Hasbro – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 13 Dec 2023 12:22:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Hasbro’ บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่เตรียม ‘ปลดพนักงาน’ เพิ่มอีก 900 ตำแหน่ง เหตุรายได้หด เพราะผู้บริโภคเน้นซื้อของจำเป็น https://positioningmag.com/1455558 Wed, 13 Dec 2023 12:06:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455558 ช่วงโควิดระบาด ของเล่น อาจจะเป็นตลาดที่ได้รับอานิสงส์ในด้านบวก เพราะผู้บริโภคโดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่อยู่บ้านมากขึ้น ทำให้ผู้ปกครองต้องหาของเล่นชิ้นใหม่ ๆ ให้ลูก ๆ เล่นแก้เหงา แต่พอการระบาดคลี่คลาย สถานการณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ ของเล่นก็กลายเป็นของฟุ่มเฟือยท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ

ฮาสโบร (Hasbro) เปิดเผยว่า บริษัทจะปลดพนักงานประจำเพิ่มอีก 900 ตําแหน่งทั่วโลก หลังจากที่เคยประกาศไปช่วงเดือนมกราคมว่าจะลดพนักงานลง 15% หรือประมาณ 1,000 ตำแหน่ง เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอลง รวมแล้วบริษัทจะเลิกจ้างงานถึง 1,900 ตำแหน่ง หรือราว 29% ของพนักงานทั้งหมด 

โดยนับตั้งแต่ที่บริษัทเคยประกาศลดพนักงานในช่วงต้นปี ปัจจุบันบริษัทลดจำนวนพนักงานไปแล้วประมาณ 800 ตำแหน่ง จากจำนวนพนักงานทั้งหมดราว 6,490 คนทั่วโลก (ตัวเลข ณ สิ้นปี 2022) และจากข่าวการลดคนอีกระลอกของบริษัท ทำให้หุ้นของบริษัทลดลงประมาณ 6%

ทั้งนี้ ฮาสโบรคาดว่า การลดจำนวนพนักงานคาดว่าจะช่วยประหยัดต้นทุน run-rate ประจําปีขั้นต้นได้ประมาณ 350-400 ล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 250-300 ล้านดอลลาร์

“กระแสลมแรงในตลาดมันรุนแรงและต่อเนื่องมากกว่าที่วางแผนไว้ ผู้บริโภคทั่วโลกพยายามดิ้นรนเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทําให้พวกเขาต้องลดการใช้จ่ายตามดุลยพินิจรวมถึงของเล่นและให้ความสําคัญกับการซื้อสิ่งจําเป็นมากขึ้น และแนวโน้มจะยังคงอยู่ถึงปี 2024” คริส ค็อกส์ ซีอีโอ ฮาสโบร กล่าว

ไม่ใช่แค่ฮาสโบร แต่บริษัทของเล่นคู่แข่งอย่าง Mattel ผู้ผลิต ตุ๊กตาบาร์บี้ ก็ออกมาเพื่อเตือนถึงช่วงเทศกาลวันหยุดที่อ่อนแอ และบ่งชี้ว่าผู้บริโภคกําลังประหยัด 

Source

]]>
1455558
เปิดวิชั่น Chris Cocks ซีอีโอ Hasbro ผู้ยกหนัง Barbie เป็นบทพิสูจน์โมเมนตัมในเซกเมนต์ของเล่น https://positioningmag.com/1441694 Wed, 23 Aug 2023 08:08:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1441694 กระแสฮอตจากภาพยนตร์พันล้านอย่าง Barbie ทำให้โลกหันมาสนใจกับเซกเมนต์ธุรกิจของเล่นมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เพียงต้นสังกัดตุ๊กตาอมตะ Barbie อย่าง Mettel เท่านั้น แต่ Hasbro คู่แข่งที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลพร้อมกับการเฉลิมฉลองวัย 100 ขวบปีก็ถูกจับตามองอย่างมากเช่นกัน

วันนี้สปอตไลท์ของโลกบางส่วนได้ส่องมาที่ Chris Cocks ซีอีโอ Hasbro ผู้ได้รับค่าเหนื่อยจากการนั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารในปีแรกมากกว่า 9.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นผู้ที่มองว่าความสำเร็จของ Barbie คือบทพิสูจน์ว่าสินค้าหมวดหมู่ “ของเล่น” มีความสำคัญต่อโลกธุรกิจเพียงใด และไม่ใช่แค่ Transformers, Furby และ Monopoly หรือสินค้าของเล่นฮอตฮิตในมือ Hasbro รายการอื่น ๆ แต่ Chris Cocks มองเห็นโมเมนตัมของทรัพย์สินทางปัญญาหรือ IP ของบริษัทที่จะมีทางต่อยอดธุรกิจได้อีกมาก เนื่องจากภาพยนตร์ “Transformers: Rise of the Beasts” และ “Spider-man: Across the Spider-Verse” จะช่วยกระตุ้นดีมานด์ได้อย่างชัดเจน

แม้จะยอมรับความจริงว่ายอดขายในธุรกิจของเล่นอาจจะลดลง โดยบริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มความต้องการจะคงที่ในช่วงปลายปีนี้ แต่ Cocks ก็แสดงความยินดีกับ Mettel ผ่านการสัมภาษณ์ของ Yahoo Finance Live ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการของเล่นที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตา Barbie ในช่วงวันหยุดปลายปีอย่างมาก โดยยกย่องว่า Mettel ทำได้ดีมากกับผลงานภาพยนตร์ที่ออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญการตลาดเกี่ยวข้อง

มองเนื้อแท้ Hasbro จากมุม CEO

Chris Cocks ขึ้นเป็น CEO คนใหม่ของ Hasbro ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและ CEO ของบริษัท Wizards of the Coast และแผนกเกมดิจิทัล ถือเป็นการเข้ารับตำแหน่งแทน Rich Stoddart ซีอีโอชั่วคราวซึ่งนั่งตำแหน่งนี้ต่อจาก Brian Goldner ที่เสียชีวิตในเดือนตุลาคม 2021

Cocks นั้นเป็นส่วนหนึ่งของทีม Hasbro มาตั้งแต่ปี 2016 โดยทำงานให้กับแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Dungeons & Dragons รวมถึง Magic: The Gathering และ Duel Masters ภายใต้การนำของ Cocks หน่วยธุรกิจ Wizards of the Coast ได้กลายเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนรายรับอันดับต้นของ Hasbro โดยรายได้นั้นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวตั้งแต่ Cocks เข้ามารับตำแหน่ง นำไปสู่การสร้างรายได้ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 จากที่เคยทำได้ 450 ล้านดอลลาร์ในช่วง 7 ปีก่อน

ความสามารถของ Cocks ได้รับการขัดเกลามาตั้งแต่ก่อนร่วมงานกับ Hasbro โดย Cocks เคยทำงานที่ไมโครซอฟท์ ในฐานะทีมชั้นนำที่คลุกคลีกับเกม MSN และ Xbox กับแฟรนไชส์อย่าง Halo และ Fable

Cocks มองว่า Hasbro มีแบรนด์ที่น่าทึ่งในมือ และเป็นบริษัทที่ถือเป็นนักเล่าเรื่องที่มีพรสวรรค์ รวมถึงมีทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงที่ไม่เหมือนใคร การก้าวเข้าสู่ตำแหน่ง CEO ในช่วงนี้สำหรับ Cocks จึงถือเป็นเวลาที่สำคัญ ในการต่อร่างจากรากฐานที่ Brian Goldner อดีต CEO เคยสร้างเอาไว้ โดยเฉพาะการขยายธุรกิจของ Hasbro ออกไปนอกเหนือจากสินค้าของเล่นและเกม สู่วงการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และเกมดิจิทัล

ในขณะที่ Brian Goldner เน้นการสานต่อความสัมพันธ์ด้านลิขสิทธิ์ที่แน่นแฟ้นกับแฟรนไชส์รายใหญ่อย่าง Disney ที่เป็นเจ้าของ Star Wars และ Marvel แต่ Cocks นั้นเด่นเรื่องการเข้าใจธรรมชาติของวิธีการเชื่อมต่อผู้บริโภคผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการสร้างและดูแลแบรนด์เพื่อขับเคลื่อนแฟน ทั้งหมดนี้ Cocks ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ทักษะ และประสบการณ์ในการปลดล็อกพิมพ์เขียวแบรนด์ Hasbro เพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ภาพจาก Hasbro

บทสัมภาษณ์ที่ทำให้ Chris Cocks ได้รับความสนใจจากสาธารณชน คือการกล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านของ Hasbro สู่เทคโนโลยีดิจิทัลและเกม บนเวทีงาน GamesBeat Summit 2023 โดย Cocks ย้ำถึงเป้าหมายที่ Hasbro จะมีบทเด่นในยุคดิจิทัล และมีแผนให้ Hasbro ใช้เงินซื้อบริษัทอนาคตไกลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ซึ่งจะเพิ่มมิติให้แบรนด์ของเล่นอย่างเกมเศรษฐี  (Monopoly) และเกมอื่นๆสามารถสร้างความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับชุมชนได้อีกครั้ง

Cocks ไม่เพียงมีวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเล่นที่หลากหลาย แต่ยังโฟกัสกับความจริงที่ว่า Hasbro เป็นแบรนด์ทรัพย์สินทางปัญญาด้านความบันเทิงซึ่งครอบคลุมมากกว่าของเล่นและเกม โฟกัสของ Cocks จึงรวมตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ประสบการณ์ตามสถานที่ต่างๆ สวนสนุก และอื่นๆ

“Hasbro เป็นบริษัทที่ใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อทางอารมณ์ ที่ผลิตภัณฑ์ได้สร้างขึ้นกับผู้บริโภค โดยเนื้อแท้แล้ว ผลิตภัณฑ์ของ Hasbro นำมาซึ่งความสุข สร้างชุมชน และเสนอโอกาสในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นไม่มี”

ต่อยอดดิจิทัล

Cocks กล่าวถึงเกมมือถืออย่าง “Monopoly Go” ที่ประสบความสำเร็จโดยขึ้นสู่อันดับสูงสุดบน iOS และ Android และความนิยมของเกม Magic: The Gathering ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีผู้เล่นที่ใช้งานอยู่ถึง 10-15 ล้านคนว่า Hasbro วางแผนที่จะขยายแพลตฟอร์มของเกมไปยังรูปแบบสตรีมมิ่งและคอนโซล โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ด้วย

ในอีกด้าน Cocks ยอมรับว่ากำลังพิจารณาโมเดลธุรกิจจากทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ โดยยกตัวอย่างถึงการเปิดตัวฉากที่สร้างจากเกม D&D, Warhammer 40,000 และ The Lord of the Rings ซึ่งแผนการในอนาคต คือ Hasbro อาจจะเป็นพันธมิตรสำหรับรายการแอนิเมชั่น ภาพยนตร์ในอนาคต และคอนเทนต์อื่นเพื่อขยายการเข้าถึงแบรนด์ก็ได้

จุดสำคัญคือ Cocks วางแผนให้ Hasbro เข้าสู่ตลาดเกม AR และ VR เสมือนจริง โดยมีเป้าหมายสร้างประสบการณ์ AR ที่เรียบง่ายให้เกมกระดาน ทั้งหมดนี้ตั้งใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ชมจำนวนมาก (แมส) ในขณะที่ยังคงรักษาผลกำไรเอาไว้

นอกจากการยกระดับประสบการณ์ Cocks ยังหวังจะพา Hasbro ไปเติบโตในส่วนการพัฒนาภายในองค์กร และสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็โฟกัสที่การควบรวมกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์เกม บนเป้าหมายที่จะรักษาความแข็งแกร่งในด้าน IP และการพัฒนาเกม

หนึ่งในไอเดียที่น่าสนใจจาก Cocks คือคำกล่าวถึงลักษณะการพัฒนาของอุตสาหกรรมของเล่นและเกม ว่าของเล่นและเกมไม่ได้ถูกจำกัดไว้สำหรับเด็กอีกต่อไป ทำให้ Cocks วางกลยุทธ์ของ Hasbro ให้รองรับกลุ่มประชากรที่หลากหลาย นั่นคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดใจกลุ่มอายุต่างๆ

ที่สุดแล้ว บทเรียนที่เราได้จากมุมมองการทำงานของ Cocks คือการมองเห็นความสำคัญของความสัมพันธ์ทางการค้า ห่วงโซ่อุปทาน การเงิน และทรัพยากรบุคคล ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับ 100 ปีอย่าง Hasbro ได้เต็มประสิทธิภาพ

วันนี้ ธุรกิจของ Hasbro มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ และ Cocks ได้นำโครงสร้างการทำงานแบบไฮบริด มาใช้เพื่อขับเคลื่อนบริษัท ร่วมกับการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอุตสาหกรรมบันเทิง ทำให้ Hasbro สามารถใช้ประโยชน์จากการเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นบนแพลตฟอร์มต่างๆ และมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในรูปแบบใหม่และสร้างสรรค์ด้วย

ที่มา : Venturebeat, The Verge, Yahoo, CNBC

]]>
1441694
TikTok เป็นเหตุ! Hasbro ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ เตรียมนำตุ๊กตา Furby กลับมาวางขายอีกรอบ https://positioningmag.com/1435457 Mon, 26 Jun 2023 09:46:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1435457 ตุ๊กตาเฟอร์บี้ (Furby) ได้เตรียมกลับมาวางขายในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง โดยสาเหตุสำคัญก็คือความนิยมสิ่งของในอดีต นอกจากนี้ยังรวมถึงผู้คนได้ดูวิดีโอของเจ้าตุ๊กตาที่เจ้าของต่างอัพโหลดขึ้นบน TikTok ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทได้นำ Furby กลับมาวางขายอีกครั้ง

Hasbro ผู้ผลิตของเล่นชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ตุ๊กตา Furby ได้เตรียมนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกลับมาวางขายอีกรอบ โดยสำหรับเจ้าตุ๊กตา Furby ที่นำกลับมาวางขายอีกรอบ โดยหวังว่าผู้ปกครองที่เกิดทันในยุคตุ๊กตาดังกล่าวจะซื้อตุ๊กตาดังกล่าวให้กับลูกของตัวเองอีกครั้ง

ปัจจัยการกลับมาของตุ๊กตาดังกล่าวอีกเรื่องก็คือ #Furby ที่อยู่ในแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ที่ชวนย้อนเวลาไปถึงช่วงเวลาที่เจ้า Furby ได้รับความนิยมในอดีตนั้นมีผู้ดูวิดีโอดังกล่าวใน Hashtag นี้มากถึง 550 ล้านครั้ง นอกจากนี้กระแสสิ่งของที่ได้รับความนิยมในอดีต ยังถือเป็นโอกาสอันดีที่บริษัทจะวางขายตุ๊กตาในช่วงนี้ด้วย

Kristin McKay ผู้จัดการทั่วไปของ Hasbro ได้กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจว่าเด็กๆ ต้องการเห็นอะไรใน Furby ตัวใหม่ที่กำลังจะวางขาย ซึ่งจากผลสำรวจดังกล่าวนี้ เด็กๆ ได้บอกว่าสิ่งสำคัญสำหรับตุ๊กตารุ่นใหม่นี้คือการเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของพวกเขา

นอกจากนี้เจ้าตุ๊กตา Furby รุ่นใหม่ที่จะวางขาย ยังได้เพิ่มปุ่มเปิดปิดการทำงานเจ้าตัวตุ๊กตาแล้ว หลังจากในอดีตตุ๊กตารุ่นดังกล่าวนี้ไม่มีปุ่มปิดการทำงานด้วยซ้ำ ผู้ผลิตตุ๊กตารายนี้เคยกล่าวกับสื่ออย่าง Wall Street Journal ในปี 1999 โดยเปรียบเปรยว่าตุ๊กตาดังกล่าวเหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีปุ่มเปิด-ปิด

อย่างไรก็ดีตุ๊กตา Furby นี้หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐอเมริกานั้นได้ห้ามวางในพื้นที่สำคัญ เนื่องจากกังวลว่าตุ๊กตาดังกล่าวอาจมีอุปกรณ์บันทึกเสียงได้ แม้ว่าผู้ผลิตจะออกมายืนยันว่าเจ้าตุ๊กตานี้ไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าวก็ตาม

สำหรับตุ๊กตา Furby นั้นทาง Hasbro เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 และมียอดขายอย่างน้อย 40 ล้านตัวในช่วงสามปีแรกหลังจากการวางจำหน่าย นอกจากนี้ในประเทศไทยเจ้าตุ๊กตาดังกล่าวก็ได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกัน มีการสะสมจากผู้ที่ชื่นชอบไปจนถึงการเก็งกำไรด้วยซ้ำ

โดยเจ้าตุ๊กตา Furby จะเริ่มวางขายอีกครั้งในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมในสหรัฐอเมริกา

]]>
1435457
ส่องตลาด ‘ของเล่น’ ในยุคที่ ‘ผู้ใหญ่’ เป็นตัวหลักขับเคลื่อนตลาดให้เติบโต https://positioningmag.com/1413323 Wed, 21 Dec 2022 04:55:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1413323 เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า เด็กหนวด หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Kidults (เกิดจากคำว่า kid บวกกับคำว่า adult) ที่เรียกผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นที่ยังซื้อ ของเล่นของสะสม ซึ่งภาพคนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นของสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กหนวดนี่แหละเป็นกำลังหลักที่ทำให้ตลาดของเล่นยังเติบโต

เหล่า Kidults ซึ่งมักจะใช้จ่ายกับของเล่นมากขึ้นเนื่องจากพวกเขามีความชื่นชอบการ์ตูน ฮีโร่ และของสะสมที่ทำให้พวกเขานึกถึงวัยเด็ก พวกเขาซื้อสินค้า เช่น แอคชั่นฟิกเกอร์ ชุดเลโก้ และอื่น ๆ ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตของเล่นได้สร้างไลน์สินค้าสำหรับผู้บริโภคเหล่านี้โดยเฉพาะ เนื่องจากเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ใหญ่ในยุคนี้

เมื่อผู้ใหญ่หันมาซื้อของเล่นกันมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ผลิตของเล่นมาก ๆ เพราะจากที่แค่ทำของเล่นมาขายเด็ก (ซึ่งคนซื้อก็คือผู้ปกครอง) กลายเป็นว่ากลับสามารถขายให้ผู้ใหญ่ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่แล้วได้อีกด้วย ดังนั้น ตลาดของเล่นจึงถูกขยายให้กว้างยิ่งขึ้น ทำให้เหล่า เด็กหนวดถือเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด

ตามข้อมูลจาก NPD Group พบว่า เด็กหนวดเหล่านี้คิดเป็นถึง 1 ใน 4 ของยอดขายของเล่นของสะสมในตลาดสหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.1 แสนล้านบาท จากมูลค่าทั้งหมด 28,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลุ่ม Kidult ช่วยดันยอดขายของเล่นให้เติบโตถึง 37% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2020-2021)

“กลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมของเล่นมาหลายปี แต่การใช้จ่ายได้เร่งตัวขึ้นหลังจากเกิดโรคระบาด ซึ่งนำไปสู่ผลกำไรที่สูงขึ้นของบริษัทผู้ผลิตของเล่น”

ย้อนไปในช่วงทศวรรษที่ 70 และ 80 ธุรกิจของเล่นเริ่มเปลี่ยนจากการผลิตคาแรกเตอร์ที่ออกแบบเองมาเป็นการผลิตสินค้าจากคาแรกเตอร์ของภาพยนตร์และการ์ตูน แต่ปัจจุบันเทรนด์ดังกล่าวกลับยิ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดัง โดยเฉพาะเหล่าซูเปอร์ฮีโร่

ดังนั้น เด็กที่เติบโตมากับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ดัง ๆ รวมถึงได้เห็นสินค้าลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ในตอนนั้นอาจไม่มีโอกาสที่จะได้สัมผัส (พ่อ-แม่ไม่ได้ซื้อให้) ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจหากผู้ใหญ่ในวันนี้จะซื้อของเล่นเพื่อมาเติมเต็มความฝันในวัยเด็ก

“อย่างในปี 1977 ที่ภาพยนตร์เรื่อง Star Wars เปิดตัว จากนั้นเราจะเริ่มเห็นสินค้าลิขสิทธิ์มากขึ้น ซึ่งเราเฉลิมฉลองแฟนด้อมของเราด้วยของเล่นและของสะสม ซึ่งรวมถึงสินค้าที่ไม่ใช่ของเล่น เช่น ผ้าปูที่นอน ถ้วยชาม และเสื้อผ้า” James Zahn บรรณาธิการบริหารของ The Toy Book และบรรณาธิการอาวุโสของ The Toy Insider กล่าว

จึงไม่น่าแปลกใจหากผู้ผลิตของเล่น อาทิ Lego จะออกแบบสินค้าใหม่ ๆ ที่ล้อกับคอนเทนต์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็น Lego Star Wars หรือ Hasbro ก็ออกแอคชั่นฟิกเกอร์ Black Series ที่ผลิตคาแรกเตอร์จาก Star Wars ด้วยเช่นกัน ขณะที่ภาพยนตร์แฟรนไชส์ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่จาก Marvel หรือ DC หลัง ๆ ก็ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็ก แต่จัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มใหญ่ที่ยังอยากซื้อของเล่นของสะสม

Source

]]>
1413323
ไม่มีหนังฉายก็ยังปัง! ของเล่น ‘Star Wars’ ยอดพุ่ง 70% เพราะซีรีส์ใน ‘Disney +’ https://positioningmag.com/1319806 Wed, 17 Feb 2021 08:20:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1319806 ในปี 2020 ถือเป็นปีแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ที่ค่าย ‘Disney’ ไม่มีภาพยนตร์ในจักรวาล ‘Star Wars’ เข้าฉาย โดยเรื่องสุดท้ายที่เข้าฉายก็คือ ‘Star Wars: The Rise of Skywalker’ ช่วงปลายปี 2019 แต่แม้จะไม่มีหนังฉายโรง แต่ยอดขายของเล่นของ Star Wars ในปี 2020 กลับเพิ่มขึ้น 70% ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าต่อให้ไม่มีหนังฉายแต่ของเล่นก็ยังขายได้

เมื่อโรงภาพยนตร์ถูกปิดเพราะการระบาดของ COVID-19 ทำให้คอนเทนต์ของหลายสตูดิโอถูกเลื่อนฉายไป แต่ Disney ก็ชดเชยด้วย ‘Disney +’ โดยมีซีรีส์แม่เหล็กอย่าง ‘The Mandalorian’ ซึ่งซีรีส์ดังกล่าวช่วยให้ยอดขายของเล่นจากจักรวาล Star Wars เพิ่มขึ้น 70% โดยเฉพาะ ‘Grogu’ หรือ ‘Baby Yoda’ นอกจากนี้ ‘ดาบไลท์เซเบอร์’ ก็ยังช่วยกระตุ้นการเติบโตของแฟรนไชส์ของเล่น

โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ‘Hasbro’ บริษัทของเล่นรายใหญ่ของโลกได้เปิดเผยรายรับในไตรมาส 4 ที่เพิ่มขึ้น 21% เป็น 1.72 พันล้านดอลลาร์ แต่ถึงแม้ของเล่นจะขายดี แต่ Hasbro ยังเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจากปัญหาการผลิต ซึ่งรวมถึงความล่าช้าจากการขนส่ง

อย่างไรก็ตาม Disney + ยังมีของดีมากกว่า The Mandalorian เพราะเตรียมเปิดตัวคอนเทนต์ทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ในจักรวาล Star Wars อีกอย่างน้อย 9 เรื่อง รวมถึงซีรีส์ที่มีตัวละครยอดนิยมเช่น Ahsoka Tano, Lando Calrissian, Obi-Wan Kenobi และ Boba Fett ซึ่งจำนวนคอนเทนต์ดังกล่าวทำให้แฟน ๆ และ Hasbro มีตัวละครใหม่ ๆ ได้เล่นจนถึงปี 2023 และนอกจากจักรวาล Star Wars แล้ว Disney + ยังมีซีรีส์ Marvel อีกเกือบ 12 เรื่อง อย่างตอนนี้ก็กำลังฉายซีรีส์ ‘WandaVision’ ขณะที่ซีรีส์ ‘The Falcon and the Winter Soldier’ และ ‘Loki’ มีกำหนดเปิดตัวก่อนกลางปี

“เราเห็นการเติบโตของการสมัครสมาชิกอย่างรวดเร็วของ Disney + และการเข้าถึงเนื้อหาของ Disney สำหรับผู้ชมใหม่ ๆ เป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันความต้องการสินค้าของผู้บริโภค Hasbro เป็นหนึ่งในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดของดิสนีย์ในการทำให้แฟน ๆ ทุกวัยมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในรูปแบบสินค้าที่จับต้องได้” Stephanie Wissink กรรมการผู้จัดการของ Jefferies กล่าว

ทั้งนี้ Hasbro ขยายความร่วมมือ Star Wars และ Marvel กับ Disney ในช่วงต้นปี 2020 ยังไม่มีความชัดเจนว่าสัญญาฉบับใหม่จะกำหนดไว้นานแค่ไหน แต่ครั้งสุดท้ายที่ผู้ผลิตของเล่นเจรจาใบอนุญาตของเล่นหลักสำหรับแฟรนไชส์เหล่านั้นคือปี 2013

ที่ผ่านมา Hasbro ได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์กับดิสนีย์มายาวนาน โดยในปี 2019 รายได้จากแบรนด์พันธมิตรของ Hasbro เพิ่มขึ้น 24% เป็น 1.22 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้นั้นมาจากลิขสิทธิ์ของแฟรนไชส์สุดแกร่งอย่าง ‘Frozen 2’ ‘ Avengers’ ‘Spider-Man’ และ ‘Star Wars’ ที่เพิ่มขึ้น

จากลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่มีในมือของ Hasbro ทำให้บริษัทมีมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในปี 2021 เนื่องจากวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 ที่ได้รับการเผยแพร่สู่ชาวอเมริกันจำนวนมากขึ้น และผู้ชมภาพยนตร์สามารถกลับมาที่โรงภาพยนตร์ได้ในจำนวนที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม Hasbro ไม่ได้ระบุการคาดการณ์รายได้ที่เจาะจงว่าจะมีเท่าไหร่ในปี 2021

Source

]]>
1319806
ของเล่นเด็ก? Hasbro เลิกขายตุ๊กตา “Trolls” หลังถูกจวกยับฐานติดปุ่มกดที่หว่างขาหุ่น https://positioningmag.com/1292225 Wed, 12 Aug 2020 15:46:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1292225 งานเข้าเต็มๆ สำหรับ Hasbro ที่ต้องเก็บตุ๊กตา Poppy แห่งการ์ตูนฮิต “Trolls” ออกจากร้านค้าทั่วสหรัฐฯ ต้นตอของเรื่องคือลูกค้าที่ซื้อของเล่นของ Hasbro ออกมาวิจารณ์บนสื่อออนไลน์ถึงความไม่เหมาะสมในการออกแบบให้ตุ๊กตามีปุ่มกดที่บริเวณ “ของสงวน” ซึ่งหากกดปุ่มนี้จะทำให้เกิดเสียงหัวเราะคิกคักจั๊กจี้ ทำให้เกิดความกังวลและคำถามว่า Hasbro กำลังส่งเสริมการทารุณกรรมเด็กทางอ้อมอยู่หรือเปล่า?

ตุ๊กตาเจ้าปัญหานี้เป็นหุ่นตัวละคร Poppy จากของเล่นในชุด Trolls World Tour Giggle and Sing เจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์คือ Universal ซึ่งส่งภาพยนตร์อนิเมชั่น ‘Trolls World Tour’ ฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาจนประสบความสำเร็จงดงามด้วยรายได้ที่มากกว่า Trolls ภาคแรกในช่วงเวลาเพียง 3 สัปดาห์ เทียบกับการฉายในโรงภาพยนตร์ 5 เดือน

ล่าสุดตุ๊กตานี้กลายเป็นไวรัล เมื่อคุณแม่รายหนึ่งโพสต์วิดีโอสาธิตให้ชาวเน็ตเห็นว่า การกดที่ท้องของหุ่นจะทำให้ตุ๊กตาร้องเพลงและพูดวลีว่า “แล้วกอดล่ะ” (How about a hug?) แต่การกดปุ่มที่ “หว่างขา” จะทำให้หุ่นส่งเสียงหัวเราะและเสียงคิกคักว่า “วี๊!” (Whee) และ “โอ้!” (Oh)

พื้นที่นี้คือช่องคลอด!

คลิปนี้เรียกดราม่าได้ชามโต เพราะผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนไม่น้อยวิจารณ์ Hasbro อย่างหนักจนนำไปสู่การลงชื่อเรียกร้องให้หยุดจำหน่ายและนำตุ๊กตาออกจากร้านค้าโดยเร็ว บางรายวิจารณ์ตรงไปตรงมาว่าพื้นที่ซึ่งมีการติดตั้งปุ่มให้หุ่นนั้นคือ “ช่องคลอด” ชัดๆ ซึ่งอาจทำให้เด็กน้อยที่ไร้เดียงสามองเป็นเรื่องตลกเมื่อมีคนมาแตะต้องพื้นที่ส่วนตัว

โฆษกของ Hasbro ให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่าปุ่มดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้หุ่นตอบโต้กับเด็กๆ ในอิริยาบถที่ตุ๊กตานั่งอยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บริษัทได้รับทราบแล้วว่าตำแหน่งของปุ่ม “อาจถูกมองว่าไม่เหมาะสม” ทำให้บริษัทตัดสินใจเรียกเก็บสินค้าออกจากร้านค้าแล้ว

การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการระดมรายชื่อมากกว่า 150,000 ชื่อ ซึ่งกล่าวหาว่าผู้ผลิตของเล่นอย่าง Hasbro กำลังส่งเสริมการล่วงละเมิดเด็กด้วยการวางปุ่มในพื้นที่ส่วนตัวใต้กระโปรงของตุ๊กตา ซึ่งเป็นตัวละครที่ออกแบบให้มองเป็นเพศหญิง

รายชื่อ 150,000 ชื่อนี้เกิดขึ้นบนยอดชมวิดีโอสาธิตการกดปุ่มที่หว่างขาของโทรลล์น้อย Poppy มากกว่า 500,000 ครั้งบนทวิตเตอร์ 

 

 

ยินดีชดเชยตุ๊กตาตัวใหม่ให้

Julie Duffy โฆษกหญิงของ Hasbro ไม่เพียงระบุในแถลงการณ์ว่าได้ตระหนักแล้วถึงตำแหน่งของปุ่มที่ “อาจถูกมองว่าไม่เหมาะสม” แต่ยังย้ำว่าบริษัทพร้อมชดเชยตุ๊กตา Poppy ตัวใหม่ให้ลูกค้าโดยจะอิงจากรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน

โฆษก Hasbro ยังย้ำว่าบริษัทไม่ได้มีเจตนาตามที่ชาวเน็ตกล่าวหา และการจัดหาตุ๊กตา Poppy รุ่นใหม่ทดแทนให้กับผู้บริโภคจะทำผ่านทีมดูแลลูกค้าของ Hasbro โดยตรง ซึ่งจะดำเนินการคู่กันไปในขณะที่ Hasbro กำลังอยู่ในขั้นตอนการนำสินค้าออกจากชั้นวาง.


ที่มา : 

]]>
1292225
เจาะวิกฤติ Toys ‘R’ Us ใครเจ็บสุด Mattel, Hasbro หรือ Lego? https://positioningmag.com/1162051 Sun, 18 Mar 2018 05:01:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1162051 ช็อกไปทั้งโลกเมื่อมีข่าวว่า Toys ‘R’ Us ไม่สามารถหาผู้ซื้อกิจการ และไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้หลายเจ้า เพราะข่าวทั้งหมดสะท้อนจุดจบของร้านค้าปลีกของเล่นรายใหญ่อายุกว่า 70 ปี และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อ Toys ‘R’ Us ประกาศล้มละลายอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา คือบริษัทแจ้งพนักงานเรียบร้อยว่าจะปิดร้านค้าที่เหลืออยู่ในสหรัฐฯ                  ทั้งหมด 735 สาขา

การปิดสาขาของ Toys ‘R’ Us (ซึ่งครองส่วนแบ่งในอุตสาหกรรมของเล่นอเมริกันถึง 15%) จะมีผลกระทบอย่างมากต่อทุกบริษัทในอุตสาหกรรม ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดมีโอกาสเป็นทั้งแบรนด์ดังอย่าง Mattel, Hasbro หรือ Lego รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างพนักงาน

*** พนักงาน

หน่วยธุรกิจ Toys ‘R’ Us ในสหรัฐอเมริกามีพนักงานประมาณ 33,000 คน แน่นอนว่าทุกคนจะได้รับผลกระทบจากการปิดร้าน แม้ว่าบางสาขาจะยังคงเปิดให้บริการต่อไประยะหนึ่ง โดยกระบวนการ liquidation หรือการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อชำระบัญชีจะเริ่มขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้

อย่างไรก็ตาม พนักงาน Toys ‘R’ Us บางคนอาจได้ทำงานต่อหาก Toys’R ‘Us สามารถขายธุรกิจในแคนาดา ซึ่งยังมีรายได้และทิศทางที่ดี รวมทั้งร้านสาขาที่ยังทำยอดขายได้ดี 200 แห่งในสหรัฐฯ คาดว่าจะมีผู้ซื้อเป็นบริษัทรายใหม่สัญชาติแคนาดา

*** Mattel

Mattel คือผู้ผลิตตุ๊กตาและของเล่นแบรนด์ Barbie, Fisher Price, และ Monster High รายงานระบุว่า Mattel ได้รับผลกระทบจากการประกาศ Toys ‘R’ Us ล้มละลายแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ โดย Mattel อยู่ในภาวะยอดขายทั่วโลกลดลงนับตั้งแต่ Toys ‘R’ Us อยู่ในกระบวนการศาลล้มละลาย 

ปัจจุบัน Toys ‘R’ Us คือลูกค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของ Mattel ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนระหว่าง 15 ถึง 20% ของยอดขายในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบัน Toys ‘R’ Us ยังคงค้างชำระ Mattel มากกว่า 135 ล้านเหรียญ 

นอกจากนี้ การปิด Toys ‘R’ Us จะทำให้ Mattel ต้องเผชิญกับความกดดันมากขึ้นเรื่องช่องทางจำหน่าย เนื่องจาก Mattel ต้องเริ่มมองหาสถานที่จำหน่ายตุ๊กตาและเกมต่าง ๆ เพื่อทดแทนจากที่เคยวางขายใน Toys ‘R’ Us

*** Lego

การล้มละลายของ Toys ‘R’ Us ผลักให้หุ้นบริษัทเช่น Hasbro และ Mattel ดำดิ่งลง แต่ Lego ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

Lego ผู้ผลิตของเล่นตัวต่อพลาสติกถูกตั้งข้อสังเกตว่ามียอดขายลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม Lego คือบริษัทของเล่นที่ถูกมองว่ามีความพร้อมรับมือกับการล่มสลายของ Toys ‘R’ Us มากกว่าผู้ผลิตของเล่นรายอื่น ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของสินค้ากลุ่ม Lego Movie และ Star Wars ที่ขายได้ตลอดกาลเพราะกระแสความนิยมในภาพยนตร์

*** Jakk

Jakk เป็นบริษัท licensee ผู้ได้รับอนุญาตเครื่องหมายการค้าหลายร้อยฉบับทั้ง Disney, Star Wars และ Nintendo นอกจากนี้ บริษัท ยังทำเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก ของเล่นก่อสร้าง และชุดของเล่นกลางแจ้ง รวมถึงชุดแต่งกายและของเล่นประเภทหุ่นฟิกเกอร์แอคชั่น (action figure) 

ผลกระทบที่ Jakk จะได้รับนั้นไม่ต่างจาก Mattel ซึ่งจะต้องรอเก็บเงินและหาช่องทางจำหน่ายทดแทนให้ได้ในอนาคต

*** Hasbro

Hasbro คือผู้ผลิตของเล่นที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังเช่น My Little Pony, Play-Doh และเกมกระดานเช่น Monopoly, Yahtzee, Cranium และ Candy Land รวมถึง action figure ตระกูล GI Joe

เรื่องนี้ Stephanie Wissink นักวิเคราะห์ Jefferies มองว่าผู้ผลิตอย่าง Mattel และ Hasbro จะถูกมัดมือให้ต้องจัดการกับยอดขายในอุตสาหกรรมที่ลดลงระหว่าง 2.5 ถึง 5.5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการปิดทำการของ Toys ‘R’ Us ที่ยังเป็นหนี้ค้างชำระ Hasbro ประมาณ 59 ล้านดอลลาร์

*** The Next Shopkins

Toys ‘R’ Us ไม่เพียงเป็นกำลังหลักในการหนุนผู้ผลิตรายใหญ่เท่านั้น แต่ก็มักเป็นบริษัทที่ช่วยให้ผู้ผลิตรายใหม่ลืมตาอ้าปากและเริ่มต้นธุรกิจได้ The Next Shopkins เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหน้าใหม่ที่อาจต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพื่อเปิดตลาดของเล่นในวันที่ไม่มี Toys ‘R’ Us ในสหรัฐฯ แล้ว

Spinmaster

Spinmaster คือหนึ่งในบริษัทที่สามารถทำธุรกิจได้ดีตามที่นักวิเคราะห์จาก Jefferies ประเมินไว้ โดยการเติบโตของบริษัทได้รับแรงหนุนจากยอดขายของเล่นในไข่ Hatchimal ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และส่วนของเกมที่เติบโตชัดเจน

อย่างไรก็ตาม SpinMaster ไม่ได้ขึ้นอยู่กับร้านค้าปลีกของเล่นเช่นเดียวกับ Hasbro และ Mattel เพราะ Spinmaster มีช่องทางการขายหลากหลาย ทั้งในร้านหนังสือ ร้านแฟชั่น ร้านยา และร้านขายของชำ จุดนี้ Jefferies เคยคาดการณ์ด้วยว่าการล้มละลายของ Toys ‘R’ Us ในสหรัฐฯ จะทำให้ SpinMaster มีโอกาสซื้อแบรนด์ของเล่นบางแบรนด์ เนื่องจาก SpinMaster มีความพร้อมหลายด้านมากกว่าใคร.

ที่มา : fortune.com/2018/03/16/toys-r-us-closings-mattel-hasbro-lego-affected/

]]>
1162051