Fujifilm – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 27 Feb 2020 18:11:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ตลาดกล้อง ขาลงหนักมาก “ฟูจิฟิล์ม” ฮึดสู้รอบใหม่ เน้นถ่ายวิดีโอ หวังพึ่ง Vlogger-Youtuber https://positioningmag.com/1265659 Mon, 24 Feb 2020 12:10:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1265659 ตลาดกล้องขาลง “หนักมาก” ฟูจิฟิล์มฮึดสู้รอบใหม่ วางกลยุทธ์เน้นคนรุ่นใหม่ชอบถ่ายวิดีโอ เจาะกลุ่ม Vlogger- Youtuber หวั่นกำลังซื้อคนไทยลดลงจากพิษเศรษฐกิจ เเบรนด์กล้อง DSLR เจ้าใหญ่หันมาเเข่งตลาดมิลเลอร์เลส

สิทธิเวช เศวตรพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดกล้องดิจิทัลในประเทศไทย (ไม่รวมยอดขายออนไลน์) ในปี 2562 มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 190,000 ตัว มูลค่าตลาดประมาณ 5,800 ล้านบาท รวมกล้องคอมแพค กล้อง DSLR และกล้องมิลเลอร์เลส โดยมีอัตราการเติบโตติดลบ ประมาณ -29% ในเชิงปริมาณ และติดลบ -28% เชิงมูลค่า 

สำหรับ “กล้องมิลเลอร์เลส” ในปี 2562 ตลาดโดยรวมจำนวนตัว ประมาณ 117,000 ตัว ติดลบประมาณ -29% ในแง่จำนวนตัว และ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,900 ล้านบาท ลดลงประมาณ -20% เมื่อเทียบกับปี 2561

โดยขณะที่ กล้อง DSLR จำนวนตัวประมาณ 3,400 ตัว มีอัตราลดลงถึง -36% เมื่อเทียบกับปี 2561 ขณะที่เชิงมูลค่าประมาณ 1,400 ล้านบาท มีสัดส่วนลดลงถึง -44%

“สาเหตุหลักของการเติบโตที่ลดลงนั้นเกิดจากการที่ผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอล มาเป็นการถ่ายภาพโดยสมาร์ทโฟน เเละคำนึงถึงความง่ายในการใช้งานผ่านทางสั่งการแบบ Easy GUI และความสะดวกในการแชร์ภาพ หรือไฟล์ วิดีโอไปยังโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook , Line และ Instagram”

จากแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงนี้ มีผลโดยตรงต่อดีมานด์ของกล้องดิจิตอลลดต่ำลงที่ไม่แต่เพียงปีนี้ แต่ยังจะส่งผลใปในปีต่อๆ ไปด้วย

สำหรับการสำรวจตลาดล่าสุดในเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์มยังครองมีส่วนแบ่งการตลาด “กล้องมิลเลอร์เลส” ที่ 43% เชิงปริมาณ และ 34% เชิงมูลค่า และในปีนี้ฟูจิฟิล์มตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดของกล้องมิลเลอร์เลสเป็น 50%

ทั้งนี้ ผลสำรวจเผยว่า คนไทยจำนวนมากชอบถ่ายภาพเเบบ “หน้าชัดหลังเบลอ” ชอบภาพที่มีมิติ ไม่แบน ชอบ Live วิดีโอ เเละชอบการใช้งานง่ายพร้อมแชร์โชเชียลได้ทันที

ห่วงกำลังซื้อคนไทยลด ตลาดมิลเลอร์เลสเเข่งดุ 

“ความท้าทายหลักของเราในปีนี้ เป็นเรื่องกำลังซื้อของคนไทยที่ลดลงมากจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวต่อเนื่อง เป็นผลกระทบโดยรวมเพราะเมื่อเหล่าร้านอาหาร ร้านค้าขายของไม่ได้ คนก็ประหยัดเเละใช้จ่ายน้อยลง ก็ส่งผลต่อเราว่าคนก็จะงดการซื้อกล้องในช่วงนี้เช่นกัน” 

สิทธิเวช กล่าวต่อว่า นอกจากความท้าทายจากกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงเเล้ว ฟูจิฟิล์มยังต้องสู้กับผู้ผลิตกล้อง DSLR เจ้าใหญ่ที่กำลังลงมาชิงตลาดมิลเลอร์เลสด้วย เพราะยอดขายกล้องใหญ่ตกลงมากเเละฟื้นคืนยาก ดังนั้นนั้นเราจึงต้องวางกลยุทธ์ใหม่

“เทรนด์ซื้อสมาร์ทโฟนเเทนกล้องใหญ่ มีเเต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราต้องปรับตัวตาม โดยไม่ต้องไปเเย่งลูกค้าในส่วนนั้น เเต่ต้องดึงดูดใจให้คนที่ซื้อสมาร์ทโฟนอยู่เเล้ว อยากซื้อกล้องของเราด้วย”

โดยในปี 2019 กล้องรุ่นที่ขายดีที่สุดของฟูจิฟิล์ม ได้เเก่
อันดับ 1 รุ่น X-A5
อันดับ 2 รุ่น X-A7
อันดับ 3 รุ่น X-T30
อันดับ 4 รุ่น X-T3
อันดับ 5 รุ่น X-PRO3

 จับลูกค้าคนรุ่นใหม่ Vlogger – Youtuber

กลยุทธ์ใหม่ของ “ฟูจิฟิล์ม” ในปีนี้ คือการจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมเป็น Vlogger และ Youtuber ซึ่งมีกำลังซื้อสูงเเม้เศรษฐกิจไม่อำนวย เเละกระแสการถ่ายคลิปวิดีโอเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ซึโตมุ วาตะนาเบ้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การถ่ายวิดีโอเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เห็นได้จากพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นที่เปลี่ยนไปจากที่ชอบถ่ายภาพนิ่งก็เริ่มหันมาถ่ายวิดีโอเกี่ยวกับการเล่าเรื่องราว ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตประจำวันแล้วแชร์ลงโซเชียลมากขึ้น ทำให้เห็นว่าเทรนด์การเติบโตของ Content Creator กำลังมาแรง

“เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์มรุกตลาดกล้องดิจิทัล ด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน มาเป็นการถ่ายภาพด้วยกล้อง X-A7 Smart Mirrorless ที่ให้คุณภาพของไฟล์ภาพเเละเลนส์ที่ดีกว่า ขนาดของเซ็นเซอร์รับภาพที่ใหญ่กว่าหลายเท่าตัว เเชร์คอนเทนต์ลงโซเชียลได้รวดเร็วเเละพกพาสะดวก” 

สำหรับการเจาะกลุ่มลูกค้าของฟูจิฟิล์มนั้นจะครอบคลุมทุก segment ตั้งแต่ระดับผู้เริ่มใช้ และปีนี้ขยายไปยังกลุ่มระดับกลางทีเป็นกลุ่มใหม่อย่าง Vlogger และ YouTuber

ดัน Fujifilm X-T200 บูมกระเเสถ่ายวิดีโอ

ล่าสุดกล้อง Fujifilm X-T200  เปิดราคาในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในคอนเซ็ปต์ “Smart Mirrorless V” เน้นในเรื่องการถ่ายวีดีโอเป็นหลัก ด้วยฟีเจอร์เน้นงานวีดีโอเอาใจสาย Vlogger และ Youtube เช่น  Digital Gimba, HDR Movie , Smart LCD , Film Simulatio, Vdo Slow motion 120fps เป็นต้น 

เเละในที่สุดก็รองรับการต่อไมโครโฟน พอร์ต 3.5mm เเล้ว (รุ่นก่อนๆ เป็น 2.5 mm) หน้าจอ LCD ขนาด 3.5 นิ้ว ระบบทัชสกรีน ปรับพับหมุนจอได้และสามารถถ่ายเซลฟี่ได้ขณะถ่ายวิดีโอ 

  • Fujifilm X-T200 ชุด [Body] ราคา 24,990.-
  • Fujifilm X-T200 [Standard Set] ชุด Kit 15-45mm ราคา 27,990.-
  • Fujifilm X-T200 [Portrait Set] ชุด Kit 15-45 + Lens XC 35mm F2 ราคา 31,990.-
  • Fujifilm X-T200 [VLogger Set] ชุด Kit XF 16mm F2.8 R ราคา 31,990.-
  • Fujifilm X-T200 Lens XC 35mm./F2 ราคา 7,990.-

“เราหวังว่าจะเป็นการปลุกกระแสความต้องการของกลุ่ม Content  Creator ทำให้ตลาดมีการแข่งขันและขยายตัวในอุตสาหกรรมการถ่ายภาพโดยรวม” สิทธิเวชระบุ

ด้านกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกล้อง “Fujifilm X-T200” ในครั้งนี้ ปัทมาพร จันทร์จารุกุลกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บอกว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสื่อสารแบบ Total Communication ทั้งสื่อ Online และ Offline และในครั้งนี้ฟูจิฟิล์มได้มุ่งเน้นการสื่อสารกับกลุ่ม Content creator หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ผ่านคลิปวิดีโอเป็นหลัก

โดยมีการดึงเหล่า Micro Influencer จากหลายแขนงร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์การใช้กล้อง Fujifilm X-T200 เเละโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ยอดนิยมต่างๆ รวมถึงได้มีการเปิดตัว Smart Mirrorless Microsite ซึ่งพัฒนาต่อยอดมาจาก XA7 Microsite เพื่อเป็นแหล่งรวบรวม ข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย

 

]]>
1265659
“กล้องฟิล์ม” คืนชีพ ได้ดารา คนดัง ดันกระแส “ฟูจิฟิล์ม” ปรับกลยุทธ์ ใช้พลังอินฟลูเอนเซอร์ปั้นยอด https://positioningmag.com/1237198 Tue, 02 Jul 2019 14:06:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1237198 โหยหาผลิตภัณฑ์ที่เคยมีมาในอดีตกำลังเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ด้วยพวกเขาเหล่านี้กำลังต้องการสร้างความแตกต่างให้กับไลฟ์สไตล์และเอกลักษณ์ของตัวเอง การใช้สินค้าที่แมสมากๆ จนใครๆ ก็มี จึงไม่ใช่แนวทางที่คนกลุ่มนี้ต้องการ หันไปหาสินค้าที่หาไม่ได้ทั่วไปดีกว่าถึงตอบโจทย์

กล้องฟิล์มก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่คนรุ่นใหม่กำลังหันมาให้ความสนใจ เพราะวันนี้ใครๆ ก็สามารถใช้หยิบกล้องสมาร์ทโฟนขึ้นมากดแชะปรับสีซะหน่อยแล้วอัพขึ้นโซเชียลมีเดียได้แล้ว หากกล้องฟิล์มยังมีมนต์เสน่ห์ตรงที่ไม่สามารถเดาได้เลยว่า รูปที่ถ่ายไปจะเป็นอย่างไร ที่สำคัญยังสามารถเอารูปที่ถ่ายไปอัพอย่างเก๋ๆ ได้ด้วย

เทรนด์นี้เริ่มลั่นชัตเตอร์ราว 2-3 ปีแล้ว โดยเริ่มจากกลุ่มศิลปิน ดารา แล้วค่อยลามไปหากลุ่มอื่นๆ แต่ด้วยราคาของกล้องฟิล์มที่ค่อนข้างสูง ทำให้กลุ่มที่เอื้อมถึงมีจำกัด แต่ด้วยความที่อยากได้จึงหันไปหากล้องอีกชนิดที่เรียกว่ากล้องถ่ายภาพด่วน” (Instant Cameraที่ถ่ายภาพและสามารถปรินต์ภาพได้ทันทีในเวลานั้น

กระแสนี้ถูดจุดพลุด้วยกลุ่มฮิปสเตอร์ซึ่งเด็กแนวในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยมีพฤติกรรมนิยมทุกสิ่งที่นอกกระแส ขณะเดียวกันดารา เช่น ญาญ่าอุรัสยา และอินฟลูเอนเซอร์อย่าง แป้งโก๊ะ ก็ใช้งาน เมื่อแฟนคลับและผู้ที่ติดตามไปเห็นจึงซื้อมาใช้บ้าง โดยในตลาดมีไม่กี่แบรนด์ ได้แก่ ฟูจิฟิล์ม อินสแตกซ์, โพลารอยด์, โลโม และไลก้า

ถ้าจะถามว่าแบรนด์ไหนที่แอคทีฟมากที่สุดและคนรู้จักในวงกว้าง คำตอบคือฟูจิฟิล์ม ที่เริ่มส่งแบรนด์อินสแตกซ์ ลงสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1998 จนถึงปัจจุบัน 20 กว่าปีแล้ว เฉพาะปีที่ผ่านมามียอดขายกว่า 10,020,000 เครื่อง จากการจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยยอดขายจากไทย ติด Top 5 ต่อจาก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และ ฟิลิปปินส์

สภารัตน์ ประดิษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด แผนกโฟโต้อินเมจจิ้ง บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

กล้องอินสแตกซ์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกเรื่อยๆ เพราะวัยรุนมีพฤติกรรมที่ถ่ายรูปเพื่ออัพขึ้นโซเชียลจากรูปที่ถูกปรินต์ออกมาอีกทีหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้กลุ่มผู้ใช้ยังมีวัยทำงาน รวมไปถึงกลุ่มที่แต่งคอสเพลย์ก็นิยมเอามาถ่าย เพื่อนำรูปขายให้กับกลุ่มแฟนคลับทันที

ถึงดูจะไปได้สวยแต่ตลาดนี้มีข้อจำกัดตรงที่ยังเล็กอยู่ ที่ผ่านมาฟูจิฟิล์มเองก็พยายามกระตุ้นตลาดผ่านการออกสินค้าใหม่มาโดยตลอด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ก็ได้ออก Instax Square SQ10 เป็นการแตกเซ็กเมนต์ใหม่ วางจุดยืนเป็นกล้องถ่ายภาพด่วนแบบไฮบริด ระหว่างอินสแตกซ์ผสมกับดิจิทัล มีจอ LCD ดูภาพก่อนปรินต์ได้

ในปีนี้ได้มีการต่อยอดโดยออกกล้องรุ่นใหม่ “Instax mini LiPlay” มีจุดเด่นตรงที่นำเทคโนโลยีบันทึกเสียงเข้าไปในภาพได้โดยสามารถฟังข้อความเสียงที่บันทึกผ่านการสแกน QR code และสามารถสั่งกดชัตเตอร์ผ่านสมาร์ทโฟนได้ มีให้เลือก 3 สีในราคา 5,490 บาท

ขณะเดียวกันโอกาสย่อมมาจากความท้าทายสภารัตน์ระบุว่าความท้าทายสำหรับการทำตลาดกล้องอินสแตกซ์มี 2 ข้อด้วยกัน 1.ทำให้ผู้ลูกค้ารู้สึกว่าฟิล์มราคา 270 – 310 ต่อกล้อง 10 ใบ ไม่ได้แพงขนาดนั้นเพราะราคานี้ลดลงมาจาก 350 บาทแล้ว และ 2.ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกของมันต้องมี

เพื่อแก้โจทย์ทั้ง 2 ข้อฟูจิฟิล์มจึงใช้งบกว่า 30 ล้านบาททำตลาดภายใต้แคมเปญ #LiveLifePlay โดยเปลี่ยนกลยุทธ์จากมิวสิกมาร์เก็ตติ้งที่ใช้ BNK48 มาโปรโมตในปีที่ผ่านมา เป็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์กว่า 30 รายจาก 7 กลุ่มได้แก่ ศิลปะ ท่องเที่ยว แฟชั่น บิ้วตี้ ครอบครัว อาหาร และสัตว์เลี้ยง เพื่อเจาะแยกกันไปในแต่ละพฤติกรรมผู้บริโภค

ยุทธวิธีนี้ฟูจิฟิล์มเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2019 จะมียอดขายจากกลุ่มรุ่นใหม่ 10,000 ตัว และทำให้ภาพรวมมียอดขายทั้งหมด 100,000 ตัว เติบโตจากปี ก่อน 30% ซึ่งมียอดขาย 70,000 ตัว จากกล้องอินสแตกซ์ 10 กว่ารุ่นที่วางจำหน่าย

]]>
1237198
Xerox ล้มดีลมูลค่า 6,100 ล้านดอลล์ เปลี่ยนใจไม่ขายบริษัทให้ Fujifilm https://positioningmag.com/1170039 Mon, 14 May 2018 12:42:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1170039 ซีร็อกซ์ (Xerox) ประกาศยกเลิกแผนควบรวมกับฟูจิฟิล์ม (Fujifilm) โดยระบุว่าจะยกเลิกการขายบริษัทด้วยมูลค่า 6,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่ Fujifilm ในญี่ปุ่น สื่อฟันธงเป็นการตัดสินใจหลังจากที่ Xerox ได้ตกลงกับนักลงทุนนักเคลื่อนไหวอย่าง คาร์ล ไอคาห์น (Carl Icahn) และดาร์วิน ดีสัน (Darwin Deason)

หากคำนวณสัดส่วนการถือหุ้นของ Carl Icahn และ Darwin Deason พบว่า ทั้งคู่เป็นเจ้าของหุ้น 15% ใน Xerox โดยทั้ง 2 ต่อต้านข้อตกลงมูลค่า 6,100 ล้านเหรียญสหรัฐ มาตั้งแต่ต้น บนเหตุผลว่า มูลค่าดีลนี้ต่ำเกินไป หรือ undervalued เมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง

การประกาศล้มดีลนี้ ถือเป็นบทสรุปของการต่อสู้ยาวนานหลายเดือน อย่างไรก็ตาม Fujifilm ได้โต้แย้งว่า การยกเลิกนี้ถือเป็นการตัดสินใจฝ่ายเดียวของ Xerox พร้อมกับระบุว่า Fujifilm ไม่เชื่อว่า Xerox มีสิทธิตามกฎหมายที่จะยุติข้อตกลงระหว่าง 2 บริษัทที่เกิดขึ้นแล้ว

Fujifilm ระบุว่า กำลังตรวจสอบทางเลือกทั้งหมดที่บริษัทสามารถดำเนินการได้ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายด้วย 

ในมุมของ Xerox บริษัทสัญชาติอเมริกัน ระบุว่าจะไม่ดำเนินการตามข้อตกลงที่เกิดขึ้น เพราะ “ความไม่ชัดเจนของข้อมูล” ระหว่างผลการตรวจสอบในบริษัทฟูจิซีร็อกซ์ Fuji Xerox ที่ทั้งคู่ร่วมทุนกันทำธุรกิจในเอเชีย และรายงานก่อนหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ เบื้องต้น นักลงทุน Icahn ยอมรับว่ารู้สึกยินดีที่ Xerox ได้ยุติโครงการควบรวมกับ Fujifilm

การประกาศยุติดีลนี้มีส่วนเป็นประเด็นการเมืองในองค์กร เพราะก่อนหน้านี้ Xerox สั่งปลดซีอีโอเจฟฟ์ เจคอปสัน (Jeff Jacobson) ตั้งแต่ต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ ขณะที่คณะกรรมการบริหาร 6 คนก็ถูกขับออกไปเพื่อปูทางให้ 2 ผู้บริหารที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Icahn ได้นั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานบริษัทต่อไป

จุดนี้ Xerox บริษัทผู้ผลิตเครื่องพิมพ์และเครื่องถ่ายเอกสารสัญชาติอเมริกัน ระบุในแถลงการณ์ว่ามีผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการใหม่ 5 คน ซึ่งจะบริหารระหว่างที่บริษัทจะดำเนินการในนโยบายใหม่ โดยมีแนวโน้มเป็นไปได้ว่า Xerox จะเปิดประมูลบริษัท และจะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหม่สำหรับเริ่มต้นกระบวนการประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับความคุ้มค่าสูงสุดต่อไป.

Source

]]>
1170039