LH – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 27 Jan 2025 07:25:19 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดตัวโครงการใหม่ ปี 68 ลดลง 64% น้อยสุดในรอบ 20 ปี https://positioningmag.com/1507698 Wed, 22 Jan 2025 14:24:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1507698 อสังหาฯ ซึมยาว? พี่ใหญ่ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” ปรับแผนปี 68 เปิดตัว 4 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้าน ลดลง 64% ต่ำสุดรอบ 20 ปี ปีนี้ขอเน้นธุรกิจโรงแรม โละขายอะพาร์ตเมนต์ในอเมริกา

นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ โครงการบ้านจัดสรร บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568 เผชิญแรงกดดัน จากยอดคงค้างหนี้เสีย (NPL) ของกลุ่มบ้าน

นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ โครงการบ้านจัดสรร บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)
นายวัชริน กสิณฤกษ์ กรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ โครงการบ้านจัดสรร บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)

สะท้อนจากข้อมูลของ REIC ระบุ ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย กทม. และปริมณฑล ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 ลดลง 10% (YoY) โดยยอดโอนฯ บ้านแนวราบหดตัว 22% (YoY) ส่วนคอนโดทรงตัวใกล้เคียงปีที่ผ่านมา

ขณะที่หน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ ปี 2567 (อ้างอิง AREA) ลดลง 40% (YoY) โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยว ลดลง 20% (YoY) แต่ความต้องการซื้อก็ยังน้อยกว่าซัพพลายใหม่ที่เข้าตลาดอยู่ 50% ส่งผลให้หน่วยเหลือขายบ้านเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้น

ทำให้ LH ซึ่งมีพอร์ตฯ หลักกว่า 80% เป็นบ้านแนวราบ และกว่าครึ่งเป็นราคา 10 ล้านบาท เผชิญการแข่งขันดุเดือด

ปี 68 เปิดตัว 4 โครงการ ต่ำสุดในรอบ 20 ปี ชี้แม้บ้านแพง แต่รีเจกต์เรตสูง 20%

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) กล่าวว่า จากความท้าทายข้างต้น ประกอบกับในอดีตบริษัทฯ ได้เร่งการเปิดตัวโครงการจำนวนมาก ทำให้มีสินค้าในมือสำหรับการขายเพียงพอ

ปี 2568 จึงเปิดตัวเพียง 4 โครงการ มูลค่ารวม 11,180 ล้านบาท ลดลง 64% (YoY) จากปีก่อนเปิดตัว 12 โครงการ มูลค่า 30,850 ล้านบาท “ถือเป็นการเปิดตัวใหม่น้อยสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2547”

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)
นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)

โดย 4 โครงการใหม่ จะเป็นบ้านเดี่ยว ระดับกลาง-บนทั้งหมด ในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 โครงการ และภูเก็ต 1 โครงการ แบ่งเป็นกลุ่มราคา 8-15 ล้านบาท คือ แบรนด์สีวลี และกลุ่มราคา 30-80 ล้านบาท คือ แบรนด์นันทวัน และ VIVE

ส่งผลให้ปีนี้ บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 75 โครงการ มูลค่า 93,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 10.5 ล้านบาท/หลัง

”แม้พอร์ตฯ บริษัทเจาะกลุ่มกลาง-บน แต่พบว่า อัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัย (รีเจกต์เรต) เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว จากเดิม 10% เป็น 20% ส่วนใหญ่เป็นตลาดกลาง ราคา 7-10 ล้านบาท ส่วนลูกค้าระดับบนที่ซื้อเงินสด เมื่อเซนติเมนต์เศรษฐกิจยังไม่ดี เขาจะชะลอการซื้อเช่นกัน“

โครงการนันทวัน พูลวิลล่า พระรามเก้า
โครงการนันทวัน พูลวิลล่า พระรามเก้า

วางงบลงทุน 8,500 ล้านบาท เน้นโรงแรม จ่อขายอะพาร์ตเมนต์สหรัฐฯ รับเงิน 12,000 ล้านบาท

นายอาชวิณ อัศวโภคิน รองกรรมการผู้จัดการและผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางงบลงทุนปีนี้ 8,500 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • งบซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 4,000 ล้านบาท
  • งบลงทุนอสังหาฯ เพื่อการเช่า อาทิ โรงแรม 4,500 ล้านบาท
นายอาชวิณ อัศวโภคิน รองกรรมการผู้จัดการและผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)
นายอาชวิณ อัศวโภคิน รองกรรมการผู้จัดการและผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH)

เบื้องต้น จะเน้นกลุ่มธุรกิจโรงแรม ที่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวสูง ทั้งโรงแรมในไทย อาทิ กรุงเทพฯ ที่มีราคาเฉลี่ยห้องพักต่อคืน (ADR) ตั้งแต่ 4,000-7,000 บาท และอัตราการเข้าพัก (OCC) มากกว่า 80% ส่วนในสหรัฐอเมริกา OCC ก็แตะระดับ 85-90% เช่นกัน

โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ 3 แห่งใหม่ คือ

  • ลุมพินี (เปิดไตรมาส 2/68)
  • ราชดำริ 2 (เปิดไตรมาส 1/69)
  • พัทยา 3 (เปิดไตรมาส 1/70)

รวมถึงศึกษาโอกาสในการเข้าซื้อโรงแรมในสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เตรียมปรับพอร์ตฯ ทยอยขายธุรกิจอะพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา 3 แห่ง ได้แก่ Parc, Yard และ Revere มูลค่ารวม 381 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากทำอัตราผลตอบแทน (ยีลด์) ต่ำเพียง 3-4% ต่างจากกลุ่มโรงแรมที่มียีลด์สูง 8-9%

“ปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 23,000 ล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ 20,000 ล้านบาท รวมไปถึงรายได้จากอสังหาให้เช่า 9,240 ล้านบาท รวมถึงมีแผนลดหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1 เท่า จากเดิม 1.3 เท่า อีกด้วย”

อะพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกาของ LH
อะพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกาของ LH
]]>
1507698
LHFG ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าไต้หวัน ดันพอร์ตสินเชื่อรายย่อยโตภายใน 3 ปี https://positioningmag.com/1395420 Mon, 08 Aug 2022 09:40:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1395420 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHFG) เผยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 กำไรจากการดำเนินงานเติบโต 3.4% สินเชื่อเติบโต 8.9% ครึ่งปีหลังของปี 2022 เตรียมรุกตลาดสินเชื่อบุคคล เน้น Digital Transformation รวมถึงเพิ่มฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทจากไต้หวัน

LHFG ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ว่าภาพรวมธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของสถานการณ์ การระบาดของโควิด-19 โดยครึ่งปีแรกกลุ่มฯ มีอัตราเติบโตของสินเชื่อ 8.9% และมีกำไรสุทธิ 745 ล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลังของปี 2022 นั้น ทาง LHFG ยังคงเน้นในเรื่องของ Digital Transformation รวมถึงการพัฒนา Digital Infrastructure และ Platform เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และสอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้า

ขณะที่กลยุทธ์ของแต่ละหน่วยธุรกิจของ LHFG นั้น ทางด้านธุรกิจธนาคาร ชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) ได้เปิดเผยว่าทางกลุ่มเตรียมที่จะปรับสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อของ LH Bank ให้เป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมและกลุ่มลูกค้าบริษัทในสัดส่วน 50-50 ภายใน 3 ปี จากเดิมที่สัดส่วน 10-90 โดยเธอมองว่าการปรับพอร์ตสินเชื่อจะทำให้ธนาคารมีรายได้ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น

โดย LH Bank เตรียมที่จะปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อยรวมถึงธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อมมากกว่าเดิมในครึ่งปีหลังของปี 2022 และยังจะจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ ในการปล่อยสินเชื่อที่เป็น Digital Lending อีกด้วย

สำหรับธุรกิจบริหารจัดการกองทุน มนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ได้เปิดเผยว่าทาง LH Fund ได้เตรียมที่จะออกกองทุนใหม่ๆ เช่น กองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์นอกตลาด หรือ Private Equity Fund และกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด หรือ Private Real Assets Fund เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

กานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กลยุทธ์ของบริษัทยังคงเน้นขยายฐานลูกค้าจากการใช้ Big Data การเพิ่มช่องทางบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล ตลอดจนนำความเชี่ยวชาญของ CTBC Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มมาช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ

นอกจากนี้ ฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการของ LHFG ได้เปิดเผยว่าว่าความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวันจะเป็นโอกาสทำให้ผู้ประกอบการไต้หวันนั้นย้ายการผลิตมาที่ไทยมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของกลุ่มฯ และจำนวนลูกค้าไต้หวันกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

]]>
1395420
อนันต์ อัศวโภคิน ชี้ 6 ความท้าทายอสังหาฯ ปี 61 https://positioningmag.com/1153623 Tue, 16 Jan 2018 03:50:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1153623 อนันต์ อัศวโภคิน อดีตประธานกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และผู้ก่อตั้งหลักสูตร The NEXT Real ฉายภาพธุรกิจอสังหาฯ บนเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ กลยุทธ์และการปรับตัวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2561” 

อัตราดอกเบี้ยโลก 

มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลง ธนาคารพาณิชย์ในประเทศเริ่มคุ้นเคยกับการปล่อยสินเชื่อและมีความระมัดระวัง และก็ค่อยๆปรับตัวได้ในการปล่อยกู้สินเชื่อรายย่อยโดยมีรูปแบบของตัวเอง

ขณะที่ผู้ประกอบการก็พยายามแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าของตัวเองมากขึ้น จึงคิดว่า ยอดการถูกปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินก็จะลดน้อยลง

แรงงานก่อสร้าง 

ที่มีปัญหามาตลอด ส่งผลให้หลายบริษัทหันมาใช้พรีแฟบกันหมด และปัจจุบัน ทุกบริษัทหันมาเน้นเรื่องไอที และ Internet of Things หรือ IOT กันหมด เพื่อช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

ราคาต่ำล้านขายไม่ได้  6-7 ล้านบาทยังโต

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้นมองว่ากำลังซื้อไม่เปลี่ยนแปลงโดยหากย้อนหลังไป 2-3 ปี จะพบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยระดับราคาล้านกว่าบาท ค่อนข้างขายไม่ดีจากเดิมที่ขายได้ ต่างจากตลาดระดับบนราคา 6-7 ล้านบาท ยังขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง

10 บิ๊กอสังหาฯ กินตลาด

10 บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น แลนด์ฯ, เอพี, อนันดา ยอดขายยังดีไม่ตก เหตุผลเพราะมีการขยายตลาด ขายการลงทุน ทำให้ไปกินแชร์ของตลาดรายเล็กมากขึ้น

รายใหม่เร่งโต ดันราคาที่ดินพุ่งเกินจริง

ในด้านของผู้ประกอบการรุ่นใหม่นั้น แห่ซื้อที่ดินเพื่อเร่งพัฒนาโครงการ แย่งกันเปิดโครงการ และเร่งปิดการขาย โดยมีจุดมุ่งที่จะผลักดันให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้ราคาที่ดินสูงขึ้นไม่สมเหตุสมผล

ตอนนี้ราคาขายกันแพง บางแปลง 3 ล้านบาทกว่าบาทต่อตารางวา ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ในใต้ดินมีเหมืองทองอยู่หรือยังไง เพราะในการซื้อที่ดินนั้นต้องสมเหตุสมผล ต้องคิดตัวเลขที่เป็นไปได้ในการขายสินค้าด้วย

ต้องมองถึงพื้นฐานบริการและมาตรฐานการก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญ การบริการที่ดี เพราะหากเร่งรีบเกินไปอาจจะมีผลต่อโอกาสการสร้างกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการพัฒนาอสังหาฯ ยังมีโอกาสอีกมาก

ธุรกิจรีเทลในไทยยังไปได้สวย

ธุรกิจรีเทลในประเทศไทยก็ยังไปได้ดี นอกจากโครงการเทอร์มินัล 21 อโศก เตรียมลงทุนสร้างสำนักงานเพิ่มขึ้น เพราะอาคารสำนักงานในไทย ราคายังดี หลายโครงการราคาเกิน 1,000 บาทต่อตารางเมตร

ชอปปิ้งมอลล์ และห้างค้าปลีก ก็ยังไปได้ดีทั้งในไทย และในสหรัฐอเมริกา เพราะราคาทรัพย์สินเริ่มตกลง เป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุน

ที่มา : mgronline.com/stockmarket/detail/9610000004624

]]> 1153623