Minimart – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 03 Feb 2015 00:00:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 7-Eleven ออกแคมเปญแรงรับต้นปี ชวนเชิดชูครูผู้ให้ แชร์ครบแสน บริจาคครบล้านภายใน 6 วัน https://positioningmag.com/59350 Tue, 03 Feb 2015 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=59350
เรียกได้ว่ามีแคมเปญดีออกมารับต้นปีเลยทีเดียวกับแคมเปญ “เชิดชูครูผู้ให้ แชร์ต่อไปไม่รู้จบ” ของทาง 7-Eleven
 
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า เซเว่น อีเลฟเว่น ตระหนักถึงความสำคัญของ “ครู” ที่มีภารกิจสำคัญ ที่จะสร้างคนเก่งและคนดีให้ประเทศชาติด้วยความเอาใจใส่และเสียสละ จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเทิดทูนพระคุณครู
 
โดยในปีนี้นอกจากภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมสังคม “อาจารย์ใหญ่ ครูผู้ให้ The Everlasting Teacher” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของอาจารย์หมอผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครูอย่างแท้จริง ยังมีกิจกรรมส่งเสริมสังคมดีๆ ที่เปิดโอกาสให้คนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาค 1,000,000 บาท ให้กองทุนพัฒนาแพทย์ศาสตร์ คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ด้วยการ Share หนังโฆษณาซึ้งกินใจเกี่ยวกับเรื่องราวของอาจารย์ใหญ่ ครูผู้ให้ที่แท้จริง โดย 1 Share ของคุณจะเท่ากับการร่วมบริจาคเงิน 10 บาท
 
ซึ่งทาง 7-Eleven ได้เริ่มปล่อยแคมเปญมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา และเพียงแค่วันที่ 18 มกราคม ยอดบริจาคก็ครบ 1,000,000 บาท เป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เวลาเพียงแค่ 6 วันเท่านั้น
 
ส่วนหนังภาพยนตร์ “ครูผู้ให้ The Everlasting Teacher” ที่ปล่อยบน Youtube ก็เรียกน้ำตาแห้งความซาบซึ้งของคนดู จนยอดวิวทะลุ 1,000,000 views ไปแล้วเช่นกัน
 
นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เห็นได้จากการแชร์ต่อกันไป จนเกิดเป็นการให้ที่ไม่สิ้นสุดอย่างแท้จริง
 
Anchor ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งจำนวนคนที่มาร่วมแชร์เพื่อบริจาคและจำนวนยอดเข้าชม VDO แต่เหนือสิ่งอื่นใดแคมเปญนี้ยังประสบความสำเร็จในการให้ทุกคนหันมาตระหนัก และรำลึกถึงความสำคัญของวันครูได้อีกด้วย
 
ซึ่งทางซีพี ออลล์ ได้บริจาคเงินจากที่ทุกท่านเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคให้ให้กองทุนพัฒนาแพทย์ศาสตร์ คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
สุดท้าย ต้องขอขอบคุณทางซีพี ออลล์ และคนไทยที่ร่วมกันผลักดันแคมเปญเพื่อสังคมดีๆเช่นนี้

]]>
59350
เซเว่น อีเลฟเว่น ผุดต้นแบบร้านค้าปลีกประหยัดพลังงานแห่งแรกของเมืองไทย https://positioningmag.com/57996 Wed, 11 Jun 2014 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57996

เซเว่น อีเลฟเว่น เดินหน้านโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “7 Go Green” อย่างจริงจังต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวร้านเซเว่นอีเลฟเว่นต้นแบบประหยัดพลังงานแห่งแรกของไทย ที่ได้ผ่านการรับรองอาคารตามเกณฑ์มาตรฐานการประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยในระดับสูงสุด แพลทตินั่ม (Platinum) จากสถาบันอาคารเขียวไทย นับเป็นร้านค้าปลีกแห่งแรกของเมืองไทย

นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย เปิดเผยว่า เซเว่น อีเลฟเว่น มีนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด 7 Go Green (เซเว่น โก กรีน) อย่างต่อเนื่อง โดยมี 4 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการรณรงค์ใช้ถุงพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ “คิดถุ๊ง คิดถุง”, โครงการประหยัดพลังงานในศูนย์กระจายสินค้า“Green Logistics”, โครงการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม “Green Products” และโครงการร้านค้าปลีกประหยัดพลังงานซึ่งได้พัฒนาดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดร้านสาขาธาราสแควร์ ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นร้านค้าปลีกรายแรกของไทยที่ได้ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับสูงสุดแพลทตินั่ม (Platinum)จากสถาบันอาคารเขียวไทย นับเป็นร้านค้าปลีกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอย่างครบวงจรแห่งแรกของเซเว่น อีเลฟเว่นในเมืองไทยและใน AEC อีกด้วย  

“ร้านเซเว่นฯ สาขาธาราสแควร์ จะเป็นร้านต้นแบบประหยัดพลังงานของบริษัท นับเป็นก้าวสำคัญในการมุ่งสู่ร้านประหยัดพลังงานที่ใส่ใจสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เท่ากับว่าลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านจะได้มีส่วนร่วมในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” นายสุวิทย์ กล่าว

ขณะที่นายวิเชียร จึงวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวเสริมว่า บริษัทได้นำเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวของสถาบันอาคารเขียวไทย (Thai Green Building Institute: TGBI) ที่เป็นระดับสากล มาใช้ในการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อต้นแบบประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ วิศวกร และสถาปนิก ตามมาตรฐานเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทยในระดับแพลทตินั่ม (Platinum) ซึ่งเป็นการรับรองระดับสูงสุด (จากทั้งหมด 4 ระดับ ได้แก่ Platinum / Gold / Silver / Certified) ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบและก่อสร้างอาคาร การบริหารจัดการอาคาร ผังบริเวณและภูมิทัศน์ การประหยัดน้ำ พลังงานและบรรยากาศ วัสดุและทรัพยากรในการก่อสร้าง คุณภาพของสภาวะแวดล้อมในอาคาร การป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านและนวัตกรรมอื่นๆโดยสาขาดังกล่าวสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ประมาณ 668 ตันต่อปี

ด้านนายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้บริหารที่รับผิดชอบด้านร้านสาขาของเซเว่น อีเลฟเว่นในพื้นที่สำนักงานปฎิบัติการกรุงทพฯและปริมณฑล (BN) แสดงความเห็นว่า ตั้งแต่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ต้นแบบประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม สาขาธาราสแควร์ เปิดดำเนินการเมื่อ พฤษภาคม 2556 เป็นต้นมาปรากฎว่าได้รับคำชมและการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้ามาใช้บริการเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเซเว่น อีเลฟเว่น ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของบริษัท

]]>
57996
กระหึ่มวงการ !!! “โออิชิ กรุ๊ป” จับมือ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ส่งนวัตกรรมโปรโมชั่น “โออิชิ รวยฟ้าผ่า”ลุ้นรวยทองทุกวันรวม 7 ล้านบาท https://positioningmag.com/57456 Sat, 07 Dec 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57456

โออิชิ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น จับมือ เซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย สร้างสรรค์นวัตกรรมโปรโมชั่นเขย่าวงการการตลาด เปิดแคมเปญ “โออิชิรวยฟ้าผ่า” ครั้งแรกของการทำโปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์สินค้าที่จำหน่ายภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เพียงช้อปผลิตภัณฑ์ในเครือโออิชิทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่มจำนวน 1 ชิ้นขึ้นไป รับทันทีรหัสชิงโชคทองท้ายใบเสร็จ ใช้ลุ้นรวยทองคำมูลค่า 100,000 บาททุกวัน และลุ้นรวยยิ่งขึ้นในทุกวันที่ 7 ของเดือน แจกหนักทองคำมูลค่า 700,000 บาท ช้อปมากยิ่งได้ลุ้นมาก รวมทั้งสิ้นมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ – 25 มกราคม 2557

นายอนิรุทธ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าโออิชิอย่างต่อเนื่อง เราจึงได้พัฒนานวัตกรรมการทำ โปรโมชั่นในรูปแบบใหม่ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค โดยร่วมมือกับเซเว่น-อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดทั่วประเทศ จัดนวัตกรรมโปรโมชั่นครั้งสำคัญภายใต้แคมเปญ “โออิชิ รวยฟ้าผ่า”เป็นครั้งแรกให้กับลูกค้าโออิชิที่ซื้อสินค้าภายในเซเว่นอีเลฟเว่นได้ลุ้นรวยทองทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพียงแค่ส่งรหัสลุ้นรวยที่อยู่ท้ายใบเสร็จมาที่ *417* ก็ให้ลูกค้าได้ร่วมลุ้นชิงโชคกับทองคำแสนจากโออิชิมูลค่ารวม 7 ล้านบาท”

นางสาวเพ็ญน้อย อุบลวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ด้านบริหารผลิตภัณฑ์ Refresh บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โออิชิ รวยฟ้าผ่า เป็นโปรโมชั่นที่พิเศษสุดที่เราและโออิชิได้ร่วมพัฒนาขึ้นมาสำหรับลูกค้าเซเว่นอีเลฟเว่นให้ได้ลุ้นรวยทองจากใบเสร็จซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สองผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นจับมือกับผู้นำตลาดค้าปลีก เป็นพันธมิตรแบบเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกันสร้างสรรค์โปรโมชั่นเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อตอบแทนลูกค้าโออิชิโดยเฉพาะ”

ลูกค้าโออิชิร่วมลุ้นรวยทองคำ 100,000 บาททุกวันได้ง่ายๆ และลุ้นรวยขึ้นกว่าเดิมทุกวันที่ 7 ของเดือน แจกทองคำมูลค่า 7 แสนบาท รวมทั้งสิ้น 61 รางวัล มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท เพียงซื้อผลิตภัณฑ์ในเครือโออิชิ ได้แก่ โออิชิ กรีนที โออิชิ แบล็คที โออิชิ ฟรุตโตะ อะมิโน พลัส โออิชิ ชาคูลล์ซ่า โออิชิ มัทฉะ ลาเต้ รวมทั้งเกี๊ยวซ่า สาหร่ายโอโนริ และผลิตภัณฑ์เบรคแอนด์ฟาสต์แซนด์วิช โดยโออิชิ จำนวน 1 ชิ้นขึ้นไป รสชาติหรือขนาดใดก็ได้ ที่เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ พร้อมรับใบเสร็จที่มีรหัส จากนั้นกด*417* ตามด้วยรหัสท้ายใบเสร็จ 15 หลัก แล้วกด# กดโทรออก (ครั้งละ 3 บาท) ตั้งแต่วันนี้ – 25 มกราคม 2557 รวมทั้งหมด ประกาศผลทุกวัน 5 โมงเย็นทาง SMS และ www.facebook.com/oishidrinkstation

“ใบเสร็จมีค่า อย่าทิ้งส่งรหัสมาร่วมลุ้นรวยฟ้าผ่ากับโออิชิ ชิงทองคำมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท”

]]>
57456
กินเจปีนี้ เทสโก้ โลตัส จัดเต็มกว่าพันรายการ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดตัวเมนูเจอร่อยพร้อมทาน “เทสโก้ โลตัส อิ่มอิ่ม” https://positioningmag.com/57284 Sun, 29 Sep 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=57284

เทศกาลกินเจปีนี้ เทสโก้ โลตัส จัดเต็ม ทั้งผักผลไม้ เครื่องปรุง ของแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ และอาหารพร้อมทาน รวมกว่าพันรายการ ในราคาถูกสุดสุดเช่นเคย พิเศษ เปิดตัว อาหารพร้อมทานแบรนด์ใหม่ “เทสโก้ โลตัส อิ่มอิ่ม” 5 เมนูเจอร่อยเด็ด วางขายในร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส

นางสาว สลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส ได้สำรวจความต้องการของผู้บริโภค พบว่ามีผู้บริโภคที่สนใจกินเจจำนวนมากขึ้นในปีนี้ โดยนอกจากเหตุผลทางศาสนาแล้ว ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการกินเจเพื่อให้มีสุขภาพดีด้วย เทสโก้ โลตัส จึงได้จัดทัพรายการอาหารเจครบครันมาตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมกว่าพันรายการ ในราคาถูกสุดๆ เช่นเคย

จากการสำรวจยังพบว่ามีผู้บริโภคสองกลุ่มหลัก คือกลุ่มที่ปรุงอาหารเอง และกลุ่มที่ต้องการความสะดวก คือต้องการอาหารปรุงสำเร็จและพร้อมทาน ในปีนี้ เทสโก้ โลตัส จึงได้จัดเตรียมทั้งอาหารสด อาหารพร้อมปรุง และอาหารปรุงสำเร็จ โดยเน้นการจำหน่ายผักและผลไม้สดใหม่ ในราคาถูก เพื่อตอบรับกระแสรักสุขภาพ ภายใต้แคมเปญ “สดโดนใจ 9 รายการ” ซึ่งเป็นการจัดโปรโมชั่นผักผลไม้ 9 รายการหมุนเวียนไปทุกสัปดาห์ในเดือนตุลาคมนี้ โดยผักผลไม้ยอดนิยมที่คัดสรรมาในโปรโมชั่นจะมีราคาเริ่มต้นเพียง 9 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีอาหารพร้อมปรุงหลายเมนู เช่น สุกี้เจ ชุดละ 49 บาท สปาเก็ตตี้เจ ชุดละ 35 บาท และยังมีรายการ อาหารปรุงสำเร็จมากมาย เช่น กับข้าวต่างๆ น้ำพริกเจ ผัดหมี่ซี่วในราคาเพียง 25 บาทเท่านั้น
และใหม่ล่าสุด เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ไม่มีเวลาปรุงอาหารเอง เทสโก้ โลตัส ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก อาหารเจพร้อมทานภายใต้แบรนด์ “เทสโก้ โลตัส อิ่มอิ่ม” ซึ่งมาพร้อม 5 เมนูเจอร่อยเด็ด เช่น ข้าวผัดเบญจรงค์ ข้าวผัดฉ่าลูกชิ้นเจและเห็ดออรินจิ โดยเน้นวัตถุดิบเครื่องปรุงคุณภาพสูง มีคุณค่าทางอาหาร และรสชาติอร่อยกว่าอาหารกล่องทั่วไป มีวางจำหน่ายแล้วในร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 240 สาขา เพียงนำ“เทสโก้ โลตัส อิ่มอิ่ม” ใส่ไมโครเวฟก็อิ่มอร่อยได้ในทันที

“เทสโก้ โลตัส เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เนื่องจากกระแสความนิยมกินเจและกระแสการใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มขึ้น และเทสโก้ โลตัส มีรายการอาหารและสินค้าที่ครบครันตอบรับไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบ อีกทั้ง เรายังมีสาขากว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ ทั้งรูปแบบร้านค้าขนาดใหญ่และเอ็กซ์เพรส ซึ่งให้บริการผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง” คุณสลิลลา กล่าวสรุป

]]>
57284
“ล่าแสตมป์” ฟีเวอร์ https://positioningmag.com/56012 Wed, 28 Aug 2013 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=56012

โปรโมชั่นสะสมแสตมป์” ที่เซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้กระตุ้นยอดขาย ได้สร้างกระแส “ฟีเวอร์” ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ จนกลายเป็น “ปรากฏการณ์ล่าแสตมป์” เมื่อมีร้านค้าบางแห่งถึงกับให้ใช้แลกซื้อสินค้า บล็อกเกอร์บางรายทำเป็น “อินโฟกราฟิก” สูตรโกยแสตมป์ก็แชร์กันกระจาย

ภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ การนำโปรโมชั่น ชิงโชค “ลด แลก แจก” ได้กลายเป็นกติกาพื้นฐานของการทำตลาดยุคนี้ และหนึ่งในแคมเปญที่ร้อนแรง ที่พูดกันติดปากเวลานี้ คือ “แสตมป์เซเว่นฯ “ ถือเป็นหนึ่งใน “โปรโมชั่น” ประจำปีที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 และถือว่าร้อนแรงที่สุดแคมเปญหนึ่งในเวลานี้ และเมื่อเทียบกับโปรโมชั่นอื่นๆ ที่เซเว่นอีเลฟเว่นนำมาใช้กระตุ้นยอดซื้อของผู้บริโภค ด้วยการให้ลูกค้าซื้อสินค้าตามจำนวนที่กำหนดจะได้แสตมป์ไว้เป็นส่วนลด และสะสมเพื่อแลกของพรีเมียม เช่น ซื้อสินค้าครบ 50 บาทจะได้แสตมป์ 1 ดวง

ช่วงแรกๆ การสะสมแสตมป์ยังไม่โด่งดังมากนัก จนเมื่อเซเว่นอีเลฟเว่นได้ซื้อลิขสิทธิ์ “คาแร็กเตอร์” การ์ตูนดังจากต่างประเทศมาทำเป็นแสตมป์ และของพรีเมียม เช่น หมีพูห์ และมิกกี้เมาส์ เพื่อให้แสตมป์เซเว่นฯ เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และต่อเนื่องมาถึงการซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูน “โดราเอมอน” มาใช้ทำแสตมป์ ยิ่งทำให้แสตปม์เป็นโปรโมชั่นแพร่หลาย เพราะโดราเอมอนนั้นมีแฟนคลับค่อนข้างหลากหลายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จึงเริ่มมีร้านค้าบางแห่งรับแสตมป์โดราเอมอนใช้แทนเงินสด

ทางเซเว่นอีเลฟเว่นฯ เอง เมื่อประเมินแล้วว่า แสตมป์โดราเอมอนสามารถ “จุดติด” สร้างความนิยม จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ล่าแสตมป์ กระตุ้นยอดขายของเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มขึ้นถึง 15-16 % ปีที่แล้วเซเว่นอีเลฟเว่น จึงยกเลิกการซื้อลิขสิทธิ์การ์ตูนดัง เปลี่ยนมาใช้เป็นแสตมป์รักเมืองไทย โดยใช้สัญลักษณ์ของ 77 จังหวัดแทนการ์ตูนดัง ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งเซเว่นฯ เอง คงประเมินแล้วว่า “โปรโมชั่น” เริ่มแรงพอที่ จะไม่ต้องอาศัย “การ์ตูน” มาเป็นตัวช่วย ประหยัดเงินลงทุนไปได้ ยกเว้นช่วงโปรโมตแคมเปญที่ยังต้องมี “ดารา” มาช่วยสร้างการรับรู้

มาปีนี้ แม้กระแสของแสตมป์จะแพร่หลาย มีแฟนๆ เฝ้ารอ แต่เมื่อกระแสการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่เริ่มร้อนแรงขึ้น แม้เซเว่นอีเลฟเว่นยังเป็นเบอร์ 1 แต่มีคู่แข่งระดับ “บิ๊ก” เข้าสู่ตลาด ทั้งแฟมิลี่มาร์ท ของกลุ่มเซ็นทรัล, ลอว์สัน ของสหพัฒน์ และยังมีโลตัส เอ็กซ์เพรส ที่นำโปรโมชั่น “สะสมแสตมป์” ออกมาใช้เป็นปีนแรก และยังเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงโลว์ซีซั่น และยังต้องมาเจอกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง เซเว่นอีเลฟเว่นจึงต้อง “จัดหนัก จัดเต็ม” กว่าเดิม ด้วยการใช้ดาราคาดังระดับซุปตาร์ “เจมส์ จิรายุ” มากระตุ้นความน่าสนใจ เพื่อเพิ่ม “ดีกรี” ให้เกิดพฤติกรรมการ “ล่าแสตมป์เซเว่นฯ” มากยิ่งขึ้น ซึ่งเซเว่นอีเลฟเว่นเองคาดหมายไว้ว่า แคมเปญนี้จะกระตุ้นยอดขายในช่วง 4 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ถึง พฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 5-10%

ด้วยความต่อเนื่องของตัวแคมเปญที่จัดติดต่อกันมานาน บวกกับ แรงโปรโมตของเซเว่นอีเลฟเว่น ผ่านทั้งสื่อทีวี และยังมีสื่อออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวิร์ก มาช่วยสร้างการรับรู้ตลอดเวลา ทำให้กระแสแสตมป์เซเว่นแพร่หลายทั้งในกลุ่มคนชั้นกลาง คนทำงานในกรุงเทพฯ ตลอดจนคนต่างจังหวัด ยิ่งใครมีวิธีสะสมแสตมป์ได้มาก หรือแลกของพรีเมียมได้ก่อนใครจะโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นกระแสบอกต่อ และทำตาม เช่น บล็อกเกอร์บางราย คือ Arji’s blog ได้ทำสูตรโกยแสตมป์ “อินโฟกราฟิก” เซเว่นฯ โปรสิงหาคม 2556 ซื้อยังไงให้ได้แสตมป์เยอะ แต่จ่ายน้อย มีคนนำไปแชร์อย่างแพร่หลาย

ส่วนร้านค้าเปิดรับแสตมป์แทนเงินสด และล่าสุดถึงกับมีผู้โพสต์ข้อความว่า “โดนปล้นแสตมป์เซเว่น” ลงในเว็บ pantip.com ยิ่งทำให้กระแสล่า “แสตมป์เซเว่น” แพร่หลายยิ่งขึ้น และเซเว่นฯ เองนำเรื่องราวเหล่านี้ลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจ สร้างให้แสตมป์เซเว่นยังคงเป็นกระแสต่อเนื่อง

ที่มา : แฟนเพจ เซเว่นอีเลฟเว่น

การทำโปรโมชั่น นอกจากกระตุ้นยอดขายให้เซเว่นฯ แล้ว ผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ เมื่อมีลูกค้าจะต้องรับผิดชอบ “ส่วนลด” ทั้งหมดเอง เช่น แสตมป์มูลค่า 1 บาท กำหนดให้แลกได้ 5 ดวง เท่ากับ ผู้ผลิตจะต้องออกค่าใช้จ่าย 5 บาทนี้เอง สำหรับผู้ผลิตสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโปรโมชั่น จะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้กับเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นค่า fee เช่น หมวดนิตยสาร ที่ไม่ได้เข้าร่วมจะเสียค่า fee 1% โดยที่ยอดขายในช่วงที่มีโปรโมชั่นจะไม่เพิ่มก็ตาม…เรียกว่างานนี้เซเว่นฯ เข้ากระเป๋าไปเต็มๆ

โลตัส เอ็กซ์เพรส ออกแสตมป์โดราเอมอน

ทางด้าน “เทสโก้ โลตัส” ได้นำโปรโมชั่นสะสมแสตมป์มาใช้กับสาขาขนาดเล็ก “โลตัส เอ็กซ์เพรส” ภายใต้ แคมเปญ “โดราเอมอน เวิลด์ ทัวร์” ตั้งแต่กรกฎาคม – 23 กันยาจน โดยซื้อลิขสิทธิ์คาแร็กเตอร์การ์ตูน “โดราเอมอน” มาทำแสตมป์ และแก้วน้ำ 10 ลวดลาย เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น ให้ลูกค้าซื้อสินค้าครบ 50 บาท จะได้แสตมป์ 1 ดวง มาแลกเป็นส่วนลด หรือแลกแก้วน้ำ

“สลิลลา สีหพันธุ์” รองกรรมการบริหาร ฝ่ายกิจการบริษัท เทสโก้ โลตัส บอกว่า การที่โลตัส เอ็กซ์เพรสต้องจัดทำโปรโมชั่นนี้ เพื่อรองรับกับการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกที่สูงขึ้น ทุกรายจึงต้องมีโปรโมชั่นมาดึงดูดความสนใจลูกค้า ส่วนเทสโก้ โลตัสเอง เวลานี้ โลตัส เอ็กซ์เพรสซึ่งเป็นสาขาขนาดเล็กมีการขยายสาขาเกิน 1,000 แห่ง ซึ่งเป็นจำนวนมากพอที่จะแยกออกมาทำโปรโมชั่นต่างหาก จากปกติจะทำโปรโมชั่นรวมกับสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งจะเน้นเรื่องของ “ราคา” เป็นหลัก

ในขณะโปรโมชั่นที่ลูกค้าร้านค้าปลีกชื่นชอบ คือ ส่วนลด และการสะสมของพรีเมียม และจากการเก็บข้อมูลของลูกค้าพบว่า แก้วน้ำ เป็นของพรีเมียมที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เมื่อนำการ์ตูน “โดราเอมอน” เป็นการ์ตูนที่ลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชื่นชอบ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ทำอย่างไรให้เป็น แสตมป์ฟีเวอร์

อาจารย์ ธเนศ ศิริกิจ นักวิชาการด้านการตลาด มองว่า ไม่มีกระแสการตลาดส่งเสริมการขายใดที่ทำแล้วโดนใจเท่ากับ แสตมป์ และยิ่งเป็นแสตมป์ของ 7-11 ยิ่งสร้างกระแสได้ดี และเป็นสิ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ เพราะทำให้คนไทยแทบจะหายใจเข้า-ออก เป็นแสตมป์

การใช้การส่งเสริมการขาย (Sale Promotion) ของ 7-11 ถือเป็นกระแสต่อเนื่องที่เป็นเอกลักษณ์ของ 7-11 ก็ว่าได้ หากมองกันให้ดี ว่าทำไมเราถึงอยากได้แสตมป์ 7-11 กันนัก เป็นเพราะแลกแทนเงินได้ สะสมได้ของเป็นชิ้น และเป็นสินค้าที่ไม่มีขายทั่วไป

การใช้แทนเงินสดได้ ตรงนี้ตอบโจทย์สำหรับคนไทย เนื่องจากว่า แสตมป์ 1 ดวง มันคือมูลค่า 1 บาท ใช้แทนเงินสดได้ทันที และแลกเป็นส่วนลดเงินสดได้ทันที ซึ่งโจทย์แบบนี้เคยเห็นกันมานานมาก กลับไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากช่วงเวลาต่างกัน

แต่กลับใช้ได้ดีในปัจจุบัน แต่ก่อนเราเคยได้ยิน แสตมป์การค้า (Trading Stamp) ซึ่งแต่ก่อนเพียงแต่สะสมแสตมป์แล้วได้ส่วนลด และแน่นอน เมื่อ Leader อย่าง 7-11 ทำอะไรแล้ว Success ก็จะมีคนตามกันอีก แต่ผู้ตามหากจะทำตาม ก็บอกได้เลยว่าอาจจะเหนื่อยพอสมควร

เพราะหลักการตลาดยุคนี้ที่ใช้แสตมป์นั้น ต้องเกิด 3V กับลูกค้า คือ “Value” แต่ต้องผสมผสาน Values และ 3Ps คือ

Product Value เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า โดยใช้แสตมป์กับทุก Product ได้โดยไม่วุ่นวายเรื่องเงื่อนไข

Promotion Value การโฆษณาที่ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มไม่เพียงแต่โฆษณาเพื่อขายของได้อย่างเดียว ต้องตอบโจทย์ได้ว่า ลูกค้าจะได้อะไรจากโฆษณา ไม่เพียงแต่โฆษณาอย่างเดียว

People Value กิจกรรมทางการตลาดนั้น จะต้องคืนกลับผู้ซื้อได้มูลค่าที่คืนอย่างชัดเจน

เมื่อใช้ได้ผลก็จะเกิดหลาย Business เดียวกันใช้กลยุทธ์นี้ตามกันเป็นระยะๆ เพราะเมื่อใคร Success หรือประสบความสำเร็จก่อน แล้วลอกเลียนแบบไปเลย หรือ “Cloner”

แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั้น การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายใน Promotion Mix นั้น จะต้องไม่ลืม “จริยธรรมธุรกิจ” หากธุรกิจใดเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จแล้วทำตามโดยไม่ดูความเหมาะสมนั้น อาจไม่ถูกต้องเสมอไป เพราะบางธุรกิจใช้วิธี ลด แลก แจก แถม มากไปจนจริยธรรมธุรกิจไม่มี ควรดูธุรกิจตนเป็นหลัก หากท่านไปพบแพทย์ คงไม่มีใครอยากได้ Promotion ป่วย 10 ครั้ง แถมฟรี 1 ครั้ง แน่นอน หรือบิลใบเสร็จแลกยาเพิ่ม คงไม่มีใครอยากได้แน่นอน

]]>
56012
แสตมป์เล็กๆ แต่บิ๊กแคมเปญ https://positioningmag.com/14903 Sun, 19 Aug 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14903

ครั้งแรกของโปรโมชั่นแสตมป์เซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ครั้งนี้เป็นแสตมป์ของตัวเอง ออกมาเพื่อเน้นกระตุ้นยอดขายเหมือนเดิม เพียงแต่เลือกช่วงเวลาใหม่ แต่เป็นครั้งแรกที่ไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในการทำแสตมป์โปรโมชั่น และเพียงแค่บอกว่าแสตมป์เซเว่น ก็ได้รับการตอบรับไม่แพ้แสตมป์วิเศษอย่างดิสนีย์ หมีพูห์ และแสตมป์โดราเอมอน (อ่านเพิ่มเติม) ที่เคยทำมา แถมได้ภาพลักษณ์องค์กรรักประเทศเป็นซีเอสอาร์เป็นของแถมอีกด้วย

 

“แสตมป์เซเว่น” เป็นรูปแบบการให้ส่วนลดที่แยบยลของเซเว่นที่กลายเป็นต้นตำรับโปรโมชั่น ที่เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคพอ ๆ กับโปรโมชั่น “สิทธิ์แลกซื้อสุดคุ้ม” 

 

ในยุคแรก เริ่มจากซื้อสินค้า 40 บาท จะได้แสตมป์มูลค่าอย่างน้อย 1 บาท หรือสิทธิ์แลกซื้อ 1 สิทธิ์ แต่ปัจจุบันปรับเป็นยอดซื้อ 50 บาท เท่ากับให้ส่วนลดสำหรับนำไปซื้อสินค้าครั้งต่อไปอย่างน้อย 2% ซึ่งต่ำกว่าลอยัลตี้การ์ดของค้าปลีกทุกประเภทที่มีอยู่ในเมืองไทย 

 

เพราะฉะนั้นการสะสมแสตมป์เพื่อเป็นส่วนลดเงินสด แม้จะไม่ได้ให้ผลประโยชน์ต่อลูกค้ามากนัก แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่เซเว่นใช้ได้ประสบความสำเร็จสูงมาตลอด เพราะสร้างบรรยากาศการกระตุ้นการจับจ่ายให้ผู้บริโภคสนุกกับกิจกรรมสะสมแสตมป์ได้ทุกรอบ ไม่ว่าจะเพื่อนำไปแลกของพรีเมียม หรือแม้กระทั่งเป็นโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองซื้อสินค้าใหม่ ๆ ในเซเว่นที่ร่วมรายการแจกแสตมป์ เพียงเพราะรู้สึกเหมือนได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นหรือทำให้สะสมแสตมป์ได้เร็วขึ้น

 

การทำโปรโมชั่นแสตมป์แต่ละครั้ง ผู้บริหารบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่น ให้ข้อมูลว่า บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างน้อย 5% จากผลการเติบโตของยอดขายต่อปีซึ่งมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 15% โดยรายได้ปีล่าสุดที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์พบว่า ซีพีออลล์มีรายได้จากยอดขายปี 2554 ประมาณ 1.6 แสนล้าน 

 

ส่วนปีนี้ตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายได้เติบโตได้ 15% เท่าเดิม แบ่งเป็นสัดส่วนจากยอดขายสาขาเก่าประมาณ 50% และที่เหลือเป็นยอดขายที่เติบโตมาจากยอดขายของสาขาเปิดใหม่ซึ่งมีความถี่ในการเปิดเร็วขึ้น เฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2555 เปิดสาขาใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 400 สาขา และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขาเซเว่นเปิดเพิ่มทั้งหมดประมาณ 500 สาขา รวมเป็น 6,800 สาขาภายในสิ้นปีนี้ 

 

เดิมแสตมป์เซเว่นจะออกมาช่วงปลายปีคาบเกี่ยวข้ามปี เช่น ปีก่อนหน้านี้จัดขึ้นช่วยเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ใช้ระยะเวลา 4 เดือน ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 5% ในช่วยทำแคมเปญ แต่การเปลี่ยนมาจัดช่วงที่มียอดขายน้อยของปีหรือโลว์ซีซั่น ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม ถึง 25 พฤศจิกายน 2555 นี้ เพราะซีพีออลล์ต้องการทดลองและหวังว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 8% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเดียวกันของปีก่อน 

 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

แสตมป์
7-11 เก่าใหม่ต่างกันอย่างไร

style=”vertical-align: top; font-weight: bold; text-align: center;”>เก่า

style=”vertical-align: top; font-weight: bold; text-align: center;”>ใหม่ พรีเซ็นเตอร์ คาแรคเตอร์การ์ตูนดังระดับโลก
เช่น มิกกี้เมาส์ หมีพูห์ โดราเอมอน ดาราไทย เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี
และ ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ช่วงเวลาจัดกิจกรรม ปลายปีถึงต้นปีถัดไป พ.ย.-ก.พ. โลว์ซีซั่น ก.ค.-พ.ย. รูปแบบแสตมป์ มันวาว ขนาดเล็ก มี 2 แบบ มูลค่า
1 บาท (แสตมป์เงิน) กับ 3 บาท (แสตมป์ทอง) แบบละ 1 ลายเท่านั้น มีแสตมป์ขนาดใหญ่ 77 ลาย
ตามสัญลักษณ์ของดี 77 จังหวัดของไทย มีมูลค่า 1 บาทเท่านั้น
มีดีไซน์ป้องกันแสตมป์ปลอม ต้นทุน ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์แสตมป์และลิขสิทธิ์สินค้าพรีเมียม ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์
สินค้าพรีเมียมคล้ายของเดิมยืนยันว่าสินค้าที่เลือกมาเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคแม้ไม่มีสัญลักษณ์การ์ตูนดัง สินค้าร่วมรายการ สินค้าร่วมแจกแสตมป์ประมาณ 50
รายการในแต่ละเดือน สินค้าร่วมแจกแสตมป์กว่า 100
รายการในแต่ละเดือน และแจกแสตมป์เป็นจำนวนมากกว่าเดิม
และใช้แสตมป์เป็นจุดขายโฆษณาสินค้า เครื่องมือเสริม บล็อกเกอร์ แฟนคลับการ์ตูน
ช่วยสร้างกระแสตามล่าแสตมป์ มีการเปิดตัว 7-Eleven
Application ให้ลูกค้าร่วมสนุกกับเกม iStamp
จับแสตมป์ในอากาศ ลุ้นของรางวับ เช็ครายการโปรโมชั่น
และเช็คสาขาเซเว่นใกล้บ้าน

style=”vertical-align: top; font-weight: bold;”>

ผลพลอยได้


ได้แฟนคลับคาแรคเตอร์การ์ตูนดังมาเป็นลูกค้า -ได้ภาพลักษณ์องค์กร
ในฐานะองค์กรที่สนับสนุนการท่องเที่ยวไทย –
ให้ลูกค้ามีโอกาสร่วมทำบุญจากการบริการแสตมป์ให้กับองค์กรที่บริษัทกำหนดไว้

-เปิดโอกาสให้ลูกค้าร่วมสมทบทุนสร้างสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช 
หรือ สมทบทุนสร้างสาวิกาสิกขาลัย  เพื่อเยียวยาสังคม -และเกิดกระแสการสะสมแสตมป์
]]>
14903
เปิดแล้ว มินิบิ๊กซี ในปั๊มบางจาก เพิ่มความสะดวก คุ้มค่า สดใหม่ ให้ลูกค้าชุมชนเมืองใหญ่ https://positioningmag.com/55339 Thu, 28 Jun 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55339

เปิดแล้ว “มินิบิ๊กซี” ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก บนถนนนวมินทร์ และเจริญกรุงตัดใหม่ มั่นใจผลตอบรับดี พร้อมเดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศ

นายประพันธ์ เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองประธานผู้บริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์ และนายเอียน ลองเด็น รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารสาขาย่อย บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร่วมกับนายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ทำพิธีเปิดร้านมินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาถนนนวมินทร์ ท่ามกลางผู้บริหารของทั้งสองฝ่าย 

นายเอียน ลองเด็น รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารสาขาย่อย บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า “บิ๊กซี ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจากสองสาขาแรก คือสาขานวมินทร์และเจริญกรุงตัดใหม่ได้เริ่มเปิดบริการในวันนี้ เป็นการเริ่มต้นความร่วมมือด้านการค้าปลีกกับบางจากฯ อย่างเป็นทางการ ที่สามารถนำไปสู่การเปิดมินิบิ๊กซีในสถานีบางจากทั่วประเทศ”

“ประมาณกลางเดือนกรกฎาคมปีนี้ เราจะเปิดมินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจากอีกสองสาขา คือ  พัฒนาการกับพระราม 3 ต่อจากนั้นจะเปิดเพิ่มที่คู่ขนานทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ซึ่งบิ๊กซีเห็นว่า มินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจากมีศักยภาพสูงมาก ในการทำให้เราสามารถเข้าถึงใจกลางชุมชนต่างๆ เพื่อนำสินค้าคุณภาพ ความคุ้มค่าสูงสุด และการบริการด้วยใจไปสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศ”

“มินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจากจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด และอาหารปรุงสุก กว่า 4,200 รายการ และยังมีสินค้าโปรโมชั่นที่จำหน่ายในราคาถูกสุดสุดเหมือนกับในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ด้วย นอกจากนั้น ยังมีบริหารหลากหลายไว้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า อาทิ การชำระบิลและการเติมเงินค่าโทรศัพท์ ด้วยเหตุนี้ มินิบิ๊กซีและสถานีบางจากจึงเป็นการรวมตัวที่ลงตัวที่สุด ที่จะสร้างความสะดวกและความคุ้มค่าในการซื้อสินค้าประจำวันและการเติมน้ำมัน และความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค”

นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีนโยบายพัฒนาสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน โดยมีแผนเปิดร้านสะดวกซื้อในรูปแบบแตกต่างกันไป เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด 

“บริษัทฯ จับมือกับ บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ มืออาชีพด้านธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระดับนานาชาติ เปิด “มินิบิ๊กซี” ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ทำเลใจกลางชุมชนเมืองขนาดใหญ่ที่มี

ความต้องการตลาดสดสะดวกซื้อใกล้บ้าน ขณะนี้เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ สาขาถนนนวมินทร์ และถนนเจริญกรุงตัดใหม่ และเร็วๆ นี้ จะทะยอยเปิดให้บริการเพิ่ม เช่นที่สาขาถนนพัฒนาการ, พระราม 3 และคู่ขนานทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา โดยเฉพาะสาขาพัฒนาการ จะเป็นสถานีบริการน้ำมันบางจากสาขาใหม่ล่าสุดที่เปิดบริการในเขต กทม.”

นายยอดพจน์กล่าวต่อไปว่า  ในโอกาสพิเศษนี้ บางจากฯ และมินิบิ๊กซีในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ได้จัดกิจกรรมสมนาคุณลูกค้าหลายอย่าง เช่น  ซื้อสินค้าที่มินิบิ๊กซีจะได้รับคูปองส่วนลดเพื่อซื้อเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟอินทนิล   รับคูปองส่วนลดเพื่อใช้บริการที่กรีนวอช และได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกแก๊สโซฮอล์ คลับ และดีเซล คลับ สามารถใช้คะแนนสะสม Value points ที่มินิบิ๊กซีได้ รวมทั้งได้รับคะแนนสะสมเมื่อซื้อสินค้าที่มินิบิ๊กซีด้วย 

 

แผนการขยายสาขาย่อยของบิ๊กซี

นายเอียน ลองเด็น รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริหารสาขาย่อย บมจ. บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เปิดเผยถึงแผนการขยายสาขาขนาดเล็กของมินิบิ๊กซี ว่า “เนื่องจากมินิบิ๊กซี สามารถตอบสนองความต้องการซื้อสินค้าประจำวันของผู้บริโภคได้ถึงในชุมชนในทุกๆ วัน ซึ่งรวมถึงวันที่ผู้บริโภคอาจไม่สะดวกที่จะเดินทางไปถึงไฮเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซีจึงมีแผนที่จะขยายสาขามินิบิ๊กซี 75 สาขาในปี 2555 ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ จะมีมินิบิ๊กซีรวม 125 สาขา (ตั้งแต่ต้นปี 2555 ได้เปิดสาขาใหม่แล้ว 28 สาขา ขณะนี้จึงมินิบิ๊กซีทั้งสิ้น 78 สาขา และจะเปิดอีก 47 สาขา ในช่วงครึ่งปีหลัง) และเราตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขามินิบิ๊กซีให้ได้ถึง 950 สาขาภายในปี 2559” 

“นอกจากนั้น ร้านขายยาเพรียว ซึ่งเป็นร้านค้าขนาดเล็กอีกรูปแบบหนึ่งของบิ๊กซี ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยตั้งแต่ต้นปี 2555 บิ๊กซีได้เปิดร้านขายยาเพรียวเพิ่ม 20 สาขา ทำให้ขณะนี้มีร้านขายยาเพรียวทั้งสิ้น 69 สาขา โดย 4 สาขา เป็นร้านที่ตั้งอยู่อิสระ (standalone) และอีก 65 สาขาตั้งอยู่ในบิ๊กซีรูปแบบต่างๆ และภายใน

สิ้นปี 2555 เราจะขยายสาขาร้านขายยาเพรียวเพิ่มอีก 20 สาขา ทำให้จะมีสาขารวม 89 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งว่า ร้านขายยาเพรียว จำนวน 17 สาขา ได้รับการรับรองมาตรฐานการประกอบการจากสภาเภสัชกรรม ให้เป็น “ร้านยาคุณภาพ” ที่ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า ยาที่จำหน่ายและคำแนะนำการใช้ยาในร้านมีมาตรฐานสูงสุด และแนะนำโดยเภสัชกรที่มีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งบิ๊กซี จะยื่นขอการรับรองร้านขายยาเพรียวสาขาที่เหลือทั้งหมดต่อไป” นายเอียนสรุป

 

]]>
55339
“แอพฯ” อาวุธใหม่เซเว่นฯ https://positioningmag.com/14722 Fri, 08 Jun 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14722

 

จากความรู้สึกเป็น “เพื่อน” แค่นั้นยังไม่พอ ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น-อีเลฟเว่น“ อยากให้เอเป็นเพื่อนที่ดูดีทันสมัยด้วย ทำให้เกิดการปล่อยสื่อตัวล่าสุดคือ “แอพพลิเคชั่น” เพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ สู้กับคู่แข่งที่มาเคาะประตูเปิดศึกรอบตัว

สภาวะที่เซเว่นฯ ต้องเผชิญคือมีคู่แข่งมากว่าหนึ่ง ที่เคยไซส์ใหญ่ ต่างพาเหรดมาเปิดด้วยขนาดเล็ก ตามประกบเซเว่นฯ ไม่เว้นแม้ในตรอกซอกซอย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต เทสโก้ โลตัส คุ้มค่า หรือร้านสะดวกซื้อ เทสโก้ เอ็กซ์เพรส และซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง มินิบิ๊กซี ท็อป เดลี่ หรือแม้แต่แม็กซ์แวลูที่ทะลวงตามแหล่งออฟฟิศ 

อีกคู่แข่งหนึ่งที่สำคัญคือเซเว่นฯ ต้องแข่งกับตัวเอง หลังจากการขยายสาขาเริ่มเฉลี่ยในอัตราที่เติบโตลดลง ดังนั้น ทางเลือกคือไม่เพียงการรักษายอดขายของแต่ละสาขาให้ได้เท่านั้น แต่ต้องเพิ่มยอดขายในสาขาเดิมให้ได้ (Same-Store-Sales-Growth หรือ SSSG) ที่เริ่มเห็นตัวเลขลดลงเช่นกัน

เซเว่นฯ ได้พยายามมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มกลุ่มสินค้าที่ให้ความสะดวกของกลุ่มเป้าหมาย ไม่เพียงของกินของใช้ประจำวัน แต่ยังได้เน้นทำตลาดหมวดอาหารมากขึ้น และสร้าง Positiningแบรนด์ให้เป็นเพื่อนกับกลุ่มเป้าหมายมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งสินค้าหมวดอาหารทำยอดขายได้ประมาณ 27% ของรายได้ทั้งหมดประมาณ 82,000 ล้านบาท (ปี 2554)

แต่แค่นี้ยังไม่พอ สำหรับคนรุ่นใหม่แล้ว เพื่อนต้องดูดี ทันสมัยด้วย เพราะหากมีคู่แข่งอยู่ใกล้กัน แบรนด์ที่ดูดีกว่าก็มีโอกาสถูกเลือกมากกว่า และแอพฯ 7-Eleven TH (เฉพาะบน iOS) คือ Strategic Move ล่าสุด

การเปิดตัว 7-Eleven TH ช่วงแรกให้เล่นเกมเมื่อเห็นโฆษณาของเซเว่นฯ มีคำถามและตอบคำถามชิงนิวไอแพด เพื่อดึงความสนใจให้คนดาวน์โหลดแอพฯ และมีฟีเจอร์พื้นฐานให้บริการคือค้นหาสาขา ลิงค์เข้าสู่เว็บไซต์ และเฟซบุ๊กเพจ และนำเสนอโปรโมชั่นใหม่ๆ  โดยวันแรกมียอดดาวน์โหลดวันแรกที่เปิดตัว 30,000 ดาวน์โหลด

“อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์”  กรรมการผู้จัดการ บริษัท อะแด็ปเตอร์ ดิจิตอล จำกัด  ดิจิตอลเอเยนซี่ที่วางแคมเปญการสื่อสารดิจิตอลให้กับ7-Eleven TH บอกว่าโจทย์ของเซเว่นฯ คืออยากสะท้อนให้เห็นว่าแบรนด์เซเว่นฯ มีความทันสมัย มีสิ่งใหม่ที่ให้บริการกลุ่มเป้าหมายได้ ในที่นี้คือคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน พนักงงานออฟฟิศ ที่หากสังเกตจากตัวเขา หรือคนรอบข้างเขาเอง การเดินเข้าร้านเซเว่นฯ บางครั้งเพียงแค่อยากเดินเข้าไปโดยไม่ได้มีเป้าหมายซื้ออะไร แต่ก็กลับออกมาด้วยการซื้อสินค้าบางอย่างออกมา

กลุ่มคนทำงานมีการซื้อบ่อยและซื้อแต่ละครั้งก็จ่ายสูง ดังนั้นแอพฯ จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มนี้ที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ซึ่งแอพฯ นี้ทำหน้าที่หลายอย่างตั้งแต่การบอกข้อมุลข่าวสาร เช่นสาขาและโปรโมชั่น และต่อไปสามารถใช้เป็นข้อมูล CRM ได้ 

การเปิดตัวจึงเน้นสื่อสารทางออนไลน์ที่กลุ่มนี้ใช้ประจำ และมีกิมมิกด้วยการแจก ”นิว ไอแพด” ที่เป็น Gadget ล่าสุดที่เพิ่งตัวจำหน่ายในไทย

เรียกได้ว่าเซเว่นฯ ต้องเริ่มพลิกเกมอีกครั้ง แม้แอพฯ จะไม่ใช่อาวุธหลักวันนี้ แต่ก็เป็นอีกมุม

 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

Profile 82,265 ล้านบาท เป็นรายได้ปี 2554 4.8% เป็นยอดขายที่เติบโตของสาขาเดิมโดยเฉลี่ย
ซึ่งน้อยกว่าปี 2010 ที่เติบโต 9.9% แต่พอๆ กับปี 2005 ที่โต 4.7% 54 บาท คือยอดใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าในปี
2554 จากปี 2553 อยู่ที่ 51 บาท 1,224 คน คือยอดลูกค้าต่อสาขาต่อวันในปี
2554 จากปี 2010 อยู่ที่ 1,221 คน 6,276
สาขาทั่วประเทศ คือยอดขายเติบโตในปี 2554
เริ่มโตชะลอตัวแค่ 8.4% จากปี 2548 ที่เคยขยาย 15.7% ที่มา :
CP All

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

จำนวนสาขาไซส์เล็กชนกัน เซเว่น-อีเลฟเว่น 6,276 สาขา ณ สิ้นปี 2554
ตั้งเป้าเพิ่มอีก 500 สาขาในปี 2555 เทสโก้ โลตัส ร้านคุ้มค่า 33 สาขา และโลตัส
เอ็กซเพรส 449 สาขา (ณ เดือนมีนาคม 2554) ท็อป เดลี่ จะเพิ่มอีก 100 สาขาในปี 2555
จากปี 2554มี 102 สาขา แฟมิลี่ มาร์ท ประมาณ 600 สาขาในปี 2554

]]>
14722
เทสโก้ไซส์เล็ก เกิดเพราะลูกค้าซื้อถี่ขึ้น https://positioningmag.com/14588 Tue, 10 Apr 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14588

 

1 ใน 10 วิธีที่ทำให้ Sir Terry Leahy อดีต CEO ของเทสโก้ กรุ๊ป ที่เพิ่งลงจากตำแหน่งไปเมื่อปี 2554 ทำให้เทสโก้ กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการเป็นร้านค้าปลีกที่เข้าถึงผู้บริโภคอย่างทั่วถึง คือกฎข้อที่ว่าต้อง “ติดตามลูกค้า” (Follow the customer) 

เหตุผลเพราะว่า ธุรกิจเปลี่ยนแปลงช้า แต่ลูกค้าเปลี่ยนแบบทันทีทันใด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ธุรกิจทำได้คือการอยู่ใกล้กับลูกค้าให้มากๆ และทำตัวให้พร้อมเมื่อมองเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น

ในด้านการปฏิบัติ ธุรกิจอาจจะต้องใช้เวลาจำนวนมากไปกับลูกค้า กรณีของเทสโก้เวลาที่ว่านั้นก็คือการใช้เวลาสังเกตพฤติกรรมของผู้ซื้อ ซึ่งเทสโก้มีประสบการณ์จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมลูกค้า แล้วนำข้อมูลที่ได้มาใช้วางแผนเปลี่ยนและเพิ่มสินค้าประเภทของชำบนชั้นวางให้เร็วขึ้นจากเดิมที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงสัปดาห์ละครั้ง หลังจากสังเกตเห็นว่าผู้บริโภคมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้น และเข้ามาซื้อสินค้าในร้านสัปดาห์ละหลายครั้ง  

เรื่องนี้เป็นเหตุผลที่พัฒนาไปเป็นต้นกำเนิดร้าน เทสโก้ เอ็กซ์เพรส สาขาขนาดเล็กที่ทำให้เทสโก้เข้าไปอยู่ใกล้ลูกค้ามากขึ้นด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ 

เซอร์เทอร์รี่สรุปความสำเร็จในเรื่องนี้ไว้ว่า

“โอกาสทั้งหมดล้วนมาจากการสังเกตง่ายๆ ว่าผู้คนเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตอย่างไร” 

ย้อนกลับมาดูการดำเนินงานของเทสโก้ โลตัสที่เมืองไทย สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ เทสโก้ โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด พูดถึงแนวทางการเปิดสาขาของเทสโก้ โลตัสว่า จะมีสูตรการพิจารณาเบื้องต้นเหมือนๆ กัน แต่เท่าที่ผ่านมา ลูกค้าจะชอบให้เปิดร้านขนาดใหญ่ใกล้บ้าน แต่ในมุมของผู้บริหารร้านขนาดเล็กจะเปิดได้เร็วกว่า 

“จะเปิดสาขาที่ไหนมีวิธีคิดง่ายมาก ที่ไหนมีลูกค้า เราไปที่นั่น” สมพงษ์กล่าว และเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมว่า

สาขาของเทสโก้ โลตัส หลักๆ แล้วมี 3 ประเภท คือ ไฮเปอร์มาร์เก็ต รองมาเป็นตลาดโลตัส ประมาณ 1,000 ตารางเมตร และเอ็กซ์เพรส ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ หรือสร้างขึ้นมาใหม่ก็จะมีขนาดเท่าๆ กับอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง นอกจากนี้ยังมีสาขาประเภทอื่นๆ อีกเช่น ร้านคุ้มค่า โลตัส โอเอซีส โลตัส พาร์ค โลตัส การ์เด้น ฯลฯ

วิธีการเลือกว่าในพื้นที่ไหนจะเปิดสาขาขนาดไหน เทสโก้ โลตัสจะมีผังกลยุทธ์สำหรับวางแผนขยายสาขาในภาพรวม ว่าแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด ควรจะเป็นร้านขนาดไหน โดยใช้จำนวนประชากรของแต่ละพื้นที่เป็นตัวกรอง 

จากนั้นทีมวิจัยทางการตลาดจะเป็นผู้กำหนดจุด แล้วดูว่ารัศมี 1 กิโลเมตร หรือ 5 กิโลเมตรจากจุดที่กำหนดมีประชากรกี่คน จากนั้นจึงส่งทีมหาที่ดินลงไปสำรวจ ถ้าหาที่ดินที่เหมาะสมได้แล้วหากซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ได้ก็จะซื้อแต่ถ้าเจ้าของที่ไม่ขายก็จะต้องวิธีเช่าซึ่งจะต้องเป็นสัญญาเช่าระยะยาวอย่างน้อยประมาณ 30 ปี ซึ่งขณะนี้สาขาของเทสโก้ โลตัสทั้งหมด เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของบริษัทกับที่เช่า 70/30 

“เวลาหาที่จริงก็จะไม่ได้ตรงจุดที่ต้องการเป๊ะๆ แต่ก็พยายามให้ใกล้ที่สุด แล้วมาพูดคุยกันในทีมว่ายอมรับไหมกับทำเลนั้น พอเปิดร้านแล้วเราถึงมาดูฐานรายได้ของประชากรในพื้นที่ เพื่อใช้ประมาณการยอดขาย ยอดขายจะมาสองปัจจัยคือจำนวนลูกค้าคูณด้วยยอดซื้อต่อหัว เพราะฉะนั้นในบางสโตร์จำนวนลูกค้าอาจจะเยอะมาก แต่ยอดซื้อต่อหัวต่ำ ยอดขายก็ยังสูงเหมือนกัน”

อย่างไรก็ตาม สมพงษ์บอกว่า ปัจจุบันนี้แนวโน้มสาขาขนาดเล็กจะเปิดได้เยอะกว่า เพราะดำเนินงานได้เร็วกว่า ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคได้ทั่วถึงทุกจุด ก่อนจะอธิบายทิ้งท้ายว่า

“จะไซส์ไหนอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นหลัก ซึ่งไม่ใช่ว่าเปิดสาขาขนาดใหญ่แล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป ถ้าถามลูกค้าจะชอบสาขาขนาดใหญ่ ชอบบอกว่าทำไมเปิดร้านเล็กจังเลย ทำไมไม่เปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต แต่ในมุมของผู้ลงทุนบางทำเลเปิดไปก็เจ๊ง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าฐานลูกค้าแต่ละทำเลเพียงพอสำหรับขนาดไหน”

 

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

style=”font-weight: bold;”>จำนวนสาขาของ เทสโก้ โลตัส ทั้งหมด 661 สาขา
แบ่งเป็น

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>รูปแบบสาขา

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>จำนวน

style=”vertical-align: top; text-align: center; font-weight: bold;”>เงินลงทุนขั้นต่อสาขา
ไฮเปอร์มาร์เก็ต 90 ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ร้านคุ้มค่า 33 ตลาดโลตัส 76 40 ล้านบาท โลตัส
เอ็กซ์เพรส    449 10 ล้านบาท โลตัส พลัส
ช้อปปิ้งมอลล์ 1 โลตัส โอเอซีส 1 โลตัส พาร์ค 6 สำนักงานใหญ่
/ ศูนย์กระจายสินค้า 4 ที่มา :
เทสโก้ โลตัส,16 มี.ค. 2554.

]]>
14588
กรุงศรี ออโต้ เปิดบริการ “บิลไม่ต้อง” เอาใจลูกค้า ชำระค่างวดที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น https://positioningmag.com/55076 Tue, 13 Dec 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=55076

กรุงเทพฯ – กรุงศรี ออโต้ ผู้นำสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ขยายช่องทางการชำระเงิน เปิดบริการ “บิลไม่ต้อง”  อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถชำระค่างวดได้โดยไม่ต้องใช้ใบชำระเงิน เพียงแค่แจ้งหมายเลข
บัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขทะเบียนรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์
ที่ท่านต้องการชำระค่างวด
ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน เซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยกรุงศรี
ออโต้ นับเป็นบริษัทแรกในธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ที่ให้บริการการชำระเงินแบบไม่ต้องใช้ใบชำระเงิน เพื่อเพิ่ม
ความสะดวกให้แก่ลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรุงศรี ออโต้ ฝ่ายบริการลูกค้า 0-2627-6010

]]>
55076