Kodak – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 08 Dec 2020 00:28:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หุ้น ‘Kodak’ พุ่งขึ้น 70% หลังไม่พบการกระทำผิดในการกู้เงินรัฐบาลสหรัฐฯ ผลิตยา COVID-19 https://positioningmag.com/1309456 Tue, 08 Dec 2020 00:14:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1309456 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมหุ้นของบริษัท ‘โกดัก’ (Kodak) พุ่งกว่า 300% หลังรัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินกู้ 765 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนให้บริษัทผลิตสารที่ใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตยารักษา COVID-19 ให้กับสหรัฐฯ ส่งผลให้มูลค่าตลาดโกดักทะลุพันล้านดอลลาร์

ราคาหุ้นของบริษัท ‘อีสต์แมน โกดัก’ ได้ปิดเพิ่มขึ้น 318% หรือราว 25.26 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33.20 ดอลลาร์ และระหว่างการซื้อขาย หุ้นโกดักทะยานมากถึง 570% มาอยู่ที่ 60 ดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ ส่งผลให้หุ้นโกดักถูกสั่งพักการซื้อขาย 20 ครั้งในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในช่วงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวอย่างผันผวน

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ (ดีเอฟซี) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ระงับการอนุมัติเงินกู้ให้โกดัก หลังจากมีข้อหาจากสภาคองเกรสและเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบเข้าตรวจสอบว่าโกดักอาจทำผิดกฎหมาย

แต่จากรายงานที่เผยแพร่ในเดือนกันยายนนั้นระบุว่า ไม่พบการกระทำผิดของโกดัก ซึ่งส่งผลให้หุ้นของโกดักพุ่งสูงขึ้นประมาณ 70% ในการซื้อขายล่วงหน้า โดยปัจจุบันราคาหุ้นของโกดักอยู่ที่ 7.53 ดอลลาร์ต่อหุ้น อย่างไรก็ตามเงินกู้ยังคงถูกระงับโดยไม่มีกำหนดรอการสอบสวนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และคำถามอื่น ๆ จากฝ่ายนิติบัญญัติ

ทั้งนี้ โกดักเป็นบริษัททำงานเกี่ยวข้องกับเคมีภัณฑ์มากกว่าร้อยปี ทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยให้การผลิตยาให้เกิดขึ้นในเวลารวดเร็ว ปัจจุบัน ธุรกิจในส่วนการผลิตยารักษาโรคนั้น มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 30-40% ของธุรกิจโกดัก

Source

]]>
1309456
ยุคใหม่ของ Kodak เปลี่ยนเเนวจาก “ฟิล์ม” มุ่งสู่ธุรกิจผลิต “ยารักษาโรค” รายใหญ่ของสหรัฐฯ https://positioningmag.com/1289844 Wed, 29 Jul 2020 09:21:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1289844 บริษัทเก่าเเก่ที่เคยรุ่งเรืองด้านการผลิตฟิล์มกล้องถ่ายรูปอย่าง Eastman Kodak กำลังจะก้าวสู่ยุคใหม่ หันมาผลิต “สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของการผลิตยารักษาโรค มีความต้องการของตลาดสูงจากวิกฤต COVID-19

โดยบริษัทเพิ่งได้รับอนุมัติเงินกู้มูลค่ากว่า 765 ล้านเหรียญ (ราว 2.4 หมื่นล้านบาท) จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการวิจัยครั้งนี้

ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าส่วนประกอบของการผลิตยาจากต่างชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะจาก “จีน” และ “อินเดียเมื่อเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ทำให้เหล่าผู้ผลิตต้องจำกัดการส่งออกสารเหล่านี้ซึ่งทำให้สหรัฐฯ ต้องเสี่ยงที่จะขาดเเคลนยา

เเละแม้สารประกอบในการผลิตยาสามัญทั่วโลกจะถูกใช้โดยชาวอเมริกันถึง 40% แต่มีแค่ราว 10% เท่านั้นที่ผลิตในสหรัฐฯ

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการไม่ต้องพึ่งพายาจากต่างประเทศ Peter Navarro ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Fox Business

Kodak ได้ทำสัญญาร่วมกับ สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (DFC) ว่าจะรับหน้าที่ผลิตสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม ซึ่งจะใช้ในกระบวนการผลิตยาที่ไม่ใช่ชีววัตถุ (non-biological) ยาที่ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (non-antibacterial) และยาสามัญ สูงสุดถึง 25% ของปริมาณความต้องการในอเมริกา ซึ่งจะทำให้ Kodak กลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยาชั้นนำของประเทศเลยทีเดียว

โดยจะมีการขยายโรงงานที่นครนิวยอร์กและรัฐมินนิโซตา เพื่อเป็นฐานการผลิตสารสำคัญของตัวยาที่สำคัญ เเละคาดว่าจะเพิ่มการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมได้ถึง 1,500 ตำแหน่ง

Kodak เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นมาตั้งเเต่ปี 1888 มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ราว 114.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เเต่ผลประกอบการไม่สู้ดีนักในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลังธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล เเละสมาร์ทโฟนที่เข้ามามีบทบาทแทนที่กล้องและฟิล์ม โดยการหันทิศทางธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตยาครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่บริษัทจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง 

 

ที่มา : Reuters , AFP , DFC

]]> 1289844 7 เรื่องควรรู้ Kodak หุ้นพุ่งรับแผน KodakCoin – โครงการขุด Bitcoin https://positioningmag.com/1153221 Wed, 10 Jan 2018 15:00:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1153221 เปิดประเด็นกรณีหุ้นบริษัทอีสต์แมน โกดัก (Eastman Kodak) พุ่งกระฉูด 120% หลังจากเปิดแผนธุรกิจใหม่ลุยออกเหรียญเงินดิจิทัลของตัวเองในชื่อโกดักคอยน์ (KodakCoin) เบื้องต้นระบุจะจับมือกับบริษัทสัญชาติลอนดอน ระดมทุนแบบ ICO เพื่อให้บริการบริหารลิขสิทธิ์ภาพของช่างภาพ ขณะเดียวกันก็จะติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อขุดบิตคอยน์ (Bitcoin) ที่สำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กด้วย

1. กำเนิดแบรนด์ Kodak KashMiner บริการเช่าฮาร์ดแวร์ขุดบิตคอยน์

จากธุรกิจค้าฟิลม์ถ่ายรูป ธุรกิจใหม่ที่ Kodak ให้รายละเอียดที่งาน CES 2018 นั้นจะมีชื่อว่าโกดัก แคชไมเนอร์ (Kodak KashMiner) บริการนี้จะเปิดให้ลูกค้าชำระค่าเช่าระบบขุดเงินดิจิทัล หรือ mining capacity แผนธุรกิจใหม่นี้โดนใจนักลงทุน เพราะ Kodak เป็นหนึ่งในบริษัทหลายแห่งที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นทันทีที่เปิเผยแผนธุรกิจใหม่เกี่ยวกับกิจกรรมที่มีเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) อยู่เบื้องหลัง

2. ผลจากธุรกิจลิขสิทธิ์แบรนด์ Kodak

แม้ชื่อของ Kodak จะโดดเด่นเรื่องการเป็นแบรนด์ที่ปรับตัวสู่โลกดิจิทัลได้ช้า แต่วันนี้ Kodak เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Kodak กำลังจะทิ้งอดีตของตัวเองแล้วกลับมามีชีวิตใหม่ในยุคเงินดิจิทัล โดยตั้งแต่ปี 2012 ตัว Kodak ขายสิทธิ์ชื่อแบรนด์ให้กับผู้ผลิตหลายกลุ่ม ทำให้ชื่อ Kodak ปรากฏบนแบตเตอรี่ เครื่องพิมพ์ โดรน คอมพิวเตอร์ และกล้องดิจิทัลหลายรุ่น

กรณีของ KashMiner รายงานชี้ว่าเป็นผลจากการร่วมมือกับบริษัทสปอตไลต์ (Spotlite) ผู้ซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์ Kodak ที่เคยติดแบรนด์ Kodak ในตลาดหลอดไฟแอลอีดี (LED) มาก่อนหน้านี้

สำหรับธุรกิจขุดบิตคอยน์ นั้นหมายถึงการอุทิศคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงของตัวเองเพื่อเปิดซอฟต์แวร์ของบิตคอยน์ให้ทำงานตลอดเวลา การอุทิศนี้จะได้รับบิตคอยน์กลับมาเป็นการตอบแทน จุดนี้เงินบิตคอยน์ที่ได้รับจาก Kodak KashMiner จะถูกแบ่งปันกันระหว่างลูกค้าและธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขุดเงินดิจิทัลนี้มีความเสี่ยง เพราะโครงข่ายขุดเงินเหล่านี้จะต้องใช้กองทัพหน่วยประมวลผลคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง และไพร่พลพัดลมระบบระบายความร้อนเพื่อให้ระบบทำงานได้ราบรื่น ทั้งหมดนี้จะเผาผลาญพลังไฟสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อมูลค่าเงินดิจิทัลยิ่งสูงขึ้น จำนวนผู้สนใจที่นำคอมพิวเตอร์เข้ามาร่วมกันประมวลผลมีมากขึ้น การเข้ารหัสจึงซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้การเผาผลาญพลังไฟต่อการทำธุรกรรมแต่ละครั้งสูงขึ้นต่อเนื่อง

3. ที่สำนักงานใหญ่ Kodak มีโรงงานไฟฟ้า

แม้จะมีความเสี่ยง แต่โครงการนี้จะสามารถใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตไฟฟ้าของ Kodak ได้เต็มที่ ซึ่งโรงงานนี้มีกำลังการผลิตว่างอยู่นับตั้งแต่ยุคที่ Kodak ยังมั่งคั่ง จุดนี้รายงานย้ำว่า ธุรกิจขุดบิตคอยน์ของ Kodak จะมีฐานที่มั่นที่สำนักงานใหญ่ในเมืองโรเชสเตอร์

Kodak มั่นใจมากว่าจะไปได้สวยในธุรกิจนี้ เพราะ Kodak สามารถอัดฉีดพลังงานในแต่ละหน่วยประมวลผลในต้นทุนต่ำ 4 เซ็นต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าการที่บุคคลทั่วไปจะซื้ออุปกรณ์มาติดตั้งในบ้านเพื่อขุดเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง

จากมูลค่าปัจจุบันของ Bitcoin การประเมินล่าสุดพบว่า เงินลงทุนล่วงหน้าในวงการนี้อยู่ที่ประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 128,418 บาทสำหรับการทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล 24 เดือน ซึ่งอาจให้รายได้ 500 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 16,050 บาท

4. ร่วมขุดแล้ว 80 ราย

ปัจจุบัน Kodak ระบุว่ามีลูกค้าผู้ลงทุนขุดเงินดิจิทัลแล้ว 80 ราย คาดว่าจะเพิ่มอีก 300 รายในไม่ช้าเพราะตลาดเงินดิจิทัลมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น แม้วันนี้บิตคอยน์มีความผันผวนอย่างผิดปกติ และนักวิเคราะห์หลายคนหวั่นใจว่าค่าของมันจะพังทลายลง จนส่งผลให้เกิดความสูญเสียสำหรับผู้ที่ต้องจ่ายต้นทุนล่วงหน้า 

5. โยกระบบไปทำงานอื่นได้หาก Bitcoin ล่ม

Halston Mikail ผู้บริหารบริษัท Spotlite พันธมิตรของ Kodak ระบุว่าแม้บิตคอยน์อาจเป็นฟองสบู่ได้ แต่อุตสาหกรรม “บล็อกเชน” ไม่ใช่ฟองสบู่ เนื่องจาก blockchain เป็นแพลตฟอร์มที่มั่นคงบนพื้นฐานของคณิตศาสตร์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว blockchain จะอยู่รอดแน่นอน

6. “สกุลเงิน Kodak” ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ

โครงการ KodakCoin ของ Kodak กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อสร้างเป็นระบบที่ช่างภาพสามารถอัปโหลดภาพใหม่เข้ามาในระบบ แล้วบริหารจัดการสิทธิต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มได้โดยตรง สามารถป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์ได้ดี ทั้งหมดนี้จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ KodakOne ที่จะถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลบนเว็บและค้นหาภาพที่ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

Kodak บอกว่าโครงการนี้กำลังอยู่ในขั้น “จัดการขั้นตอนการออกใบอนุญาต” เพื่อให้ช่างภาพจะได้รับค่าตอบแทนใน KodakCoin 

7. ทุกอย่างเพื่อช่างภาพ

Jeff Clarke ซีอีโอ Kodak กล่าวว่าทั้งหมดนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงตามแนวคิดดั้งเดิมของ Kodak เรื่องความพยายามทำให้การถ่ายภาพมีความเท่าเทียมและทำให้การออกใบอนุญาตเป็นไปอย่างยุติธรรมต่อศิลปิน โดยบอกว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เอื้อให้ชุมชนการถ่ายรูปมีวิธีที่สร้างสรรค์และง่ายในการจัดการ

แผนธุรกิจเหล่านี้โดนใจนักลงทุนจนทำให้ราคาหุ้นของ Kodak มีการซื้อขายสูงกว่าราคาเปิดตลาด 130% ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อยหลังปิดตลาด เบ็ดเสร็จแล้วหุ้น Kodak บวก 119.4%.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000003038

]]>
1153221
เมื่อโกดัก มาทำสมาร์ทโฟน Kodak EKTRA https://positioningmag.com/1106486 Fri, 21 Oct 2016 04:23:23 +0000 http://positioningmag.com/?p=1106486 โกดัก (Kodak) เปิดตัวสมาร์ทโฟนที่เน้นเรื่องการถ่ายภาพภายใต้แบรนด์ “EKTRA” จุดเด่น คือ ดีไซน์ที่หวังให้มองผ่านเหมือนกล้อง 35 มม. สุดคลาสสิก ฟีเจอร์เด่น คือ ความละเอียดกล้องหลัง 21 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอ 4K ได้ ขณะที่กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เอาใจชาวเซลฟี่ ราคาเปิดตัว คือ 449 ปอนต์ หรือประมาณ 19,000 บาท

สิ่งที่โกดัก ใช้ประชาสัมพันธ์ EKTRA คือ คุณสมบัติที่เทียบเคียงกับกล้องรุ่นใหญ่ DSLR พร้อมกับจุดขายเรื่องความคลาสสิก เพราะ EKTRA เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความรู้สึกถึงกล้อง 35 มม. ยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างเคสหนังแท้ เข้ากันกับโมดูลกล้องถ่ายรูปขนาดใหญ่ที่ถอดแบบกล้องดั้งเดิมของ Kodak

ขุมพลังของ Kodak EKTRA คือ MediaTEK Heilo X20 Deca core หน่วยความจำ RAM 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลในตัว 32GB หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0

กล้องหลังของ Kodak EKTRA ที่ละเอียด 21 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายวีดีโอ 4K กล้องจะทำงานร่วมกับระบบกันภาพสั่นแบบ 6 แกน เพื่อการถ่ายภาพ หรือวีดีโอที่นิ่งเรียบยิ่งขึ้น จุดนี้เซียนกล้องสามารถเปิด Mode ปรับตั้งค่าเองในโหมด Manual Mode ได้

กำหนดการจำหน่าย Kodak EKTRA คือ ธันวาคมนี้ (ในบางประเทศ) โดยช่วงวางจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา อาจล่าช้าถึงต้นปี 2017 บนราคาเปิดตัวเริ่มที่ 449 ปอนต์ หรือประมาณ 19,000 บาท เบื้องต้น คาดว่า EKTRA จะได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นพี่ที่โกดัก เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วในชื่อ Kodak IM5

2
ด้านหน้าของ Kodak EKTRA
3
Kodak EKTRA กล้องคลาสสิกปี 1940 ของโกดัก
EKTRA เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความรู้สึกถึงกล้อง 35 มม.
EKTRA เป็นสมาร์ทโฟนที่ให้ความรู้สึกถึงกล้อง 35 มม.
EKTRA สนนราคา 19,000 บาท
EKTRA สนนราคา 19,000 บาท
ทุกด้านของ EKTRA
ทุกด้านของ EKTRA

ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000105524

]]>
1106486
“โกดัก” ยังเอาอยู่ https://positioningmag.com/14589 Tue, 10 Apr 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14589

หลังจากมีข่าวการล้มละลายของ “โกดัก” ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพ อายุ 133 ปี ล่าสุดเมื่อวันวานเลนไทน์ที่ผ่านมา  “แอนดี้ คูเปอร์” รองประธาน กลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ บริษัท อีสต์แมน โกดัก ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จึงต้อง “โฟนอิน”  จากเฮดออฟฟิศ ที่ประเทศเซี่ยงไฮ้ ในเวลาบ่ายโมง 40 ตรงเป๊ะ เพื่อให้รายละเอียดชัดๆ กับผู้สื่อข่าวของไทย ว่า การยื่นคำร้องขอรับความคุ้มครอบภายใต้กฎหมายล้มละลาย เพื่อเข้าสู่แผนฟื้นฟู ตามมาตรา 11 (Chapter 11) เมื่อวันที่ 19 มกราคม ไม่ใช่การปิดตัวของโกดัก แต่เป็นการรื้อโครงสร้างเพื่อทำให้โกดักกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้ง 

ภายใต้แผนฟื้นฟู โกดักจะปรับโครงสร้างกิจการและโครงสร้างบริหาร เพื่อนำไปสู่การวางรากฐานในระยะยาวและแข่งขันได้ในโลกดิจิตอล โดยโกดักยังได้วงเงินสินเชื่อ 950 ล้านดอลลาร์ ระยะ 18 เดือนที่ได้รับจากซิตี้กรุ๊ปมาใช้ในกิจการ

การโฟนอินของแอนดี้ คูเปอร์ ยังต้องการย้ำว่า ธุรกิจนอกสหรัฐอเมริกาของโกดัก รวมถึงในไทย ยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ไม่รวมในแผนฟื้นฟู เนื่องจากตลาดเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นตลาดทำรายได้ให้กับโกดัก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป และกลุ่มสินค้าสำหรับพาณิชย์และองค์กร 

ธุรกิจที่ทำเงินและโกดักจะให้ความสำคัญมากขึ้น คือ บรรุภัณฑ์ (Packaging), หนังสือพิมพ์ (Newspaper), สิ่งพิมพ์ (Publishing), ระบบการพิมพ์ภาพดิจิตอล (Digital Printing Solution), ระบบการพิมพ์ออฟเซ็ทพรีเพรส (Offset Prepress Solutions) และ องค์กร (Enterprise) และสุดท้ายคือ การพรินต์ภาพสำหรับร้านค้าปลีกและมืออาชีพ (Retail and Professional Printing)

นอกจากให้ความสำคัญกับธุรกิจพิมพ์ภาพ และเครื่องพิมพ์เดสก์ท็อป อิงค์เจ็ท 

โกดักยังมีแผนลงทุนอัพเกรด ธุรกิจล้างถ่ายภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งโกดักมีแล็ปสีอยู่กว่า 2,000 แห่ง เฉพาะในไทยมากกว่า 320 แห่ง และยังเตรียมธุรกิจรีเทลพรินติ้ง และการทำอีเวนต์ อิมเมจ ซึ่งเปิดตัวแล้วในญี่ปุ่น มาเปิดตัวในไทย 

ส่วนธุรกิจขาลงที่โกดักต้องถอนตัวออกจากตลาดแน่ๆ  คือ กล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ อุปกรณ์ (Gudget) ต่างๆ และกรอบรูปดิจิตอล เนื่องจากตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แข่งขันสูงมาก การตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตครั้งนี้ จะช่วยประหยัดงบประมาณได้กว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อปี

ถึงจะใช้เวลาโฟนอินกับผู้สื่อข่าวไม่มากเพียงแค่  20 นาที แต่โกดักเชื่อว่า จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์โกดักกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดเอเชีย ที่โกดักต้องฝากความหวังไว้นับจากนี้ 

 

Profile 

ในตลาดเอเชียแปซิฟิก โกดัก มีโรงงานทั้งหมด 6 แห่ง มี พนักงานรวมกันมากกว่า 4,000 คน มีศูนย์วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ 3 แห่ง โดยประเทศที่ทำรายได้ในแถบนี้ คือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์

]]>
14589
โกดักส่งตู้ kiosk ท้าชนฟูจิ รับกระแสกล้องดิจิตอลบูม https://positioningmag.com/6675 Thu, 07 Oct 2004 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=6675

การเติบโตของกล้องดิจิตอล และความนิยมในการใช้โทรศัพท์มือถือติดกล้องพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จึงเป็นตัวกระตุ้นให้ธุรกิจบริการ Digital Photo Service โดยใช้ตู้ kiosk ที่รองรับการ์ดหน่วยความจำ (memory card) ได้ทุกประเภท รวมถึงเทคโนโลยี Bluetooth และ Infrared เริ่มมีการขยายตัว ซึ่งทั้ง Kodak และ Fuji ต่างก็ลงมาเล่นในตลาดนี้

ตู้ kiosk Kodak Picture Maker ตั้งใจให้เป็นมินิแล็บที่จะนำไปตั้งแทนที่ lab สีในบริเวณที่ไม่สามารถตั้งร้าน lab ได้ เพื่อให้เกิดการขยายตัวของ digital lab รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยใช้ต้นทุนต่ำกว่าการเปลี่ยนจากร้าน lab สีมืออาชีพที่รองรับเฉพาะการอัดรูปจากฟิล์ม ไปเป็นร้าน lab ที่รองรับการอัดภาพได้ทั้งฟิล์มและดิจิตอล เพราะฉะนั้นตัวซอฟต์แวร์ที่อยู่ในตู้ kiosk จึงออกแบบมาให้ใช้งานในระดับมืออาชีพ คุณภาพของภาพใกล้เคียงกับการอัดภาพจากร้าน lab สีมืออาชีพ ดังนั้นตู้ kiosk ของ Kodak จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ ตรงจุดที่มีการนำตู้ kiosk ไปตั้งให้บริการ

การอัดภาพจากเครื่อง Kodak Picture Maker ได้ตั้งราคาการอัดภาพขนาด 4X6 นิ้วไว้ที่ราคาใบละ 20 บาท โดยใช้เวลาการอัดภาพ 11 วินาที โดยสามารถเลือกขนาดรูปที่ใหญ่กว่านี้ได้ขึ้นอยู่กับพรินเตอร์ที่อยู่ในตู้ kiosk ว่าจะรองรับการอัดภาพได้ที่ขนาดใด

นอกจากนี้ผู้ใช้บริการยังสามารถตกแต่งสร้างสรรค์ภาพในรูปต่างๆ ได้ด้วยการใส่กราฟิก ตัวหนังสือ กรอบรูป ปฏิทิน หรือจะเปลี่ยนเป็นสีขาวดำ หรือ sepia เพราะฉะนั้นตู้ kiosk ของ Kodak จึงไปตอบสนองกลุ่มของผู้ใช้บริการที่ต้องการไปร้าน digital lab มืออาชีพ

ด้าน Fuji ได้วาง position ของตู้ kiosk ให้ตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ คนเมือง ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือติดกล้อง ที่ต้องการพิมพ์รูปเพื่อความสนุกสนาน ไม่จริงจัง ไม่ได้ทำมาแข่งกับร้าน lab สีมืออาชีพอย่างร้าน Frontier ของ Fuji เพราะฉะนั้นตัวซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในตู้ kiosk จึงมีลูกเล่นที่ค่อนข้างสนุกสนาน มีสีสัน สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือ เป็นจุดบริการที่ให้ความรวดเร็ว ไม่ให้ผู้ใช้บริการแช่อยู่ที่ตู้ kiosk นาน

เมื่อการวาง position ของตู้ kiosk ต่างกัน และ trend กำลังมาแรง ผู้ที่เปิดให้บริการก่อนย่อมได้เปรียบ ซึ่ง Samart i-mobile เป็นรายหนึ่งที่คว้าโอกาสนี้ ด้วยการเปิดบริการ i-photo ในร้าน i-mobile by samart ทั้ง 8 สาขา ด้วยการตั้งตู้ kiosk ของทั้ง Fuji และ Kodak ไว้ในร้าน เพิ่มบริการ digital photo service อย่างครบวงจรภายในร้านของตัวเอง เพราะเล็งเห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เลือกซื้อเครื่องจะดูที่ความละเอียดของหน้าจอเป็นหลัก ซึ่งบริการ i-photo จะมาตอบสนองความต้องการของตลาดได้ และนี่คงเป็นอีกหนึ่งบริการ ที่มีอิทธิพลทำให้รูปแบบการอัดภาพเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

Website

www.kodak.com
www.fujifilm.co.th
www.i-mobileshop.com

]]>
6675