Lactasoy – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 03 Feb 2023 11:22:10 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดใจ ‘แลคตาซอย’ ในวันที่ต้อง ‘ขึ้นราคา’ และการดึง ‘เปเปอร์ เพลนส์’ ร่วมสร้างตำนานใหม่แทนที่เพลง “แลคตาซอย 5 บาท” https://positioningmag.com/1417865 Fri, 03 Feb 2023 10:10:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1417865 ด้วยวิกฤตเงินเฟ้อต่าง ๆ ข้าวของแพงขึ้น ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ถูกปรับราคาขึ้นมา เห็นชัด ๆ ก็ ‘มาม่า’ แต่ก็มีสินค้าที่มีเพลงโฆษณาฮิตติดหูพร้อมบอกทั้ง “ราคาและปริมาณ” อย่าง “แลคตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร ปริมาณคับกล่องเต็มที่…ดื่มได้ดื่มดี ดื่มแลคตาซอย 5 บาท” จนชาวเน็ตแซวว่า เป็นสินค้าเดียวที่ขึ้นราคาไม่ได้ แต่ในที่สุด แลคตาซอย ก็ต้อง ขึ้นราคา มัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเหตุผล และแนวทางจากนี้ของบริษัทที่ไม่สามารถใช้เพลงโฆษณาระดับตำนานนี้ได้อีกต่อไป

ย้อนรอย แลคตาซอย 5 บาท เพลงโฆษณาระดับตำนาน

หากเอ่ยประโยค “แลคตาซอย 5 บาท” เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยในหัวจะต้องมีเพลง “แลคตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร ปริมาณคับกล่องเต็มที่…ดื่มได้ดื่มดี ดื่มแลคตาซอย 5 บาท” ขึ้นมาแน่นอน โดยปัจจุบันเพลงนี้ก็อยู่คู่กับคนไทยมาแล้วถึง 18 ปี หรือตั้งแต่ปี 2548 โดยมีออกมาแล้วทั้งหมด 11 เวอร์ชั่น ซึ่งจะต่างกันที่ทำนองซึ่งจะถูกปรับให้ทันสมัยมากขึ้นนั่นเอง

โดยจุดเริ่มต้นของเพลงโฆษณาชุดนี้ได้ถูกแต่งขึ้นโดยบริษัทเอง จากนั้นก็ได้เอเจนซี่ช่วยแต่งทำนองและทำหนังโฆษณา ซึ่งตอนแรกนั้นตัว แลคตาซอย 5 บาท ขนาด 125 มิลลิลิตร ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเจาะกลุ่ม เด็ก เป็นหลัก จากเดิมที่มีขนาด 300 มิลลิลิตร และขนาด 500 มิลลิลิตร อย่างไรก็ตาม เพลงแลคตาซอย 5 บาทกลับกลายเป็นภาพจำของแบรนด์แลคตาซอยไปโดยปริยาย แถมจากที่จะใช้เพื่อเจาะกลุ่มเด็กเป็นหลัก กลับกลายเป็นว่าปัจจุบันได้กลุ่มผู้สูงอายุ, สาววัยทำงาน และใช้สำหรับใส่บาตรทำบุญ จนปัจจุบันขนาด 125 มิลลิลิตรคิดเป็นสัดส่วนถึง 25% ของยอดขายทั้งหมด

“โจทย์เราในตอนนั้นคือ จะทำยังไงให้ผู้บริโภคได้รู้ว่าแลคตาซอยขายแค่ 5 บาท ปริมาณ 125 มิลลิลิตร บรรจุเต็มกล่องนะ เราเลยใช้มิวสิกมาร์เก็ตติ้ง เพราะมองว่าใช้เพลงมันสื่อสารถึงคนได้ง่าย ถ้าเขาจดจำเพลงได้มันครอบคลุมคุณสมบัติของสินค้าทั้งหมดที่เราต้องการบอกเลย เพราะตอนนั้นคู่แข่งก็วางขายในราคา 6 บาท และปริมาณไม่ได้เต็มกล่อง” มัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้บริหารรุ่น 3 ของแลคตาซอยอธิบายถึงที่มาของเพลงแลคตาซอย 5 บาท 

ต้องขึ้นราคาแม้เพลงแลคตาซอย 5 บาทจะกดดัน

อย่างที่หลายคนรู้ว่า ปัจจุบันแลคตาซอย 5 บาทไม่มีอีกแล้ว แต่ขึ้นเป็น 6 บาท ซึ่ง มัลลิกา ก็ได้อธิบายว่าเป็นเรื่องของต้นทุนที่สูงขึ้นมาก โดยเฉพาะในปี 2565 ที่มีปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ทั้งค่าขนส่ง ต้นทุนพลังงานพุ่ง นอกจากนี้ วัตถุดิบหลักอย่าง ถั่วเหลือง, นมผง ก็พุ่งขึ้นเกือบ 40% ยังไม่รวมแพ็กเกจจิ้งที่ขึ้นรวมกว่า 20% ทำให้แลคตาซอยต้องขึ้นราคาครั้งแรกในรอบ 23 ปี

“จริง ๆ ต้นทุนเราสูงตั้งแต่ช่วงปี 2560-2561 ที่มีการปรับขึ้นภาษีน้ำตาล แต่เราพยายามตรึงราคาจนสุดความสามารถโดยเฉพาะการะปรับตัวภายใน และพอเราคิดจะปรับราคาก็มีโควิดเข้ามา เราก็มองว่ามันไม่ใช่จังหวะที่ดีที่ จนมาเจอปี 2565 ที่ต้นทุนยิ่งสูงขึ้นอีก เราเลยไม่สามารถจะตรึงราคาได้อีกต่อไป”

มัลลิกา ยอมรับว่า เพลง แลคตาซอย 5 บาท ก็เป็นอีกสิ่งที่ กดดัน ให้แลคตาซอยต้องตรึงราคาอยู่นาน เพราะบริษัทก็มีความกังวลใจว่าผู้บริโภคจะรับกับราคาใหม่ได้ไหม อีกทั้งต้อง แต่งเพลงใหม่ ในขณะที่เพลงเดิมนั้นเป็น ตำนาน ที่ติดหูคนไทยไปแล้ว

“แน่นอนว่าการปรับราคามันทำให้เรากังวลใจและกดดัน เราเลยไม่อยากขึ้นราคาเพราะเราไม่ได้อยากแต่งเพลงใหม่ที่มันกลายเป็นตำนานไปแล้ว ดังนั้น แลคตาซอย 5 บาทจึงเป็นตัวที่เราปรับราคาทีหลังสุด หลังจากที่ขนาด 300 มิลลิลิตรขนาดขายดีสุดได้ปรับขึ้นจาก 10 เป็น 12 บาท แต่กลายเป็นว่าไม่มีใครบ่นเรื่องราคา มีแต่คนเป็นห่วงว่าเพลงใหม่จะไปในทิศทางไหน บางคนก็ช่วยแต่งเพลงให้เราใหม่ เราดีใจมากที่ผู้บริโภครักเพลงนี้”

ดึงเปเปอร์ เพลนส์พรีเซ็นเตอร์และเพลงใหม่จะไม่ใส่ราคา

พรรวนา มหาทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและการตลาดสัมพันธ์ เล่าว่า ที่ผ่านมา แลคตาซอยใช้พรีเซ็นเตอร์มาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น พลอยชมพู, BNK48, ไอซ์ พาริส, ใหม่ ดาวิกา, เต ตะวัน, ต่อ ธนภพ โดยแต่ละคนก็จะชูโปรดักส์ที่ต่างกัน เพราะแลคตาซอยเป็นสินค้าแมส มีหลายสูตร หลายรสชาติ และหลายขนาด ทำให้ที่ผ่านมาต้องใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เจาะตรงเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเข้าถึง เช่น ใช้ศิลปินลูกทุ่งอย่าง หญิงลี ศรีจุมพล เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่มอีสาน เนื่องจากเป็นภาคที่ขายดีที่สุด

ล่าสุด แลคตาซอยก็ใช้วง เปเปอร์ เพลนส์ (Paper planes) เจ้าของเพลง ทรงอย่างแบด เพลงชาติของเหล่าวัยรุ่นฟันน้ำนม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ของแลคตาซอยขนาด 125 มิลลิลิตร เนื่องจากความนิยมในหมู่เด็กซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของแลคตาซอย 125 มิลลิลิตร

นอกจากนี้ แลคตาซอยต้อง แต่งเพลงใหม่ ทดแทนเพลงแลคตาซอย 5 บาท ซึ่งทางวงก็จะมาร่วมแต่งเพลงด้วย ปัจจุบันเพลงโฆษณาตัวใหม่กำลังอยู่ในขั้นพรีโปรดักส์ชั่น คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์เดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เพลงโฆษณาใหม่นี้จะ ไม่ระบุราคา เหมือนกับเพลงเดิม แต่จะยังคงสื่อสารถึงความคุ้มค่า

“เรารู้จักเขาตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้วว่าเพลงเขาเป็นที่นิยมในหมู่เด็ก แต่สิ่งที่เราชอบคือ ลักษณะนิสัยเขาที่แตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอก ประกอบกับเราที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เรามองว่าเปเปอร์ เพลนส์จะสามารถสื่อสารถึงการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด ทั้งในแง่แบรนด์, สังคม และความคิดของผู้ปกครอง”

วางเป้าเติบโต 5-8%

ในช่วงปี 2563-2564 แลคตาซอยไม่ได้เติบโต เนื่องจากผลกระทบจากโควิด แต่ในปี 2565 บริษัทสามารถเติบโตได้เล็กน้อยที่ 3.12% มีรายได้ 10,614 ล้านบาท มีส่วนแบ่งในตลาด 19,000 ล้านบาท ที่ราว 56% และสำหรับปีนี้ แลคตาซอยตั้งเป้าที่จะเติบโตให้ได้ 5-8%

โดยปีนี้ แลคตาซอยได้วางงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,131 ล้านกล่อง/ปี เป็น 1,431 ล้านกล่อง/ปี รวมถึงปรับปรุงให้ลดการใช้พลังงาน เพื่อลดต้นทุนในการผลิต นอกจากนี้ ยังได้ขยายคลังสินค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง ในแถบภาคอีสาน จากปัจจุบันมีคลังสินค้าทั้งหมด 73 แห่ง

ในส่วนของแคมเปญการตลาดที่นอกจากจะได้พรีเซ็นเตอร์ใหม่ บริษัทจะมีการ จัดโปรโมชันที่หนักขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคอาจยังไม่คุ้นชินกับราคาใหม่ นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงระบบออนไลน์ให้ต่อกับโปรแกรม CRM ให้มีสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึงจะมีการหาพาร์ตเนอร์ B2B ใหม่ ๆ อีกด้วย

มองแพลนต์เบสและต่างประเทศโอกาสเติบโตในอนาคต

ปัจจุบัน แลคตาซอยทำตลาดต่างประเทศใน 45 ประเทศ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในอินโดไชน่า ซึ่งประเทศที่ขายดีก็ได้แก่ สปป.ลาว, เมียนมา, กัมพูชา และจีน โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้ ซึ่งแลคตาซอยมองว่าตลาดต่างประเทศยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะประเทศที่ในกลุ่มประเทศอินโดไชน่าที่เป็นประเทศหลัก

“สปป.ลาว, เมียนมา, กัมพูชา และจีน ถือเป็นตลาดที่ไปได้ดีสุดของแลคตาซอย ซึ่งเราจะมีการจ้างพรีเซ็นเตอร์ในประเทศนั้น ๆ เพื่อทำตลาดเหมือนกับไทยที่มีวงเปเปอร์ เพลนส์”

นอกจากนี้ ด้วยเทรนด์ที่ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น เริ่มหันมากินแพลนต์เบส ทำให้แลคตาซอยกำลังมองโอกาสที่จะขยายสินค้าอื่น ๆ เพราะเห็นเทรนด์ที่เติบโตเรื่อย ๆ ขณะที่ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มนี้ยังค่อนข้างมีราคาสูง ผู้บริโภคไม่สามารถทานได้ทุกวัน ดังนั้น ยังทำให้ต้องรอดูตลาดก่อน

“ตลาดนมถั่วเหลืองยังเติบโตขึ้นต่อเนื่องเพราะกระแสการดูแลสุขภาพ เราเห็นชัดเลยว่าสินค้าไม่หวาน ไฮแคลเซียม เติบโตชัดเจน แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นคนกลุ่มเมือง แม้จะถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่เราก็พยายามทำสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนีชมากขึ้น พยายามเกาะกระแสแต่ดูอยู่ว่าจะทำอะไรได้บ้างโดยเฉพาะแพลนต์เบส”

มัลลิกา ทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันตลาดนมถั่วเหลืองรายย่อยเข้ามาโดยเฉพาะจากต่างชาติ จนปัจจุบันมีผู้เล่นประมาณ 10 กว่าราย แต่สิ่งที่ทำให้เราขึ้นเป็นที่ 1 คือ อร่อย คุ้มค่า ถือเป็นนมถั่วเหลืองที่ถูกที่สุดในตลาด ถึงแม้ว่าเราปรับราคาขึ้นจริงแต่ไม่ใช่เราคนเดียว ดังนั้น สินค้าเราก็จะยังถูกสุดในตลาด

]]>
1417865
“แลคตาซอย” ส่งแบรนด์น้อง “ซังซัง” ท้าชน “โทฟุซัง” จับใจกลุ่ม Gen Y https://positioningmag.com/1255848 Wed, 04 Dec 2019 08:13:24 +0000 https://positioningmag.com/?p=1255848 แลคตาซอย เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “ซังซัง” จับกลุ่ม Gen Y รักสุขภาพ ชูจุดเด่นนมถั่วเหลืองคั้นสด น้ำตาลน้อยกว่า 2% โหมงบการตลาด 100 ล้านบาท 

มัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอบรับเทรนด์รักสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน แลคตาซอย จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์น้องใหม่ นมถั่วเหลืองคั้นสด แบรนด์ “ซังซัง”  

ซังซัง หมายถึง ความสุขสองเท่า คนที่ดื่มนมถั่วเหลืองซังซังจะมีความสุขสองเท่าจากคุณประโยชน์ที่ได้รับ โดยเฉพาะเรื่องความหวานน้อย และวิธีการผลิตที่คั้นสดจากถั่วเหลืองคุณภาพดีเต็มเมล็ด จากแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีสภาพดิน ภูมิประเทศ และอากาศ เหมาะสมสำหรับการปลูกถั่วเหลือง และยังเป็นถั่วเหลืองที่ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมใดๆ และราคาจำหน่ายเหมาะกับผู้บริโภคทุกกลุ่มรายได้” 

นมถั่วเหลืองซังซัง มีจำหน่าย 2 ขนาด คือ 125 มล. ราคา 5 บาท และขนาด 300 มล. ราคา 10 บาท โดยบรรจุภัณฑ์ใช้โทนสีที่สื่อให้เห็นถึงความมีสุขภาพดี เหมาะกับวัยรุ่น คนทำงานรุ่นใหม่ 

ในส่วนของแผนงานการตลาด ได้จัดการตลาดสำหรับนมถั่วเหลืองซังซังไว้กว่า 100 ล้านบาท รวมถึงขบวนคาราวาน โดยแมสคอต “น้องซังซัง” โดยคาดว่าในปี 2563 นมถั่วเหลืองซังซังจะมียอดขาย 1,000 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5-6% จากตลาดนมถั่วเหลืองที่ปัจจุบันมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 17,000 ล้านบาท.

]]>
1255848
ย้อนวันวาน เพลงโฆษณาแลคตาซอย 5 บาท ง่าย ตรงประเด็น ก็แจ้งเกิดได้ https://positioningmag.com/1143550 Mon, 16 Oct 2017 13:25:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1143550 ใครไม่เคยได้ยิน เพลงโฆษณาแลคตาซอย 5 บาทยกมือขึ้น!! งานนี้ท่าทางจะหาคนยกมือได้ยากเย็นเพราะในยุคสมัยนั้นเพลงโฆษณาชิ้นนี้กระหึ่มตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอยลูกเล็กเด็กแดงใครที่ร้องตามและเต้นเลียนแบบเพลงนี้ไม่ได้ถือว่าเชยสะบัด

แลคตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร ปริมาณคับกล่องเต็มที่ดื่มได้ดื่มดี ดื่มแลคตาซอย 5 บาท แค่เห็นเนื้อร้อง ทำนองก็ตึ่งโปะดังสนุกในหัวแล้ว

หนังโฆษณาแลคตาซอย 5 บาท มาสร้างสีสันจังหวะใหม่ให้กับนมถั่วเหลืองกล่องจิ๋ว ขนาด 125 มิลลิลิตร เป็นเซ็กเมนต์คุณหนูที่บริษัท แลคตาซอย จำกัด ตั้งใจจะขายในราคา 5 บาท เอามาเสริมทีม จากคอลเลกชั่นราคา 10 บาท ขนาด 300 มิลลิลิตร และราคา 15 บาท ขนาด 500 มิลลิลิตร

ทุกวันนี้ถึงแม้ว่าแลคตาซอยจะขายดีที่สุดในขนาดราคา 10 บาท แต่ต้องยอมรับว่าคนรู้จักและจดจำแบรนด์ได้ติดหนึบจากเพลงโฆษณา แลคตาซอย 5 บาทนี่เอง

ที่มาของเพลงโฆษณาชุดนี้เรียบง่ายและตรงไปตรงมาจากโจทย์การตลาดที่เคาะกันในบนโต๊ะประชุมว่าบริษัทอยากขายสินค้าในราคาเพียง 5 บาท จากที่วางขายกันท้องตลาดราคา 6-7 บาท ขนาดปริมาณเท่ากัน ทำอย่างไรให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า แลคตาซอยจะขายแค่ 5 บาท แต่บรรจุเต็มกล่องนะ ก็หนีไม่พ้นต้องโฆษณา

ทำยังไงดีถึงจะทำโฆษณาออกมาได้ ก็นั่งคุยกันว่าแลคตาซอย 5 บาท บรรจุ 125 มิลลิลิตร แล้วมันเต็มกล่อง เหมือนได้เนื้อหาเพลงมาเลย แล้วเราก็ส่งให้บริษัทโฆษณาไปทำต่อ โจทย์ของเราคือ เราเบื่อโฆษณาเด็กแข็งแรง กินแล้วมีโปรตีน เราคิดว่ามันน่าเบื่อ ไม่อยากพูดตรงนั้นอีกแล้ว เราอยากหาอะไรทำที่มันแปลกออกไป และก็อยากทำโฆษณาที่มีคอนเซ็ปต์ของสินค้าทั้งหมด ถ้าดูจากเนื้อหาโฆษณาแล้วจะเห็นได้ว่ามันครอบคลุมเนื้อหาที่เราต้องการหมดทุกคำ ถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงความยาว 15 วินาที แล้วไม่ต้องมาเล่าว่า กินแล้วแข็งแรง กินแล้วลูกจะน่ารัก แบบนี้ไม่เอา สรุปทำออกมาเป็นเพลงตามโจทย์ที่เราอยากได้ โดยที่บริษัทโฆษณาแทบไม่ต้องทำอะไรมากผู้บริหารแลคตาซอย กล่าว

หนังโฆษณาชุดนี้ออกอากาศในปี 2548 นับมาถึงตอนนี้ก็ครบรอบ 12 ขวบปีพอดี ที่ผ่านมามีเด็กจำนวนไม่น้อยที่โตมาด้วยกันกับแลคตาซอย 5 บาท เด็กดื่มได้ดื่มดี แลคตาซอยก็เลยโตได้โตดี มีซีรีส์หนังโฆษณาทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 เรื่อง ตลอดระยะเวลา 12 ปีนี้

โดยบริษัทยึดเอาแม่แบบความสำเร็จจากหนังโฆษณาชุดแรกเอามาปรับแต่งตามยุคสมัยแต่ยังคลุมคอนเซ็ปต์เหมือนเดิมคือเน้นที่ราคา และปริมาณเต็มกล่อง

“Advertising Message ในหนังโฆษณาเรื่องนี้มีการดึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ คือ ราคาถูกเหมาะกับเด็ก และปริมาณนมเต็มกล่อง มาสื่อสารและถ่ายทอดผ่านการใช้เพลงและท่าเต้น การใช้เด็กๆ มาเต้นประกอบเพลงช่วยให้จดจำได้ง่าย ทั้งมีการออกสื่อโฆษณาด้วยความถี่สูงจึงทำให้กลายเป็นท่าฮิตและคำฮิตติดหูในที่สุดผศ.เสริมยศ ธรรมรักษ์ หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารตลาด มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าว

จุดยืนทางการตลาดของแลคตาซอยคือปริมาณเต็มอิ่มในราคาประหยัดโดยเฉพาะกับขนาด 10 บาท ที่ขายได้มากกว่า 70% ของจำนวนการผลิตกว่า 600 ล้านกล่องต่อปี การเปิดตัวขนาด 5 บาทเป็นการตอกย้ำความอิ่มในปริมาณเต็มกล่อง สนนราคาซูเปอร์เซฟ พกพาง่าย เด็กเล็กดื่มหมดไม่เสียของ ทำให้แลคตาซอยกลายเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดนมถั่วเหลืองประเภทกล่องยูเอชที ขณะที่แบบบรรจุขวดใส ไวตามิ้ลค์ยังคงเป็นเทพอยู่

ผศ.เสริมยศ บอกว่า โฆษณาที่ดีไม่จำเป็นต้องลงทุนมาก แค่สื่อสารด้วยเนื้อหาและเรื่องราวง่ายๆ แต่ตรงประเด็นก็เพียงพอแล้ว ความสำเร็จของโฆษณาชุดนี้มาจากกลยุทธ์ทางการตลาดกับเนื้อหาที่ง่ายต่อการเข้าใจ ดื่มง่าย ขายคล่อง บวกร้องเต้นอย่างสนุกสนาน

ปีที่แล้วแลคตาซอยเพิ่งได้รางวัลแบรนด์นมถั่วเหลืองยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย (No.1 Brand Thailand Awards 2015-2016) จากการสำรวจของบริษัท วิดีโอ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) โฆษณาในตำนาน 5 บาทชิ้นนี้ จึงเป็นอีกเมล็ดพันธุ์ที่ทำให้นมถั่วเหลืองแลคตาซอย สามารถผลักดันตัวเองขึ้นไปเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1

เป็นอีกข้อคิดดีๆ ว่า อย่ามองข้ามสินค้าราคาเล็กๆ เพราะถึงจุดๆ หนึ่งอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ต้นตระกูลของแลคตาซอยเริ่มขึ้นในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี พ.. 2493 หลังจากห้างหุ้นส่วน เกี่ยงฮั้ว จำกัด โดย วิริยะ จิรพัฒนกุล ผู้ก่อตั้ง ได้ผลิตน้ำอัดลมรสส้มและกลิ่นสละ ยี่ห้อ แฮปปี้ กับ ดับเบิลแฮปปี้ ส่งขายในค่ายทหารญี่ปุ่นและตลาดเยาวราช พอกิจการเริ่มไปได้ดี ก็ซื้อลิขสิทธิ์น้ำอัดลมยี่ห้อคิกคาปู้ จากแคนาดา น้ำอัดลมยี่ห้อคิงคิสและยี่ห้อคอสโค จากสหรัฐอเมริกา มาผลิตขายในประเทศ

พอเข้าสู่ปี 2524 ก็เบนเข็มมาผลิตนมถั่วเหลืองบรรจุกล่องยูเอชทีแทน ภายใต้ชื่อ แลคตาซอย ที่รู้จักกันดีตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยในเวลาต่อมา ปัจจุบัน บริษัท แลคตาซอย จำกัด สามารถผลิตนมถั่วเหลืองป้อนตลาดปีละกว่า 600 ล้านกล่อง และกำลังขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

ภายใต้นโยบายการผลิตนมถั่วเหลืองที่มีคุณภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงจริงใจต่อลูกค้าและผู้บริโภคร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าเสมือนครอบครัวเดียวกัน

แลคตาซอย 5 บาท ผลิตวันละเป็นล้านลิตร แบรนด์คุณภาพคับกล่องเต็มที่ขายได้ขายดีแลคตาซอย 5 บาท

]]>
1143550
บอกรักแม่ด้วยลายมือเรา แลคตาซอย ชวนคนรุ่นใหม่ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ผ่านการประกวดเรียงความ https://positioningmag.com/1101532 Fri, 02 Sep 2016 04:57:34 +0000 http://positioningmag.com/?p=1101532 ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่ช่วยให้การสื่อสารในปัจจุบันมีความรวดเร็วขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่ในยุคนี้นิยมใช้วิธีส่งภาพหรือข้อความสั้นๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือและสื่อโซเชียล เพื่อสื่อสารความรู้สึกถึงกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งวันแม่ที่ผ่านมาหลายคนคงส่งความรู้สึกในใจผ่านสื่อกลางเหล่านี้ จนละเลย “การเขียน” ที่ถือเป็นวิธีถ่ายถอดความคิดและอารมณ์ความรู้สึกแทนคำพูดได้อย่างลึกซึ้ง ด้วยเหตุนี้แลคตาซอยจึงได้จัดการประกวดเขียนเรียงความในโครงการแลคตาซอยรักแม่ 2559 ภายใต้หัวข้อ “เขียนด้วยมือ… สื่อถึงใจ ให้แม่อ่าน” ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่รู้จักการแสดงความรู้สึกที่มีต่อแม่ผ่านการสื่อสารด้วยตัวอักษร

นางสาวพรรวนา มหาทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและการตลาดสัมพันธ์ บริษัท แลคตาซอย จำกัด กล่าวว่า โครงการในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และรณรงค์ให้เห็นความสำคัญในการเขียนและใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง โดยแบ่งกลุ่มผู้เข้าประกวดออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้ ระดับประถมศึกษาตอนต้น ระดับประถมศึกษาตอนปลาย ระดับมัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท และยังมีรางวัลพิเศษ อีกจำนวน 200 รางวัล

20160902-lactasoy-02

“ผลตอบรับของโครงการในปีนี้ถือเป็นที่น่าพอใจมาก เพราะมีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดถึง 13,000 คน และจากการที่ได้อ่านผลงานก็ทำให้รู้ว่ายังมีคนรุ่นใหม่อีกจำนวนมากที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง สามารถเขียนบรรยายความรู้สึกผูกพันที่มีต่อแม่ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งแลคตาซอยเองก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนส่งเสริมการแสดงความรักของคนในครอบครัว และสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นถึงความสำคัญและร่วมกันอนุรักษ์ภาษาไทยได้เป็นอย่างดี” นางสาวพรรวนา กล่าว

หลังจากการคัดเลือกอย่างเข้มข้นในที่สุดก็ได้ผู้ชนะเลิศของทั้ง 4 ระดับเป็นที่เรียบร้อย โดยรางวัลชนะเลิศระดับประถมศึกษาตอนต้น ได้แก่ เด็กชายวีระกิตติ์ เจนจัดทรัพย์ จากโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ซึ่งเผยว่า ฝึกอ่านและเขียนภาษาไทยเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้รางวัลชนะเลิศเนื่องจากลายมือไม่ค่อยสวย

20160902-lactasoy-03

“แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใคร เพราะแม่ของผมเป็นคนแข็งแรงทำได้ทุกอย่างทั้งขับรถ ขายของ ทำงานบ้าน หรือแม้แต่ตอนผมไม่สบายก็คอยเช็ดตัวให้ทั้งคืน นอกจากนี้แม่ยังสอนผมเสมอว่าให้ตั้งใจเรียนและเป็นคนดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้รู้ว่าแม่รักผมมากแค่ไหนและผมก็รักแม่มากที่สุด” น้องวีระกิตติ์เล่าให้ฟังถึงข้อความที่เขียนส่งเข้าประกวด

สำหรับ เด็กชายปวีณวัชร์ แสวงทรัพย์ จากโรงเรียนไผทอุดมศึกษา ได้รางวัลชนะเลิศประถมศึกษาตอนปลาย เอ่ยว่า เห็นโครงการแลคตาซอย รักแม่ จากทางเว็บไซต์และเห็นว่าน่าสนใจเลยเข้าร่วมการประกวด ซึ่งต้องลบและเขียนใหม่อยู่หลายครั้งถึงจะได้ข้อความที่อ่านแล้วเข้าใจ

“ในความคิดผมแม่คือผู้ให้ชีวิตและรักผมยิ่งกว่าชีวิต ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ และแม่ยังเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดของผมทำให้ผมรู้ถึงพลังของคำว่ากำลังใจ สุดท้ายมีคนเคยบอกว่าบ้านต้องมีรั้วสูงๆ ถึงจะปลอดภัยผมว่าไม่จริงหรอก ผมขอแค่มีแม่อยู่ในบ้านคอยดูแลและปกป้องคุ้มครองเรา แค่นี้ลูกอย่างผมก็สุขใจและปลอดภัยที่สุดแล้ว” น้องปวีณวัชร์กล่าว

ส่วนผู้ชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาคือ นายสันติธรรม ครุฑธา จากโรงเรียนชะอำคุณหญิงเนื่องบุรี โดยเผยว่า การได้รางวัลชนะเลิศส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณพ่อ ซึ่งเป็นครูวิชาภาษาไทยที่สอนให้เขียนมาตั้งแต่เด็กจนทำให้ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง และต้องขอบคุณแลคตาซอยที่เปิดโอกาสให้ตนเองได้พัฒนาฝีมือการเขียนให้ดีขึ้น

20160902-lactasoy-04

“แม่ยอมให้ผมไปต่อม.ปลายอีกจังหวัดหนึ่งเพื่ออนาคตกับวอลเลย์บอลที่ผมรัก ซึ่งตอนนี้ผมติดทีมชาติชุดเยาวชนและสามารถนำแชมป์ระดับประเทศไทยมาให้แม่ได้แล้ว ผมไม่รู้ว่าแม่มีความสุขมากแค่ไหนแต่อีกไม่เกิน 4 ปี ผมจะทำให้แม่มีความสุขครั้งใหญ่ด้วยการบวชให้แม่ครับ” นายสันติธรรมเล่าเสร็จก็หันไปยิ้มให้กับแม่ทันที

สุดท้ายคือรางวัลชนะเลิศระดับอุดมศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป ได้แก่ นางสาวสุกัญญา แก้ววรรณ นักประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ “แม่ทำงานหนักมาตลอดเพื่อให้หนูและน้องมีอนาคตที่ดี แต่แล้ววันหนึ่งความเจ็บปวดในร่างกายก็พรากแม่ไปจากหนู ตอนนี้แม้จะไม่มีแม่คอยอยู่เคียงข้าง แต่หนูสัญญาว่าจะทำทุกอย่างที่แม่สอนให้ดีที่สุด การที่แลคตาซอยจัดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้นมา ทำให้ตนเองได้เขียนเรียงความอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เขียนมานานหลายปี ซึ่งทำให้รู้ว่าการเขียนมีความหมายกว่าการพิมพ์มากแค่ไหน”

20160902-lactasoy-05

ในขณะที่กรรมการตัดสิน อาจารย์ปิง เจริญศิริวัฒน์ เจ้าของสถาบันกวดวิชาดาว้องก์ กล่าวว่า การเขียนแต่ละระดับมีความแตกต่างกันถ้าระดับประถม รู้สึกแบบไหนก็เขียนอย่างนั้น ส่วนระดับมัธยมสามารถเรียบเรียงการเขียนได้ดีขึ้น และระดับอุดมศึกษารวมถึงประชาชนทั่วไป มีผลงานการเขียนอยู่ 2 แบบ คือ เขียนแบบธรรมชาติรู้ถึงแก่นว่าแม่คืออะไร อีกแบบคือมีการใช้ภาษาสละสลวยผ่านการขัดเกลา ซึ่งการตัดสินว่าใครควรได้รางวัลของแต่ละระดับนอกจากเกณฑ์การตัดสินในเรื่องของการสื่อความหมายของภาพ เนื้อหาการเล่าเรื่อง และการใช้ภาษาไทยแล้ว อาจารย์ยังมองว่าการเขียนที่ดีนั้น ต้องให้คนอ่านสัมผัสได้ถึงความจริงใจ และมีการร้อยเรียงที่อ่านแล้วรู้เรื่องว่ากำลังจะสื่อถึงอะไร นั่นแหละคือผู้ชนะสำหรับอาจารย์

“ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมีคนเขียนด้วยลายมือน้อยลงบางคนยังเขียนผิดสะกดไม่ถูกก็มี เพราะติดการใช้ภาษามาจากสื่อโซเชียล ซึ่งการที่แลคตาซอยจัดโครงการนี้ขึ้นมาจะสามารถช่วยให้คนรุ่นใหม่เขียนได้อย่างถูกต้องมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้ครอบครัวกล้าที่จะแสดงความรักต่อกันอีกด้วย” อาจารย์ปิง กล่าวปิดท้าย

]]>
1101532