Lenovo – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 12 Apr 2024 03:21:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘เลอโนโว’ ประเมินปี’67 ตลาด ‘ไอที’ เริ่มฟื้น เนื่องจากกำลังซื้อกลับมาและมี ‘เอไอ’ กระตุ้นผู้บริโภค-องค์กรลงทุน https://positioningmag.com/1469920 Thu, 11 Apr 2024 08:11:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469920 ตลาดไอทีฝั่งคอนซูมเมอร์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอาจจะอยู่ในภาวะขาลง หลังจากที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงการระบาดของโควิด แต่การมาของนวัตกรรมเอไอ ทำให้ เลอโนโว (Lenovo) เบอร์ 1 ในตลาดพีซี-โน้ตบุ๊กก็มองว่าจะทำให้ตลาดฟื้นตัว

กำลังซื้อเริ่มกลับมา

แมตต์ คอดริงตัน (Matt Codrington) Vice President และ Regional General Manager, Lenovo Greater Asia Pacific อธิบายว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญของเลอโนโว เนื่องจากมีขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 4 ด้านดีไวซ์

เนื่องจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ทำให้แนวโน้มกำลังซื้อของคอนซูมเมอร์เริ่มกลับมา นอกจากนี้ ปี 2567 ถือเป็นช่วงที่ผู้บริโภคจะ เปลี่ยนดีไวซ์ใหม่ (3 ปีเปลี่ยน) ซึ่งดีไวซ์ในปีนี้จะมาพร้อมกับความสามารถของ เอไอ จึงเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้อย่างดี

“เฉพาะกลุ่มดีไวซ์ ภาพรวมทั่วโลกเราเติบโตปีละ 6% สำหรับประเทศไทยเรายังคงเป็นที่ 1 ติดต่อกัน 3 ไตรมาส โดยเราตั้งเป้าจะรักษาการเป็นเบอร์ 1”

เอไอเร่งองค์กรลงทุน

แม้ในฝั่งผู้บริโภคจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัว แต่ฝั่งองค์กรนั้นเห็นสัญญาณบวกที่มากกว่า อาทิ ภาครัฐที่ผ่านพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 มูลค่า 3.48 ล้านล้านบาท ทำให้เชื่อว่าการลงทุนในปีนี้จะมีเรื่องของเทคโนโลยี เพราะเอไอถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่แต่ละองค์กรจะใช้ช่วงชิงความได้เปรียบ ทำให้หลายองค์กรมีแผนจะลงทุนกับดีไวซ์และโซลูชั่นที่มีเอไอ

“ตอนนี้เอไอเข้ามามีผลกับทุกอุตสาหกรรม เพราะเอไอทำให้เกิดโปรดักส์ทิวิตี้มหาศาล องค์กรขนาดใหญ่กำลังมองในสิ่งนี้ เขาไม่ได้มองถึงการเปลี่ยนเครื่อง แต่จะลงทุนในการเปลี่ยนเครื่องเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนเหนือคู่แข่งได้อย่างไร”

โฟกัสที่ Non-PC

ปัจจุบัน เลอโนโวได้แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

  • ธุรกิจ Solutions and Services Group (SSG)
  • ธุรกิจ Infrastructure Solutions Group (ISG)
  • ธุรกิจ Intelligent Devices Group (IDG) 

โดยในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 1.56 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตรวม +3% โดยรายได้จากกลุ่ม Non-PC คิดเป็นสัดส่วน 42% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งทางเลอโนโวพยายามที่จะเน้นไปที่กลุ่ม Non-PC ให้มีสัดส่วนรายได้มากกว่า PC

อย่างไรก็ตาม ปัญหาส่วนใหญ่ขององค์กรที่ยังไม่ไปเอไอ ก็คือ ยังไม่มั่นใจ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน ซึ่งเลอโนโวพร้อมให้คำปรึกษา 

“เราพยายามสร้างความหลายและครอบคลุมมากขึ้น เพราะตอนนี้หลายบริษัทอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ดังนั้น จากแค่ขายคอมพิวเตอร์เราต้องการยกระดับเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี”

]]>
1469920
‘เลอโนโว’ ลั่น! จะปั้นให้ ‘โมโตโรล่า’ ขึ้นเบอร์ 3 ตลาดสมาร์ทโฟนโลกใน 3 ปี https://positioningmag.com/1459490 Fri, 19 Jan 2024 06:05:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1459490 โมโตโรล่า หนึ่งในแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ในยุคฟีเจอร์โฟน โดยเฉพาะการทำฟีเจอร์โฟน จอพับ แต่ปัจจุบัน โมโตโรล่า ได้ถูกซื้อไปโดย เลอโนโว ไปตั้งแต่ปี 2014 และภายใน 3 ปีจากนี้ เลอโนโวปักเป้าจะพาโมโตโรล่าขึ้นเป็น Top3 ของโลก

Matthew Zielinski รองประธานบริหารของ เลอโนโว (Lenovo) บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีสัญชาติจีน และเป็นเจ้าของแบรนด์ โมโตโรล่า (Motorola) กล่าวว่า บริษัทได้พยายามส่งเสริมแบรนด์และวางตําแหน่งเป็น ผู้เล่นสมาร์ทโฟนระดับ High-end เพื่อแข่งขันกับ ซัมซุง (Samsung) และ แอปเปิล (Apple) และตั้งเป้าจะเป็นผู้เล่น Top3 ของโลกภายใน 3 ปี

ปัจจุบัน Apple และ Samsung ถือเป็นสองผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกโดยมีส่วนแบ่งรวมกันประมาณ 40% ขณะที่โมโตโรล่าและเลอโนโวรวมกันมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 4% (อ้างอิงตัวเลขไตรมาส 3/2023) และเป็นผู้เล่น อันดับ 8 ของโลก ตามข้อมูลของ Counterpoint Research อย่างไรก็ตาม โมโตโรล่าก็แข็งแรงในบางตลาด โดยถือเป็นผู้จําหน่ายสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ในอเมริกา และอันดับ 2 ในละตินอเมริกา

ย้อนไปในปี 2020 Lenovo ได้กลับมารีแบรนด์ Motorola Razr พร้อมออก สมาร์ทโฟนจอพับ ซึ่งเคยเป็นจุดเด่นของแบรนด์สมัยยุคฟีเจอร์โฟน ดังนั้น กลยุทธ์การสร้างการเติบโตของโมโตโรล่าก็คือ กลุ่มระดับพรีเมียมของตลาด ซึ่งปัจจุบันมีเพียง Apple และ Samsung ที่ครองตําแหน่ง

โดย Matthew Zielinski กล่าวว่า กําลังมองหาการเติบโตอย่างเสถียร ในตลาดที่มีอยู่จนกว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 10% และโลโนโวพร้อมที่จะเพิ่มโรงงานผลิตสินค้าใน อินเดีย โดย Matthew Zielinski มองอินเดียว่า “เป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของเลอโนโว” เพราะประเทศอินเดียนั้นมีการเติบโตที่ยอดเยี่ยมมาก และเลอโนโวพร้อมจะ วางเดิมพันให้มากเท่าที่เราจะทําได้

Source

]]>
1459490
‘Lenovo’ ยังมองบวกแม้รายได้หด 3 ไตรมาสติด เชื่อครึ่งปีหลังฟื้นพร้อมตลาดแน่! https://positioningmag.com/1431792 Thu, 25 May 2023 08:29:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1431792 หลังจากที่ตลาดพีซี-โน้ตบุ๊กทั่วโลกทำสถิติเติบโตสูงสุดในรอบ 9 ปี ในช่วงปี 2020-2021 ที่โควิดระบาดหนัก หลังจากนั้นตลาดก็หดตัวอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ยอดขายของ Apple เองก็ยังตก รวมถึงเบอร์ 1 ในตลาดโลกอย่าง เลอโนโว (Lenovo) ที่หดตัวมา 3 ไตรมาสติดไปแล้ว แต่ถีงอย่างนั้น CFO ก็ยังมองบวก

รายได้ของ Lenovo บริษัทผู้ผลิตพีซีสัญชาติจีนที่ครองแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ของโลก ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความต้องการของตลาดทั่วโลกยังคงตกต่ำ แต่ Wong Wai-Ming CFO ของ Lenovo กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มีความกังวลใจถึงยอดขายที่ลดลง เพราะมั่นใจว่า หากตลาดกลับสู่ภาวะปกติ บริษัทจะเติบโตแน่นอน Wong Wai-Ming, CFO ของ Lenovo กล่าว

“ไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณเป็นไตรมาสที่ท้าทายที่สุดของปี โดยได้รับแรงกดดันจากทั้งตลาดพีซีและเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม รายได้รวมทั้งปีใของเราทั้งปีไม่ได้ลดลงมากนัก เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอีกสองกลุ่มได้ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและธุรกิจบริการ อย่างไรก็ตาม เราเป็นที่หนึ่งในตลาด และเมื่อตลาดกลับสู่สภาวะปกติเราจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน

แม้จะเชื่อว่าตลาดจะฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง แต่ Lenovo กำลังมองเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นในธุรกิจอื่น ๆ เช่น โซลูชันโครงสร้างพื้นฐานและบริการ ซึ่งธุรกิจในส่วนนี้ช่วยพยุงรายได้จากส่วนของพีซีที่หดตัวลง โดยรายได้รวมของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปีอยู่ที่ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 24% ถือเป็นการลดลงเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน แต่หากนับเฉพาะรายได้จากฝั่ง พีซีลดลง –33% ส่วนรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ เติบโตขึ้น +7% ปัจจุบัน รายได้จากพีซีคิดเป็น 60% ของรายได้รวม อีก 40% มาจากธุรกิจอื่น ๆ 

“รายได้จากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่พีซีของเราเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 40% ซึ่งกลยุทธ์ที่ชัดเจนของเราคือ ความยืดหยุ่น เพื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนทั่วโลก เราจะยังคงลงทุนใน [การวิจัยและพัฒนา] เพื่อคว้าโอกาสการเติบโตระลอกใหม่ ดังนั้นเราจึงเตรียมพร้อมอย่างดีสำหรับอนาคต” Yuanqing Yang ประธานและซีอีโอของ Lenovo Group กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตพีซีได้อานิสงส์จากโควิด ที่ทำให้ผู้บริโภคและบริษัทต่าง ๆ หันมาซื้อคอมพิวเตอร์-โน้ตบุ๊ก รวมถึงสินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อทำงานระยะไกล แต่เมื่อพนักงานกลับมาที่ออฟฟิศ ยอดการจัดส่งพีซีก็ลดลง โดยจากข้อมูลของ IDC รายงานว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 การจัดส่งเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปทั่วโลกหดตัวประมาณ 30% เหลือ 56.9 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมยังมองบวกว่าครึ่งปีหลังตลาดจะกลับมาโตอีกครั้ง โดย Lenovo มองว่า เทคโนโลยีที่จะมาช่วยผลักดันตลาดคือ AI ปัญญาประดิษฐ์ ที่จะเป็นขับเคลื่อนธุรกิจอุปกรณ์ของบริษัท เนื่องจาก AI เข้ามาเร่งความเร็วของการแปลงขององค์กรไปสู่ดิจิทัล

Source

]]>
1431792
เทคโนโลยีจะช่วยปิดช่องว่างความคาดหวังระหว่างพนักงานกับหัวหน้าในการทำงานแบบ “ไฮบริด” กับ “ยืดหยุ่น” ได้หรือไม่? https://positioningmag.com/1399205 Thu, 08 Sep 2022 04:00:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1399205

เนื่องจากข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลงและออฟฟิศหลายแห่งได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หัวหน้าองค์กรธุรกิจจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับพนักงานกลับเข้ามายังออฟฟิศ แต่พนักงานจำนวนมากส่วนหนึ่งยังคงอยากทำงานรูปแบบทางไกลต่อไป และพวกเขาจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับนโยบายของบริษัทเพื่อทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้

‘การทำงานแบบไฮบริด’ และ ‘การทำงานแบบยืดหยุ่น’ ได้เข้ามามีบทบาทในช่วงการระบาดของโรค และกำลังกลายเป็นตัวเลือกสำหรับนายจ้างในการจัดการพนักงานของตน แม้ว่าแนวคิดทั้งสองจะดูคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่ชัดเจน การทำงานแบบไฮบริดนั้น พนักงานจะทำงานทั้งที่ออฟฟิศและที่บ้านร่วมกัน ซึ่งยังคงมอบความยืดหยุ่นมากขึ้นผ่านการทำงานทางไกลในช่วงที่เกิดโรคระบาด ในทางกลับกัน การทำงานแบบยืดหยุ่นจะเกี่ยวข้องกับความยืดหยุ่นในการทำงานและชั่วโมงการทำงาน โดยพนักงานไม่ต้องเคร่งเรื่องเวลาเข้างาน และสามารถกำหนดเวลาเข้างานในออฟฟิศตามที่ตนเองสะดวก

จากการศึกษาเรื่อง การทำงานในอนาคต ของ Lenovo พบว่า พนักงานส่วนใหญ่ปรับตัวได้ดีกับการทำงานทางไกลในช่วงการระบาดของโรค โดย 70% บอกว่าพวกเขาพึงพอใจกับการทำงานมากขึ้นเมื่อได้รับความยืดหยุ่น พนักงานจำนวนมากชอบความยืดหยุ่นในการทำงานทางไกล และความรู้สึกนี้จะยิ่งเพิ่มขึ้นในหมู่พนักงานในองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลก เพราะพนักงานในบริษัทขนาดใหญ่มักจะทำงานร่วมกับทีมงานอื่น ๆ ที่อยู่คนละทวีปและโซนเวลา ทำให้ตัวออฟฟิศมีความสำคัญลดลงในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวดีก็คือปัจจุบันมีโซลูชันด้านเทคโนโลยีมากมายที่ถูกนำมาใช้งานและปรับปรุงในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถช่วยลดช่องว่างนี้ได้


การออกแบบประสบการณ์ที่ดีให้แก่พนักงานผ่านเทคโนโลยี

ไม่ว่าพนักงานจะทำงานแบบไฮบริดหรือแบบยืดหยุ่น ปัจจุบันธุรกิจต่าง ๆ ก็อยู่ในสถานะที่ดีมากขึ้นในการจัดหาเครื่องมือให้แก่พนักงานอย่างเหมาะสมและทั่วถึงเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพทั้งจากที่บ้านและในออฟฟิศ

การออกแบบสถานที่ทำงานต้องเริ่มต้นด้วยการสนับสนุนพนักงานเป็นหลัก ซึ่งอาจหมายถึงการคิดทบทวนบทบาทของออฟฟิศและเครื่องมือที่จะช่วยให้พนักงานจัดเตรียมงานผ่านทางเลือกที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น Lenovo Workplace Solutions จะช่วยให้พนักงานสามารถจัดตารางและจองพื้นที่ทำงานในออฟฟิศได้อย่างง่ายดาย รวมถึงจองห้องประชุมเพื่อต้อนรับแขกได้อย่างสะดวก บริการนี้ยังประกอบไปด้วย Smart Locker ที่ช่วยให้พนักงานสามารถจัดเก็บ รับ และส่งของและอุปกรณ์ได้ตลอดเวลาพร้อมความสะดวกสบายไร้ความยุ่งยากและมีความปลอดภัยสูง

หัวหน้างานจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าพนักงานมีเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงานทางไกลอย่างสะดวกสบาย ทำให้เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันที่พัฒนาปรับปรุงขึ้นและแพลตฟอร์มห้องประชุมเสมือนจริงอย่าง Microsoft Teams, Zoom และ Google Meet ได้เข้ามามีบทบาท

โซลูชันที่สามารถช่วยธุรกิจได้มีมากมาย แต่เคล็ดลับคือการได้เครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของพนักงาน ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมนี้ หัวหน้าองค์กรจะสามารถเปลี่ยนทั้งการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานแบบยืดหยุ่นให้กลายเป็นการทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพได้


การรักษาความผูกพันกับพนักงานในระยะยาว

นอกจากเทคโนโลยีที่เหมาะสมแล้ว องค์กรต้องมีการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องมือและผลกระทบต่อประสบการณ์ที่ดีของพนักงาน ด้วย Lenovo Workplace Solutions หัวหน้างานจะสามารถจัดการทรัพยากรในออฟฟิศได้ดียิ่งขึ้นผ่านการติดตามสถานที่ทำงานและการใช้เครื่องมือ IT เพื่อให้พวกเขาสามารถวางแผนได้ดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องมือด้วย

หัวหน้างานจะต้องร่วมมือกับทีมทรัพยากรบุคคลและหัวหน้าแผนกอื่น ๆ เพื่อติดตามความเป็นอยู่และผลการปฏิบัติงานของพนักงานด้วย

การลงชื่อเข้างานง่าย ๆ ในช่วงเวลาปกติจะช่วยให้หัวหน้างานมอบความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับความต้องการของพนักงาน พร้อมเว้นช่องว่างไว้เพื่อใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติมสำหรับพนักงานที่เสี่ยงต่อความเหนื่อยล้าและ/หรือภาวะหมดไฟ การใช้ข้อมูลเชิงลึกทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ หัวหน้างานจะสามารถปรับการทำงานและนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของพนักงานและรักษาการความผูกพันในระยะยาวได้

อนาคตของการทำงานอาจเป็นแบบไฮบริดหรือแบบยืดหยุ่น หรือทั้งสองอย่าง แต่ที่สำคัญที่สุดคือจะต้องมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการทำงานให้กับทั้งองค์กรธุรกิจและพนักงาน

]]>
1399205
หาคนยากต้องมัดใจด้วย ‘Lenovo Workplace Solutions’ ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ช่วยลดภาระ CIO https://positioningmag.com/1388699 Tue, 14 Jun 2022 12:00:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388699

หากพูดถึงชื่อ ‘เลอโนโว’ (Lenovo) หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับภาพ ‘บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์’ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะปัจจุบันเลอโนโวขึ้นแท่นแบรนด์อันดับ 1 ของโลกด้วยยอดขายกว่า 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เลอโนโวไม่ได้มีดีแค่สินค้ากลุ่มฮาร์ดแวร์ แต่ยังมีโซลูชั่นต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับความต้องการขององค์กรธุรกิจในยุคดิจิทัลที่ต้องทรานซ์ฟอร์มสู่สมาร์ทออฟฟิศ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้องค์กรธุรกิจต้องปรับตัวอย่างมากโดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น แต่การอำนวยความสะดวกให้กับ ‘พนักงาน’ ถือเป็นอีกส่วนที่ต้องแข่งขันด้วยเช่นกัน เพราะปัจจุบัน ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรก็ถือเป็นอีกความท้าทาย ดังนั้น การมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะยิ่งช่วยดึงดูด Talent ให้อยู่กับองค์กร

สมาร์ทออฟฟิศ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้พนักงานใช้ตัดสินใจว่าจะอยากทำงานกับองค์กรนั้น ๆ หรือไม่ เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การทำงานภายในออฟฟิศ ประหยัดแรงและเวลากับเรื่องที่ไม่จำเป็น ให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสบายและมีความสุขที่สุด ผู้บริหารเองก็สามารถควบคุมดูแลและบริหารองค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจากรายงานที่เลอโนโวจัดทำพบว่า 39% ของ CIO ทั่วโลกไม่ใช่แค่ดูแลเรื่องการใช้เทคโนโลยีเพื่อการทำงานโดยทั่วไป แต่ต้องดูเรื่องเทคโนโลยีด้านการจัดหาพนักงานเข้าทำงาน และด้วยความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นนี้เอง CIO จึงจำเป็นต้องมีเทคโนโลยี โซลูชั่นเพื่อเป็นตัวช่วยในการจัดการ

“พฤติกรรมและรูปแบบการทำงานของพนักงานที่เปลี่ยนไปในช่วงปีที่ผ่านมาทำให้ทุกองค์กรตระหนักดีว่าการทำงานในแบบที่เคยทำก่อนการแพร่ระบาดอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป พนักงานในปัจจุบันต้องการความคล่องตัว และความยืดหยุ่นเพื่อจะสามารถทำงานได้จากทุกสถานที่และทุกเวลา” ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว กล่าว

ในปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ มากขึ้น ธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ เริ่มมีการประกาศให้พนักงานกลับเข้าทำงานในออฟฟิศอีกครั้ง เลอโนโวเองก็มีโซลูชั่น Lenovo Workplace Solutions เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจสามารถจัดการกับการกลับมาทำงานอีกครั้งในสำนักงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงตอบโจทย์การทำงานแบบ Hybrid อาทิ

· Workspace Booking: ซอฟต์แวร์ฟังก์ชั่นสำหรับการทำนัดหมายจองที่นั่งและการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในออฟฟิศ เพื่อลดความแอร์อัดโดยพนักงานทุกคนจะเห็นตารางการจองพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของออฟฟิศได้แบบเรียลไทม์ ลดความแออัดในการเข้ามาใช้พื้นที่ห้องประชุมหรือโต๊ะทำงาน

· Workplace Analytics: ระบบวิเคราะห์ตรวจสอบความหนาแน่นของการใช้พื้นที่ในแต่ละส่วนของออฟฟิศจากการตรวจจับการเคลื่อนไหวและความร้อนและรายงานผลบนหน้าแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์

· Digital Signage: เปลี่ยนป้ายตัวหนังสือบอกชื่อห้องหรือชื่อบุคคลแบบธรรมดาที่แปะอยู่ที่ประตูหรือผนังห้อง ให้เป็นป้ายดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนแปลงแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้แบบเรียลไทม์

· Visitor Management: ระบบช่วยจัดการลงทะเบียนล่วงหน้าของบุคคลภายนอกที่จะเดินทางมาที่ออฟฟิศ เพื่อลดระยะเวลาการรอและความแออัด

· Smart Locker: ระบบบริการจัดการตู้เก็บของส่วนตัวสำหรับพนักงานที่ปลอดภัย ใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

· Smart Collaboration: โชลูชั่นเพื่อการประชุมผ่านเสียงและวีดีโอแบบออล-อิน-วัน ที่มาพร้อมทั้งซอฟท์แวร์และดีไวซ์เพื่อการประชุมทุกขนาด พร้อมเสริมความปลอดภัยด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวด้วยซอฟต์แวร์โซลูชั่นอย่าง ThinkShield

· Smart Parking: ระบบการจัดการที่จอดรถอัจฉริยะที่ให้ข้อมูลพื้นที่จอดรถแบบเรียลไทม์ ว่ามีช่องจอดที่ว่างบริเวณใดบ้าง พร้อมคอยรายงานการจอดที่ไม่เป็นไปตามระบบเช่น เข้ามาจอดโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือจอดเกินเวลาที่กำหนด

“Lenovo Workplace Solutions ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานในรูปแบบใหม่ ช่วยอำนวยความสะดวกให้การสื่อสารและทำงานร่วมกันทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และที่สำคัญคือ คลอบคลุมต่อการใช้งานที่แตกต่างกันของพนักงานแต่ละแผนก ซึ่งโซลูชั่นดังกล่าว ไม่ใช่แค่เพิ่มความพึ่งพอใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน แต่จะช่วยดึงดูดผู้ที่มีความสามารถมาทำงานในองค์กรอีกด้วย” ธเนศ อังคศิริสรรพ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ Lenovo Workplace Solutions จะมาพร้อมการมอนิเตอร์ด้านสุขภาพตลอดเวลา และการเข้ารับบริการจากผู้เชี่ยวชาญของ เลอโนโวทั่วโลกสำหรับการบริการและการซ่อม อย่างไรก็ตาม Workplace เป็นเพียงโซลูชั่นหนึ่งเท่านั้น โดยเลอโนโวยังมีโซลูชั่นอื่น ๆ ที่พร้อมช่วยให้ธุรกิจขนาดใหญ่สามารถก้าวเข้าสู่ความสำเร็จจากการให้บริการ และขยายเข้าสู่เวทีระดับโลกกับสาขาทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมั่นคง สำหรับองค์กรที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://techtoday.lenovo.com/th/th/solutions/workplace-solutions

]]>
1388699
จีนเตรียมสั่งโละ “คอมพิวเตอร์ต่างชาติ” ใน 2 ปี เชียร์ประชาชนใช้ Linux แทน Windows https://positioningmag.com/1384313 Sun, 08 May 2022 06:16:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1384313 กลุ่มสื่อต่างชาติรายงาน จีนสั่งหน่วยงานรัฐบาลกลางและบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเปลี่ยนคอมพิวเตอร์แบรนด์ต่างชาติเป็นแบรนด์จีนภายใน 2 ปี

ประกาศดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะส่งผลโดยตรงต่อยอดขายของบริษัท HP Inc. และ Dell Technologies Inc. ซึ่งเป็นแบรนด์พีซีรายใหญ่ที่สุดในจีน ทำให้หุ้นของ HP และ Dell ในตลาดหุ้นนิวยอร์กลดลงประมาณ 2.5% เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 6 พ.ค.

ในขณะที่มูลค่าหุ้นของบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์แบรนด์จีน เช่น Lenovo, Inspur Software Co. และ Kingsoft Corp. ต่างมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

คำสั่งของรัฐบาลล่าสุดน่าจะครอบคลุมเฉพาะแบรนด์พีซี และซอฟต์แวร์เท่านั้น ไม่รวมส่วนประกอบที่ยากต่อการเปลี่ยน เช่น ไมโครโปรเซสเซอร์

รัฐบาลจีนยังสนับสนุนประชาชนเปลี่ยนการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft มาเป็น Linux แทน

รายงานระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอันยาวนานในการเลิกพึ่งพาเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจทำให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรต่อบริษัทต่างๆ ที่ผ่านมา จีนพยายามอย่างมากที่จะลดการพึ่งพาต่างชาติในทุกสิ่ง ตั้งแต่เซมิคอนดักเตอร์ไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์และโทรศัพท์

ก่อนหน้านี้ จีนห้ามจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์บางรายการอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการตอบโต้ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีของสหรัฐฯ ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Hewlett Packard Enterprise Co. และ Microsoft ต้องจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เพื่อรักษาฐานลูกค้าในจีนต่อไป

Source

]]>
1384313
‘เลอโนโว’ ประกาศขอขึ้นเบอร์ 1 ตลาดโน้ตบุ๊ก หลังดีมานด์พุ่งเพราะ COVID-19 https://positioningmag.com/1306892 Thu, 19 Nov 2020 13:23:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306892 เหมือนว่าเมื่อเจอพิษ COVID-19 ไปจะทำให้ ‘เอเซอร์ (Acer)’ โดนท้าทายจาก ‘เลอโนโว (Lenovo)’ เสียแล้ว เพราะในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เลอโนโวสามารถขึ้นเบอร์ 1 ได้ชั่วคราวในตลาดโน้ตบุ๊ก ก่อนที่จะมาเป็นเบอร์ 2 ในไตรมาสที่ 2-3 อย่างไรก็ตาม เลอโนโวปักเป้าว่าจะต้องขึ้นเบอร์ 1 ให้ได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ หรืออย่างช้าก็คือไตรมาสแรกของปี 2564

COVID-19 ดันตลาดโต

ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว กล่าวว่า COVID-19 ช่วยดันตลาดโน้ตบุ๊กให้เติบโตในทุกเซ็กเมนต์ โดยในกลุ่มแมสที่มีสัดส่วนมากสุดหรือประมาณ 50% ของตลาดมีการเติบโตประมาณ 1 หลัก แต่ที่น่าจับตามองคือ ‘เกมมิ่ง’ และ ‘พรีเมียม’ ที่เติบโตประมาณ 30% ส่งผลให้ภาพรวมตลาดโน้ตบุ๊กในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 18% ในปีนี้ จากที่ผ่านมาจะไม่เติบโตทำได้แค่ทรงตัว

“ที่กลุ่มพรีเมียมเติบโตเยอะเพราะคนซื้อเทคโนโลยีมากกว่าดูราคาเป็นหลัก คนเลือกที่จะซื้อสินค้าอินเทรนด์มากกว่าซื้อของตกรุ่น ตอนนี้ผู้บริโภคดูเทรนดี้มากขึ้น”

07_Yoga_Slim_7_Carbon_Hero_IR_Camera.jpg

อาศัย COVID-19 ขึ้นเบอร์ 1

วรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เลอโนโวทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 1.45 หมื่นล้านเหรียญ มีส่วนแบ่งในตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลก 23.6% ส่วนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 26% ส่วนประเทศไทยนั้นเลอโนโวเป็นที่ 2 ในทุกเซ็กเมนต์ โดยเบอร์ 1 แต่ละเซ็กเมนต์นั้นจะแตกต่างกันไป ได้แก่ เอเซอร์ เอซุส และเดลล์ ทั้งนี้ เลอโนโวตั้งเป้าที่จะขึ้นเบอร์ 1 ของทุกตลาดภายในไตรมาส 4 ปีนี้ หรืออย่างช้าคือไตรมาส 1 ปีหน้า

สำหรับกลยุทธ์ที่จะทำให้ขึ้นเบอร์ 1 นั้น เลอโนโวมองว่าการทำราคาเพื่อแข่งขันไม่ใช่เรื่องยั่งยืน แต่เป็นการฟังเสียงลูกค้าเพื่อพัฒนาตัวสินค้าให้ตรงตามความต้องการ และล่าสุด เลอโนโวได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก 7 รุ่น ได้แก่ Yoga Slim 7i Carbon, Yoga Slim 7i, Yoga Slim 7i Pro,  Yoga Slim 9i, Yoga 7i, Yoga 9i และ Yoga Duet 7i เพื่อเจาะกลุ่มพรีเมียม โดยมีราคาตั้งแต่ 32,990-59,990 บาท โดยจะทยอยวางจำหน่ายตั้งแต่ปีนี้ถึงปีหน้า

“เราเปิดตัวโน้ตบุ๊กทีเดียว 7 รุ่น เพราะเราต้องการขึ้นเบอร์ 1 ซึ่งการจะขึ้นได้นั้นเราต้องชนะทุกเซ็กเมนต์ ดังนั้น ถ้าเปิดตัวแค่รุ่นเดียวภาพอาจยังไม่ชัด เราต้องการสร้างภาพให้มันชัดเจนมากขึ้น”

วรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการประจำพม่า ลาว กัมพูชา และผู้อำนวยการส่วนธุรกิจคอนซูเมอร์ เลอโนโว (ประเทศไทย)

‘บริการ’ อีกด้านใช้สร้างความแตกต่าง

นอกเหนือจากสินค้าก็คือเรื่องเซอร์วิสมาเป็นจุดขาย โดยเราจะจับ KPI ให้เข้มข้นขึ้น โดยทำคอลเซ็นเตอร์ 7 วัน 24 ชั่วโมง และมีบริการ Onside Exchange เปลี่ยนเครื่องให้สำหรับลูกค้าที่ส่งซ่อมในพื้นที่กรุงเทพฯ เละปริมณฑล  โดยเชื่อว่างานบริการจะสร้างความแตกต่างได้ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างในกลุ่ม SMB เลอโนโวสามารถเป็นเบอร์ 1 ได้ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร โรงพยาบาล โทรคมนาคม รวมถึงภาครัฐ

ปัญหาซัพพลายเริ่มคลี่คลาย

ในส่วนของซัพพลายสินค้าที่ได้ผลกระทบจาก COVID-19 ปัจจุบันเริ่มคลี่คลายบ้าง จากเดิมที่มีสินค้าในสต๊อกขาดแคลนหนัก โดยมีพอขายเพียง 1 สัปดาห์ จากช่วงเวลาปกติต้องมีสต๊อกไว้ให้เพียงพอจำหน่าย 4-5 สัปดาห์ โดยปัจจุบันสต๊อกของเลอโนโวมีพอสำหรับจำหน่ายได้ 2-3 สัปดาห์ โดยคาดว่าซัพพลายจะกลับมาได้ปกติในปีหน้า

แม้ว่าซัพพลายจะเริ่มฟื้น แต่ยังนอนใจไม่ได้ เพราะในช่วงไตรมาสสุดท้ายบวกกับมาตรการกระตุ้นของรัฐอย่าง ‘ช้อปดีมีคืน’ ถือเป็นมาตรการที่ช่วยกระตุ้นตลาดได้อย่างดี เนื่องจากช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เวลามีมาตรการดังกล่าวช่วยให้ยอดขายเติบโตได้ถึง 10-15% ดังนั้น การบริหารสต๊อกจึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในปีนี้

]]>
1306892
นับถอยหลัง 1 ปี เตรียมรับมือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ด้วย ‘Lenovo ThinkShield’ https://positioningmag.com/1283759 Wed, 24 Jun 2020 04:00:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1283759
แม้ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้คลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ส่งผลให้หลายองค์กรกลับมาทำงานกันเป็นปกติ ไม่ได้ Work From Home อีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องของซิเคียวริตี้ ยังเป็นเรื่องสำคัญ

โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หลายองค์กรมีการพูดถึง พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) กันอย่างแน่นอน เพราะ PDPA ถูกแปลงมาจากกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรป (GDPR) ที่มีต้นเหตุจากกรณีที่มีบริษัทชั้นนำของโลกทำข้อมูลลูกค้ารั่วไหลและมีคนนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ

มีเวลา 1 ปีก่อน PDPA บังคับใช้

บทบาทสำคัญของ PDPA คือ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกระบวนการทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ตั้งแต่ขั้นตอนจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนถึงการนำไปใช้งานของหน่วยงานแต่ละฝ่ายในองค์กร

ดังนั้น การที่ไทยมีพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส่งผลให้มีผลการบังคับใช้จริงจังมากขึ้น หากมีการทำผิด เช่น เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นมา โดยไม่ได้มีมาตรการป้องกันหรือมีการรับมืออย่างเพียงพอและเหมาะสมจะถือว่ามีความผิดและต้องถูกลงโทษในทางกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม เดิม PDPA มีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 นี้ แต่ได้เลื่อนบังคับใช้ออกไปอีก 1 ปี ดังนั้นนี่เป็นโอกาสดีที่องค์กรต่าง ๆ ยังพอมีเวลาที่จะปรับปรุงและวางโครงสร้างการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อไม่ให้รั่วไหล เพราะจากนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘ชื่อเสียง’ ที่เสียไป หรือมูลค่าความเสียหายที่เฉลี่ยสูงถึง ‘4 ล้านเหรียญ’ ต่อการถูกโจมตี ในแต่ละครั้ง แถมจากนี้ยังมีการลงโทษทางกฎหมายอีกด้วย

นอกจากนี้ มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก ‘Lenovo’ ที่ระบุว่า มีอัตราการรั่วไหลของข้อมูลเนื่องจากถูกขโมยรหัสผ่านมากถึง 81% และมีเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้งานทำการกรอกข้อมูลมากขึ้นถึง 65% ต่อปี นอกจากนี้ เหล่าอาชญากรไซเบอร์ได้มุ่งเป้าโจมตีไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอน ‘การผลิต’ โดยตรงอีกด้วย

ดังนั้น การใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ Multi-Factor Authentication, Passwordless หรือ Biometrics จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ รวมถึงการเลือกใช้งานอุปกรณ์จากผู้ผลิตที่ไว้วางใจได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีลักษณะนี้ได้

 

ทำไมต้อง ‘Lenovo ThinkShield’

หากพิจารณาจากการโจมตีในหลายด้าน ‘Lenovo’ ถือเป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะ ‘ThinkShield’ โซลูชันด้าน Security แบบ End-to-End ที่มั่นใจได้ตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ใช้ เริ่มที่ขั้นตอน Supply Chain ของการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน โปร่งใส สามารถติดตาม ตรวจสอบการผลิตได้ในทุกขั้นตอน จึงไม่มีช่องโหว่ใดๆ ที่อาชญากรหรือบุคคลผู้ไม่ประสงค์ดีจะสามารถเข้ามาฉวยโอกาสสร้างช่องโหว่ให้กับตัว hardware เพื่อหวังที่จะเข้าถึงและโจมตีอุปกรณ์ในอนาคตได้

ThinkShield ยังมาพร้อม Intel® Hardware Shield อันเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Intel vPro® ที่มีคุณสมบัติรักษาความปลอดภัยของตัวฮาร์ดแวร์ในตัวจึงช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาเฟริมแวร์ถูกคุกคาม โดยเมื่อตรวจพบความเสี่ยง เจ้า Intel® Hardware Shield ก็จะล็อค BIOS ระหว่างที่ซอฟต์แวร์กำลังทำงาน มัลแวร์ต่าง ๆ จึงไม่สามารถแฝงตัวแทรกซึมเข้ามาได้ เสริมความแข็งแกร่งของระบบความปลอดภัยขึ้นอีกขั้นด้วย Windows 10 Pro ระบบปฏิบัติการณ์ที่มีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่ทั่วโลกต่างยอมรับ

นอกจากนี้ยังได้จับมือกับ SentinelOne ที่เป็นเจ้าของ AI ที่จะช่วยทำนายการโจมตี และทำให้อุปกรณ์สามารถกู้คืนได้ทันทีหลังจากการโจมตีใด ๆ โดยฟีเจอร์ Behavioral Artificial Intelligence ของ SentinelOne จะแทนที่โปรแกรมป้องกันไวรัสและให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ การตรวจจับและแทรกแซงการค้นหามัลแวร์ประเภทที่รู้จักและไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถอัพเกรดเพิ่มเพื่อให้ใช้งานได้ทันทีเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารหัสข้อมูล, การรองรับการยืนยันตัวตนรูปแบบต่าง ๆ การควบคุมและบริหารจัดการอุปกรณ์จากศูนย์กลาง, การตรวจจับภัยคุกคามชั้นสูง

สำหรับองค์กรไหนที่ยังคิดไม่ตกว่าจะหาทางป้องกันตัวเองจากการโจมตี รวมถึงปฏิบัติตามข้อกำหนดของพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) อย่างไรนั้น Lenovo ThinkShield น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะเข้ามาตอบโจทย์การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กร เพื่อให้มั่นใจได้ว่าองค์กรจะสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกแฮกเกอร์โจมตีเพื่อเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปทำประโยชน์ในทางที่ผิด

]]>
1283759
“เลอโนโว” กับการปรับตัวเพื่อรักษาอันดับ 1 ในตลาดพีซี https://positioningmag.com/1101467 Fri, 02 Sep 2016 01:56:20 +0000 http://positioningmag.com/?p=1101467 แม้ว่าเลอโนโว จะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกต่อเนื่องมายาวนานถึง 3 ปี ด้วยส่วนแบ่งตลาดในปัจจุบันที่มากกว่า 21% รวมถึงในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีส่วนแบ่งมากกว่า 16.4% ก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ตลาดพีซีไม่ได้หอมหวานอีกต่อไปสำหรับผู้ผลิต ทำให้เลอโนโว ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการออกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เลอโนโว สามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มพีซีได้ คงหนีไม่พ้นโน้ตบุ๊กที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายภายใต้ซีรีส์ Yoga ซึ่งทำให้เลอโนโวเป็นอันดับ 1 ในตลาดคอนเวิร์ตเทเบิลโน้ตบุ๊กในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยเช่นเดียวกัน

ดิลิป พาเทีย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพีซี และสมาร์ทดีไวซ์ เลอโนโว ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า สิ่งที่เลอโนโวทำในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือ การปรับตัว และเรียนรู้จากผู้ใช้ที่มีพฤติกรรมการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมผู้บริโภคจะใช้พีซีเพื่อทำงานเป็นหลัก กลายมาเป็นการใช้งานพีซีในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะสำหรับการทำงาน การใช้งานภายในบ้าน และระหว่างการเดินทาง

559000009083503

ในจุดนี้เลอโนโว มองถึง 4 คีย์หลักที่จะทำให้แบรนด์สามารถครองใจผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้ คือ 1.การสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กลายเป็นวัฒนธรรมในการใช้งาน 2.ความสะดวกที่มาพร้อมกับความปลอดภัย 3.สามารถใช้ได้ทั้งการทำงาน และในชีวิตประจำวัน และ 4.เพิ่มความพรีเมียมให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคอนซูเมอร์

“เมื่อพีซีเครื่องดียวไม่สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ถึงเวลาที่เลอโนโว ต้องปรับตัว เข้าสู่ยุคที่ผลิตภัณฑ์หลายชนิดจะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่จะเลือกใช้งานในฟอร์มเฟกเตอร์ที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ ไม่ใช่การปรับไลฟ์สไตล์เข้ากับเทคโนโลยี และเมื่อได้เห็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของ Yoga จะเห็นได้ว่า เลอโนโวมีการนำนวัตกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรมพีซีเสมอมา”

ขณะเดียวกัน เลอโนโว มองว่า ปัจจุบัน ธุรกิจโน้ตบุ๊กที่มีรูปแบบเดิมๆ จะไม่ค่อยได้รับความนิยม โดยมีสัดส่วนลดลงตลอดเวลา ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ พร้อมไปกับกลุ่มตลาดเกมที่ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ในแต่ละปี ส่งผลให้หลายๆ แบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าวเช่นเดียวกัน

Yoga Tab3 Plus
Yoga Tab3 Plus

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก เลอโนโว จะยังคงใช้ผลิตภัณฑ์ใน 3 แกนหลักทำตลาด คือ Lenovo Yoga ที่จะมาเจาะกลุ่มผู้ที่ต้องการโน้ตบุ๊กรูปแบบใหม่ที่สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย และมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ถัดมา คือ กลุ่ม Lenovo IdeaPad ที่จะเป็นผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่มีการอัปเดตผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

สุดท้าย คือ กลุ่ม Lenovo Miix ที่เป็นแท็บเล็ต ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น เพื่อให้รับกับความต้องการในตลาดแท็บเล็ตที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่เข้าสู่ตลาด ทำให้พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป

Yoga Book
Yoga Book

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือไปจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคอนซูเมอร์แล้ว เลอโนโว ยังได้มีการอัปเดตกลุ่มผลิตภัณฑ์เกมมิ่ง ที่ประกอบไปด้วย พีซี ideaCentre Y710 cube ที่ปัจจุบันรองรับการเล่นเกมพร้อมแว่น VR แล้ว และยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มออลอินวัน IdeaCentre Aio Y910 และโน้ตบุ๊ก IdeaPad Y910 มาเสริมให้ครบทุกไลน์สินค้าด้วย

เจฟ เมเรดิธ ผู้จัดการทั่วไป และรองประธาน กลุ่มธุรกิจแอนดรอยด์ และโครม กล่าวว่า แม้ว่าตลาดแท็บเล็ตจะตกลง 12.3% ในช่วงไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่การเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2-1 ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการนวัตกรรมที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน

‘การมาของ Yoga Book จะทำให้ตลาดแท็บเล็ตมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของเทคโนโลยี หรือการใช้งาน เพราะปัจจุบันแท็บเล็ตไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่ไว้เสพข้อมูลเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่สามารถสร้างโปรดักทิวิตี้ได้สะดวกขึ้น จากการที่พกพาง่าย น้ำหนักเบา ทำให้สามารถติดตัวไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา’

Yoga Book Keyboard
Yoga Book Keyboard

Yoga Book ถือเป็นนวัตกรรมที่เลอโนโวคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต ด้วยการนำเสนอแท็บเล็ตที่สามารถทำงานร่วมกับพื้นผิวสัมผัสที่สามารถแปลงเป็นคีย์บอร์ดเสมือน หรือพื้นที่สำหรับปากกาในการจดบันทึก หรือวาดรูป และแปลงข้อมูลไปสู่การบันทึกในรูปแบบดิจิตอล

สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป คือ การปรับตัวของเลอโนโว พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้จะช่วยสร้างความแตกต่างให้แก่ผู้บริโภคได้หรือไม่ เพราะทั้งตลาดพีซี และตลาดแท็บเล็ต ถือเป็นตลาดที่เริ่มอิ่มตัว และต้องการนวัตกรรมมาสร้างความแตกต่าง รวมถึงในประเทศไทยที่เลอโนโว ยังไม่ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

559000009083507

โมโต-เลอโนโว รักษาแบรนด์คู่ในตลาดสมาร์ทโฟน

ไอมาร์ เลนแคสเซอริง ประธานร่วม กลุ่มธุรกิจโมบาย และรองประธานอาวุโส เลอโนโว ให้ข้อมูลที่น่าสนใจถึงการทำตลาดสมาร์ทโฟนของเลอโนโวว่า จะยังคงรักษาการทำตลาดแบบ 2 แบรนด์คู่กันไป เพียงแต่ว่าในบางภูมิภาคอย่างในยุโรป และสหรัฐฯ แบรนด์โมโตโรล่า จะได้รับความนิยมมากกว่า ก็จะให้ความสำคัญกับแบรนด์โมโตฯ

ขณะที่ในภูมิภาคเอเชียที่แบรนด์เลอโนโวได้รับความนิยม ก็จะมีการนำแบรนด์โมโตฯ เข้าไปเสริม เพื่อให้ครอบคลุมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยปัจจุบัน เลอโนโวมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนราว 5% ทำให้ยังมีโอกาสเติบโตในตลาดสมาร์ทโฟนอีกมากในทุกภูมิภาคทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำตลาดสมาร์ทโฟน คือ การคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในจุดนี้ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางโมโตฯ คือ การนำแนวคิดสมาร์ทโฟนพร้อมอุปกรณ์เสริม (Moto Mods) เข้ามาเป็นจุดขายในตลาด ซึ่งล่าสุด ได้รับความร่วมมือกับทาง ฮาสเซลแบลด (Hasselblad) ที่เป็นผู้ผลิตกล้องคุณภาพสูงชั้นนำของโลกมาเป็นพันธมิตร

“การเป็นพันธมิตรกับฮาสเซลแบลด แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของโมโตฯ ในตลาดสมาร์ทโฟนว่า ยังมีจุดเด่นที่ชัดเจนจนแบรนด์กล้องระดับโลกให้ความสนใจมาทำอุปกรณ์เสริม ที่จะช่วยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญเรื่องกล้องถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น”

แม้ว่า Hasselblad True Zoom จะเป็นกล้องเสริมให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Moto Z แต่ด้วยชื่อชั้นของฮาสเซลแบลด อาจจะช่วยส่งผลให้โมโตฯ ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เช่นเดียวกับที่หัวเว่ย P9 ที่ได้ชื่อของไลก้า (Leica) มาใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นทำให้ได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาด

ที่มา: http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000087872

]]>
1101467