วงการอสังหาริมทรัพย์มีอะไรให้ตื่นเต้นขึ้นมาอีกแล้ว หลังจากที่ทางแสนสิริสลัดภาพจากเป็นแค่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย รุกตลาดรีเทลมอลล์เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการพัฒนาเองทั้งหมดในชื่อ “ฮาบิโตะ” เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาด 10,000 ตารางเมตร มีมูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท ภายในประกอบด้วยร้านอาหาร ธนาคาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ Co-working Space เหมือนกับคอมมูนิตี้มอลล์ทั่วไป

ฮาบิโตะตั้งอยู่บนพื้นที่ T77 หรือในซอยสุขุมวิท 77 ที่โซนนั้นเรียกว่าเป็นเวิ้งของแสนสิริก็ว่าได้ เพราะมีโครงการรวมทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และกำลังจะก่อสร้างอีก 1 โครงการ ทำให้มีลูกบ้านอยู่ราว 5,000 ครอบครัว

ความสำคัญของฮาบิโตะที่ทำให้แสนสิริปั้นขึ้นมานั้น นอกจากจะเป็นการเพิ่มสีสันให้กับวงการอสังหาฯ ที่ดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา แสนสิริต้องการสร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ สำหรับลูกบ้านเพื่อตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และที่สำคัญก็เพื่อต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ สำหรับโครงการที่ยังขายไม่หมด ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

อุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดนิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราไดใช้เวลาราว 2 ปีในการศึกษาตลาด และทำวิจับพฤติกรรมผู้บริโภค พร้อมทั้งศึกษาดูงานคอมมูนิตี้มอลล์ในประเทศญี่ปุ่น พบว่าที่นั่นมีรีเทลมอลล์เกิดในหมู่บ้านเยอะ ในไทยยังไม่มี และในพื้นที่ T77 ก็มีศักยภาพเพราะมีลูกค้าอยู่เยอะ ทำให้ต้องทำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และในโซนนี้ยังไม่มีคอมมูนิตี้มอลล์เกิดขึ้นด้วย”

ที่นี่ได้เก็บค่าเช่า 750-1,500 บาท/ตารางเมตร หรือคิดเป็นรายได้รวม 40 ล้านบาท/ปี ตอนนี้มีผู้เช่าครบแล้ว 90% ซึ่งอีก 10% คาดว่าจะได้ครบภายใน 1-2 เดือนนี้ พร้อมตั้งเป้าทราฟิกผู้ใช้บริการราว 5,000 คน/วัน

ในอนาคตแสนสิริอาจจะนำโมเดลนี้ไปต่อยอดกับโครงการอื่นๆ ก็ได้ โดยมีการคัดเลือกทำเลที่ว่าต้องมีกลุ่มลูกค้าในละแวกนั้นราว 3,000-5,000 ครอบครัว หรือไม่ถ้าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวแล้วมีทำเลติดถนนใหญ่ใหญ่ก็น่าสนใจ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีแผนในการพัฒนาโปรเจกต์ต่อไป