าต้องตัดสินใจเองแม้จะมีกูรูหรือเทคโนโลยีคอยเตือนและกรองหุ้นน้ำดีไว้ให้แล้ว.

]]>
1240563