เอพี เดินหน้ารุกจัดงานใหญ่ส่งท้ายปี “AP SPACE ODYSSEY” พร้อมนำเสนอ 8 วิธีคิดในการดีไซน์สเปซที่มองได้อย่างลึกซึ้งถึงความต้องการที่แตกต่างผ่าน 8 โครงการไฮไลท์ พร้อมเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ล่าสุด DISTRICT พรี่เมี่ยมโฮมออฟฟิศ และ MIND บ้านเดี่ยวสำหรับครอบครัวขยาย เติมเต็มทุกเซ็กเมนต์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง และไฮไลท์พิเศษ “AP 100” ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม จำนวน 100 ยูนิต ที่ดีที่สุดจากกว่า 60 โครงการพร้อมอยู่ทั่วกรุงฯ ระดับราคา 1.69 – 40 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสุดแห่งปีที่งานนี้งานเดียว “เอพีช่วยจ่ายสูงสุด 2,000,000 บาท จองและทำสัญญารับเพิ่ม iPhone 6” ณ งาน AP SPACE ODYSSEY วันที่ 22-26 ตุลาคมนี้ ลาน พาร์คพารากอน

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (Mr. Vittakarn Chandavimol; Chief Marketing Officer, AP (Thailand) Public Co., Ltd.) ผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยพร้อมตอบความต้องการของคนเมือง เปิดเผยว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งแนวราบและแนวสูง ทำให้ เอพี เข้าใจถึงการใช้ชีวิตคนเมือง และจากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงเดินหน้ารุกตลาดไตรมาสสุดท้ายเต็มสูบ ด้วยการจัดงานใหญ่ส่งท้าย AP SPACE ODYSSEY นำเสนอ 8 วิธีคิด กับ 8 โครงการใหม่ ซึ่งวิธีการมองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการที่อยู่อาศัยที่ต่างกัน ด้วยวิธีการออกแบบสเปซตอกย้ำแนวคิดการทำงาน “AP SPACE ตอบทุกชีวิต”

“ในครึ่งปีหลังนอกจากความสำเร็จเป็นอย่างมากในการรุกตลาดแนวสูงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยการเปิดขายรอบพิเศษ “Aspire สาทร-ท่าพระ” เพียง 2 วัน บริษัทฯ สามารถกวาดยอดขายรวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เรายังมองตลาดแนวราบด้วยการเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ มาเติมเต็มเซ็กเมนต์โฮมออฟฟิศและบ้านเดี่ยวใน Portfolio ของ เอพี เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น ได้แก่ DISTRICT ศรีวรา พรีเมี่ยมโฮมออฟฟิศ ภายใต้แนวคิดการออกแบบสเปซสำหรับกลุ่มเป้าหมายทำงานครีเอทีฟ ทำเลใจกลาง Creative Hub ทาวน์ อิน ทาวน์ และ MIND พระราม 7 และ MIND ติวานนท์ บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ภายใต้แนวคิดการดีไซน์สเปซสำหรับครอบครัวขยาย โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานนี้เป็นครั้งแรก”

สำหรับ โครงการ DISTRICT ศรีวรา เป็นพรีเมี่ยมโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น หน้ากว้าง 13 เมตร มี 4 แบบบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 380 – 525 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 870 ล้านบาท โดดเด่นการดีไซน์สเปซและฟังก์ชั่นภายในสำหรับกลุ่มลูกค้าคนทำงานสายครีเอทีฟ ทำเลติดถนนศรีวรา ห่างจากเลียบทางด่วนรามอินทราเพียง 150 เมตร บนพื้นที่โครงการ 6.6 ไร่ ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 35 ยูนิต รองรับที่จอดรถถึง 6 คันทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท และ โครงการ MIND บ้านเดี่ยว 3 ชั้น มี 3 แบบบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 220 – 250 ตารางเมตร ในสไตล์โมเดิร์น Minimalism สงบนิ่ง เรียบง่าย แต่ยังคงมีความทันสมัยกับฟังก์ชั่นภายในสำหรับครอบครัวขยายของคนเมืองอย่างแท้จริง สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ในวันพักผ่อนทั้ง ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสวยขนาดใหญ่ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ มีให้เลือกบน 2 ทำเลศักยภาพ คือ MIND ติวานนท์มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 23.2 ไร่ จำนวน 80 ยูนิต ในทำเลแห่งพื้นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ CBD นนทบุรี ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีกระทรวงสาธารณสุข) ในราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท และ MIND พระราม 7 มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท บนพื้นที่ 21.8 ไร่ จำนวน 86 ยูนิต ในทำเลที่พร้อมเชื่อมต่อเข้าสู่กลางเมืองได้หลายเส้นทาง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) และรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ – ตลิ่งชัน) ในราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีไฮไลท์โครงการพิเศษที่ตอกย้ำการดีไซน์สเปซเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตคนเมืองที่แตกต่างกัน อาทิ The Palazzoราชพฤกษ์ คฤหาสน์สไตล์ Modern Art Deco เพียง 15 นาทีสู่สะพานตากสิน ราคาเริ่มต้น 29 ล้านบาท บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 ทาวน์โฮมในสไตล์มินิมอลล์ หนึ่งเดียวในทำเลคอนโด เพียง 5 นาทีสู่รถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ใกล้ทางด่วนพระราม 3 ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท บ้านกลางเมือง รัชโยธิน Duplex Townhome  3 ชั้นครึ่ง ดีไซน์ใหม่ล่าสุดจากบ้านกลางเมือง โดดเด่นทั้งสเปซดีไซน์และฟังก์ชั่นใช้สอยที่มากขึ้น เพียง 5 นาทีจาก เมเจอร์ รัชโยธิน ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท RHYTHM “The Slow Collection” คอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำใกล้รถไฟฟ้าใจกลางสาทร พร้อมการดีไซน์พื่อให้ทุกวินาทีชีวิตช้าลง แต่งครบราคาเริ่มต้น 4.6 ล้านบาท และ Aspire สาทร-ท่าพระ คอนโดมิเนียมภายใต้การดีไซน์สถาปัตยกรรมและพื้นที่ส่วนกลางสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัย ตอบไลฟ์สไตล์คนเมืองรุ่นใหม่ 1 ก้าวจากสถานีรถไฟฟ้าตลาดพลู ราคาเริ่มต้น 2.17 ล้านบาท

ซึ่งการจัดงาน AP SPACE ODYSSEY นอกจากจะเป็นการเสนอ 8 วิธีคิดในการออกพื้นที่เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิตคนเมือง และการเปิดตัว 2แบรนด์ใหม่ล่าสุด DISTRICT และ MIND อย่างเป็นทางการแล้ว ภายในงานลูกค้าจะได้พบกับไฮไลท์พิเศษ “AP 100” สุดยอดโครงการ บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม,คอนโดมิเนียม 100 ยูนิตที่ดีที่สุดของเอพี ผ่านการคัดสรรโดย THINKOFLIVING.COM รวมกว่า 60 โครงการพร้อมอยู่ทั่วเมือง ด้วยราคาเริ่มต้น 1.69 – 40 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษ “เอพีช่วยจ่ายสูงสุด 2,000,000 บาท จองและทำสัญญารับเพิ่ม iPhone 6” รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายภายในงาน อาทิ “Life Market Space by a day BULLETIN LIFE” ตลาดนัด SPACEWARE สุดล้ำตลอด 5 วัน พร้อมกันนี้ยังเตรียมแฮนด์บุ๊คฉบับพิเศษ “ทุบกระปุกซื้อบ้าน” นำเสนอเนื้อหาที่คนซื้อบ้านและคอนโดครั้งแรกควรอ่าน!! แจกฟรีในงาน ตั้งแต่วันที่ 22-26 ตุลาคมนี้ ณ ลาน พาร์คพารากอน โดยคาดการณ์ว่าจากการจัดแคมเปญครั้งนี้ บริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปีนี้ (2557) บริษัทฯ เปิดตัวโครงการทั้งหมด 17 โครงการ มูลค่ารวม 22,880 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่า 4,390 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 8โครงการ มูลค่า 7,940 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 10,550 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย (Presales Target) ทั้งปี 21,000 ล้านบาท มียอดขาย (Net Sales Booking) รวม 3 ไตรมาสเท่ากับ 17,490 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นแนวราบ 8,880 ล้านบาท และแนวสูง 8,610 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าผลจากการพัฒนาสินค้าทั้งแนวราบ – แนวสูงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตของคนเมืองแต่ละไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจำนวนโครงการที่อยู่ในมือจะนำมาสู่ยอดขาย-ยอดโอนที่เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต

อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย ที่มักนำเสนอไอเดียเด็ดๆ ผ่านแคมเปญโฆษณา จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความคิดสร้างสรรค์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ล่าสุดผุดแคมเปญเด็ด ‘Areeya Surprise’ ใช้ไวรัลชวนซึ้ง อารมณ์ดี หลายชุด หลากอารมณ์ ความยาวราว 10 นาที ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘รักครั้งแรก’ ที่ห่างหายไปนานหลายปี แต่อยู่ๆ ก็กลับมาเจอกันอีกครั้ง เป็นเซอร์ไพรส์น่ารักๆ ที่อาจเกิดขึ้นจริงในชีวิตของใครหลายๆ คน

ไวรัลนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งมีการแชร์อย่างแพร่หลายทั่วโลกออนไลน์  เพราะ ‘รักครั้งแรกที่พลัดพราก’ เป็นเรื่องราวความรักแบบ ‘สามัญ’ ที่เป็นประสบการณ์ตรงของแทบทุกคน และอารียาก็หยิบยกมาถ่ายทอดได้อย่างละเมียดละไม เป็นธรรมชาติ และสร้าง Emotional Touch กับคนดูได้เป็นอย่างดี

ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 50 ปีของฉันและเธอ ,รักแรกของสองเรา,เธอหายไปไหนมา…, การกลับมาของพี่นักบาสสุดเท่,แอบรักรุ่นพี่สาว…,คุณยังจำคู่เต้นคนแรกของคุณได้ไหม,จะเป็นอย่างไร ถ้าคุณได้กลับมาเจอหนุ่มสุดฮอตที่เคยกรี๊ด

แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่กาลเวลาไม่เคยลบเลือนความทรงจำไปได้เลย จนกระทั่งพบกันอีกครั้ง ความสุขในวันวานก็กลับมาสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่สดใส และทำให้หัวใจที่เต้นแรงกว่าเคย

หลังชมไวรัลคลิปชุดนี้จบลง คุณจะเข้าใจว่า Areeya Surprise เซอร์ไพรส์คุณแบบพลิกชีวิต! อย่างไร

ติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th โทร. 1797 และ AreeyaChannel ทาง Youtube

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บ้านที่ปลูกบนความตั้งใจที่ดี” เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่คลายความร้อนแรงจากในช่วงครึ่งปีแรก 2557 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นในการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันเริ่มทวีความเข้มข้นในการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลขายบ้านในปี 2557 นี้ บริษัทได้นำโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ในทำเลศักยภาพรวมมากกว่า 30 โครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด เข้าร่วมงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 31” ระหว่างวันที่ 9-12 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในบูธ G144 – G158 โซน CG พร้อมข้อเสนอพิเศษ “Lalin 4 Days free 360 องศา ฟรีทุกรายการ” อาทิ ฟรีเครื่องปรับอากาศ, ฟรีมิเตอร์น้ำ-ไฟ, ฟรีค่าส่วนกลาง, ฟรีค่าธรรมเนียมการโอน และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจจองภายในงาน พิเศษสุดรับเพิ่มทันที iPhone 6  เฉพาะ 4 วันนี้เท่านั้น หวังกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในกลุ่มตลาดเรียลดีมานด์ ที่กำลังมองหาที่พักอาศัยคุณภาพพร้อมอยู่

สำหรับโครงการที่ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ นำมาร่วมออกบูธครั้งนี้ประกอบด้วย ได้แก่ บ้านแลนซีโอ, บ้านแลนซีโอ คริป, ทาวน์โฮมไลโอ, ลีโว คอนโด,ลิปป์ คอนโด, บ้านลลิล กรีนวิลล์, บ้านลลิล อินเดอะพาร์ค, บ้านบุรีรมย์, ทาวน์โฮมเดอะบัลโคนี่ โฮม บนทำเลศักยภาพ ทั้งลาดพร้าว รามคำแหง รามอินทรา วัชรพล อ่อนนุช สุวรรณภูมิ ปิ่นเกล้า  รัตนาธิเบศร์ เพชรเกษม พระราม 2 รังสิต  และต่างจังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี,ระยอง,ฉะเชิงเทราและนครราชสีมา ในราคาเริ่มต้นที่ 1.43 – 8 ล้านบาท

โดยไฮไลท์ของการออกบูธในครั้งนี้ คือ การเปิด Presale โครงการใหม่ จาก ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้แก่ โครงการ“แลนซีโอ นอฟ รามอินทรา – วงแหวนฯ (คู้บอน 38)” โครงการบ้านเดี่ยว บ้านแนวคิดใหม่ และ   ทาวน์โฮม สไตล์ Modern Stripe Contemporary ครบครันทั้งสระว่ายน้ำสไตล์ Infinity Edge คลับเฮ้าส์ ฟิตเนส และสวนสวยขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยศักยภาพทำเล ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูในอนาคต ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.9 ล้านบาท และ เปิด Pre-Booking โครงการใหม่ล่าสุด “ไลโอ นอฟ วงแหวนฯ – ปิ่นเกล้า ฯ (พระนอน) โครงการบ้านแนวคิดใหม่และทาวน์โฮม ฟังก์ชั่น Master Bedroom Suite ที่เน้นห้องนอนขนาดใหญ่เต็มหน้ากว้าง 2 จอดรถ สไตล์ Modern Stripe Contemporary รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 1,000 ตร.ม. ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต และรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีตลาดบางใหญ่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1 ล้านกว่าบาท

พบกับบูธของ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมรับโปรโมชั่นดีๆ และรับสิทธิพิเศษมากมาย ที่บริเวณโซน CG หมายเลขบูธ G144 – G158 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 1778 หรือคลิก www.lalinproperty.com

“พฤกษา เรียลเอสเตท” รุกทำเลทองย่านศรีนครินทร์ ขยายตลาดแนวราบ พบบ้านรูปแบบใหม่ “ภัสสร ไพรด์ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์” ราคาเริ่มต้นเพียง 2 ล้านกว่าบาท เปิดPresale 4-5 ต.ค. นี้ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเลือกจองโซนพิเศษสุดก่อนใคร

นายนิมิตร พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันที่ดินบนทำเลย่านศรีนครินทร์ถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพสูงมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว ทั้งยังรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมายบริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพทำเลในย่านนี้ที่เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้าพัฒนาโครงการ “ภัสสร ไพรด์ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์” บ้านรูปแบบใหม่สไตล์  Modern Classicsเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนเมืองที่มีความหลากหลายและเร่งรีบ โดยเปิด Presale วันที่ 4-5 ต.ค. นี้เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจได้รับสิทธิ์เลือกจองโซนพิเศษก่อนใคร

ภัสสร ไพรด์ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์ ออกแบบด้วยแนวคิดการดีไซน์ “Rewrite The New Episode Of Living” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะที่งดงามผสมผสาน ความเรียบง่ายแบบสมัยใหม่และความหรูหราแบบคลาสสิก มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ Paradiz บ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ2 คัน และบ้านแนวคิดใหม่ 3 แบบ Re-Fine พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ2 คัน Re-Sense พื้นที่ใช้สอย 135 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คันและ Re-Fresh พื้นที่ใช้สอย 116 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ1 คัน โครงการเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่นด้วยสวนส่วนกลางถึง 2 จุด ผ่อนคลายด้วยสระว่ายน้ำสำหรับครอบครัวพร้อม Bicycle Lane, Jogging Track, สนามเด็กเล่น และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

โครงการตั้งอยู่บน Connection Area ที่สุดแห่งทำเลศักยภาพในปัจจุบันและอนาคต เพียง 3.5 กม. ถึงจุดขึ้น-ลงรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีศรีนครินทร์ พร้อมทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วน (ด่านบางเมือง) และยังเชื่อมต่อถนนได้หลากหลายเส้นทาง อาทิ ถ.ศรีนครินทร์ ถ.เทพารักษ์ ถ.สุขุมวิท ถ.วงแหวนอุตสาหกรรม ถ.วงแหวนรอบนอก และ ถ.แพรกษา ซึ่งสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ใกล้ห้างสรรพสินค้า Lotus, Big C, Makro, คาร์ฟูร์, Tops และ Index ใกล้สถานศึกษาชื่อดัง อาทิ รร.เซนต์โยเซฟ, รร.อัสสัมชัญ รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และ รร.สตรีสมุทรปราการ ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ รพ.เปาโล เมโลเรียล, รพ.จุฑารัตน์ 2, รพ.เมืองสมุทรปราการ และรพ.ศิครินทร์ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองภายในงานจะได้รับส่วนลดพิเศษ พร้อมเลือกจองแปลงสวยในโซนทำเลที่ดีที่สุดในโครงการก่อนใคร และสำหรับลูกค้าธนาคารกรุงเทพจะได้รับi Phone 6 เพิ่มสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1739 หรือคลิก www.pruksa.com

“SOUL รัชดาภิเษก 68” โดย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Housing Development (Bangkok) ในงานประกาศผลรางวัล Thailand Property Awards 2014 โดยรางวัลดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความเป็นมืออาชีพและการยอมรับในระดับสากล ทั้งในเรื่องการออกแบบโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับไฮเอ็นท์ ที่ผสานงานดีไซน์สถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นและฟังก์ชั่นการใช้งานของสเปซภายในและภายนอก เพื่อตอบวิถีการใช้ชีวิตของครอบครัวคนเมืองอย่างมีระดับแบบ Luxury  Gated Community และด้วยความโดดเด่นของโลเคชั่นใจกลางเมืองและความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 30 ยูนิตภายใต้แนวคิด The Private Residences จึงส่งผลให้ SOUL รัชดาภิเษก 68 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการเดียวที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ โดยมี คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติรับมอบรางวัลในงาน ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพ เมื่อเร็วๆ นี้

บจ. ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ เจ้าตลาดรับสร้างบ้านหรูของไทย ใช้ประสบการณ์กว่า 26 ปีในวงการรับสร้างบ้าน เตรียมผนึก SCG และคู่ค้าสำคัญอีก 4 ราย ร่วมกันเปิดตัว แบบบ้าน Pride of Emperor ในแนวคิด “บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน” (100 Year House : The Architecture for the Legend) โดยบ้านแบบล่าสุดนี้ มีมูลค่าการก่อสร้างตัวบ้านที่ 58.5 ล้านบาท ในพื้นที่ใช้สอยเบื้องต้น 1,345 ตร.ม พร้อมเผยกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วย Leadership Strategy วางตำแหน่งบริษัทเป็นผู้นำตลาดบ้านระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาตัวสินค้าทั้งรูปแบบ การให้บริการ และกระบวนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดส่งบ้านมูลค่าสูงสุดกว่า 330 ล้านบาทภายในปีนี้

ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ได้ดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจด้วยการกำหนดตำแหน่งทางธุรกิจให้ตัวเองเป็น “ผู้นำตลาดรับสร้างบ้านระดับสูง” (Leadership Strategy) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ต้องคิดและพัฒนาตัวเองเพื่อนำตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2544 เราได้นำระบบอัจฉริยะเข้ามาใช้เป็นครั้งแรกในวงการรับสร้างบ้าน และในปี 2547 บริษัทฯ ได้ส่งมอบบ้านหลังที่มูลค่าสูงสุดในวงการธุรกิจรับสร้างบ้านด้วยมูลค่าถึง 217 ล้านบาท ในปี 2549 บริษัทฯแสดงจุดยืนผู้นำทางการตลาด ด้วยความไว้วางใจของลูกค้าให้ติดโลโก้ของบริษัทฯ ไว้ที่หน้าบ้าน และด้วยผลงานการออกแบบ และเพื่อพิสูจน์ศักยภาพ ผลงาน และความไว้วางใจจากลูกค้าทำให้ในปี 2551 ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ได้รวบรวมผลงานมาเป็นหนังสือ The House of the Emperor ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการรับสร้างบ้านไทยที่มีนำผลงานจริงที่ส่งมอบแล้ว และ knowhow ในการสร้างบ้านมารวบรวมเป็นเล่ม และวางจำหน่าย จากนั้นในปี 2554 ได้เริ่มฝากผลงานการออกแบบและสร้างบ้านที่ สปป.ลาว ซึ่งในปีเดียวกันนี้เองทาง ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ได้ทุบสถิติการสร้างบ้านที่มีราคาสูงที่สุดอีกหนึ่งหลังในราคาถึง 260 ล้านบาท  ความเติบโตของมาดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์เติบโตขึ้นตามลำดับทำให้ในปี 2556 ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือระหว่าง ไทย-สปป.ลาว ก่อตั้งบริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ (สปป.ลาว) จำกัด พร้อมทั้งสร้างนวัตกรรมการออกแบบอีกครั้งด้วยการนำศิลปะสไตล์อาร์ต เดคโค่ (Art Deco) มาเปิดตัวสร้างเป็นแบบบ้านหรูครั้งแรกในวงการ และในปี 2557 เป็นอีกปีหนึ่งที่ได้รวบรวมแบบบ้านเพื่อรวบรวมเป็นหนังสือ The House of The Emperor Volume 2 ทั้งยังมีกำหนดการส่งมอบบ้านพักอาศัยที่มีมูลค่ากว่า 330 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นการทำลายสถิติใหม่ของวงการรับสร้างบ้านอีกครั้ง

จากการใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเป็นผู้นำตลาดรับสร้างบ้านระดับสูงนายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจแบบ Leadership Strategy โดยการเปิดตัว “บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน” ว่า “การวางตำแหน่งตัวเองให้เป็น Leadership Strategy ทำให้เราต้องคิดตลอดเวลา อย่างน้อยเพื่อตัวเราเอง และเพื่อลูกค้าที่ไว้ใจการทำงานของเรา ตัวอย่างล่าสุดของกลยุทธ์นี้ คือ การคิดทำ “บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน” โดยเกิดจากการประชุมศึกษาและค้นคว้าข้อมูลของทีมงาน ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ ประกอบกับใช้ประสบการณ์กว่า 26 ปี ในการสร้างบ้านหรู หลังใหญ่ ทำให้เราศึกษาและค้นคว้าในเรื่องของการออกแบบและวัสดุที่คงทน เพื่อให้เกิดบ้านที่สามารถอยู่ได้เกิน 100 ปี เรารู้ถึงความต้องการของลูกค้า, ข้อจำกัดในงานก่อสร้าง,และข้อสำคัญคือ การดูแลรักษาบ้านหลังงามให้คงอยู่สวยงามตลอดไป เช่น การเปลี่ยนไฟสักดวงบนโคมระย้าหลังงาม จะทำได้อย่างไร ซึ่งเล็กๆ เพียงแค่นี้เป็นงานด้านการดูแลรักษาที่เราได้เตรียมคิดไว้ให้แล้ว โดยบ้าน ๑๐๐ ปี จะประกอบไปด้วยหลักง่ายๆ ได้แก่ มีความคงทน ถาวร เหนือกาลเวลา, ดูแลบำรุงรักษาได้ง่าย และสะดวก และรองรับการเปลี่ยนแปลงของ ระบบและเทคโนโลยี ในอนาคต ซึ่งทั้งหมดถูกรวบรวมไว้ภายใต้แนวคิด 5S ซึ่งเป็นแนวคิดมาตรฐานสำหรับบ้าน ๑๐๐ ปี”

แนวคิดของบ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน เป็นแนวคิดที่ ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ สร้างสรรค์ขึ้น โดยบ้านหลังนี้ได้ถูกคำนึงถึงองค์ประกอบ 5S เป็นสำคัญ ได้แก่

S-Story มาจากคำว่า Style+History โดย History คือ ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นของบ้าน ประวัติความเป็นมาของบ้าน โดยลูกค้าต้องสื่อสารกับสถาปนิกผู้ออกแบบ เล่าถึงแรงบันดาลใจ ในการคิดที่จะสร้างบ้าน เพื่อสร้างเป็นเรื่องราว และจินตนาการ ให้สถาปนิกถ่ายทอดออกมาเป็นบ้านหลังงาม พร้อมที่จะส่งต่อกันจากรุ่น..สู่รุ่น  จากนั้นจึงมาถึงการเลือก Style ของบ้าน โดยลูกค้าอาจจะต้องการบ้านในสไตล์คลาสสิค ซึ่งมีหลายยุคหลายสมัย หรือแม้แต่งานในแบบของอาร์ท เดคโค เป็นต้น โดยจะเน้นแบบที่มีสัดส่วนและองค์ประกอบ ที่ลงตัวตามหลักการออกแบบ และการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของไทยได้อย่างลงตัว ส่วนการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายใน เพื่อสนองตอบความต้องการของเจ้าของบ้านได้อย่างแท้จริง

S – Structure การออกแบบโครงสร้างพิเศษที่เหนือกว่าบ้านเพราะวิศวกรจะกำหนดให้บ้านมีการรับน้ำหนักได้สูงกว่าบ้านปกติโดยทั่วไป อาจมีการกำหนดระยะเสากว้างถึง12เมตร หรือโครงสร้างที่ออกแบบให้มารับโดมหลังคาที่มีน้ำหนักเป็น 10 ตันเป็นต้น มีการคำนึงถึงการเปลี่ยน แปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภัยน้ำท่วม แผ่นดินไหว สภาพอากาศที่แปรปรวน

S – Specification รายการวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพ คัดสรรจาก Supplier ที่ได้รับการยอมรับในสินค้าและบริการที่สามารถจะอยู่คู่กับบ้านหลังนี้ตราบนานเท่านาน โดยวัสดุหลักสำคัญทั้ง 5 รายก็พร้อมที่จะเปิดตัวในวันนี้

S – Standard ด้วยมาตรฐาน และการบริหารงานก่อสร้าง แบบ The Emperor House ที่เหนือกว่าบ้านทั่วไป ซึ่งวันนี้เรากล้าพอที่จะเปิดเผยถึงขั้นตอนบางส่วนในกระบวนการก่อสร้างของเราลงในหนังสือและออกจำหน่าย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนที่เหนือกว่า ทำให้บ้านทุกหลังได้คุณภาพเหนือกว่ามาตรฐาน อีกทั้งการพัฒนาทีมงานที่มีประสบการณ์ในการสร้างบ้านพักอาศัยระดับสูง รวมถึงทีมงานที่คอยให้คำแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด

S- Service การดูแลบ้านให้มีอายุยืนนานจะต้องมีการซ่อมบำรุงตามระยะเวลา ทั้งนี้จะต้องเตรียมเรื่องของวิธีการซ่อมบำรุง ที่สามารถทำได้โดยไม่ยุ่งยาก วัสดุ/อุปกรณ์บางตัวอาจต้องเปลี่ยนตามสภาพการใช้งาน หรือเพิ่มเติมได้อย่างสะดวกสบาย แม้อายุของบ้านจะผ่านไปนับ100ปีก็ตาม

“บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน เราได้คัดสรร Supplier(S-Specification) ชั้นนำระดับแนวหน้าของไทย เพื่อเลือกใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพเยี่ยมที่สุดมาใช้ โดยในครั้งนี้เราได้มีทั้งบริษัท เอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท โจตันไทย จำกัด, บริษัท บาส-รีลีฟ(ประเทศไทย)จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบัวประดับเพดาน-ผนัง บัวสำเร็จรูป, บริษัท นวพลาสติก อุตสาหกรรม จำกัด ตัวแทนประกอบและจำหน่าย หน้าต่างประตู WINDSOR และบริษัท ไอบิวท์ ออโตเมชั่น จำกัด บริษัทติดตั้งระบบ Home Automation ซึ่งผมต้องขอขอบคุณทุกท่าน เป็นอย่างสูงที่สนับสนุน และเป็นส่วนหนึ่งให้บ้าน ๑๐๐ ปี ได้เกิดขึ้น” นายสุรัตน์ชัยกล่าว

สำหรับบ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน คือ บ้านรุ่น Pride of Emperor ซึ่งออกแบบมาเป็นแบบแรก โดยเป็นบ้านสไตล์คลาสสิค บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,345 ตร.ม, 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องโฮม เธียร์เตอร์, ห้องฟิตเนส, และอื่นๆ และมีการใส่ระบบ infrastructure อย่างดีเยี่ยม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับช่างและเจ้าของบ้านในการดูแลบ้านในระยะยาว โดยบ้านหลังนี้มีราคาค่าก่อสร้างจะเริ่มต้นอยู่ที่ 58.5 ล้านบาท และสูงสุดคาดว่าจะอยู่ที่ 85 ล้านบาท  

นายนิมิตร พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจบ้านเดี่ยว บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปีนี้ทางบริษัทฯ ต้องการเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวจึงมีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างแบรนด์ให้เป็นอันดับหนึ่งในใจลูกค้า จึงปรับกลยุทธ์การสื่อสารของแบรนด์“เดอะแพลนท์”บ้านเดี่ยวสไตล์ โมเดิร์นที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับนี้ใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่าง และความโดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด โดยออกแบบบ้านให้สร้างความประทับใจ และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

“ด้วยแนวคิดหลักของแบรนด์ “เดอะแพลนท์” คือการสะท้อนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตถ้าหากมอง “เดอะแพลนท์” เป็นต้นไม้ใหญ่ เราสามารถจัดกลุ่มแบรนด์เป็น 3 กลุ่มที่สะท้อนเอกลักษณ์แห่งการใช้ชีวิตที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่ เดอะแพลนท์ ซิมพลีส (The Plant Simpls)  เปรียบเหมือนใบไม้ที่เริ่มผลิ เป็นสังคมของคนที่กำลังเริ่มต้นชีวิต เพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น ที่มีความเรียบง่าย แต่ยังแฝงไว้ด้วยสีสันของคนรุ่นใหม่ระดับราคา3-5 ล้านบาท เดอะแพลนท์ เอสทีค (The Plant Estique) เปรียบเหมือนกิ่งก้านที่แผ่ขยาย เป็นสังคมของคนที่มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จให้กับชีวิต พร้อมสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับอนาคตของครอบครัว ระดับราคา 5-7 ล้านบาท และเดอะแพลนท์ เอ็กซคลูซีค (The Plant Exclusique) เปรียบเหมือนลำต้นซึ่งมีความมั่นคง เป็นสังคมของผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วในทุกๆด้านของชีวิต ระดับราคา 7-10 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดโดยวิเคราะห์และแบ่งกลุ่มลูกค้าตามแนวคิดนี้ จะทำให้บ้านเดี่ยวของพฤกษา สามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มนี้ได้อย่างมั่นคง”

“เดอะแพลนท์” เอกลักษณ์ใหม่ พร้อมเปิดให้จองแล้ววันนี้โครงการแรกคือ เดอะแพลนท์ เอสทีค พัฒนาการ เริ่ม 5.69ล้านบาท

FURTHER FUTURE เพราะคุณมองเห็นอนาคตก่อนใครด้วยแบบบ้านสไตล์ Natural  Modernเน้นความเป็นธรรมชาติ ผสานกับ City Lifestyle บนเนื้อที่ 35-0-10.50 ไร่ เพียง 177 ยูนิต ครบครันด้วย Clubhouse fitness มีแบบบ้านให้เลือก4 แบบ ได้แก่ Praise พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คันPreen พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม.3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน Prairie พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน และ Prim ขนาดพื้นที่ 39ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145 ตร.ม.3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน โครงการตั้งอยู่ใน“พฤกษา อเวนิว” ซอยพัฒนาการ 38 ห่างจากทองหล่อเพียง 5 กม. ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และมอเตอร์เวย์ใกล้บีทีเอสสถานีอ่อนนุช และ Airport Rail Link (สถานีหัวหมาก)

ในเดือนกรกฎาคม จะเปิดตัว เดอะ แพลนท์ ซิมพลีส พหลโยธิน-สายไหมอนาคตที่ไม่ต้องรอถึงวันพรุ่งนี้เพื่อเติมเต็มฝันและยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิต ด้วยบ้านสไตล์โมเดิร์น บนเนื้อที่ 51-2-2.6 ไร่  265 ยูนิตพร้อมแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ  พื้นที่ใช้สอย 124-145 ตร.ม. เนื้อที่ 38 – 60 ตร.ว. เริ่ม 3 ล้านกว่าบาทโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เข้า-ออก ได้หลายเส้นทางทั้งถนนวิภาวดี และถนนพหลโยธินใกล้ทางด่วนสุขาภิบาล 5 ใกล้มอเตอร์เวย์วงแหวนกาญจนาฯและในเดือนสิงหาคม คาดว่าจะเปิดตัว “เดอะแพลนท์ เอ็กซคลูซีคสรงประภา-แจ้งวัฒนะ” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1739 หรือ คลิก www.pruksa.com

ชื่อและบ้านของลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ที่ถือว่าเป็นนักพัฒนาที่ดินรุ่นแรกๆ ก็กำลังพยายามหนีความแก่ของตัวเอง โดยการปรับสินค้าของตัวเองให้ดูทันสมัย และเข้ากับกลุ่มผู้ซื้อบ้านรุ่นใหม่มากขึ้น การออก Brand ใหม่ที่ดูเป็นหนุ่ม เป็นสาวขึ้น ดูเหมือนมีเสียงตอบรับจากผู้ซื้อมากขึ้น

ไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ยอมรับว่า บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกลยุทธ์การตลาดใหม่ ด้วยการแบ่งกลุ่มบ้านในรูปแบบเดิมของลลิล เป็น SBU 1 ที่ดูแลบ้านลลิล ลลิล กรีนวิลล์ และบุรีรมย์ ใช้วิธีการบริหาร ทำโครงการ แบบเดิมตามสไตล์อนุรักษนิยม

และ SBU 2 คือการเปิดตลาดใหม่จับกลุ่มคนรุ่นเด็กลงมา ปรับใหม่ตั้งแต่การออกแบบบ้าน การตกแต่ง การใช้วัสดุ รูปลักษณ์ การบริการ การขาย ซึ่งจะฉีกออกไปจากโครงการเดิมของลลิล โครงการในหน่วยงานนี้คือ โครงการ Lanceo และ Lio ซึ่งได้ทดลองทำตลาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ก็ได้การตอบรับในระดับที่น่าพึงพอใจ

ไชยยันต์อธิบายว่า SBU 2 เป็นการทำตลาดบ้านคนรุ่นใหม่ โดยทีมงานรุ่นใหม่ และใช้เครื่องมือการตลาดแบบใหม่ทั้งสื่ออนไลน์ Social Media ซึ่งการทำกลยุทธ์แบบนี้ จะมองที่ตัวคนซื้อบ้านเป็นหลักว่าต้องการบ้านแบบไหน ราคาเท่าไหร่ และต้องดูแลอย่างไร ใช้สื่ออย่างไรที่เข้าถึงกลุ่มนี้

สิ่งที่ลลิลทำก็คือ จัดหาทีมงานใหม่ขึ้นมาดูแลหน่วยงานนี้โดยเฉพาะ เป็นการคัดเลือกพนักงานใหม่ ที่เป็นเด็กเพิ่งจบการศึกษา หรือจบมาจากจากต่างประเทศ และเป็นกลุ่มที่คิดแบบเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน ใช้ชีวิต และมีความต้องการเหมือนกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการซื้อบ้าน เพื่อจะได้เข้าอก เข้าใจคนซื้อกลุ่มนี้ ซึ่งที่ผ่านมาลลิลยังไม่ได้ลูกค้ากลุ่มนี้เท่าไหร่ และแน่นอนว่าปีนี้ จะมีโครงการภายใน SBU 2 นี้มากขึ้น แต่มากหรือน้อยขึ้นกับภาวะของตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้

เขาบอกด้วยว่า โมเดลธุรกิจใหม่ ทำให้รายได้บริษัทขยายตัวขึ้น 15% โดย SBU 1 และ 2 สร้างรายได้ในสัดส่วน 50 : 50 และปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 2,150 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,935 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วมีรายได้ 1,650-1,700 ล้านบาท

ถึงแม้จะมีการปรับ Brand ใหม่ที่สดใสขึ้น แต่สิ่งที่ไชยยันต์ห่วง คือ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ทุกรายต่างวางเป้าหมายในการเปิดและขายโครงการแบบท้าทายกันเองสูงมาก ซึ่งในภาวะแบบนี้ธุรกิจที่อยู่อาศัยกับสภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังเดินสวนทางกัน

ความหมายก็คือ คนสร้างบ้านขาย ผลิตสินค้าออกมามากเกินการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ และกำลังซื้อของผู้บริโภค “Supple ไม่สามารถสร้าง Demand ได้อีกแล้วในปีนี้“ คำเตือนของไชยยันต์ ฝากถึงผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่คุมตลาดอยู่ขณะนี้ ซึ่งมีประมาณ 10 บริษัทด้วยกัน

อีกเหตุผลหนึ่งที่ไชยยันต์ประเมินไว้ก็คือ การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ด้วยปัจจัยการเร่งปฏิกิริยาจากระบบโครงสร้างคมนาคมของบ้านเรา โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าทุกประเทศ ทุกสายทาง ที่ทำให้คนซื้อบ้านเริ่มมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และกำลังชั่งใจอย่างหนัก

“คอนโดมิเนียมขนาด 30 ตารางเมตร ราคาขายกว่า 2 ล้านบาท สร้างเสร็จภายใน 3 ปี พร้อมๆ กับโครงการรถไฟฟ้าต่างที่เสร็จพร้อมกัน คนซื้อคอนโดมิเนียมกลุ่มนี้จะมีสินค้าที่เป็นทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว ราคาใกล้เคียงหรือสูงกว่าเป็นทางเลือกมากขึ้น”

การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเช่นนี้ คือช่องทางการเติบโตของ Brand ใหม่ที่ลลิลกำลังปั้นให้เติบโตในปีนี้ เพราะคนซื้อบ้านสามารถพลิกกลับมาซื้อบ้านแนวราบได้ง่ายขึ้น หากแบบบ้าน รูปลักษณ์ของบ้านตรงกับการใช้ชีวิตของพวกเขา

ไชยยันต์อธิบายถึงความต้องการบ้านของผู้บริโภคว่า ยังคงต้องการพื้นที่ และอยู่แนวราบ หากว่ามีระบบสาธารณูปโภคเช่นรถไฟฟ้ามารองรับอย่างทั่วถึง แม้ว่าที่ตั้งโครงการอยู่ไกล แต่สามารถเข้าถึงที่ทำงานในเมืองได้ในระยะเวลาสั้นๆ ผู้ซื้อจะเลือกซื้อบ้านแนวราบ

“ผู้ประกอบการที่ทำคอนโดมิเนียมมากๆ เตรียมตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงนี้ไว้บ้างหรือยัง” ไชยยันต์ให้การบ้านผู้ประกอบการไว้อีก 1 ข้อ แต่ของลลิลเอง คงไม่ต้องห่วงเพราะบ้านใน SBU 2 คือสินค้าหลักของไชยันต์ในการสู้กับคู่แข่งในปีนี้ พร้อมๆ กับยึดตลาดบ้านแนวอนุรักษนิยมไว้เช่นเดิม เพื่อรองรับลูกค้าเก่าของตัวเอง

หนุ่มนักบริหารรุ่นใหม่อารมณ์ดี เกิดในครอบครัวที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นทันตแพทย์ แต่ด้วยการอบรมที่เปิดโอกาสให้เลือกทำในสิ่งที่ชอบ ทำให้คุณต่อเลือกเรียนปริญญาตรีด้านภูมิศาสตร์ เพราะมีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการเดินทาง และกิจกรรมเอาต์ดอร์

แม้ปัจจุบันคุณต่อจะไม่ได้เป็นนักภูมิศาสตร์ตามปริญญาตรีที่ได้ร่ำเรียนมาแต่การเป็นนักการตลาดในกับตำแหน่ง Brand Manager-Ice Cream บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ก็เป็นสิ่งที่เขาเชื่อว่าเลือกเดินมาถูกทาง เพราะหลังจากคว้าปริญญาโทบริหารธุรกิจ ด้านการตลาดและอีคอมเมิร์ซ College of Business, University of Findlay, OH USA เขาก็ได้ใช้วิชาความรู้และประสบการณ์การฝึกงานที่ Wal-mart มาช่วยในการทำงานได้อย่างเต็มที่

เพราะนอกจากยอดขายและส่วนแบ่งการตลาดของไอศกรีมเนสท์เล่จะเป็นที่น่าพอใจแล้ว การสร้างสรรค์นวัตกรรมสู่ตลาดก็เป็นความภาคภูมิใจที่เขาทำมาอย่างต่อเนื่อง

ทุกวันนี้เขาต้องเดินทางจาก Head Office ที่อาคารสำนักงานเซ็นทรัล เวิลด์ ไปยังโรงงานผลิตไอศกรีมแถบบางชัน แต่กระนั้น
“เทคโนโลยี” ก็ช่วยให้เขาทำงานได้ตลอดเวลาแม้ไม่ได้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“ผมเป็นคนใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงานนอกออฟฟิสเยอะมาก เพราะต้องเดินทางไปดูตลาดบ่อยๆยิ่งช่วงนี้เตรียมเปิดตัว สินค้าใหม่ ยิ่งไม่ได้อยู่ออฟฟิสเลย การไปสำรวจตลาดตามร้านค้าต่างๆ ดูการจัดวางสินค้าต่างๆ ถ้าพบอะไรแปลกหรือน่าสนใจ เช่น กลยุทธ์ ณ จุดขายของคู่แข่ง”

“หรือบางทีไปพบสินค้าของเรามีปัญหาบางอย่างโดยบังเอิญ ก็ถ่ายรูปด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือได้เลย และยังส่งผ่านอินเตอร์เน็ตไปรายงานหัวหน้าได้ด้วยระบบ Wi-fi ขณะที่การเช็คอีเมล์จากโทรศัพท์มือถือเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติ ใช้เช็คดูอาร์ตเวิร์ค แพคเกจจิ้ง ซึ่งสะดวกและทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก”

นอกจากนี้แล้วคุณต่อยังเป็นนักบริหารรุ่นใหม่ที่นิยมใช้โทรศัพท์มือถือบันทึก ตารางนัดหมายทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพราะทุกการติดต่อมีความหมายไม่อาจพลาดได้

ขณะเดียวกันเรื่องบันเทิงก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เทคโนโลยีเข้ามาเติมเต็มทำให้ชีวิตเขาสมดุล การฟังเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งระบบ MP3 หรือ วิทยุ FM Stereo ก็เป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบ

อย่างไรก็ตามใช่เพียงแต่ฟังก์ชั่นเท่านั้นที่คุณต่อคำนึงถึงในการเลือกโทรศัพท์ มือถือซักเครื่อง เพราะดีไซน์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ดีไซน์บอกบุคลิกภาพของตัวเอง ดีไซน์ที่เราเลือกจะสะท้อนถึงความ เป็นตัวตนของเราได้ โดยเฉพาะการเลือกโทรศัพท์มือถือซักเครื่องต้อง น้ำหนักเบา รูปร่างเพรียว บาง ปุ่มกดใหญ่สะดวกในการใช้งาน หน้าจอกว้าง คือต้องเรียบหรูแต่ดูดี และแบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นสำหรับผมแล้วฟังก์ชั่นกับดีไซน์ต้องมาด้วยกัน