Gap ระบุว่าในวันที่ 20 มกราคม 2562 บริษัทจะปิดทำการร้านค้าขนาด 3 ชั้นเลขที่ 680 ถนน Fifth Avenue ในนิวยอร์ก โดยร้านดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นเวลากว่า 20 ปี ถือเป็นอดีตร้าน flagship ของ Gap ในนิวยอร์ก (ร้าน flagship ปัจจุบันเปิดในไทม์สแควร์ในปี 2560) แม้ว่า Gap จะยังไม่เปิดเผยเหตุผลของการตัดสินใจปิดร้านที่ Fifth Avenue แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าร้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพง ทำให้เป็นไปได้ว่าร้านของ Gap ไม่ทำยอดขายได้คุ้มค่าตามที่บริษัทต้องการ

ร้าน Gap ทำเงินน้อยลง

หากพิจารณาจากที่ Gap Inc. รายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ายอดขายทั่วโลกที่ร้านค้าปลีกของ Gap ที่เปิดมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีได้ลดลง 7% ทำให้ไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสยอดแย่สำหรับบริษัท

ตัวเลขนี้คำนวณรวมทั้งแบรนด์อื่นในเครือ Gap ทั้ง Old Navy ซึ่งเป็นดาวเด่นในพอร์ตโฟลิโอและ Banana Republic ซึ่งพยายามตีตื้นความนิยมต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกแบรนด์สามารถดันตัวเองจนมียอดขายเติบโตขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งหมดนี้ Art Peck ซีอีโอของ Gap Inc. ยอมรับว่าร้านค้าใหม่ครึ่งหลังของร้านค้า Gap ทั่วโลกที่มีกว่า 775 สาขาเท่านั้นที่สามารถส่งแรงผลักดันให้แบรนด์ แต่ร้านค้า Gap อีกหลายร้อยแห่งกลับไม่เหมาะหรือไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัท จุดนี้ทำให้ซีอีโอ Gap บอกใบ้ว่าในอนาคต Gap ได้วางแผนปิดร้านที่ “ไม่เหมาะสมกับวิสัยทัศน์” ซึ่งแปลอีกนัยคือบริษัทกำลังเตรียมปิดร้านที่ไม่ทำเงินออกไปโดยเร็ว

ค่าเช่าหฤโหด

หากมองในมุมค่าเช่าร้านบนถนน Fifth Avenue ของนิวยอร์ก ข้อมูลจากบริษัทผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ Cushman & Wakefield พบว่าร้านค้าของ Gap ที่ตั้งอยู่ที่มุมถนน 54th St. นั้นเป็นถนนค้าปลีกที่มีค่าเช่าแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ค่าเช่าบนถนนนี้ถูกแซงหน้าโดยถนน Causeway Bay ในฮ่องกง ซึ่งขึ้นเป็นแชมป์อันดับ 1 อย่างเป็นทางการปี 2018

อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่เห็นชัดเจนในสมรภูมิค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา คือค่าเช่าร้านค้าปลีกที่ลดลงอย่างชัดเจนในนิวยอร์ก หลังจากที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่แล้ว จุดนี้แสดงถึงความไม่ยั่งยืนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์กซึ่งคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีก

ไม่เพียง Gap ยังมีร้านค้าหลายแบรนด์บน Fifth Avenue ที่ทยอยปิดตัวลง เช่น Polo Ralph Lauren ซึ่งม้วนเสื่อปิดร้านไปเมื่อเมษายน 2017 ยังมี Lord & Taylor และ Henri Bendel ทั้ง 2 แบรนด์วางแผนที่ปิดร้านในปี 2019

การปิดร้านของแบรนด์เหล่านี้ไม่ได้แปลว่านิวยอร์กจะไม่เป็นตำแหน่งที่ต้องการสำหรับแบรนด์ดังอีกต่อไป เพราะรายงานชี้ว่า Under Armour แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาดังจะเปิดร้านเรือธงแทนร้านขายของเล่น FAO Schwarz ในปีหน้า เช่นเดียวกับ Nike ที่เปิดตัวร้านใหญ่ไซส์บิ๊กขนาด 68,000 ตารางฟุต ตัวร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านหรู Cartier ห่างเพียงไม่กี่ก้าวจาก Gap.

ที่มา : https://qz.com/1509371/gap-closing-former-flagship-store-at-680-fifth-avenue-in-new-york/

ล่าสุด แฟมิลี่มาร์ท เลือกหันมาโฟกัสโซนมหาวิทยาลัย โดยปรับรูปแบบร้านสาขามหาวิทยาลัยรังสิต 2 ให้เป็นฟอร์แมตใหม่ เพิ่มสินค้าและบริการให้มากขึ้น ตัวร้านยังคงความเรียบง่าย ใส่เรื่องความทันสมัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Fresh Fun & Friendly

สาขานี้ เน้นอาหารสดค่อนข้างมาก โอเด้งสูตรต้นตำรับจากญี่ปุ่นและรสต้มยำ ข้าวกล่องพร้อมทานปรุงสดทุกวัน กาแฟสด Coffee Arigato ผลไม้สด ไก่ทอด Fami Chicken เมนูข้าว แกงไตปลา, ข้าวคั่วกลิ้งไก่, โอนิกิริคั่วกลิ้งไก่ ครองแครงมะพร้าวอ่อน น้ำพริกหนุ่ม และข้าวเหนียวไส้อั่ว เป็นต้น

ส่วนบริการที่เพิ่มขึ้นในสาขานี้ คือ บริการสั่งพรินต์งาน ดั๊บเบิ้ล เอ ฟาสต์ พร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน ผลิตภัณฑ์สำหรับสุขภาพและความงาม ตู้กาชาปอง (Gashapon) พรินต์ รองรับการทำงานของนักศึกษา

พงศ์ ศกุนตนาค รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า นอกจากเพิ่มสินค้าและบริการ ยังเพิ่มความเป็น Community Hub มีทั้งพื้นที่นั่งรับประทานอาหารภายในร้าน เพื่อเป็นจุดพักผ่อน พบปะสังสรรค์ให้นักศึกษามหาวิทยาลัยและลูกค้าทั่วไปในพื้นที่

ส่วนอินไซต์ของนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ข้อมูลว่า ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนในมหาลัยฯ เน้นการทำงานเป็นกลุ่ม เด็กกิจกรรมจะไม่สามารถกำหนดเวลากลับได้แน่นอน การมีร้านสะดวกซื้อรูปแบบใหม่หน้ามหาลัยฯ จึงเป็นสิ่งตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์นักศึกษา ได้มีพื้นที่สำหรับแชร์ไอเดียกับเพื่อนๆ ได้ตลอด 24 ชม. นับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ตัดสินใจเป็นลูกค้าของร้านแฟมิลี่มาร์ทแห่งนี้เป็นประจำ.