In-Stat – Positioning Magazine

อิน-สแตท เผย WiMAX ได้รับแรงกระตุ้นเพิ่มขึ้นในเอเชียแปซิฟิก แต่ยังไม่สามารถเบียดบริการ 3G ได้

admin — Wed, 29 Nov 2006 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อาริโซน่า–(บิสิเนสไวร์)–28 พ.ย.2549

อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) รายงานว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้พยายามอย่างมากในการเปิดตัวเทคโนโลยีไร้สายบรอดแบรนด์ (Broadband Wireless Technology; BWA) ในตลาดเอเชียแปซิฟิก เพื่อแข่งขันกับบริการ 3G ไร้สาย อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัยตลาดไฮ-เทค ระบุว่า BWA ในรูปแบบ WiMAX อาจจะยังไม่ใช่คู่แข่งสำคัญของ 3G เป็นเวลาอีกอย่างน้อย 5 ปี เนื่องจากต้องใช้เวลานานกว่าจะเติบโตเต็มที่

“ผู้ให้บริการเทเลคอมได้แนะนำเทคโนโลยี BWA เพื่อย่างเท้าเข้าสู่เทรนด์ไร้สาย เพื่อเร่งให้เกิดความแพร่หลายในตลาด และเพื่อมอบข้อเสนอหรือทางเลือกให้แก่ลูกค้า” ไบรอัน หวาง นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทกล่าว “อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการที่ยังขาดความเป็นมาตรฐานและความสามารถในการทำงานข้ามระบบ จึงไม่ใช่นิมิตหมายที่ดีนักที่ลูกค้าจะหันมาใช้เทคโนโลยี BWA”

รายงานการวิจัยฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า
— Wi-Fi ไม่ได้เป็นรูปแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่ปัจจุบัน WiMAX กำลังได้รับแรงกระตุ้นและคาดว่าจะมีผู้สมัครรับบริการ 14 ล้านรายภายในพ.ศ. 2554
— ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือแตะ 859 ล้านราย โดยในปี 2548 มีผู้ใช้ระบบ 3G มากกว่า 130 ล้านรายในเอเชียแปซิฟิค
— โทรศัพท์มือถือที่ใช้บริการ WiMAX ได้ จะมีจำหน่ายในช่วงปลายปีพ.ศ. 2550

รายงานเรื่อง “Cellular vs. Wireless Broadband in Asia/Pacific” (#IN0602841AW) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาด 3G, บรอดแบรนด์ และบริการบรอดแบรนด์ไร้สายในเอเชียแปซิฟิค โดยอภิปรายถึงความคิดริเริ่มสำคัญๆ สำหรับเทคโนโลยีบรอดแบรนด์ไร้สาย และการเปรียบเทียบบริการบรอดแบรนด์ บริการโทรศัพท์มือถือ และบรอดแบรนด์ไร้สายในปัจจุบันของ 13 ประเทศในเอเชียแปซิฟิค รวมทั้งยังมีการคาดการณ์จำนวนผู้สมัครใช้บริการสามประเภทแยกตามประเทศจนถึงปีพ.ศ. 2553
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ หรือต้องการซื้อรายงานทางออนไลน์ กรุณาเข้าไปที่ http://www.instat.com/catalog/Wcatalogue.asp?id=236 หรือติดต่อตัวแทนขาย
— ในอเมริกาเหนือฝั่งตะวันออก: ทีน่า เชลตร้า โทร.480.609.4531 หรืออีเมล์ [email protected]
— ในอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตก: เอริน แม็คเคแกน โทร 480.609.4551 หรืออีเมล์ [email protected]
— นอกอเมริกาเหนือ: http://www.instat.com/sales.asp

โดยรายงานมีจำหน่ายในราคา 2,995 ดอลลาร์สหรัฐ

เกี่ยวกับอิน-สแตท
ผู้ค้าเทคโนโลยี ผู้ให้บริการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทั่วโลก ต่างให้ความไว้วางใจทีมงานที่มีประสบการณ์และการวิจัยเชิงลึกของอิน-สแตท เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจที่สำคัญทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี ความรู้ความเข้าใจของอิน-สแตท ได้มาจากทั้งความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งและการวิจัยที่ครอบคลุม ซึ่งพิเคราะห์แต่ละภาคส่วนของห่วงโซ่มูลค่าสำหรับตลาดแต่ละแห่ง ความต้องการที่เกิดขึ้นเป็นปกติและในภายภาคหน้าของผู้ใช้ขั้นปลายและการวิจัยแบบ primary research เป็นปัจจัยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการวิเคราะห์ ซึ่งทำให้อิน-สแตทสามารถมอบความรู้และแนวทางเกี่ยวกับโอกาสต่างๆในอนาคตให้แก่ตลาดที่ชาญฉลาด
อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอิเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ อิน-สแตทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น (Reed Business Information) เป็นผู้จัดพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: อิน-สแตท
ไบรอัน หวาง, 65-6780-4322 (สิงคโปร์)
[email protected]
เจน ตัน, 65-6780-4321 (สิงคโปร์)
[email protected]
อีเลน พ็อตเตอร์, 480-483-4461 (สหรัฐอเมริกา)
[email protected]

ผลการวิจัยของอิน-สแตทเผย เกมมือถือประสบความสำเร็จในเอเชีย

admin — Wed, 29 Nov 2006 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อาริโซน่า–(บิสิเนสไวร์)–21 พ.ย.2549

อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า เกมบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile gaming) ประสบความสำเร็จในเอเชียแปซิฟิก โดยมีรายได้ถึง 1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2548 โดยส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ตลาดโทรศัพท์มือถือของจีนและอินเดียที่มีขนาดใหญ่และกำลังเติบโตจะเป็นตัวขับเคลื่อนการขยายตัวของเกมมือถือในอนาคต

ไบรอัน หวาง นักวิเคราะห์ของอิน-สแตท กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าธุรกิจเกมมือถือมีศักยภาพที่จะขยายตัวขึ้นอย่างมาก โดยคาดว่าผู้สมัครใช้บริการเกมมือถือและโทรศัพท์มือถือที่สามารถเล่นเกมได้จะเพิ่มจำนวนขึ้น แต่ปัญหาต่างๆในปัจจุบันก็ยากที่จะทำให้เป็นไปได้”

“การสำรวจของอิน-สแตทสะท้อนให้เห็นว่า การที่เกมมือถือยังเจาะตลาดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในเอเชียแปซิฟิกได้ในระดับต่ำ สัดส่วนของอุตสาหกรรมเกมมือถือ ประเด็นเรื่องส่วนแบ่งรายได้ การที่ผู้เล่นไม่มีประสบการณ์มากนัก การแข่งขันกับอุปกรณ์เกมพกพา และการละเมิดลิขสิทธิ์เกม ล้วนแต่เป็นปัญหาที่ต้องได้รับการจัดการ”

รายงานการวิจัยฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า

— รายได้จากอุตสาหกรรมเกมบนโทรศัพท์มือถือในเอเชียแปซิฟิกจะแตะ 4.4 พันล้านดอลลาร์ในปีพ.ศ. 2553

— ผู้ใช้โทรศัพท์เครือข่าย 3G เล่นเกมมือถือมากกว่าผู้ใช้โทรศัพท์ระบบ 2G คิดเป็น 70% ต่อเดือน

— ระดับความสนใจในเกมมือถือยังนับว่าต่ำ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งโครงข่าย 2G และ 3G ระบุว่า พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะเล่นเกมมือถือภายใน 6 เดือนข้างหน้า

รายงานเรื่อง “Mobile Gaming in Asia/Pacific: Room for Improvement” (#IN0603317AW) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดเกมมือถือในเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยการคาดการณ์รายได้จากธุรกิจเกมมือถือในภูมิภาคและใน 4 ตลาดหลักจนถึงปีพ.ศ. 2553 นอกจากนี้ ยังรวมบทวิเคราะห์ผลการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมเกี่ยวกับเกมมือถือของผู้ใช้โทรศัพท์โดยนักวิเคราะห์ของอิน-สแตท

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ หรือต้องการซื้อรายงานทางออนไลน์ กรุณาเข้าไปที่ http://www.instat.com/catalog/Wcatalogue.asp?id=236 หรือติดต่อตัวแทนขาย

— ในอเมริกาเหนือฝั่งตะวันออก: ทีน่า เชลตร้า โทร.480.609.4531 หรืออีเมล์ [email protected]

— ในอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตก: เอริน แม็คเคแกน โทร 480.609.4551 หรืออีเมล์ [email protected]

— นอกอเมริกาเหนือ: http://www.instat.com/sales.asp

โดยรายงานมีจำหน่ายในราคา 2,995 ดอลลาร์สหรัฐ

เกี่ยวกับอิน-สแตท
ผู้ค้าเทคโนโลยี ผู้ให้บริการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทั่วโลก ต่างให้ความไว้วางใจทีมงานที่มีประสบการณ์และการวิจัยเชิงลึกของอิน-สแตท เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจที่สำคัญทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยี ความรู้ความเข้าใจของอิน-สแตท ได้มาจากทั้งความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้งและการวิจัยที่ครอบคลุม ซึ่งพิเคราะห์แต่ละภาคส่วนของห่วงโซ่มูลค่าสำหรับตลาดแต่ละแห่ง ความต้องการที่เกิดขึ้นเป็นปกติและในภายภาคหน้าของผู้ใช้ขั้นปลายและการวิจัยแบบ primary research เป็นปัจจัยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการวิเคราะห์ ซึ่งทำให้อิน-สแตทสามารถมอบความรู้และแนวทางเกี่ยวกับโอกาสต่างๆในอนาคตให้แก่ตลาดที่ชาญฉลาด

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอิเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ อิน-สแตทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น (Reed Business Information) เป็นผู้จัดพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

อิน-สแตทเผย CEM เอเชียผงาดขึ้นครองตลาดโลก

admin — Thu, 16 Feb 2006 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนสไวร์)–17 ม.ค.2549 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า แรงงานราคาถูกและแรงงานด้านเทคนิคที่มีอยู่มากมาย ส่งผลให้ขณะนี้ เอเชียกลายเป็นตลาดรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค (Contract Electronic Manufacturing : CEM)) ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทั้งนี้ ตลาด CEM ของเอเชียมีมูลค่า 7.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2547 และคาดว่าจะสูงถึง 1.62 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2552

“จีนและไต้หวันแข็งแกร่งอยู่แล้วในตลาดนี้ ส่วนประเทศอื่นๆในเอเชีย อย่างเช่น อินเดีย ไทย และเวียดนาม ก็กำลังก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคต้นทุนต่ำ” ประกาศ วาสวานิ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตท กล่าว “กำลังการผลิต CEM โดยรวมในเอเชียจะโตขึ้น คิดเป็น 65% ของกำลังการผลิตโลกภายในปี 2552 โดยมีจีนเป็นผู้นำตลาด”

รายงานฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า

– ผู้ผลิตระดับบนและระดับกลางหลายรายกำลังเดินหน้าสร้างความมสัมพันธ์ใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ในเอเชีย และลงทุนในโครงการเกี่ยวกับซอฟท์แวร์เพื่อปรับปรุงการจัดการด้านวัสดุให้ดีขึ้น

– กำลังการผลิต CEM และชิ้นส่วน คิดเป็นเกือบ 52% ของกำลังการผลิตโลกในปี 2548 เมื่อพิจารณาในแง่ของขนาดพื้นที่เป็นตารางฟุต

– เนื่องด้วยความสามารถทางเทคนิคในท้องถิ่นที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคในเอเชียจึงมีศักยภาพที่จะขยับขยายไปสู่การบริการออกแบบ ซึ่งจะส่งผลให้กำไรดีขึ้น

รายงานเรื่อง “Asia CEM and Assembly Capacity by Country” (#IN0602406ASM) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดการรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคในเอเชีย รวมถึงการชะลอตัวของตลาด CEM และการวิเคราะห์โดยแยกตามประเทศ นอกจากนี้ รายงานยังได้คาดการณ์กำลังการผลิต CEM ในเอเชีย และอภิปรายถึงปัจจัยที่มีส่วนในการดึงดูดผู้ผลิตในภูมิภาคด้วย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาดูที่ http://www.instat.com/catalog/Scatalogue.asp?id=239 หรือติดต่อ เอริน แมคคีแกน ที่โทร.480-609-4551 โดยรายงานมีจำหน่ายในราคา 2,495.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการศึกษาวิจัย, การประเมิน และการคาดการณ์ตลาด สำหรับอุปกรณ์และการให้บริการการสื่อสารที่ทันสมัยและเซมิคอนดักเตอร์ การคาดการณ์, การวิเคราะห์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของเราเป็นผลมาจากทั้งการเข้าใจด้านเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ และหลักการในการวิจัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะตรวจสอบแต่ละส่วนของลูกโซ่ด้านมูลค่าสำหรับตลาดแต่ละแห่ง กลุ่มผู้จำหน่ายเทคโนโลยี, กลุ่มผู้ให้บริการ, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทั่วโลก จะพึ่งพาเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และสามารถเชื่อถือได้รวมถึงการวิจัยในเชิงลึกของอิน-สแตท เพื่อที่จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ, ผลิตภัณฑ์ และการตัดสินใจเพื่อความสำเร็จ

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์ เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: อิน-สแตท
ประกาศ วาสวานิ (อินเดีย)
โทร. 91 11 41861513
อีเมล์: [email protected]
เจน ตัน (สิงคโปร์)
โทร. +65 6780 4321
อีเมล์: [email protected]
เชอรีล แคดเดน
โทร. 480-609-4540
อีเมล์: [email protected]

อิน-สแตทคาดบริการไว-ไฟในเอเชียจะสูงถึงเกือบ 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553

admin — Thu, 05 Jan 2006 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–3 ม.ค.2549 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า แม้การให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (ไว-ไฟ) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ แต่รายได้จากบริการดังกล่าวจะขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก 213.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2547 เป็น 1.29 พันล้านเหรียญในปี 2553 อิน-สแตทเผยว่า ในช่วงหลายปีนี้ ผู้ให้บริการในเอเชียแปซิฟิกได้ขยายตัวอย่างมาก หรือมีแผนขยายการให้บริการ โดยมีจุดให้บริการ (hotspot) ที่ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น และจีน

“แม้ความเคลื่อนไหวของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมที่มีต่อไว-ไฟยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อเนื่องของธุรกิจไว-ไฟในระยะยาว” ไบรอัน หวัง นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทกล่าว “ตลาดยังคงมองหารูปแบบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสำหรับเทคโนโลยีไว-ไฟแม็กซ์ในภูมิภาคนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาในอนาคตสำหรับบริการเสียงและข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม”

รายงานฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า:

– ตลาดอุปกรณ์ไว-ไฟสำหรับธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มขึ้นจาก 498.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2547 เป็น 865.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553

– ตลาดอุปกรณ์ไว-ไฟสำหรับผู้บริโภครายย่อยในเอเชียแปซิฟิกจะโตขึ้นจาก 112.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2547 เป็น 243.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2553

– ในปี 2547 บริการไว-ไฟเคลื่อนตัวสู่บริการของผู้ให้บริการกระแสหลัก อาทิ โคเรีย เทเลคอม และ ชุงหัว เทเลคอม

รายงานเรื่อง “บทวิเคราะห์แนวโน้มตลาดไว-ไฟสำหรับธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก” และ “บทวิเคราะห์แนวโน้มตลาดไว-ไฟสำหรับผู้บริโภครายย่อยในเอเชียแปซิฟิก” (#IN0502396ANT และ #IN0502397ANT) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดบริการและอุปกรณ์ไว-ไฟ โดยแยกตามภูมิภาคและประเทศจนถึงปี 2553 นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ผู้ให้บริการและเหตุการณ์สำคัญในตลาดเฉพาะประเทศด้วย

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/bcatalogue.asp?id=238 โดยรายงานจำหน่ายอยู่ที่ฉบับละ 2,995.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับราคาจำหน่ายรายงานรวม 2 ฉบับ กรุณาติดต่อ ทีน่า เชลทรา ที่โทร.480-609-4531 หรือ [email protected]

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์, เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: อิน-สแตท
เอเชีย
ไบรอัน หวัง (สิงคโปร์)
โทร. 65 6780 4322
อีเมล์: [email protected]
เจน ตัน (สิงคโปร์)
โทร. 65 6780 4321
อีเมล์: [email protected]
สหรัฐอเมริกา
เชอรีล แคดเดน
โทร. 480-609-4540
อีเมล์: [email protected]

อิน-สแตท คาดตลาดไวแม็กซ์ในเอเชียแปซิฟิกโตขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 45% ภายในปี 2552

admin — Fri, 30 Sep 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–21 ก.ย.2548 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า แม้เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงระยะไกล (ไวแม็กซ์) กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายมากมายในตลาดเอเชียแปซิฟิก แต่ฐานสมาชิกก็จะขยายตัวขึ้นจากจำนวนมากกว่า 80,000 รายในปี 2548 เป็นมากกว่า 3.8 ล้านรายภายในปี 2552 หรือคิดเป็น 45% ของฐานผู้ใช้ทั่วโลก

ไบรอัน หวัง ผู้จัดการคอนเทนต์ของอิน-สแตท ประจำเอเชีย กล่าวว่า “ประเด็นที่อาจขัดขวางการหันมาใช้เครือข่ายไวแม็กซ์ในภูมิภาคนี้ รวมถึง กฎระเบียบเกี่ยวกับการกระจายคลื่นสัญญาณผ่านหลายประเทศ และการที่ไวแม็กซ์ต้องแข่งขันกับเทคโนโลยีอื่นๆในด้านความสามารถในการเคลื่อนที่อีกด้วย”

“ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายไม่ให้ความสนใจกับไวแม็กซ์มากนัก หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จในอดีต เวนเดอร์จึงจำเป็นต้องสรรหาผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการไวแม็กซ์ประสบความสำเร็จในเร็ววัน”

รายงานฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า:

– มีการประมาณการว่าในปี 2552 ประเทศเกาหลีใต้จะมีรายได้จากการจำหน่ายอุปกรณ์ไวแม็กซ์เป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของรายทั้งหมดในเอเชีย ตามมาด้วยประเทศจีน 34% และญี่ปุ่น 17%
– นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีรายได้จากการให้บริการเทคโนโลยีไวแม็กซ์มากที่สุดในปี 2552 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากอุตสาหกรรมแอพพลิเคชันและบรอดแบนด์คอนเทนต์ที่มีความซับซ้อนของเกาหลีใต้ ดังจะเห็นได้จากรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) สูงกว่าประเทศอื่นๆ
– ภายในปี 2552 การใช้จ่ายเกี่ยวกับอุปกรณ์ไวแม็กซ์ในเอเชียแปซิฟิกจะมีมูลค่าราว 1,988.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานเรื่อง “ไวแมกซ์ในเอเชีย” (WiMAX in Asia) (#IN0502393ANT) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดไวแม็กซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการคาดการณ์รายได้ทั้งจากค่าบริการสมาชิกและการจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่ายจนถึงปี 2552 โดยแยกตามประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์เชิงลึกต่อความท้าทายด้านเทคนิคและการตลาดเมื่อหันมาใช้เทคโนโลยีไวแม็กซ์

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/bcatalogue.asp?id=238 หรือติดต่อ เอริน แมคคีแกน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 480-609-4551 หรืออีเมล์ [email protected] โดยรายงานฉบับนี้จำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,995.00 ดอลลาร์หรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์, เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: อิน-สแตท
ไบรอัน หวัง (สิงคโปร์)
โทร. +65 6780 4322 6642-1814
อีเมล์: [email protected]
เจน ตัน (สิงคโปร์)
โทร. +65 6780 4321
อีเมล์: [email protected]
เชอรีล แคดเดน
โทร. 480-609-4540
อีเมล์: [email protected]

อิน-สแตท เผย โอลิมปิก เกมส์ 2008 จะช่วยกระตุ้นให้ไอพีทีวีได้รับความนิยมในประเทศจีน

admin — Thu, 22 Sep 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–21 ก.ย.2548 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า ไอพีทีวีจะไม่ได้รับความนิยมมากนักในประเทศจีนจนกระทั่งปี 2008 ด้วยการปรากฏตัวขึ้นของแอพพลิเคชั่นที่โดดเด่นและเทคโนโลยีที่พร้อมใช้ จึงเป็นที่คาดหมายกันว่าตลาดไอพีทีวีจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ โดยคาดว่าจะมีผู้สมัครเป็นสมาชิก 4.5 ล้านราย และจะมีรายได้จากการติดตั้งกล่องรับสัญญาณ (STB) คิดเป็นมูลค่า 231.3 ล้านดอลลาร์ในปี 2008

“แม้ว่าจะมีบริการวิดีโอที่คล้ายกันอยู่แล้วจำนวนมาก อย่าง ทีวี ระบบอนาล็อก, บริการเสริม(VAS) บรอดแบนด์, ดีวีดี และเคเบิล ทีวี แต่ไอพีทีวีก็มีสมรรถภาพด้านอินเตอร์แอคทีฟที่ยอดเยี่ยมและใช้งานง่าย” แอนตี้ เจิง นักวิเคราะห์ของอิน-สแตท กล่าว “มีความเป็นไปได้สูงที่ ผู้ชมโทรทัศน์ 360 ล้านราย และผู้ใช้บรอดแบนด์มากกว่า 20 ล้านรายในประเทศจีน จะเป็นฐานสมาชิกขนาดใหญ่ของไอพีทีวี”

รายงานฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า:

– เวนเดอร์มากกว่า 20 ราย อาทิ ยูทีสตาร์คอม และ ซีทีอี จะจัดหา IP STBs ให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศจีน
– เกือบ 90% ของปริมาณกล่องรับสัญญาณรวม จะถูกขายให้แก่ผู้ใช้ขั้นปลาย ร่วมกับบริการของผู้ให้บริการเครือข่าย ส่วนที่เหลืออีก 10% จะถูกให้บริการผ่านช่องโทรทัศน์แบบเดิม
– กลุ่มสื่อ อาทิ เอสเอ็มอีจี และ อีสต์ทีวี ได้ทำข้อตกลงกับผู้ประกอบการเทเลคอม เพื่อพัฒนาเนื้อหาสาระให้กับไอพีทีวีโดยเฉพาะ

รายงานเรื่อง “ไอพีทีวีในประเทศจีนเปิดฉากพร้อมมหกรรมโอลิมปิก” (IPTV in China Gets an Olympic Start) (#IN0502614CCM) มีเนื้อหาครอบคลุมถึงการพัฒนาตลาดไอพีทีวีในประเทศจีน รวมถึงการคาดการณ์ฐานสมาชิก, การจำหน่ายกล่องรับสัญญาณ และรายได้ระหว่างปี 2005-2010 นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอมุมมองเชิงลึกที่มีต่อความท้าทายด้านเทคนิคและการตลาดที่เวนเดอร์และผู้ให้บริการต้องเผชิญ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/Ccatalogue.asp?id=237 หรือติดต่อ อีแลน พอตเตอร์ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 480-483-4441 หรืออีเมล์ [email protected] โดยรายงานฉบับนี้จำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,495.00 ดอลลาร์หรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์, เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: อิน-สแตท
ประเทศจีน
แอนตี้ เจิง
โทร. 8610 6642-1814
อีเมล์: [email protected]
สหรัฐอเมริกา
เชอรีล แคดเดน
โทร. 480-609-4540
อีเมล์: [email protected]

อิน-สแตท คาดเอเชียจะเป็นตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใน 10 ปี

admin — Thu, 15 Sep 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–13 ก.ย.2548 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า เอเชียอาจกลายเป็นตลาดการสื่อสารโทรคมนาคมด้วยโทรศัทพ์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในอีก 5-10 ปีข้างหน้า โดยในปี 2547 มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เกือบ 740 ล้านคนในเอเชีย (รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ด้วยรายได้รวมประมาณ 1.80 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ อิน-สแตท ยังคาดการณ์ว่า ภายในปี 2552 รายได้จากการสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ในเอเชียจะทะลุ 2.60 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอินเดียจะเป็นประเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ต่อปีในแง่ของผู้ใช้ ที่ 32.8% และ CAGR ของรายได้ ที่ 31.1% ระหว่างปี 2547-2552

“อิน-สแตทมองว่า เอเชียเป็นตลาดที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับนักลงทุน ผู้ให้บริการระบบ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์ และผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ” ไบรอัน หวัง นักวิเคราะห์ของอิน-สแตท กล่าว “ผู้ประกอบการอย่าง เอ็นทีที โดโคโม และ สิงคโปร์ เทเลคอม กำลังมองหาโอกาสการลงทุนเพื่อขยายตลาดออกไปนอกประเทศ”

รายงานฉบับล่าสุดของอิน-สแตท ยังพบว่า

– ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือในเกาหลีใต้อย่าง ซัมซุง และ แอลจี จะได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมากทั้งจากผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเจาะตลาดระดับบนและในตลาดที่กำลังพัฒนา

– ในส่วนของอุปกรณ์นั้น โซนี่ อิริคส์สัน ยังคงเป็นผู้ชนะในภูมิภาคนี้ ด้วยเหตุที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า, โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมกว้างขวาง, คุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และกลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ

– ผู้จำหน่ายอุปกรณ์ในสหรัฐฯ อย่าง โมโตโรล่า และ ลูเซนต์ สามารถรุกตลาดเอเชียอย่างได้ผล อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยี CDMA ใหม่ ๆ ของทั้งสองบริษัท

รายงานเรื่อง “รายงานประจำปีเรื่องเทคโนโลยีไร้สายในเอเชีย: ผู้ใช้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และโครงสร้างพื้นฐาน” (Asia Wireless Annual Report: Subscribers, Handsets, and Infrastructure) (#IN0502379AW) มีเนื้อหาครอบคลุมการบริการไร้สาย, โทรศัพท์เคลื่อนที่ และตลาดอุปกรณ์ ใน 13 ประเทศในตลาดเอเชีย รายงานฉบับนี้ยังประกอบด้วยการคาดการณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในระดับภูมิภาคและแยกตามประเทศ ตลอดจนการคาดการณ์รายได้จากการให้บริการ, รายได้เฉลี่ย/เลขหมาย (ARPU) และค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ไร้สายจนถึงปี 2552 รวมทั้งส่วนแบ่งตลาดของผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในแต่ละประเทศ ประจำปี 2547

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/Wcatalogue.asp?id=236 หรือ ติดต่อ เอริน แมคคีแกน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 480-609-4551 หรืออีเมล์ [email protected] โดยรายงานฉบับนี้จำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,495.00 ดอลลาร์หรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์, เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

อิน-สแตท เผยวัยรุ่นเอเชียเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดข้อมูลมือถือในภูมิภาค

admin — Fri, 06 May 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–4 พ.ค.2548 – อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการวิจัยตลาดไฮ-เทค รายงานว่า ตลาดวัยรุ่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กำลังจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับการขยายตัวของตลาดโทรศัพท์มือถือในภูมิภาคนี้ โดยบรรดาวัยรุ่นในประเทศที่พัฒนาแล้ว ใช้จ่ายกับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์มือถือคิดเป็นมูลค่าราว 10-15% ของรายได้ แทนการจับจ่ายใช้สอยไปกับสินค้าแบบเดิมๆ อย่างเสื้อผ้า ของเล่น และหนังสือการ์ตูน ฯลฯ สำหรับในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกนั้น การใช้จ่ายของวัยรุ่นต่อบริการข้อมูลโทรศัพท์มือถือสูงถึง 1.52 หมื่นล้านเหรียญ ในปี 2547 และคาดว่า อัตราการเติบโตของรายได้ดังกล่าวจากปี 2547-2553 จะอยู่ที่ราว 15.3 % ต่อปี

รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ ของอิน-สแตท ยังพบว่า

– แอพพลิเคชั่นหลักๆ สำหรับโทรศัพท์มือถือที่วัยรุ่นในเอเชีย-แปซิฟิกใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ การรับส่งข้อความ ริงโทน วอลเปเปอร์ โลโก้ เกมส์ เพลง และวิดีโอ

– การรับส่งข้อความคิดเป็น 40.3% ของค่าใช้จ่ายที่วัยรุ่นเอเชียใช้ไปกับตลาดข้อมูลโทรศัพท์มือถือ ในปี 2547

– การใช้จ่ายในริงโทน สกรีนเซฟเวอร์ และวอลเปเปอร์ มีมูลค่า 29.7% ตามด้วยเกมส์ 9.7% และวิดีโอยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นที่ 6.5%

รายงานเรื่อง “แนวโน้มวัยรุ่นเอเชียกับโทรศัพท์มือถือว่าด้วยอุปกรณ์, ข้อมูล และมัลติมีเดีย” (Asian Youth Mobile Trends: Devices, Data, and Multimedia) (#IN0502372AW) มีเนื้อหาครอบคลุมตลาดการสื่อสารของเอเชีย-แปซิฟิก โดยเน้นไปที่ผลสะท้อนกลุ่มตลาดวัยรุ่นในภูมิภาค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้ กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/Wcatalogue.asp?id=236 หรือ ติดต่อ ทีน่า เชลตร้า ที่หมายเลขโทรศัพท์ 480.609.4551 หรืออีเมล์ [email protected] โดยรายงานฉบับนี้จำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,995.00 เหรียญสหรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท (http://www.in-stat.com) เป็นบริษัทชั้นนำในการจัดหาการศึกษาวิจัยที่เหมาะสม, การประเมิน และการคาดการณ์ด้านตลาดของการให้บริการและอุปกรณ์การสื่อสารที่ทันสมัยและเซมิคอนดักเตอร์ การคาดการณ์, การวิเคราะห์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของเราเป็นผลมาจากทั้งการเข้าใจด้านเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ และหลักการในการวิจัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะตรวจสอบแต่ละส่วนของลูกโซ่ด้านมูลค่าสำหรับตลาดแต่ละแห่ง กลุ่มผู้จำหน่ายเทคโนโลยี, กลุ่มผู้ให้บริการ, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทั่วโลก จะพึ่งพาเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และสามารถเชื่อถือได้รวมถึงการวิจัยในเชิงลึกของอิน-สแตท เพื่อที่จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ, ผลิตภัณฑ์ และการตัดสินใจเพื่อความสำเร็จ

ติดต่อ: บริษัทอิน-สแตท
รูดี้ เถิง (สิงคโปร์)
โทร. 65 6780 4514
[email protected]
หรือ
อีเลน พ็อตเตอร์
โทร. 480-483-4441
[email protected]

อิน-สแตท เผยผู้จำหน่ายเอเชียกำลังเฟื่องฟูในตลาดดิจิตอลทีวี

admin — Tue, 12 Apr 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซนา–(บิสิเนส ไวร์)–11 เม.ย.2548 – บริษัทอิน-สแตท (In-Stat: http://www.in-stat.com) รายงานว่า ยอดการจัดส่งโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (digital TV) ในเอเชียจะเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจาก 10.4 ล้านเครื่องในปี 2547 เป็น 28.8 ล้านเครื่องในปี 2551 โดยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เป็นตลาดดิจิตอลทีวีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยจีนเป็นเจ้าตลาดทีวีรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่ญี่ปุ่นพัฒนาทีวีจอ LCD ได้รวดเร็วที่สุดในโลก ส่วนผู้จำหน่ายเกาหลีใต้ติดอันดับจัดส่งทีวีจอ TFT-LCD เป็นอันดับหนึ่งของโลก ในขณะเดียวกันก็มีการแข่งขันกับญี่ปุ่นในการผลิตทีวีจอ PDP

“ญี่ปุ่นเป็นผู้นำตลาดทีวีมายาวนาน ด้วยการสร้างสรรค์ยี่ห้อระดับสากล อาทิ โซนี่ ชาร์ป พานาโซนิค ซันโย โตชิบา และฮิตาชิ” รูดี้ เถิง กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของอิน-สแตท กล่าว “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ยี่ห้อระดับ high-end ของเกาหลีใต้อย่าง แอลจี และซัมซุง ได้มีการส่งเสริมการขายกันอย่างคึกคัก และยี่ห้อของจีนอย่าง ทีซีแอล ฉางหง (TCL Chang Hong), คอนก้า (Konka) และสกายเวิร์ธ (Skyworth) ก็ครองตลาดในระดับกลางและระดับล่าง รวมทั้งยี่ห้อใหม่ที่เข้าสู่ตลาดอย่าง เบนคิว (BenQ), เทโก้ (Teco) และซัมโป (Sampo) จากไต้หวัน จึงทำให้ตลาดทีวีดิจิตอลของหลายประเทศในเอเชียกำลังเฟื่องฟูขึ้น”

จากการวิจัยของอิน-สแตท ยังพบว่า

– ตลาดในภูมิภาคมีมูลค่าถึง 1.42 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2547 โดยแบ่งเป็นทีวีดิจิตอลจอ CRT 3.3 พันล้านเหรียญ, จอ RP 4.2 พันล้านเหรียญ, จอ PDP 1.8 พันล้านเหรียญ และจอ LCD 5.0 พันล้านเหรียญ

– จำนวนประชากรมหาศาลในเอเชียได้ส่งผลให้ภูมิภาคนี้เป็นตลาดที่มีการใช้ทีวีมากที่สุดในโลก โดยในปี 2547 นั้น ประเทศจีนเพียงประเทศเดียว มียอดขายทีวีรวมทั้งสิ้น (ระบบอนาล็อกและดิจิตอล) เกินกว่า 35 ล้านเครื่อง

– คาดว่าเอเชียจะเป็นตลาดดิจิตอลทีวีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงที่สุดในโลก

รายงานเรื่อง “โทรทัศน์ดิจิตอลในเอเชีย” (#IN0502387ACM) ได้วิเคราะห์ตลาดดิจิตอลทีวีในเอเชีย ซึ่งรวมถึงการพัฒนาและสถานะด้านการแข่งขันของผู้จำหน่ายรายใหญ่ในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน และตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค รายงานฉบับนี้ยังประกอบไปด้วยการคาดการณ์การจัดส่งดิจิตอลทีวีและรายได้ในภูมิภาคตลอดจนถึงปี 2551 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.instat.com/catalog/Ccatalogue.asp?id=237 หรือ ติดต่อ เอริน แม็คเกฮาน ที่โทร. 480.609.4551; อีเมล์ [email protected] โดยรายงานฉบับนี้จำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,495 เหรียญสหรัฐฯ

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท เป็นกลุ่มธุรกิจของรีด เอลส์เวียร์ (Reed Elsevier) ซึ่งเป็นเครือข่ายข้อมูลระดับโลก มูลค่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการเข้าถึงเครือข่ายอีเล็คทรอนิคส์ที่ขยายตัวทั่วโลก รวมถึงฐานข้อมูลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง และบุคลากรที่มีความรอบรู้ นักวิเคราะห์ของอิน-สแตทมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษในตลาดสินค้าทางภูมิศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะทางภายในตลาดต่างๆ อาทิ อีเล็คทรอนิคส์, เคเบิล และไร้สาย เป็นต้น อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ติดต่อ: บริษัทอิน-สแตท
รูดี้ เถิง
กรรมการผู้จัดการ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก
โทร. 65 6780 4514
[email protected]
หรือ
เจน ถัง
ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและประสัมพันธ์ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก
โทร. 65 67804321
[email protected]

จากทะเลทรายอริโซน่าถึงกำแพงเมืองจีน อิน-สแตทขยายธุรกิจวิจัยในเอเชียเข้าสู่จีน

admin — Thu, 27 Jan 2005 00:00:00 +0000

สก็อตส์เดล, อริโซน่า–(บิสิเนส ไวร์)–26 ม.ค.2548 – บริษัทอิน-สแตท (http://www.in-stat.com) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดสินค้าไฮเทค ประกาศว่า ทางบริษัทได้จัดตั้งบริษัทสาขาของหน่วยงานด้านการวิจัยของบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นการขยายการดำเนินงานที่มีอยู่ของทางบริษัทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก การดำเนินการครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งในแผนการด้านกลยุทธ์ของอิน-สแตท เพื่อที่จะทำการวิจัยตลาดที่เหมาะสมในระดับโลก

การดำเนินงานของอิน-สแตทในจีนนับเป็นการขยายตัวของการร่วมทุน ที่ได้มีการประกาศโดยบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น (RBI) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอิน-สแตท และบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า กรุ๊ป (IDG) ในช่วงต้นปี 2547 ทั้งนี้ อิน-สแตท ผ่านทางบริษัทในเครือที่ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร ซึ่งมีนายฮิวโก้ ชอง ประธานและซีอีโอของ ไอดีจี เอเชีย/ไชน่า เป็นผู้กำกับดูแล จะได้เข้าถึงเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับข้อมูลและบุคคล ดังนั้น อิน-สแตทจึงจะสามารถที่จัดหาข้อมูลภายในเฉพาะด้านเกี่ยวกับตลาดจีนที่กำลังเริ่มมีการขยายตัว

มาร์ค เคิร์สเทน ผู้จัดการทั่วไปของอิน-สแตท กล่าวว่า “การดำเนินงานในจีนของเราและการเป็นหุ้นส่วนกับไอดีจี เอเชีย/ไชน่านั้น จะทำให้ลูกค้าของอิน-สแตทสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ของการลงทุนในระยะยาว ตลอดจนความเข้าใจเกี่ยวกับบรรยากาศทางธุรกิจของจีน”

การดำเนินการวิจัยภายในภูมิภาคของอิน-สแตท ยังจะทำให้บริษัทของจีนและบริษัทในเอเชีย ได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานที่ไม่อาจเทียบได้จากประสบการณ์ด้านการวิจัยภาคธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และการสื่อสารที่ทันสมัยมาเป็นเวลากว่า 20 ปี, การดำเนินงานในระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ และหลักการต่างๆ ด้านการวิจัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านการวิจัยของอิน-สแตทจะแสดงมุมมองใหม่ๆ ในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกแก่บริษัทของจีนที่กำลังมีการขยายการดำเนินงาน

เกี่ยวกับอิน-สแตท

อิน-สแตท (www.in-stat.com) เป็นบริษัทชั้นนำในการจัดหาการศึกษาวิจัยที่เหมาะสม, การประเมิน และการคาดการณ์ด้านตลาดของการให้บริการและอุปกรณ์การสื่อสารที่ทันสมัยและเซมิคอนดักเตอร์ การคาดการณ์, การวิเคราะห์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของเราเป็นผลมาจากทั้งการเข้าใจด้านเทคโนโลยีอย่างถ่องแท้ และหลักการในการวิจัยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะตรวจสอบแต่ละส่วนของลูกโซ่ด้านมูลค่าสำหรับตลาดแต่ละแห่ง กลุ่มผู้จำหน่ายเทคโนโลยี, กลุ่มผู้ให้บริการ, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทั่วโลก จะพึ่งพาเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์และสามารถเชื่อถือได้รวมถึงการวิจัยในเชิงลึกของอิน-สแตท เพื่อที่จะสนับสนุนด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ, ผลิตภัณฑ์ และการตัดสินใจเพื่อความสำเร็จ อิน-สแตทเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น

เกี่ยวกับรีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น

รีด บิสิเนส อินฟอร์เมชั่น (www.reedbusiness.com/us) ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ในภาคอุตสาหกรรม business-to-business รายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมสื่อ, การผลิต, อีเล็คทรอนิคส์, ก่อสร้าง และค้าปลีก ด้วยสิ่งพิมพ์ที่เป็นผู้นำตลาดในอุตสาหกรรม business-to-business กว่า 100 รายการ, เว็บไซน์ (Webzine) และเว็บท่า (Web portal) 75 เว็บ, สิ่งพิมพ์ด้านศุลกากร, หนังสือรวบรวมรายชื่อ (directory), งานวิจัย และรายการด้านการตลาดทางตรง (direct-marketing list) บริษัท RBI เป็นสมาชิกรายหนึ่งของบริษัทรีด เอลส์เวียร์ กรุ๊ป (NYSE: RUK and ENL) ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ชั้นนำของโลกและดำเนินการจัดหาข้อมูลในด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์, กฎหมาย, การศึกษา และภาคอุตสาหกรรม business-to-business

เกี่ยวกับอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า กรุ๊ป

อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า กรุ๊ป (IDG) เป็นบริษัทชั้นนำของโลกในด้านสื่อ, งานวิจัย และการจัดกิจกรรมด้านเทคโนโลยี IDG ได้จัดพิมพ์นิตยสารและหนังสือพิมพ์กว่า 300 ฉบับ ซึ่งรวมถึง ไบโอ-ไอที เวิลด์, CIO, CSO, คอมพิวเตอร์เวิลด์, เกมโปร, อินโฟเวิลด์, เน็ทเวิร์ค เวิลด์ และพีซี เวิลด์ บริษัทมีเครือข่ายเว็บไซต์เฉพาะด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด โดยมีกว่า 400 เว็บไซต์ทั่วโลก นอกจากนี้ IDG ยังเป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์กว่า 170 งานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงงาน LinuxWorld Conference & Expo(R), Macworld Conference & Expo(R), COMNET(R) Conference & Expo, DEMO และ IDC Directions ทั้งนี้ บริษัท IDC จะจัดหาคำแนะนำและงานวิจัยด้านการตลาดระดับโลกผ่านทางสำนักงานใน 50 ประเทศ โดยสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ http://www.idg.com

ติดต่อ: บริษัทอิน-สแตท ไชน่า
เจสัน หยิน, 86 137 0102 6763
[email protected]
หรือ
บริษัทอิน-สแตท, สก็อตส์เดล
เคิร์สเทน ฟิสเชอร์, 480-609-4534
[email protected]