Haidilao – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 31 Aug 2020 04:52:20 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Haidilao หม้อไฟจีนชื่อดัง กำไรร่วง 4,370 ล้านบาท เซ่นพิษ COVID-19 https://positioningmag.com/1294649 Mon, 31 Aug 2020 04:19:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294649 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไหตี่เลา (Haidilao) ร้านหม้อไฟชื่อดังของจีน มีกำไรสุทธิลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ที่ทำให้จำนวนลูกค้าลดลง

รายงานทางการเงินของไหตี่เลา มีกำไรสุทธิลดลงถึง 965 ล้านหยวน หรือประมาณ 4,370 ล้านบาท หรือลดลงมากกว่า 200% เมื่อเทียบปีต่อปี ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน

ส่วนเรื่องของรายได้ ไหตี่เลามีรายได้ลดลง 16.5% เมื่อเทียบปีต่อปี เหลือเพียง 9,760 ล้านหยวน หรือประมาณ 44,200 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกัน

ท่ามกลางภาวะถดถอยของการบริการร้านอาหาร รายได้จากธุรกิจอาหารซื้อกลับบ้านของไหตี่เลาเติบโตขึ้น 124% เมื่อเทียบปีต่อปี ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ คิดเป็น 4.2% ของรายได้ทั้งหมด

]]>
1294649
เจาะเส้นทางเถ้าแก่ Zhang Yong มหาเศรษฐีหม้อไฟที่เพิ่งเทขายหุ้น Haidilao https://positioningmag.com/1279012 Sun, 17 May 2020 16:28:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1279012 Photo : Haidilao founder Zhang Yong GRAHAM UDEN, Haidilao Singapore

จาง หยง (Zhang Yong) เคยเป็นข่าวดังทั่วโลกช่วงปีที่แล้วเมื่อหุ้น “ไห่ตี้เหลา” (Haidilao) พุ่งทะลุเพดานจนทำให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของสิงคโปร์ ล่าสุดปี 2020 จางเป็นจุดสนใจอีกครั้งเมื่อตัดสินใจเทขายหุ้น Haidilao มูลค่ารวม 1,560 ล้านเหรียญฮ่องกงในวันเดียว กลายเป็นปรากฏการณ์ว่าจางคือบุคคลที่มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น 6,456 ล้านบาทในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

เงินจำนวนนี้เป็นผลมาจากการขายหุ้น Haidilao ราว 0.89% ที่จางและภรรยาถืออยู่ให้กับ Goldman Sachs ตามประกาศชี้ว่าการขายนี้เกิดขึ้นเนื่องจากราคาหุ้นของ Haidilao พุ่งขึ้นเกือบ 20% สู่ระดับ 35.1 เหรียญฮ่องกง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดของ Covid-19 ที่ส่งผลกระทบตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2020 โดยหลังการประกาศเทขายหุ้น หุ้น Haidilao ก็ร่วงลง 2.56% สู่ระดับ 34.2 เหรียญฮ่องกงเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

Photo : Haidilao Korea

SP NP ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมและ LHY NP ก็ขายหุ้นใน Haidilao จำนวน 47 ล้านหุ้น ที่ราคา 33.2 เหรียญฮ่องกงต่อหุ้นในสัปดาห์เดียวกัน โดย LHY NP นั้นเป็นบริษัทที่หนุนโดยชู ปิง (Shu Ping) ภรรยาของจาง หยง ผู้ร่วมก่อตั้งที่ควบตำแหน่งประธานและหัวหน้าผู้บริหารของ Haidilao ในขณะที่ชิ หยงฮง (Shi Yonghong) ผู้ร่วมก่อตั้งอีกรายและภรรยาชื่อ หลี่ เหลียนยาง (Li Liyanyan) ก็อยู่ในกลุ่ม LHY NP เช่นกัน สัดส่วนการถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัท จะลดลงเหลือบริษัทละ 7.75% 

สรุปแล้ว จางและภรรยาจะถือหุ้น Haidilao โดยตรง 57.23% ในบริษัท NP United ซึ่งจะยังคงเป็นเจ้าของ Haidilao ที่ถือหุ้น 34% ของทั้งหมด แม้ว่า Haidilao จะมีแถลงการณ์แสดงความมั่นใจว่าแนวโน้มธุรกิจของบริษัทจะไปได้สวยในระยะยาว และย้ำว่าขณะนี้ Haidilao ค่อยๆเปิดสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมโดยที่ยังคงมีผู้มารอคิวไม่ต่ำกว่าชั่วโมงเช่นเดิม

แต่การขายหุ้นถือเป็นการส่งสัญญาณว่าผู้ถือหุ้นหวั่นใจกับความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะในมุมผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้เกิดการเทขายหุ้นหลายบริษัทที่ปักหลักทำธุรกิจในจีน เช่น SK E&S Co. Ltd. บริษัทเกาหลีใต้ก็ขายหุ้นที่เหลือทั้งหมดใน China Gas Holdings เมื่อกลางเมษายนที่ผ่านมา

ชีวิตเถ้าแก่ Haidilao ไม่มีง่าย

คำว่า “หยง ในภาษาจีนกลางแปลว่าความกล้าหาญ จาง หยง ผู้ก่อตั้ง Haidilao (อายุ 49 ปีและภรรยา ชู ปิง (50 ปีแสดงความกล้าหาญด้วยการเปลี่ยนสัญชาติเป็นคนสิงคโปร์ในปี 2018 ก่อนจะไปติดอันดับท็อป 3 เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของสิงคโปร์บ้านใหม่

ชาวสิงคโปร์ที่ร่ำรวยที่สุดรายนี้เกิดและเติบโตในเขตชนบทของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน จางเคยเล่าถึงวัยเด็กให้นักศึกษาจีนฟังว่ามีแต่ความยากจนและความหิวโหย ผู้คนที่บ้านเกิดเป็นชาวชนบทที่เชื่อว่าถ้ารับเงินจากใครโดยที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ คนนั้นถือว่าเป็นคนโกหก

ไอเดียก่อตั้ง Haidilao ผุดขึ้นหลังจากจางเข้าไปรับประทานหม้อไฟแถวบ้านแล้วรู้สึกไม่ปลื้มก็จริง แต่แนวทางบริหารคนที่ Haidilao นั้นมาจากชีวิตจริงของจางตั้งแต่ช่วงอายุ 14 ปี จางยอมรับว่า ”ระบบคุณค่า” ที่ตัวเขาค้นพบในวัยละอ่อน เป็นเหตุผลที่ทำให้เจางเข้าใจความคิดของพนักงาน Haidilao ในจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวจากเมืองในชนบทที่มีการศึกษาจำกัด

เมื่อเป็นวัยรุ่น จางเข้าห้องสมุดมณฑลเพื่อศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองจากการอ่านหนังสือต่างประเทศ ซึ่งเป็นของหายากในประเทศคอมมิวนิสต์อย่างจีน การอ่านนี้เกิดขึ้นเพื่อหลบหนีอาการเข้าสังคมไม่เป็นของจางในช่วงวัยรุ่น จางเล่าว่าเขากังวลที่เสียงของตัวเองยังไม่แตกหนุ่มเหมือนเด็กอายุ 14 คนอื่น ทำให้เขาไม่มั่นใจในตัวเองและประหม่าจนไม่กล้าคุยกับผู้หญิง และแม้อายุปูนนี้ จางก็ยังไม่รู้วิธีเต้นรำแม้แต่นิดเดียว

ช่วงปี 1980 ห้องสมุดของมณฑลเต็มไปด้วยหนังสือโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง แต่มีการนำหนังสือเข้ามาใหม่จากต่างประเทศระหว่างปี 1983 และ 1984 รวมถึงหนังสือประวัติศาสตร์และบทกวีที่เขียนโดยนักเขียนชื่อดังชาวอินเดีย “รพินทรนาถ ฐากุร” หนังสือเล่มนี้เองที่ทำให้เขาตาสว่าง พบว่าตัวเองไร้ความรู้และอับทึบ

จางตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนมัธยม แล้วเข้าศึกษาที่โรงเรียนอาชีวศึกษาในเฉิงตู จากนั้นจึงทำงานเป็นช่างเชื่อมในโรงงานแทรคเตอร์ของรัฐบาลเป็นเวลา 6 ปี รับรายได้ 93 หยวน หรือประมาณ 400 บาทต่อเดือน ก่อนจะได้มีโอกาสรับประทานอาหารที่ร้านหม้อไฟครั้งแรก

วันนั้นจางนึกอะไรไม่รู้ ตัดสินใจที่จะแก้หิวที่ร้านอาหารแทนที่จะเป็นโรงอาหารของบริษัทเหมือนปกติ แต่ปรากฏว่าอาหารไม่ได้เรื่อง และพนักงานก็หยาบคาย เหตุการณ์นี้ทำให้จางเชื่อมั่นในคุณค่าของงานบริการลูกค้าเหนือสิ่งอื่นใด

ก้าวแรกของ Haidilao

หลังจากมีเรื่องไม่เห็นด้วยกับนายจ้าง จางตัดใจลาออกจากงานแล้วยืมเงินจากเพื่อน 3 คน รวมถึงภรรยาของเขาเพื่อเปิดร้านอาหารเล็ก 

จาง รวมเงินได้ประมาณ 10,000 หยวน ทุกคนเป็นนักลงทุนตัวจริงใน Haidilao เพราะจางไม่มีเงินติดตัวเพื่อลงทุนใน Haidilao เลย จางสัญญากับทุกคนว่าเงินก้อนนี้จะเติบโตเป็น 150,000 หยวน (ราว 750,000 บาทภายใน 5 ปี แล้วสาบานว่าถ้าทำไม่ได้ ก็จะชดเชยเงินคืนให้ทุกคน

เม็ดเงินนี้ถือว่าสูงมากในช่วง 20 ปีก่อน ดังนั้นทุกคนจึงตกใจเล็กน้อย และเงินกู้นี้เองที่ทำให้ภรรยาและเพื่อนอีก 2 คนคือชิ หยงฮง และหลี่ เหลียนยาง กลายเป็นเศรษฐีในเวลาต่อมา

จางดึงดูดลูกค้าเข้าร้านขนาด 4 โต๊ะของเขาด้วยการมอบขนมและส่วนลดฟรี และรับฟังพูดคุยกับลูกค้าอย่างเหมาะสม ความไม่รู้วิธีการปรุงเมนูหม้อไฟในเวลานั้นทำให้จางเน้นที่สุดยอดงานบริการมากกว่าสิ่งอื่น เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะกลับมารับประทานอาหารที่ร้านอีก 

ไม่กี่เดือน กิจการ Haidilao แผ่ขยายจนเปิดร้านสาขา 2 ได้ 4 ปีต่อมา Haidilao เปิดสาขาที่ 3 ในซีอาน แต่กลับขาดทุนยับเยิน 300,000 หยวนในครึ่งปี จางยอมรับว่าความล้มเหลวนั้นมาจากการไม่ได้เข้าไปดูแลร้านใหม่อย่างใกล้ชิด และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จางก็ไม่เคยร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นเพื่อเปิดร้าน Haidilao เลย

จางบอกว่าตัวเขาไม่มีกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพียงแต่ต้องการหนีความยากจนที่กัดกินวัยเด็กอย่างร้ายกาจ จางเล่าว่าเพื่อนในวัยเด็กของเขาถูกแม่แท้ๆ วางยาพิษแล้วฆ่าตัวตายตามเพราะสิ้นหวังที่พ่อทิ้งครอบครัวไป เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อจาง ที่มีมุมมองต่อชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล

จางบอกว่าในเวลานั้น ตัวเขาคิดเพียงว่าต้องการเปลี่ยนโชคชะตาที่เกิดมาเป็นคนจน ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ความคิดนี้กลายเป็นวิสัยทัศน์และค่านิยมของ Haidilao นั่นคือ “จงเปลี่ยนชีวิตคุณด้วยสองมือของคุณเอง

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จางต้องการหารายได้เป็นสิ่งแรก ระหว่างปี 2011-2012 จางกลับไปเรียนและจบ MBA 2 สาขาจากวิทยาลัย Cheung Kong ในปักกิ่ง ซึ่งจากข้อมูลผู้บริหาร Haidilao ระบุว่าภรรยาของจางก็กลับไปเรียนและได้รับวุฒิ MBA 2 สาขาจาก 2 สถาบัน

ในที่สุด ชื่อเสียงของ Haidilao เรื่องการบริการที่เหลือเชื่อทำให้ลูกค้าอยากทดลองลิ้มรส ทั้งการทำเล็บ (มือฟรีการแจกผ้าเช็ดหน้าร้อน และมีผ้าอนามัยให้บริการในห้องน้ำหญิง

Photo : Haidilao Singapore

ปีทอง Haidilao

ผลคือปี 2018 เชนหม้อไฟ Haidilao เปิดร้านอาหารใหม่ทุก 3 วัน จางเชื่อว่าการขยายตัวทั่วโลกนี้เกิดจากความอยากรู้ของชาวต่างชาติในวัฒนธรรมและอาหารจีน จางยังให้เครดิตความสำเร็จของ Haidilao ว่าเป็นเพราะนโยบายส่งเสริมบุคลากรภายใน และการให้ค่าแรงพนักงานอย่างยุติธรรม ตามปริมาณงานของทุกคน

จางย้ำว่า Haidilao จะส่งเสริมพนักงานให้มีบทบาทด้านการจัดการ และจะไม่จ้างบุคลากรภายนอกองค์กรมาบริหาร เช่นกรณีของ Yang Xiaoli ซีอีโอของ.Haidilao ที่เริ่มต้นการทำงานด้วยฐานะพนักงานเสิร์ฟ

พนักงาน Haidilao จะได้รับค่าแรงสูงกว่าร้านทั่วไป ยังมีสิทธิพิเศษ เช่น ที่พักฟรี โครงการฝึกงาน ซึ่งส่งผลให้อัตราการลาออกต่ำมาก ไม่เกิน 10%

ยิ่งในเวลาที่จำนวนลูกค้า Haidilao เพิ่มสูงขึ้น จางมองว่าเป็นเรื่องยุติธรรมที่จะเพิ่มเงินเดือนเนื่องจากพนักงานมีภาระงานมากขึ้น เรียกว่าเข้าใจหัวอกพนักงานเต็มที่

ความร่ำรวยของจางพุ่งปรอทแตกเมื่อ Haidilao สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในเดือนกันยายน 2018 บริษัทสามารถระดมทุนได้ 963 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะตัวเลขที่บันทึกว่าบริษัทมียอดขาย 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 

จางย้ายไปพำนักที่สิงคโปร์ในปีเดียวกัน ความมั่งคั่งโดดเด่นทำให้รัฐบาลจีนไม่พอใจที่นักธุรกิจอพยพออกนอกบ้านเกิด ซึ่งก่อนที่จะย้ายถิ่นฐาน จางติดอันดับเศรษฐีเบอร์ 19 ที่รวยที่สุดในจีน ในปี 2018 นี่เองที่ชื่อ Haidilao ถูกยกเป็นเชนภัตตาคารที่ยิ่งใหญ่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ

หลังจากย้ายไปอยู่ดสิงคโปร์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของจางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าทรัพย์สินรวมมีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ข่าวทรัพย์สินมหาศาลของจางบนเวทีโลกทำให้ชาวเน็ตจีนประหลาดใจ เนื่องจากมีน้อยคนที่ทราบว่าจางอพยพออกมาจากจีนแล้ว โดยชาวจีนหลายคนเรียกร้องให้ร่วมกันคว่ำบาตร Haidilao เพราะรู้สึกเสียใจที่ผู้ก่อตั้งทิ้งบ้านเกิดที่ทำให้เขาร่ำรวยขึ้นมา

ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เชนหม้อไฟ Haidilao เติบโตจากร้านเดียวในบ้านเกิด กลายเป็นร้านหม้อไฟไฮโซที่มีสาขา 460 แห่งทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งในภาษาจีนกลาง Haidilao หมายถึงการคว้าสมบัติที่ก้นทะเล ขาไพ่นกกระจอกในมณฑลเสฉวนยังใช้คำนี้กับผู้โชคดีที่เล่นชนะรอบวงโดยใช้ไพ่ใบสุดท้าย ตรงนี้จางเคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีจีน ว่าเลือกชื่อนี้หลังจากภรรยาทำคะแนน Haidilao ได้ 

สำหรับ Haidilao นั้นถือว่าเกมยังไม่จบ และไม่ว่าเศรษฐกิจยุคหลังโควิดจะทำให้อนาคตของ Haidilao เป็นเช่นไร แต่เชื่อว่ามหาเศรษฐีหม้อไฟอย่างจาง ย่อมไม่หมดหวังที่จะทำคะแนน Haidilao เช่นกัน (ถึงแม้ว่าจะชิงเทขายหุ้นบางส่วนไปแล้วก็เถอะ).


ที่มา : 

]]>
1279012
จับตาค่าชาบูหลังยุค COVID-19 หม้อไฟ Haidilao ในจีนขึ้นราคา หลังกลับมาเปิดอีกครั้ง https://positioningmag.com/1272886 Sun, 12 Apr 2020 15:58:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1272886 เชนฮอตพ็อตหม้อไฟยอดนิยม Haidilao กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในประเทศจีนหลังจากที่หยุดให้บริการเพื่อสกัดกั้นเชื้อ COVID-19 แต่ปรากฏว่าลูกค้าหลายคนช็อกสุดขีดเพราะราคาอาหารที่สูงขึ้น ทำให้ Haidilao ถูกวิจารณ์จนเกิดเป็นกระแสต่อต้านชวนกันคว่ำบาตร ไม่เห็นด้วยที่บริษัทปรับขึ้นราคาในช่วงหลังจากที่ทุกคนอดรับประทานอาหารที่ร้านมานาน

Haidilao ไม่ใช่รายเดียวที่เลือกวิธีขึ้นราคาในภาวะวิกฤตที่บริษัทต้องพยายามอยู่รอดให้ได้หลังจากเงินสะพัดหดหาย ยังมีเชนร้านอาหารอย่าง Xibei ที่ตัดสินใจขึ้นราคาจนถูกต่อต้านพร้อมคำขู่คว่ำบาตรเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทใหญ่ตัดใจออกมาขอโทษลูกค้าที่ขึ้นราคาและยอมรับว่าการเลือกวิธีขึ้นราคาเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของทีมผู้บริหาร

ทั้ง Haidilao และ Xibei จำใจต้องให้คำมั่นว่าจะกลับไปอิงราคาเดิมในช่วงก่อนโควิด-19 แต่ต้องขอเวลาดำเนินการถึง 26 เมษายนนี้

จำเป็นต้องขึ้นราคา?

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มกราคม Haidilao ต้องปิดร้านอาหาร 600 แห่งทั่วประเทศจีน จนเริ่มกลับมาเปิดร้านอีกครั้งในวันที่ 12 มีนาคม ปรากฏว่าแม้ลูกค้าจะคิดถึงบรรยากาศการรับประทานบุฟเฟต์ที่ร้านแบบสุดเพลิน แต่จำนวนไม่น้อยก็ประกาศบนโซเชียลว่าจะไม่เดินเข้าร้าน Haidilao เพราะราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นจากที่ราคาสูงอยู่แล้ว

การขึ้นราคาของ Haidilao ทำให้เกิดข้อโต้แย้งบนโลกออนไลน์ เบื้องต้นตัวแทนของ Haidilao ชี้แจงเรื่องนี้กับสื่อมวลชนจีนว่า การขึ้นราคาจะถูกจำกัดอยู่ในช่วง 6% ของราคาก่อนยุคโควิด โดยยืนยันว่าบริษัทจะรักษาระดับราคาที่เพิ่มขึ้นไว้ไม่เกิน 6% ซึ่งแต่ละสาขาสามารถตัดสินใจได้เองว่าจะขึ้นราคาตามสถานการณ์ในท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่มากน้อยแค่ไหน

หนึ่งในปัญหาที่ Haidilao เผชิญ คือ ทางการจีนยังคงจำกัดจำนวนผู้เข้ารับประทานอาหารในร้าน ผลคือแม้ร้าน Haidilao จะเปิดทำการแล้ว แต่ก็รับลูกค้าได้จำกัด Haidilao รู้ดีว่าภาวะนี้ไม่ดีแน่ จึงพยายามดิ้นด้วยการเสนอส่วนลด 15-31% สำหรับลูกค้าสั่งซื้ออาหารออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา แต่แนวทางนี้ช่วยไม่ได้มาก เห็นได้ชัดเมื่อบริษัทวิจัย China Securities Co. ประเมินว่าโควิด-19 จะทำให้ Haidilao ขาดทุน 5.04 พันล้านหยวน หรือ 716 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แน่นอนว่า Haidilao ไม่ได้เป็นเชนร้านอาหารรายเดียวที่ปรับขึ้นราคา Xibei ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหารจานก๋วยเตี๋ยวชั้นนำก็ขึ้นราคาอาหารด้วย ทั้งหมดนี้สะท้อนชัดว่าอุตสาหกรรมอาหารของจีนกำลังประสบภาวะฝืดเคืองอย่างมาก เนื่องจากร้านอาหารเกือบทุกแห่งปิดตัวลงในช่วงตรุษจีนที่ไวรัสแพร่ระบาด ทั้งที่ปกติแล้วจะเป็นช่วงเวลาที่ทำกำไรได้มากที่สุดของปี

เงินสะพัดที่ขาดหายไปทำให้ร้านค้าเงินขาดมือ สถาบันวิจัย Evergrande คาดการณ์ว่าเม็ดเงินที่หายไปจากอุตสาหกรรมอาหารจีนจะเป็นเงินก้อนใหญ่กว่า 500,000 ล้านหยวน ภาวะนี้เกิดขึ้นเพราะร้านอาหารต่างเตรียมสั่งอาหารจำนวนมากสำหรับช่วงตรุษจีน แต่ต่อมาก็ต้องนำออกขายในราคาต่ำ ในขณะเดียวกัน ก็ยังต้องสู้ราคากับร้านอาหารที่เปิดบริการรับส่งมากขึ้นในช่วงเวลาโควิด-19 ระบาด

Jia Guolong ประธานและผู้ก่อตั้ง Xibei กล่าวว่าร้านค้า Xibei กว่า 400 สาขาที่ปิดตัวลง ทำให้ Xibei สูญเสียรายได้ช่วงตรุษจีนมากกว่า 700-800 ล้านหยวน ตัวเลขนี้สอดคล้องกับสถิติของสำนักสถิติแห่งชาติของจีน ที่ระบุเมื่อวันที่ 16 มีนาคมว่า ยอดขายของธุรกิจอาหารลดลง 43.1% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 63

สายป่านสั้น แต่ก็ต้องมองระยะยาว

รายงานจากสมาคม China Chain Store & Franchise Association (CCFA) พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 บริษัทกว่า 5% ในกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าไม่มีเงินสดเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน ขณะที่ 79% บอกว่าจะไม่สามารถดำเนินการต่อเนื่องหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 3 เดือน และมีเพียง 16% เท่านั้นที่มีสายป่านเป็นเงินสดสำรองที่สามารถเปิดร้านต่อได้นานกว่า 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม แม้การขึ้นราคาอาหารจะทำให้ร้านมีโอกาสเพิ่มเงินหมุนให้ธุรกิจ แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับ Haidilao และ Xibei แปลได้ว่าการขึ้นราคาอาหารไม่ใช่ทางออกที่ลูกค้าทุกกลุ่มรับได้ เมื่อเทียบกับ McDonald’s ที่ดึงคนจีนเข้าร้านได้ด้วยโปรโมชันลดครึ่งราคาสำหรับสมาชิก ทำให้ชาวจีนแฮ่ไปซื้อดีลเมื่อวันที่ 6 เมษายนจนแอปพลิเคชันล่ม

ประเด็นนี้ Jiang Zezhong ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย Capital University of Economics and Business อธิบายว่าต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ทำให้บริษัทหรือร้านอาหารสามารถขึ้นราคาสินค้าได้ แต่ต้องขึ้นราคาอย่างเหมาะสมและควรรักษาราคาดั้งเดิมเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค เบื้องต้นเชื่อว่าการเริ่มกลับมาทำงานและการผลิตของผู้คนในประเทศจีน จะทำให้การบริโภคในตลาดจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงและแข็งแกร่งมาก ส่งให้ยุคหลังโควิดเป็นเวลาที่ดีสำหรับบริษัทในการเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ รวมถึงความภักดีของลูกค้า

ดังนั้นการปรับราคาจึงสร้างความเสียหายต่อความกระตือรือร้นของผู้บริโภค ส่วนนี้เชื่อว่าในช่วงหลังโควิด การควบคุมนโยบายของรัฐบาลจะมีบทบาทในการเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารสามารถเอาชนะความยากลำบากและยืนหยัดได้ ซึ่งหากกลับมามองที่ประเทศไทย ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการควบคุมลักษณะนี้เกิดขึ้นเหมือนตลาดจีนหรือไม่

สำหรับ Haidilao ขณะนี้เชนฮอตพ็อตได้รับความช่วยเหลือจากภาคการเงินแล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์ China CITIC Bank สาขาปักกิ่งและ Baixin Bank ได้ให้วงเงินสินเชื่อแก่ Haidilao เป็นจำนวน 2.1 พันล้านหยวน คาดว่าเงินทุนนี้จะต่อยอดสายป่านให้ Haidilao ได้อีกระยะ โดยไม่ต้องเพิ่มราคาในเร็ววัน.

]]>
1272886
Haidilao เสิร์ฟไวน์! ต่อยอดเปิดร้านหม้อไฟเพิ่ม 74% ทะลุ 593 สาขาทั่วโลก https://positioningmag.com/1246124 Thu, 12 Sep 2019 04:28:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1246124 จับเทรนด์ Haidilao แบรนด์หม้อไฟหม่าล่าจากจีนที่กำลังเป็นกระแสกรุ่นในเมืองใหญ่ทั้งไต้หวัน นิวยอร์ก รวมถึงกรุงเทพฯ วันนี้ Haidilao ทำสถิติเปิดร้านหม้อร้อนทะลุ 593 สาขา เพิ่มขึ้น 74% เมื่อเทียบกับปี 2018 ส่งให้มีบทความและวิดีโอที่รีวิวร้าน Haidilao เพิ่มขึ้นบนโซเชียลมากขึ้น 535% หรือ 5 เท่าตัว ล่าสุด Haidilao ไม่หยุดสร้างสรรค์ก้าวใหม่ ผ่าจับมือกับโรงกลั่นไวน์ ผุดไวน์ตัวแรกที่ปรับสูตรมาเพื่อจำหน่ายที่ Haidilao โดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม Haidilao นาทีนี้ยังมีกระแสต้านในจีนแผ่นดินใหญ่ ชาวเน็ตแดนมังกรหลายคนลุกขึ้นมารณรงค์ให้คว่ำบาตร Haidilao เพราะผู้ก่อตั้งย้ายสัญชาติไปเป็นคนสิงคโปร์ โดยผู้ก่อตั้ง Haidilao อย่าง Zhang Yong สามารถขึ้นครองแชมป์คนสิงคโปร์ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ มูลค่าทรัยพ์สินเบาๆ 19,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

เฉพาะครึ่งปีแรก Haidilao เปิดร้านใหม่ราว 130 สาขาทั่วโลก ทำให้จำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 593 จากที่เคยมี 466 สาขาในปี 2018 (สถิติมิถุนายน 2019) ในจำนวนนี้มี 43 แห่งในไต้หวัน ฮ่องกง และประเทศเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย 5 ร้านใหม่ต่อสัปดาห์ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ส่งให้รายได้รวมปีที่ผ่านมาพุ่งกระฉูด 11,695 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 59.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ภาพจาก haidilao singapore

กำไรพุ่ง 41%

ตัวเลขกำไรไตรมาสล่าสุดที่เพิ่งประกาศเมื่อสิงหาคม 2019 ของ Haidilao คือ 911 ล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 41% จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นทำให้ Haidilao ถูกขนานนามว่าเป็น “hotpot king” ราชาหม้อไฟหม่าล่าที่เป็นกำลังสำคัญให้ Zhang Yong กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ด้านอสังหาฯ

แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวเนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐฯจีน รวมถึงมีวิกฤติการประท้วงในฮ่องกง Haidilao ก็ไม่ได้รับผลกระทบทั้งที่บริษัทก็จดทะเบียนในฮ่องกง โดยช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Haidilao เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทำสถิติ 35.45 ดอลลาร์ฮ่องกง จากราคาเสนอขาย IPO ครั้งแรก 17.8 ดอลลาร์ฮ่องกง

ภาพจาก haidilao singapore

คาดว่าหุ้นของ Haidilao จะร้อนแรงขึ้นอีก เพราะนักวิเคราะห์ประเมินว่า Haidilao จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 40% ในปีนี้

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Haidilao ประสบความสำเร็จคือการคิดใหม่ทำใหม่ Haidilao ถือเป็นบริษัทกลุ่มแรก ที่ใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติในธุรกิจร้านอาหาร ขณะนี้มีพนักงานเสิร์ฟหุ่นยนต์ในร้านมากกว่า 179 แห่ง แถมยังมีแขนกลสำหรับการเตรียมส่วนผสมในห้องครัวทั้งส่วนหมักและส่วนซุป

ยังมีอีกหลายลูกเล่นที่ทำให้ Haidilao ไม่ได้ขายเฉพาะหม้อไฟอย่างเดียว แต่สามารถขายประสบการณ์ในร้านได้แบบแหวกประเพณีร้านอาหารทุกชาติ การเพิ่มกิจกรรมฟรีที่ทำให้การรอคิวเป็นเรื่องสนุกทั้งการทำเล็บ พื้นที่เล่นเด็ก และอื่นๆ ทำให้ Haidilao ได้รับความสนใจจากชาวโซเชียล เห็นได้ชัดจากสถิติที่พบว่าเรื่องราวของ Haidilao ปรากฏในฐานข้อมูลรีวิวร้านอาหารของ Yelp มากขึ้น 5 เท่าตัว

บทความรีวิวชิ้นใหม่บน Yelp ที่กล่าวถึง Haidilao เพิ่มมากขึ้นกว่า 535.3% ทำให้คะแนนของร้านหม้อไฟจีนลดลงเหลือ 4.5 จากที่ได้ 5 ดาว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกาเปิร้านหม่ที่นิวยอร์กเมื่อเดือนกรกฎาคม 2019 ส่ห้รีวิ Haidilao บน Yelp ได้รับความสนใจากขึ้น

เสิร์ฟไวน์รุ่นเฉพาะ

โรงกลั่นไวน์ China Tontine Wines คือพันธมิตรรายล่าสุดที่ร่วมมือกับ Haidilao International Holding เปิดตัวไวน์องุ่นรุ่นแรกที่ปรับความหวานมาเฉพาะเพื่อเสริมรสให้อาหารหม้อไฟเสฉวนสดชื่นขึ้น

ไวน์รุ่นพิเศษจะมีวางจำหน่ายเฉพาะที่ร้าน Haidilao หลายสาขา ซึ่ง Wang Guangyuan ประธาน Tontine กล่าวว่าไวน์นี้ไม่เพียงแต่สามารถสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้กับบริษัท แต่ยังสามารถเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคจีนให้รู้จักไวน์องุ่นมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างแบรนด์ Tontine ได้อีกทาง

สำหรับประเทศไทย Haidilao มีกำหนดเปิดตัวที่ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ ยังไม่มีการยืนยันกำหนดการ แต่ข้อมูลวงในย้ำว่าจะเป็นร้านขนาด 84 โต๊ะ สะท้อนความยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดาของ Haidilao.

]]>
1246124
รู้จัก Haidilao เชนหม้อไฟ “ร้อน รวย แรง” ขึ้นแท่นรวยอันดับ 3 ของสิงคโปร์ กำลังมาเปิดสาขาในไทย https://positioningmag.com/1222818 Mon, 01 Apr 2019 12:57:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1222818 กำลังเป็นที่จับตาสำหรับการมาของ Haidilao เชนหม้อไฟชื่อดังที่กำลังมา เปิดสาขาแรกในไทยขนาดใหญ่ บนชั้น 7 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซนด้านอิเซตัน ที่กำลังปรับปรุงให้เป็นโซนอาหารโดยเฉพาะ

ทำไม Haidilao ถึงเป็นที่สนใจ เขามีวิธีทำธุรกิจแตกต่างจากเชนร้านอาหารทั่วไปอย่างไร?

นาทีนี้โลกกำลังให้ความสนใจเชนหม้อไฟสัญชาติจีนชื่อ Haidilao เพราะ Haidilao เพิ่งจะรายงานผลประกอบการครั้งแรกหลังจากเสนอขายหุ้น IPO จนสามารถระดมทุนได้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ผลประกอบการสะท้อนว่า Haidilao ขยายตัวอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วโลก พร้อมกับเทเงินทุนด้านทรัพยามนุษย์ จนมีคำถามว่า Haidilao ใช้เส้นทางใดจึงสามารถส่งให้ผู้ก่อตั้งกลายเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 3 ของสิงคโปร์

รูปจาก : valcan post

จาง หยง (Zhang Yong) ผู้ก่อตั้ง Haidilao วันนี้มีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 6,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นหน้าใหม่ในรายชื่อมหาเศรษฐีของ Forbes ประจำปี 2019 แต่ที่ผ่านมา Zhang เป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของเชนร้านอาหารที่ร่ำรวยที่สุดของจีน ซึ่งแม้ว่าจะกำเนิดและเติบโตที่ประเทศจีน Zhang ได้กลายมาเป็นพลเมืองสิงคโปร์แล้วในที่สุด

Zhang เป็นประธานบริหารเชนร้านหม้อไฟเสฉวน Haidilao ซึ่งขาย IPO ต่อสาธารณชนในเดือนกันยายน 2018 ก่อนหน้านี้ Zhang ถูกบอกเล่าว่าเป็นผู้เรียนไม่จบมัธยมปลาย ที่ไม่ทราบวิธีการเตรียมหม้อไฟเสฉวนทั่วไปด้วยซ้ำ เมื่อเริ่มเปิดกิจการครั้งแรก

แต่ในที่สุด Haidilao ก็ได้รับความนิยม ซึ่งไม่ได้เกิดจากอาหารรสจัดจ้านเท่านั้น แต่รวมถึงสุดยอดงานบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม อย่างเช่น การทำเล็บมือฟรีสำหรับลูกค้าที่รอหม้อร้อน

ร้านที่สิงคโปร์ ภาพจาก : haidilao singapore

จากที่มีราว 300 ร้านสาขาที่ส่วนใหญ่เปิดในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ วันนี้ Haidilao ระบุว่าได้เพิ่มสาขาใหม่มากกว่า 200 แห่ง ซึ่งเพิ่มยอดรวมทั่วโลกของ Haidilao เป็น 466 ร้าน

ช่วยผลักดันรายรับของบริษัทให้เพิ่มขึ้นอีก 59.5% ต่อปี เป็น 16,970 ล้านหยวน (คำนวณถึงวันที่ 31 .. 2018) โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 60.1% เป็น 1,650 ล้านหยวน หรือประมาณ 7,800 ล้านบาท และเร็วๆ นี้กำลังมาเปิดสาขาในไทย

ไม่ได้ขายแต่หม้อไฟ

ภาพจาก : haidilao singapore

เส้นทางของ Haidilao เริ่มในปี 1994 โดย 2 สามีภรรยาจากมณฑลเสฉวนตัดสินใจเปิดร้านหม้อไฟให้บริการน้ำซุปรสเผ็ดที่ลูกค้าสามารถปรุงเนื้อสัตว์และผักได้ที่โต๊ะ เนื่องจากเป็นอาหารที่ค่อนข้างธรรมดา Haidilao จึงตัดสินใจใช้วิธีการที่แตกต่างจากคู่แข่ง

ตั้งแต่ช่วยถือหิ้วถุงให้ลูกค้า รวมถึงช่วยดูแลเด็กน้อยที่เดินทางมาด้วย บริการไม่ธรรมดาเหล่านี้ประสบความสำเร็จจนทำให้คู่แข่งใกล้เคียงเริ่มปิดร้านไป ส่งให้ Haidilao เติบโตขึ้นเป็นสุดยอดร้านหม้อไฟที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

แม้ในเชิงหุ้น Haidilao จะได้รับการต้อนรับที่ไม่อบอุ่นนัก เพราะหุ้นไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดชัดเจน แต่ในฐานแฟนคลับ สื่อมองว่า Haidilao ร้อนแรงมากเพราะการบริการลูกค้า ความร้อนแรงนี้แข็งแกร่งมากทั้งที่ Haidilao เคยผ่านวิกฤติใหญ่เมื่อปีที่แล้ว

ครั้งนั้น Haidilao ถูกสอบสวนครั้งใหญ่หลังจากมีรายงานว่าพบหนูในห้องครัว แต่ Haidilao ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการขอโทษต่อสาธารณชน และปรับเปลี่ยนการจัดร้านเพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าอาหารของ Haidilao มีขั้นตอนการเตรียมอย่างไร

ห้องดูแลเด็ก-ภาพจาก : haidilao singapore

นอกจากเมนู บริการเสริมสุดพิเศษของ Haidilao นั้นหลากหลายและโดนใจมากจนทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก ตัวอย่าง 6 บริการยอดนิยมที่ลูกค้าประทับใจจาก Haidilao ซึ่งส่วนใหญ่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ได้แก่

1. แต่งเล็บฟรีในขณะรอ

รูปจาก : Haidilao Singapore
ภาพจาก : haidilao singapore

เพราะ Haidilao คิวยาวรอโต๊ะนาน Haidilao จึงต้องการทำให้แน่ใจว่าลูกค้าจะไม่หลงไปหาร้านอาหารอื่น สิ่งที่ Haidilao ทำคือการงัดกลยุทธ์มากมายเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ฆ่าเวลา ร้านอาหารของ Haidilao จึงมีบริการทำเล็บ บริการทำความสะอาดรองเท้า บริการเกมกระดาน และของว่างฟรีซึ่งมักจะเป็นผลไม้และแคร็กเกอร์

2. มียางรัดผมให้

พนักงานที่ Haidilao ไม่ได้ใส่ใจเรื่องแจกผ้าขนหนูร้อนเท่านั้น แต่ทุกคนจะมอบตัวช่วยเพื่อให้ลูกค้าอิ่มอร่อยกับหม้อไฟได้แบบไม่เลอะเทอะ หนึ่งในนั้นคือพนักงานจะมียางรัดผมในมือ พร้อมกับถุงพลาสติกสำหรับเก็บโทรศัพท์ ซึ่งลูกค้าจะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสี่ยงภัยที่อาจเกิดจากหม้อร้อน

3. ปอกเปลือกกุ้ง

หากมีการแจ้งความจำนง พนักงานจะมาที่โต๊ะลูกค้าเพื่อปอกเปลือกกุ้งโดยใช้ตะเกียบ

4. ชมโชว์บะหมี่

หากลูกค้าสั่งราเมนจีน พ่อครัวจะมารีดและนวดบะหมี่ต่อหน้าลูกค้าในรูปแบบโชว์สุดประณีต หากเส้นก๋วยเตี๋ยวขาดระหว่างการแสดง พ่อครัวจะเหวี่ยงชุดเก่าออกแล้วเริ่มใหม่

5. เอาใจคนไร้คู่

คนที่มารับประทานหม้อไฟคนเดียวอาจรู้สึกอึดอัด แต่ที่ Haidilao นักทานที่นิยมฉายเดี่ยวจะวางตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้บนที่นั่งฝั่งตรงข้าม 

6. ดูแลเป็นพิเศษในห้องน้ำ

พนักงานของ Haidilao พร้อมที่จะส่งกระดาษเช็ดมือให้ลูกค้าทันทีที่ล้างมือเสร็จ ห้องน้ำของ Haidilao จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ Haidilao มีบรรยากาศต่างจากร้านอื่นในประเทศจีน

7. หม้อไฟส่งถึงบ้าน

หม้อไฟไม่ใช่อาหารที่จะนำไปรับประทานที่บ้านได้ง่าย แต่ Haidilao มีบริการจัดส่งที่พิเศษเพราะพนักงานจะส่งมอบส่วนผสม รวมถึงน้ำซุปผสมให้กับลูกค้าโดยมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม 58 หยวน (ราว 274 บาท) พนักงานของ Haidilao จะช่วยจัดโต๊ะ รวมถึงการวางฝาพลาสติก และเตรียมน้ำซุป และกลับมาเก็บข้าวของหลังจากรับประทานเสร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่คล้ายคลึงกันที่บ้าน ซึ่งจะไม่ต่างจากที่ร้าน เพราะ Haidilao จะมอบหมากฝรั่ง ผ้าเช็ดมือ และยางผูกผมให้ด้วย

ลงทุนคนเป็นหลัก

เพราะ Haidilao มีจุดเด่นเรื่องการบริการลูกค้า บนกลยุทธ์การเทรนด์พนักงานที่ไม่เหมือนใคร ค่าใช้จ่ายจากพนักงานของ Haidilao จึงเพิ่มขึ้น 60.8% จาก 3,120 ล้านหยวนเป็น 5,020 ล้านหยวนในปี 2018 คิดเป็น 29.6% ของรายได้ทั้งหมด

นอกเหนือจากการจ้างงานเพื่อป้อนร้านใหม่ Haidilao ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากในหมวดค่าใช้จ่ายในการเพิ่มระดับค่าตอบแทนของพนักงานซึ่งได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมในการฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากร

ที่น่าสนใจคือ Haidilao ยังจุดพลุกลไกฝึกงานแบบพิเศษซึ่งช่วยให้หัวหน้าร้านสาขาสามารถฝึกอบรมตัวเอง และรับโบนัสหากลูกน้องที่มาฝึกงานกับแต่ละคนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าสาขา เครื่องมือหรือกลไกนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพการปฏิบัติงานในร้านสาขาใหม่ของ Haidilao.

ที่มา

]]>
1222818