“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ออกแคมเปญ “คาร์ ฟอร์ แคช ดอกเบี้ย 2.98%” สร้างสถิติดอกเบี้ยต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเงื่อนไขพิเศษไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน รู้ผลอนุมัติไว ได้เงินภายใน 1 วันทำการหลังโอนเล่มทะเบียนแล้ว ทั้งยังให้วงเงินสูงสุดถึง 120%

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กรุงศรี ออโต้ เป็นผู้บุกเบิกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (Re-finance Market) โดยได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถ “คาร์ ฟอร์ แคช” ตั้งแต่ปี 2546 จากความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในตลาดสินเชื่อนี้มายาวนานมากกว่าสิบปี เราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสินเชื่อคาร์ ฟอร์ แคช รวมถึงมีการสื่อสารถึงผู้บริโภคผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์มาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เรายังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเพื่อคนมีรถมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 35% และล่าสุดเราได้ออกแคมเปญใหม่ “คาร์ ฟอร์ แคช ดอกเบี้ย 2.98%” เพื่อตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในบริการสินเชื่อ “คาร์ ฟอร์ แคช” ตลอดมา และเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินสด หรือเจ้าของกิจการที่ต้องการใช้เงินลงทุนในธุรกิจ เพื่อขยายกิจการหรือเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจที่กำลังดำเนินกิจการอยู่”

นางสาวกุสุมาลย์ โลว์ศลารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  กล่าวถึงรายละเอียดของแคมเปญล่าสุดว่า “แคมเปญใหม่ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ดอกเบี้ย 2.98%’ ถือเป็นแคมเปญที่มีความคุ้มค่ามาก เนื่องจากดอกเบี้ย 2.98% เป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษที่ต่ำที่สุดในประวัติการณ์ตั้งแต่เราได้ให้บริการสินเชื่อคาร์ ฟอร์ แคชมา นอกจากนี้ เรายังมอบข้อเสนอพิเศษและความสะดวกสบายให้กับลูกค้า โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน และยังทราบผลอนุมัติไว ซึ่งลูกค้าจะได้รับเงินเร็วสุดภายใน 1 วันทำการหลังจากโอนเล่มทะเบียนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นสินเชื่อคาร์ ฟอร์ แคชยังให้วงเงินสูงถึง 120% จากราคาประเมินของธนาคารฯ  แคมเปญนี้นับเป็นความพิเศษที่เรามอบให้เป็นของขวัญให้แก่ลูกค้าในช่วงสิ้นปีนี้”

ผู้สนใจสมัครขอสินเชื่อ คาร์ ฟอร์ แคช ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2557 และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsriauto.com  หรือ www.facebook.com/krungsriauto   หรือ โทร.02-740-7400 กด 1

กรุงศรี ออโต้ ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี จัดสัมมนาใหญ่ ‘กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเข้าสู่ตลาด AEC’ ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อยในเขตชายแดนภาคตะวันออก ให้มีความรู้เพิ่มเติมในด้านการบริหารจัดการธุรกิจและการบริหารเงินลงทุน รวมทั้งโอกาสการลงทุนในประเทศกัมพูชา เพื่อนำไปปรับใช้และเตรียมพร้อมรับมือการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปลายปี 2558 นี้

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการ กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ว่า “โครงการสมาร์ท ไฟแนนซ์ เป็นหนึ่งในโครงการด้าน CSR ภายใต้แนวปฏิบัติ ‘การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (RL: Responsible Lending)’ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งในแต่ละครั้งที่จัดโครงการสมาร์ท ไฟแนนซ์ เราจะมีการปรับหลักสูตรและเนื้อหาการอบรมให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในปัจจุบันมียอดผู้เข้าร่วมสัมมนาที่ได้รับประโยชน์จากโครงการจำนวน 2,650 คนแล้ว สำหรับงาน ‘กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเข้าสู่ตลาด AEC’ ครั้งล่าสุดนี้ มีเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยและนักธุรกิจรุ่นใหม่ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบการ ในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนและการบริหารธุรกิจ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าอบรมทุกท่านจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้กับการบริหารธุรกิจและการจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนับสนุนให้ผู้อบรมก้าวไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจแล้ว ยังทำให้เกิดเครือข่ายระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ต่อยอดองค์ความรู้ และปูรากฐานความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและชุมชนให้ดีขึ้นต่อไปอีกด้วย”

ขณะที่ ดร.สมพร วิริยานุภาพพงศ์ พาณิชย์จังหวัดปราจีนบุรี ให้ความเห็นว่า “การค้าส่งและค้าปลีก เป็นฐานการค้าสำคัญของ GDP จังหวัดปราจีนบุรี การจัดสัมมนาในครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ทางกรุงศรี ออโต้ ได้เข้ามาให้ความรู้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม ให้ได้เห็นภาพรวมและโอกาสทางธุรกิจเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้วางแผนจัดการธุรกิจและรับมือได้อย่างเหมาะสม ในฐานะที่คลุกคลีกับประเทศกัมพูชามานานพอสมควรจึงทราบว่าคนกัมพูชามีกำลังซื้อและรสนิยมคล้ายคลึงกับคนไทย ชอบสินค้าสำเร็จรูปจากไทย อาทิ อาหารพร้อมรับประทาน เสื้อผ้าสำเร็จรูป อุปกรณ์ก่อสร้าง และเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นโอกาสให้คนในบริเวณตะเข็บชายแดน สามารถไปทำการค้ากับกัมพูชาได้ ซึ่งความรู้สึกของคนกัมพูชาที่มีต่อสินค้าและคนไทยเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องความขัดแย้งทางด้านประวัติศาสตร์ที่ไม่ตรงกัน คนไทยควรปรับทัศนคติให้เศรษฐกิจและการค้าอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรม”

ด้าน นางสาวศุภรา เสกาจารย์  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ภาคตะวันออก (จันทบุรี) กล่าวว่า “ประเทศไทยมีชายแดนติดกับกัมพูชาอยู่หลายแห่ง แต่การค้ากับกัมพูชาที่มีมูลค่ามากที่สุดอยู่ที่อำเภออรัญประเทศ ปัจจุบันเศรษฐกิจของกัมพูชากำลังเติบโต การคมนาคมในประเทศกัมพูชานั้นดีขึ้นมาก  ที่สำคัญหลายประเทศยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่มาจากกัมพูชา เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงเป็นข้อดีของการไปลงทุน หรือสร้างโรงงานผลิตสินค้าในประเทศกัมพูชา ดังนั้น หากเราย้ายฐานไปผลิตที่นั่น เราก็จะได้รับการยกเว้นภาษีการนำเข้าด้วยเช่นกัน นักธุรกิจจึงต้องติดตามข่าวสาร และศึกษาเรื่องรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติม การสัมมนาของกรุงศรี ออโต้ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการนำเสนอข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์ และเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่มองเห็นช่องทางในการทำธุรกิจมากขึ้น อยากให้คนที่อยู่ในเขตชายแดนซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านการขนส่งและคุ้นเคยกับคนกัมพูชาอยู่แล้ว ปรับตัวและใช้ข้อได้เปรียบนี้ให้เป็นโอกาสเข้าไปดำเนินธุรกิจก่อนที่คนนอกพื้นที่จะเข้าไปแข่งขัน”

นายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานกรรมการ บริษัท ฮอนด้า ประสิทธิ์มอเตอร์สระแก้ว (2554) จำกัด คู่ค้าของกรุงศรี ออโต้ ที่มีความเชี่ยวด้านการค้ารถมอเตอร์ไซค์ในเขตจังหวัดสระแก้ว และพื้นที่ชายแดน กล่าวว่า “ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ส่งออกไปยังกัมพูชามีมูลค่าเป็นพันล้านบาท โดยเฉพาะธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์มือสอง และอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ เพราะคนกัมพูชานิยมแต่งรถแบบคนไทย และมักซื้อรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กไว้ใช้งาน สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ทำให้เราได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอื่นๆ และมองเห็นความเป็นไปได้ว่าเมื่อเราศึกษาระบบการเงินและกฎหมายอย่างชัดเจนแล้ว หลังการเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เราอาจจะเข้าไปตั้งร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์และอะไหล่ของเราเองในกัมพูชา”

ในส่วนของผู้เข้าร่วมสัมมนา นางชุ่ม ยะประดิษฐ์ ประธานกลุ่ม OTOP และวิสาหกิจชุมชน อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ได้รับความรู้ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นเตรียมตัวรับมือกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจะเริ่มวางแผนตามแนวทางที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพราะปัจจุบันกำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดที่แปรรูปจากต้นกก เช่น ตะกร้า  กระเป๋าถือ จานรองแก้ว และสินค้าอื่นๆ อีกกว่าร้อยรายการ เป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดปราจีนบุรี ส่งขายทั้งในและต่างประเทศ โดยส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลียเป็นหลัก ตอนนี้เริ่มส่งออกไปประเทศลาวและพม่า พอได้ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศกัมพูชาจากงานสัมมนาครั้งนี้ จึงเห็นลู่ทางที่จะขยายการส่งออกไปยังกัมพูชาด้วย  นอกจากความรู้เกี่ยวกับกัมพูชาแล้ว โครงการนี้ยังช่วยให้คำแนะนำแนวการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและหลักการบริหารเงิน โดยจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปเสริมกลยุทธ์และต่อยอดธุรกิจต่อไป”

จากข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พบว่าในปี 2556 การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา มีมูลค่ารวมกว่า 93,836 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 84,088 ล้านบาท และนำเข้า 9,748 ล้านบาท จากตัวเลขดังกล่าว จึงเห็นได้ว่าศักยภาพในการส่งสินค้าออกไปขายยังตลาดกัมพูชามีอนาคตที่สดใส และหากนักธุรกิจบริเวณชายแดนของไทยเตรียมความพร้อมและมองหาโอกาสใหม่ๆ ก็น่าจะทำให้เกิดการขยายตัวทางการค้าเพิ่มขึ้นอีกมาก โครงการ ‘กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเข้าสู่ตลาด AEC’ จึงถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ที่อยู่ในเขตชายแดนให้สามารถพัฒนาธุรกิจใหม่หรือสร้างรากฐานให้กับธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้แข่งขันได้ในตลาดอาเซียน

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ตอกย้ำความเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด (Market Shaper) สร้างมิติใหม่ให้วงการสินเชื่อยานยนต์ เปิดตัวเว็บไซต์กรุงศรีมาร์เก็ตดอทคอม (www.krungsrimarket.com) ที่ครบครันทุกฟังก์ชั่น อำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อและผู้ขายรถมือสองสามารถหาข้อมูลเรื่องรถและสินเชื่อได้ง่ายภายในเว็บฯ เดียว โดยมี นายไพโรจน์  ชื่นครุฑ (กลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ นางสาวกุสุมาลย์ โลว์ศลารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายอริยะ พนมยงค์ ผู้จัดการกูเกิล (Google) ประจำประเทศไทย ร่วมงานเปิดตัวเว็บไซต์ โดยมีคู่ค้าผู้จำหน่ายรถมือสองจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร กรุงศรี ออโต้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Dealer) อย่างตรงใจที่สุด ซึ่งในปัจจุบันเรามีเครือข่ายดีลเลอร์รถมือสองทั่วประเทศ และเล็งเห็นว่าการมีหน้าร้านออนไลน์จะช่วยเพิ่มช่องทางการขายให้กับดีลเลอร์รถมือสองได้ หลังจากการศึกษาอย่างรอบคอบและใช้เวลาในการพัฒนาเว็บไซต์กรุงศรีมาร์เก็ตดอทคอม (www.krungsrimarket.com)  มาเกือบ 2 ปี เราจึงพร้อมเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ โดยคู่ค้าของกรุงศรี ออโต้ สามารถเสนอขายรถมือสองบนเว็บไซต์กรุงศรีมาร์เก็ตดอทคอมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ”

“เว็บไซต์กรุงศรีมาร์เก็ตดอทคอม มีความแตกต่างจากเว็บไซต์ขายรถมือสองทั่วไป ด้วยฟังก์ชั่นพิเศษที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้ซื้อและผู้ขายอย่างครบครัน อาทิ ธีมหน้าร้านออนไลน์ ที่สามารถเลือกให้ตรงตามประเภทของรถที่ต้องการขาย ระบบคิวอาร์โค้ด ที่ระบุข้อมูลรถทุกคันอย่างละเอียด ระบบการสื่อสารผ่านทางอีเมล ที่ให้ผู้ขายและผู้ซื้อรถสามารถติดต่อกันโดยตรงอย่างสะดวกและรวดเร็ว โปรแกรมคำนวณสินเชื่อเบื้องต้น พร้อมกราฟเปรียบเทียบยอดผ่อนชำระตามจำนวนงวดที่ลูกค้าต้องการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และการสมัครขอสินเชื่อออนไลน์ รองรับทั้งสินเชื่อกรุงศรี ยูสด์ คาร์ (สินเชื่อเพื่อรถใช้แล้ว) และสินเชื่อแคช ทู คาร์ (สินเชื่อเพื่อรถบ้าน)” นายไพโรจน์ กล่าวเสริม

ผู้สนใจสามารถทดลองใช้และร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองทางออนไลน์ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ได้แล้วที่ www.krungsrimarket.com

สินเชื่อลีสซิ่งรถยนต์ครึ่งปีแรกยังอยู่ในสภาวะทรงตัว ลีสซิ่งกสิกรไทยปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 29,309 ล้านบาท กำไร 247 ล้านบาท เชื่อครึ่งปีหลังมีสัญญาณตลาดรถยนต์กระเตื้อง พร้อมออกแคมเปญอัดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กสิกรไทย และสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซา และปัญหาการเมืองในประเทศในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้บริโภคชะลอการบริโภคลง ทำให้ตลาดรถยนต์อยู่ในภาวะซบเซา ยอดขายรถยนต์ได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้อย่างมาก ซึ่งก็ส่งผลต่อการปล่อยสินเชื่อของธุรกิจลีสซิ่งโดยรวมด้วย

ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก 2557 บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด สามารถปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ใหม่ได้ 29,309 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 22.38% แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 16,501 ล้านบาท ลดลง 11.34% และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 12,808 ล้านบาท ลดลง 33.12% สำหรับยอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) มียอดรวม 88,059 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.67% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.00%  ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มียอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 440,911 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน 40.5% โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายรถยนต์ลดลงมาจากผลจากโครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดลง สภาพเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประเด็นด้านการเมืองที่มีความไม่แน่นอนสูง

ขณะที่ตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ พบว่า ยังเป็นตลาดที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มียอดตัวเลขจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 7,150 คัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ น่าจะมียอดจดทะเบียน 15,000 คัน หรือเติบโตขึ้นราว 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นายสุรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในครึ่งปีหลัง 2557 มีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจากหลายองค์ประกอบซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดรถยนต์ในประเทศในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ให้มีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยอัตราการหดตัวของยอดขายรถยนต์มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาสที่ 1 ที่หดตัวสูงถึง 45.7% และไตรมาสที่ 2 หดตัวอยู่ในระดับที่ 30% มาเหลือหดตัวอยู่ในระดับ 20% ไตรมาสที่ 3 และระดับ 10% ในไตรมาสที่ 4 ตามลำดับ

ทั้งนี้สาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์การเมืองในประเทศเริ่มมีทิศทางที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โครงการหลายอย่างของภาครัฐที่เคยหยุดชะงัก สามารถดำเนินต่อได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว การดูแลเรื่องค่าครองชีพของประชาชน ทำให้ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับฟื้นคืนมา ขณะที่การพิจารณาดำเนินโครงการก่อสร้างพื้นฐานต่าง ๆ มีความคืบหน้ามากขึ้น และการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยับขยายได้มากขึ้นหลังมีการตั้งบอร์ดบีโอไอ และเริ่มพิจารณาอนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่ค้างอยู่นั้น ก็เป็นอีกตัวเร่งหนึ่งที่ทำให้ความต้องการใช้รถยนต์ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้น

ในขณะที่ตลาดรถแลกเงินมีทิศทางปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2557 ซึ่งขยายตัวประมาณ 20.8% เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ชะลอลงสู่ระดับ 12.5% ในปี 2556 อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 ปี 2557 อาจจะเห็นการชะลอตัวลงอีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานเปรียบเทียบ แต่คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังการเติบโตของสินเชื่อในตลาดรถแลกเงินน่าจะค่อยปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และคาดว่าปี2557 น่าจะปิดตลาดด้วยอัตราการเติบโตประมาณ 14-17% ซึ่งเป็นเพราะความต้องการสินเชื่อรายย่อยที่ยังคงมีอยู่ ประกอบกับการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบจากสถาบันการเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนดีใกล้เคียงกับตลาดรถยนต์มือสอง อีกทั้งการรุกตลาดสินเชื่อดังกล่าวยังเป็นการขยายฐานลูกค้าออกไปอีกด้วย

นายสุรัตน์ เปิดเผยว่า บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เตรียมความพร้อมสำหรับแคมเปญพิเศษสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์กสิกรไทย รถใหม่ป้ายแดง และสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย มอบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเป็นพันธมิตรด้านการให้บริการด้านการเงินและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่างครบวงจร ในงาน Big Motor Sale 2014 มหกรรมยานยนต์เพื่อขายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในเดือนสิงหาคมนี้

กรุงศรี ออโต้ ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เผยความสำเร็จในการรุกตลาดสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์ ด้วยยอดสินเชื่อรวม ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมสูงกว่า 1 หมื่นล้านบาท ครองส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์เป็นอันดับหนึ่ง ชูจุดแข็งด้านแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และการบริการที่ให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวก ด้วยเครือข่ายบริการครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ   

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าภาพรวมตลาดมอเตอร์ไซค์ในปี 2557 จะมีแนวโน้มลดลง โดยผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำได้คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.85 ล้านคัน ลดลงจากปี 2556 ประมาณ 7% แต่สำหรับตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ กลับได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคค่อนข้างดี โดยบริษัทฯ คาดว่ายอดจำหน่ายบิ๊กไบค์ในปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 20% หรืออยู่ที่ประมาณ 31,200 คัน ส่งผลให้ตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง”

“บริษัทฯ ได้ให้บริการสินเชื่อ ‘กรุงศรี มอเตอร์ไซค์’ มายาวนานกว่า 12 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดสูง และเป็นผู้นำในตลาดเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ โดยในปี 2556 มีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์อยู่ที่ 9.1% หรือคิดเป็น 136,000 คัน และเมื่อสิ้นไตรมาส 1/2557 กรุงศรี มอเตอร์ไซค์ โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10.5% ล่าสุด ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดสินเชื่อรวมมอเตอร์ไซค์ทุกประเภทกว่า 1 หมื่นล้านบาท” นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติม

คุณกุสุมาลย์ โลว์ศลารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจัยความสำเร็จของ ‘กรุงศรี มอเตอร์ไซค์’ มาจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การมีเครือข่ายให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้าที่ครอบคลุมทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย ผ่านสาขาของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) 43 สาขา และเครือข่ายพันธมิตรผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์กว่า 800 ราย โดยบริษัทฯ สามารถให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อมอเตอร์ไซค์ที่ครอบคลุมแบรนด์ชั้นนำ ทุกรุ่น ทุกขนาด วงเงินตั้งแต่ 3 หมื่นบาท ไปจนถึง 1 ล้านต้นๆ รวมถึง การบริการข้อมูลสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ คือ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ  ด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดสินเชื่อมายาวนาน มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เข้าใจตลาด และมีความสามารถในการปรับกลยุทธ์การควบคุมคุณภาพหนี้เพื่อตอบสนองกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การบริหารคุณภาพสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ของบริษัทฯ ยังเป็นไปตามเกณฑ์ที่ควบคุมได้”

“สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ในปีนี้ ‘กรุงศรี มอเตอร์ไซค์’ และ ‘กรุงศรี บิ๊ก ไบค์’ จะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมทางการตลาดและงานอีเวนท์สำคัญๆ เช่น Motor Show 2014,  Bangkok Motorbike Festival 2014 และ Terminal 21 Big Bike 2014 เป็นต้น โดยมีการริเริ่มพัฒนาแบรนด์ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) เพื่อกระตุ้นตลาด เพิ่มคุณค่าให้แบรนด์ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น การร่วมมือกับผู้จัดงาน Bangkok Motorbike Festival 2014 พัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือ (BMF Application) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการบริหารความสัมพันธ์กับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ด้วย”

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ที่มุ่งเน้นการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด (Market Shaper) โดยร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก สานต่อโครงการ “สื่อประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์“ ปีที่ 2 เพื่อยกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าและประชาชน ให้มีความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลการบริการของกรมการขนส่งทางบกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่านนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ทัชสกรีน ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ กรุงศรี ออโต้กล่าวว่า “ในฐานะที่เราเป็นผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของเรา รวมถึงประชาชนทั่วไป ที่มาติดต่อใช้บริการกับกรมการขนส่งทางบก บริษัทฯ จึงได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบคอมพิวเตอร์ทัชสกรีน โดยได้รับการสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้ยานยนต์จากกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ลูกค้าและประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลการให้บริการของกรมการขนส่งทางบกมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2555เราได้ส่งมอบตู้คีออสนี้ไปแล้ว 9 เครื่อง มูลค่า 500,000 บาท และในปีนี้ได้ส่งมอบอีก 10 เครื่อง มูลค่า 1.2 ล้านบาท พร้อมเพิ่มเติมข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น อาทิ แนวข้อสอบใบอนุญาตขับรถ ช่องทางการชำระภาษีประจำปี และเราจะยังคงสานต่อโครงการนี้อีกในปีต่อๆ ไป เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของประชาชนในทั่วทุกพื้นที่ให้ได้มากที่สุด”

นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นปีที่ 2 แล้วที่เราได้รับการสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์ จากกรุงศรี ออโต้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนที่มาใช้บริการเป็นอย่างดี เพราะช่วยในการอำนวยความสะดวก ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านการต่อทะเบียน, ชำระภาษีฯ, ทำใบขับขี่ ได้ครบถ้วนและรวดเร็วยิ่งขึ้น และกรมการขนส่งทางบกมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตลอดไป ทั้งนี้ ตู้คีออสดังกล่าวได้เปิดให้ใช้บริการแล้ว ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-5

กรุงศรี ออโต้ ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร โชว์ยอดสินเชื่อรวมปี 2556 สูงถึง 224,000 ล้านบาท พร้อมขยายฐานลูกค้าได้เกินกว่าหนึ่งล้านรายตามเป้า เผยนโยบาย ปี 2557 สานต่อกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (CE: Customer Experience) พร้อมรักษาความเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด (Market Shaper) โดยมุ่งเน้นการจัดกลุ่มลูกค้าและศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเชิงลึก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าใน แต่ละกลุ่มให้มากยิ่งขึ้น  พร้อมขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ บริการ รวมถึงช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในทุกจุดบริการ

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ  กรุงศรี ออโต้ กล่าวว่า “แม้ว่าปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศและตลาดรถยนต์จะเติบโตลดลง แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นที่น่าพอใจ โดยมียอดสินเชื่อรวม 224,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13%จากปี 2555 ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (CE: Customer Experience)  ผ่านการพัฒนาในทุกจุดบริการให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสูงสุด รวมทั้งเพิ่มช่องทางขายที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้า เช่น การสมัครขอรับบริการสินเชื่อ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven กว่า 7,300 สาขาทั่วประเทศ, การสมัครขอรับบริการสินเชื่อ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ และ ‘แคช ทู คาร์’ ผ่านมือถือ เพียงกด *740# แล้วกดโทรออก  รวมไปถึงการสร้างแบรนด์กรุงศรี ออโต้ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Y ผ่านสื่อออนไลน์สมัยใหม่ เช่น แคมเปญออนไลน์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช โปะ’ ที่นำเทคโนโลยีสกรีนซิงค์ (ScreenSync) มาใช้ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า Gen Y และสร้างแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช โปะ’ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้กรุงศรี ออโต้ เป็นแบรนด์ที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้รับรางวัลจากหลายองค์กรชั้นนำ ซึ่งเป็นการตอกย้ำการสร้างแบรนด์ ‘กรุงศรี ออโต้’ ให้เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า ตลอดจนเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาด ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ รางวัล “Superbrands Thailand 2013”ประเภทธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ จาก Thailand Superbrands Council, รางวัลภาพยนตร์โฆษณาดีเด่นทางโทรทัศน์เพื่อผู้บริโภค “สคบ.แอด อะวอร์ด”ประจำปี 2556 โดยภาพยนตร์โฆษณา ชุด ‘สิ่งมีค่า’ (The Precious) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทบริการ จาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมกับสมาคมโฆษณาแห่งประเทศ, รางวัลแบรนด์ที่ได้รับการชื่นชมสูงสุด ประจำปี 2556 จากนิตยสาร BrandAge โดย “กรุงศรี ออโต้” และ “คาร์ ฟอร์ แคช” เป็นสองแบรนด์แรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวในประเภทสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อแบบใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน, รางวัล “Thailand ICT Excellence Award 2012” โดยนวัตกรรม iChecking ระบบการตรวจสอบการอนุมัติสินเชื่อภาคสนาม ได้รับรางวัลชมเชยในประเภทโครงการพัฒนากระบวนการหลักภายใน เป็นต้น

สำหรับปี 2557 กรุงศรี ออโต้ ยังคงเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience) เพื่อรักษาความเป็นผู้กำหนดทิศทางการตลาดสินเชื่อยานยนต์ (Market Shaper) อันประกอบไปด้วย

· การจัดกลุ่มลูกค้าและศึกษาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเชิงลึก (Customer Segmentation) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรแกรมทางการตลาด ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มมากยิ่งขึ้น

· การพัฒนาการบริการลูกค้าในทุกจุดบริการ (Customer Touch-Point) เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วและสร้างความประทับใจแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยเน้นนวัตกรรมบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การพัฒนาการบริการก่อนและหลังการขายผ่านโซเชียลมีเดีย (Customer Service on Social Media) เฟสบุ๊ค  ‘กรุงศรี ออโต้ แฟนเพจ’ (www.facebook.com/krungsriauto) ซึ่งลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยจะมีเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ของกรุงศรี ออโต้ ติดต่อกลับภายใน 1 วันทำการ รวมไปถึงการพัฒนาบริการอื่นๆ ที่จะทยอยออกมาบริการให้กับลูกค้าในปีนี้

“จากกลยุทธ์ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและรัดกุมด้วยทีมงานมืออาชีพ จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อของกรุงศรี ออโต้ จะเติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน คิดเป็นยอดสินเชื่อรวม 247,000 ล้านบาท”

“นอกจากนี้ จากการที่กรุงศรี ออโต้ เป็นบริษัทในเครือของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก จึงช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทฯ มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สามารถขยายฐานลูกค้าและบริหารจัดการธุรกิจด้วยต้นทุนที่ต่ำลง กรุงศรี ออโต้ จึงมีความพร้อมอย่างมากที่จะให้คำปรึกษาและให้บริการลูกค้าทั้งเรื่องรถและเรื่องเงิน  โดยยังคงมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและสร้างความประทับใจในทุกจุดบริการ” นายไพโรจน์ กล่าวเสริม

บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) หรือ “กรุงศรี ออโต้” ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร นำโดย นางกฤติยา ศรีสนิท (ที่สองจากขวา) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินเชื่อและปฎิบัติการ จัดโครงการกรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ปีที่ 5 ภายใต้ชื่อตอน ‘ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเข้าสู่ตลาด AEC’ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้ด้านการวางแผนและบริหารธุรกิจ การจัดการทางการเงิน แก่ผู้ประกอบการรายย่อย ในเขตเศรษฐกิจชายแดนภาคอีสาน ให้มีความพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคตหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี พ.ศ.2558

ภายในงานมี นายเกษมสันต์ วีระกุล นักวิชาการอิสระและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง, ดร.ภาณุ เชาวน์ปรีชา ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจ, นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย (ที่สองจากซ้าย) ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ และผู้บริหารกรุงศรี ออโต้ ร่วมบรรยายให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ AEC แนวโน้มธุรกิจที่มาแรงและเทคนิคการค้าขายกับ สปป.ลาว การวางแผนการเงินและการบริหารธุรกิจขนาดย่อม ณ ห้อง The Crystal Topชั้น 6 โรงแรมประจักษ์ตรา ดีไซน์ จังหวัดอุดรธานี

นางกฤติยา กล่าวว่า “ ‘โครงการกรุงศรี ออโต้ สมาร์ ไฟแนนซ์’ เป็นหนึ่งในโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม ภายใต้นโยบายการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของบริษัทฯ ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2552 โดยในปีนี้ได้จัดอบรมให้กับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและผู้ประกอบการรายย่อย ภายใต้หัวข้อ ‘กรุงศรี ออโต้ สมาร์ท ไฟแนนซ์ ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อเข้าสู่ตลาด AEC’ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าอบรมทุกท่านจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการวางแผนและการบริหารธุรกิจ รวมถึงการบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การสัมมนาครั้งนี้ยังเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจในชุมชนให้ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ต่อยอดองค์ความรู้ และปูรากฐานความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและชุมชน เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้นต่อไป”