Jetts – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 22 Mar 2019 03:09:33 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “เจ็ทส์” เปิด 24 ชั่วโมงกระจายช่วงพีค กวาดลูกค้าทำงานเป็นกะ-ฟรีแลนซ์ https://positioningmag.com/1221100 Thu, 21 Mar 2019 23:27:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1221100 “ฟิตเนส” เป็นอีกธุรกิจเกาะเทรนด์สุขภาพที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีก โดยเฉพาะบริการ “24 ชั่วโมง” ที่ถือเป็นเซอร์วิสรองรับวิถีการทำงานที่เปลี่ยนไปของคนในยุคนี้ มีทั้งฟรีแลนซ์ สตาร์ทอัพ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อาชีพไม่ติดยึดกับชั่วโมงทำงาน office hours ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้น

ทิศทางดังกล่าวทำให้ “เจ็ทส์” (Jetts) ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็น 1 ใน 8 แบรนด์ธุรกิจฟิตเนสของฟิตเนส แอนด์ ไลฟ์สไตล์ กรุ๊ป (เอฟแอลจี) กลุ่มบริษัทด้านสุขภาพระดับเอเชียแปซิฟิก จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีคลับกว่า 450 แห่งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เข้ามาขยายการลงทุนในไทยในปีที่ผ่านมา

เปิด 24 ชม. เก็บเรียบลูกค้าทุกกลุ่ม

ไมค์ แลมบ์

ไมค์ แลมบ์ ประธานเจ้าหน้าบริหาร เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า ในธุรกิจฟิตเนสที่เรียกว่าเป็นชั่วโมง “ซูเปอร์พีค” มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากที่สุด คือช่วง 17.00-21.00 น. เพราะเป็นเวลาหลังเลิกงาน ที่มักจะแวะมาออกกำลังกายก่อนกลับบ้านในช่วงเวลานี้ ซึ่งเจ็ทส์มีลูกค้าใช้บริการในช่วงดังกล่าวสัดส่วน 50%

แต่การที่เจ็ทส์ให้บริการ 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถกระจายลูกค้าไปใช้บริการในช่วงเวลาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่วงพีคไทม์ ได้มากกว่าฟิตเนสทั่วไป อีกทั้งยังมีโอกาสขยายฐานลูกค้าได้เพิ่ม 20% โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทำงานเป็นกะ เช่น อาชีพตำรวจ แพทย์ พยาบาล พนักงานโรงแรม

อีกทั้งสอดรับกับวิถีการทำงานของคนรุ่นใหม่ อาชีพฟรีแลนซ์ กลุ่มสตาร์ทอัพ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ กลุ่มที่ไม่ยึดติดกับชั่วโมงการทำงานแบบ office hours ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มนี้มักจะมาใช้บริการในเวลาที่สะดวก ทั้งช่วงเช้า บ่าย หลังเที่ยงคืน

และในยุคที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย พบว่าเป็นกลุ่มนี้มีแนวโน้มมาออกกำลังกายที่ฟิตเนสมากขึ้น โดยจะมาช่วงเช้า 05.00 น. จากนั้นอาจไปออกกำลังกายพบปะเพื่อนที่สวนสาธารณะต่อ ทำให้ เจ็ทส์ สามารถรองรับลูกค้าสูงวัยได้อีกกลุ่มในช่วงเช้า “เราเห็นลูกค้าวัย 60 ปีมาใช้บริการมากขึ้น”

“ในเอเชียรวมทั้งไทยมีสัดส่วนคนออกกำลังกายเพียง 5% ของจำนวนประชากร ขณะที่ยุโรปสัดส่วนอยู่ที่ 15-20% นั่นเท่ากับว่าไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก”

ยึดทำเลรถไฟฟ้า-ลุย ตจว.

เนื่องจาก เจ็ทส์ เป็นฟิตเนสที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ทำเลการขยายสาขาจึงเน้นความ “สะดวก” โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและเอ็มอาร์ที ในไตรมาส 2 นี้จะเปิด 3 สาขาใหม่ ในทำเลใจกลางกรุง ติดบีทีเอสสีลม อโศก และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งจะเริ่มขยายสาขาต่างจังหวัดที่พัทยา 2 สาขา และโคราช 1 สาขา สิ้นปีนี้จะมีทั้งหมด 24 สาขา

นับจากปี 2017 ที่เริ่มเปิดสาขา ปัจจุบันมีอัตราขยายธุรกิจเฉลี่ย 1 สาขาต่อเดือน  ถือเป็นธุรกิจฟิสเนตที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย และเป็นเครือข่ายฟิตเนส 24 ชั่วโมงใหญ่ที่สุดของไทยด้วยครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 60% ในเซ็กเมนต์นี้ ที่มีอีก 2 เชนฟิตเนสจากต่างประเทศและแบรนด์โลคอลทำตลาดอยู่

“เราตั้งเป้าที่จะเปิดคลับใหม่ไม่น้อยกว่า 12 แห่งต่อปี และเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีจำนวนคลับทั้งหมด 100 แห่งในประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า”

ปัจจุบัน เจ็ทส์ มีสมาชิก 15,000 ราย สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 25,000 ราย การใช้บริการของ เจ็ทส์ เป็นค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ 1,500 บาท ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่จะมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง แตกต่างจากธุรกิจฟิตเนสที่เข้ามาทำตลาดไทยก่อนหน้านี้ ที่เป็นการเก็บค่าสมาชิกล่วงหน้าและให้ฟรีค่าบริการตามจำนวนปีที่จ่ายล่วงหน้า ซึ่งรูปแบบนี้จะทำให้ไม่มีรายได้เข้ามาหมุนเวียนเมื่อลูกค้าใช้เข้าสู่ช่วงที่ใช้บริการฟรีจากการแถม และทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบขาดรายได้

คนไทยนิยมใช้เทรนเนอร์

ไมค์ บอกว่าพฤติกรรมของลูกค้าไทย นิยมใช้ “เทรนเนอร์” มาแนะนำการออกกำลัง จากจำนวนสมาชิกของเจ็ทส์ปัจจุบัน มีสัดส่วนที่ใช้เทรนเนอร์ 20% น่าจะมาจากปัจจัยเทรนเนอร์ที่เป็นกันเองและการสร้างสรรค์โปรแกรมการออกกำลังกายที่น่าสนใจแบบเฉพาะบุคคล

จากสถิติสมาชิกที่มาใช้บริการกับเจ็ทส์ ส่วนใหญ่นิยมมาออกกำลังกายวันจันทร์-พฤหัสบดีมากที่สุด ช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ จำนวนผู้ใช้บริการจะลดลง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาสังสรรค์ โดยวันจันทร์จะมาใช้บริการมากที่สุด เพราะต้องการมาเผาผลาญไขมัน หลังจากปาร์ตี้ช่วงสุดสัปดาห์ โดยเฉลี่ยจะใช้บริการ 3 ครั้งต่อสัปดาห์.

]]>
1221100
ลาซาด้า เผยฝุ่น PM2.5 ดันยอดหน้ากาก N95 พุ่ง 240 เท่า https://positioningmag.com/1209036 Fri, 18 Jan 2019 08:14:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1209036 ทุกธุรกิจต้องเรียนรู้การพลิก “วิกฤติให้เป็นโอกาส” ทางการตลาด เหมือนอย่าง กรณีปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่กำลังกระทบต่อสุขภาพของวิถีคนเมือง แต่ก็ส่งผลให้บางธุรกิจมียอดขายดี

ลาซาด้า เผยยอดขายหน้ากากเพิ่ม 240 เท่า

ทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้า ออกมาเปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 กระตุ้นผู้บริโภคออนไลน์แห่ซื้อหน้ากากอนามัย N95 และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 240 เท่า

เจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าสูงเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่งผลให้โลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียมีความตื่นตัว ทั้งยังมีการติดแฮชแท็กคำว่า #PM25 #ฝุ่นPM25 #PMคือ #ฝุ่นละอองในวันนี้ รวมถึง #หน้ากากN95

ขณะเดียวกันในเว็บบอร์ดสาธารณะของโซเชียลมีเดียต่างๆ ยังมีการรีวิวการใช้งานหน้ากากอนามัย N95 ของหลายแบรนด์ รวมถึงบอกแหล่งจำหน่ายอีกด้วย

“ในส่วนของ ลาซาด้า พบว่ามียอดขายหน้ากากอนามัย N95 และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 240 เท่า โดยสินค้าเกี่ยวกับหน้ากากและเครื่องฟอกอากาศ ยังเป็นคีย์เวิร์ดที่ถูกค้นหาบนลาซาด้ามากที่สุดเฉลี่ยมากกว่า 1 แสนครั้งต่อวัน”

โอกาสของเครื่องฟอกอากาศ

ในส่วนของเครื่องฟอกอากาศพบว่าแบรนด์ที่ขายดีที่สุดคือ Xioami และ Sharp ทำให้ขณะนี้ลาซาด้าและแบรนด์พันธมิตรกำลังเร่งอัตราการเพิ่มสต๊อกสินค้า รวมถึงการออกโปรโมชันต่างๆ เพื่อให้ทันต่อการใช้งานในช่วงเวลาวิกฤตินี้ และที่สำคัญลาซาด้ายังกำชับผู้ขายรายย่อยไม่ให้ฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้า”

ในส่วนของตลาดเครื่องฟอกอากาศมีการเติบโตโดยเฉลี่ย 2 หลักเป็นประจำทุกปี โดยส่วนสำคัญมาจากปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ที่กระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของเครื่องฟอกอากาศฝุ่นที่มีขนาดเล็กมากขึ้น โดยการแข่งขันในตลาดนี้ส่วนใหญ่แล้วยังไม่เน้นการโฆษณาบนสื่อหลักในรูปแบบ Above the line มากนัก เพราะแบรนด์ส่วนใหญ่มองว่าเป็นตลาดที่ยังเล็ก เนื่องจากผู้บริโภคคนไทยยังครอบครองเครื่องฟอกอากาศไม่ถึง 1% ของครัวเรือนทั้งประเทศ ขณะเดียวกันตลาดยังคงกระจุกตัวอยู่ในหัวเมืองใหญ่เท่านั้น

“เมื่อตลาดเครื่องฟอกอากาศไม่ได้แข่งขันกันรุนแรงมากนัก ในด้านโฆษณา หรือสร้างการรับรู้ให้แบรนด์ ทำให้โอกาสของเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสสูงที่จะได้ส่วนแบ่งตลาดกลับไปจำนวนมาก

เจ็ทส์ให้ทดลองเล่นฟรี 3 วัน

ทางด้าน เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมงออกโปรโมชั่น ชวนคนกรุงออกกำลังกายฟรี เลี่ยงฝุ่น เปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองออกกำลังกายฟรี 3 วัน ในทุกสาขา (ปกติให้ทดลองเล่น 1 วัน)  และลุ้นรางวัลออกกำลังกายฟรี 6 เดือน เมื่อทดลองเข้าฟิตเนสที่สาขา พาร์ค 39 (พร้อมพงษ์), สวนเพลิน มาร์เก็ต (พระราม 4) และ อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (คลองเตย) ตั้งแต่วันนี้-28 กุมภาพันธ์ 2562

นอกจากนี้ ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังส่งผลให้ธุรกิจ “ดีลิเวอรี” ได้รับผลดี วงใน เปิดเผยว่า ด้วยคนส่วนใหญไม่มีความจำเป็นจะไม่ออกจากบ้าน ใช้บริการสั่งอาหารแทน จึงทำให้ธุรกิจนี้เติบโตถึง 20% จากช่วงปกติ หรือ 5 แสนออร์เดอร์ต่อสัปดาห์

ค้าปลีกอย่าง เทสโก้ โลตัส ต้องเร่งสั่งสินค้ามาเพิ่ม ขณะเดียวกันก็หาหน้ากาก N95 จำนวน 2 หมื่นชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้ผู้อยู่อาศัยในเขตที่มีปริมาณฝุ่นสูงสุดใน 10 เขตของกรุงเทพฯ.

]]>
1209036
ฟิตเนส ฟิตมั้ย! เชนใหม่ลุยทำตลาดเปิด 24 ชั่วโมง เชนเก่า “เลิกค่าแรกเข้า-ปั้นแบรนด์ใหม่” สู้ศึก https://positioningmag.com/1166830 Sun, 22 Apr 2018 04:46:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1166830 ด้วยกระแสสุขภาพมาแรง คนไทยหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจฟิตเนสยังสนใจของผู้เล่นรายใหม่ๆ ที่เป็นเชนจากต่างประเทศ ที่เข้ามาสู่ตลาดกันอย่างคึกคัก ทั้งฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมง และฟิตเนสคอนเซ็ปต์ใหม่

ก่อนหน้านี้จะมีหลายแบรนด์ดังเข้ามาทำตลาดแล้วก็ต้องปิดฉากไป ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แคลิฟอร์เนีย ว้าว หรือ ทรูฟิตเนส แต่เกิดปัญหาการบริหารงานภายในองค์กร ไม่ได้เกิดจากสภาพธุรกิจตลาดรวม

ผู้ประกอบการที่ยังคงมีบทบาทในตลาดฟิตเนสในไทยที่เป็นเชนรายใหญ่เช่นฟิตเนสเฟิร์สท เวอร์จิ้นแอคทีฟ วีฟิตเนส เอ็มฟิตเนส รวมถึงฟิตเนสรายย่อยที่เปิดตัวขึ้นมากมาย

ล่าสุด เชนฟิตเนสต่างประเทศ เข้ามาเปิดบริการในไทยในเวลาใกล้เคียงกันถึง 3 แบรนด์ เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง จากออสเตรเลีย ฟิตเนส 24SEVEN จากสวีเดน และที่กำลังเข้ามาคือ เซเลบริตี้ ฟิตเนส จากสิงคโปร์ของเครือฟิตเนสเฟิร์สทที่เพิ่งไปซื้อกิจการมา

ศึกฟิตเนส 24 ชั่วโมง

จุดขายสำคัญของ เจ็ทส์ ฟิตเนส 24 ชั่วโมง จากออสเตรเลีย ฟิตเนส 24SEVEN จากสวีเดน คือการเปิดบริการ 24 ชั่วโมง

ไมเคิล เดวิด แลมบ์ กรรมการผู้จัดการ Jetts 24 hour fitness-Asia มองว่า ตลาดฟิตเนสในไทยกำลังเติบโตและมีช่องว่างอีกมากที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม โดยมีคนไทยเพียง 5-6% ของจำนวนประชากรทั้งหมดเท่านั้นที่ออกไปใช้แฟซิลิตี้ต่างๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ในคอมเมอร์เชียล แอเรีย เมื่อเทียบกับออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนดังกล่าวสูงถึง 18% และ 20% ตามลำดับ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟิตเนสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการใช้บริการฟิตเนส แต่ไม่มีฟิตเนสที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมงรองรับมากเพียงพอ

จริงๆ แล้ว ยังมีกลุ่มคนอีกหลายอาชีพ ที่ทำงานเป็นกะ หรือเป็นเวลาที่ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น อาชีพ หมอ พยาบาล ตำรวจ หรือพวกทำฟรีแลนซ์ต่างๆ ซึ่งคนเหล่านี้ ก็ยังมีความต้องการที่จะเล่นฟิตเนสเหมือนกันในช่วงกลางคืน และต้องการได้รับบริการและอุปกรณ์เช่นเดียวกับฟิตเนสปกติ ในราคาที่เข้าถึงได้

โดยราคาของเจ็ทส์ ฟิตเนสจะถูกกว่าคู่แข่งที่เป็นเชนอินเตอร์ในตลาดราว 25-30% เพื่อต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่กว้างกว่า จึงตัดแฟซิลิตี้ไม่จำเป็นออกไป เช่น ซาวน่า และห้องอบสตรีม รวมถึงพื้นที่พักผ่อน (Recreation Area) ออกไป เหลือเพียงแค่พื้นที่ฟิตเนสเพียงอย่างเดียว

ไมเคิล บอกว่า ขนาดของพื้นที่ 500-1,000 ตร.ม. ทำให้มีความยืดหยุ่น และคล่องตัวในการเปิดสาขามากกว่าคู่แข่ง โดยจะใช้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 30 ล้านบาท ปีนี้จะใช้งบในการขยายสาขา 360 ล้านบาท

ดังนั้น แทนที่จะเปิดทีละสาขา เจ็ทส์ ฟิตเนสจึงเปิด 4 สาขาพร้อมกัน ได้แก่ สเตเดียม วัน ใกล้กับสนามกีฬาแห่งชาติ, เดอะ สตรีท รัชดา, เดอะฟิล อ่อนนุช และสีลม คอนเนค ช่องนนทรี พร้อมกับวางแผนเปิดเพิ่มอีก 8 สาขา

โดยเลือกทำเลที่เข้าถึงง่าย ใกล้รถไฟฟ้า บีทีเอส และเอ็มอาร์ที รวมถึงมีพื้นที่ในการจอดรถสะดวก ถ้าไม่อยู่ใจกลางเมือง ก็จะอยู่ใกล้กับชุมชนที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่น

จากนั้นจะขยายไปสู่ตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งหากทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะทำให้เจ็ทส์มีสาขาทั่วประเทศทะลุ 100 สาขา ภายใน 5 ปี

เช่นเดียวกับฟิตเนส24เซเว่น (Fitness24Seven) เชนฟิตเนส จากสวีเดน ที่มองว่าตลาดฟิตเนสในเมืองไทยยังมีโอกาสอยู่มาก เพราะคนไทยใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จนเรื่องการออกกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “ไลฟ์สไตล์” ในชีวิตไปแล้ว

เมื่อดูจากตลาดฟิตเนสในเอเชีย ยังพบว่าไทยมีการเติบโตสูง มูลค่าตลาดปี 2559 มีมากกว่า 9,000 ล้านบาท ตัวเลขมหาศาล แต่เมื่อเทียบอัตราการออกกำลังกายในฟิตเนส (Penetration) ของคนไทยยังต่ำ เพียง 3% เท่านั้น

ทำให้เจ้าของฟิตเนสจากยุโรปรายนี้จึงตัดสินใจเข้ามาลงทุน เปิดสาขาแรก เนื้อที่ 996 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในคอมมูนิตี้มอลล์ซัมเมอร์ฮิลล์ ย่านพระโขนงแห่งแรกในไทยและภูมิภาคเอเชีย จากนั้นจะขยายอีก 10 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ และภายใน 2 ปีจะขยายไปยังเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต

โดยใช้กลยุทธ์ใกล้เคียงกัน คือ การเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เพราะมองว่า ยังมีช่องว่างการตลาดอยู่ โดยใช้คอนเซ็ปต์ของแบรนด์ “Fitness on Your Term” ที่เชื่อว่าการออกกำลังกายนั้น ผู้บริโภคจะไปเวลาไหน สถานที่ใดก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เน้นเปิดสาขาในทำเลใกล้กับรถไฟฟ้า เพื่อให้เดินทางสะดวก ในราคาคุ้มค่า 1,299 บาทต่อเดือน เก็บค่าบริการแรกเข้า 999 บาท ซึ่งจ่ายค่าแรกเข้าครั้งเดียวสำหรับการใช้บริการ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่า 2 รายใหญ่ อย่าง ฟิตเนสเฟิร์สท กับ เวอร์จิ้นแอคทีฟ ที่มีค่าบริการเฉลี่ย 2,000 บาทขึ้นไป

นอกจาก Jetts Fitness และฟิตเนส24เซเว่น ยังมีธุรกิจฟิตเนสอีกหลายรายที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เช่น Muscle Lab Gym,  Fitwhey Gym

*** “ฟิตเนส เฟิรส์ท” รับมือด้วยแบรนด์ใหม่ “เซเลบริตี้”

ทางด้านผู้ประกอบการเดิมอย่าง “ฟิตเนสเฟิร์ส” ขยับลงทุนทุ่มงบ 450 ล้านบาท เปิดแบรนด์ใหม่ “เซเลบริตี้ ฟิตเนส” เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 20 ปีขึ้นไป ราคาค่าสมาชิกเซเลบริตี้ ฟิตเนส จะถูกกว่าฟิตเนสเฟิรส์ท

เซเลบริตี้ ฟิตเนส ให้บริการในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวม 52 สาขา โดยเป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ Evolution Wellness ซึ่งก่อตั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดยเกิดจากการควบรวมกิจการของ ฟิตเนส เฟิรส์ท เอเชีย (บริษัทแม่ของฟิตเนส เฟิรส์ท ประเทศไทย) และเซเลบริตี้ ฟิตเนส

ในไทยนั้นจะเปิด 4 สาขารวดในปีนี้ สาขาเซ็นทรัล พลาซา พระราม 2  เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย, Central World (คอนเซ็ปต์ใหม่ สไตล์บูติก ฟิตเนส, เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ และ คลับ ไอคอน ที่ไอคอน สยาม (สาขาในรูปแบบที่หรูหราที่สุด เปิดให้บริการปลายปีนี้) ทำให้ฟิตเนส เฟิรส์ท มีทั้งสิ้น 32 สาขา ทั่วประเทศ

มาร์ค เอลเลียต บิวคานันท์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟิตเนส เฟิรส์ท (ประเทศไทย) มาร์คบอกว่าตลาดฟิตเนสในเมืองไทยยังไปได้อีกไกล เพราะปัจจุบันนี้เฉพาะในกรุงเทพฯ มีคนที่ใช้บริการฟิตเนสไม่ถึง 1% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

ฟิตเนสก็เหมือนธุรกิจอื่นๆ ต้องมี segmentation ฟิตเนส เฟิรส์ท มีเป้าหมายที่จะตอบสนองความต้องการของทุกเซ็กเมนต์์ให้ได้ โดยคอนเซ็ปต์คลับที่แตกต่างจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างประสบการณ์การให้บริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง

เซเลบริตี้ ฟิตเนส จะมาเติมเต็มช่องว่างที่มีอยู่ได้ โดยมุ่งจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 20+ เป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ รวมถึงกลุ่มคนที่เห็นว่าฟิตเนสในรูปแบบปัจจุบันดูเป็นทางการเกินไป ทำให้พวกเขามองว่าการออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องสนุก จึงใช้เรื่องของ Social Place หรือพื้นที่ในการสังสรรค์มาเป็นส่วนผสมให้กับเซเลบริตี้ฟิตเนสมีความแตกต่างจากฟิตเนสที่เปิดมาก่อนหน้านี้

ส่วนการเปิดบริการฟิตเนส 24 ชั่วโมงนั้น ผู้บริหารฟิตเนส เฟิร์สให้ความเห็นว่าเป็นอีกเซ็กเมนต์ที่น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งฟิตเนสเฟิร์สทก็อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเป็นไปได้ ทั้งในแง่ของตลาด ความต้องการ และความพร้อม เพื่อรองรับการเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะเริ่มได้ในบางสาขา คงไม่ได้ทำทุกสาขา หรือในบางสาขาอาจจะเลื่อนเวลาเปิดปิดเพื่อเปิดบริการให้มากขึ้น

ถ้าหากฟิตเนสเฟิร์สทลงสู่สมรภูมิ ฟิตเนส 24 ชั่วโมงเมื่อไร เมื่อนั้นตลาดคงแข่งขันกันสนุกแน่นอน อย่างไรก็ตามเชนใหญ่ต่างก็มีแผนชัดเจนในการรุกธุรกิจฟิตเนส 24 ชั่วโมงนี้แล้วเช่นกัน

*** “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟยกเลิกค่าแรกเข้า 

ส่วนรายใหญ่อีกราย แม้ว่าจะยังไม่มีแผนเปิดบริการ 24 ชั่วโมงทุกสาขาบ้างก็ตาม แต่ก็มีฟิตเนสโซนบริการให้กับเด็กด้วย และล่าสุด เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ตัดสินใจยกเลิกการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าสำหรับสมาชิกใหม่ ซึ่งถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการฟิตเนสในไทยไม่น้อย เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงนี้ 

โดยค่าธรรมเนียมแรกเข้า คือค่าใช้จ่ายที่ผู้ให้บริการฟิตเนสจะเรียกเก็บล่วงหน้า เมื่อสมาชิกสมัครใช้บริการเป็นครั้งแรก ซึ่งอาจราคาสูงกว่าหรือเทียบเท่าค่าบริการรายเดือน เมื่อคำนวณรวมกับค่าบริการรายเดือนจึงถือว่าเป็นเงินจำนวนมากที่สมาชิกจะต้องจ่าย เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น ฟิตเนสจึงต้องปรับตัวและพัฒนาการให้บริการ หรือลดค่าบริการเพื่อรักษาฐานลูกค้า

นอกจากนี้ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ได้เตรียมลงทุนหลายร้อยล้าน เปิดสาขาใหม่ ที่โครงการมิกซ์ยูส วิซดอท วัน-โอ-วัน ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวลอปเม้นท์ คอร์เปอเรชั่น (MQDC) โดยจะเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในไทย

ปัจจุบัน Virgin Active มี Club เปิดให้บริการทั้งสิ้น 7 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 6 แห่งคือ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เอ็มไพร์ทาวเวอร์, เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เอ็มควอเทียร์ , เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เวสต์เกต, เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ สยามดิสคัฟเวอรี่, เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ อีสต์วิลล์ , เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ถนนวิทยุ และ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เชียงใหม่ ตามแผนงานระยะยาวแล้ว เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ จะเปิดสาขาให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2565.

]]>
1166830
Jetts ใส่เกียร์ตะลุยเปิด 4 สาขารวด รับศึกฟิตเนส 24 ชั่วโมง https://positioningmag.com/1162683 Wed, 21 Mar 2018 13:03:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1162683 ยิ่งกระแสสุขภาพมาแรง ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจ “ฟิตเนส” ก็ยิ่งขยายตัวตาม ทำให้ไทยกลายเป็นตลาดเป้าหมายของ “ฟิตเนส” ข้ามชาติที่เข้ามาขยายฐานลูกค้าในไทย อย่างล่าสุด ฟิตเนส 24 เซเว่น จากสวีเดนเข้ามาเปิดให้บริการในไทย ชูจุดขายให้บริการ 24 ชั่วโมง บนทำเลในเมือง ติดรถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน เริ่มต้น 10 สาขา และกลยุทธ์ราคา ค่าสมาชิก 1,299 บาท แรกเข้า 999 บาท

ทำเอา Jetts 24 Hour Fitness จากออสเตรเลียที่เปิดให้บริการมาก่อนหน้านี้ได้ 2 ปี ต้องเร่งมือขยายสาขา เปิดตัวพร้อมกัน 4 สาขาใหม่ สเตเดียม วัน (จุฬาฯ) BTS สนามกีฬาฯ, เดอะสตรีท (รัชดา) MRT ศูนย์วัฒนธรรม, เดอะฟิล (อ่อนนุช) BTS อ่อนนุช และ สีลม คอนเนค (ช่องนนทรี) BTS ช่องนนทรี พร้อมกันเป็นครั้งแรกในเอเชีย

พ่วงด้วยจัดอีเวนต์ใหญ่ ในวันที่ 29 มีนาคมวันเดียว ดึงเอาดารา นักแสดง เซเลบคนดัง มาร่วมงาน

พร้อมกับประกาศ โปรโมชั่นใหม่ ค่าบัตรสมาชิกครั้งแรก 1,500 บาท นำไปเข้าสาขา Jetts 24 ฟิตเนสทั่ว 250 สาขาทั่วโลก จากนั้นเสียค่ารายเดือน ๆ ละ 1,500 บาท โดยโปรโมชั่น ฟรีค่าแรกเข้า และได้ VIP Pack – Personal Trainer 3 ครั้ง

ทำให้ Jetts มีสาขาทั้งหมด 7 สาขา จากเดิมที่มี 3 สาขา คือ สวนเพลิน มาร์เก็ต (พระราม 4), นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว (เกษตร-นวมินทร์) และเดอะซีน (ทาวน์อินทาวน์)

นับเป็นสงครามฟิตเนสยกใหม่ของไทย ซึ่งรอบนี้เป็นการแข่งขันของ ฟิตเนสข้ามชาติระหว่าง Jetts 24 Hour Fitness และ ฟิตเนส 24 เซเว่น โดยใช้กลยุทธ์การตลาดที่ใกล้เคียงกัน ทั้งการเปิด 24 ชั่วโมง 365 วัน ทำเลติดรถไฟฟ้า ค่าบริการรายเดือน และค่าแรกเข้า เฉลี่ย 1,300 -1,500 บาท.

]]>
1162683