Kroger – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 19 Jun 2018 03:29:56 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 5 เทรนด์ร้านชำเปลี่ยนทิศ Kroger เลิกจ้างพนักงาน 1,500 คน ปิดร้าน 14 สาขา https://positioningmag.com/1174761 Mon, 18 Jun 2018 12:09:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1174761 สัปดาห์ที่ผ่านมา เชนร้านชำรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Kroger ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงานกว่า 1,500 คนในไม่กี่วันนับจากนี้ ผลจากการขายทิ้ง 14 สาขาในเมือง Raleigh-Durham รัฐ North Carolina ทั้งหมดนี้แสดงว่า Kroger กำลังผ่าตัดใหญ่องค์กรเพื่อให้อยู่รอดในยุคนี้ ท่ามกลาง 5 สิ่งที่ Kroger เริ่มทำแล้วในช่วงเดือนที่ผ่านมาจนถูกมองว่านี่คือ 5 เทรนด์ที่จะเปลี่ยนร้านชำในพื้นที่อื่นของโลกต่อไป

กรณีของการลอยแพพนักงานครั้งล่าสุด รายงานชี้ว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการถอนตัวของ Kroger จาก North Carolina คือกลุ่มพนักงาน part-time ประเด็นนี้ Kroger ไม่เปิดเผยจำนวนพนักงานชั่วคราวที่จะเลิกจ้างชัดเจน ระบุเพียงว่ากำลังอยู่ในกระบวนการช่วยเหลือให้พนักงานมีงานใหม่รองรับ

Jerry Clontz ประธาน Kroger ภูมิภาคแอตแลนติกกลาง บอกในแถลงการณ์ว่าหลังจากการประเมินตลาดอย่างละเอียด Kroger ได้ตัดสินใจที่จะปิดร้านค้าในพื้นที่ Raleigh-Durham ที่มีการแข่งขันสูง โดยยอมรับว่าแม้จะประสบความสำเร็จในจุดหนึ่ง แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถเติบโตทางธุรกิจได้ตามที่ต้องการ

ทำให้ Kroger มีข้อตกลงขายร้าน 10 สาขาเรียบร้อย จากแผนการขายทั้งหมด 14 สาขา โดย 8 สาขาขายให้กับ Harris Teeter ร้านชำในภูมิภาคซึ่งอยู่ในเครือ Kroger ที่เหลือไม่มีการเปิดเผย

การผ่าตัดตัวเองของ Kroger ถือเป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐฯ และเวทีโลก เพราะ Kroger และบริษัทในเครือทำสถิติจ้างงานเกือบ 500,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ ตลอดปีงบประมาณ 2017 อย่างไรก็ตาม Kroger ไม่ได้รัดเข็มขัดอย่างเดียวแต่กำลังเบนเข็มให้องค์กรสอดคล้องกับนโยบายการปรับร้านใหม่ที่ทำออกมาแล้ว 5 ส่วน โดย Kroger กล่าวในเดือนเมษายนว่าจะจ้างพนักงานใหม่จำนวน 11,000 คน เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

*** 5 เทรนด์ร้านชำยุคดิจิทัล

ย้อนกลับไปช่วงปลายพฤษภาคมที่ผ่านมา Kroger ประกาศซื้อ Home Chef บริษัทจำหน่าย meal kit หรือชุดประกอบอาหารเอกชนรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ด้วยเงินที่คาดว่าจะสูงเกิน 700 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท การซื้อกิจการนี้เป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้นของยุทธศาสตร์ล่าสุดที่ Kroger ทำเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้า เพราะ Kroger เริ่มปฏิวัติร้านของตัวเองใน 5 ด้านตลอดปีนี้

1. ไม่ต้องรออีกต่อไป :

Kroger มีนโยบายชัดเจนเรื่องเป้าหมายกำจัดคิวรอจ่ายเงินก่อนออกจากร้าน (checkout lanes) โดย Kroger ประกาศแล้วว่าบริการ “Scan, Bag Go Go” จะปูพรมเริ่มใช้ใน 400 สาขาปีนี้ ตามรายงานของ Business Insider

ผลคือลูกค้า Kroger จะสามารถหลีกเลี่ยงการรอคิวชำระเงินเป็นเวลานาน แต่จะต้องลงแรงสแกนบาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการซื้อเอง โดยใช้เครื่องสแกนเนอร์แบบใช้มือถือหรือผ่านแอปพลิเคชั่น “Scan, Bag, Go” ของ Kroger ที่ถูกการันตีว่ารองรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น

2. ขยายแบรนด์ออร์แกนิก :

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระแสเกษตรอินทรีย์กำลังครองโลก โดยร้านชำตัวพ่ออย่าง Kroger ร่วมมือกับองค์กร Fair Trade USA ประกาศว่าแบรนด์ Simple Truth ของ Kroger จะขยายธุรกิจในปีนี้ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง Fair Trade Certified มากขึ้นกว่าเดิม

ที่ผ่านมา Fair Trade ให้คำรับรองสินค้าแบรนด์ Simple Truth ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายรายการ เช่น กาแฟ โกโก้ มะพร้าว ชา และน้ำตาล

3. ขายทิ้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ :

ก่อนที่จะประกาศปรับโครงสร้างครั้งล่าสุด Kroger ประกาศขายธุรกิจร้านสะดวกซื้อให้แก่ EG Group เป็นเงินประมาณ 2.15 พันล้านเหรียญสหรั โดย EG Group เป็นผู้ค้าปลีกร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันเอกชนในสหราชอาณาจักร

สิ่งที่ Kroger ขายไปคือร้านค้าย่อย 784 สาขา ใน 18 รัฐ รวมถึงสถานที่ตั้งสาขาแฟรนไชส์อีก 66 แห่ง

4. เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน :

หลังจากปิดสาขา Kroger หันมาให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อร้านค้าเข้ากับสมาร์ทโฟนมากขึ้น วิธีการที่ Kroger ใช้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการซื้อสินค้าของลูกค้าคือเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Kroger Edge เทคโนโลยีนี้จะถูกติดตั้งบนชั้นวางของ บริเวณที่ติดป้ายราคาสินค้าในปัจจุบัน ทำให้ร้านสามารถส่งข้อมูลไฮไลต์สินค้าถึงผู้ใช้ได้ทางสมาร์ทโฟน ในขณะที่ลูกค้าเดินไปตามชั้นสินค้าต่างชนิด โดยลูกค้าจะได้รับข้อมูลราคา รายละเอียดสินค้า วิดีโอโฆษณา รวมถึงคูปองสำหรับใช้ซื้อสินค้าอื่น

ระบบนี้มีคิวให้บริการในร้าน Kroger อย่างน้อย 200 แห่งในปีนี้ 

5. เพิ่มหุ้นส่วนออนไลน์ :

นอกจากการซื้อกิจการ Home Chef มีข่าวว่า Kroger กำลังเจรจากับบริษัทอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีจีนอย่าง Alibaba เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าในขณะนี้

ไม่เพียงทุนจีน มีรายงานอีกว่า Kroger เจรจาเป็นพันธมิตรกับ Overstock.com ขณะที่ร้านค้าส่งออนไลน์อย่าง Boxed Wholesale ถูกลือว่าปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 400 ล้านเหรียญของ Kroger เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ชัดเจนว่า Kroger กำลังเปิดทางเข้าร่วมโครงการใหม่กับบริษัทออนไลน์เพิ่มเติม.

ที่มา : http://www.fox46charlotte.com/news/kroger-to-layoff-1-500-employees-close-14-stores-in-nc-reports

https://www.daytondailynews.com/business/surprising-ways-kroger-changing-stores-2018/EKr5JjWkEVV6Rny64z6d8M/

http://www.businessinsider.com/kroger-is-rolling-out-digital-shelf-technology-2018-1

]]>
1174761
ค้าปลีกอเมริกาเริ่มลงทุน “ชั้นวางสินค้าอัจฉริยะ” แล้ว https://positioningmag.com/1153822 Thu, 18 Jan 2018 03:57:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1153822 ห้างโครเกอร์ในเท็กซัส ภาพจากเอพี 

ในประเทศไทยเราอาจได้เห็นร้านสะดวกซื้อบางแห่งลงทุนพัฒนาร้านต้นแบบสำหรับยุค 4.0 มาแล้ว แต่ในสหรัฐอเมริกา เชนค้าปลีกอย่างโครเกอร์ (Kroger) ได้ลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการติดตั้งจอแสดงผลไฮเทคตามชั้นวางสินค้าแล้ว โดยจะติดตั้งแล้วเสร็จใน 200 สาขาของห้างภายในสิ้นปีนี้

โครเกอร์เอดจ์ (Kroger Edge) คือจอแสดงผลดิจิตอลที่นำมาติดแทนป้ายบอกราคาแบบเดิม และทำให้ชั้นวางสินค้าของห้างกลายเป็นชั้นวางสินค้าไฮเทค เนื่องจากสามารถใช้จอแสดงผลเหล่านั้นโชว์ข้อมูลราคา และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารในรูปแบบดิจิตอลได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถแสดงผลวิดีโอโฆษณาและคูปองต่าง ๆ ได้อีกด้วย

โดยเป้าหมายของโครเกอร์คือการสร้างระบบที่สามารถชักชวนให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับทางห้างได้ผ่านสมาร์ทโฟน เช่น การแจ้งว่า ในบรรดาช้อปปิ้งลิสต์ที่ลูกค้าเตรียมมานั้น จะสามารถพบได้ในชั้นวางสินค้าจุดใดของทางห้าง ไปจนถึงสารอาหารที่ลูกค้าแต่ละรายต้องการ อาหารที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ด้านโภชนาการที่จำเป็นต่อสุขภาพเลยทีเดียว

โดยในตอนนี้ ป้ายอัจฉริยะดังกล่าวได้ติดตั้งแล้วเสร็จในบางสาขา แต่ยังต้องพัฒนาต่อไป เนื่องจากมันจะทำงานได้นั้นยังต้องพึ่งพาอุปกรณ์มือถือของทางห้างโครเกอร์เป็นสำคัญ โดยทางบริษัทตั้งใจว่าจะพัฒนาแอปพลิเคชันพิเศษเพิ่มขึ้นมา เพื่อให้สามารถติดตั้งลงในสมาร์ทโฟนส่วนบุคคล และเรียกใช้งานได้ผ่านช่องทางนั้นมากกว่า 

ไม่เพียงแต่พัฒนาระบบขึ้นใช้งาน โครเกอร์ยังมีแผนจะขายระบบนี้ให้กับบริษัทค้าปลีกอื่น ๆ ที่สนใจด้วย

ข้อดีของการนำระบบป้ายแสดงผลอัจฉริยะนี้มาใช้งานทำให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนราคาสินค้า และการจัดโปรโมชันต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากสั่งเพียงครั้งเดียว ห้างทุกห้างในเครือก็พร้อมจะร่วมกิจกรรมลดราคาได้ทันที

ส่วนของผู้บริโภคเองก็สามารถค้นหาสินค้าตามชั้นวางต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถรับข้อความแนะนำสินค้าจากโครเกอร์ได้ ฯลฯ ซึ่งเท่ากับเปลี่ยนประสบการณ์ในการซื้อของตามห้างค้าปลีกต่าง ๆ ให้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ความนิยมในหมู่ผู้ใช้บริการที่มากขึ้นได้ด้วย

แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในสหรัฐอเมริกา ยังมีผู้บริโภคบางรายที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือบางรายก็อาจอายุมากจนไม่สามารถใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างคล่องแคล่ว คนเหล่านี้ก็จะขาดโอกาสในการเข้าถึงส่วนลด หรือโปรโมชันต่าง ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย 

นักวิเคราะห์คาดว่า กลยุทธ์ครั้งนี้ของโครเกอร์จะทำให้บริษัทมีกำไร 400 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 และมีเงินไหลเวียนกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในระบบด้วย.

ที่มา : mgronline.com/cyberbiz/detail/9610000005479

]]>
1153822